ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
บทที่ 1
บทนา
ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา
โลกปัจจุบันได้ก้าวเข้าสู่ยุค “สังคมการเรียนรู้ (Knowledge Society) “ ความมั่นคงและ
ความผาสุกของแต่ละสังคม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับทรัพยากรหรือกาลังอาวุธต่อไป หากขึ้นอยู่กับ “ ภูมิ
ปัญญา” เป็นหลัก จึงทาให้ประเทศต่าง ๆ ได้ให้ความสนใจกับการจัดการศึกษา เน้นการสร้างภูมิ
ปัญญาของแต่ละสังคมให้มีศักยภาพสูง เข้มแข็งเพียงพอแก่ภาคการผลิต รวมทั้งการนาไปสู่ความ
เป็นปรึกแผ่นของสังคม
๶ทคโนโลยีสารสȨทศ (Information Technology: IT) เป็นเทคโนโลยีที่ผสมผสานกัน
ระหว่างเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีโทรคมนาคม (Computer & Telecommunications
Technology) ที่มีส่วนสาคัญต่อการนาสารสนเทศซึ่งประกอบด้วยข้อมูล (data) ข่าวสาร
(information) และความรู้ (knowledge) ให้สามารถลื่นไหลได้สะดวกรวดเร็วเป็นปัจจัยในการ
ดาเนินงานกิจการงานต่างๆ
ปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ซึ่งประกอบด้วยเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ และ
เทคโนโลยีด้านการสื่อสารมีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ส่งผลทาให้ไม่ว่าอยู่ ณ ที่ใดของโลกก็
สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทันที ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีความสาคัญและมีประโยชน์ในด้านต่างๆ มากมาย
ทั้งทางการติดต่อสื่อสารกันได้ทันที ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีความสาคัญและมีประโยชน์ในด้านต่าง ๆ
มากมาย ทั้งด้านการติดต่อสื่อสาร ด้านธุรกิจการค้าและบริการ และทางด้านการศึกษาเทคโนโลยี
สารสนเทศ สามารถนามาใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น ผู้วิจัยจึงมีความสนใจการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์
(ง21104) เรื่องการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
โรงเรียนวัดราชโอรส ภาคเรียนที่ 2/2556 เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพสื่อตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
และพัฒนาระดับคุณภาพผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา๶ทคโนโลยีสารสȨทศของนักเรียน และเพื่อ
เป็นประโยชน์สาหรับนักเรียนในการเรียนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
วัตถุประสงค์การวิจัย
การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้กาหนดวัตถุประสงค์ ไว้ดังนี้
1. เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของนักเรียนแต่ละห้อง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/5
และ 1/8 เรื่องการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ของโรงเรียนวัดราชโอรส
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/5 และ 1/8
เรื่องการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ในห้องเรียน
3. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 1/5
และ 1/8 เรื่องการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้และความใจใน
การทาแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน
สมมติฐานการวิจัย
หลังจากได้ทาการเรียนการสอน รวมทั้งการปฏิบัติการลงมือทานักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 1/5 และ 1/8 เรื่องการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ จานวน 70 คน โดยใช้สื่อการ
จัดการเรียนการสอนและแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน โดยการวิจัยนี้มีสมมุติฐานการวิจัย
คือ
1. บทเรียนวิชา๶ทคโนโลยีสารสȨทศ (ง21104) เรื่องการประมวลผลข้อมูลให้เป็น
สารสนเทศ มีประสิทธิภาพ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนได้รับการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 1/5 และ 1/8 เรื่องการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ จะต้องมีความเข้าใจในการเรียนรู้
ในห้องเรียน
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 1/5 และ 1/8 เรื่องการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ จะต้องมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่า
คะแนนก่อนเรียน
ขอบเขตของการวิจัย
ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย
ประชากร
ได้แก่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนวัดราชโอรส แขวงบางค้อ
เขตจอมทอง จังหวัดกรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 มีการเรียนการสอนตั้งแต่
ม.1/1 - ม.1/11 จานวน 517 คน
กลุ่มตัวอย่าง
ได้แก่นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนวัดราชโอรส แขวงบางค้อ
เขตจอมทอง จังหวัดกรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 โดยเลือกห้องนักเรียนที่มี
นักเรียนจานวนเท่ากัน คือ 47 คน ได้แก่ ห้อง มัธยมศึกษาปีที่ 1/5 และ มัธยมศึกษาปีที่ 1/8 ซึ่งมี
ระดับผลการเรียนเฉลี่ยใกล้เคียงกัน
ตัวแปรที่ศึกษา
ตัวแปรอิสระ ได้แก่ การจัดการเรียนการสอน
ตัวแปรตาม ได้แก่ 1. ประสิทธิภาพของบทเรียน เรื่อง การประมวลผลข้อมูลให้
เป็นสารสนเทศ
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการประมวลผลข้อมูลให้
เป็นสารสนเทศ
เนื้อหาเรื่อง ข้อมูล และ สารสนเทศ โดยมีหัวข้อย่อยดังนี้
- ความหมายของข้อมูล
- ประเภทของข้อมูล
- ความหมายของสารสนเทศ
- ประเภทของสารสนเทศ
เนื้อหาเรื่อง การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ โดยมีหัวข้อย่อยดังนี้
- วิธีการประมวลผลข้อมูล
- การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ
เนื้อหาเรื่อง ลักษณะสาคัญและผลกระทบของสารสนเทศ โดยมีหัวข้อย่อยดังนี้
- การจัดการสารสนเทศ
- ระดับของสารสนเทศ
- ลักษณะสาคัญของ๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
- ผลกระทบของ๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
ประโยชน์ที่ได้รับจากการวิจัย
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการวิจัยมีดังต่อไปนี้
1. ช่วยให้ครูผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจขั้นตอนการประมวลผล และนามาปฏิบัติจริงใน
การเรียนการสอนในวิชาการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
1/5 และ 1/8
2. เป็นแนวทางในการพัฒนาการการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ สาหรับการ
เรียนการสอนแบบบูรณาการในรายวิชาอื่น ๆ ต่อไป
3. เป็นแนวทางสาหรับพัฒนาบทเรียนการสอนในอนาคต ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น สามารถทา
สิ่งที่เป็นนามธรรมให้เป็นรูปธรรมมากขั้น และประสิทธิภาพของบทเรียนสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อ
การเรียนการสอนโดยรวม
4. แนวทางการสอนของครูสามารถนาไปปรับปรุงและสามารถใช้เป็นเครื่องมือของครู
และนักเรียนในกระบวนการเรียนการสอนในอนาคต
นิยามศัพท์เฉพาะ
1. การเปรียบเทียบ หมายถึง การเปรียบเทียบทางการเรียนของนักเรียน 2 ห้องเรียน
ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/5 จานวน 47 คน และ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/8
จานวน 47 คน
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง คะแนนของนักเรียนที่ได้จากการสอบ ก่อนเรียนและ
หลังเรียน เรื่อง การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ซึ่งเป็นข้อสอบแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก
จานวน 30 ข้อ คะแนนเต็ม 30 คะแนน
3. ผลสัมฤทธิ์ประสิทธิภาพของบทเรียน หมายถึง คุณภาพของบทเรียน ตามเกณฑ์
ประสิทธิภาพ 80/80
80 ตัวแรก หมายถึง ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่นักเรียนได้รับจากการทา
แบบฝึกหัดการปฏิบัติด้วยคอมพิวเตอร์ โปรแกรม Microsoft Excel 2010 เรื่องการประมวลผล
ข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ การจัดการสารสนเทศ การจัดตารางและใส่ข้อมูลลงในเซลตาราง การ
จัดการสารสนเทศ การทาสารวจ แบบสอบถาม การแทรกสารสนเทศเข้ากับโปรแกรมนาเสนอ
ถูกต้องเฉลี่ยร้อยละ 80
80 ตัวหลัง หมายถึง ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่นักเรียนได้รับการทาแบบทดสอบ
วัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียน เรื่อง การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ การจัดการสารสนเทศ
การจัดตารางและใส่ข้อมูลลงในเซลตาราง การจัดการสารสนเทศ การทาสารวจ แบบสอบถาม
การแทรกสารสนเทศเข้ากับโปรแกรมนาเสนอถูกต้องเฉลี่ยร้อยละ 80
4. กลุ่มทดลอง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/5 จานวน 47 คน และนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที 1/8 จานวน 47 คน
5. นักเรียน หมายถึง นักเรียนโรงเรียนวัดราชโอรส สังกัด สพม.เขต1 ถนนเอกชัย แขวง
บางค้อ เขตจอมทอง จังหวัดกรุงเทพมหานคร ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1/5 และ 1/8
6. วิชา๶ทคโนโลยีสารสȨทศ หมายถึง วิชาการแปลงข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ
กรอบแนวคิดในการวิจัย
การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ศึกษาเนื้อหาและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
วิชา๶ทคโนโลยีสารสȨทศ มาเป็นกรอบแนวคิด โดยใช้การศึกษาเกี่ยวกับหลักสูตร แนวการจัดการ
เรียนการสอน วิชา๶ทคโนโลยีสารสȨทศ (ง21104) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/5 และ 1/8 เรื่องการ
ประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อนามาพัฒนาและหา
ประสิทธิภาพของการศึกษาของนักเรียนแต่ละห้องเรียน โดยมีการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
ผู้วิจัยสร้างแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยยึดตามเทคนิคการวัดผลการเรียนรู้ โดยศึกษา
เนื้อหาและจุดประสงค์การเรียนรู้วิชา๶ทคโนโลยีสารสȨทศ (ง21104) เรื่องการแปลงข้อมูลให้เป็น
สารสนเทศ จากแบบเรียนและคู่มือครู แบ่งตามเนื้อหา ดังนี้
1. รู้จักข้อมูล และสารสนเทศ
2. การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ
3. ลักษณะสาคัญ และผลกระทบของ๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
โดยได้เสนอกรอบแนวคิดในการวิจัยตามลักษณะตัวแปรอิสระและตัวแปรตาม ดังภาพที่ 1
ตัวแปรอิสระ ตัวแปรตาม
การจัดการเรียนการสอน
1. การสอนด้วยการปฏิบัติด้วยคอมพิวเตอร์
1. ประสิทธภาพของบทเรียนเรื่อง การแปลง
ข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง การแปลง
ข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ
ภาพที่ 1 กรอบแนวคิดการวิจัย
บทที่1(๶สร็จ)

More Related Content

What's hot (20)

๶ทคโนโลยีสารสȨทศ๶พื่อการเรียนรู้
๶ทคโนโลยีสารสȨทศ๶พื่อการเรียนรู้๶ทคโนโลยีสารสȨทศ๶พื่อการเรียนรู้
๶ทคโนโลยีสารสȨทศ๶พื่อการเรียนรู้
lalidawan
บทที่ 1 สารสนเทศ
บทที่ 1 สารสนเทศบทที่ 1 สารสนเทศ
บทที่ 1 สารสนเทศ
Pa'rig Prig
บท 2 แนวคิด๶กี่ยวกับการรู้สารสȨทศ
บท 2 แนวคิด๶กี่ยวกับการรู้สารสȨทศบท 2 แนวคิด๶กี่ยวกับการรู้สารสȨทศ
บท 2 แนวคิด๶กี่ยวกับการรู้สารสȨทศ
Pa'rig Prig
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
Auraiwan Worrasiri
1 ความ๶ป็Ȩาྺอง๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
1 ความ๶ป็Ȩาྺอง๶ทคโนโลยีสารสȨทศ1 ความ๶ป็Ȩาྺอง๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
1 ความ๶ป็Ȩาྺอง๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
KrooIndy Csaru
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
jongkoi
หน่วยที่ 2 การรู้สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษา
หน่วยที่ 2 การรู้สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษาหน่วยที่ 2 การรู้สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษา
หน่วยที่ 2 การรู้สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษา
Srion Janeprapapong
บทที่ 1 ๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
บทที่ 1 ๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสารบทที่ 1 ๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
บทที่ 1 ๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
may18323
Mk26 2 ppt กล -ม1 เทคโนโลย_สารสนเทศ
Mk26 2 ppt กล -ม1 เทคโนโลย_สารสนเทศMk26 2 ppt กล -ม1 เทคโนโลย_สารสนเทศ
Mk26 2 ppt กล -ม1 เทคโนโลย_สารสนเทศ
Kanokorn Thodsaphon
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
Nawaminthrachinuthit Bodindecha School
๶ทคโนโลยีสารสȨทศในชีวิตประจำวัน
๶ทคโนโลยีสารสȨทศในชีวิตประจำวัน๶ทคโนโลยีสารสȨทศในชีวิตประจำวัน
๶ทคโนโลยีสารสȨทศในชีวิตประจำวัน
kroobee
บทที่ 2 การรู้สารสนเทศ
บทที่ 2 การรู้สารสนเทศบทที่ 2 การรู้สารสนเทศ
บทที่ 2 การรู้สารสนเทศ
Pa'rig Prig
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
New Prapairin
๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับการประชาสัมพัȨ์
๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับการประชาสัมพัȨ์๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับการประชาสัมพัȨ์
๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับการประชาสัมพัȨ์
สราวุฒิ จบศรี
๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับชีวิตประจำวันอัง
๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับชีวิตประจำวันอัง๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับชีวิตประจำวันอัง
๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับชีวิตประจำวันอัง
pattaranit
ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ความสำคัญของ๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
ใบความรู้ที่ 1  เรื่อง ความสำคัญของ๶ทคโนโลยีสารสȨทศใบความรู้ที่ 1  เรื่อง ความสำคัญของ๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ความสำคัญของ๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
เทวัญ ภูพานทอง
๶ทคโนโลยีสารสȨทศ๶พื่อการเรียนรู้
๶ทคโนโลยีสารสȨทศ๶พื่อการเรียนรู้๶ทคโนโลยีสารสȨทศ๶พื่อการเรียนรู้
๶ทคโนโลยีสารสȨทศ๶พื่อการเรียนรู้
lalidawan
บทที่ 1 สารสนเทศ
บทที่ 1 สารสนเทศบทที่ 1 สารสนเทศ
บทที่ 1 สารสนเทศ
Pa'rig Prig
บท 2 แนวคิด๶กี่ยวกับการรู้สารสȨทศ
บท 2 แนวคิด๶กี่ยวกับการรู้สารสȨทศบท 2 แนวคิด๶กี่ยวกับการรู้สารสȨทศ
บท 2 แนวคิด๶กี่ยวกับการรู้สารสȨทศ
Pa'rig Prig
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
Auraiwan Worrasiri
1 ความ๶ป็Ȩาྺอง๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
1 ความ๶ป็Ȩาྺอง๶ทคโนโลยีสารสȨทศ1 ความ๶ป็Ȩาྺอง๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
1 ความ๶ป็Ȩาྺอง๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
KrooIndy Csaru
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
jongkoi
หน่วยที่ 2 การรู้สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษา
หน่วยที่ 2 การรู้สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษาหน่วยที่ 2 การรู้สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษา
หน่วยที่ 2 การรู้สารสนเทศกับการศึกษาระดับอุดมศึกษา
Srion Janeprapapong
บทที่ 1 ๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
บทที่ 1 ๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสารบทที่ 1 ๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
บทที่ 1 ๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
may18323
Mk26 2 ppt กล -ม1 เทคโนโลย_สารสนเทศ
Mk26 2 ppt กล -ม1 เทคโนโลย_สารสนเทศMk26 2 ppt กล -ม1 เทคโนโลย_สารสนเทศ
Mk26 2 ppt กล -ม1 เทคโนโลย_สารสนเทศ
Kanokorn Thodsaphon
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
Nawaminthrachinuthit Bodindecha School
๶ทคโนโลยีสารสȨทศในชีวิตประจำวัน
๶ทคโนโลยีสารสȨทศในชีวิตประจำวัน๶ทคโนโลยีสารสȨทศในชีวิตประจำวัน
๶ทคโนโลยีสารสȨทศในชีวิตประจำวัน
kroobee
บทที่ 2 การรู้สารสนเทศ
บทที่ 2 การรู้สารสนเทศบทที่ 2 การรู้สารสนเทศ
บทที่ 2 การรู้สารสนเทศ
Pa'rig Prig
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
New Prapairin
๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับการประชาสัมพัȨ์
๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับการประชาสัมพัȨ์๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับการประชาสัมพัȨ์
๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับการประชาสัมพัȨ์
สราวุฒิ จบศรี
๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับชีวิตประจำวันอัง
๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับชีวิตประจำวันอัง๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับชีวิตประจำวันอัง
๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับชีวิตประจำวันอัง
pattaranit
ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ความสำคัญของ๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
ใบความรู้ที่ 1  เรื่อง ความสำคัญของ๶ทคโนโลยีสารสȨทศใบความรู้ที่ 1  เรื่อง ความสำคัญของ๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ความสำคัญของ๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
เทวัญ ภูพานทอง

Similar to บทที่1(๶สร็จ) (20)

การบูรณาการสมรรถนะ๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสารและ๶ทคโนโลยีสารสȨทศเพื่อพัฒน...
การบูรณาการสมรรถนะ๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสารและ๶ทคโนโลยีสารสȨทศเพื่อพัฒน...การบูรณาการสมรรถนะ๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสารและ๶ทคโนโลยีสารสȨทศเพื่อพัฒน...
การบูรณาการสมรรถนะ๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสารและ๶ทคโนโลยีสารสȨทศเพื่อพัฒน...
Panita Wannapiroon Kmutnb
๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับชีวิตประจำวัน
๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับชีวิตประจำวัน๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับชีวิตประจำวัน
๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับชีวิตประจำวัน
Chaiwit Khempanya
E learning กับ social media จะไปด้วยกันอย่างไรเพื่อพัฒนาการศึกษาไทย
E learning กับ social media จะไปด้วยกันอย่างไรเพื่อพัฒนาการศึกษาไทยE learning กับ social media จะไปด้วยกันอย่างไรเพื่อพัฒนาการศึกษาไทย
E learning กับ social media จะไปด้วยกันอย่างไรเพื่อพัฒนาการศึกษาไทย
Kobwit Piriyawat
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Chalita Vitamilkz
โครงงาȨทคโนโลยีสารสȨทศ
โครงงาȨทคโนโลยีสารสȨทศโครงงาȨทคโนโลยีสารสȨทศ
โครงงาȨทคโนโลยีสารสȨทศ
Inam Chatsanova
คำอธิบายรายวิชา
คำอธิบายรายวิชาคำอธิบายรายวิชา
คำอธิบายรายวิชา
Naitbuu
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
kanokwan8941
201700 problem based learning
201700 problem based learning201700 problem based learning
201700 problem based learning
Isaiah Thuesayom
201700 problem based learning
201700 problem based learning201700 problem based learning
201700 problem based learning
Dao Msu
Chapter 8 information technology in education
Chapter 8 information technology in educationChapter 8 information technology in education
Chapter 8 information technology in education
Isaiah Thuesayom
๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
๶ทคโนโลยีสารสȨทศ๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
nut jpt
บทที่ 1
บทที่ 1บทที่ 1
บทที่ 1
Rathapon Silachan
การบูรณาการสมรรถนะ๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสารและ๶ทคโนโลยีสารสȨทศเพื่อพัฒน...
การบูรณาการสมรรถนะ๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสารและ๶ทคโนโลยีสารสȨทศเพื่อพัฒน...การบูรณาการสมรรถนะ๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสารและ๶ทคโนโลยีสารสȨทศเพื่อพัฒน...
การบูรณาการสมรรถนะ๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสารและ๶ทคโนโลยีสารสȨทศเพื่อพัฒน...
Panita Wannapiroon Kmutnb
๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับชีวิตประจำวัน
๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับชีวิตประจำวัน๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับชีวิตประจำวัน
๶ทคโนโลยีสารสȨทศกับชีวิตประจำวัน
Chaiwit Khempanya
E learning กับ social media จะไปด้วยกันอย่างไรเพื่อพัฒนาการศึกษาไทย
E learning กับ social media จะไปด้วยกันอย่างไรเพื่อพัฒนาการศึกษาไทยE learning กับ social media จะไปด้วยกันอย่างไรเพื่อพัฒนาการศึกษาไทย
E learning กับ social media จะไปด้วยกันอย่างไรเพื่อพัฒนาการศึกษาไทย
Kobwit Piriyawat
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
02 บทที่ 2-เอกสารที่เกี่ยวข้อง
Chalita Vitamilkz
โครงงาȨทคโนโลยีสารสȨทศ
โครงงาȨทคโนโลยีสารสȨทศโครงงาȨทคโนโลยีสารสȨทศ
โครงงาȨทคโนโลยีสารสȨทศ
Inam Chatsanova
คำอธิบายรายวิชา
คำอธิบายรายวิชาคำอธิบายรายวิชา
คำอธิบายรายวิชา
Naitbuu
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
๶ทคโนโลยีสารสȨทศและการสื่อสาร
kanokwan8941
201700 problem based learning
201700 problem based learning201700 problem based learning
201700 problem based learning
Dao Msu
Chapter 8 information technology in education
Chapter 8 information technology in educationChapter 8 information technology in education
Chapter 8 information technology in education
Isaiah Thuesayom
๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
๶ทคโนโลยีสารสȨทศ๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
nut jpt

More from Annop Phetchakhong (10)

สรุปผลการประ๶มิȨวามพึงพอใจ
สรุปผลการประ๶มิȨวามพึงพอใจสรุปผลการประ๶มิȨวามพึงพอใจ
สรุปผลการประ๶มิȨวามพึงพอใจ
Annop Phetchakhong
โครงการติวเตอร์ เตรียมลุยข้อสอบปลายภาค
โครงการติวเตอร์ เตรียมลุยข้อสอบปลายภาคโครงการติวเตอร์ เตรียมลุยข้อสอบปลายภาค
โครงการติวเตอร์ เตรียมลุยข้อสอบปลายภาค
Annop Phetchakhong
กิตติกรรมประกาศ (เสร็จ)
กิตติกรรมประกาศ (เสร็จ)กิตติกรรมประกาศ (เสร็จ)
กิตติกรรมประกาศ (เสร็จ)
Annop Phetchakhong
ใหม่ _ชื่อโครงการ โครงการ ติวเตอร์ เตรียมลุยข้อสอบกลางภาค วิชาเทคโนโลยีสา...
ใหม่  _ชื่อโครงการ  โครงการ ติวเตอร์ เตรียมลุยข้อสอบกลางภาค   วิชาเทคโนโลยีสา...ใหม่  _ชื่อโครงการ  โครงการ ติวเตอร์ เตรียมลุยข้อสอบกลางภาค   วิชาเทคโนโลยีสา...
ใหม่ _ชื่อโครงการ โครงการ ติวเตอร์ เตรียมลุยข้อสอบกลางภาค วิชาเทคโนโลยีสา...
Annop Phetchakhong
สรุปผลการประ๶มิȨวามพึงพอใจ
สรุปผลการประ๶มิȨวามพึงพอใจสรุปผลการประ๶มิȨวามพึงพอใจ
สรุปผลการประ๶มิȨวามพึงพอใจ
Annop Phetchakhong
โครงการติวเตอร์ เตรียมลุยข้อสอบปลายภาค
โครงการติวเตอร์ เตรียมลุยข้อสอบปลายภาคโครงการติวเตอร์ เตรียมลุยข้อสอบปลายภาค
โครงการติวเตอร์ เตรียมลุยข้อสอบปลายภาค
Annop Phetchakhong
กิตติกรรมประกาศ (เสร็จ)
กิตติกรรมประกาศ (เสร็จ)กิตติกรรมประกาศ (เสร็จ)
กิตติกรรมประกาศ (เสร็จ)
Annop Phetchakhong
ใหม่ _ชื่อโครงการ โครงการ ติวเตอร์ เตรียมลุยข้อสอบกลางภาค วิชาเทคโนโลยีสา...
ใหม่  _ชื่อโครงการ  โครงการ ติวเตอร์ เตรียมลุยข้อสอบกลางภาค   วิชาเทคโนโลยีสา...ใหม่  _ชื่อโครงการ  โครงการ ติวเตอร์ เตรียมลุยข้อสอบกลางภาค   วิชาเทคโนโลยีสา...
ใหม่ _ชื่อโครงการ โครงการ ติวเตอร์ เตรียมลุยข้อสอบกลางภาค วิชาเทคโนโลยีสา...
Annop Phetchakhong

บทที่1(๶สร็จ)

  • 1. บทที่ 1 บทนา ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา โลกปัจจุบันได้ก้าวเข้าสู่ยุค “สังคมการเรียนรู้ (Knowledge Society) “ ความมั่นคงและ ความผาสุกของแต่ละสังคม ไม่ได้ขึ้นอยู่กับทรัพยากรหรือกาลังอาวุธต่อไป หากขึ้นอยู่กับ “ ภูมิ ปัญญา” เป็นหลัก จึงทาให้ประเทศต่าง ๆ ได้ให้ความสนใจกับการจัดการศึกษา เน้นการสร้างภูมิ ปัญญาของแต่ละสังคมให้มีศักยภาพสูง เข้มแข็งเพียงพอแก่ภาคการผลิต รวมทั้งการนาไปสู่ความ เป็นปรึกแผ่นของสังคม ๶ทคโนโลยีสารสȨทศ (Information Technology: IT) เป็นเทคโนโลยีที่ผสมผสานกัน ระหว่างเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีโทรคมนาคม (Computer & Telecommunications Technology) ที่มีส่วนสาคัญต่อการนาสารสนเทศซึ่งประกอบด้วยข้อมูล (data) ข่าวสาร (information) และความรู้ (knowledge) ให้สามารถลื่นไหลได้สะดวกรวดเร็วเป็นปัจจัยในการ ดาเนินงานกิจการงานต่างๆ ปัจจุบันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ซึ่งประกอบด้วยเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ และ เทคโนโลยีด้านการสื่อสารมีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น ส่งผลทาให้ไม่ว่าอยู่ ณ ที่ใดของโลกก็ สามารถติดต่อสื่อสารกันได้ทันที ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีความสาคัญและมีประโยชน์ในด้านต่างๆ มากมาย ทั้งทางการติดต่อสื่อสารกันได้ทันที ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีความสาคัญและมีประโยชน์ในด้านต่าง ๆ มากมาย ทั้งด้านการติดต่อสื่อสาร ด้านธุรกิจการค้าและบริการ และทางด้านการศึกษาเทคโนโลยี สารสนเทศ สามารถนามาใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนได้เป็นอย่างดี ดังนั้น ผู้วิจัยจึงมีความสนใจการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ (ง21104) เรื่องการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนวัดราชโอรส ภาคเรียนที่ 2/2556 เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพสื่อตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 และพัฒนาระดับคุณภาพผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา๶ทคโนโลยีสารสȨทศของนักเรียน และเพื่อ เป็นประโยชน์สาหรับนักเรียนในการเรียนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
  • 2. วัตถุประสงค์การวิจัย การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้กาหนดวัตถุประสงค์ ไว้ดังนี้ 1. เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของนักเรียนแต่ละห้อง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/5 และ 1/8 เรื่องการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ของโรงเรียนวัดราชโอรส 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/5 และ 1/8 เรื่องการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ในห้องเรียน 3. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 1/5 และ 1/8 เรื่องการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้และความใจใน การทาแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน สมมติฐานการวิจัย หลังจากได้ทาการเรียนการสอน รวมทั้งการปฏิบัติการลงมือทานักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1/5 และ 1/8 เรื่องการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ จานวน 70 คน โดยใช้สื่อการ จัดการเรียนการสอนและแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน โดยการวิจัยนี้มีสมมุติฐานการวิจัย คือ 1. บทเรียนวิชา๶ทคโนโลยีสารสȨทศ (ง21104) เรื่องการประมวลผลข้อมูลให้เป็น สารสนเทศ มีประสิทธิภาพ 80/80 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนได้รับการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1/5 และ 1/8 เรื่องการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ จะต้องมีความเข้าใจในการเรียนรู้ ในห้องเรียน 3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1/5 และ 1/8 เรื่องการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ จะต้องมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่า คะแนนก่อนเรียน ขอบเขตของการวิจัย ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ประชากร ได้แก่นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนวัดราชโอรส แขวงบางค้อ เขตจอมทอง จังหวัดกรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 มีการเรียนการสอนตั้งแต่ ม.1/1 - ม.1/11 จานวน 517 คน
  • 3. กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนวัดราชโอรส แขวงบางค้อ เขตจอมทอง จังหวัดกรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 โดยเลือกห้องนักเรียนที่มี นักเรียนจานวนเท่ากัน คือ 47 คน ได้แก่ ห้อง มัธยมศึกษาปีที่ 1/5 และ มัธยมศึกษาปีที่ 1/8 ซึ่งมี ระดับผลการเรียนเฉลี่ยใกล้เคียงกัน ตัวแปรที่ศึกษา ตัวแปรอิสระ ได้แก่ การจัดการเรียนการสอน ตัวแปรตาม ได้แก่ 1. ประสิทธิภาพของบทเรียน เรื่อง การประมวลผลข้อมูลให้ เป็นสารสนเทศ 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการประมวลผลข้อมูลให้ เป็นสารสนเทศ เนื้อหาเรื่อง ข้อมูล และ สารสนเทศ โดยมีหัวข้อย่อยดังนี้ - ความหมายของข้อมูล - ประเภทของข้อมูล - ความหมายของสารสนเทศ - ประเภทของสารสนเทศ เนื้อหาเรื่อง การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ โดยมีหัวข้อย่อยดังนี้ - วิธีการประมวลผลข้อมูล - การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ เนื้อหาเรื่อง ลักษณะสาคัญและผลกระทบของสารสนเทศ โดยมีหัวข้อย่อยดังนี้ - การจัดการสารสนเทศ - ระดับของสารสนเทศ - ลักษณะสาคัญของ๶ทคโนโลยีสารสȨทศ - ผลกระทบของ๶ทคโนโลยีสารสȨทศ
  • 4. ประโยชน์ที่ได้รับจากการวิจัย ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการวิจัยมีดังต่อไปนี้ 1. ช่วยให้ครูผู้สอนมีความรู้ความเข้าใจขั้นตอนการประมวลผล และนามาปฏิบัติจริงใน การเรียนการสอนในวิชาการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/5 และ 1/8 2. เป็นแนวทางในการพัฒนาการการประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ สาหรับการ เรียนการสอนแบบบูรณาการในรายวิชาอื่น ๆ ต่อไป 3. เป็นแนวทางสาหรับพัฒนาบทเรียนการสอนในอนาคต ให้น่าสนใจยิ่งขึ้น สามารถทา สิ่งที่เป็นนามธรรมให้เป็นรูปธรรมมากขั้น และประสิทธิภาพของบทเรียนสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อ การเรียนการสอนโดยรวม 4. แนวทางการสอนของครูสามารถนาไปปรับปรุงและสามารถใช้เป็นเครื่องมือของครู และนักเรียนในกระบวนการเรียนการสอนในอนาคต นิยามศัพท์เฉพาะ 1. การเปรียบเทียบ หมายถึง การเปรียบเทียบทางการเรียนของนักเรียน 2 ห้องเรียน ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/5 จานวน 47 คน และ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/8 จานวน 47 คน 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง คะแนนของนักเรียนที่ได้จากการสอบ ก่อนเรียนและ หลังเรียน เรื่อง การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ซึ่งเป็นข้อสอบแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จานวน 30 ข้อ คะแนนเต็ม 30 คะแนน 3. ผลสัมฤทธิ์ประสิทธิภาพของบทเรียน หมายถึง คุณภาพของบทเรียน ตามเกณฑ์ ประสิทธิภาพ 80/80 80 ตัวแรก หมายถึง ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่นักเรียนได้รับจากการทา แบบฝึกหัดการปฏิบัติด้วยคอมพิวเตอร์ โปรแกรม Microsoft Excel 2010 เรื่องการประมวลผล ข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ การจัดการสารสนเทศ การจัดตารางและใส่ข้อมูลลงในเซลตาราง การ จัดการสารสนเทศ การทาสารวจ แบบสอบถาม การแทรกสารสนเทศเข้ากับโปรแกรมนาเสนอ ถูกต้องเฉลี่ยร้อยละ 80 80 ตัวหลัง หมายถึง ร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่นักเรียนได้รับการทาแบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์หลังเรียน เรื่อง การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ การจัดการสารสนเทศ
  • 5. การจัดตารางและใส่ข้อมูลลงในเซลตาราง การจัดการสารสนเทศ การทาสารวจ แบบสอบถาม การแทรกสารสนเทศเข้ากับโปรแกรมนาเสนอถูกต้องเฉลี่ยร้อยละ 80 4. กลุ่มทดลอง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/5 จานวน 47 คน และนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที 1/8 จานวน 47 คน 5. นักเรียน หมายถึง นักเรียนโรงเรียนวัดราชโอรส สังกัด สพม.เขต1 ถนนเอกชัย แขวง บางค้อ เขตจอมทอง จังหวัดกรุงเทพมหานคร ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1/5 และ 1/8 6. วิชา๶ทคโนโลยีสารสȨทศ หมายถึง วิชาการแปลงข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ กรอบแนวคิดในการวิจัย การวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ศึกษาเนื้อหาและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชา๶ทคโนโลยีสารสȨทศ มาเป็นกรอบแนวคิด โดยใช้การศึกษาเกี่ยวกับหลักสูตร แนวการจัดการ เรียนการสอน วิชา๶ทคโนโลยีสารสȨทศ (ง21104) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/5 และ 1/8 เรื่องการ ประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อนามาพัฒนาและหา ประสิทธิภาพของการศึกษาของนักเรียนแต่ละห้องเรียน โดยมีการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ผู้วิจัยสร้างแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยยึดตามเทคนิคการวัดผลการเรียนรู้ โดยศึกษา เนื้อหาและจุดประสงค์การเรียนรู้วิชา๶ทคโนโลยีสารสȨทศ (ง21104) เรื่องการแปลงข้อมูลให้เป็น สารสนเทศ จากแบบเรียนและคู่มือครู แบ่งตามเนื้อหา ดังนี้ 1. รู้จักข้อมูล และสารสนเทศ 2. การประมวลผลข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ 3. ลักษณะสาคัญ และผลกระทบของ๶ทคโนโลยีสารสȨทศ โดยได้เสนอกรอบแนวคิดในการวิจัยตามลักษณะตัวแปรอิสระและตัวแปรตาม ดังภาพที่ 1 ตัวแปรอิสระ ตัวแปรตาม การจัดการเรียนการสอน 1. การสอนด้วยการปฏิบัติด้วยคอมพิวเตอร์ 1. ประสิทธภาพของบทเรียนเรื่อง การแปลง ข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง การแปลง ข้อมูลให้เป็นสารสนเทศ ภาพที่ 1 กรอบแนวคิดการวิจัย