ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
ใบงานเรื่องความหมายและความสาคัญของระบบสารสȨทศเพื่
อสนับสนุนการตัดสินใจ
บทบาทความสาคัญของเทคโนโลยีสารสȨทศ
ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ทาให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอานวยความสะดวกสบายต่อการดาชีวิตเป็นอันมาก
เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดารงชีวิตได้เป็นอย่างดี
เทคโนโลยีทาให้การสร้างที่พักอาศัยมีคุณภาพมาตรฐาน สามารถผลิตสินค้าและให้บริการต่าง ๆ
เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์มากขึ้น
เทคโนโลยีทาให้ระบบการผลิตสามารถผลิตสินค้าได้เป็นจานวนมากมีราคาถูกลง สินค้าได้คุณภาพ
เทคโนโลยีทาให้มีการติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก
การเดินทางเชื่อมโยงถึงกันทาให้ประชากรในโลกติดต่อรับฟังข่าวสารกันได้ตลอดเวลา
พัฒนาการของเทคโนโลยีทาให้ชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนไปมาก
ลองย้อนไปในอดีตโลกมีกาเนินมาประมาณ 4600 ล้านปี
เชื่อกันว่าพัฒนาการตามธรรมชาติทาให้เกิดสิ่งมีชีวิตถือกาเนินบนโลกประมาณ 500 ล้านปีที่แล้ว
ยุคไดโนเสาร์มีอายุอยู่ในช่วง 200 ล้านปี สิ่งมีชีวิตที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ ค่อย ๆพัฒนามา
คาดคะเนว่าเมื่อห้าแสนปีที่แล้วมนุษย์สามารถส่งสัญญาณท่าทางสื่อสารระหว่างกันและพัฒนามาเป็
นภาษา มนุษย์สามารถสร้างตัวหนังสือ และจารึกไว้ตามผนึกถ้า เมื่อประมาณ 5000 ปีที่แล้ว
กล่าวได้ว่ามนุษย์ต้องใช้เวลานานพอสมควรในการพัฒนาตัวหนังสือที่ใช้แทนภาษาพูด
และจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้เมื่อประมาณ 5000
ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่าฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้เมื่อประมาณ 500
ถึง 800ปีที่แล้ว เทคโนโลยีเริ่มเข้ามาช่วยในการพิมพ์
ทาให้การสื่อสารด้วยข้อความและภาษาเพิ่มขึ้นมาก เทคโนโลยีพัฒนามาจนถึงการสื่อสารกัน
โดยส่งข้อความเป็นเสียงทางสายโทรศัพท์ได้ประมาณร้อยกว่าปี ที่แล้ว
และเมื่อประมาณห้าสิบปีที่แล้ว
ก็มีการส่งภาพโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ทาให้มีการใช้สารสȨทศในรูปแบบข่าวสารมากขึ้น
ในปัจจุบันมีสถานที่วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และสื่อต่าง ๆ ที่ใช้ในการกระจ่ายข่าวสาร
มีการแพร่ภาพทางโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเพื่อรายงานเหตุการณ์สด
เห็นได้ชัดว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก
บทบาทของการพัฒนาเทคโนโลยีรวดเร็วขึ้นเมื่อมีการพัฒนาอุปกรณ์ทางด้านคอมพิวเตอร์และส่วน
ประกอบ จะเห็นได้ว่าในช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมาจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่
ซึ่งมีคอมพิวเตอร์เข้าไปเกี่ยวข้องให้เห็นอยู่ตลอดเวลา
รูปแสดงการติดต่อสื่อสารผ่านดาวเทียม
นักเรียนลองจินตนาการดูว่า นักเรียนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีด้านใดบ้างจากตัวอย่างต่อไปนี้
เมื่อตื่นนอนนักเรียนอาจได้ยินเสียงจากวิทยุ ซึ่งกระจายเสียงข่าวสารหรือเพลงไปทั่ว
นักเรียนใช้โทรศัพท์สื่อสารกับเพื่อน ดูรายการทีวี
วีดีโอเมื่อมาโรงเรียนเดินทางผ่านถนนที่มีระบบไฟสัญญาณที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์
ถ้าไปศูนย์การค้า ขึ้นลิฟต์ ขึ้นบันไดเลื่อนซึ่งควบคุมการทางานด้วยคอมพิวเตอร์ ที่บ้านนักเรียน
นักเรียนอาจอยู่ในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศที่ควบคุมอุณหภูมิโดยอัตโนมัติ
คุณแม่ทาอาหารด้วยเตาอบซึ่งควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า
จะเห็นว่าชีวิตในปัจจุบันเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเป็นอันมาก
อุปกรณ์เหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์เป็นส่วนประกอบในการทางาน
รูปแสดงเครื่องอานวยความสะดวกภายในบ้าน
ในอดีตยุคที่มนุษย์ยังเร่ร่อน มีอาชีพเกษตรกรรม ล่าสัตว์ ต่อมามีการรวมตัวกันสร้างเมือง
และสังคมเมืองทาให้เกิดอุตสาหกรรมการผลิต
การผลิตทาให้เกิดการปฏิวัติทางอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตจานวนมาก
สังคมจึงเป็นสังคมเมืองที่มีอุตสาหกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หลังจากปี พ.ศ. 2530 เป็นต้นมา
ระบบสื่อสารโทรคมนาคมและคอมพิวเตอร์ก้าวหน้ามาก
ทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคสังคมสารสȨทศ
ชีวิตความเป็นอยู่เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารจานวนมาก การสื่อสารโทรคมนาคมกระจายทั่วถึง
ทาให้ข่าวสารแพร่กระจ่ายไปอย่างรวดเร็ว
สังคมในปัจจุบันเป็นสังคมไร้พรมแดนเพราะเรื่องราวของประเทศหนึ่งสามารถกระจายแพร่ออกไป
ยังประเทศต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
นิยามเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสȨทศ
คาว่าเทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์
การศึกษาพัฒนาองค์ความรู้ต่าง ๆ ก็เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติ กฎเกณฑ์ของสิ่งต่าง ๆ
และหาทางนามาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ เทคโนโลยีจึงเป็นค้าที่มีความหมายกว้างไกล
เป็นคาที่เราได้พบเห็นและได้ยินอยู่ตลอดมา
ลองนึกดูว่าทรายที่เราเห็นอยู่บนพื้นดิน ตามชายหาด ชายทะเลเป็นสารประกอบของซิลิกอน
ทรายเหล่านั้นมีราคาต่าและเรามองข้ามไป
ครั้งมีบางคนที่เรียนรู้วิธีการแยกสกัดเอาสารซิลิกอนให้บริสุทธิ์
และเจือสารบางอย่างให้เกิดเป็นสิ่งที่เรียกว่าสารกึ่งตัวนา นามาผลิตเป็นทรานซิสเตอร์ และไอซี
(IntegratedCircuit :IC) ไอซีนี้เป็นอุปกรณ์ที่รวมวงจรอิเล็กทรอนิกส์จานวนมากไว้ด้วยกัน
ใช้เป็นชิพซึ่งเป็นส่วนสาคัญของคอมพิวเตอร์
สารซิลิกอนดังกล่าวเมื่อผ่านกรรมวิธีทางเทคโนโลยีแล้วจะมีราคาสูงสามารถนามาขายได้เงินเป็น
จานวนมาก ดังนั้นเทคโนโลยีจึงเป็นหัวใจของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
เพราะเรานาเอาวัตถุดิบมาผ่านเทคนิคการดาเนินการ จะได้วัตถุสาเร็จรูป
สินค้าเหล่านี้จะมีมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบนั้นมาก
ประเทศใดมีเทคโนโลยีมากมักจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว
เทคโนโลยีจึงเป็นหาทางที่จะช่วยในการพัฒนาให้สินค้าและบริการมีมูลค่าเพิ่มขึ้น
ทุกประเทศจึงให้ความสาคัญของการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาช่วยงานด้านต่าง ๆ
ส่วนคาว่าสารสȨทศ หมายถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดาเนินชีวิตของมนุษย์
มนุษย์แต่ละคนตั้งแต่เกิดมาได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เป็นจานวนมาก เรียนรู้สภาพสังคมความเป็นอยู่
กฎเกณฑ์และวิชาการ ลองจินตนาการดูว่าภายในสมองของเราเก็บข้อมูลอะไรบ้าง เราคงตอบไม่ได้
แต่สามารถเรียกเอาข้อมูลมาใช้ได้ ข้อมูลที่เก็บไว้ในสมองเป็นสิ่งที่สะสมกันมาเป็นเวลานาน
ความรอบรู้ของแต่ละคนจึงขึ้นอยู่กับการเรียกใช้ข้อมูลนั้น
ดังนั้นจะเห็นได้ชัดความรู้เกิดจากข้อมูลข่าวสารต่าง ๆทุกวันนี้มีข้อมูลรอบตัวเรามาก
ข้อมูลเหล่านี้มาจากสื่อ เช่นวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์
หรือแม้แต่การสื่อสารระหว่างบุคคล จึงมีผู้กล่าวว่ายุคนี้เป็นยุคของสารสȨทศ
รูปแสดงสื่อที่ช่วยในการรับส่งข้อมูล
ภายในสมองมนุษย์ซึ่งเป็นที่เก็บข้อมูลไว้มากมายจะมีข้อจากัดในการจัดเก็บ การเรียกใช้
การประมวลผล และการคิดคานวณ ดังนั้นจึงมีผู้พยายามสร้างเครื่องจักรเครื่องมือ
เพื่อดาเนินการเกี่ยวกับการจัดการสารสȨทศ
เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลไว้ในหน่วยความจาได้มาก
สามารถให้ข้อมูลได้แม่นยาและถูกต้องเมื่อมีการเรียกค้นหา ทางานได้ตลอดวันไม่เหน็ดเหนื่อย
และยังส่งข้อมูลไปได้ไกลและรวดเร็วมาก
เครื่องจักรอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับสารสȨทศนั้นมีมากมายตั้งแต่เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์รอบข้าง
ระบบสื่อสารโทรคมนาคมสมัยใหม่ ทาให้เกิดงานบริการที่อานวยความสะดวกต่าง ๆ
ในชีวิตประจาวัน เช่น การฝากถอนเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็ม (Automatic Teller Machine :ATM)
การจองตั๋วดูภาพยนตร์ การลงทะเบียนเรียนในโรงเรียน
เมื่อรวมคาว่าเทคโนโลยีกับสารสȨทศเข้าด้วยกัน จึงหมายถึงเทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสȨทศ
เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การรวบรวมการจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล การพิมพ์
การสร้างรายงาน การสื่อสารข้อมูล ฯลฯ
เทคโนโลยีสารสȨทศจะรวมไปถึงเทคโนโลยีที่ทาให้เกิดระบบการให้บริการ การใช้
และการดูแลข้อมูล
เทคโนโลยีสารสȨทศจึงมีความหมายที่กว้างขวางมาก นักเรียนจะได้พบกับสิ่งรอบ ๆ
ตัวที่เกี่ยวกับการใช้สารสȨทศอยู่มาก ดังนี้
 การเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นวิธีการรวบรวมข้อมูลเข้าสู่ระบบ
นักเรียนอาจเห็นพนักงานการไฟฟ้าไปที่บ้านพร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กเพื่อบันทึก
ข้อมูลการใช้ไฟฟ้า ในการสอบแข่งขันที่มีผู้สอบจานวนมาก
ก็มีการใช้ดินสอระบายตามช่องที่เลือกตอบ เพื่อให้เครื่องอ่านเก็บรวบรวมข้อมูลได้
เมื่อไปซื้อสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าก็มีการใช้รหัสแท่ง (bar code)
พนักงานจะนาสินค้าผ่านการตรวจของเครื่องเพื่ออ่านข้อมูลการซื้อสินค้าที่บรรจุในรหัสแ
ท่ง
เมื่อไปที่ห้องสมุดก็พบว่าหนังสือมีรหัสแท่งเช่นเดียวกันการใช้รหัสแท่งนี้เพื่อให้ง่ายต่อกา
รเก็บรวบรวมwbr>wb
 การประมวลผล ข้อมูลที่เก็บมาได้มักจะเก็บในสื่อต่าง ๆเช่น แผ่นบันทึก แผ่นซีดี หรือเทป
เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนามาประมวลผลตามต้องการ เช่น แยกแยะข้อมูลเป็นกลุ่ม
เรียงลาดับข้อมูล คานวณ หรือจัดการคัดแยกข้อมุลที่จัดเก็บนั้น
รูปแสดง การประมวลผลให้ออกมาในรูปเอกสาร
 การแสดงผลลัพธ์ อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีในการแสดงผลลัพธ์มีมาก
สามารถแสดงเป็นตัวหนังสือ เป็นรูปภาพ ตลอดจนพิมพ์ออกมาที่กระดาษ
การแสดงผลลัพธ์มีทั้งที่แสดงเป็นภาพ เป็นเสียง เป็นวีดิทัศน์ เป็นต้น
รูปแสดง การแสดงผลลัพท์ทางหน้าจอคอมพิวเตอร์
 การทาสาเนา เมื่อมีข้อมูลที่จัดเก็บในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆการทาสาเนาจะทาได้ง่าย
และทาได้เป็นจานวนมาก ดังนั้นอุปกรณ์ช่วยในการทาสาเนา
จัดได้ว่าเป็นเทคโนโลยีสารสȨทศที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เรามีเครื่องพิมพ์
เครื่องถ่ายเอกสาร อุปกรณ์การเก็บข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่นจานบันทึก ซีดีรอม
ซึ่งสามารถทาสาเนาได้เป็นจานวนมาก
 การสื่อสารโทรคมนาคม เป็นวิธีการที่จะส่งจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
หรือกระจายออกไปยังปลายทางครั้งละมาก ๆ
ปัจจุบันมีอุปกรณ์ระบบสื่อสารโทรคมนาคมหลายประเภท ตั้งแต่โทรเลข โทรศัพท์
เส้นใยนาแสง เคเบิลใต้น้า คลื่นวิทยุไมโครเวฟ ดาวเทียม เป็นต้น
ลักษณะสาคัญของเทคโนโลยีสารสȨทศ
โดยพื้นฐานของเทคโนโลยีย่อมมีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าได้
แต่เทคโนโลยีสารสȨทศเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิถีความเป็นอยู่ของสังคมสมัยใหม่อยู่มาก
ลักษณะเด่นที่สาคัญของเทคโนโลยีสารสȨทศมีดังนี้
 เทคโนโลยีสารสȨทศช่วยเพิ่มผลผลิตลดต้นทุน
และเพิ่มประสิทธิภาพในการทางาน ในการประกอบการทางด้านเศรษฐกิจ การค้า
และการอุตสาหกรรม จาเป็นต้องหาวิธีในการเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน
และเพิ่มประสิทธิภาพในการทางานคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารเข้ามาช่วยทาให้เกิดระบ
บอัตโนมัติ เราสามารถฝากถอนเงินสดผ่านเครื่องเอทีเอ็มได้ตลอดเวลา
ธนาคารสามารถให้บริการได้ดีขึ้น ทาให้การบริการโดยรวมมีประสิทธิภาพ
ในระบบการจัดการทุกแห่งต้องใช้ข้อมูลเพื่อการดาเนินการและการตัดสินใจ
ระบบธุรกิจจึงใช้เครื่องมือเหล่านี้ช่วยในการทางาน เช่น ใช้ในระบบจัดเก็บเงินสด
จองตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น
 เทคโนโลยีสารสȨทศเปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย เมื่อมีการพัฒนาระบบข้อ
มูล และการใช้ข้อมูลได้ดี การบริการต่าง ๆจึงเน้นรูปแบบการบริการแบบกระจาย
ผู้ใช้สามารถสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้าน สามารถสอบถามข้อมุลผ่านทางโทรศัพท์
นิสิตนักศึกษาบางมหาวิทยาลัยสามารถใช้คอมพิวเตอร์สอบถามผลสอบจากที่บ้านได้
 เทคโนโลยีสารสȨทศเป็นสิ่งที่จาเป็น สาหรับการดาเนินการในหน่วยงานต่าง
ๆ ปัจจุบันทุกหน่วยงานต่างพัฒนาระบบรวบรวมจัดเก็บข้อมูลเพื่อใข้ในองค์การประเทศไท
ยมีระบบทะเบียนราษฎร์ที่จัดทาด้วยระบบ ระบบเวชระเบียนในโรงพยาบาล
ระบบการจัดเก็บข้อมูลภาษี
ในองค์การทุกระดับเห็นความสาคัญที่จะนาเทคโนโลยีสารสȨทศมาใช้
 เทคโนโลยีสารสȨทศเกี่ยวข้องกับคนทุกระดับ พัฒนาการด้านเทคโนโลยีสารสȨทศ
ทาให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ดังจะเห็นได้จาก
การพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ การใช้ตารางคานวณ
และใช้อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมแบบต่าง ๆ เป็นต้น
ผลของเทคโนโลยีสารสȨทศ
การกาเนิดของคอมพิวเตอร์เมื่อประมาณห้าสิบกว่าปีที่แล้ว เป็นก้าวสาคัญที่นาไปสู่ยุคสารสȨทศ
ในช่วงแรกมีการนาเอาคอมพิวเตอร์มาใช้เป็นเครื่องคานวณ
แต่ต่อมาได้มีความพยายามพัฒนาให้คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์สาคัญสาหรับการจัดการข้อมูล
เมื่อเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ได้ก้าวหน้ามากขึ้น ทาให้สามารถสร้างคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กลง
แต่ประสิทธิภาพสูงขึ้น สภาพการใช้งานจึงใช้งานกันอย่างแพร่หลาย
ผลของเทคโนโลยีสารสȨทศที่มีต่อชีวิตความเป็นอยู่และสังคมจึงมีมาก
มีการเรียนรู้และใช้สารสȨทศกันอย่างกว้างขวาง
ผลของเทคโนโลยีสารสȨทศโดยรวมกล่าวได้ดังนี้
 การสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สภาพความเป็นอยู่ของสังคมเมือง
มีการพัฒนาใช้ระบบสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อติดต่อสื่อสารให้สะดวกขึ้น
มีการประยุกต์มาใช้กับเครื่องอานวยความสะดวกภายในบ้าน เช่น
ใช้ควบคุมเครื่องปรับอากาศ ใช้ควมคุมระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นต้น
 เสริมสร้างความเท่าเทียมในสังคมและการกระจายโอกาส เทคโนโลยีสารสȨทศทาให้เกิดก
ารกระจายไปทั่วทุกหนแห่ง แม้แต่ถิ่นทุรกันดาร ทาให้มีการกระจายโอการการเรียนรู้
มีการใช้ระบบการเรียนการสอนทางไกล การกระจายการเรียนรู้ไปยังถิ่นห่างไกล
นอกจากนี้ในปัจจุบันมีความพยายามที่ใช้ระบบการรักษาพยาบาลผ่านเครือข่ายสื่อสาร
 สารสȨทศกับการเรียนการสอนในโรงเรียน การเรียนการสอนในโรงเรียนมีการนาคอมพิวเ
ตอร์และเครื่องมือประกอบช่วยในการเรียนรู้ เช่นวีดิทัศน์ เครื่องฉายภาพ
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน คอมพิวเตอร์ช่วยจัดการศึกษา จัดตารางสอน คานวณระดับคะแนน
จัดชั้นเรียน ทารายงานเพื่อให้ผู้บริหารได้ทราบถึงปัญหาและการแก้ปัญหาในโรงเรียน
ปัจจุบันมีการเรียนการสอนทางด้านเทคโนโลยีสารสȨทศในโรงเรียนมากขึ้น
 เทคโนโลยีสารสȨทศกับสิ่งแวดล้อม การจัดการทรัพยากรธรรมชาติหลายอย่างจาเป็นต้อง
ใช้สารสȨทศ เช่น การดูแลรักษาป่า จาเป็นต้องใช้ข้อมูล มีการใช้ภาพถ่ายดาวเทียม
การติดตามข้อมูลสภาพอากาศ การพยากรณ์อากาศ
การจาลองรูปแบบสภาวะสิ่งแวดล้อมเพื่อปรับปรุงแก้ไข
การเก็บรวมรวมข้อมูลคุณภาพน้าในแม่น้าต่าง ๆ การตรวจวัดมลภาวะ
ตลอดจนการใช้ระบบการตรวจวัดระยะไกลมาช่วย ที่เรียกว่าโทรมาตร เป็นต้น
 เทคโนโลยีสารสȨทศกับการป้องกันประเทศ กิจการทางด้านการทหารมีการใช้เทคโนโลยี
อาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และระบบควบคุม
มีการใช้ระบบป้องกันภัย ระบบเฝ้าระวังที่มีคอมพิวเตอร์ควบคุมการทางาน
 การผลิตในอุตสาหกรรม
และการพาณิชยกรรม การแข่งขันทางด้านการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมจาเป็นต้องหาวิธีการ
ในการผลิตให้ได้มาก ราคาถูกลงเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทมาก
มีการใช้ข้อมูลข่าวสารเพื่อการบริหารและการจัดการ
การดาเนินการและยังรวมไปถึงการให้บริการกับลูกค้า เพื่อให้ซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น
เทคโนโลยีสารสȨทศมีผลเกี่ยวข้องกับทุกเรื่องในชีวิตประจาวัน บทบาทเหล่านี้มีแนวโน้มที่สาคัญ
มากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้เยาวชนคนรุ่นใหม่จึงควรเรียนรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสȨทศ
เพื่อจะได้เป็นกาลังสาคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสȨทศให้ก้าวหน้าและเกิดประโยชน์ต่อประเ
ทศต่อไป

More Related Content

What's hot (11)

TECHNO1
TECHNO1TECHNO1
TECHNO1
วันเพ็ญ สันกำแพง
ใบงานที่ 2 การสร้างเอกสารใหม่และฝึกพิมพ์
ใบงานที่ 2 การสร้างเอกสารใหม่และฝึกพิมพ์ใบงานที่ 2 การสร้างเอกสารใหม่และฝึกพิมพ์
ใบงานที่ 2 การสร้างเอกสารใหม่และฝึกพิมพ์
Supatchaya Rayangam
แบบพิมพ์ที่ 2 การพิมพ์ภาษาไทย
แบบพิมพ์ที่ 2 การพิมพ์ภาษาไทยแบบพิมพ์ที่ 2 การพิมพ์ภาษาไทย
แบบพิมพ์ที่ 2 การพิมพ์ภาษาไทย
มีปากก้พูด ไป
ใบงานที่ 2 การพิมพ์ภาษาไทย
ใบงานที่ 2 การพิมพ์ภาษาไทยใบงานที่ 2 การพิมพ์ภาษาไทย
ใบงานที่ 2 การพิมพ์ภาษาไทย
For'fang Manatchaya
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
Rattana234
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
Rattana234
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
Rattana234
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
Rattana234
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
Rattana234
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
wannuka24
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
wannuka24
ใบงานที่ 2 การสร้างเอกสารใหม่และฝึกพิมพ์
ใบงานที่ 2 การสร้างเอกสารใหม่และฝึกพิมพ์ใบงานที่ 2 การสร้างเอกสารใหม่และฝึกพิมพ์
ใบงานที่ 2 การสร้างเอกสารใหม่และฝึกพิมพ์
Supatchaya Rayangam
แบบพิมพ์ที่ 2 การพิมพ์ภาษาไทย
แบบพิมพ์ที่ 2 การพิมพ์ภาษาไทยแบบพิมพ์ที่ 2 การพิมพ์ภาษาไทย
แบบพิมพ์ที่ 2 การพิมพ์ภาษาไทย
มีปากก้พูด ไป
ใบงานที่ 2 การพิมพ์ภาษาไทย
ใบงานที่ 2 การพิมพ์ภาษาไทยใบงานที่ 2 การพิมพ์ภาษาไทย
ใบงานที่ 2 การพิมพ์ภาษาไทย
For'fang Manatchaya
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
Rattana234
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
Rattana234
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
Rattana234
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
Rattana234
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
Rattana234
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
wannuka24
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
wannuka24

Similar to ใบงาȨรื่องความหมายและความสำคัญྺองระบบสารสȨทศ (20)

สารสȨทศ
สารสȨทศสารสȨทศ
สารสȨทศ
GioKBONING
สารสȨทศ
สารสȨทศสารสȨทศ
สารสȨทศ
GioKBONING
งานสารสȨทศ
งานสารสȨทศงานสารสȨทศ
งานสารสȨทศ
sugun321
งานสารสȨทศ
งานสารสȨทศงานสารสȨทศ
งานสารสȨทศ
sugun321
งานสารสȨทศ
งานสารสȨทศงานสารสȨทศ
งานสารสȨทศ
sugun321
ใบความรู้ที่ 1
ใบความรู้ที่ 1ใบความรู้ที่ 1
ใบความรู้ที่ 1
Tarinee Bunkloy
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
onthicha1993
D:\Social Media\เทคโนโลยีสารสȨทศ\ใบงานที่1บทบาทและความเป็นมาของสารสȨทศ
D:\Social Media\เทคโนโลยีสารสȨทศ\ใบงานที่1บทบาทและความเป็นมาของสารสȨทศD:\Social Media\เทคโนโลยีสารสȨทศ\ใบงานที่1บทบาทและความเป็นมาของสารสȨทศ
D:\Social Media\เทคโนโลยีสารสȨทศ\ใบงานที่1บทบาทและความเป็นมาของสารสȨทศ
Jintana Pandoung
เทคโนโลยีสารสȨทศแนน1
เทคโนโลยีสารสȨทศแนน1เทคโนโลยีสารสȨทศแนน1
เทคโนโลยีสารสȨทศแนน1
Naritsa Charoensi
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
Suphattra
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
Rattana234
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
Nitchanan Kittikhunodom
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
Nitchanan Kittikhunodom
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
Rattana234
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
Nitchanan Kittikhunodom
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
wannuka24
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
Creampyyy
สารสȨทศ
สารสȨทศสารสȨทศ
สารสȨทศ
GioKBONING
สารสȨทศ
สารสȨทศสารสȨทศ
สารสȨทศ
GioKBONING
งานสารสȨทศ
งานสารสȨทศงานสารสȨทศ
งานสารสȨทศ
sugun321
งานสารสȨทศ
งานสารสȨทศงานสารสȨทศ
งานสารสȨทศ
sugun321
งานสารสȨทศ
งานสารสȨทศงานสารสȨทศ
งานสารสȨทศ
sugun321
ใบความรู้ที่ 1
ใบความรู้ที่ 1ใบความรู้ที่ 1
ใบความรู้ที่ 1
Tarinee Bunkloy
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
onthicha1993
D:\Social Media\เทคโนโลยีสารสȨทศ\ใบงานที่1บทบาทและความเป็นมาของสารสȨทศ
D:\Social Media\เทคโนโลยีสารสȨทศ\ใบงานที่1บทบาทและความเป็นมาของสารสȨทศD:\Social Media\เทคโนโลยีสารสȨทศ\ใบงานที่1บทบาทและความเป็นมาของสารสȨทศ
D:\Social Media\เทคโนโลยีสารสȨทศ\ใบงานที่1บทบาทและความเป็นมาของสารสȨทศ
Jintana Pandoung
เทคโนโลยีสารสȨทศแนน1
เทคโนโลยีสารสȨทศแนน1เทคโนโลยีสารสȨทศแนน1
เทคโนโลยีสารสȨทศแนน1
Naritsa Charoensi
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
Suphattra
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
Rattana234
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
Nitchanan Kittikhunodom
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
Nitchanan Kittikhunodom
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
Rattana234
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
เทคโนโลยีสารสȨทศ (2)
Nitchanan Kittikhunodom
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
wannuka24
เทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศเทคโนโลยีสารสȨทศ
เทคโนโลยีสารสȨทศ
Creampyyy

ใบงาȨรื่องความหมายและความสำคัญྺองระบบสารสȨทศ

  • 1. ใบงานเรื่องความหมายและความสาคัญของระบบสารสȨทศเพื่ อสนับสนุนการตัดสินใจ บทบาทความสาคัญของเทคโนโลยีสารสȨทศ ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทาให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอานวยความสะดวกสบายต่อการดาชีวิตเป็นอันมาก เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดารงชีวิตได้เป็นอย่างดี เทคโนโลยีทาให้การสร้างที่พักอาศัยมีคุณภาพมาตรฐาน สามารถผลิตสินค้าและให้บริการต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์มากขึ้น เทคโนโลยีทาให้ระบบการผลิตสามารถผลิตสินค้าได้เป็นจานวนมากมีราคาถูกลง สินค้าได้คุณภาพ เทคโนโลยีทาให้มีการติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก การเดินทางเชื่อมโยงถึงกันทาให้ประชากรในโลกติดต่อรับฟังข่าวสารกันได้ตลอดเวลา พัฒนาการของเทคโนโลยีทาให้ชีวิตความเป็นอยู่เปลี่ยนไปมาก ลองย้อนไปในอดีตโลกมีกาเนินมาประมาณ 4600 ล้านปี เชื่อกันว่าพัฒนาการตามธรรมชาติทาให้เกิดสิ่งมีชีวิตถือกาเนินบนโลกประมาณ 500 ล้านปีที่แล้ว ยุคไดโนเสาร์มีอายุอยู่ในช่วง 200 ล้านปี สิ่งมีชีวิตที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ ค่อย ๆพัฒนามา คาดคะเนว่าเมื่อห้าแสนปีที่แล้วมนุษย์สามารถส่งสัญญาณท่าทางสื่อสารระหว่างกันและพัฒนามาเป็ นภาษา มนุษย์สามารถสร้างตัวหนังสือ และจารึกไว้ตามผนึกถ้า เมื่อประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่ามนุษย์ต้องใช้เวลานานพอสมควรในการพัฒนาตัวหนังสือที่ใช้แทนภาษาพูด และจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้เมื่อประมาณ 5000 ปีที่แล้ว กล่าวได้ว่าฐานทางประวัติศาสตร์พบว่า มนุษย์สามารถจัดพิมพ์หนังสือได้เมื่อประมาณ 500 ถึง 800ปีที่แล้ว เทคโนโลยีเริ่มเข้ามาช่วยในการพิมพ์ ทาให้การสื่อสารด้วยข้อความและภาษาเพิ่มขึ้นมาก เทคโนโลยีพัฒนามาจนถึงการสื่อสารกัน โดยส่งข้อความเป็นเสียงทางสายโทรศัพท์ได้ประมาณร้อยกว่าปี ที่แล้ว และเมื่อประมาณห้าสิบปีที่แล้ว ก็มีการส่งภาพโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ทาให้มีการใช้สารสȨทศในรูปแบบข่าวสารมากขึ้น ในปัจจุบันมีสถานที่วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และสื่อต่าง ๆ ที่ใช้ในการกระจ่ายข่าวสาร มีการแพร่ภาพทางโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเพื่อรายงานเหตุการณ์สด เห็นได้ชัดว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก บทบาทของการพัฒนาเทคโนโลยีรวดเร็วขึ้นเมื่อมีการพัฒนาอุปกรณ์ทางด้านคอมพิวเตอร์และส่วน
  • 2. ประกอบ จะเห็นได้ว่าในช่วงสี่ห้าปีที่ผ่านมาจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งมีคอมพิวเตอร์เข้าไปเกี่ยวข้องให้เห็นอยู่ตลอดเวลา รูปแสดงการติดต่อสื่อสารผ่านดาวเทียม นักเรียนลองจินตนาการดูว่า นักเรียนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีด้านใดบ้างจากตัวอย่างต่อไปนี้ เมื่อตื่นนอนนักเรียนอาจได้ยินเสียงจากวิทยุ ซึ่งกระจายเสียงข่าวสารหรือเพลงไปทั่ว นักเรียนใช้โทรศัพท์สื่อสารกับเพื่อน ดูรายการทีวี วีดีโอเมื่อมาโรงเรียนเดินทางผ่านถนนที่มีระบบไฟสัญญาณที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ถ้าไปศูนย์การค้า ขึ้นลิฟต์ ขึ้นบันไดเลื่อนซึ่งควบคุมการทางานด้วยคอมพิวเตอร์ ที่บ้านนักเรียน นักเรียนอาจอยู่ในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศที่ควบคุมอุณหภูมิโดยอัตโนมัติ คุณแม่ทาอาหารด้วยเตาอบซึ่งควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า จะเห็นว่าชีวิตในปัจจุบันเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเป็นอันมาก อุปกรณ์เหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์เป็นส่วนประกอบในการทางาน รูปแสดงเครื่องอานวยความสะดวกภายในบ้าน ในอดีตยุคที่มนุษย์ยังเร่ร่อน มีอาชีพเกษตรกรรม ล่าสัตว์ ต่อมามีการรวมตัวกันสร้างเมือง และสังคมเมืองทาให้เกิดอุตสาหกรรมการผลิต การผลิตทาให้เกิดการปฏิวัติทางอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตจานวนมาก
  • 3. สังคมจึงเป็นสังคมเมืองที่มีอุตสาหกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่หลังจากปี พ.ศ. 2530 เป็นต้นมา ระบบสื่อสารโทรคมนาคมและคอมพิวเตอร์ก้าวหน้ามาก ทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคสังคมสารสȨทศ ชีวิตความเป็นอยู่เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารจานวนมาก การสื่อสารโทรคมนาคมกระจายทั่วถึง ทาให้ข่าวสารแพร่กระจ่ายไปอย่างรวดเร็ว สังคมในปัจจุบันเป็นสังคมไร้พรมแดนเพราะเรื่องราวของประเทศหนึ่งสามารถกระจายแพร่ออกไป ยังประเทศต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว นิยามเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสȨทศ คาว่าเทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ การศึกษาพัฒนาองค์ความรู้ต่าง ๆ ก็เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติ กฎเกณฑ์ของสิ่งต่าง ๆ และหาทางนามาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ เทคโนโลยีจึงเป็นค้าที่มีความหมายกว้างไกล เป็นคาที่เราได้พบเห็นและได้ยินอยู่ตลอดมา ลองนึกดูว่าทรายที่เราเห็นอยู่บนพื้นดิน ตามชายหาด ชายทะเลเป็นสารประกอบของซิลิกอน ทรายเหล่านั้นมีราคาต่าและเรามองข้ามไป ครั้งมีบางคนที่เรียนรู้วิธีการแยกสกัดเอาสารซิลิกอนให้บริสุทธิ์ และเจือสารบางอย่างให้เกิดเป็นสิ่งที่เรียกว่าสารกึ่งตัวนา นามาผลิตเป็นทรานซิสเตอร์ และไอซี (IntegratedCircuit :IC) ไอซีนี้เป็นอุปกรณ์ที่รวมวงจรอิเล็กทรอนิกส์จานวนมากไว้ด้วยกัน ใช้เป็นชิพซึ่งเป็นส่วนสาคัญของคอมพิวเตอร์ สารซิลิกอนดังกล่าวเมื่อผ่านกรรมวิธีทางเทคโนโลยีแล้วจะมีราคาสูงสามารถนามาขายได้เงินเป็น จานวนมาก ดังนั้นเทคโนโลยีจึงเป็นหัวใจของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพราะเรานาเอาวัตถุดิบมาผ่านเทคนิคการดาเนินการ จะได้วัตถุสาเร็จรูป สินค้าเหล่านี้จะมีมูลค่าเพิ่มจากวัตถุดิบนั้นมาก ประเทศใดมีเทคโนโลยีมากมักจะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เทคโนโลยีจึงเป็นหาทางที่จะช่วยในการพัฒนาให้สินค้าและบริการมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ทุกประเทศจึงให้ความสาคัญของการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาช่วยงานด้านต่าง ๆ ส่วนคาว่าสารสȨทศ หมายถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดาเนินชีวิตของมนุษย์ มนุษย์แต่ละคนตั้งแต่เกิดมาได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ เป็นจานวนมาก เรียนรู้สภาพสังคมความเป็นอยู่ กฎเกณฑ์และวิชาการ ลองจินตนาการดูว่าภายในสมองของเราเก็บข้อมูลอะไรบ้าง เราคงตอบไม่ได้ แต่สามารถเรียกเอาข้อมูลมาใช้ได้ ข้อมูลที่เก็บไว้ในสมองเป็นสิ่งที่สะสมกันมาเป็นเวลานาน ความรอบรู้ของแต่ละคนจึงขึ้นอยู่กับการเรียกใช้ข้อมูลนั้น
  • 4. ดังนั้นจะเห็นได้ชัดความรู้เกิดจากข้อมูลข่าวสารต่าง ๆทุกวันนี้มีข้อมูลรอบตัวเรามาก ข้อมูลเหล่านี้มาจากสื่อ เช่นวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่การสื่อสารระหว่างบุคคล จึงมีผู้กล่าวว่ายุคนี้เป็นยุคของสารสȨทศ รูปแสดงสื่อที่ช่วยในการรับส่งข้อมูล ภายในสมองมนุษย์ซึ่งเป็นที่เก็บข้อมูลไว้มากมายจะมีข้อจากัดในการจัดเก็บ การเรียกใช้ การประมวลผล และการคิดคานวณ ดังนั้นจึงมีผู้พยายามสร้างเครื่องจักรเครื่องมือ เพื่อดาเนินการเกี่ยวกับการจัดการสารสȨทศ เช่นเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลไว้ในหน่วยความจาได้มาก สามารถให้ข้อมูลได้แม่นยาและถูกต้องเมื่อมีการเรียกค้นหา ทางานได้ตลอดวันไม่เหน็ดเหนื่อย และยังส่งข้อมูลไปได้ไกลและรวดเร็วมาก เครื่องจักรอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับสารสȨทศนั้นมีมากมายตั้งแต่เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์รอบข้าง ระบบสื่อสารโทรคมนาคมสมัยใหม่ ทาให้เกิดงานบริการที่อานวยความสะดวกต่าง ๆ ในชีวิตประจาวัน เช่น การฝากถอนเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็ม (Automatic Teller Machine :ATM) การจองตั๋วดูภาพยนตร์ การลงทะเบียนเรียนในโรงเรียน เมื่อรวมคาว่าเทคโนโลยีกับสารสȨทศเข้าด้วยกัน จึงหมายถึงเทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสȨทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การรวบรวมการจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล การพิมพ์ การสร้างรายงาน การสื่อสารข้อมูล ฯลฯ เทคโนโลยีสารสȨทศจะรวมไปถึงเทคโนโลยีที่ทาให้เกิดระบบการให้บริการ การใช้ และการดูแลข้อมูล
  • 5. เทคโนโลยีสารสȨทศจึงมีความหมายที่กว้างขวางมาก นักเรียนจะได้พบกับสิ่งรอบ ๆ ตัวที่เกี่ยวกับการใช้สารสȨทศอยู่มาก ดังนี้  การเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นวิธีการรวบรวมข้อมูลเข้าสู่ระบบ นักเรียนอาจเห็นพนักงานการไฟฟ้าไปที่บ้านพร้อมเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กเพื่อบันทึก ข้อมูลการใช้ไฟฟ้า ในการสอบแข่งขันที่มีผู้สอบจานวนมาก ก็มีการใช้ดินสอระบายตามช่องที่เลือกตอบ เพื่อให้เครื่องอ่านเก็บรวบรวมข้อมูลได้ เมื่อไปซื้อสินค้าที่ห้างสรรพสินค้าก็มีการใช้รหัสแท่ง (bar code) พนักงานจะนาสินค้าผ่านการตรวจของเครื่องเพื่ออ่านข้อมูลการซื้อสินค้าที่บรรจุในรหัสแ ท่ง เมื่อไปที่ห้องสมุดก็พบว่าหนังสือมีรหัสแท่งเช่นเดียวกันการใช้รหัสแท่งนี้เพื่อให้ง่ายต่อกา รเก็บรวบรวมwbr>wb  การประมวลผล ข้อมูลที่เก็บมาได้มักจะเก็บในสื่อต่าง ๆเช่น แผ่นบันทึก แผ่นซีดี หรือเทป เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนามาประมวลผลตามต้องการ เช่น แยกแยะข้อมูลเป็นกลุ่ม เรียงลาดับข้อมูล คานวณ หรือจัดการคัดแยกข้อมุลที่จัดเก็บนั้น รูปแสดง การประมวลผลให้ออกมาในรูปเอกสาร  การแสดงผลลัพธ์ อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีในการแสดงผลลัพธ์มีมาก สามารถแสดงเป็นตัวหนังสือ เป็นรูปภาพ ตลอดจนพิมพ์ออกมาที่กระดาษ การแสดงผลลัพธ์มีทั้งที่แสดงเป็นภาพ เป็นเสียง เป็นวีดิทัศน์ เป็นต้น
  • 6. รูปแสดง การแสดงผลลัพท์ทางหน้าจอคอมพิวเตอร์  การทาสาเนา เมื่อมีข้อมูลที่จัดเก็บในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆการทาสาเนาจะทาได้ง่าย และทาได้เป็นจานวนมาก ดังนั้นอุปกรณ์ช่วยในการทาสาเนา จัดได้ว่าเป็นเทคโนโลยีสารสȨทศที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เรามีเครื่องพิมพ์ เครื่องถ่ายเอกสาร อุปกรณ์การเก็บข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่นจานบันทึก ซีดีรอม ซึ่งสามารถทาสาเนาได้เป็นจานวนมาก  การสื่อสารโทรคมนาคม เป็นวิธีการที่จะส่งจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง หรือกระจายออกไปยังปลายทางครั้งละมาก ๆ ปัจจุบันมีอุปกรณ์ระบบสื่อสารโทรคมนาคมหลายประเภท ตั้งแต่โทรเลข โทรศัพท์ เส้นใยนาแสง เคเบิลใต้น้า คลื่นวิทยุไมโครเวฟ ดาวเทียม เป็นต้น ลักษณะสาคัญของเทคโนโลยีสารสȨทศ โดยพื้นฐานของเทคโนโลยีย่อมมีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าได้ แต่เทคโนโลยีสารสȨทศเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิถีความเป็นอยู่ของสังคมสมัยใหม่อยู่มาก ลักษณะเด่นที่สาคัญของเทคโนโลยีสารสȨทศมีดังนี้  เทคโนโลยีสารสȨทศช่วยเพิ่มผลผลิตลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทางาน ในการประกอบการทางด้านเศรษฐกิจ การค้า และการอุตสาหกรรม จาเป็นต้องหาวิธีในการเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทางานคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารเข้ามาช่วยทาให้เกิดระบ บอัตโนมัติ เราสามารถฝากถอนเงินสดผ่านเครื่องเอทีเอ็มได้ตลอดเวลา ธนาคารสามารถให้บริการได้ดีขึ้น ทาให้การบริการโดยรวมมีประสิทธิภาพ ในระบบการจัดการทุกแห่งต้องใช้ข้อมูลเพื่อการดาเนินการและการตัดสินใจ
  • 7. ระบบธุรกิจจึงใช้เครื่องมือเหล่านี้ช่วยในการทางาน เช่น ใช้ในระบบจัดเก็บเงินสด จองตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น  เทคโนโลยีสารสȨทศเปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย เมื่อมีการพัฒนาระบบข้อ มูล และการใช้ข้อมูลได้ดี การบริการต่าง ๆจึงเน้นรูปแบบการบริการแบบกระจาย ผู้ใช้สามารถสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้าน สามารถสอบถามข้อมุลผ่านทางโทรศัพท์ นิสิตนักศึกษาบางมหาวิทยาลัยสามารถใช้คอมพิวเตอร์สอบถามผลสอบจากที่บ้านได้  เทคโนโลยีสารสȨทศเป็นสิ่งที่จาเป็น สาหรับการดาเนินการในหน่วยงานต่าง ๆ ปัจจุบันทุกหน่วยงานต่างพัฒนาระบบรวบรวมจัดเก็บข้อมูลเพื่อใข้ในองค์การประเทศไท ยมีระบบทะเบียนราษฎร์ที่จัดทาด้วยระบบ ระบบเวชระเบียนในโรงพยาบาล ระบบการจัดเก็บข้อมูลภาษี ในองค์การทุกระดับเห็นความสาคัญที่จะนาเทคโนโลยีสารสȨทศมาใช้  เทคโนโลยีสารสȨทศเกี่ยวข้องกับคนทุกระดับ พัฒนาการด้านเทคโนโลยีสารสȨทศ ทาให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ดังจะเห็นได้จาก การพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ การใช้ตารางคานวณ และใช้อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมแบบต่าง ๆ เป็นต้น ผลของเทคโนโลยีสารสȨทศ การกาเนิดของคอมพิวเตอร์เมื่อประมาณห้าสิบกว่าปีที่แล้ว เป็นก้าวสาคัญที่นาไปสู่ยุคสารสȨทศ ในช่วงแรกมีการนาเอาคอมพิวเตอร์มาใช้เป็นเครื่องคานวณ แต่ต่อมาได้มีความพยายามพัฒนาให้คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์สาคัญสาหรับการจัดการข้อมูล เมื่อเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ได้ก้าวหน้ามากขึ้น ทาให้สามารถสร้างคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กลง แต่ประสิทธิภาพสูงขึ้น สภาพการใช้งานจึงใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ผลของเทคโนโลยีสารสȨทศที่มีต่อชีวิตความเป็นอยู่และสังคมจึงมีมาก มีการเรียนรู้และใช้สารสȨทศกันอย่างกว้างขวาง ผลของเทคโนโลยีสารสȨทศโดยรวมกล่าวได้ดังนี้  การสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สภาพความเป็นอยู่ของสังคมเมือง มีการพัฒนาใช้ระบบสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อติดต่อสื่อสารให้สะดวกขึ้น มีการประยุกต์มาใช้กับเครื่องอานวยความสะดวกภายในบ้าน เช่น ใช้ควบคุมเครื่องปรับอากาศ ใช้ควมคุมระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นต้น  เสริมสร้างความเท่าเทียมในสังคมและการกระจายโอกาส เทคโนโลยีสารสȨทศทาให้เกิดก ารกระจายไปทั่วทุกหนแห่ง แม้แต่ถิ่นทุรกันดาร ทาให้มีการกระจายโอการการเรียนรู้
  • 8. มีการใช้ระบบการเรียนการสอนทางไกล การกระจายการเรียนรู้ไปยังถิ่นห่างไกล นอกจากนี้ในปัจจุบันมีความพยายามที่ใช้ระบบการรักษาพยาบาลผ่านเครือข่ายสื่อสาร  สารสȨทศกับการเรียนการสอนในโรงเรียน การเรียนการสอนในโรงเรียนมีการนาคอมพิวเ ตอร์และเครื่องมือประกอบช่วยในการเรียนรู้ เช่นวีดิทัศน์ เครื่องฉายภาพ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน คอมพิวเตอร์ช่วยจัดการศึกษา จัดตารางสอน คานวณระดับคะแนน จัดชั้นเรียน ทารายงานเพื่อให้ผู้บริหารได้ทราบถึงปัญหาและการแก้ปัญหาในโรงเรียน ปัจจุบันมีการเรียนการสอนทางด้านเทคโนโลยีสารสȨทศในโรงเรียนมากขึ้น  เทคโนโลยีสารสȨทศกับสิ่งแวดล้อม การจัดการทรัพยากรธรรมชาติหลายอย่างจาเป็นต้อง ใช้สารสȨทศ เช่น การดูแลรักษาป่า จาเป็นต้องใช้ข้อมูล มีการใช้ภาพถ่ายดาวเทียม การติดตามข้อมูลสภาพอากาศ การพยากรณ์อากาศ การจาลองรูปแบบสภาวะสิ่งแวดล้อมเพื่อปรับปรุงแก้ไข การเก็บรวมรวมข้อมูลคุณภาพน้าในแม่น้าต่าง ๆ การตรวจวัดมลภาวะ ตลอดจนการใช้ระบบการตรวจวัดระยะไกลมาช่วย ที่เรียกว่าโทรมาตร เป็นต้น  เทคโนโลยีสารสȨทศกับการป้องกันประเทศ กิจการทางด้านการทหารมีการใช้เทคโนโลยี อาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่ล้วนแต่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และระบบควบคุม มีการใช้ระบบป้องกันภัย ระบบเฝ้าระวังที่มีคอมพิวเตอร์ควบคุมการทางาน  การผลิตในอุตสาหกรรม และการพาณิชยกรรม การแข่งขันทางด้านการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมจาเป็นต้องหาวิธีการ ในการผลิตให้ได้มาก ราคาถูกลงเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทมาก มีการใช้ข้อมูลข่าวสารเพื่อการบริหารและการจัดการ การดาเนินการและยังรวมไปถึงการให้บริการกับลูกค้า เพื่อให้ซื้อสินค้าได้สะดวกขึ้น เทคโนโลยีสารสȨทศมีผลเกี่ยวข้องกับทุกเรื่องในชีวิตประจาวัน บทบาทเหล่านี้มีแนวโน้มที่สาคัญ มากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้เยาวชนคนรุ่นใหม่จึงควรเรียนรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสȨทศ เพื่อจะได้เป็นกาลังสาคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสȨทศให้ก้าวหน้าและเกิดประโยชน์ต่อประเ ทศต่อไป