ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
จุด ประสงค์ก ารเรีย นรู้
หลัง จากจบบทเรีย นแล้ว ผูเ รีย นสามารถ
้
1.

บอกทิศ ทางการมองภาพฉายด้า นต่า ง ๆ ได้

2. อธิบ ายหลัก การมองภาพและจัด ตำา แหน่ง ภาพฉายสามด้า นให้อ ยู่ใ น
ตำา แหน่ง ของภาพฉายมุม ที่ 1 ตามระบบ ISO Method E และมุม ที่ 3 ISO
Method Aได้
3. บอกวิธ ีก ารเขีย นภาพฉายทิศ ต่า ง ๆ ได้
4. อ่า นภาพฉายสามด้า นของงานรูป ทรงต่า งๆตามแบบที่ก ำา หนดได้
หลัก การเขีย นภาพฉายมุม ที่ 1 และมุม ที่ 3

3
6

4

2

1

5

การมองภาพฉายชิ้น งานตามทิศ ทางของการมอง สามารถมองได้ 6 ด้า น ซึ่ง
มีล ัก ษณะตามพื้น ที่ผ ิว และจำา นวนพื้น ที่ผ ิว ของชิ้น งานในแต่ล ะด้า น
ความกว้าง

ความยาว

ความสูง

ความสูง

ความสูง
้าง
กว
าม
คว

คว
าม
ยา
ว

ภาพสามมิต ิป ระกอบไปด้ว ย ความกว้า ง
ความยาว และความสูง อยู่ใ นภาพ
เดีย วกัน

ความยาว

ความกว้าง

ภาพสองมิต ิ เป็น การมองภาพแนวตรงของแต่ล ะด้า น ประกอบด้ว ย ขนาด
สองมิต ิ ถ้า ต้อ งการทราบรายละเอีย ดของขนาดครบทุก มิต ิ ต้อ งใช้ภ าพ
สองมิต ิต ั้ง แต่ส องด้า นขึ้น ไปมาประกอบกัน
ฉากรับ ภาพ

2

90

1

180
3

0
360
270

4
ทิศ ทางการมอง

0 – 90

องศา เป็น ฉากรับ ภาพมุม ที่ 1 (First Angle Projection)

90 – 180 องศา เป็น ฉากรับ ภาพมุม ที่ 2 (Second Angle Projection)
180 – 270 องศา เป็น ฉากรับ ภาพมุม ที่ 3 (Third Angle Projection)
270 – 360 องศา เป็น ฉากรับ ภาพมุม ที่ 4 (Fourth Angle Projection)
ทิศ ทางการมอง

ภาพที่ม องเห็น จะปรากฏอยู่ด ้า นหลัง ตามทิศ ทางการมอง ซึ่ง จะเห็น เป็น ภาพ
สองมิต ิ คือ ความกว้า งกับ ความสูง เรีย กว่า ภาพด้า นหน้า ( Front View)
ทิศ ทางการมอง

การมองภาพตามทิศ ทางการมองด้า นบน จะเห็น เป็น ภาพสองมิต ิเ ช่น กัน
คือ ความกว้า ง และความยาว เรีย กว่า ภาพด้า นบน (Top View)
ทิศ ทางการมอง

การมองภาพทางด้า นซ้า ยมือ ตามทิศ ทางการมองจะเห็น เป็น ภาพสองมิต ิ
เช่น กัน คือ ความยาว และความสูง เรีย กว่า ภาพด้า นข้า ง (Side View)
ภาพด้า นข้า งจะต้อ งเป็น ภาพที่อ ยู่ท างด้า นซ้า ยมือ ของภาพด้า นหน้า เสมอ
ภาพด้านหน้า

ภาพฉายที่เ กิด ขึ้น จากการมองชิ้น งานในทิศ ทาง
ตั้ง ฉากกับ ชิ้น งานซึ่ง สามารถมองและเขีย นภาพ
ฉายได้ท ั้ง หมด 6 ด้า น ส่ว นใหญ่น ิย มเขีย นเพีย ง
3 ด้า น ก็ส ามารถทราบรายละเอีย ดได้ค รบถ้ว น

ภาพด้านบน

ภาพด้านข้าง
ภาพฉายมุม ที่ 1 (First Angle Projection) ISO Method E ( E = European)
ตาม DIN ISO 5456-2 (1998-04)

ภาพด้านหน้า

ภาพด้านบน

ภาพด้านข้าง

หลัก การฉายภาพมุม ที่ 1 มีห ลัก เกณฑ์ด ัง นี้
ภาพด้า นข้า งจะอยู่ข วามือ ของภาพด้า น
หน้า
ภาพด้า นบนจะอยู่ด ้า นล่า งของภาพด้า น
หน้า
ความสูง

-ภาพด้า นบนเกิด จากการมองทางด้า นบนของ
ภาพด้า นหน้า

ความยาว
ความกว้าง
ความยาว

-ภาพด้า น
ข้า งเกิด จาก
การมองทาง
ด้า นซ้า ยมือ
ของภาพด้า น
หน้า

การมองชิ้น งานตามทิศ ทางการมองในแต่ล ะด้า น จะเกิด เป็น ภาพสองมิต ิ ซึ่ง มีค วามสัม พัน ธ์ก ัน
ดัง นี้
ขนาดความสูง ของภาพด้า นหน้า จะเท่า กับ ความสูง ของภาพด้า นข้า ง
ขนาดความกว้า งของภาพด้า นหน้า จะเท่า กับ ความกว้า งของภาพด้า นบน
ขนาดความยาวของภาพด้า นข้า งจะเท่า กับ ความกว้า งของภาพด้า นบน
วางภาพฉาย 3 ด้า น ภาพด้า นหน้า จะต้อ งห่า งจากขอบกระดาษทัง ด้า นบน และด้า นข้า ง
้
ซ้า ยมือ ประมาณ 20 มิล ลิเ มตร และระยะห่า งระหว่า งภาพด้า นละ 25 มิล ลิเ มตร
การแสดงสัญ ลัก ษณ์ว ิธ ีฉ ายภาพไว้ท ห ัว กระดาษเขีย นแบบ
ี่

10

30

20

20

10
ภาพสัญ ลัก ษณ์ว ิธ ีฉ ายภาพมุม ที่1
h = ความสูง ของตัว อัก ษรเป็น มม .

d

h

H

H = 2 เท่า ของความสูง

H

d = 0.1 เท่า ของความสูง

3·d

ความสูง h เช่น ตัว หนัง สือ ใหญ่
(ขนาดกำา หนด) เป็น mm

1.8

2.5

3.5

5

7

10

14

20
ทิศ ทางการมอง
ภาพที่ม องเห็น จะปรากฏอยู่ด ้า นหลัง ตามทิศ ทางการมอง ซึ่ง จะเห็น เป็น ภาพ
สองมิต ิ คือ ความกว้า งกับ ความสูง เรีย กว่า ภาพด้า นหน้า ( Front View)
ทิศ ทางการมอง

การมองภาพตามทิศ ทางการมองด้า นบน จะเห็น เป็น ภาพสองมิต ิ เช่น
กัน คือ ความกว้า ง และความยาว เรีย กว่า ภาพด้า นบน (Top View)
ทิศ ทางการมอง

การมองภาพทางด้า นขวามือ ตามทิศ ทางการมองด้า นข้า ง จะเห็น เป็น ภาพสอง
มิต ิ เช่น กัน คือ ความยาว และความสูง เรีย กว่า ภาพด้า นข้า ง (Side View)
ภาพด้า นข้า งจะต้อ งเป็น ภาพที่อ ยู่ด ้า นขวามือ ของภาพด้า นหน้า เสมอ
ภาพด้านบน

จะได้ภ าพฉายที่เ กิด ขึ้น จากการมองชิ้น งานใน
ทิศ ทางตั้ง ฉากกับ หน้า งาน ซึ่ง สามารถมองและ
เขีย นภาพฉายทั้ง หมด 6 ด้า น ส่ว นใหญ่น ิย ม
เขีย นเพีย ง 3 ด้า น จะทราบรายละเอีย ดครบ
ถ้ว น

ภาพด้านหน้า

ภาพด้านข้าง
ภาพฉายมุม ที่ 3 (Third Angle Projection) ISO Method A ( A =
American ) ตาม DIN ISO 5456-2 (1998-04)

ภาพด้านบน

ภาพด้านหน้า

หลัก การวางภาพฉายมุม ที่ 3 มีห ลัก เกณฑ์ด ัง นี้
ภาพด้า นข้า ง จะอยู่ข วามือ ของภาพด้า น
หน้า
ภาพด้า นบน จะอยู่ด ้า นบนของภาพด้า นหน้า
ภาพด้านข้าง
ภาพด้า นข้า งเกิด จากการมองทางด้า นขวามือ ของภาพด้า นหน้า

ความสูง

ความยาว

ภาพด้า นบนเกิด จากการมองทางด้า นบนของภาพด้า นหน้า

ความกว้าง

ความยาว

การมองชิ้น งานตามทิศ ทางการมองในแต่ล ะด้า น เกิด เป็น ภาพสองมิต ิ
ซึ่ง มีค วามสัม พัน ธ์ ดัง นี้
ขนาดความสูง ของภาพด้า นหน้า เท่า กับ ความสูง ของภาพด้า นข้า ง
ขนาดความกว้า งของภาพด้า นหน้า เท่า กับ ความกว้า งของภาพด้า นบน
ขนาดความยาวของภาพด้า นบน เท่า กับ ความยาวของภาพด้า นข้า ง
วางภาพฉาย 3 ด้า น ภาพด้า นหน้า จะต้อ งห่า งจากขอบกระดาษทัง ด้า นบน และด้า น
้
ข้า ง ซ้า ยมือ ประมาณ 20 มิล ลิเ มตร และระยะห่า งระหว่า งภาพด้า นละ 25 มิล ลิเ มตร

20

การแสดงสัญ ลัก ษณ์ว ิธ ีฉ ายภาพไว้ท ี่ห ัว กระดาษเขีย นแบบ

20
10

10

30
ภาพสัญ ลัก ษณ์ว ิธ ีฉ ายภาพมุม ที่3
h = ความสูง ของตัว อัก ษรเป็น มม .

d

H
h

H = 2 เท่า ของความสูง

3·d

H

ความสูง h เช่น ตัว หนัง สือ ใหญ่
(ขนาดกำา หนด) เป็น mm
1.8

d = 0.1 เท่า ของความสูง

2.5

3.5

5

7

10

14

20
ภาพด้านบน

ภาพด้านบน

ภาพด้านข้าง

ภาพด้านหน้า

ภาพฉายมุม ที่ 1

ภาพด้านข้าง

ภาพด้านหน้า

ภาพฉายมุม ที่ 3

ทิศ ทางการมองเหมือ นกัน มี 3 ทิศ ทางการมอง คือ ด้า นหน้า ด้า นบน และด้า นข้า ง
ภาพด้า นข้า งของการมองภาพฉายมุม ที่ 1 เกิด จากการมองภาพด้า นซ้า ยมือ ของภาพด้า นหน้า
ภาพด้า นข้า งของการมองภาพฉายมุม ที่ 3 เกิด จากการมองภาพด้า นขวามือ ของภาพด้า นหน้า
ภาพด้านบน

ภาพด้านข้าง

ภาพด้านหน้า

ภาพฉายมุม ที่ 1
การนำา มาใช้ง าน ประเทศในกลุ่ม ยุโ รปจะใช้ก ารมองภาพฉายมุม ที่ 1 ประเทศในกลุ่ม
สหรัฐ อเมริก าจะใช้ก ารมองภาพฉายมุม ที่ 3 ประเทศไทยมีใ ช้ท ง สองระบบ คือ ภาพฉายมุม ที่
ั้
1 และมุม ที่ 3 แต่ร ะบบทีใ ช้เ ป็น มาตรฐานผลิต ภัณ ฑ์อ ต สาหกรรมคือ การมองภาพฉายมุม ที่
่
ุ
1 ดัง นั้น การศึก ษาวิธ ก ารเขีย นภาพฉายรูป ทรงต่า ง ๆ ต่อ ไปนี้ จะแสดงวิธ ก ารเขีย นเฉพาะ
ี
ี
ภาพทีเ กิด จากการมองภาพฉายมุม ที่ 1 เท่า นั้น
่
วิธ ีก ารเขีย นภาพฉายงานทรงเหลี่ย มตัด ตรง

ภาพด้า นหน้า เป็น ภาพที่ม ีร ายละเอีย ดมากที่ส ุด
ถ่า ยขนาดจากภาพด้า นหน้า มายัง ภาพด้า นบนด้ว ยเส้น เต็ม เบา (0.25
มิล ลิเ มตร)
นำำ เอำขนำดควำมยำวของชิ้น งำนมำเขีย นด้ว ยเส้น เต็ม บำง (0.25มิล ลิเ มตร)
ของภำพด้ำ นบน
เขีย นเส้น ขอบรูป ขอบชิ้น งำนทีม องเห็น ด้ว ยเส้น เต็ม หนัก (0.5 มิล ลิเ มตร )
่
ลงบนขอบชิ้น งำนที่ม องเห็น ของภำพด้ำ นบน
ถ่ำ ยขนำดจำกภำพด้ำ นหน้ำ ด้ว ยเส้น เต็ม เบำ (0.25 มิล ลิเ มตร)
มำยัง ภำพด้ำ นข้ำ ง
เขีย นเส้น ทำำ มุม 45 องศำ ด้ว ยเส้น เต็ม เบำ (0.25 มิล ลิเ มตร)
จำกมุม ขวำมือ ของภำพด้ำ นหน้ำ
เขีย นเส้น ฉำยจำกภำพด้ำ นบนมำยัง เส้น ทำำ มุม 45 องศำ
ด้ว ยเส้น เต็ม เบำ (0.25 มิล ลิเ มตร)
เขีย นเส้น ฉำยจำกเส้น ทำำ มุม 45 องศำ ไปยัง ภำพด้ำ นข้ำ งด้ว ยเส้น เต็ม เบำ
(0.25 มิล ลิเ มตร) ของภำพด้ำ นข้ำ ง
เขีย นเส้น ขอบรูป ขอบชิ้น งำนทีม องเห็น ด้ว ยเส้น เต็ม หนัก (0.5 มิล ลิเ มตร)
่
และขอบชิ้น งำนที่ม องไม่เ ห็น ให้เ ขีย นด้ว ยเส้น ประ (0.35 มิล ลิเ มตร)
ของภำพด้ำ นข้ำ ง

ภำพฉำยทั้ง สำมด้ำ นก็จ ะเป็น เส้น ตรงที่ต ั้ง ฉำกกัน ทุก ด้ำ น
35
14
30

22

8
30

กำำ หนดขนำด รำยละเอีย ดต่ำ ง ๆ ให้ค รบตำมกรรมวิธ ีก ำรผลิต
ควรหลีก เลี่ย งกำรกำำ หนดขนำดที่เ ส้น ประ
กำรวำงภำพฉำย 3 ด้ำ น ภำพด้ำ นหน้ำ จะต้อ งห่ำ งจำกขอบกระดำษทั้ง ด้ำ นบน
และด้ำ นข้ำ ง ซ้ำ ยมือ ประมำณ 20 มิล ลิเ มตร และระยะห่ำ งระหว่ำ งภำพ
ด้ำ นละ25 มิล ลิเ มตร
เขีย นภำพสัญ ลัก ษณ์แ สดงวิธ ีฉ ำยภำพแสดงไว้ท ี่ห ว กระดำษเขีย นแบบ
ั
ภาพฉายมุมที่1 3
งำนรูป ทรงเหลี่ย มตัด เฉีย งลัก ษณะต่ำ งๆ
เป็น ชิ้น งำนที่ม ีร ะนำบของผิว งำน (พื้น ที่) ไม่ต ั้ง ฉำกกับ ทิศ ทำงกำรมอง
วิธ ีก ารเขีย นภาพฉายมุม ที่ 1 รูป ทรงเหลีย มตัด เฉีย ง
่

ภาพด้า นหน้า เป็น ภาพที่ม ีร ายละเอีย ดมากที่ส ุด
เขีย นเส้น ของขอบชิ้น งานที่ม องไม่เ ห็น ด้ว ยเส้น ประ (0.35 มิล ลิเ มตร)
ถ่า ยขนาดจากภาพด้า นหน้า ด้ว ยเส้น เต็ม บาง (0.25 มิล ลิเ มตร) มายัง ภาพด้า น
ข้า ง
นำา เอาขนาดความสูง ของชิ้น งานมาเขีย นด้ว ยเส้น เต็ม บาง (0.25
มิล ลิเ มตร) ของภาพด้า นข้า ง
เขีย นเส้น ขอบรูป ขอบชิ้น งาน ที่ม องเห็น ด้ว ยเส้น เต็ม หนัก (0.5
มิล ลิเ มตร) ลงบนขอบชิ้น งานทีม องเห็น ของภาพด้า นข้า ง
่
เขีย นเส้น ทำา มุม 45 องศา ด้ว ยเส้น เต็ม บาง (0.25 มิล ลิเ มตร) จาก
มุม ขวามือ ของภาพด้า นหน้า
เขีย นเส้น ฉายจากภาพด้า นข้า ง มายัง เส้น ทำา มุม 45 องศา ด้ว ยเส้น
เต็ม บาง (0.25 มิล ลิเ มตร)
เขีย นเส้น ฉายจากเส้น ทำา มุม 45 องศา ด้ว ยเส้น เต็ม บาง (0.25 มิล ลิเ มตร) ไปยัง ภาพ
ด้า นบน
เขีย นเส้น ฉายจากภาพด้า นหน้า มายัง ภาพด้า นบน ด้ว ยเส้น เต็ม บาง (0.25
มิล ลิเ มตร)
เขีย นเส้น ขอบรูป ขอบชิ้น งานที่ม องเห็น เขีย นด้ว ยเส้น เต็ม หนัก (0.5
มิล ลิเ มตร)ของภาพด้า นบน
ภาพฉายสามด้า นของชิ้น งานทรงเหลี่ย มตัด เฉีย ง จะมีพ ื้น ที่ท ี่ต ัด เฉีย ง
ปรากฏเป็น หนึ่ง เส้น เฉีย ง และเป็น สองพื้น ที่ ที่ค ล้า ยกัน ในภาพอีก สองด้า น
15

28

16

12

25

5
15
20

กำา หนดขนาดตามกรรมวิธ ีก ารผลิต และมาตรฐานการกำา หนดขนาด
ควรหลีก เลี่ย งการกำา หนดขนาดที่เ ส้น ประ
จบการนำา เสนอ

More Related Content

What's hot (20)

มาตรฐาȨาร๶ขียนแบบ
มาตรฐาȨาร๶ขียนแบบมาตรฐาȨาร๶ขียนแบบ
มาตรฐาȨาร๶ขียนแบบ
Peerapong Veluwanaruk
เฉลยชีววิทยาหน้า52- 59
เฉลยชีววิทยาหน้า52- 59เฉลยชีววิทยาหน้า52- 59
เฉลยชีววิทยาหน้า52- 59
Wan Ngamwongwan
บทที่ 3 สมบัติของธาตุและสารประกอบ
บทที่ 3 สมบัติของธาตุและสารประกอบบทที่ 3 สมบัติของธาตุและสารประกอบ
บทที่ 3 สมบัติของธาตุและสารประกอบ
oraneehussem
๶รื่องที่14แสงและทัศน์อุปกรณ์
๶รื่องที่14แสงและทัศน์อุปกรณ์๶รื่องที่14แสงและทัศน์อุปกรณ์
๶รื่องที่14แสงและทัศน์อุปกรณ์
Apinya Phuadsing
บทที่2กระบวนการสัง๶คราะห์ึϹวยแสง
บทที่2กระบวนการสัง๶คราะห์ึϹวยแสงบทที่2กระบวนการสัง๶คราะห์ึϹวยแสง
บทที่2กระบวนการสัง๶คราะห์ึϹวยแสง
Wichai Likitponrak
บทที่ 3 พลังงานทดแทน
บทที่  3 พลังงานทดแทนบทที่  3 พลังงานทดแทน
บทที่ 3 พลังงานทดแทน
อัจฉรา นาคอ้าย
5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์
5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์
5.ชุดที่ 2 โครงสร้างของเซลล์
เอเดียน คุณาสิทธิ์
ตลาดในระบบ๶ศรษฐกิจ
ตลาดในระบบ๶ศรษฐกิจตลาดในระบบ๶ศรษฐกิจ
ตลาดในระบบ๶ศรษฐกิจ
PariwanButsat
เรื่องที่ 4 มาตราส่วนและการกำหนดขนาด
เรื่องที่ 4  มาตราส่วนและการกำหนดขนาดเรื่องที่ 4  มาตราส่วนและการกำหนดขนาด
เรื่องที่ 4 มาตราส่วนและการกำหนดขนาด
kruood
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Kittichai Pinlert
ตัวอย่างสารบัญ ๶ล่มโปร๶จ็ค
ตัวอย่างสารบัญ ๶ล่มโปร๶จ็คตัวอย่างสารบัญ ๶ล่มโปร๶จ็ค
ตัวอย่างสารบัญ ๶ล่มโปร๶จ็ค
tumetr1
แรง (Force)
แรง (Force)แรง (Force)
แรง (Force)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
ส่วนประกอบของโลก
ส่วนประกอบของโลกส่วนประกอบของโลก
ส่วนประกอบของโลก
พัน พัน
สัญลักษณ์เชื่อม01
สัญลักษณ์เชื่อม01สัญลักษณ์เชื่อม01
สัญลักษณ์เชื่อม01
Narasak Sripakdee
ตารางฟังก์ชัȨรีโกณมิติ
ตารางฟังก์ชัȨรีโกณมิติตารางฟังก์ชัȨรีโกณมิติ
ตารางฟังก์ชัȨรีโกณมิติ
Aon Narinchoti
มาตรฐาȨาร๶ขียนแบบ
มาตรฐาȨาร๶ขียนแบบมาตรฐาȨาร๶ขียนแบบ
มาตรฐาȨาร๶ขียนแบบ
Peerapong Veluwanaruk
เฉลยชีววิทยาหน้า52- 59
เฉลยชีววิทยาหน้า52- 59เฉลยชีววิทยาหน้า52- 59
เฉลยชีววิทยาหน้า52- 59
Wan Ngamwongwan
บทที่ 3 สมบัติของธาตุและสารประกอบ
บทที่ 3 สมบัติของธาตุและสารประกอบบทที่ 3 สมบัติของธาตุและสารประกอบ
บทที่ 3 สมบัติของธาตุและสารประกอบ
oraneehussem
๶รื่องที่14แสงและทัศน์อุปกรณ์
๶รื่องที่14แสงและทัศน์อุปกรณ์๶รื่องที่14แสงและทัศน์อุปกรณ์
๶รื่องที่14แสงและทัศน์อุปกรณ์
Apinya Phuadsing
บทที่2กระบวนการสัง๶คราะห์ึϹวยแสง
บทที่2กระบวนการสัง๶คราะห์ึϹวยแสงบทที่2กระบวนการสัง๶คราะห์ึϹวยแสง
บทที่2กระบวนการสัง๶คราะห์ึϹวยแสง
Wichai Likitponrak
ตลาดในระบบ๶ศรษฐกิจ
ตลาดในระบบ๶ศรษฐกิจตลาดในระบบ๶ศรษฐกิจ
ตลาดในระบบ๶ศรษฐกิจ
PariwanButsat
เรื่องที่ 4 มาตราส่วนและการกำหนดขนาด
เรื่องที่ 4  มาตราส่วนและการกำหนดขนาดเรื่องที่ 4  มาตราส่วนและการกำหนดขนาด
เรื่องที่ 4 มาตราส่วนและการกำหนดขนาด
kruood
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้องบทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Kittichai Pinlert
ตัวอย่างสารบัญ ๶ล่มโปร๶จ็ค
ตัวอย่างสารบัญ ๶ล่มโปร๶จ็คตัวอย่างสารบัญ ๶ล่มโปร๶จ็ค
ตัวอย่างสารบัญ ๶ล่มโปร๶จ็ค
tumetr1
ส่วนประกอบของโลก
ส่วนประกอบของโลกส่วนประกอบของโลก
ส่วนประกอบของโลก
พัน พัน
สัญลักษณ์เชื่อม01
สัญลักษณ์เชื่อม01สัญลักษณ์เชื่อม01
สัญลักษณ์เชื่อม01
Narasak Sripakdee
ตารางฟังก์ชัȨรีโกณมิติ
ตารางฟังก์ชัȨรีโกณมิติตารางฟังก์ชัȨรีโกณมิติ
ตารางฟังก์ชัȨรีโกณมิติ
Aon Narinchoti

Similar to ภาพฉายมุมที่1 3 (10)

บทที่7 ภาพฉายมุมที่1,3
บทที่7 ภาพฉายมุมที่1,3บทที่7 ภาพฉายมุมที่1,3
บทที่7 ภาพฉายมุมที่1,3
Si Seng
บทที่7 ภาพฉายมุมที่1,3
บทที่7 ภาพฉายมุมที่1,3บทที่7 ภาพฉายมุมที่1,3
บทที่7 ภาพฉายมุมที่1,3
Si Seng
โครงงาȨรสมุทรปราการ
โครงงาȨรสมุทรปราการโครงงาȨรสมุทรปราการ
โครงงาȨรสมุทรปราการ
aispretty
Aibkhwaamruueruueng phaaphraang
Aibkhwaamruueruueng phaaphraangAibkhwaamruueruueng phaaphraang
Aibkhwaamruueruueng phaaphraang
ssuser618f82
Aibkhwaamruueruueng phaaphraang
Aibkhwaamruueruueng phaaphraangAibkhwaamruueruueng phaaphraang
Aibkhwaamruueruueng phaaphraang
ssuser9ce327
บทที่7 ภาพฉายมุมที่1,3
บทที่7 ภาพฉายมุมที่1,3บทที่7 ภาพฉายมุมที่1,3
บทที่7 ภาพฉายมุมที่1,3
Si Seng
บทที่7 ภาพฉายมุมที่1,3
บทที่7 ภาพฉายมุมที่1,3บทที่7 ภาพฉายมุมที่1,3
บทที่7 ภาพฉายมุมที่1,3
Si Seng
โครงงาȨรสมุทรปราการ
โครงงาȨรสมุทรปราการโครงงาȨรสมุทรปราการ
โครงงาȨรสมุทรปราการ
aispretty
Aibkhwaamruueruueng phaaphraang
Aibkhwaamruueruueng phaaphraangAibkhwaamruueruueng phaaphraang
Aibkhwaamruueruueng phaaphraang
ssuser618f82
Aibkhwaamruueruueng phaaphraang
Aibkhwaamruueruueng phaaphraangAibkhwaamruueruueng phaaphraang
Aibkhwaamruueruueng phaaphraang
ssuser9ce327

ภาพฉายมุมที่1 3

  • 1. จุด ประสงค์ก ารเรีย นรู้ หลัง จากจบบทเรีย นแล้ว ผูเ รีย นสามารถ ้ 1. บอกทิศ ทางการมองภาพฉายด้า นต่า ง ๆ ได้ 2. อธิบ ายหลัก การมองภาพและจัด ตำา แหน่ง ภาพฉายสามด้า นให้อ ยู่ใ น ตำา แหน่ง ของภาพฉายมุม ที่ 1 ตามระบบ ISO Method E และมุม ที่ 3 ISO Method Aได้ 3. บอกวิธ ีก ารเขีย นภาพฉายทิศ ต่า ง ๆ ได้ 4. อ่า นภาพฉายสามด้า นของงานรูป ทรงต่า งๆตามแบบที่ก ำา หนดได้
  • 2. หลัก การเขีย นภาพฉายมุม ที่ 1 และมุม ที่ 3 3 6 4 2 1 5 การมองภาพฉายชิ้น งานตามทิศ ทางของการมอง สามารถมองได้ 6 ด้า น ซึ่ง มีล ัก ษณะตามพื้น ที่ผ ิว และจำา นวนพื้น ที่ผ ิว ของชิ้น งานในแต่ล ะด้า น
  • 3. ความกว้าง ความยาว ความสูง ความสูง ความสูง ้าง กว าม คว คว าม ยา ว ภาพสามมิต ิป ระกอบไปด้ว ย ความกว้า ง ความยาว และความสูง อยู่ใ นภาพ เดีย วกัน ความยาว ความกว้าง ภาพสองมิต ิ เป็น การมองภาพแนวตรงของแต่ล ะด้า น ประกอบด้ว ย ขนาด สองมิต ิ ถ้า ต้อ งการทราบรายละเอีย ดของขนาดครบทุก มิต ิ ต้อ งใช้ภ าพ สองมิต ิต ั้ง แต่ส องด้า นขึ้น ไปมาประกอบกัน
  • 4. ฉากรับ ภาพ 2 90 1 180 3 0 360 270 4 ทิศ ทางการมอง 0 – 90 องศา เป็น ฉากรับ ภาพมุม ที่ 1 (First Angle Projection) 90 – 180 องศา เป็น ฉากรับ ภาพมุม ที่ 2 (Second Angle Projection) 180 – 270 องศา เป็น ฉากรับ ภาพมุม ที่ 3 (Third Angle Projection) 270 – 360 องศา เป็น ฉากรับ ภาพมุม ที่ 4 (Fourth Angle Projection)
  • 5. ทิศ ทางการมอง ภาพที่ม องเห็น จะปรากฏอยู่ด ้า นหลัง ตามทิศ ทางการมอง ซึ่ง จะเห็น เป็น ภาพ สองมิต ิ คือ ความกว้า งกับ ความสูง เรีย กว่า ภาพด้า นหน้า ( Front View)
  • 6. ทิศ ทางการมอง การมองภาพตามทิศ ทางการมองด้า นบน จะเห็น เป็น ภาพสองมิต ิเ ช่น กัน คือ ความกว้า ง และความยาว เรีย กว่า ภาพด้า นบน (Top View)
  • 7. ทิศ ทางการมอง การมองภาพทางด้า นซ้า ยมือ ตามทิศ ทางการมองจะเห็น เป็น ภาพสองมิต ิ เช่น กัน คือ ความยาว และความสูง เรีย กว่า ภาพด้า นข้า ง (Side View) ภาพด้า นข้า งจะต้อ งเป็น ภาพที่อ ยู่ท างด้า นซ้า ยมือ ของภาพด้า นหน้า เสมอ
  • 8. ภาพด้านหน้า ภาพฉายที่เ กิด ขึ้น จากการมองชิ้น งานในทิศ ทาง ตั้ง ฉากกับ ชิ้น งานซึ่ง สามารถมองและเขีย นภาพ ฉายได้ท ั้ง หมด 6 ด้า น ส่ว นใหญ่น ิย มเขีย นเพีย ง 3 ด้า น ก็ส ามารถทราบรายละเอีย ดได้ค รบถ้ว น ภาพด้านบน ภาพด้านข้าง
  • 9. ภาพฉายมุม ที่ 1 (First Angle Projection) ISO Method E ( E = European) ตาม DIN ISO 5456-2 (1998-04) ภาพด้านหน้า ภาพด้านบน ภาพด้านข้าง หลัก การฉายภาพมุม ที่ 1 มีห ลัก เกณฑ์ด ัง นี้ ภาพด้า นข้า งจะอยู่ข วามือ ของภาพด้า น หน้า ภาพด้า นบนจะอยู่ด ้า นล่า งของภาพด้า น หน้า
  • 10. ความสูง -ภาพด้า นบนเกิด จากการมองทางด้า นบนของ ภาพด้า นหน้า ความยาว ความกว้าง ความยาว -ภาพด้า น ข้า งเกิด จาก การมองทาง ด้า นซ้า ยมือ ของภาพด้า น หน้า การมองชิ้น งานตามทิศ ทางการมองในแต่ล ะด้า น จะเกิด เป็น ภาพสองมิต ิ ซึ่ง มีค วามสัม พัน ธ์ก ัน ดัง นี้ ขนาดความสูง ของภาพด้า นหน้า จะเท่า กับ ความสูง ของภาพด้า นข้า ง ขนาดความกว้า งของภาพด้า นหน้า จะเท่า กับ ความกว้า งของภาพด้า นบน ขนาดความยาวของภาพด้า นข้า งจะเท่า กับ ความกว้า งของภาพด้า นบน
  • 11. วางภาพฉาย 3 ด้า น ภาพด้า นหน้า จะต้อ งห่า งจากขอบกระดาษทัง ด้า นบน และด้า นข้า ง ้ ซ้า ยมือ ประมาณ 20 มิล ลิเ มตร และระยะห่า งระหว่า งภาพด้า นละ 25 มิล ลิเ มตร การแสดงสัญ ลัก ษณ์ว ิธ ีฉ ายภาพไว้ท ห ัว กระดาษเขีย นแบบ ี่ 10 30 20 20 10
  • 12. ภาพสัญ ลัก ษณ์ว ิธ ีฉ ายภาพมุม ที่1 h = ความสูง ของตัว อัก ษรเป็น มม . d h H H = 2 เท่า ของความสูง H d = 0.1 เท่า ของความสูง 3·d ความสูง h เช่น ตัว หนัง สือ ใหญ่ (ขนาดกำา หนด) เป็น mm 1.8 2.5 3.5 5 7 10 14 20
  • 13. ทิศ ทางการมอง ภาพที่ม องเห็น จะปรากฏอยู่ด ้า นหลัง ตามทิศ ทางการมอง ซึ่ง จะเห็น เป็น ภาพ สองมิต ิ คือ ความกว้า งกับ ความสูง เรีย กว่า ภาพด้า นหน้า ( Front View)
  • 14. ทิศ ทางการมอง การมองภาพตามทิศ ทางการมองด้า นบน จะเห็น เป็น ภาพสองมิต ิ เช่น กัน คือ ความกว้า ง และความยาว เรีย กว่า ภาพด้า นบน (Top View)
  • 15. ทิศ ทางการมอง การมองภาพทางด้า นขวามือ ตามทิศ ทางการมองด้า นข้า ง จะเห็น เป็น ภาพสอง มิต ิ เช่น กัน คือ ความยาว และความสูง เรีย กว่า ภาพด้า นข้า ง (Side View) ภาพด้า นข้า งจะต้อ งเป็น ภาพที่อ ยู่ด ้า นขวามือ ของภาพด้า นหน้า เสมอ
  • 16. ภาพด้านบน จะได้ภ าพฉายที่เ กิด ขึ้น จากการมองชิ้น งานใน ทิศ ทางตั้ง ฉากกับ หน้า งาน ซึ่ง สามารถมองและ เขีย นภาพฉายทั้ง หมด 6 ด้า น ส่ว นใหญ่น ิย ม เขีย นเพีย ง 3 ด้า น จะทราบรายละเอีย ดครบ ถ้ว น ภาพด้านหน้า ภาพด้านข้าง
  • 17. ภาพฉายมุม ที่ 3 (Third Angle Projection) ISO Method A ( A = American ) ตาม DIN ISO 5456-2 (1998-04) ภาพด้านบน ภาพด้านหน้า หลัก การวางภาพฉายมุม ที่ 3 มีห ลัก เกณฑ์ด ัง นี้ ภาพด้า นข้า ง จะอยู่ข วามือ ของภาพด้า น หน้า ภาพด้า นบน จะอยู่ด ้า นบนของภาพด้า นหน้า ภาพด้านข้าง
  • 18. ภาพด้า นข้า งเกิด จากการมองทางด้า นขวามือ ของภาพด้า นหน้า ความสูง ความยาว ภาพด้า นบนเกิด จากการมองทางด้า นบนของภาพด้า นหน้า ความกว้าง ความยาว การมองชิ้น งานตามทิศ ทางการมองในแต่ล ะด้า น เกิด เป็น ภาพสองมิต ิ ซึ่ง มีค วามสัม พัน ธ์ ดัง นี้ ขนาดความสูง ของภาพด้า นหน้า เท่า กับ ความสูง ของภาพด้า นข้า ง ขนาดความกว้า งของภาพด้า นหน้า เท่า กับ ความกว้า งของภาพด้า นบน ขนาดความยาวของภาพด้า นบน เท่า กับ ความยาวของภาพด้า นข้า ง
  • 19. วางภาพฉาย 3 ด้า น ภาพด้า นหน้า จะต้อ งห่า งจากขอบกระดาษทัง ด้า นบน และด้า น ้ ข้า ง ซ้า ยมือ ประมาณ 20 มิล ลิเ มตร และระยะห่า งระหว่า งภาพด้า นละ 25 มิล ลิเ มตร 20 การแสดงสัญ ลัก ษณ์ว ิธ ีฉ ายภาพไว้ท ี่ห ัว กระดาษเขีย นแบบ 20 10 10 30
  • 20. ภาพสัญ ลัก ษณ์ว ิธ ีฉ ายภาพมุม ที่3 h = ความสูง ของตัว อัก ษรเป็น มม . d H h H = 2 เท่า ของความสูง 3·d H ความสูง h เช่น ตัว หนัง สือ ใหญ่ (ขนาดกำา หนด) เป็น mm 1.8 d = 0.1 เท่า ของความสูง 2.5 3.5 5 7 10 14 20
  • 21. ภาพด้านบน ภาพด้านบน ภาพด้านข้าง ภาพด้านหน้า ภาพฉายมุม ที่ 1 ภาพด้านข้าง ภาพด้านหน้า ภาพฉายมุม ที่ 3 ทิศ ทางการมองเหมือ นกัน มี 3 ทิศ ทางการมอง คือ ด้า นหน้า ด้า นบน และด้า นข้า ง ภาพด้า นข้า งของการมองภาพฉายมุม ที่ 1 เกิด จากการมองภาพด้า นซ้า ยมือ ของภาพด้า นหน้า ภาพด้า นข้า งของการมองภาพฉายมุม ที่ 3 เกิด จากการมองภาพด้า นขวามือ ของภาพด้า นหน้า
  • 22. ภาพด้านบน ภาพด้านข้าง ภาพด้านหน้า ภาพฉายมุม ที่ 1 การนำา มาใช้ง าน ประเทศในกลุ่ม ยุโ รปจะใช้ก ารมองภาพฉายมุม ที่ 1 ประเทศในกลุ่ม สหรัฐ อเมริก าจะใช้ก ารมองภาพฉายมุม ที่ 3 ประเทศไทยมีใ ช้ท ง สองระบบ คือ ภาพฉายมุม ที่ ั้ 1 และมุม ที่ 3 แต่ร ะบบทีใ ช้เ ป็น มาตรฐานผลิต ภัณ ฑ์อ ต สาหกรรมคือ การมองภาพฉายมุม ที่ ่ ุ 1 ดัง นั้น การศึก ษาวิธ ก ารเขีย นภาพฉายรูป ทรงต่า ง ๆ ต่อ ไปนี้ จะแสดงวิธ ก ารเขีย นเฉพาะ ี ี ภาพทีเ กิด จากการมองภาพฉายมุม ที่ 1 เท่า นั้น ่
  • 23. วิธ ีก ารเขีย นภาพฉายงานทรงเหลี่ย มตัด ตรง ภาพด้า นหน้า เป็น ภาพที่ม ีร ายละเอีย ดมากที่ส ุด
  • 24. ถ่า ยขนาดจากภาพด้า นหน้า มายัง ภาพด้า นบนด้ว ยเส้น เต็ม เบา (0.25 มิล ลิเ มตร)
  • 25. นำำ เอำขนำดควำมยำวของชิ้น งำนมำเขีย นด้ว ยเส้น เต็ม บำง (0.25มิล ลิเ มตร) ของภำพด้ำ นบน
  • 26. เขีย นเส้น ขอบรูป ขอบชิ้น งำนทีม องเห็น ด้ว ยเส้น เต็ม หนัก (0.5 มิล ลิเ มตร ) ่ ลงบนขอบชิ้น งำนที่ม องเห็น ของภำพด้ำ นบน
  • 27. ถ่ำ ยขนำดจำกภำพด้ำ นหน้ำ ด้ว ยเส้น เต็ม เบำ (0.25 มิล ลิเ มตร) มำยัง ภำพด้ำ นข้ำ ง
  • 28. เขีย นเส้น ทำำ มุม 45 องศำ ด้ว ยเส้น เต็ม เบำ (0.25 มิล ลิเ มตร) จำกมุม ขวำมือ ของภำพด้ำ นหน้ำ
  • 29. เขีย นเส้น ฉำยจำกภำพด้ำ นบนมำยัง เส้น ทำำ มุม 45 องศำ ด้ว ยเส้น เต็ม เบำ (0.25 มิล ลิเ มตร)
  • 30. เขีย นเส้น ฉำยจำกเส้น ทำำ มุม 45 องศำ ไปยัง ภำพด้ำ นข้ำ งด้ว ยเส้น เต็ม เบำ (0.25 มิล ลิเ มตร) ของภำพด้ำ นข้ำ ง
  • 31. เขีย นเส้น ขอบรูป ขอบชิ้น งำนทีม องเห็น ด้ว ยเส้น เต็ม หนัก (0.5 มิล ลิเ มตร) ่ และขอบชิ้น งำนที่ม องไม่เ ห็น ให้เ ขีย นด้ว ยเส้น ประ (0.35 มิล ลิเ มตร) ของภำพด้ำ นข้ำ ง ภำพฉำยทั้ง สำมด้ำ นก็จ ะเป็น เส้น ตรงที่ต ั้ง ฉำกกัน ทุก ด้ำ น
  • 32. 35 14 30 22 8 30 กำำ หนดขนำด รำยละเอีย ดต่ำ ง ๆ ให้ค รบตำมกรรมวิธ ีก ำรผลิต ควรหลีก เลี่ย งกำรกำำ หนดขนำดที่เ ส้น ประ
  • 33. กำรวำงภำพฉำย 3 ด้ำ น ภำพด้ำ นหน้ำ จะต้อ งห่ำ งจำกขอบกระดำษทั้ง ด้ำ นบน และด้ำ นข้ำ ง ซ้ำ ยมือ ประมำณ 20 มิล ลิเ มตร และระยะห่ำ งระหว่ำ งภำพ ด้ำ นละ25 มิล ลิเ มตร เขีย นภำพสัญ ลัก ษณ์แ สดงวิธ ีฉ ำยภำพแสดงไว้ท ี่ห ว กระดำษเขีย นแบบ ั
  • 35. งำนรูป ทรงเหลี่ย มตัด เฉีย งลัก ษณะต่ำ งๆ
  • 36. เป็น ชิ้น งำนที่ม ีร ะนำบของผิว งำน (พื้น ที่) ไม่ต ั้ง ฉำกกับ ทิศ ทำงกำรมอง
  • 37. วิธ ีก ารเขีย นภาพฉายมุม ที่ 1 รูป ทรงเหลีย มตัด เฉีย ง ่ ภาพด้า นหน้า เป็น ภาพที่ม ีร ายละเอีย ดมากที่ส ุด เขีย นเส้น ของขอบชิ้น งานที่ม องไม่เ ห็น ด้ว ยเส้น ประ (0.35 มิล ลิเ มตร)
  • 38. ถ่า ยขนาดจากภาพด้า นหน้า ด้ว ยเส้น เต็ม บาง (0.25 มิล ลิเ มตร) มายัง ภาพด้า น ข้า ง
  • 39. นำา เอาขนาดความสูง ของชิ้น งานมาเขีย นด้ว ยเส้น เต็ม บาง (0.25 มิล ลิเ มตร) ของภาพด้า นข้า ง
  • 40. เขีย นเส้น ขอบรูป ขอบชิ้น งาน ที่ม องเห็น ด้ว ยเส้น เต็ม หนัก (0.5 มิล ลิเ มตร) ลงบนขอบชิ้น งานทีม องเห็น ของภาพด้า นข้า ง ่
  • 41. เขีย นเส้น ทำา มุม 45 องศา ด้ว ยเส้น เต็ม บาง (0.25 มิล ลิเ มตร) จาก มุม ขวามือ ของภาพด้า นหน้า เขีย นเส้น ฉายจากภาพด้า นข้า ง มายัง เส้น ทำา มุม 45 องศา ด้ว ยเส้น เต็ม บาง (0.25 มิล ลิเ มตร)
  • 42. เขีย นเส้น ฉายจากเส้น ทำา มุม 45 องศา ด้ว ยเส้น เต็ม บาง (0.25 มิล ลิเ มตร) ไปยัง ภาพ ด้า นบน เขีย นเส้น ฉายจากภาพด้า นหน้า มายัง ภาพด้า นบน ด้ว ยเส้น เต็ม บาง (0.25 มิล ลิเ มตร)
  • 43. เขีย นเส้น ขอบรูป ขอบชิ้น งานที่ม องเห็น เขีย นด้ว ยเส้น เต็ม หนัก (0.5 มิล ลิเ มตร)ของภาพด้า นบน
  • 44. ภาพฉายสามด้า นของชิ้น งานทรงเหลี่ย มตัด เฉีย ง จะมีพ ื้น ที่ท ี่ต ัด เฉีย ง ปรากฏเป็น หนึ่ง เส้น เฉีย ง และเป็น สองพื้น ที่ ที่ค ล้า ยกัน ในภาพอีก สองด้า น
  • 45. 15 28 16 12 25 5 15 20 กำา หนดขนาดตามกรรมวิธ ีก ารผลิต และมาตรฐานการกำา หนดขนาด ควรหลีก เลี่ย งการกำา หนดขนาดที่เ ส้น ประ