ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
2
Most read
4
Most read
5
Most read
ใบความรู้
ฟีโรโมน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฟีโรโมน
การสื่อด้วยสารเคมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแมลง เช่น มด และผึ้งนางพญาจะปล่อยสารออกมาดึงดูด
มดตัวอื่น ๆ ให้อยู่ร่วมอาณาจักรเดียวกัน ดังภาพ
รูปที่ 51 ผ่าให้เห็นภายในรังปลวก ตรงกลางจะเห็นนางพญาปลวกตัวใหญ่ มีปลวกงานล้อมรอบ
ฟีโรโมน เป็นสารเคมีที่สัตว์ปล่อยออกมาเพื่อกระตุ้นสัตว์ชนิดเดียวกัน แต่ต่างเพศ ให้เข้ามาผสม
พันธุ์ ตัวอย่างที่ทดลองกันมากคือ ผีเสื้อกลางคืน (Moth) ตัวเมียจะปล่อยฟีโรโมนออกมากระตุ้นตัวผู้ที่อยู่ใต้
ลมให้เข้าผสมพันธุ์ดังภาพ
รูปที่ 52 แสดงการปล่อยฟีโรโมนของผีเสื้อกลางคืนตัวเมีย ให้ตัวผู้ที่อยู่ใต้ลมเข้าผสมพันธุ์
นอกจากนั้นมีการทดลองในผีเสื้อไหม โดยนากลุ่มผีเสื้อไหมตัวเมียเอาไว้ในครอบแก้ว แล้วนาไป
วางกลางกลุ่มผีเสื้อไหมตัวผู้ แต่ผีเสื้อไหมตัวผู้ไม่แสดงอาการสนใจในกลุ่มผีเสื้อไหมตัวเมียเลย ทั้ง ๆ ที่
มองเห็นกันอยู่ ดังรูป
รูปที่ 53 การแยกกลุ่มผีเสื้อไหมตัวเมียเอาไว้ในครอบแก้ว ผีเสื้อไหมตัวผู้ที่อยู่นอกครอบแก้วก็ไม่สนใจ
แต่เมื่อเปิดครอบแก้วออก ผีเสื้อไหมตัวผู้จึงหันมาสนใจกลุ้มผีเสื้อไหมตัวเมีย ดังรูป
รูปที่ 54 แสดงให้เห็นว่าเมื่อเปิดครอบแก้วออกแล้วผีเสื้อไหมตัวผู้หันมาสนใจผีเสื้อไหมตัวเมีย
มีการทดลองเพิ่มเติมโดยการให้ผีเสื้อไหมตัวผู้อยู่เหนือทิศทางลมที่ให้ลมพัดผ่านตลอดเวลา ปรากฏ
ว่าผีเสื้อไหมตัวผู้ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ แต่กลับกันเมื่อเอาผีเสื้อไหมตัวเมียไว้เหนือลมบ้าง ปรากฏว่าผีเสื้อไหมตัว
ผู้บินเข้าหาผีเสื้อไหมตัวเมีย
รูปที่ 55 การนาผีเสื้อไหมตัวผู้ไว้เหนือทิศทางลม ผีเสื้อไหมตัวผู้ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ
รูปที่ 56 การนาผีเสื้อไหมตัวผู้ไว้ใต้ลม ผีเสื้อไหมตัวผู้จะบินเข้าหาผีเสื้อไหมตัวเมีย
ข้อมูลที่ได้จากการทดลองนี้ แสดงว่าผีเสื้อไหมตัวผู้เคลื่อนที่เข้าหาผีเสื้อไหมตัวเมียนั้น เนื่องจากกลิ่น
ของผีเสื้อไหมตัวเมียที่อยู่เหนือลมนั่นเอง หากไม่ได้กลิ่นผีเสื้อไหมตัวเมีย (กรณีผีเสื้อไหมตัวผู้อยู่เหนือลม)
ผีเสื้อไหมตัวผู้ก็จะไม่เคลื่อนที่เข้าหาผีเสื้อไหมตัวเมีย
จากการศึกษาต่อมาพบว่าสารเคมีที่ผีเสื้อไหมตัวเมียสร้างขึ้นมาเพื่อดึงดูดให้ผีเสื้อไหมตัวผู้สนใจนั้น
สร้างที่ปล้องสุดท้ายของส่วนท้อง จึงมีการทดลองนากระดาษกรองไปซับบริเวณปล้องสุดท้ายของท้องผีเสื้อ
ไหมตัวเมีย แล้วนาไปวางไว้ใกล้ ๆ กลุ่มผีเสื้อไหมตัวผู้ ปรากฏว่าผีเสื้อไหมตัวผู้เคลื่อนที่เข้าหากระดาษซับ
นั้น
มีการทดลองต่อไป คือนาผีเสื้อไหมตัวเมียไปวางไว้ท่ามกลางผีเสื้อไหมตัวผู้ปกติ และผีเสื้อไหมตัวผู้
ที่ตัดหนวดออก ปรากฏว่าผีเสื้อไหมตัวผู้ปกติเท่านั้นที่เคลื่อนที่เข้าหาผีเสื้อไหมตัวเมีย ดังรูป
เมื่อทาการศึกษาเกี่ยวกับสารเคมีที่แมลงสร้างขึ้นมาเพื่อดึงดูดแมลงชนิดเดียวกันแต่เป็นเพศตรงข้าม
ได้ จึงเรียกสารนั้นว่า ฟีโรโมน (Pheromone) ในเวลาต่อมามีการศึกษาเรื่องฟีโรโมนในสัตว์ชนิดอื่น ๆ อีก
นอกเหนือจากแมลงในปัจจุบัน ฟีโรโมนจึงหมายถึง สารเคมีที่สัตว์สร้างขึ้นมแล้ว มีผลต่อสัตว์ตัวอื่นที่เป็น
สัตว์ชนิดเดียวกัน ทาให้มีการเปลี่ยนแปลงทางสรีระและพฤติกรรมบางประการได้
เมื่อสัตว์ปล่อยฟีโรโมนออกมาแล้วสัตว์ตัวอื่นจะได้รับสามทางคือ ทางกลิ่น โดยการกินและการดูด
ซึม สาหรับทางกลิ่น มักจะบอกอาณาเขต เป็นการเตือนถึงอันตราย ตัวอย่างที่เห็นกันบ่อย ๆ คือ สุนัขตัวผู้
ชอบปัสสาวะรดยางรถยนต์ที่จอดไว้ในบริเวณที่มันอยู่ หากรถยนต์คันนี้ไปจอดที่อื่น และมีสุนัขตัวอื่นอยู่
สุนัขตัวใหม่จะมาปัสสาวะรดที่ล้อรถที่มันได้กลิ่นปัสสาวะของสุนัขตัวแรกในตัวอย่างสัตว์ที่มีในบ้านเรา คือ
ชะมด ที่มีกลิ่นตัวแรงมาก โดยสร้างจากต่อมใกล้กับอวัยวะสืบพันธุ์และสามารถปล่อยกลิ่นออกมาได้ทั้งตัวผู้
และตัวเมีย คนเราเอากลิ่นเหม็น ๆ ของชะมดนี้ไปสกัดเป็นหัวน้าหอม อีกตัวอย่างที่เรามักพบเห็นใน
ภาพยนตร์เพราะไม่มีในบ้านเราคือ สกั้ง (Skunk) ที่ปล่อยกลิ่นให้สกั้งต่างเพศวิ่งเข้ามาหา
การกินฟีโรโมน พบในราชินีผึ้งที่สร้างสารออกมาจากต่อมบริเวณรยางค์ปาก เพื่อให้ผึ้งงานซึ่งเป็น
ตัวเมียกิน ทาให้ผึ้งงานนั้นเป็นหมัน เนื่องจากฟีโรโมนนั้นไปห้ามการเจริญเติบโตของรังไข่และการสร้างไข่
ผึ้งงานจึงไม่มีโอกาสที่จะสืบพันธุ์เหมือนผึ้งราชินี แต่ทางานอย่างเดียว แม้ในฤดูสืบพันธุ์ก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผึ้ง
ตัวผู้
การรับฟีโรโมนด้วยการดูดซึม มีในสัตว์ไร้กระดูกสันหลัง เช่นแมลงสาบ และแมงมุมบางชนิด ตัว
เมียของสัตว์ทั้งสองชนิดนี้จะปล่อยฟีโรโมนทิ้งไว้จนกระทั่งตัวผู้ไปสัมผัส ทาให้ฟีโรโมนซึมผ่านผิวเข้าไป
กระตุ้นตัวผู้ ทาให้ตามตัวเมียจนพบและทาการผสมพันธุ์ สาหรับตั๊กแตนตัวผู้จะปล่อยฟีโรโมนทิ้งไว้หลังจาก
ผสมพันธุ์แล้ว เมื่อตัวอ่อนฟักออกมาจากไข่และเติบโตออกมาสัมผัสกับสาร ทาให้ซึมเข้าร่างกายตัวอ่อน
กระตุ้นตัวอ่อนให้เติบโตเป็นตัวโตเต็มวัย และทาการสืบพันธุ์ได้ ในปลวกนางพญาจะมีฟีโรโมนดึงดูดให้
ปลวกงานมาล้อมรอบในมดจะเดินตามกันเป็นทาง โดยปล่อยฟีโรโมนเอาไว้ตามทางที่เดินผ่านไป ทาให้มด
สามารถเดินกลับรังได้
สามารถจาแนกฟีโรโมนตามพฤติกรรมได้ดังนี้
1. สารดึงดูดเพศตรงข้าม (sex pheromone) พบในผีเสื้อไหมตัวเมีย ปล่อยออกมาดึงดูดผีเสื้อไหม
ตัวผู้
2. สารเตือนภัย (alarm pheromone) เช่นมดตาย จะมีฟีโรโมนออกมาจากซากมดตัวนั้น ทาให้มีการ
ขนซากมดตัวนั้นไปทิ้งนอกรัง
3. สารนาทาง (trail pheromone) ได้แก่ กรดบางชนิดที่มดงานปล่อยออกมาตามทางเดิน ทาให้มด
ตัวอื่นสามารถเดินไปยังอาหารได้ถูกต้อง
4. สารจากนางพญา (queen substance) เช่นสารที่นางพญาให้ผึ้งงานกิน ทาให้ผึ้งงานเป็นหมัน
5. สารทาให้รวมกลุ่ม (aggregation pheromone) เช่น นางพญาปลวกปล่อยออกมาทาให้ปลวกงาน
มารวมกลุ่มกัน
6. สารแสดงอาณาเขต (territory pheromone) เช่น สุนัขปัสสาวะรดสิ่งต่าง ๆ ที่มันเดินผ่าน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Recommended

แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
Jariya Jaiyot
ใบความรู้เรื่องเซลล์ของสิ่งมีชีวิต1
ใบความรู้เรื่องเซลล์ของสิ่งมีชีวิต1
Sumarin Sanguanwong
ข้อสอบอัจฉริยะ
ข้อสอบอัจฉริยะ
Kodchaporn Siriket
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
krupornpana55
พืชใบเลี้ยงเึϸ่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่
พืชใบเลี้ยงเึϸ่ยวและพืชใบเลี้ยงคู่
Benjapron Seesukong
ใบความรู้เรื่องแสง
ใบความรู้เรื่องแสง
พัน พัน
ระบบ๶ศรษฐกิจแบบแมȨȨร์
ระบบ๶ศรษฐกิจแบบแมȨȨร์
Srinthip Chaiya
อวัยวะรับความรู้สึก
อวัยวะรับความรู้สึก
สุรินทร์ ดีแก้วเกษ
หลักการྺองไดȨโม
หลักการྺองไดȨโม
panupong
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ O net (โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ O net (โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ)
สำเร็จ นางสีคุณ
วิทย์ ป.2
วิทย์ ป.2
สิ่งดีๆ เริ่มที่ใจ
แบบสอบถามความพึงพอใจ
แบบสอบถามความพึงพอใจ
Duangnapa Inyayot
ระบบย่อยอาหาร - Digestive system
ระบบย่อยอาหาร - Digestive system
supreechafkk
ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์
Nattapon
สรุป๶Ȩ้อหาภาษาไทย..ม.ต้น
สรุป๶Ȩ้อหาภาษาไทย..ม.ต้น
Took Took Rachataporn
งาȨำเสนอมัทȨพาธา
งาȨำเสนอมัทȨพาธา
Santichon Islamic School
9.ดาวในท้องฟ้าgs กลุ่มดาว
9.ดาวในท้องฟ้าgs กลุ่มดาว
Wichai Likitponrak
คำขอขมาพระอาจารย์และครูอาจารย์
คำขอขมาพระอาจารย์และครูอาจารย์
niralai
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน หน่วย งานและพลังงาน
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน หน่วย งานและพลังงาน
dnavaroj
ฮอร์โมȨากต่อมไร้ท่อและอวัยวะสำคัญ
ฮอร์โมȨากต่อมไร้ท่อและอวัยวะสำคัญ
sukanya petin
บทที่ 3 พลังงานไฟฟ้า
บทที่ 3 พลังงานไฟฟ้า
Pinutchaya Nakchumroon
การทำงานของระบบประสาท
การทำงานของระบบประสาท
Thitaree Samphao
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริมาตรของพีระมิด
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริมาตรของพีระมิด
คุณครูพี่อั๋น
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด เล่มที่ 13 การบวก ลบ คูณ หาร เศษส่วน
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด เล่มที่ 13 การบวก ลบ คูณ หาร เศษส่วน
KanlayaratKotaboot
ระบบประสาท (Nervous System)
ระบบประสาท (Nervous System)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
แบบประ๶มิȨานȨ๶สนอใȨูปแบบออนไลȨ
แบบประ๶มิȨานȨ๶สนอใȨูปแบบออนไลȨ
kruood
การรักษาึϸลยภาพྺองร่างกายด้วยฮอร์โมน
การรักษาึϸลยภาพྺองร่างกายด้วยฮอร์โมน
sukanya petin
Plant tissue
Plant tissue
sukanya petin

More Related Content

What's hot (20)

อวัยวะรับความรู้สึก
อวัยวะรับความรู้สึก
สุรินทร์ ดีแก้วเกษ
หลักการྺองไดȨโม
หลักการྺองไดȨโม
panupong
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ O net (โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ O net (โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ)
สำเร็จ นางสีคุณ
วิทย์ ป.2
วิทย์ ป.2
สิ่งดีๆ เริ่มที่ใจ
แบบสอบถามความพึงพอใจ
แบบสอบถามความพึงพอใจ
Duangnapa Inyayot
ระบบย่อยอาหาร - Digestive system
ระบบย่อยอาหาร - Digestive system
supreechafkk
ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์
Nattapon
สรุป๶Ȩ้อหาภาษาไทย..ม.ต้น
สรุป๶Ȩ้อหาภาษาไทย..ม.ต้น
Took Took Rachataporn
งาȨำเสนอมัทȨพาธา
งาȨำเสนอมัทȨพาธา
Santichon Islamic School
9.ดาวในท้องฟ้าgs กลุ่มดาว
9.ดาวในท้องฟ้าgs กลุ่มดาว
Wichai Likitponrak
คำขอขมาพระอาจารย์และครูอาจารย์
คำขอขมาพระอาจารย์และครูอาจารย์
niralai
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน หน่วย งานและพลังงาน
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน หน่วย งานและพลังงาน
dnavaroj
ฮอร์โมȨากต่อมไร้ท่อและอวัยวะสำคัญ
ฮอร์โมȨากต่อมไร้ท่อและอวัยวะสำคัญ
sukanya petin
บทที่ 3 พลังงานไฟฟ้า
บทที่ 3 พลังงานไฟฟ้า
Pinutchaya Nakchumroon
การทำงานของระบบประสาท
การทำงานของระบบประสาท
Thitaree Samphao
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริมาตรของพีระมิด
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริมาตรของพีระมิด
คุณครูพี่อั๋น
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด เล่มที่ 13 การบวก ลบ คูณ หาร เศษส่วน
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด เล่มที่ 13 การบวก ลบ คูณ หาร เศษส่วน
KanlayaratKotaboot
ระบบประสาท (Nervous System)
ระบบประสาท (Nervous System)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
แบบประ๶มิȨานȨ๶สนอใȨูปแบบออนไลȨ
แบบประ๶มิȨานȨ๶สนอใȨูปแบบออนไลȨ
kruood
หลักการྺองไดȨโม
หลักการྺองไดȨโม
panupong
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ O net (โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ)
ข้อสอบวิทยาศาสตร์ O net (โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ)
สำเร็จ นางสีคุณ
แบบสอบถามความพึงพอใจ
แบบสอบถามความพึงพอใจ
Duangnapa Inyayot
ระบบย่อยอาหาร - Digestive system
ระบบย่อยอาหาร - Digestive system
supreechafkk
ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์
ใบงานที่ 1 ระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์
Nattapon
สรุป๶Ȩ้อหาภาษาไทย..ม.ต้น
สรุป๶Ȩ้อหาภาษาไทย..ม.ต้น
Took Took Rachataporn
9.ดาวในท้องฟ้าgs กลุ่มดาว
9.ดาวในท้องฟ้าgs กลุ่มดาว
Wichai Likitponrak
คำขอขมาพระอาจารย์และครูอาจารย์
คำขอขมาพระอาจารย์และครูอาจารย์
niralai
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน หน่วย งานและพลังงาน
แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ๋ทางการเรียน หน่วย งานและพลังงาน
dnavaroj
ฮอร์โมȨากต่อมไร้ท่อและอวัยวะสำคัญ
ฮอร์โมȨากต่อมไร้ท่อและอวัยวะสำคัญ
sukanya petin
บทที่ 3 พลังงานไฟฟ้า
บทที่ 3 พลังงานไฟฟ้า
Pinutchaya Nakchumroon
การทำงานของระบบประสาท
การทำงานของระบบประสาท
Thitaree Samphao
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริมาตรของพีระมิด
แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ปริมาตรของพีระมิด
คุณครูพี่อั๋น
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด เล่มที่ 13 การบวก ลบ คูณ หาร เศษส่วน
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเพื่อนคู่คิด เล่มที่ 13 การบวก ลบ คูณ หาร เศษส่วน
KanlayaratKotaboot
แบบประ๶มิȨานȨ๶สนอใȨูปแบบออนไลȨ
แบบประ๶มิȨานȨ๶สนอใȨูปแบบออนไลȨ
kruood

Viewers also liked (12)

การรักษาึϸลยภาพྺองร่างกายด้วยฮอร์โมน
การรักษาึϸลยภาพྺองร่างกายด้วยฮอร์โมน
sukanya petin
Plant tissue
Plant tissue
sukanya petin
Stem structure and function
Stem structure and function
sukanya petin
Photosynthetic reaction
Photosynthetic reaction
sukanya petin
Root structure and function
Root structure and function
sukanya petin
การรับรู้และการตอบสนอง
การรับรู้และการตอบสนอง
sukanya petin
แบบฝึกท้ายบทบท 8 ชุดที่ 1
แบบฝึกท้ายบทบท 8 ชุดที่ 1
sukanya petin
็HǰDzԱ
็HǰDzԱ
sukanya petin
แบบฝึกท้ายบทบทที่ 8 ชุดที่ 2
แบบฝึกท้ายบทบทที่ 8 ชุดที่ 2
sukanya petin
1แบบฝึกท้ายบทบทที่ 8 ชุดที่ 1
1แบบฝึกท้ายบทบทที่ 8 ชุดที่ 1
sukanya petin
Pigment
Pigment
sukanya petin
ข้อสอบเอ็นทรานซ์ ชีววิทยา มีนาคม 2546
ข้อสอบเอ็นทรานซ์ ชีววิทยา มีนาคม 2546
Trd Wichai
การรักษาึϸลยภาพྺองร่างกายด้วยฮอร์โมน
การรักษาึϸลยภาพྺองร่างกายด้วยฮอร์โมน
sukanya petin
Stem structure and function
Stem structure and function
sukanya petin
Root structure and function
Root structure and function
sukanya petin
การรับรู้และการตอบสนอง
การรับรู้และการตอบสนอง
sukanya petin
แบบฝึกท้ายบทบท 8 ชุดที่ 1
แบบฝึกท้ายบทบท 8 ชุดที่ 1
sukanya petin
แบบฝึกท้ายบทบทที่ 8 ชุดที่ 2
แบบฝึกท้ายบทบทที่ 8 ชุดที่ 2
sukanya petin
1แบบฝึกท้ายบทบทที่ 8 ชุดที่ 1
1แบบฝึกท้ายบทบทที่ 8 ชุดที่ 1
sukanya petin
ข้อสอบเอ็นทรานซ์ ชีววิทยา มีนาคม 2546
ข้อสอบเอ็นทรานซ์ ชีววิทยา มีนาคม 2546
Trd Wichai

ฟีโรโมน

  • 1. ใบความรู้ ฟีโรโมน --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ฟีโรโมน การสื่อด้วยสารเคมี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแมลง เช่น มด และผึ้งนางพญาจะปล่อยสารออกมาดึงดูด มดตัวอื่น ๆ ให้อยู่ร่วมอาณาจักรเดียวกัน ดังภาพ รูปที่ 51 ผ่าให้เห็นภายในรังปลวก ตรงกลางจะเห็นนางพญาปลวกตัวใหญ่ มีปลวกงานล้อมรอบ ฟีโรโมน เป็นสารเคมีที่สัตว์ปล่อยออกมาเพื่อกระตุ้นสัตว์ชนิดเดียวกัน แต่ต่างเพศ ให้เข้ามาผสม พันธุ์ ตัวอย่างที่ทดลองกันมากคือ ผีเสื้อกลางคืน (Moth) ตัวเมียจะปล่อยฟีโรโมนออกมากระตุ้นตัวผู้ที่อยู่ใต้ ลมให้เข้าผสมพันธุ์ดังภาพ รูปที่ 52 แสดงการปล่อยฟีโรโมนของผีเสื้อกลางคืนตัวเมีย ให้ตัวผู้ที่อยู่ใต้ลมเข้าผสมพันธุ์ นอกจากนั้นมีการทดลองในผีเสื้อไหม โดยนากลุ่มผีเสื้อไหมตัวเมียเอาไว้ในครอบแก้ว แล้วนาไป วางกลางกลุ่มผีเสื้อไหมตัวผู้ แต่ผีเสื้อไหมตัวผู้ไม่แสดงอาการสนใจในกลุ่มผีเสื้อไหมตัวเมียเลย ทั้ง ๆ ที่ มองเห็นกันอยู่ ดังรูป
  • 2. รูปที่ 53 การแยกกลุ่มผีเสื้อไหมตัวเมียเอาไว้ในครอบแก้ว ผีเสื้อไหมตัวผู้ที่อยู่นอกครอบแก้วก็ไม่สนใจ แต่เมื่อเปิดครอบแก้วออก ผีเสื้อไหมตัวผู้จึงหันมาสนใจกลุ้มผีเสื้อไหมตัวเมีย ดังรูป รูปที่ 54 แสดงให้เห็นว่าเมื่อเปิดครอบแก้วออกแล้วผีเสื้อไหมตัวผู้หันมาสนใจผีเสื้อไหมตัวเมีย มีการทดลองเพิ่มเติมโดยการให้ผีเสื้อไหมตัวผู้อยู่เหนือทิศทางลมที่ให้ลมพัดผ่านตลอดเวลา ปรากฏ ว่าผีเสื้อไหมตัวผู้ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ แต่กลับกันเมื่อเอาผีเสื้อไหมตัวเมียไว้เหนือลมบ้าง ปรากฏว่าผีเสื้อไหมตัว ผู้บินเข้าหาผีเสื้อไหมตัวเมีย
  • 3. รูปที่ 55 การนาผีเสื้อไหมตัวผู้ไว้เหนือทิศทางลม ผีเสื้อไหมตัวผู้ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ รูปที่ 56 การนาผีเสื้อไหมตัวผู้ไว้ใต้ลม ผีเสื้อไหมตัวผู้จะบินเข้าหาผีเสื้อไหมตัวเมีย ข้อมูลที่ได้จากการทดลองนี้ แสดงว่าผีเสื้อไหมตัวผู้เคลื่อนที่เข้าหาผีเสื้อไหมตัวเมียนั้น เนื่องจากกลิ่น ของผีเสื้อไหมตัวเมียที่อยู่เหนือลมนั่นเอง หากไม่ได้กลิ่นผีเสื้อไหมตัวเมีย (กรณีผีเสื้อไหมตัวผู้อยู่เหนือลม) ผีเสื้อไหมตัวผู้ก็จะไม่เคลื่อนที่เข้าหาผีเสื้อไหมตัวเมีย จากการศึกษาต่อมาพบว่าสารเคมีที่ผีเสื้อไหมตัวเมียสร้างขึ้นมาเพื่อดึงดูดให้ผีเสื้อไหมตัวผู้สนใจนั้น สร้างที่ปล้องสุดท้ายของส่วนท้อง จึงมีการทดลองนากระดาษกรองไปซับบริเวณปล้องสุดท้ายของท้องผีเสื้อ ไหมตัวเมีย แล้วนาไปวางไว้ใกล้ ๆ กลุ่มผีเสื้อไหมตัวผู้ ปรากฏว่าผีเสื้อไหมตัวผู้เคลื่อนที่เข้าหากระดาษซับ นั้น มีการทดลองต่อไป คือนาผีเสื้อไหมตัวเมียไปวางไว้ท่ามกลางผีเสื้อไหมตัวผู้ปกติ และผีเสื้อไหมตัวผู้ ที่ตัดหนวดออก ปรากฏว่าผีเสื้อไหมตัวผู้ปกติเท่านั้นที่เคลื่อนที่เข้าหาผีเสื้อไหมตัวเมีย ดังรูป
  • 4. เมื่อทาการศึกษาเกี่ยวกับสารเคมีที่แมลงสร้างขึ้นมาเพื่อดึงดูดแมลงชนิดเดียวกันแต่เป็นเพศตรงข้าม ได้ จึงเรียกสารนั้นว่า ฟีโรโมน (Pheromone) ในเวลาต่อมามีการศึกษาเรื่องฟีโรโมนในสัตว์ชนิดอื่น ๆ อีก นอกเหนือจากแมลงในปัจจุบัน ฟีโรโมนจึงหมายถึง สารเคมีที่สัตว์สร้างขึ้นมแล้ว มีผลต่อสัตว์ตัวอื่นที่เป็น สัตว์ชนิดเดียวกัน ทาให้มีการเปลี่ยนแปลงทางสรีระและพฤติกรรมบางประการได้ เมื่อสัตว์ปล่อยฟีโรโมนออกมาแล้วสัตว์ตัวอื่นจะได้รับสามทางคือ ทางกลิ่น โดยการกินและการดูด ซึม สาหรับทางกลิ่น มักจะบอกอาณาเขต เป็นการเตือนถึงอันตราย ตัวอย่างที่เห็นกันบ่อย ๆ คือ สุนัขตัวผู้ ชอบปัสสาวะรดยางรถยนต์ที่จอดไว้ในบริเวณที่มันอยู่ หากรถยนต์คันนี้ไปจอดที่อื่น และมีสุนัขตัวอื่นอยู่ สุนัขตัวใหม่จะมาปัสสาวะรดที่ล้อรถที่มันได้กลิ่นปัสสาวะของสุนัขตัวแรกในตัวอย่างสัตว์ที่มีในบ้านเรา คือ ชะมด ที่มีกลิ่นตัวแรงมาก โดยสร้างจากต่อมใกล้กับอวัยวะสืบพันธุ์และสามารถปล่อยกลิ่นออกมาได้ทั้งตัวผู้ และตัวเมีย คนเราเอากลิ่นเหม็น ๆ ของชะมดนี้ไปสกัดเป็นหัวน้าหอม อีกตัวอย่างที่เรามักพบเห็นใน ภาพยนตร์เพราะไม่มีในบ้านเราคือ สกั้ง (Skunk) ที่ปล่อยกลิ่นให้สกั้งต่างเพศวิ่งเข้ามาหา การกินฟีโรโมน พบในราชินีผึ้งที่สร้างสารออกมาจากต่อมบริเวณรยางค์ปาก เพื่อให้ผึ้งงานซึ่งเป็น ตัวเมียกิน ทาให้ผึ้งงานนั้นเป็นหมัน เนื่องจากฟีโรโมนนั้นไปห้ามการเจริญเติบโตของรังไข่และการสร้างไข่ ผึ้งงานจึงไม่มีโอกาสที่จะสืบพันธุ์เหมือนผึ้งราชินี แต่ทางานอย่างเดียว แม้ในฤดูสืบพันธุ์ก็ไม่ยุ่งเกี่ยวกับผึ้ง ตัวผู้ การรับฟีโรโมนด้วยการดูดซึม มีในสัตว์ไร้กระดูกสันหลัง เช่นแมลงสาบ และแมงมุมบางชนิด ตัว เมียของสัตว์ทั้งสองชนิดนี้จะปล่อยฟีโรโมนทิ้งไว้จนกระทั่งตัวผู้ไปสัมผัส ทาให้ฟีโรโมนซึมผ่านผิวเข้าไป กระตุ้นตัวผู้ ทาให้ตามตัวเมียจนพบและทาการผสมพันธุ์ สาหรับตั๊กแตนตัวผู้จะปล่อยฟีโรโมนทิ้งไว้หลังจาก ผสมพันธุ์แล้ว เมื่อตัวอ่อนฟักออกมาจากไข่และเติบโตออกมาสัมผัสกับสาร ทาให้ซึมเข้าร่างกายตัวอ่อน กระตุ้นตัวอ่อนให้เติบโตเป็นตัวโตเต็มวัย และทาการสืบพันธุ์ได้ ในปลวกนางพญาจะมีฟีโรโมนดึงดูดให้ ปลวกงานมาล้อมรอบในมดจะเดินตามกันเป็นทาง โดยปล่อยฟีโรโมนเอาไว้ตามทางที่เดินผ่านไป ทาให้มด สามารถเดินกลับรังได้
  • 5. สามารถจาแนกฟีโรโมนตามพฤติกรรมได้ดังนี้ 1. สารดึงดูดเพศตรงข้าม (sex pheromone) พบในผีเสื้อไหมตัวเมีย ปล่อยออกมาดึงดูดผีเสื้อไหม ตัวผู้ 2. สารเตือนภัย (alarm pheromone) เช่นมดตาย จะมีฟีโรโมนออกมาจากซากมดตัวนั้น ทาให้มีการ ขนซากมดตัวนั้นไปทิ้งนอกรัง 3. สารนาทาง (trail pheromone) ได้แก่ กรดบางชนิดที่มดงานปล่อยออกมาตามทางเดิน ทาให้มด ตัวอื่นสามารถเดินไปยังอาหารได้ถูกต้อง 4. สารจากนางพญา (queen substance) เช่นสารที่นางพญาให้ผึ้งงานกิน ทาให้ผึ้งงานเป็นหมัน 5. สารทาให้รวมกลุ่ม (aggregation pheromone) เช่น นางพญาปลวกปล่อยออกมาทาให้ปลวกงาน มารวมกลุ่มกัน 6. สารแสดงอาณาเขต (territory pheromone) เช่น สุนัขปัสสาวะรดสิ่งต่าง ๆ ที่มันเดินผ่าน -------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------