ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
แบบจาลองอะตอมของรัทเทอร์ ฟอร์ ด
    หลังจากที่นักวิทยาศาสตร์ ชาวฝรั่งเศส ชื่อ
 เบเคเรล ได้ พบสารกัมมันตรังสี และเรินต์ เกน ได้
 ค้ นพบรังสี เอ็กซ์ รัทเทอร์ ฟอร์ ดก็ได้ ทาการศึกษา
 ธรรมชาติของรังสี ที่เกิดจากสารกัมมันตภาพรังสี
 พบว่ า รังสี ที่เกิดจากการสลายตัวของสาร
 กัมมันตรังสี มีอยู่ 3 ชนิด คือ
         1. รังสี แอลฟา
         2. รังสี บีตา
         3. รังสี แกมมา
รังสี ต่างๆ มีสมบัติดงนี้
                              ั
• รังสี แอลฟาหรืออนุภาคแอลฟา ประกอบด้ วย
  อนุภาคทีมีประจุไฟฟ้ าเป็ นบวก (+2) เป็ น
           ่
  นิวเคลียสของอะตอมของธาตุฮีเลียม คือ
  ประกอบด้ วยโปรตอน 2 ตัว และนิวตรอน 2
  ตัว มีอานาจผ่ านทะลุวตถุได้ น้อยมาก ถูกกั้น
                        ั
  โดยกระดาษเพียงแผ่ นเดียวหรือสองแผ่ น
• รังสี บีตาหรืออนุภาคบีตา ประกอบด้ วย
  อิเล็กตรอนทีมีพลังงานสู ง มีอานาจการผ่ านทะลุ
                  ่
  สู งกว่ ารังสี แอลฟา ถูกกั้นโดยใช้ แผ่ นโลหะบางๆ
• รังสี แกมมา แสดงสมบัติเป็ นคลืนแม่ เหล็กไฟฟา
                                     ่            ้
  ที่มีความยาวคลืนสั้ นมากคล้ายรังสี เอ็กซ์ รังสี
                    ่
  แกมมาไม่ มีมวล ไม่ มีประจุ มีอานาจผ่ านทะลุ
  สู งมาก ถูกกั้นได้ โดยแผ่ นตะกัวหนา
                                  ่
การทดลองของรัทเทอร์ ฟอร์ ด
 ปี ค.ศ. 1911 ลอร์ ด เออร์ เนสต์ รัทเทอร์ ฟอร์ ด ,
 ฮันส์ ไกเกอร์ และ เออร์ เนสต์ มาร์ เดน ได้ ทาการ
ทดลองร่ วมกันที่ประเทศอังกฤษ โดยทาการทดลอง
                       ดังนี้
 ใช้ อนุภาคแอลฟายิงไปยังแผ่ นโลหะทองคาบางๆ
    และใช้ ฉากเรืองแสงซึ่งฉาบด้ วยซิงค์ ซัลไฟด์ เป็ น
    ฉากรับอนุภาคแอลฟา เพือตรวจสอบว่ าอนุภาค
                              ่
    แอลฟาวิงไปทิศทางใดบ้ าง
            ่
จากการทดลองพบว่ า
       “อนุภาคแอลฟาส่ วนใหญ่ วงผ่ านแผ่ นทองคา
                              ิ่
  เป็ นแนวเส้ นตรงออกไปและยังมีอนุภาคบางส่ วน
  สะท้ อนกลับ”
  ซึ่งผลการทดลองดังกล่ าวทาให้ รัทเทอร์ ฟอร์ ด
  ประหลาดใจและสงสั ยมาก เนื่องจากแบบจาลอง
  อะตอมของทอมสั นไม่ สอดคล้ องกับผลการทดลอง
ฉากเรืองแสง ZnS
 แผ่ นทองคาบาง ๆ
                                (ข)
                (ค)
          รังสี a
   4
     He                   >
                          >     (ก)
   2                      >
แหล่ งกาเนิ
                                (ข)
ด
รังสี (Ra)
ผลการทดลองของรัทเทอร์ ฟอร์ ด
• การทีอนุภาคแอลฟาส่ วนใหญ่ ทวงผ่ านอะตอมของ
        ่                      ี่ ิ่
  แผ่ นทองคาเป็ นแนวเส้ นตรง แสดงว่ า อะตอมไม่ ใช่
  ของแข็งทึบตัน แต่ ภายในอะตอมมีทว่างอยู่มาก
                                     ี่
  เพราะถ้ าเป็ นของแข็งทึบตัน อนุภาคแอลฟาซึ่งมี
  ประจุไฟฟ้ าบวก มีมวลมาก ควรเฉออกจากทาง
  เดิม
• อนุภาคแอลฟาบางอนุภาคทีหักเหออกจากทางเดิม
                             ่
  เพราะภายในอะตอมมีอนุภาคทีมมวลมากและมี
                                ่ ี
  ประจุไฟฟ้ าบวกสู งมีขนาดเล็ก ดังนั้นเมื่ออนุภาค
  แอลฟาเข้ าใกล้ อนุภาคนีจะถูกผลักให้ เบนออกจาก
                         ้
  เดิม หรือเมื่ออนุภาคแอลฟาเข้ ามากระทบอย่ างจัง
  ก็จะสะท้ อนกลับ
สรุปแบบจาลองอะตอมของรัทเทอร์ ฟอร์ ด
  “อะตอมประกอบด้ วยโปรตอนซึ่งรวมกันเป็ น
 นิวเคลียสอยู่ตรงกลาง นิวเคลียสมีขนาดเล็กมาก
 แต่ มีมวลมากและมีประจุบวก ส่ วนอิเล็กตรอนซึ่ง
      มีประจุลบและมีมวลน้ อยมากวิงอยู่รอบๆ
                                    ่
            นิวเคลียสเป็ นบริเวณกว้ าง”

More Related Content

แบบจำลองอะตอมรัท๶ทอร์ฟอร์ด

  • 1. แบบจาลองอะตอมของรัทเทอร์ ฟอร์ ด หลังจากที่นักวิทยาศาสตร์ ชาวฝรั่งเศส ชื่อ เบเคเรล ได้ พบสารกัมมันตรังสี และเรินต์ เกน ได้ ค้ นพบรังสี เอ็กซ์ รัทเทอร์ ฟอร์ ดก็ได้ ทาการศึกษา ธรรมชาติของรังสี ที่เกิดจากสารกัมมันตภาพรังสี พบว่ า รังสี ที่เกิดจากการสลายตัวของสาร กัมมันตรังสี มีอยู่ 3 ชนิด คือ 1. รังสี แอลฟา 2. รังสี บีตา 3. รังสี แกมมา
  • 2. รังสี ต่างๆ มีสมบัติดงนี้ ั • รังสี แอลฟาหรืออนุภาคแอลฟา ประกอบด้ วย อนุภาคทีมีประจุไฟฟ้ าเป็ นบวก (+2) เป็ น ่ นิวเคลียสของอะตอมของธาตุฮีเลียม คือ ประกอบด้ วยโปรตอน 2 ตัว และนิวตรอน 2 ตัว มีอานาจผ่ านทะลุวตถุได้ น้อยมาก ถูกกั้น ั โดยกระดาษเพียงแผ่ นเดียวหรือสองแผ่ น
  • 3. • รังสี บีตาหรืออนุภาคบีตา ประกอบด้ วย อิเล็กตรอนทีมีพลังงานสู ง มีอานาจการผ่ านทะลุ ่ สู งกว่ ารังสี แอลฟา ถูกกั้นโดยใช้ แผ่ นโลหะบางๆ • รังสี แกมมา แสดงสมบัติเป็ นคลืนแม่ เหล็กไฟฟา ่ ้ ที่มีความยาวคลืนสั้ นมากคล้ายรังสี เอ็กซ์ รังสี ่ แกมมาไม่ มีมวล ไม่ มีประจุ มีอานาจผ่ านทะลุ สู งมาก ถูกกั้นได้ โดยแผ่ นตะกัวหนา ่
  • 4. การทดลองของรัทเทอร์ ฟอร์ ด ปี ค.ศ. 1911 ลอร์ ด เออร์ เนสต์ รัทเทอร์ ฟอร์ ด , ฮันส์ ไกเกอร์ และ เออร์ เนสต์ มาร์ เดน ได้ ทาการ ทดลองร่ วมกันที่ประเทศอังกฤษ โดยทาการทดลอง ดังนี้  ใช้ อนุภาคแอลฟายิงไปยังแผ่ นโลหะทองคาบางๆ และใช้ ฉากเรืองแสงซึ่งฉาบด้ วยซิงค์ ซัลไฟด์ เป็ น ฉากรับอนุภาคแอลฟา เพือตรวจสอบว่ าอนุภาค ่ แอลฟาวิงไปทิศทางใดบ้ าง ่
  • 5. จากการทดลองพบว่ า “อนุภาคแอลฟาส่ วนใหญ่ วงผ่ านแผ่ นทองคา ิ่ เป็ นแนวเส้ นตรงออกไปและยังมีอนุภาคบางส่ วน สะท้ อนกลับ” ซึ่งผลการทดลองดังกล่ าวทาให้ รัทเทอร์ ฟอร์ ด ประหลาดใจและสงสั ยมาก เนื่องจากแบบจาลอง อะตอมของทอมสั นไม่ สอดคล้ องกับผลการทดลอง
  • 6. ฉากเรืองแสง ZnS แผ่ นทองคาบาง ๆ (ข) (ค) รังสี a 4 He > > (ก) 2 > แหล่ งกาเนิ (ข) ด รังสี (Ra)
  • 7. ผลการทดลองของรัทเทอร์ ฟอร์ ด • การทีอนุภาคแอลฟาส่ วนใหญ่ ทวงผ่ านอะตอมของ ่ ี่ ิ่ แผ่ นทองคาเป็ นแนวเส้ นตรง แสดงว่ า อะตอมไม่ ใช่ ของแข็งทึบตัน แต่ ภายในอะตอมมีทว่างอยู่มาก ี่ เพราะถ้ าเป็ นของแข็งทึบตัน อนุภาคแอลฟาซึ่งมี ประจุไฟฟ้ าบวก มีมวลมาก ควรเฉออกจากทาง เดิม
  • 8. • อนุภาคแอลฟาบางอนุภาคทีหักเหออกจากทางเดิม ่ เพราะภายในอะตอมมีอนุภาคทีมมวลมากและมี ่ ี ประจุไฟฟ้ าบวกสู งมีขนาดเล็ก ดังนั้นเมื่ออนุภาค แอลฟาเข้ าใกล้ อนุภาคนีจะถูกผลักให้ เบนออกจาก ้ เดิม หรือเมื่ออนุภาคแอลฟาเข้ ามากระทบอย่ างจัง ก็จะสะท้ อนกลับ
  • 9. สรุปแบบจาลองอะตอมของรัทเทอร์ ฟอร์ ด “อะตอมประกอบด้ วยโปรตอนซึ่งรวมกันเป็ น นิวเคลียสอยู่ตรงกลาง นิวเคลียสมีขนาดเล็กมาก แต่ มีมวลมากและมีประจุบวก ส่ วนอิเล็กตรอนซึ่ง มีประจุลบและมีมวลน้ อยมากวิงอยู่รอบๆ ่ นิวเคลียสเป็ นบริเวณกว้ าง”