ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
ความหมายและความสาคัญของโครงงาȨอมพิวเตอร์
หมายถึง กิจกรรมการเรียนที่นักเรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตนเองสนใจ
โดยจะต้องวางแผนการดาเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม
โดยใช้ความรู้ทางกระบวนการวิศวกรรมซอฟต์แวร์
เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน
เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทาโครงงาน ซึ่งอาจมีผู้ศึกษามาก่อน
หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนาแล้ว
นักเรียนสามารถทาโครงงานเรื่องดังกล่าวได้แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษา
การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาโปรแกรม
หรือศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผู้รายงานไว้
จุดมุ่งหมายสาคัญของการทาโครงงานเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้รับประสบการ
ณ์ตรงในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น
หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้เพื่อการศึกษา
ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ
พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ตลอดจนการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์
เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้ การพัฒนาความคิดใหม่ๆ
ความมีคุณธรรมจริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้กับเพื่อนมนุษย์
และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
ประเภทของโครงงาȨอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยในทุก ๆ สาขาวิชา
ดังนั้นโครงงาȨอมพิวเตอร์จึงมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก
ทั้งในลักษณะของเนื้อหา กิจกรรม และลักษณะของประโยชน์หรือผลงานที่ได้
ซึ่งอาจแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้5 ประเภท คือ
1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development)
3. โครงงานประเภทจาลองทฤษฎี (Theory Experiment)
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application)
5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development)
1.โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา
โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด
บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม
ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้
ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน
ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ Online
ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ปร
ะกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์
วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ
โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทาความเข้าใจยาก
มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่างเช่น
โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ
2.โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development)
เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือมาใช้ช่วยสร้างงานประยุกต์ต่าง ๆ
ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครื่องมือช่วยงาน เช่น
ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ
เป็นต้น
สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลผลภาษา
ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้งานในงานพิมพ์ต่าง ๆ
บนเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นไปได้โดยง่าย ซึ่งรูปที่ได้สามารถนาไปใช้งานต่าง ๆ
ได้มากมาย สาหรับซอฟต์แวร์ช่วยในการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ
ใช้สาหรับช่วยในการออกแบบสิ่งของต่าง ๆ เช่น โปรแกรมประเภท 3D
3. โครงงานประเภทจาลองทฤษฎี (Theory Experiment)
เป็นโครงงานใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการทดลองของสาขาต่าง ๆ
เป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ
ข้อเท็จจริงและแนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษา
แล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสมการ สูตร
หรือคาอธิบายก็ได้พร้อมทั้งนาเสนอวิธีการจาลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์
การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้เรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดี
ตัวอย่าง เช่น การทดลองเรื่องการไหลของเหลว
การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาอโรวาน่า ทฤษฎีการแบ่งแยกดีเอ็นเอ เป็นต้น
4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน(Application)
เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตป
ระจาวัน เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร
ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น
โครงงานงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่าง
ๆ ซึ่งอาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี
ประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้
โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน
แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้น ๆ
ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ
ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์
โครงงานประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม
และเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งอาจใช้วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในการพัฒนาด้วย
5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development)
เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ และ/หรือ ความเพลิดเพลิน เช่น
เกมหมากรุก เกมหมากฮอส เกมการคานวณเลข
ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง
เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ
โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น
เพื่อให้น่าสนใจเก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย
ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่าง ๆ
ที่มีอยู่ทั่วไปและนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่
และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ
ความสาคัญของโครงงาȨอมพิวเตอร์
คือ ผลงานที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าตามความสนใจ
ความถนัดและความสามารถของผู้เรียน โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์
โครงงานจึงเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีการเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ
โดยผู้เรียนจะหาหัวข้อโครงงานที่ตนเองสนใจ รวมทั้งเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ
และความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ
เพื่อสร้างผลงานตามความต้องการได้อย่างเหมาะสม
โดยมีครูเป็นที่ปรึกษาและให้คาแนะนา
ความสามารถที่เกิดจากการทาโครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทาให้ผู้เรียนเกิดความสามารถในด้านต่
าง ๆ ที่สาคัญ 5 ประการ ดังนี้
1.ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถที่เกิดจากการที่นักเรียนเป็นผู้ทาโครง
งานต้องนาเสนอผลงานให้
ครูและเพื่อนนักเรียนให้เข้าใจโครงงาȨอมพิวเตอร์ได้อย่างชัดเจน ดังนั้น
ผู้ทาโครงงานต้องสื่อสารความคิดในการสร้างสรรค์โครงงานด้วยการเขียน
หรือด้วยปากเปล่า
รวมทั้งเลือกใช้รูปแบบของสื่ออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนาเสนอแนวคิดในการจัด
โครงงานให้ผู้อื่นได้เข้าใจ
2.ความสามารถในการคิด ซึ่งผู้เรียนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้
- การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องวิเคราะห์ปัญหาและแยกแยะสาเหตุว่าเกิด
เนื่องจากอะไร
- การคิดสังเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องนาความรู้ต่าง ๆ ที่เรียนมา
รวมทั้งความรู้จากการค้นหาข้อมูล
เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือการสร้างสรรค์โครงงาน
- การคิดอย่างสร้างสรรค์ เกิดจากการที่ผู้เรียนนาความรู้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ
- การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เกิดจากการที่ผู้เรียนได้มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทาโคร
งงานใดและไม่ควรทาโครง งานใด
เนื่องจากโครงงานที่สร้างขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม เช่น
โครงงานระบบคานวณเลขหวย
สาหรับหาเลขที่คาดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลจะออกในแต่ละงวด
อาจส่งผลกระทบต่อสังคม
ทาให้คนในสังคมเกิดความหมกมุ่นในกับการใช้เงินเล่นหวยมากขึ้น
- การคิดอย่างเป็นระบบ เกิดจากการที่ผู้เรียนคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน
โดยใช้ขั้นตอนในการพัฒนาโครงงาน คือ ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา
ค้นคว้า เก็บรวบรวมข้อมูล พัฒนา หรือประดิษฐ์คิดค้นผลงาน
รวมทั้งการสรุปผลและการนาเสนอผลการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง
โดยมีผู้สอนและผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้คาปรึกษา
3.ความสามารถในการแก้ปัญหา เกิดจากการที่ผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจ
และอธิบายปัญหาทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้ ทักษะ
และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหา
4.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เกิดจากการที่ผู้เรียนได้นาความรู้และกระบวนกา
รต่าง ๆ ไปใช้ในการพัฒนาโครงงาน
และนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการพัฒนาโครงงาน
ก่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อันนาไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต
5.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เกิดจากการที่ผู้เรียนสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีส
ารสนเทศในการแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และมีคุณธรรม
แหล่งอ้าง
- http://www.acr.ac.th
- http://krudarin.wordpress.com

More Related Content

What's hot (15)

ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
Kansiri Sai-ud
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
KHEM1112
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
oiloil011
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Chatpreuk Reda
Computer project.
Computer project.Computer project.
Computer project.
Nongnut Wasikarn
โครงงาȨอม
โครงงาȨอมโครงงาȨอม
โครงงาȨอม
takyrc13
กิจกรรมที่ 23-ฝนกิ๊ฟฟ-dddd
กิจกรรมที่ 23-ฝนกิ๊ฟฟ-ddddกิจกรรมที่ 23-ฝนกิ๊ฟฟ-dddd
กิจกรรมที่ 23-ฝนกิ๊ฟฟ-dddd
Korakrit Jindadang
ความหมายและความสำคัญของงาน
ความหมายและความสำคัญของงานความหมายและความสำคัญของงาน
ความหมายและความสำคัญของงาน
pstnmiiz
ȨȨ
ȨȨȨȨ
ȨȨ
PorPoii
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Praewpan Surawattanawan
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Khem Chanathip
กิจกรรม2
กิจกรรม2กิจกรรม2
กิจกรรม2
กมล ทิพย์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
Kansiri Sai-ud
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
KHEM1112
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
oiloil011
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Chatpreuk Reda
โครงงาȨอม
โครงงาȨอมโครงงาȨอม
โครงงาȨอม
takyrc13
กิจกรรมที่ 23-ฝนกิ๊ฟฟ-dddd
กิจกรรมที่ 23-ฝนกิ๊ฟฟ-ddddกิจกรรมที่ 23-ฝนกิ๊ฟฟ-dddd
กิจกรรมที่ 23-ฝนกิ๊ฟฟ-dddd
Korakrit Jindadang
ความหมายและความสำคัญของงาน
ความหมายและความสำคัญของงานความหมายและความสำคัญของงาน
ความหมายและความสำคัญของงาน
pstnmiiz
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Praewpan Surawattanawan
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Khem Chanathip

Similar to ความหมายและความสำคัญของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์ (20)

ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
Martie Tangjaipattana
Computer project1
Computer project1Computer project1
Computer project1
ptwnice01
Computer project
Computer projectComputer project
Computer project
ptwnice01
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
sgractlee
ความหมายโครงงาน
ความหมายโครงงานความหมายโครงงาน
ความหมายโครงงาน
Tapanarak Fluke
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
Nitirut Aiemvorakit
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
Jenny Jenista
ใบงานที่ 1-คอม
ใบงานที่ 1-คอมใบงานที่ 1-คอม
ใบงานที่ 1-คอม
Kaopod Napatsorn
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2
Fluofern
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
SK Khongthawonjaronekij
Presentation1
Presentation1Presentation1
Presentation1
Khanison Forwork
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
ppapad
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
Kornkaruna Lawanyakul
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
hikrittiwit
โครงงาน pdf
โครงงาน pdfโครงงาน pdf
โครงงาน pdf
hikrittiwit
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
Kaopod Napatsorn
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
Martie Tangjaipattana
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
sgractlee
ความหมายโครงงาน
ความหมายโครงงานความหมายโครงงาน
ความหมายโครงงาน
Tapanarak Fluke
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงานความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
Nitirut Aiemvorakit
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
Jenny Jenista
ใบงานที่ 1-คอม
ใบงานที่ 1-คอมใบงานที่ 1-คอม
ใบงานที่ 1-คอม
Kaopod Napatsorn
ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2ใบงานที่ 2
ใบงานที่ 2
Fluofern
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
SK Khongthawonjaronekij
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
ppapad
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
Kornkaruna Lawanyakul
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
hikrittiwit
โครงงาน pdf
โครงงาน pdfโครงงาน pdf
โครงงาน pdf
hikrittiwit
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
ความหมายของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์
Kaopod Napatsorn

More from dgnjamez (20)

ฮอร์โมȨȨษย์
ฮอร์โมȨȨษย์ฮอร์โมȨȨษย์
ฮอร์โมȨȨษย์
dgnjamez
ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์
dgnjamez
ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์
dgnjamez
ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์
dgnjamez
ฮอร์โมȨȨษย์
ฮอร์โมȨȨษย์ฮอร์โมȨȨษย์
ฮอร์โมȨȨษย์
dgnjamez
ฮอร์โมน...มนุษย์
ฮอร์โมน...มนุษย์ฮอร์โมน...มนุษย์
ฮอร์โมน...มนุษย์
dgnjamez
โครงงาน ฮอร์โมȨȨษย์
โครงงาน ฮอร์โมȨȨษย์ โครงงาน ฮอร์โมȨȨษย์
โครงงาน ฮอร์โมȨȨษย์
dgnjamez
โครงงาน เรื่อง ฮอร์โมȨȨษย์
โครงงาน เรื่อง ฮอร์โมȨȨษย์ โครงงาน เรื่อง ฮอร์โมȨȨษย์
โครงงาน เรื่อง ฮอร์โมȨȨษย์
dgnjamez
ขอบྺ่ายྺองโครงงาน
ขอบྺ่ายྺองโครงงานขอบྺ่ายྺองโครงงาน
ขอบྺ่ายྺองโครงงาน
dgnjamez
ขอบྺ่ายྺองโครงงาน
ขอบྺ่ายྺองโครงงานขอบྺ่ายྺองโครงงาน
ขอบྺ่ายྺองโครงงาน
dgnjamez
การทึϸองทฤษฎี
การทึϸองทฤษฎีการทึϸองทฤษฎี
การทึϸองทฤษฎี
dgnjamez
การพัฒȨสื่อ๶พื่อการศึกษา
การพัฒȨสื่อ๶พื่อการศึกษาการพัฒȨสื่อ๶พื่อการศึกษา
การพัฒȨสื่อ๶พื่อการศึกษา
dgnjamez
การพัฒȨโปรแกรมประยุกต์
การพัฒȨโปรแกรมประยุกต์การพัฒȨโปรแกรมประยุกต์
การพัฒȨโปรแกรมประยุกต์
dgnjamez
การพัฒȨ๶ครื่องมือ
การพัฒȨ๶ครื่องมือการพัฒȨ๶ครื่องมือ
การพัฒȨ๶ครื่องมือ
dgnjamez
การประยุกต์ใช้งาน
การประยุกต์ใช้งานการประยุกต์ใช้งาน
การประยุกต์ใช้งาน
dgnjamez
ขอบྺ่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบྺ่ายและประเภทของโครงงานขอบྺ่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบྺ่ายและประเภทของโครงงาน
dgnjamez
การพัฒȨสื่อ๶พื่อการศึกษา
การพัฒȨสื่อ๶พื่อการศึกษาการพัฒȨสื่อ๶พื่อการศึกษา
การพัฒȨสื่อ๶พื่อการศึกษา
dgnjamez
การพัฒȨโปรแกรมประยุกต์
การพัฒȨโปรแกรมประยุกต์การพัฒȨโปรแกรมประยุกต์
การพัฒȨโปรแกรมประยุกต์
dgnjamez
การประยุกต์ใช้งาน
การประยุกต์ใช้งานการประยุกต์ใช้งาน
การประยุกต์ใช้งาน
dgnjamez
การทึϸองทฤษฎี
การทึϸองทฤษฎีการทึϸองทฤษฎี
การทึϸองทฤษฎี
dgnjamez
ฮอร์โมȨȨษย์
ฮอร์โมȨȨษย์ฮอร์โมȨȨษย์
ฮอร์โมȨȨษย์
dgnjamez
ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์
dgnjamez
ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์
dgnjamez
ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์ฮอร์โมน มนุษย์
ฮอร์โมน มนุษย์
dgnjamez
ฮอร์โมȨȨษย์
ฮอร์โมȨȨษย์ฮอร์โมȨȨษย์
ฮอร์โมȨȨษย์
dgnjamez
ฮอร์โมน...มนุษย์
ฮอร์โมน...มนุษย์ฮอร์โมน...มนุษย์
ฮอร์โมน...มนุษย์
dgnjamez
โครงงาน ฮอร์โมȨȨษย์
โครงงาน ฮอร์โมȨȨษย์ โครงงาน ฮอร์โมȨȨษย์
โครงงาน ฮอร์โมȨȨษย์
dgnjamez
โครงงาน เรื่อง ฮอร์โมȨȨษย์
โครงงาน เรื่อง ฮอร์โมȨȨษย์ โครงงาน เรื่อง ฮอร์โมȨȨษย์
โครงงาน เรื่อง ฮอร์โมȨȨษย์
dgnjamez
ขอบྺ่ายྺองโครงงาน
ขอบྺ่ายྺองโครงงานขอบྺ่ายྺองโครงงาน
ขอบྺ่ายྺองโครงงาน
dgnjamez
ขอบྺ่ายྺองโครงงาน
ขอบྺ่ายྺองโครงงานขอบྺ่ายྺองโครงงาน
ขอบྺ่ายྺองโครงงาน
dgnjamez
การทึϸองทฤษฎี
การทึϸองทฤษฎีการทึϸองทฤษฎี
การทึϸองทฤษฎี
dgnjamez
การพัฒȨสื่อ๶พื่อการศึกษา
การพัฒȨสื่อ๶พื่อการศึกษาการพัฒȨสื่อ๶พื่อการศึกษา
การพัฒȨสื่อ๶พื่อการศึกษา
dgnjamez
การพัฒȨโปรแกรมประยุกต์
การพัฒȨโปรแกรมประยุกต์การพัฒȨโปรแกรมประยุกต์
การพัฒȨโปรแกรมประยุกต์
dgnjamez
การพัฒȨ๶ครื่องมือ
การพัฒȨ๶ครื่องมือการพัฒȨ๶ครื่องมือ
การพัฒȨ๶ครื่องมือ
dgnjamez
การประยุกต์ใช้งาน
การประยุกต์ใช้งานการประยุกต์ใช้งาน
การประยุกต์ใช้งาน
dgnjamez
ขอบྺ่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบྺ่ายและประเภทของโครงงานขอบྺ่ายและประเภทของโครงงาน
ขอบྺ่ายและประเภทของโครงงาน
dgnjamez
การพัฒȨสื่อ๶พื่อการศึกษา
การพัฒȨสื่อ๶พื่อการศึกษาการพัฒȨสื่อ๶พื่อการศึกษา
การพัฒȨสื่อ๶พื่อการศึกษา
dgnjamez
การพัฒȨโปรแกรมประยุกต์
การพัฒȨโปรแกรมประยุกต์การพัฒȨโปรแกรมประยุกต์
การพัฒȨโปรแกรมประยุกต์
dgnjamez
การประยุกต์ใช้งาน
การประยุกต์ใช้งานการประยุกต์ใช้งาน
การประยุกต์ใช้งาน
dgnjamez
การทึϸองทฤษฎี
การทึϸองทฤษฎีการทึϸองทฤษฎี
การทึϸองทฤษฎี
dgnjamez

ความหมายและความสำคัญของโครงงาȨอมพิว๶ตอร์

  • 1. ความหมายและความสาคัญของโครงงาȨอมพิวเตอร์ หมายถึง กิจกรรมการเรียนที่นักเรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตนเองสนใจ โดยจะต้องวางแผนการดาเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม โดยใช้ความรู้ทางกระบวนการวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทาโครงงาน ซึ่งอาจมีผู้ศึกษามาก่อน หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนาแล้ว นักเรียนสามารถทาโครงงานเรื่องดังกล่าวได้แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาโปรแกรม หรือศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผู้รายงานไว้ จุดมุ่งหมายสาคัญของการทาโครงงานเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนได้รับประสบการ ณ์ตรงในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้เพื่อการศึกษา ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ตลอดจนการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้ การพัฒนาความคิดใหม่ๆ ความมีคุณธรรมจริยธรรม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้กับเพื่อนมนุษย์ และอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
  • 2. ประเภทของโครงงาȨอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยในทุก ๆ สาขาวิชา ดังนั้นโครงงาȨอมพิวเตอร์จึงมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก ทั้งในลักษณะของเนื้อหา กิจกรรม และลักษณะของประโยชน์หรือผลงานที่ได้ ซึ่งอาจแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้5 ประเภท คือ 1. โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media) 2. โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development) 3. โครงงานประเภทจาลองทฤษฎี (Theory Experiment) 4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application) 5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development) 1.โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media) เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การสอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ Online ให้นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ปร ะกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์
  • 3. วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทาความเข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน ตัวอย่างเช่น โปรแกรมสอนวิธีการใช้งาน ระบบสุริยะจักรวาล โปรแกรมแบบทดสอบวิชาต่าง ๆ 2.โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development) เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือมาใช้ช่วยสร้างงานประยุกต์ต่าง ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเป็นในรูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครื่องมือช่วยงาน เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ เป็นต้น สาหรับซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลผลภาษา ซึ่งจะเป็นเครื่องมือให้เราใช้งานในงานพิมพ์ต่าง ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นไปได้โดยง่าย ซึ่งรูปที่ได้สามารถนาไปใช้งานต่าง ๆ ได้มากมาย สาหรับซอฟต์แวร์ช่วยในการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ ใช้สาหรับช่วยในการออกแบบสิ่งของต่าง ๆ เช่น โปรแกรมประเภท 3D 3. โครงงานประเภทจาลองทฤษฎี (Theory Experiment) เป็นโครงงานใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการทดลองของสาขาต่าง ๆ เป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริงและแนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษา แล้วเสนอเป็นแนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสมการ สูตร หรือคาอธิบายก็ได้พร้อมทั้งนาเสนอวิธีการจาลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์
  • 4. การทาโครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้เรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดี ตัวอย่าง เช่น การทดลองเรื่องการไหลของเหลว การทดลองเรื่องพฤติกรรมของปลาอโรวาน่า ทฤษฎีการแบ่งแยกดีเอ็นเอ เป็นต้น 4. โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน(Application) เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตป ระจาวัน เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการผสมสี ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานงานประเภทนี้จะมีการประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่าง ๆ ซึ่งอาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้ โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้ก่อน แล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้น ๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้วปรับ ปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งอาจใช้วิธีทางวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในการพัฒนาด้วย 5. โครงงานพัฒนาเกม (Game Development) เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ และ/หรือ ความเพลิดเพลิน เช่น
  • 5. เกมหมากรุก เกมหมากฮอส เกมการคานวณเลข ซึ่งเกมที่พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจเก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั่วไปและนามาปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่ และน่าสนใจแก่ผู้เล่นกลุ่มต่าง ๆ ความสาคัญของโครงงาȨอมพิวเตอร์ คือ ผลงานที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าตามความสนใจ ความถนัดและความสามารถของผู้เรียน โดยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ โครงงานจึงเป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีการเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ โดยผู้เรียนจะหาหัวข้อโครงงานที่ตนเองสนใจ รวมทั้งเชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ และความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อสร้างผลงานตามความต้องการได้อย่างเหมาะสม โดยมีครูเป็นที่ปรึกษาและให้คาแนะนา ความสามารถที่เกิดจากการทาโครงงาȨอมพิวเตอร์ โครงงาȨอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมการเรียนรู้ที่ทาให้ผู้เรียนเกิดความสามารถในด้านต่ าง ๆ ที่สาคัญ 5 ประการ ดังนี้ 1.ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถที่เกิดจากการที่นักเรียนเป็นผู้ทาโครง งานต้องนาเสนอผลงานให้ ครูและเพื่อนนักเรียนให้เข้าใจโครงงาȨอมพิวเตอร์ได้อย่างชัดเจน ดังนั้น
  • 6. ผู้ทาโครงงานต้องสื่อสารความคิดในการสร้างสรรค์โครงงานด้วยการเขียน หรือด้วยปากเปล่า รวมทั้งเลือกใช้รูปแบบของสื่ออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อนาเสนอแนวคิดในการจัด โครงงานให้ผู้อื่นได้เข้าใจ 2.ความสามารถในการคิด ซึ่งผู้เรียนจะมีการคิดในลักษณะต่าง ๆ ดังนี้ - การคิดวิเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องวิเคราะห์ปัญหาและแยกแยะสาเหตุว่าเกิด เนื่องจากอะไร - การคิดสังเคราะห์ เกิดจากการที่ผู้เรียนต้องนาความรู้ต่าง ๆ ที่เรียนมา รวมทั้งความรู้จากการค้นหาข้อมูล เพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือการสร้างสรรค์โครงงาน - การคิดอย่างสร้างสรรค์ เกิดจากการที่ผู้เรียนนาความรู้มาสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ - การคิดอย่างมีวิจารณญาณ เกิดจากการที่ผู้เรียนได้มีการคิดไตร่ตรองว่าควรทาโคร งงานใดและไม่ควรทาโครง งานใด เนื่องจากโครงงานที่สร้างขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม เช่น โครงงานระบบคานวณเลขหวย สาหรับหาเลขที่คาดว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลจะออกในแต่ละงวด อาจส่งผลกระทบต่อสังคม ทาให้คนในสังคมเกิดความหมกมุ่นในกับการใช้เงินเล่นหวยมากขึ้น - การคิดอย่างเป็นระบบ เกิดจากการที่ผู้เรียนคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน โดยใช้ขั้นตอนในการพัฒนาโครงงาน คือ ผู้เรียนเป็นผู้วางแผนในการศึกษา ค้นคว้า เก็บรวบรวมข้อมูล พัฒนา หรือประดิษฐ์คิดค้นผลงาน
  • 7. รวมทั้งการสรุปผลและการนาเสนอผลการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง โดยมีผู้สอนและผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ให้คาปรึกษา 3.ความสามารถในการแก้ปัญหา เกิดจากการที่ผู้เรียนวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจ และอธิบายปัญหาทางด้านคอมพิวเตอร์ รวมทั้งประยุกต์ความรู้ ทักษะ และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับการแก้ไขปัญหา 4.ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เกิดจากการที่ผู้เรียนได้นาความรู้และกระบวนกา รต่าง ๆ ไปใช้ในการพัฒนาโครงงาน และนาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการพัฒนาโครงงาน ก่อให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง อันนาไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต 5.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เกิดจากการที่ผู้เรียนสามารถเลือกใช้เทคโนโลยีส ารสนเทศในการแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และมีคุณธรรม แหล่งอ้าง - http://www.acr.ac.th - http://krudarin.wordpress.com