ݺߣ
Submit Search
กลุ่มที่ 1
•
0 likes
•
160 views
คณากรณ์ อุปปิง
1 of 8
Download now
Download to read offline
More Related Content
กลุ่มที่ 1
1.
กลุมที่ 1
่ ของ 3/5
4.
ประเภทของหลอดไฟ 1. หลอดไฟฟ้ าธรรมดา
มีไส้หลอดที่ทาด้วยลวดโลหะที่มีจุด หลอมเหลวสู ง เช่น ทังสเตนเส้นเล็กๆ ขดเอาไว้เหมือนขดลวดสปริ ง ภายในหลอดแก้วสู บอากาศออกหมดแล้วบรรจุก๊าซเฉื่ อย เช่น อาร์กอน (Ar) ไว้ ก๊าซนี้ช่วยป้ องกันไม่ให้หลอดไฟฟ้ าดา ลักษณะของหลอดไฟ เป็ นดังรู ป
5.
หลักการทางานของหลอึϹฟฟาธรรมดา
้ กระแสไฟฟ้ าไหลผ่านไส้หลอดซึ่ งมีความต้านทานสู ง พลังงานไฟฟ้ าจะเปลี่ยนเป็ นพลังงาน ความร้อน ทาให้ไส้หลอดร้อนจัดจนเปล่งแสงออกมาได้ การเปลี่ยนพลังงานเป็ นดังนี้ พลังงานไฟฟ้ า >>>พลังงานความร้อน >>>พลังงานแสง 2. หลอดเรื่ องแสง หรื อ หลอดฟลูออเรสเซนต์ (fluorescent) เป็ นอุปกรณ์ที่เปลี่ยน พลังงานไฟฟ้ าเป็ นพลังงานแสงสว่าง ซึ่ งมีการประดิษฐ์ในปี ค.ศ. 1938 โดยมีรูปร่ างหลาย แบบ อาจทาเป็ นหลอดตรง สั้น ยาว ขดเป็ นวงกลมหรือครึ่งวงกลม เป็ นต้น ส่ วนประกอบของหลอดเรืองแสง
6.
่ ตัวหลอดมีไส้โลหะทังสเตนติดอยูที่ปลายทั้ง 2 ข้าง ของหลอดแก้ว
ซึ่ งผิวภายในของหลอด ฉาบด้วยสารเรื่ องแสง อากาศในหลอดแก้วถูก สู บออกจนหมดแล้วใส่ ไอปรอทไว้เล็กน้อย ดัง รู ป
7.
อุปกรณ์ที่ใช้เพื่อให้หลอดเรื องแสงทางาน 1. สตาร์ตเตอร์
(starter) ทาหน้าที่เป็ นสวิตซ์อตโนมัติในขณะหลอดเรื องแสง ยัง ั ไม่ติดและหยุดทางานเมื่อหลอดติดแล้ว 2. แบลลัสต์ (Ballast) ทาหน้าที่เพิ่มความต่างศักย์ เพื่อให้หลอดไฟเรื องแสงติดใน ่ ตอนแรกและทาหน้าที่ ควบคุมกระแสไฟฟ้ าที่ผานหลอด ให้ลดลงเมื่อหลอดติดแล้ว
8.
การใช้หลอดเรื องแสงต้องต่อวงจรเข้ากับ สตาร์ตเตอร์ และแบลลัสต์
แล้วจึงต่อเข้ากับ สายไฟฟ้ าในบ้าน
Download