ݺߣ
Submit Search
อิหนา
•
8 likes
•
158,701 views
W
Warodom Techasrisutee
Follow
ถอดคำประพันธ์อิหนา ตอนศึกกะหมังกุหนิง
Read less
Read more
1 of 22
Download now
Downloaded 97 times
More Related Content
อิหนา
1.
ตอน ศึกกะหมังกุหนิง เสนอ อาจารย
รตินันท เพชรแท วิชาภาษาไทย
2.
นาย พิพัธน วิษณุมหิมาชัย
เลขที่ ๑ นางสาว จินตนภัส บุณยะรัตเวช เลขที่ ๒ นางสาว ณัฐกานต อรรณพ ณ อยุธยา เลขที่ ๓ นางสาว นริศรา ขวัญยืน เลขที่ ๔ นางสาว พิชญา ทวีศักดิ์วิไล เลขที่ ๕ นางสาว มานิตา ศรียาภัย เลขที่ ๖ นางสาว วโรดม เตชศรีสุธี เลขที่ ๘
3.
ทาวกุเรปน ทาวดาหา อิหนา บุษบา จินตะหราวิหยาสะกํา
ระตูจรกาทาวกะหมังกุหนิง สังคามาระตา
4.
• เมื่อนั้น ทาวกะหมังกุหนิงเรืองศรี เสด็จเหนือแทนรัตนมณี
ภูมีเห็นสองอนุชา จึ่งตรัสเรียกใหนั่งรวมอาสน สําราญราชฤทัยหรรษา แลวปราไสระตูบรรดามา ยังปรีดาผาสุกหรือทุกขภัย ซึ่งเราใหหามาทั้งนี้ จะไปตีดาหากรุงใหญ ระตูทุกนครอยานอนใจ ชวยเราชิงชัยใหทันการ ท้าวกะหมังกุหนิงเสด็จขึ้นแท่นประดับ เห็นน้องชายทั้งสอง จึงเรียกให้มานั่ง ร่วมกัน พร้อมไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบ ก่อนจะกล่าวถึงเหตุที่เชิญมาว่า จะไปตีกรุงดาหา ขอให้น้องทั้งสองช่วยตนในการรบครั้งนี้ด้วย *ระตู คือ คําเรียกเจ้าเมืองที่มิชาวงศ์เทวัญ
5.
• เมื่อนั้น เหลาระตูปรีดิ์เปรมเกษมศานต จึงสนองมธุรสพจมาน
พระมีการสงครามแตละครั้ง จะตั้งหนาอาสาออกชิงชัย มิไดยอทอถอยหลัง สูตายไมเสียดายแกชีวัง กวาจะสิ้นกําลังของขานี้ ระตูปาหยังและระตูประหมัน ผู้เป็นน้องชายต่างตอบว่า หากพี่มีศึกสงคราม เมื่อใด น้องทั้งสองก็ร่วมรบอย่างไม่ย่อท้อ สู้ตายไม่เสียดายชีวิต ท้าวกะหมังกุหนิงได้ฟังคําตอบจากน้องชายทั้งสองก็พอใจ บอกว่าเดินทางมา นานคงเหนื่อย ให้พาไพร่พลไปพักผ่อน พร้อมพาน้องทั้งสองเข้าปราสาทไป *มธุรส แปลว่า คําหวาน ไพเราะ **พจมาน แปลว่า คําพูด • เมื่อนั้น ทาวกะหมังกุหนิงเรืองศรี ฟงระตูตอบชอบที สมถวิลยินดีปรีดา จึงตรัสวาทานมาเหนื่อยนัก จงไปพักพลขันธใหหรรษา ตรัสพลางทางชวนอนุชา เขามหาปราสาทรูจี
6.
• ลดองคลงนั่งบนแทนทอง กับดวยพระนองทั้งสองศรี จึงตรัสเลาความตามคดี
จนใชเสนีถือสารไป • เมื่อนั้น สองกษัตริยฟงแจงแถลงไข จึงทูลขัดทัดทานทันใด เปนไฉนผานเกลามาเบาความ อันสุริยวงศเทวันอสัญหยา เรืองเดชเดชาชาญสนาม ทั้งโยธีก็ชํานาญการสงคราม ลือนามในชะวาระอาฤทธิ์ กรุงกษัตริยขอขึ้นก็นับรอย เราเปนเมืองนอยกะจิหริด ดังหิ่งหอยจะแขงแสงอาทิตย เห็นผิดระบอบโบราณมา ใชจะไรธิดาทุกธานี มีงามแตบุตรีทาวดาหา พระองคจงควรตรึกตรา ไพรฟาประชาราษฎรจะรอนนัก
7.
• เมื่อนั้น ทาวกะหมังกุหนิงมีศักดิ์ จึงบายเบี่ยงเลี่ยงตอบพระนองรัก
ใชจะหักหาญวงศเทวัน ดวยบัดนี้บุตรีดาหา จรกาใหมาตุนาหงัน เราจะยกพลไกรไปโรมรัน ชวงชิงนางนั้นกับจรกา • เมื่อนั้น สองระตูทูลตอบพระเชษฐา เมื่อนางยังอยูกับบิดา ที่ในดาหากรุงไกร แมเกิดการสงครามชวงชิง ทาวดาหาหรือจะนิ่งดูได จะบอกความไปสามเวียงชัย กรีธาทัพใหญมามากมาย ก็จะเปนศึกกระหนาบหนาหลัง เหลือกําลังโยธาทั้งหลาย ถาเสียทีเพลี่ยงพล้ําสิซ้ําราย จะอัประยศอดอายแกจรกา
8.
กษัตริย์สองพระองค์ได้ฟังแล้วก็เข้าพระทัยแล้วก็แย้งว่าทําไมต้องไปรบด้วย กษัตริย์วงศ์เทวัญอสัญหยาเก่งเรื่องสงครามเหล่าทหารก็เก่งกาจทุกคนก็รู้จักมี กษัตริย์ขึ้นกับพระองค์นับร้อย เมืองเราเป็นเมืองเล็กๆจะไปสู้เขาได้อย่างไร ใช่ว่าจะมีลูกสาว ของท้าวดาหาคนเดียวที่สวยจะทําอะไร
ควรจะนึกถึงประชาชน ท้าวกะหมังกุหนิงเลยเลี่ยง ไม่ตอบน้อง ตอนนี้ลูกสาวเมืองดาหาได้หมั้นกับเมืองจรกา เราจะยกทัพไปตีเมืองจรกา เมื่อ นั้นทั้งสองจึงตอบท้าวกะหมังกุหนิง ว่าตอนนี้นางบุษบายังอยู่กับท้าวดาหาอยู่ ครั้นมี สงครามชิงนางท้าวดาหาจะนิ่งดูดายได้อย่างไร ต้องแจ้งเรื่องให้มาช่วย แล้วถ้าเกิดแพ้ศึกครั้ง นี้ก็จะทําให้อับอายเมืองจรกา
9.
• เมื่อนั้น ทาวกะหมังกุหนิงนาถา จึงตรัสตอบสองพระนองยา
ซึ่งวานี้เจาไมเขาใจ อันระเดนมนตรีกุเรปน ก็ขัดของเคืองกันเปนขอใหญ ไปอยูเมืองหมันหยากวาปไป ที่ไหนจะยกพลมา แตกาหลังสิงหัดสาหรี จะกลัวดีเปนกระไรหนักหนา ฝายเราเลาก็สามพารา เปนใหญในชะวาแวนแควน ถึงทัพจรกาลาสํานั้น พี่ไมพรั่นใหมาสักสิบแสน จะหักโหมโจมตีใหแตกแตน พักเดียวก็จะแลนเขาปาไป เจาอยายอทาไมพอที่ แตเพียงนี้ไมพรั่นหวั่นไหว เอ็นดูนัดดาโศกาลัย วามิไดอรทัยจะมรณา แมนวิหยาสะกํามอดมวย พี่จะตายดวยโอรสา ไหน ๆ คงจะวายชีวา ถึงเร็วถึงชาก็เหมือนกัน ผิดก็ทําสงครามดูตามที เคราะหดีก็จะไดดังใฝฝน พี่ดังพฤกษาพนาวัน จะอาสัญเพราะลูกเหมือนกลาวมา
10.
ท้าวกะหมังกุหนิงได้พูดกับน้องว่ากุเรปันโกรธอิหนาว่าไปอยู่เมืองหมันหยา นานเป็นปีแต่ท้าวกาหลัง สิงหัดส่าหรีจะกลัวอะไรกับมันเพราะฝ่ายเรามีสามเมืองใหญ่ ถึง ทัพของล่าสําจะใหญ่แค่ไหนก็จะตีให้แตก •
เมื่อนั้น สองกษัตริยฟงตรัสพระเชษฐา จะเซาซี้ก็จะขัดพระอัชฌา ตางกมพักตราไมพาที • เมื่อนั้น ทาวกะหมังกุหนิงเรืองศรี ชวนสองอนุชาธิบดี เขาสูที่บรรทมสําราญ ถ้าวิหยาสะกําจะตาย ท้าวกะหมังกุหนิงจะตายตามลูกไปด้วย ถ้าชนะก็จะได้สิ่งที่ ต้องการแต่ถ้าแพ้พี่ก็จะตายเหมือนกับลูก เมื่อน้องทั้งสองฟังที่พี่พูดก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตาฟังจะพูดก็กลัวจะขัดใจพี่ ท้าวกะหมังกุหนิงก็ชวนน้องทั้งสองไปนอน
11.
• เมื่อนั้น พระองคทรงพิภพดาหา ครั้นสุริยฉายบายสามนาฬิกา
ก็โสรจสรงคงคาอาองค ทรงเครื่องประดับสรรพเสร็จ แลวเสด็จยางเยื้องยุรหงส ออกจากพระโรงคัลบรรจง นั่งลงบนบัลลังกรูจี ยาสาบังคมบรมนาถ เบิกทูตถือราชสารศรี จึงดํารัสตรัสสั่งไปทันที ใหเสนีนําแขกเมืองมา ทาวดาหาเสด็จออกรับทูตกะหมังกุหนิง ครั้นบ่ายสามนาฬิกา ท้าวดาหาก็อาบนํ้าและแต่งตัว และออกมายังที่นั่งราช วัง พร้อมสั่งเสนาให้เชิญแขกที่นําราชสารของท้าวกะหมังกุหนิงเข้าเฝ้า
12.
• บัดนั้น อํามาตยรับสั่งใสเกศา ออกไปพาสองทูตา
เขามาประณตบทมาลย • บัดนั้น เสนีผูใหญฝายทหาร จึงใหอาลักษณพนักงาน รับราชสารมาอานพลัน เมื่อนั้นเสนาก็ออกไปเชิญทูตมาเข้าเฝ้าท้าวดาหา เมื่อนั้นคนส่งสารฝ่ายทหารจึงให้ พนักงานรับเอกสารมาอ่านทันที
13.
• ในสารพระผูผานนคเรศ กะหมังกุหนิงนิเวศนเขตขัณฑ ขอถวายประณมบังคมคัล
พระผูวงศเทวันอันศักดา ไมควรเคืองเบื้องบาทบทศรี ดวยขานอยนี้มีโอรสา เดิมไปไลลอมมฤคา ไดรูปพระธิดาในกลางไพร ชะรอยเปนบุพเพนิวาสา เทวาอารักษมาชักให ความแสนเวทนาอาลัย แตหลงใหลใฝฝนรันทด หวังเปนเกือกทองรองบาทา พระผูวงศเทวาอันปรากฏ จะขอพระบุตรีมียศ ใหโอรสขานอยดังจินดา อันกรุงไกรไอศูรยทั้งสอง จะเปนทองแผนเดียวไปวันหนา ขอพํานักพักพึ่งพระเดชา ไปกวาชีวันจะบรรลัย ในสารของท้าวกะหมังกุหนิง มีความว่า ขอกราบบังคมทูลท้าวดาหาผู้เป็น ใหญ่และเล่าว่าตนมีลูกชาย นามว่า วิหยาสะกํา ได้เดินล่ากวางอยู่ในป่าและได้เห็นรูป ของบุษบาจึงหลงรักและใฝ่ฝันว่าอยากแต่งงานอยู่ร่วมกันในวันข้างหน้า จึงอยากจะสู่ ขอนางบุษบาให้ลูกชายได้สมหวังและหวังว่าเราจะได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน
14.
• เมื่อนั้น องคศรีปตหราเปนใหญ ฟงสารทราบอัตถแลวตรัสไป
แกเสนาในทั้งสองนั้น อันอะนะบุษบาบังอร ครั้งกอนจรกาตุนาหงัน ไดปลดปลงลงใจใหปน นัดกันจะแตงการวิวาห ซึ่งจะรับของสูระตูนี้ เห็นผิดประเพณีหนักหนา ฝูงคนทั้งแผนดินจะนินทา สิ่งของที่เอามาจงคืนไป เมื่อนั้นท้าวดาหาเป็นใหญ่ เมื่อได้ฟังแล้วก็ตรัสกับเสนาทั้งสองว่า ลูกบุษบาได้ หมั้นกับจรกาไปแล้ว ถ้าจะให้ถอนหมั้นจรกาก็เห็นว่าผิดประเพณี ผู้คนทั้งหลายก็จะนินทา
15.
• บัดนั้น ทูตานุทูตแถลงไข ทาวกะหมังกุหนิงภูวไนย
สั่งใหขาทูลพระภูมี ถาแมมิยินยอมอนุญาต ใหพระราชธิดามารศรี เรงระวังพระองคใหจงดี ตกแตงบุรีใหมั่นคง • เมื่อนั้น พระผูผานไอศูรยสูงสง ปกาสิตสีหนาทอาจอง จะทําการณรงคก็ตามใจ ตรัสพลางยงเยื้องยุรยาตร จากอาสนแทนทองผองใส พนักงานปดมานทันใด เสด็จขึ้นขางในฉับพลัน บัดนั้นทูตก็ทูลท้าวดาหาไปว่าท้าวกะหมังกุหนิงสั่งข้าพระองค์มาว่าหากท่านไม่ยอม ยกลูกสาวให้ ระวังพระองค์ให้ดี เตรียมตัวรับศึกจากเมืองเราได้เลย เมื่อนั้นท้าวดาหาก็ประกาศไปว่า หากต้องการจะทําสงครามกับเราก็ตามใจ พร้อมกับเดินทางกลับเข้าไปยังที่ประทับ
16.
• บัดนั้น ทูตานุทูตก็ผายผัน ออกจากพาราดาหานั้น
พากันกลับไปมิไดชา • เมื่อนั้น พระสุริยวงศองคศรีปตหรา เผยสีหบัญชรแลวบัญชา ตรัสสั่งเสนาธิบดี จงเรงไปทูลเหตุพระเชษฐา อีกองคอนุชาทั้งสองศรี บอกระตูจรกาอยาชาที วาไพรีจะยกมาชิงชัย บัดนั้นทูตก็ต่างเดินทางออกจากเมืองดาหา เมื่อนั้นท้าวดาหา ก็มีรับสั่งให้เสนาไปแจ้งข่าวแด่เมืองกุเรปันและน้องชายทั้ง สอง คือ สิงหัดส่าหรีและกาหลัง และจรกาว่าจะมีฆ่าศึกยกทัพมา
17.
ทาวกุเรปนทีราชสารถึงอิหนาแบะระตูหมันหยา • เมื่อนั้น พระปนภพกุเรปนราชฐาน แจงวาไพรีมารอนราญ
พระจึงใหแตงสารหนังสือลับ ครั้นเสร็จสั่งสองเสนา จงถือไปหมันหยาสองฉบับ ใบหนึ่งนั้นเรงกองทัพ กําชับอิหนาใหยกมา ใบหนึ่งใหแกระตู ทาวผูผานเมืองหมันหยา จงรีบไปใหถึงพารา แตในสิบหาราตรี • บัดนั้น ดะหมังรับสั่งใสเกศี จึงนําสาราจรลี มาจากที่พระโรงชัยฉับพลัน เรียกหาบาวไพรไดพรอมหนา ดะหมังขึ้นขี่มาผายผัน ออกจากนคเรศกุเรปน พากันเรงรีบคลาไคล
18.
ตอนนั้น พระปิ่นภพกุเรปันราชฐานได้บอกว่าข้าศึกได้มาบุกแล้ว จึงได้เขียน หนังสือลับ
พอบอกเสนาเสร็จ ก็ส่งไปที่เมืองหมันหยาสองฉบับ ฉบับแรกเร่งกองทัพให้ อิหนารีบยกทัพมา ฉบับที่สองให้ท้าวผู้ผ่านเมืองหมันหยาให้รีบไปให้ถึงเมืองภายในสิบห้า วัน ขุนนางสั่งให้ไพร่นําสารไปส่งที่เมืองหมันหยา
19.
• เมื่อนั้น องคทากุเรปนเปนใหญ ครั้นดะหมังเสนาทูลลาไป
พระตรึกไตรในคดีดวยปรีชา แลวตรัสแกกะหรัดตะปาตี อันสงคามครั้งนี้เห็นหนักหนา จะเปลี่ยวเปลาเศราใจอนุชา ไมมีที่ปรึกษาหารือใคร เจาจงยกพลขันธไปบรรจบ สมทบทัพอิหนาใหจงได ชวนกันยกรีบเร็วไป อยาใหทันปจจามิตรติดพารา เมื่อนั้นท้าวกุเรปันเป็นใหญ่ ตอนนั้นดะหวังเสนาทูลลาไป พระองค์ได้คิด ไตร่ตรองด้วยความสามารถ แล้วบอกแก่กะหรัดตะปาตีว่างสงครามครั้งนี้ยากมาก กลัว น้องชายจะโดดเดี่ยวไม่มีที่ปรึกษา จงยกทัพไปช่วยอิหนาให้จงได้ช่วยกันทําศึกเร็วๆ อย่า รอให้ข้าศึกมาประชิดเมือง
20.
• เมื่อนั้น กะหรัดตะปาตีโอรสา กมเกลาทูลสนองพระบัญชา
จะถวายบังคมลาพรุงนี้ • เมื่อนั้น กะหรัดตะปาตีศรีใส ครั้นรุงรางสุริยาก็คลาไคล เขาในที่สนานสําราญองค เมื่อนั้นกะหรัดตะปาตีผู้เป็นลูกชายก็ก้มหัวรับคําสั่ง แล้วถวายบังคมลา ครั้นถึงเวลาเย็น ก็เข้าไปในห้องพัก อาบนํ้า แต่งกายด้วยภูษายกพื้นดําอําไพ ชุดสีม่วง
21.
• รดชําระมลทินอินทรีย มูรธาวารีภิเษกสรง ลูบไลเสาวคนธธารทรง
บรรจงสอดซับสนับเพลา ภูษายกพื้นดําอําไพ สอดใสฉลององคทรงวันเสาร เจียรบาดคาดรัดหนวงเนา ปนเหนงเพ็ชรเพริดเพราพรรณราย ตาบทิศทับทรวงหวงหอย สวมสรอยสังวาลประสานสาย ทองกรแกวกิ่งพริ้งพราย ธํามรงคเรือนรายพลอยเพ็ชร ทรงชฎามาลัยดอกไมทัด กรรเจียกจอนจํารัสตรัสเตร็จ เหน็บพระแสงกั้นหยั่งกัลเม็ด แลวเสด็จขึ้นเฝาพระบิดา
22.
ขอบคุณ
Download