ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดินมีเรื่องเดียวคือการปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศเพราะประชาไม่มีที่ดินทากิน
ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน
ก็ต้องพูดถึงเรื่องการปฏิรูปที่ดินตามหลักการของประชาธิปไตยที่อานาจอธิปไตยเป็นของปวงชน
ไปพูดเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวกับเรื่องที่ดินเป็นการบิดเบือนปกบิดกรรมสิทธิของเจ้าที่ดินที่มีกันมากมายเป็นแสนๆไร่
และไม่เป็นคุณประโยชน์เพราะประชาชนไทยส่วนใหญ่ไร้ที่ทากินไม่เป็นคุณประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองเพราะ
การปฏิรูปที่ดิน
เป็น วิธีการกระจายทุนทางที่ดินไปสู่ชาวไร่ชาวนาในขณะเดียวกันรายได้ของเจ้าของที่ดินจากการเวนคืนที่ดิน
ก็จะกระจายไปสู่รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมพาณิชยกรรมและอื่นๆ
โดยเฉพาะในรูปของพันธบัติหุ้นส่วนในรัฐวิสาหกิจเหล่านั้นการกระจายทุนทางที่ดินด้วยการปฏิรูปที่ดิน
เป็นปัจจัยอันดับแรกของความเติบโตของระบบเศรษฐกิจแห่งชาติทั้งเกษตรกรรมอุตสาหกรรมพาณิชยกรรม
และการขนส่งโดยทาเกษตรกรรมสามารถสนองวัตถุดิบแก่อุตสาหกรรม
และอุตสาหกรรมสนองเครื่องมือวัตถุอุปกรณ์และการป้ องกันภัยธรรมชาติให้แก่ เกษตรกรรม
และเกษตรกรรมกับอุตสาหกรรมต่างก็สนองตลาดให้แก่กันและกันฉะนั้นการปฏิรูปที่ดินจึงมิใช่เพียงเพื่อการเกษตรกรรม
หรือเพียงเพื่อช่วยเหลือชาวนาชาวไร่ให้มีที่ทากินแต่ข้อสาคัญเพื่อความเติบโตของระบบเศรษฐกิจแห่งชาติทั้งระบบ...
(การปฏิรูปที่ดินที่เป็นคุณประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองและประชาชนตามหลักการของลัทธิประชาธิปไตย)
♦ การปฏิรูปที่ดิน
การปฏิรูปที่ดิน..คือ..หัวใจของของสถาปนาการปกครองแบบประชาธิปไตย
นโยบายประชาธิปไตยแห่งชาติคือ
แนวทางที่บังเกิดผลประโยชน์ส่วนใหญ่ให้กับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศคือชาวนาชาวไร่
ซึ่งเป็นพลเมืองของประเทศร้อยละ85การปฏิรูปที่ดินเป็นหัวใจของการเปลี่ยนแปลงทางประชาธิปไตย
การปฏิรูปที่ดินมีหลักการดังนี้...1.สูตรของการปฏิรูปที่ดิน
ความหมายสาคัญของการปฏิรูปที่ดินไม่ใช่อยู่ที่การช่วยเหลือชาวนาชาวไร่อย่างที่พูดกันอยู่มากในปัจจุบัน
แต่อยู่ที่การดาเนินตามสูตรของการพัฒนาประเทศซึ่งมีการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติเป็นรากฐาน
สูตรของการพัฒนาประเทศคือสูตรของการเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรมซึ่งทุกประเทศต้อง
ผ่านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เส้นแบ่งระหว่างสังคมเกษตรกรรมกับสังคมอุตสาหกรรมคือการปฏิวัติอุตสาหกรรม(Industrial
Revolution) อันได้แก่การเปลี่ยนแปลงจากอุตสาหกรรมแบบเก่ามาเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้เครื่องจักรสมัยใหม่
ซึ่งเริ่มขึ้นในอังกฤษก่อนประเทศอื่นเมื่อค.ศ. 1760
การเป็นสังคมอุตสาหกรรมนั้นเกษตรกรรมจะต้องเป็นวัตถุดิบและเป็นตลาดของอุตสาหกรรม
ฉะนั้นจึงต้องเพิ่มการผลิตให้แก่เกษตรกรรมให้ทันกับการขยายตัวของอุตสาหกรรม
จะขยายการผลิตทางเกษตรกรรมดังนี้ได้ ชาวนาชาวไร่ต้องมีที่ดินเป็นของตนเองและทาเกษตรกรรม
ให้เป็นอุตสาหกรรมเท่าที่จะทาได้ กระบวนการทาให้สังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรมแบ่งออกเป็น2ขั้นตอน
ตอนแรกเปลี่ยนระบบเจ้าครองนครหรือระบบศักดินา(Feudalism) เป็นระบบเจ้าที่ดิน(LandLords)
โดยปลดปล่อยชาวนาชาวไร่ในสังกัดหรือเอกชน(Serf)ให้เป็นเสรีชนซึ่งเรียกว่า..”การเลิกทาส”
และเจ้าศักดินาที่เปลี่ยนฐานะมาเป็นเจ้าที่ดินนั้นบางส่วนก็กลายเป็นนักอุตสาหกรรมเกษตร(ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี)
แต่ในขณะเดียวกันก็มีเจ้าที่ดินใหม่เพิ่มขึ้นจากจานวนที่เปลี่ยนมาจากเจ้าศักดินาโดยลาดับตอนที่สอง
คือยกเลิกระบบเจ้าที่ดินเรียกว่า..“ปฏิรูปที่ดิน” ความหมายอันแท้จริงของการปฏิรูปที่ดินอยู่ที่การยกเลิกระบบเจ้าที่ดิน
ไม่ใช่อยู่ที่การทาให้ชาวนาชาวไร่มีที่ดินของตนเองนั้นด้วยการบุกเบิกจัดสรรที่รกร้างว่างเปล่า
โดยไม่แตะต้องระบบเจ้าที่ดินแต่จะบุกเบิกจัดสรรที่ดินได้มากสักเพียงใดถ้าหากระบบเจ้าที่ดินยังดารงอยู่
ก็ยังคงเป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมให้เป็นสังคมอุตสาหกรรมอยู่นั่นเอง
การทาให้ชาวนาชาวไร่มีที่ดินของตนเองโดยไม่ยกเลิกระบบเจ้าที่ดินนั้นไม่ใช่การปฏิรูปที่ดิน
แต่ผู้สนับสนุนระบบเจ้าที่ดินมักจะตีความว่านั่นแหละคือการปฏิรูปที่ดินเพื่อหลีกเลี่ยงการปฏิรูปที่ดิน
การยกเลิกระบบเจ้าที่ดินย่อมทาให้ชาวนาชาวไร่มีที่ดินเป็นของตนเองแต่การทาให้ชาวนาชาวไร่มีที่ดินเป็นของตนเอง
อาจไม่ใช่การปฏิรูปที่ดินฉะนั้นการปฏิรูปที่ดินจึงหมายความถึงการยกเลิกระบบเจ้าที่ดินอันเป็นกระบวนการต่อ
เนื่องของการยกเลิกระบบศักดินาซึ่งเป็นไปตามสูตรของการเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม
จึงเห็นได้ว่าความหมายอันแท้จริงของการปฏิรูปที่ดินไม่ใช่อยู่ที่การช่วยเหลือชาวนาชาวไร่ถ้าจะใช้คาว่าช่วยก็คือช่วยชาติ
หรือช่วยประชาชนทุกคนนั่นเอง
2. ปัญหาพื้นฐานของการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ
ความมุ่งหมายของการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติต้องกระทาควบคู่กับการพัฒนาการเมืองประชาธิปไตย
ต่อจากการเริ่มต้น“ปฏิวัติประชาธิปไตย”ซึ่งเป็นหลักนาก็คือการทาประเทศให้เป็นอุตสาหกรรม(Industrialization)
ซึ่งเป็นการดาเนินการตามสูตรของการเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมให้เป็นสังคมอุตสาหกรรม
เพื่อบรรลุความมุ่งหมายดังกล่าวมีวิธีดาเนินการสองวิธีหนึ่งดาเนินการอย่างเป็นไปเองอีกวิธีหนึ่งดาเนินการอย่างมีแผน
วิธีดาเนินการอย่างเป็นไปเองนั้นใช้ในระยะแรกคือในยุโรปเช่นอังกฤษฝรั่งเศส
ส่วนวิธีดาเนินการอย่างมีแผนเริ่มใช้ภายหลังสงครามโลกครั้งที่1และภายหลังสงครามโลกครั้งที่2
ไม่มีประเทศใดที่เริ่มพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติจะไม่ดาเนินการอย่างมีแผน
ประเทศไทยเตรียมการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติอย่างมีแผนภายหลังสงครามโลกครั้งที่1คือเมื่อเปลี่ยนการปกครอง
พ.ศ. 2475แต่เป็นแผนซึ่งร่างขึ้นอย่างถูกต้องจึงไม่ได้นาออกไปใช้ (คือเค้าโครงเศรษฐกิจหรือสมุดปกเหลือ)
และเพิ่งจะดาเนินการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติอย่างมีแผนเมื่อพ.ศ.2509
ในประเทศที่ดาเนินการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติอย่างเป็นไปเองนั้นปัญหาแรกและใหญ่ที่สุดที่จะต้องจัดทา
การปฏิรูปที่ดินคือยกเลิกระบบเจ้าที่ดินบางประเทศกระทาอย่างรุนแรงเช่นฝรั่งเศส
ซึ่งริบที่ดินมาแบ่งให้ชาวนาระหว่างการปฏิวัติใหญ่ฝรั่งเศสบางประเทศกระทาอย่างค่อยเป็นค่อยไปเช่นอังกฤษเยอรมัน
และญี่ปุ่นซึ่งเจ้าที่ดินจานวนมากเปลี่ยนฐานะมาเป็นนักอุตสาหกรรม
แต่ถึงอย่างไรก็ต้องยกเลิกระบบเจ้าที่ดินไปโดยพื้นฐานการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ
จึงจะบรรลุความมุ่งหมายของการเป็นประเทศอุตสาหกรรมได้
จากนี้ประเทศซึ่งพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติภายหลังโดยดาเนินการพัฒนาอย่างมีแผน
จึงดาเนินการปฏิรูปที่ดินให้เป็นปัญหาแรกที่สุดและสาคัญที่สุดในการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติเช่นประเทศอินเดีย
เป็นต้นประเทศใดก็ตามถ้าไม่ถือเอาการปฏิรูปที่ดินเป็นพื้นฐานของการพัฒนาเศรษฐกิจ
แห่งชาติแล้วจะไม่บรรลุความมุ่งหมายของการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติได้
ประเทศไทยได้ใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติตั้งแต่พ.ศ.2509
แล้วแต่ก็ยังไม่บรรลุความมุ่งหมายเท่าที่ควรก็เพราะแผ่นพัฒนาเศรษฐกิจแห่ง
ชาติของประเทศมีความบกพร่องอย่างสาคัญที่สุดคือ
ไม่ได้บรรลุการปฏิรูปที่ดินไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติแม้ว่าจะบรรลุปัญหาอื่นๆ ไว้อย่างสมบูรณ์สักเพียงไร
การพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติก็ไม่มีวันจะบรรลุความมุ่งหมายของการกระทาประเทศให้เป็นอุตสาหกรรมได้
3. การปฏิรูปที่ดินคือหัวใจของระบอบประชาธิปไตย
ประชาธิปไตยคือดุลยภาพระหว่างสิทธิของบุคคลและอธิปไตยของปวงชน
แต่สิทธิของบุคคลและอธิปไตยของปวงชนต่างก็ตั้งอยู่บนรากฐานของกรรมสิทธิ์เอกชน(Private Ownership)
ในทางเศรษฐกิจเพราะระบบเศรษฐกิจเป็นรากฐานของระบบการเมืองและระบอบการปกครอง
ถ้าเอกชนไม่มีกรรมสิทธิ์ในทางเศรษฐกิจแล้วสิทธิขั้นมูลฐานทางการเมืองของบุคคลก็จะสมบูรณ์ไม่ได้
และอธิปไตยที่สะท้อนความต้องการอันแท้จริงของประชาชนก็จะมีไม่ได้เช่นเดียวกัน
กรรมสิทธิ์เอกชนในทางเศรษฐกิจซึ่งประกอบเป็นรากฐานอันสาคัญที่สุดก็คือกรรมสิทธิ์ของชาวนาชาวไร่
เพราะชาวนาชาวไร่ เป็นประชาชนฝ่ ายข้างมากที่สุดในสังคมของประเทศชาติที่จะสร้างประชาธิปไตยฉะนั้น
ถ้าชาวนาชาวไร่ไม่มีกรรมสิทธิเอกชนในทางเศรษฐกิจแล้วกล่าวโดยพื้นฐานก็ไม่
สามารถจะมีสิทธิของบุคคลและอธิปไตยของปวงชนได้ นัยหนึ่งไม่สามารถจะมีประชาธิปไตยได้ นั่นเอง
อะไรคือกรรมสิทธิ์เอกชนในทางเศรษฐของชาวไร่ชาวนา?ก็คือกรรมสิทธิ์ในที่ดินของชาวนาชาวไร่
อันเกิดขึ้นจากผลของการยกเลิกระบบเจ้าที่ดินต้องทาให้ชาวนาชาวไร่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินเสียก่อน
สิทธิของบุคคลและอธิปไตยของปวงชนตามระบอบประชาธิปไตยจึงจะมีขึ้นได้
ถ้าไม่ทาให้ชาวนาชาวไร่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินอย่างทั่วถึงแล้ว
ถึงจะประกาศสิทธิของบุคคลและอธิปไตยของปวงชนไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างสวยงามสัก
เพียงใดก็ตามก็จะเป็นเพียงลมๆแล้งๆไม่สามารถสร้างประชาธิปไตยให้ปรากฏเป็นความจริงได้
ด้วยเหตุนี้การปฏิวัติเพื่อประชาธิปไตยชั้นสูงในทุกประเทศเมื่อปวงชนได้ อธิปไตยแล้ว
สิ่งแรกที่จะต้องกระทาก็คือการปฏิรูปที่ดินยกเลิกระบบเจ้าที่ดินเอาที่ดินมาแข่งให้ชาวนา
ดังตัวอย่างอย่างปฏิวัติฝรั่งเศสที่ยิ่งใหญ่(GreatFrenchRevolution)
ซึ่งเป็นแบบฉบับของการปฏิวัติเพื่อประชาธิปไตยชั้นสูง
แต่ไม่หมายความว่าจะต้องใช้วิธีรุนแรงอย่างเป็นการปฏิวัติฝรั่งเศสเสมอไปแต่จะใช้วิธีใดก็ตาม
ก็จะต้องบรรลุผลอย่างเดียวกันคือการยกเลิกระบบเจ้าที่ดินและทาให้ที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์ของชาวไร่ชาวนา
ทั้งนี้ก็เช่นเดียวกับการปฏิวัติเพื่อประชาธิปไตยชั้นต่าคือการยกเลิกระบบศักดินาหรือเลิกทาส
บางประเทศก็เป็นไปอย่างรุนแรงบางประเทศก็เป็นไปอย่างสันติ
โดยเฉพาะคือการเลิกทาสตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
จึงเห็นได้ว่าการสร้างประชาธิปไตยอันหมายถึงการสร้างสิทธิของบุคคลและ
อธิปไตยของปวงชนนั้นหัวใจอยู่ที่การปฏิรูปที่ดินถ้าไม่ดาเนินการปฏิรูปที่ดินแล้วก็เท่ากับไม่ได้ทาอะไรเลยในการสร้าง
ประชาธิปไตยการที่เราสร้างประชาธิปไตยไม่สาเร็จมาเกือบ81ปีแล้วนั่นก็เพราะเราไม่ได้ทาการปฏิรูปที่ดินนั่นเอง
4. การปฏิรูปที่ดินกับการทาที่ดินให้เป็นของรัฐดังได้กล่าวว่าการปฏิรูปที่ดินคือการยกเลิกระบบเจ้าที่ดิน
เพื่อทาให้ที่ดินเป็นกรรมสิทธิ์เอกชนโดยเฉพาะของชาวนาชาวไร่ ที่เรียกว่าระบบเจ้าที่ดินนั้น
เป็นระบบกรรมสิทธิ์เอกชนแต่เป็นกรรมสิทธิ์เอกชนของเจ้าที่ดินดินเจ้าซึ่งเป็นคนจานวนน้อย
ส่วนชาวนาชาวไร่ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินแต่ต้องเช่นที่ดินจากเจ้าที่ดิน
(ต่างกับชาวนาชาวไร่ในระบบศักดินา)ซึ่งไม่ต้องเช่นที่ดินจากเจ้าศักดินาแต่ก็ทานาทาไร่ให้เจ้าศักดินาเปล่าๆ
เป็นส่วนใหญ่เสมือนเป็นทาสของเจ้าศักดินาการที่กรรมสิทธิ์เอกชนในที่ดินตกอยู่แก่เจ้าที่ดินซึ่งเป็นของคนส่วนน้อย
เป็นการบั่นทอนกรรมสิทธิ์เอกชนอย่างร้ายแรงเพราะเป็นอุปสรรคมิให้กรรมสิทธิ์เอกชนส่วนใหญ่ที่สุดของประเทศ
คือกรรมสิทธิ์ของชาวนาชาวไร่ขยายตัวออกไปได้
ด้วยเหตุนี้การตัดตอนกรรมสิทธิ์ของเจ้าที่ดินเพื่อขยายกรรมสิทธิของชาวนาไร่
จึงเป็นการส่งเสริมกรรมสิทธิเอกชนอย่างกว้างขวางที่สุดการปฏิรูปที่ดินไม่ใช่การเปลี่ยนกรรมสิทธิ์เอกชน
เป็นกรรมสิทธิ์อย่างอื่นแต่เป็นการส่งเสริมขยายกรรมสิทธิ์เอกชนหาใช่บั่นทอนหรือทาลายกรรมสิทธิ์เอกชนแต่อย่างใดไม่
และการส่งเสริมกรรมสิทธิ์เอกชนก็คือการส่งเสริมรากฐานของประชาธิปไตย
แต่การปฏิรูปที่ดินในประเทศประชาธิปไตยบางประเทศใช้วิธีการรุนแรงถึงขนาดริบที่ดินและฆ่าเจ้าที่ดินเช่น
การปฏิรูปที่ดินในการปฏิวัติฝรั่งเศสเหมือนๆกับการปฏิรูปที่ดินในประเทศคอมมิวนิสต์เช่นจีนและเวียตนาม
จึงทาให้บางคนเข้าใจผิดไปว่าการปฏิรูปที่ดินด้วยวิธีริบที่ดินแบ่งให้ชาวนาเป็นวิธีการของคอมมิวนิสต์
การจะดูว่าเป็นวิธีประชาธิปไตยหรือวิธีคอมมิวนิสต์ไม่ใช่ดูที่การริบหรือไม่
แต่ต้องดูว่าเมื่อริบแล้วเอาไปทาให้เป็นกรรมสิทธิ์ของใครเพราะการริบนั้นเป็นวิธีกลางๆ
ซึ่งไม่ว่าประชาธิปไตยหรือคอมมิวนิสต์ก็ใช้ด้วยกันทั้งนั้นต่างกันแต่ว่า
ถ้าริบแล้วเอาไปทาให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเอกชนให้กว้างขวางยิ่งขึ้นก็เป็นวิธีประชาธิปไตย
ถ้าริบแล้วเอาไปทาให้เป็นกรรมสิทธิของรัฐหรือของส่วนรวมก็เป็นวิธีคอมมิวนิสต์เพราะประชาธิปไตยนั้น
ส่งเสริมกรรมสิทธิ์เอกชนส่วนคอมมิวนิสต์ทาลายกรรมสิทธิ์เอกชน
แต่วิธีประชาธิปไตยและวิธีคอมมิวนิสต์ต่างฝ่ ายต่างมักจะยืมกันไปใช้อย่างเช่น
คอมมิวนิสต์จีนยืมวิธีริบที่ดินแบ่งให้ชาวนาจากการปฏิวัติฝรั่งเศสไปใช้ในการปฏิรูปที่ดินเมื่อพ.ศ.2492– 2493
และสภานิติบัญญัติแห่งชาติของประเทศไทยยืมวิธีริบทรัพย์เอกชนเป็นรัฐจาก
คอมมิวนิสต์มาใช้ในการออกกฎหมายริบทรัพย์สามนักการเมืองเป็นต้น
ต้องไม่ลืมว่าการแก้ปัญหาที่ดินของคอมมิวนิสต์จีนนั้นสองตอนตอนแรก(พ.ศ.2492 – 2493)
ใช้วิธีประชาธิปไตยคือริบที่ดินจากเจ้าที่ดินแบ่งให้เป็นกรรมสิทธิ์ของชาวนา(เจ้าที่ดินก็แบ่งให้เท่ากับชาวนา)
ตอนที่สอง(ราวพ.ศ. 2496– 2497)ชักชวนชาวนาให้สละกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
เอาโฉนดมากองเผาไฟทาที่ดินให้เป็นกรรมสิทธิ์ของสหกรณ์นี่คือวิธีคอมมิวนิสต์คือยกเลิกกรรมสิทธิเอกชน
ทาให้กรรมสิทธิสหกรณ์เช่นเดียวกับเมื่อพรรคบอลเชวิกพอได้อานาจในประเทศรัสเซียเสิ่งแรกที่ทาก็คือ
ใช้วิธีคอมมิวนิสต์แก้ปัญหาที่ดินโดยออกกฤษฎีการิบที่ดินเป็นของรัฐทั้งประเทศ
วิธีคอมมิวนิสต์ในปัญหาที่ดินนั้นหมายถึงการยกเลิกกรรมสิทธิ์ของเอกชนทาให้เป็นกรรมิสิทธิ์ของรัฐหรือของสหกรณ์
การปฏิรูปที่ดินนั้นไม่ว่าประชาธิปไตยทาเองหรือคอมมิวนิสต์ยืมไปทาก็รุนแรงได้เท่าๆ
กันตามธรรมดาคอมมิวนิสต์มักจะทาอย่างรุนแรงแต่ฝ่ ายประชาธิปไตยถ้าไม่ระวังให้ดีก็รุนแรงได้เช่นกันขอให้ดูการปฏิรูป
ที่ดินในจีนกับฝรั่งเศสในจีนฆ่าเจ้าที่ดินเสียราว900,000
คนแต่ในฝรั่งเศสก็จับเจ้ราที่ดินมาสับคอด้วยเครื่องกิลโยตินกลางเมืองแต่ในปัจจุบันเราไม่ต้องปฏิรูปที่ดินอย่างฝรั่งเศส
เพราะเรามีความรู้ความเข้าใจและบทเรียนจากประวัติศาสตร์ที่จะดาเนินการอย่างสันติได้
ขอแต่อย่าให้ถึงกับคอมมิวนิสต์ยืมไปทาก็แล้วกันเพราะการปฏิรูปที่ดินที่พคท.จะยืมไปทานั้น
เขาเรียกว่าปฏิวัติที่ดินซึ่งเป็นการบอกล่วงหน้าว่าเขาจะทาอย่างรุนแรงแน่แท้ทีเดียวการปฏิรูปที่ดิน(LandReform) คือ
วิธีแก้ปัญหาที่ดินของประเทศประชาธิปไตยส่วนการทาให้ที่ดินเป็นของรัฐ(Nationalization)
ซึ่งรวมถึงการทาให้เป็นของส่วนรวมในรูปต่างๆด้วยคือวิธีแก้ปัญหาที่ดินของคอมมิวนิสต์สรุปได้ว่า
ในโลกปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงจากสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรมกาลังจะเสร็จสิ้นแล้ว
ประเทศกาลังพัฒนาทั้งหลายทั้งหลายต่างก็เร่งรัดไปสู่เป้ าหมายแห่งการเป็น
ประเทศอุตสาหกรรมด้วยกันทั้งสิ้นถ้าจะถามว่าเราจะพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติไปทาไม?คาตอบก็คือ
โลกกาลังจะเสร็จในการเป็นอุตสาหกรรมประเทศใดไม่พัฒนาตนเองให้เป็นอุตสาหกรรมก็จะดารงอยู่ไม่ได้
อย่างน้อยที่สุดการขยายตัวของเศรษฐกิจแห่งชาติก็จะไม่ทันกับการขยายตัวของพลเมือง
ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่สาคัญที่สุดของความวิบัติทั้งปวงเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวสิ่งแรกที่จะต้องทาคือการปฏิรูปที่ดิน
ถ้าไม่ปฏิรูปที่ดินแล้วจะไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้เลย(ยังมีต่อครับ)
edit:thongkrm_virut@yahoo.com
(ขอบคุณภาพ :ธเนศ หัศบาเรอ)

More Related Content

ในประเทศไทยถ้าพูดถึงเรื่องที่ดิน มีเรื่องเดียว คือ การปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ เพราะประชา