ใบความรู้ การเขียนโปรแกรม
- 1. ใบความรู้
ขัน ตอนการพัฒ นาโปรแกรม
้
หลัก การเขีย นโปรแกรม
ในการแก้ปัญหาโดยอาศัยวิธีการเขียนโปรแกรม ประกอบด้วยขั้นตอน
ต่าง ๆ ดังนี้
1. การวิเคราะห์และกำาหนดรายละเอียดของปัญหา
2. การออกแบบโปรแกรม
3. การเขียนโปรแกรม
4. การตรวจสอบการทำางาน
5. การทำาเอกสารประกอบโปรแกรม
6. การบำารุงรักษาโปรแกรม
1.1 การวิเ คราะห์แ ละกำา หนดรายละเอีย ดของปัญ หา
รายละเอียดของปัญหาในเบื้องต้นอาจยังไม่ชัดเจน ในขั้นตอนนี้ ผู้เขียน
โปรแกรมจะต้องวิเคราะห์ปัญหาเพื่อกำาหนดรายละเอียดของปัญหาที่ชัดเจน
ซึ่ง องค์ประกอบอยู่ 3 องค์ประกอบ ที่จะช่วยในการวิเคราะห์ปัญหาได้แก่
1. การระบุข้อมูลเข้า(Input Specification) ต้องรู้ว่ามีข้อมูลอะไร
ที่จะต้องป้อนเข้าสู่คอมพิวเตอร์พร้อมกับโปรแกรม เพื่อให้
โปรแกรมทำาการประมวลผลและออกผลลัพธ์
2. การระบุข้อมูลออก(Output Specification) จะพิจารณาว่างาน
ที่ทำามีเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์อะไร ต้องหารผลลัพธ์ที่มีรูปร่าง
หน้าตาเป็นอย่างไร โดยจะต้องคำานึงถึงผู้ให้เป็นหลักในการ
ออกแบบผลลัพธ์
3. กำาหนดวิธีการประมวลผล (Process Specification) ต้องรู้วิธี
การประมวลผลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ
1.2 การออกแบบโปรแกรม
ขั้นตอนการออกแบบโปรแกรมเป็นการออกแบบลำาดับการทำางาน
หรือแก้ปัญหาซึ่งจะต้องสอดคล้องกับรายละเอียดของปัญหา สำาหรับขั้นตอน
การประมวลผลข้อมูล ที่กำาหนดเป็นลำาดับที่แน่นอนต่อเนื่องกันเพื่อใช้แก้
ปัญหา เรียกว่า ขันตอนวิธี (algorithms) ขั้นตอนวิธีทดีจะต้องมีระบบ
้ ี่
ระเบียบที่แน่นอนและชัดเจนในการแก้ปัญหา ขั้นตอนวิธีและโปรแกรมที่เรา
ออกแบบจะอาศัยโครงสร้างควบคุมการทำางาน 3 อย่าง คือ
• โครงสร้างแบบตามลำาดับ (sequential structure) เป็นขั้น
ตอนการทำางานที่เป็นไปตามลำาดับก่อนหลัง และแต่ละขั้นตอนจะถูก
ประมวลผลเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
• โครงสร้างแบบมีทางเลือก (selection structure) เป็นขั้น
ตอนการทำางานที่บางขั้นตอนจะได้รับหรือไม่ได้รับการประมวลผล ขึ้นอยู่
กับเงื่อนไขบางประการ
- 2. • โครงสร้างแบบทำาซำ้า (repetition structure) เป็นขั้นตอน
การทำางานที่บางขั้นตอนจะถูกประมวลผลซำ้ามากกว่า 1 ครั้ง ขึนอยู่กับ
้
เงื่อนไขบางประการ
1.3 การเขีย นโปรแกรม
ในกรณีที่ได้วิเคราะห์ปัญหาและกำาหนดรายละเอียดของปัญหา
ตลอดจนออกแบบโปรแกรมอย่างครบถ้วนสมบูรณ์แล้วจะถึงขั้นตอนการ
เขียนโปรแกรม ในขั้นตอนนี้ก็สามารถทำาให้สัมฤทธิ์ผลได้โดยง่าย ขันตอน ้
การเขียนโปรแกรม หมายถึง กระบวนการใช้ภาษาคอมพิวเตอร์เพื่อกำาหนด
โครงสร้างของข้อมูล และกำาหนดขั้นตอนวิธีเพื่อใช้แก้ปัญหาตามที่ได้
ออกแบบไว้ โดยอาศัยหลักเกณฑ์การเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์
แต่ละภาษา
1.4 การตรวจสอบการทำา งาน
หลังจากที่ผู้พัฒนาเขียนโปรแกรมภาษาเสร็จแล้วจะต้องมีการตรวจ
สอบโปรแกรมที่เขียนว่าคำาสั่งถูกต้องตามไวยกรณ์หรือกฎเกณฑ์ของ
ภาษานั้นหรือไม่ และแปลภาษาโปรแกรมให้เป็นรหัสที่เครื่อง
คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจ ซึ่งเราเรียกว่าการแปล (Compile) ซึ่งจะมี
การสอบความถูกต้องของโปรแกรมตามกฎเกณฑ์การใช้ภาษาที่กำาหนด
ขึ้น โดยตัวแปลภาษาหนึ่งๆ และแจ้งให้ผู้ใช้ทราบในกรณีที่ปรากฏข้อ
ผิดพลาดขึ้น ข้อผิดพลาดที่ตรวจพบในขั้นตอนนี้ เรียกว่า ข้อผิดพลาด
ทางไวยากรณ์ (Syntax Error) ข้อมูลนำาเข้า ข้อผิดพลาดจาก
โครงสร้างที่ใช้จัดเก็บข้อมูล เมื่อผู้ใช้แก้ไขข้อผิดพลาดเรียบร้อยแล้ว จะ
ต้องทำาขั้นตอนการแปลใหม่อีกครั้ง และทำาเช่นนี้จนกว่าจะไม่พบข้อผิด
พลาดทางไวยากรณ์ใดเลย จึงจะถือว่าโปรแกรมถูกต้อง
1.5 การทำา เอกสารประกอบโปรแกรม
การทำาเอกสารประกอบโปรแกรมเป็นงานที่สำาคัญของการพัฒนา
โปรแกรม เอกสารประกอบโปรแกรมช่วยให้ผู้ใช้โปรแกรมเข้าใจ
วัตถุประสงค์ ข้อมูลที่จะต้องใช้กับโปรแกรม ตลอดจนผลลัพธ์ที่จะได้จาก
โปรแกรม การทำาโปรแกรมทุกโปรแกรมจึงควรต้องทำาเอกสารกำากับ เช่น
คู่มือปฏิบัติงานเครื่อง (Operation Manual) คู่มือผู้ใช้ (Usermanual)
เป็นต้น
เอกสารประกอบโปรแกรม โดยทั่วไปจะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบคือ
• เอกสารประกอบโปรแกรมสำา หรับ ผู้ใ ช้ (User
Documentation) จะเหมาะสำาหรับผู้ใช้ที่ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับ
การพัฒนาโปรแกรม แต่เป็นผู้ที่ใช้งานโปรแกรมอย่างเดียว จะ
เน้นการอธิบายเกี่ยวกับการใช้งานโปรแกรมเป็นหลัก
• เอกสารประกอบสำา หรับ ผู้เ ขีย นโปรแกรม (Technical
Documentation) ส่วนอธิบายด้านเทคนิค ซึ่งส่วนนี้มักจะทำา
- 3. เป็นเอกสารแยกต่างหากจากโปรแกรม จะอธิบายในรายละเอียด
ที่มากขึ้น
1.6 การบำา รุง รัก ษาโปรแกรม
เมื่อมีการนำาโปรแกรมไปใช้งานระยะหนึ่ง เป็นไปได้ที่ว่ามีการ
เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในการแก้ปัญหา เช่น ในตัวอย่างการคำานวณรายได้
ของบริษัทเคเบิลทีวี อาจมีการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าติดตั้งอุปกรณ์รับ
สัญญาณเคเบิลทีวีสำาหรับบ้านพักอาศัย ซึ่งได้กำาหนดเป็นค่าคงที่ใน
โปรแกรม หรือ บริษัทมีนโยบายในการให้ส่วนลดกับสมาชิกเก่า หรือบริษัท
เพิ่มแผนโฆษณาเชิญชวนให้ลูกค้าสมัครเป็นสมาชิก โดยมีเงื่อนไขพิเศษ
มากมาย เป็นเหตุให้ผู้เขียนโปรแกรมจะต้องแก้ไขโปรแกรมให้สอดคล้องกับ
เงื่อนไขที่เปลี่ยนแปลงไป การแก้ไขในลักษณะนี้ เรียกว่า การบำารุงรักษา
โปรแกรม