ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
การสืบค้นข้อมูล “ข้อความ”
ข้อความ (Text)
…….. ข้อความ เป็นส่วนที่เกี่ยวกับเนื้อหาของมัลติมีเดีย ใช้แสดงรายละเอียด หรือเนื้อหาของเรื่อง ที่
นาเสนอ ซึ่งปัจจุบัน มีหลายรูปแบบ ได้แก่
…….. – ข้อความที่ได้จากการพิมพ์ เป็นข้อความปกติที่พบได้ทั่วไป ได้จากการพิมพ์ด้วย โปรแกรม
ประมวลผลงาน (Word Processor) เช่น NotePad, Text Editor, Microsoft Word โดยตัวอักษรแต่ละตัว
เก็บในรหัส เช่น ASCII
…….. – ข้อความจากการสแกน เป็นข้อความในลักษณะภาพ หรือ Image ได้จากการนาเอกสาร ที่พิมพ์ไว้
แล้ว (เอกสารต้นฉบับ) มาทาการสแกน ด้วยเครื่องสแกนเนอร์ (Scanner) ซึ่งจะได้ผลออกมาเป็นภาพ
(Image) 1 ภาพ ปัจจุบันสามารถแปลงข้อความภาพ เป็นข้อความปกติได้ โดยอาศัยโปรแกรม OCR
…….. – ข้อความอิเล็กทรอนิกส์ เป็นข้อความที่พัฒนาให้อยู่ในรูปของสื่อ ที่ใช้ประมวลผลได้
…….. – ข้อความไฮเปอร์เท็กซ์ (HyperText) เป็นรูปแบบของข้อความ ที่ได้รับความนิยมสูงมาก ใน
ปัจจุบัน โดยเฉพาะการเผยแพร่เอกสารในรูปของเอกสาร เว็บ เนื่องจากสามารถใช้เทคนิค การลิงก์ หรือเชื่อม
ข้อความ ไปยังข้อความ หรือจุดอื่นๆ ได้
ภาพจาก http://202.28.94.55/web/
การ สืบค้นข้อมูลข้อความ หรือ TEXT เป็นการสืบค้นข้อมูลที่ใช้มาก ผู้สืบค้นนั้นต้องการได้เนื้อหา
หรือ ข้อความที่เป็นข้อเท็จจริงในรูปตัวอักษรมากกว่าที่จะเป็นสื่อรูปแบบอื่น ๆ หลักการสืบค้นข้อมูลแบบ
TEXT นั้น มีหลักการง่าย ๆ เพียงแค่เราต้องคิด “คาสาคัญ” หรือ Key Word ให้กระชับ และตรงประเด็น
มากที่สุด การสืบค้นแบบใช้คีย์เวิร์ด เช่น ถ้าต้องการจะสืบค้นเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของ เครื่อง
คอมพิวเตอร์ การค้นหาจึงต้องการเนื้อหาที่เจาะลึกการสร้างคา คีย์เวิร์ด ต้องใช้คา ที่เจาะลึกลงไป เพื่อให้ได้
ข้องมูลที่เฉพาะคา มากยิ่งขึ้น
…….. 1. การใช้คาที่คิดว่าจะมีในเว็บที่ต้องการจะค้นหา เช่น ต้องการจะหาข้อมูลเกี่ยวกับ บุคคล ที่ชื่อว่า
นาย อุบล ถ้าเราพิมพ์ข้อมูลที่ช่อง Search ว่า อุบล แล้วทาการค้นข้อมูล Search Engine จะทาการค้นหาคา
โดยจะค้นหารวมทั้งคาว่า จังหวัดอุบล อุบลราชธานี คนอุบล วิทยาลัยเกษตรอุบล เทคโนโลยีอุบล ซึ่งเราจะ
เจอ ข้อมูลจานวนมาก ดังนั้นการใช้คา ในการค้นหาข้อมูลจึงต้องใช้คาเฉพาะเพื่อให้ได ้ข้อมูลที่น้อยลง เช่น
อาจจะพิมพ์คาว่า นาย อุบล พิมลวรรณ ซึ่งข้อมูลจะมีจานวนที่น้อยลง
…….. 2. ใช้เครื่องหมาย คาพูด (“ _ ”) เพื่อกาหนดให้เป็นกลุ่มคา เช่น จะค้นหาคา ชื่อหนังสื่อที่ชื่อว่า
โปรแกรม PhotoShop สังเกตว่าคาที่จะค้นหา จะเป็นคาที่ต้องเว้นวรรค แต่เมื่อมีการสืบค้นด้วย Search
Engine ระบบจะค้นหาคาแบ่งเป็นสองคา คือคาว่า โปรแกรม และคาว่า PhotoShop จึงทาให้ข้อมูลที่ได้
ผิดพลาด ดังนั้นการสร้างคา จึงต้องกาหนดคาด้วยเครื่องหมายคาพูด จึงใช้คาว่า “โปรแกรม PhotoShop” ใน
การค้นหาแทน
…….. 3. ใช้เครื่องหมาย ลบ (-) ไว้หน้าคาที่ไม่ต้องการจะให้ปรากฏอยู่ในรายการแสดงผลของการค้นหา
เช่น ต้องการหาชื่อโรงเรียน แต่ทราบแล้วว่า โรงเรียนที่จะค้นหาไม่ใช้โรงเรียนอนุบาล จึงต้องยกเลิก คาว่า
อนุบาล โดยพิมพ์คาว่า โรงเรียน -อนุบาล ผลที่ได้จะทาให้มีเฉพาะคาว่า โรงเรียน ทั้งหมดแต่จะค้นหาคาว่า
อนุบาล (*การพิมพ์เครื่องหมาย ลบกับคาที่จะยกเลิกต้องติดกัน มิฉะนั้นระบบจะเข้าใจว่า จะค้นหาคา 3 คา
คือ คาว่า โรงเรียน คาว่า + และคาว่า อนุบาล*)
…….. ข้อมูลจาก http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/nakhonsithamrat/
nittaya_c/meaow2/

More Related Content

การสืบค้Ȩ้อมูลประ๶ภทข้อความ

  • 1. การสืบค้นข้อมูล “ข้อความ” ข้อความ (Text) …….. ข้อความ เป็นส่วนที่เกี่ยวกับเนื้อหาของมัลติมีเดีย ใช้แสดงรายละเอียด หรือเนื้อหาของเรื่อง ที่ นาเสนอ ซึ่งปัจจุบัน มีหลายรูปแบบ ได้แก่ …….. – ข้อความที่ได้จากการพิมพ์ เป็นข้อความปกติที่พบได้ทั่วไป ได้จากการพิมพ์ด้วย โปรแกรม ประมวลผลงาน (Word Processor) เช่น NotePad, Text Editor, Microsoft Word โดยตัวอักษรแต่ละตัว เก็บในรหัส เช่น ASCII …….. – ข้อความจากการสแกน เป็นข้อความในลักษณะภาพ หรือ Image ได้จากการนาเอกสาร ที่พิมพ์ไว้ แล้ว (เอกสารต้นฉบับ) มาทาการสแกน ด้วยเครื่องสแกนเนอร์ (Scanner) ซึ่งจะได้ผลออกมาเป็นภาพ (Image) 1 ภาพ ปัจจุบันสามารถแปลงข้อความภาพ เป็นข้อความปกติได้ โดยอาศัยโปรแกรม OCR …….. – ข้อความอิเล็กทรอนิกส์ เป็นข้อความที่พัฒนาให้อยู่ในรูปของสื่อ ที่ใช้ประมวลผลได้ …….. – ข้อความไฮเปอร์เท็กซ์ (HyperText) เป็นรูปแบบของข้อความ ที่ได้รับความนิยมสูงมาก ใน ปัจจุบัน โดยเฉพาะการเผยแพร่เอกสารในรูปของเอกสาร เว็บ เนื่องจากสามารถใช้เทคนิค การลิงก์ หรือเชื่อม ข้อความ ไปยังข้อความ หรือจุดอื่นๆ ได้ ภาพจาก http://202.28.94.55/web/ การ สืบค้นข้อมูลข้อความ หรือ TEXT เป็นการสืบค้นข้อมูลที่ใช้มาก ผู้สืบค้นนั้นต้องการได้เนื้อหา หรือ ข้อความที่เป็นข้อเท็จจริงในรูปตัวอักษรมากกว่าที่จะเป็นสื่อรูปแบบอื่น ๆ หลักการสืบค้นข้อมูลแบบ TEXT นั้น มีหลักการง่าย ๆ เพียงแค่เราต้องคิด “คาสาคัญ” หรือ Key Word ให้กระชับ และตรงประเด็น มากที่สุด การสืบค้นแบบใช้คีย์เวิร์ด เช่น ถ้าต้องการจะสืบค้นเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของ เครื่อง คอมพิวเตอร์ การค้นหาจึงต้องการเนื้อหาที่เจาะลึกการสร้างคา คีย์เวิร์ด ต้องใช้คา ที่เจาะลึกลงไป เพื่อให้ได้ ข้องมูลที่เฉพาะคา มากยิ่งขึ้น
  • 2. …….. 1. การใช้คาที่คิดว่าจะมีในเว็บที่ต้องการจะค้นหา เช่น ต้องการจะหาข้อมูลเกี่ยวกับ บุคคล ที่ชื่อว่า นาย อุบล ถ้าเราพิมพ์ข้อมูลที่ช่อง Search ว่า อุบล แล้วทาการค้นข้อมูล Search Engine จะทาการค้นหาคา โดยจะค้นหารวมทั้งคาว่า จังหวัดอุบล อุบลราชธานี คนอุบล วิทยาลัยเกษตรอุบล เทคโนโลยีอุบล ซึ่งเราจะ เจอ ข้อมูลจานวนมาก ดังนั้นการใช้คา ในการค้นหาข้อมูลจึงต้องใช้คาเฉพาะเพื่อให้ได ้ข้อมูลที่น้อยลง เช่น อาจจะพิมพ์คาว่า นาย อุบล พิมลวรรณ ซึ่งข้อมูลจะมีจานวนที่น้อยลง …….. 2. ใช้เครื่องหมาย คาพูด (“ _ ”) เพื่อกาหนดให้เป็นกลุ่มคา เช่น จะค้นหาคา ชื่อหนังสื่อที่ชื่อว่า โปรแกรม PhotoShop สังเกตว่าคาที่จะค้นหา จะเป็นคาที่ต้องเว้นวรรค แต่เมื่อมีการสืบค้นด้วย Search Engine ระบบจะค้นหาคาแบ่งเป็นสองคา คือคาว่า โปรแกรม และคาว่า PhotoShop จึงทาให้ข้อมูลที่ได้ ผิดพลาด ดังนั้นการสร้างคา จึงต้องกาหนดคาด้วยเครื่องหมายคาพูด จึงใช้คาว่า “โปรแกรม PhotoShop” ใน การค้นหาแทน …….. 3. ใช้เครื่องหมาย ลบ (-) ไว้หน้าคาที่ไม่ต้องการจะให้ปรากฏอยู่ในรายการแสดงผลของการค้นหา เช่น ต้องการหาชื่อโรงเรียน แต่ทราบแล้วว่า โรงเรียนที่จะค้นหาไม่ใช้โรงเรียนอนุบาล จึงต้องยกเลิก คาว่า อนุบาล โดยพิมพ์คาว่า โรงเรียน -อนุบาล ผลที่ได้จะทาให้มีเฉพาะคาว่า โรงเรียน ทั้งหมดแต่จะค้นหาคาว่า อนุบาล (*การพิมพ์เครื่องหมาย ลบกับคาที่จะยกเลิกต้องติดกัน มิฉะนั้นระบบจะเข้าใจว่า จะค้นหาคา 3 คา คือ คาว่า โรงเรียน คาว่า + และคาว่า อนุบาล*) …….. ข้อมูลจาก http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/nakhonsithamrat/ nittaya_c/meaow2/