ݺߣ
Submit Search
งาȨาน
•
1 like
•
537 views
Zee Eclipsez
Follow
1 of 9
Download now
Downloaded 11 times
More Related Content
งาȨาน
1.
1 แบบเสนอโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์ รหัสวิชา ง33202 ชื่อวิชา
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6 ปีการศึกษา 2557 ชื่อโครงงาน สื่อการเรียนการสอนปรากฏการณ์ Doppler Effect ชื่อผู้ทาโครงงาน 1.นายพงปภัส ภัทรวีร์ธัญวิชย์ เลขที่ 31 ชั้น ม.6 ห้อง 8 2.นายอิศรพงษ์ แก้ววัน เลขที่ 33 ชั้น ม.6 ห้อง 8 ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงงาน ครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน ภาคเรียนที่ 1-2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 34
2.
2 ใบงาน การจัดทาข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ สมาชิกในกลุ่ม สื่อการเรียนการสอนปรากฏการณ์ Doppler
Effect 1.นายพงปภัส เลขที่ 31 2.นายอิศรพงษ์ เลขที่ 33 คาชี้แจง ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเขียนข้อเสนอโครงงานตามหัวข้อต่อไปนี้ ชื่อโครงงาน (ภาษาไทย) ปรากฏการณ์ดอปเปลอร์ ชื่อโครงงาน (ภาษาอังกฤษ) Doppler Effect Phenomenon ประเภทโครงงาน สื่อการเรียนการสอน ชื่อผู้ทาโครงงาน 1.นายพงปภัส ภัทรวีร์ธัญวิชย์ เลขที่ 31 ชั้น ม.6 ห้อง 8 2.นายอิศรพงษ์ แก้ววัน เลขที่ 33 ชั้น ม.6 ห้อง 8 ชื่อที่ปรึกษา คุณครูเขื่อนทอง มูลวรรณ์ ระยะเวลาดาเนินงาน 3 เดือน
3.
3 ที่มาและความสาคัญของโครงงาน เนื่องจากเนื้อหาวิชาฟิสิกส์ในเรื่องของเสียงเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น จึงทาให้เข้าใจเนื้อหาได้ยาก มองไม่เห็นภาพ จึงได้คิดทาสื่อการเรียนรู้ในเรื่องของปรากฏการณ์ดอปเปลอร์
ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ เราจะได้ยินเสียงผิดไปจากความเป็นจริง โดยการที่จะนาเสนอในรูปแบบของภาพเคลื่อนไหวและมีคา บรรยายประกอบ ซึ่งสื่อการเรียนรู้นี้จะช่วยให้ผู้ที่กาลังศึกษารายวิชาฟิสิกส์ ในเรื่องของเสียง ได้เข้าใจ เนื้อหาและเห็นภาพประกอบชัดเจนมากยิ่งขึ้น วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องปรากฏการณ์ดอปเปลอร์ 2. เพื่อจาลองภาพเหตุการณ์ดอปเปลอร์ให้เข้าใจง่ายขึ้น 3. เพื่อนาความรู้ที่ได้ประยุกต์และปรับใช้ในชีวิตประจาวัน ขอบเขตโครงงาน 1. ทาการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของแหล่งกาเนิดเสียงและผู้ฟังอย่างละหนึ่ง 2. ศึกษาหาความรู้และรวบรวมข้อมูลจากเว็บไซต์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับปรากฏการณ์ดอปเปลอร์ 3. ศึกษาและทาภาพเคลื่อนไหวโดยใช้โปรแกรม Flash Professional หลักการและทฤษฎี ปรากฏการณ์ดอปเพลอร์ “ Doppler Effect” เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากการรับคลื่นของผู้ฟังหรือผู้สังเกตุ อันเนื่องมาจากการเคลื่อนที่ สัมพัทธ์กันของแหล่งกาเนิดคลื่นหรือการเคลื่อนที่ของผู้ฟัง “ความเร็วสัมพัทธ์ระหว่างผู้ฟังกับ แหล่งกาเนิดไม่เท่ากับศูนย์” ความเร็วสัมพัทธ์ คือ ความเร็วเปรียบเทียบระหว่างความเร็ว 2 ความเร็ว ความเร็วหนึ่งเป็น ความเร็วของสิ่งที่ต้องการสังเกต และอีกความเร็วหนึ่งเป็นความเร็วของผู้สังเกต ตัวอย่างการหาความเร็วสัมพัทธ์ เมื่อผู้สังเกตมีความเร็ว และสิ่งที่ถูกสังเกตมี ความเร็ว เคลื่อนที่อยู่ในแนวเส้นตรง การหาความเร็วสัมพัทธ์ให้กลับทิศความเร็วของผู้สังเกต แล้วนาไปบวกกับความเร็วของสิ่งที่ถูกสังเกต เช่น
4.
4 1. และ เคลื่อนที่ไปทางเดียวกัน
ความเร็วสัมพัทธ์ที่ได้คือ 2. และ เคลื่อนที่สวนทางกัน ความเร็วสัมพัทธ์ที่ได้คือ *** รูป แสดงว่า ถ้าไม่มีการเคลื่อนที่ของแหล่งกาเนิดและผู้สังเกตก็จะไม่มีปรากฎการณ์ดอปเปลอร์ 1. เมื่อผู้สังเกตอยู่นิ่ง-แหล่งกาเนิดคลื่นเคลื่อนที่
5.
5 รูป แสดง ปรากฎการณ์ดอป เพลอร์ ผู้สังเกตอยู่ กับที่
6.
6 รูป แสดงการเกิดปรากฎการณ์ดอปเพลอร์ เมื่อแหล่งกาเนิดเคลื่อนที่ ผู้ฟังที่อยู่ด้านหน้าได้รับเสียงความถี่สูงกว่าความถี่แหล่งกาเนิด
คือ ผู้ฟังที่อยู่ด้านหน้าได้รับเสียงความยาวคลื่นน้อยกว่าความความยาวคลื่นแหล่งกาเนิด คือ ผู้ฟังที่อยู่ด้านหลังได้รับความถี่ต่ากว่าความถี่แหล่งกาเนิด คือ ผู้ฟังที่อยู่ด้านหน้าได้รับเสียงความยาวคลื่นมากกว่าความความยาวคลื่นแหล่งกาเนิด คือ 2. ผู้สังเกตเคลื่อนที่ - แหล่งกาเนิดที่อยู่นิ่ง (ในกรณีนี้ความยาวคลื่นคงเดิม) เมื่อเราสังเกตจะพบว่า ถ้าผู้สังเกตวิ่งเข้าหาแหล่งกาเนิดจะทาให้รับคลื่นได้เป็นจานวน มากกว่าเมื่อผู้สังเกตอยู่นิ่ง ถ้าผู้สังเกตเคลื่อนที่ออกจากแหล่งกาเนิดจะทาให้รับคลื่นได้เป็นจานวนน้อยกว่าเมื่อผู้สังเกต อยู่นิ่ง 3. ผู้สังเกตเคลื่อนที่ - แหล่งกาเนิดเคลื่อนที่ เมื่อเราสังเกตจะพบว่า ถ้าผู้สังเกตและแหล่งกาเนิดวิ่งเข้าหากันจะทาให้รับคลื่นได้เป็นจานวน มากกว่าเมื่ออยู่นิ่ง
7.
7 เมื่อเราสังเกตจะพบว่า ถ้าผู้สังเกตวิ่งหนีและแหล่งกาเนิดวิ่งไล่จะทาให้รับคลื่นได้เป็นจานวน มากกว่าเมื่ออยู่นิ่ง เมื่อเราสังเกตจะพบว่า ถ้าผู้สังเกตและแหล่งกาเนิดเคลื่อนที่ออกจากกันจะทาให้รับคลื่นได้ เป็นจานวนน้อยกว่าเมื่ออยู่นิ่ง เมื่อเราสังเกตจะพบว่า
ถ้าผู้สังเกตวิ่งไล่และแหล่งกาเนิดวิ่งหนีออกจากกันจะทาให้รับคลื่นได้ เป็นจานวนน้อยกว่าเมื่ออยู่นิ่ง ซึ่งสามารถสรุปเป็นสมการ การคานวณทุกกรณี ได้ว่า = ความยาวคลื่นเสียงจากแหล่งกาเนิด = ความยาวคลื่นเสียงที่ปรากฏด้านหลังแหล่งกาเนิด = ความยาวคลื่นเสียงที่ปรากฏด้านหน้าแหล่งกาเนิด = ความเร็วของแหล่งกาเนิด = ความเร็วของผู้สังเกต = ความเร็วของเสียงในอากาศ = ความถี่ของแหล่งกาเนิดเสียง = ความถี่ที่ผู้ฟังรับได้
8.
8 วิธีดาเนินงาน แนวทางการดาเนินงาน 1. เสนอหัวข้อโครงงาน 2. เลือกหัวข้อโครงงานที่เหมาะสม 3.
รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโครงงานที่เลือก 4. นามาจัดทาเป็นสื่อการสอนด้วยโปรแกรม Power Point 5. ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น 6. รายงานผลการจัดทาและดาเนินการ 7. จัดทาเอกสาร เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ เครื่องคอมพิวเตอร์ งบประมาณ - ขั้นตอนและแผนดาเนินงาน ลาดับ ที่ ขั้นตอน สัปดาห์ที่ ผู้รับผิดชอบ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 0 1 1 12 1 3 1 4 1 5 1 6 1 7 1 คิดหัวข้อโครงงาน พงปภัส 2 ศึกษาและค้นคว้าข้อมูล พงปภัส 3 จัดทาโครงร่างงาน พงปภัส 4 ปฏิบัติการสร้าง โครงงาน อิศรพงษ์ 5 ปรับปรุงทดสอบ พงปภัส 6 การทาเอกสารรายงาน พงปภัส 7 ประเมินผลงาน อิศรพงษ์ 8 นาเสนอโครงงาน อิศรพงษ์
9.
9 ผลที่คาดว่าจะได้รับ ผู้ที่อ่านและศึกษาทาความเข้าใจโครงงานสื่อการสอนนี้จะมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปรากฏการณ์ด อปเปลอร์มากยิ่งขึ้นและสามารถนาไปใช้อ่านเพื่อเตรียมตัวสอบได้ สถานที่ดาเนินการ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัยเชียงใหม่ กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชาฟิสิกส์ แหล่งอ้างอิง http://www.sa.ac.th/winyoo/Sound/sound_dopler.htm
Download