ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
สื่อการสอนประกอบ
วิชา ภาษาไทย ๑
รหัส ท ๒๑๑๐๑
เรื่อง โคลงโลกนิติ
จัดทาโดย
นางสาวอิสรีย์ น้อยมิ่ง
นางมาณี ปรักมานนท์
โคลงโลกนิติ2
ผู้แต่ง
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมพระยาเดชาดิศร
โคลงโลกนิติ2
โคลงโลกนิติ2
ความรู้ผู้ปราชญ์นั้น นักเรียน
ฝนทั่งเท่าเข็มเพียร ผ่ายหน้า
คนเกียจเกลียดหน่ายเวียน วนจิต
กลอุทกในตะกร้า เปี่ยมล้นฤามี
ผู้เป็นนักปราชญ์นั้นมักใฝ่รู้ใฝ่เรียนอยู่ตลอดเวลาและมี
ความมานะอดทนต่อความยากลาบาก เพื่ออนาคตของตน
แต่คนโง่เขลานั้นมักเกียจคร้านที่จะใฝ่หาวิชาความรู้
เหมือนกับการเทน้าลงในตะกร้า น้าย่อมไหลออกไปหมด
เพราะเก็บน้าไม่อยู่
เว้นวิจารณ์ว่างเว้น สดับฟัง
เว้นที่ถามอันยัง ไป่รู้
เว้นเล่าลิขิตสัง เกตว่าง เว้นนา
เว้นดังกล่าวว่าผู้ ปราชญ์ได้ฤามี
การเว้นที่จะพูดแสดงความคิดเห็น การเว้นที่จะรับฟังคน
อื่น การเว้นที่จะถามในเรื่องที่ตนเองไม่รู้ ไม่เข้าใจ และการ
ไม่เขียน ไม่สังเกต ย่อมเป็นนักปราชญ์หรือผู้รอบรู้ไม่ได้
รู้น้อยว่ามากรู้ เริงใจ
กลกบเกิดอยู่ใน สระจ้อย
ไป่เห็นชเลไกล กลางสมุทร
ชมว่าน้าบ่อน้อย มากล้าลึกเหลือ
คนที่มีความรู้น้อย มักทะนงตนว่ามีความรู้มาก
เหมือนกับกบที่อยู่ในสระน้อยๆ ไม่เคยไปเห็นทะเลและ
มหาสมุทรอันกว้างใหญ่มาก่อน ก็คิดว่าสระน้อยๆ ที่ตน
อาศัยอยู่นั้น ช่างกว้างใหญ่เสียเหลือเกิน
พระสมุทรสุดลึกล้น คณนา
สายดิ่งทิ้งทอดมา หยั่งได้
เขาสูงอาจวัดวา กาหนด
จิตมนุษย์นี้ไซร้ ยากแท้หยั่งถึง
มหาสมุทรแม้ว่าจะลึกสุดจะนับสักเพียงใด ก็สามารถใช้
สายดิ่ง (เครื่องวัดความลึกของน้า) หยั่งวัดได้ ภูเขาแม้จะ
สูงสักเพียงใด ก็สามารถใช้เครื่องมือวัดความสูงได้ แต่
จิตใจของคนนั้นไม่สามารถจะหาสิ่งใดมาหยั่งหรือวัดได้เลย
รักกันอยู่ขอบฟ้า เขาเขียว
เสมออยู่หอแห่งเดียว ร่วมห้อง
เขาสูงอาจวัดวา กาหนด
จิตมนุษย์นี้ไซร้ ยากแท้หยั่งถึง
ถ้ารักกันถึงแม้ตัวจะอยู่ห่างกันไกลแสนไกลสักเพียงใดก็
ตามก็เหมือนอยู่ร่วมห้องเดียวกัน เพราะมีความรักความ
ผูกพันต่อกัน แต่ถ้าเกลียดกัน ถึงแม้ว่าจะอยู่ใกล้กันก็
เหมือนกับมีขอบฟ้ามาขวางกั้นหรือป่าไม้มาปิดบังไว้
สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อ ในตน
กินกัดเนื้อเหล็กจน กร่อนขร้า
บาปเกิดแต่ตนคน เป็นบาป
บาปย่อมทาโทษซ้า ใส่ผู้บาปเอง
สนิมเหล็กนั้นที่แท้แล้วก็เกิดขึ้นจากเนื้อในของเหล็กเอง
และสนิมนั้นก็จะกัดกินเนื้อเหล็กให้ผุกร่อนไป จนใช้การ
ไม่ได้ เปรียบได้กับความชั่วนั้นเกิดขึ้นจากคนชั่วเป็นผู้ทา
ขึ้น แล้วผลแห่งการทาความชั่วนั้นก็จะให้ทุกข์ให้โทษหรือ
ทาลายผู้ทาชั่วนั้นให้ย่อยยับลง
นกน้อยขนน้อยแต่ พอตัว
รังแต่งจุเมียผัว อยู่ได้
มักใหญ่ย่อมคนหวัว ไพเพิด
ทาแต่พอตัวไซร้ อย่าให้คนหยัน
นกตัวน้อยๆ ควรที่จะหากินตามกาลังของตน ถ้าจะทารัง
ก็ควรให้พออยู่กันได้ตามประสาผัวเมีย ไม่ควรทาให้ใหญ่
เกินตัวหรือเกินกาลังความสามารถของตน เพราะคนเขาจะ
หัวเราะหรือตะเพิดเอา ควรทาแต่พอตัว
เพื่อไม่ให้คนเยาะเย้ยได้
เห็นท่านมีอย่าเคลิ้ม ใจตาม
เรายากหากใจงาม อย่าคร้าน
อุตส่าห์พยายาม การกิจ
เอาเยี่ยงอย่างเพื่อนบ้าน อย่าท้อทากิน
เมื่อเห็นผู้อื่นที่เขามั่งมีทาสิ่งใด ก็อย่างได้เผลอตัวหลงทา
ไปตามเขา แม้ว่าเราจะยากจนหากมีจิตใจงามไม่เกียจคร้าน
มีความมานะ อดทนทางานไปโดยเอาเยี่ยงอย่างจากเพื่อน
บ้านที่เขาขยันทามาหากิน แล้วเราก็จะประสบความสาเร็จ
ในชีวิตได้
คุณแม่หนาหนักเพี้ยง พสุธา
คุณบิดรดุจอา- กาศกว้าง
คุณพี่พ่างศิขรา เมรุมาศ
คุณพระอาจารย์อ้าง อาจสู้สาคร
พระคุณของมารดานั้นยิ่งใหญ่เปรียบได้กับแผ่นดิน
พระคุณของบิดานั้นเล่าก็กว้างขวางเปรียบได้กับอากาศ
พระคณของพี่นั้นสูงเท่ากับยอดเขาพระสุเมรุ และพระคุณ
ของครูบาอาจารย์ก็ล้าลึกเปรียบได้กับน้าในแม่น้าทั้งหลาย
ก้านบัวบอกลึกตื้น ชลธาร
มารยาทส่อสันดาน ชาติเชื้อ
โฉดฉลาดเพราะคาขาน ควรทราบ
หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อ บอกร้ายสลายดิน
ก้านของบัวสามารถบอกถึงความตื้นลึกของน้าได้ฉันใด
กิริยามารยาทก็สามารถบ่งบอกถึงนิสัยและชาติตระกูลได้
ฉันนั้น คนจะฉลาดหรือโง่เขลาสังเกตได้จากคาพูดจา
เปรียบได้กับหญ้าที่เหี่ยวแห้งย่อมแสดงว่าดินไม่มีคุณภาพ
โคควายวายชีพได้ เขาหนัง
เป็นสิ่งเป็นอันยัง อยู่ไซร้
คนเด็ดดับสูญสัง- ขารร่าง
เป็นชื่อเป็นเสียงได้ แต่ร้ายกับดี
วัวควายเมื่อตายไปแล้ว ยังเหลือเขาและหนังไว้ใช้เป็น
ประโยชน์ ส่วนคนนั้นเมื่อสิ้นชีวิตไปแล้ว ไม่มีอะไรเหลืออยู่
เลย นอกจากความดีกับความชั่วที่ได้สร้างไว้เท่านั้น ฉะนั้น
จงทาแต่ความดีงามเถิด
เพื่อนกิน สิ้นทรัพย์แล้ว แหนงหนี
หาง่าย หลายหมื่นมี มากได้
เพื่อนตาย ถ่ายแทนชี- วาอาตม์
หายาก ฝากผีไข้ ยากแท้จักหา
เพื่อนกินนั้นเมื่อทรัพย์สินเงินทองของเราหมดแล้ว
ย่อมจะหนีหน้าหายไป เพื่อนชนิดนี้หาได้ง่ายที่สุด แต่
เพื่อนตายชนิดที่สามารถตายแทนเราได้ หรือเราสามารถ
ฝากผีฝากไข้ได้นั้น หาได้ยาก
อ่อนหวานมานมิตรล้น เหลือหลาย
หยาบบ่มีเกลอกราย เกลื่อนใกล้
ดุจดวงศศิฉาย ดาวดาษ ประดับนา
สุริยะส่องดาราไร้ เพื่อร้อนแรงแสง
คนที่พูดจาไพเราะอ่อนหวานย่อมจะมีเพื่อนมากมาย ส่วน
คนที่พูดจาหยาบคาย ก็จะไม่มีผู้คบค้าสมาคมด้วย เปรียบ
คนที่พูดจาอ่อนหวานเหมือนดวงจันทร์ กล่าวคือเมื่อดวง
จันทร์ขึ้น ก็จะมีดวงดาวห้อมล้อมเป็นเพื่อนมากมาย ส่อง
แสงระยิบระยับสวยงามมาก ส่วนคนที่พูดจาหยาบคาย
เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ กล่าวคือ เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นจะ
ส่องแสงร้อนแรง ทาให้ดวงดาวซึ่งเปรียบเสมือนเพื่อน
หายไปหมด
แบบฝึกหัด
ทบทวนความรู้

More Related Content

โคลงโลกนิติ2