ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
สุ นทรภู่กวีเอกไทย




ถ้าเอ่ยชื่อ "สุ นทรภู่" เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จกกวีชาวไทยที่มีชื่อเสี ยงก้องโลก โดยเฉพาะ
                                                     ั
กลอนนิทานเรื่ อง "พระอภัยมณี " จนได้รับยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็ นบุคคลสาคัญของ
 โลก ด้ านงานวรรณกรรม หรือ “มหากวีแห่ งรัตนโกสิ นทร์ " หรือ “เชกสเปี ยร์ แห่ งประเทศ
                              ่
ไทย" และคงเป็ นที่ทราบกันดีอยูแล้วว่า "วันที่ 26 มิถุนายน" ของทุกปี คือ "วันสุ นทรภู่" ซึ่ง
มักจะมีการจัดนิทรรศการ ประกวดแต่งคากลอน เพื่อแสดงถึงการราลึกถึง เพราะฉะนั้น วันนี้
      กระปุกดอทคอมจึงไม่พลาด ขอพาไปเปิ ดประวัติ "วันสุ นทรภู่" ให้มากขึ้นครับ
ชีวประวัติ "สุ นทรภู่"
สุ นทรภู่ กวีสาคัญสมัยต้นรัตนโกสิ นทร์ เกิดวันจันทร์ เดือน 8 ขึ้น 1 ค่า ปี มะเมีย จุลศักราช 1148 เวลา 2 โมง
   เช้า หรื อตรงกับวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2329 เวลา 8.00 น. นันเอง ซึ่ งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุ ง
                                                               ่
รัตนโกสิ นทร์ ณ บริ เวณด้านเหนือของพระราชวังหลัง (บริ เวณสถานีรถไฟบางกอกน้อยปัจจุบน) บิดาของ
                                                                                  ั
 ท่านเป็ นชาวกร่ า อาเภอแกลง จังหวัดระยอง ชื่อพ่อพลับ ส่ วนมารดาเป็ นชาวเมืองฉะเชิงเทรา ชื่ อแม่ชอย
                                                                                                 ้
 สันนิษฐานว่ามารดาเป็ นข้าหลวงอยูในพระราชวังหลัง เชื่ อว่าหลังจากสุ นทรภู่เกิดได้ไม่นาน บิดามารดาก็
                                 ่
                           ่ ั
หย่าร้างกัน บิดาออกไปบวชอยูที่วดป่ ากร่ า ตาบลบ้านกร่ า อาเภอแกลง อันเป็ นภูมิลาเนาเดิม ส่ วนมารดาได้
           ่
  เข้าไปอยูในพระราชวังหลัง ถวายตัวเป็ นนางนมของพระองค์เจ้าหญิงจงกล พระธิ ดาในเจ้าฟ้ ากรมหลวง
     อนุรักษ์เทเวศร์ ดังนั้น สุ นทรภู่จึงได้อยูในพระราชวังหลังกับมารดา และได้ถวายตัวเป็ นข้าในกรม
                                               ่
             พระราชวังหลัง ซึ่ งสุ นทรภู่ยงมีนองสาวต่างบิดาอีกสองคน ชื่อฉิ มและนิ่ม อีกด้วย
                                          ั ้


         "สุ นทรภู่" ได้รับการศึกษาในพระราชวังหลังและที่วดชีปะขาว (วัดศรี สุดาราม) ต่อมาได้เข้ารับ
                                                         ั
ราชการเป็ นเสมียนนายระวางกรมพระคลังสวน ในกรมพระคลังสวน แต่ไม่ชอบทางานอื่นนอกจากแต่งบท
 กลอน ซึ่ งสามารถแต่งได้ดีต้ งแต่ยงรุ่ นหนุ่ม เพราะตั้งแต่เยาว์วยสุ นทรภู่มีนิสัยรักแต่งกลอนยิงกว่างานอื่น
                             ั ั                                ั                             ่
  ครั้งรุ่ นหนุ่มก็ไปเป็ นครู สอนหนังสื ออยูที่วดศรี สุดารามในคลองบางกอกน้อย ได้แต่งกลอนสุ ภาษิตและ
                                            ่ ั
                                   กลอนนิทานขึ้นไว้ เมื่ออายุราว 20 ปี


      ต่อมาสุ นทรภู่ลอบรักกับนางข้าหลวงในวังหลังคนหนึ่ง ชื่อแม่จน ซึ่ งเป็ นบุตรหลานผูมีตระกูล จึงถูก
                                                                ั                     ้
กรมพระราชวังหลังกริ้ วจนถึงให้โบยและจาคุกคนทั้งสอง แต่เมื่อกรมพระราชวังหลังเสด็จทิวงคตในปี พ.ศ.
2349 จึงมีการอภัยโทษแก่ผถูกลงโทษทั้งหมดถวายเป็ นพระราชกุศล หลังจากสุ นทรภู่ออกจากคุก เขากับแม่
                        ู้
                                                                                          ่
 จันก็เดินทางไปหาบิดาที่ อาเภอแกลง จังหวัดระยอง และมีบุตรด้วยกัน 1 คน ชื่อ “พ่อพัด” ได้อยูในความ
อุปการะของเจ้าครอกทองอยู่ ส่ วนสุ นทรภู่กบแม่จนก็มีเรื่ องระหองระแหงกันเสมอ จนภายหลังก็เลิกรากัน
                                         ั    ั
                                                   ไป


        หลังจากนั้น สุ นทรภู่ ก็เดินทางเข้าพระราชวังหลัง และมีโอกาสได้ติดตามพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ใน
ฐานะมหาดเล็ก ตามเสด็จไปในงานพิธีมาฆบูชา ที่อาเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2350 และ
เขาก็ได้แต่ง “นิราศพระบาท” พรรณนาเหตุการณ์ในการเดินทางคราวนี้ดวย และหลังจาก “นิราศพระบาท”
                                                              ้
                                 ก็ไม่ปรากฏผลงานใดๆ ของสุ นทรภู่อีกเลย


       จนกระทังเข้ารับราชการในปี พ.ศ. 2359 ในรัชสมัยรัชกาลที่ 2 สุ นทรภู่ได้เข้ารับราชการในกรมพระ
              ่
อาลักษณ์ และเป็ นที่โปรดปรานของพระบาทสม๶ึϹจพระพุทธ๶ลิศหล้านภาลัย จนแต่งตั้งให้เป็ นกวีที่ปรึ กษา
 และคอยรับใช้ใกล้ชิด เนื่องจากเมื่อครั้งที่พระบาทสม๶ึϹจพระพุทธ๶ลิศหล้านภาลัยทรงแต่งกลอนบทละคร
ในเรื่ อง "รามเกียรติ์" ติดขัดไม่ มผ้ ใดต่ อกลอนได้ ต้องพระราชหฤทัย จึงโปรดให้ สุȨรภู่ทดลองแต่ ง ปรากฏ
                                   ี ู
             ว่าแต่ งได้ ดีเป็ นทีพอพระทัย จึงทรงพระกรุ ณาฯ เลือนให้ เป็ น "ขุนสุ นทรโวหาร"
                                  ่                            ่


      ต่อมาในราว พ.ศ. 2364 สุ นทรภู่ตองติดคุกเพราะเมาสุ ราอาละวาดและทาร้ายท่านผูใหญ่ แต่ติดอยูไม
                                     ้                                          ้             ่
 นานก็พนโทษ เนื่องจากพระบาทสม๶ึϹจพระพุทธ๶ลิศหล้านภาลัยทรงติดขัดบทพระราชนิพนธ์เรื่ อง "สั งข์
       ้
  ทอง" ไม่มีใครแต่งได้ตองพระทัย ทรงให้สุȨรภู่ทดลองแต่งก็เป็ นที่พอพระราชหฤทัยภายหลังพ้นโทษ
                       ้
สุ นทรภู่ได้เป็ นพระอาจารย์ถวายอักษรสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ าอาภรณ์ พระราชโอรสในรัชกาลที่ 2
  และ เชื่อกันว่าสุ นทรภู่แต่งเรื่ อง "สวัสดิรักษา" ในระหว่างเวลานี้ ซึ่ งในระหว่างรับราชการอยูน้ ี สุ นทรภู่
                                                                                               ่
                                     ั
                         แต่งงานใหม่กบแม่นิ่ม มีบุตรด้วยกันหนึ่งคน ชื่อ "พ่อตาบ


      "สุ นทรภู่" รับราชการอยูเ่ พียง 8 ปี เมื่อถึงปี พ.ศ. 2367 พระบาทสม๶ึϹจพระพุทธ๶ลิศหล้านภาลัยเสด็จ
สวรรคต หลังจากนั้นสุ นทรภู่ก็ออกบวชที่วดราชบูรณะ (วัดเลียบ) อยูเ่ ป็ นเวลา 18 ปี ระหว่างนั้นได้ยายไปอยู่
                                       ั                                                        ้
วัดต่างๆ หลายแห่ง ได้แก่ วัดเลียบ, วัดแจ้ง, วัดโพธิ์ , วัดมหาธาตุ และวัดเทพธิ ดาราม ซึ่ งผลจากการที่ภิกษุภู่
เดินทางธุ ดงค์ไปที่ต่างๆ ทัวประเทศ ปรากฏผลงานเป็ นนิ ราศเรื่ องต่างๆ มากมาย งานเขียนชิ้นสุ ดท้ายที่ภิกษุ
                           ่
   ภู่แต่งไว้ก่อนลาสิ กขาบท คือ ราพันพิลาป โดยแต่งขณะจาพรรษาอยูที่วดเทพธิ ดาราม พ.ศ. 2385 ทั้งนี้
                                                               ่ ั
ระหว่างที่ออกเดินทางธุ ดงค์ ภิกษุภ่ได้รับการอุปการะจากพระองค์เจ้าลักขณานุคุณจนพระองค์ประชวรสิ้ น
                                   ู
  พระชมน์ สุ นทรภู่จึงลาสิ กขาบท รวมอายุพรรษาที่บวชได้ประมาณ 10 พรรษา สุ นทรภู่ออกมาตกระกา
         ่ ั
 ลาบากอยูพกหนึ่งจึงกลับเข้าไปบวชอีกครั้งหนึ่ง แต่ อยู่ได้ เพียง 2 พรรษา ก็ลาสิ กขาบท และถวายตัวอยู่กบ
                                                                                                    ั
เจ้ าฟาน้ อย หรือสมเด็จเจ้ าฟาจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ พระราชวังเดิม รวมทั้งได้ รับอุปการะจากกรม
      ้                      ้
                                         หมื่นอัปสรสุ ดาเทพอีกด้ วย


                                                           ่ ั
      ในสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยูหว ได้ครองราชย์ ทรงสถาปนาเจ้าฟ้ า กรม
ขุนอิศเรศรังสรรค์ เป็ นพระบาทสมเด็จพระปิ่ นกล้าเจ้าอยูหว ประทับอยูวงหน้า (พระบวรราชวัง) สุ นทรภู่จึง
                                                      ่ ั         ่ั
ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ น "พระสุ นทรโวหาร" ตาแหน่งเจ้ากรมพระอาลักษณ์ฝ่ายบวรราชวังในปี
พ.ศ. 2394 และรับราชการต่อมาได้ 4 ปี ก็ถึงแก่มรณกรรมใน พ.ศ. 2398 รวมอายุได้ 70 ปี ในเขตพระราชวัง
              เดิม ใกล้หอนังของพระยามนเทียรบาล (บัว) ที่เรี ยกชื่อกันว่า "ห้ องสุ นทรภู่"
                           ่


      สาหรับทายาทของสุ นทรภู่น้ น เชื่อกันว่าสุ นทรภู่มีบุตรชาย 3 คน คือ"พ่อพัด" เกิดจากภรรยาคนแรก
                                ั
คือแม่จน "พ่อตาบ" เกิดจากภรรยาคนที่สองคือแม่นิ่ม และ "พ่อนิล" เกิดจากภรรยาที่ชื่อแม่ม่วง นอกจากนี้
       ั
 ปรากฏชื่อบุตรบุญธรรมอีกสองคน ชื่อ "พ่อกลัน" และ "พ่อชุบ" อย่างไรก็ตาม ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ
                                          ่
 พระมงกุฎเกล้ าเจ้ าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ทรงตราพระราชบัญญัตินามสกุลขึน และตระกูลของสุ นทรภู่ได้ ใช้
                                                                      ้
                                    นามสกุลต่ อมาว่ า "ภู่เรือหงส์ "
ผลงานของสุ นทรภู่
         ื
    หนังสอบทกลอนของสุนทรภูมอยูมาก เท่าทีปรากฏเรืองทียงมีฉบับอยูในปั จจุบันนีคอ…
                          ่ ี ่         ่       ่   ่ ั        ่            ้ ื

ประเภทนิราศ
      - นิราศเมืองแกลง (พ.ศ. 2349) - แต่งเมื่อหลังพ้นโทษจากคุก และเดินทางไปหาพ่อที่เมืองแกลง

      - นิราศพระบาท (พ.ศ. 2350) - แต่งหลังจากกลับจากเมืองแกลง และต้องตามเสด็จพระองค์เจ้าปฐม
วงศ์ไปนมัสการรอยพระพุทธบาทที่จงหวัดสระบุรีในวันมาฆบูชา
                                  ั

                                                         ่
      - Ȩราศภูเขาทอง (ประมาณ พ.ศ. 2371) - แต่งโดยสมมุติวา เณรหนูพด เป็ นผูแต่งไปนมัสการพระเจดีย ์
                                                                  ั        ้
ภูเขาทองที่จงหวัดอยุธยา
            ั

      - นิราศสุ พรรณ (ประมาณ พ.ศ. 2374) - แต่งเมื่อครั้งยังบวชอยู่ และไปค้นหายาอายุวฒนะที่จงหวัด
                                                                                    ั      ั
สุ พรรณบุรี เป็ นผลงานเรื่ องเดียวของสุ นทรภู่ที่แต่งเป็ นโคลง

      - นิราศวัดเจ้าฟ้ า (ประมาณ พ.ศ. 2375) - แต่งเมื่อครั้งยังบวชอยู่ และไปค้นหายาอายุวฒนะตามลาย
                                                                                        ั
แทงที่วดเจ้าฟ้ าอากาศ (ไม่ปรากฏว่าที่จริ งคือวัดใด) ที่จงหวัดอยุธยา
        ั                                               ั

      - นิราศอิเหนา (ไม่ปรากฏ, คาดว่าเป็ นสมัยรัชกาลที่ 3) แต่งเป็ นเนื้ อเรื่ องอิเหนาราพันถึงนางบุษบา

                                                         ่ ั
      - ราพันพิลาป (พ.ศ. 2385) - แต่งเมื่อครั้งจาพรรษาอยูที่วดเทพธิ ดาราม แล้วเกิดฝันร้ายว่าชะตาขาด จึง
บันทึกความฝันพร้อมราพันความอาภัพของตัวไว้เป็ น "ราพันพิลาป" จากนั้นจึงลาสิ กขาบท

      - นิราศพระประธม (พ.ศ. 2385) –เชื่อว่าแต่งเมื่อหลังจากลาสิ กขาบทและเข้ารับราชการในพระบาท
                          ่ ั
สมเด็จพระปิ่ นเกล้าเจ้าอยูหว ไปนมัสการพระประธมเจดีย ์ (หรื อพระปฐมเจดีย)์ ที่เมืองนครชัยศรี

                                                                                                      ่ ั
        - นิราศเมืองเพชร (พ.ศ. 2388) - แต่งเมื่อเข้ารับราชการในพระบาทสมเด็จพระปิ่ นเกล้าเจ้าอยูหว เชื่อว่า
ไปธุ ระราชการอย่างใดอย่างหนึ่ง นิ ราศเรื่ องนี้มีฉบับค้นพบเนื้อหาเพิ่มเติมซึ่ ง อ.ล้อม เพ็งแก้ว เชื่อว่า บรรพ
บุรุษฝ่ ายมารดาของสุ นทรภู่เป็ นชาวเมืองเพชร
ประเภทนิทาน
เรื่ องโคบุตร, เรื่ องพระอภัยมณี , เรื่ องพระไชยสุ ริยา, เรื่ องลักษณวงศ์, เรื่ องสิ งหไกรภพ
ประเภทสุ ภาษิต

       - สวัสดิรักษา- คาดว่าประพันธ์ในสมัยรัชกาลที่ 2 ขณะเป็ นพระอาจารย์ถวายอักษรแด่เจ้าฟ้ าอาภรณ์


      - สุ ภาษิตสอนหญิง - เป็ นหนึ่งในผลงานซึ่ งยังเป็ นที่เคลือบแคลงว่า สุ นทรภู่เป็ นผูประพันธ์จริ งหรื อไม่
                                                                                         ้


      - เพลงยาวถวายโอวาท - คาดว่าประพันธ์ในสมัยรัชกาลที่ 3 ขณะเป็ นพระอาจารย์ถวายอักษรแด่เจ้าฟ้ า
                                             กลางและเจ้าฟ้ าปิ๋ ว
                                            ประเภทบทละคร

           - เรื่องอภัยณุรา ซึ่ งเขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เพื่อถวายพระองค์เจ้าดวงประภา พระธิดาใน
                                                                    ่ ั
                                    พระบาทสมเด็จพระปิ่ นเกล้าเจ้าอยูหว
                                            ประเภทบทเสภา

                                   - เรื่องขุนช้ างขุนแผน (ตอนกาเนิดพลายงาม)


                                             - เรื่องพระราชพงศาวดาร
                                          ประเภทบทเห่ กล่อม

             แต่งขึ้นสาหรับใช้ขบกล่อมหม่อมเจ้าในพระองค์เจ้าลักขณานุคุณ กับพระเจ้าลูกยาเธอใน
                               ั
                                ่ ั
พระบาทสมเด็จพระปิ่ นเกล้าเจ้าอยูหว เท่าที่พบมี 4 เรื่ องคือ เห่ จบระบา, เห่เรื่ องพระอภัยมณี , เห่เรื่ องโคบุตร
                                                                 ั
                                      เห่เรื่ องพระอภัยมณี , เห่เรื่ องกากี
ตัวอย่ างวรรคทองที่มีชื่อเสี ยงของสุ นทรภู่
              ่ ุ    ่    ิ
ด ้วยความทีสนทรภูเป็ นศลปิ นเอกทีมผลงานทางวรรณกรรม วรรณคดีมากมาย ทาให ้ผลงาน
                                 ่ ี
                                                            ึ
หลาย ๆ เรืองของ สุȨรภู่ ถูกนาไปเป็ นบทเรียนให ้เด็กไทยได ้ศกษา จึงทาให ้มีหลาย ๆ บท
            ่
ประพันธ์ทคุ ้นหู หรือ "วรรคทอง" ยกตัวอย่างเช
         ี่                                  ่น

   บางตอนจาก Ȩราศภูเขาทอง

                             ถึงโรงเหล ้าเตากลั่นควันโขมง
                               มีคันโพงผูกสายไว ้ปลายเสา
                             โอ ้บาปกรรมน้ านรกเจียวอกเรา
                           ให ้มัวเมาเหมือนหนึงบ ้าเป็ นน่าอาย
                                              ่

                              ทาบุญบวชกรวดน้ าขอสาเร็จ
                           สรรเพชญโพธิญาณประมาณหมาย
                               ถึงสุราพารอดไม่วอดวาย
                             ไม่ใกล ้กรายแกล ้งเมินก็เกินไป

                             ไม่เมาเหล ้าแล ้วแต่เรายังเมารัก
                                 สุดจะหักห ้ามจิตคิดไฉน
                                              ้
                              ถึงเมาเหล ้าเชาสายก็หายไป
                              แต่เมาใจนีประจาทุกคาคืนฯ
                                          ้           ่




                               ถึงบางพูดพูดดีเป็ นศรีศักดิ์
                                 มีคนรักรสถ ้อยอร่อยจิต
                                       ั่
                              แม ้นพูดชวตัวตายทาลายมิตร
                             จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา


   บางตอนจาก นิราศอิเหนา

                                 จะหักอืนขืนหักก็จักได ้
                                           ่
                               หักอาลัยนีไม่หลุดสุดจะหัก
                                             ้
                               สารพัดตัดขาดประหลาดนัก
                              แต่ตัดรักนีไม่ขาดประหลาดใจ
                                         ้

   บางตอนจาก พระอภ ัยมณี

                             บัดเดียวดังหงั่งเหง่งวังเวงแว่ว
                                    ๋
                              สะดุ ้งแล ้วเหลียวแลชะแง ้หา
                                 เห็นโยคีขรุ ้งพุงออกมา
                                              ี่ ่
                             ประคองพาขึนไปจนบนบรรพต
                                            ้
แล ้วสอนว่าอย่าไว ้ใจมนุษย์
    มันแสนสุดลึกล้าเหลือกาหนด
    ถึงเถาวัลย์พันเกียวทีเลียวลด
                     ่    ่ ้
    ก็ไม่คดเหมือนหนึงในน้ าใจคน
                       ่

       (พระฤาษีสอนสุดสาคร)




     แม ้นใครรักรักมั่งชงชงตอบ  ั ั
   ให ้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา
                    ิ่     ู้
               รู ้สงไรไม่สรู ้วิชา
        รู ้รักษาตัวรอดเป็ นยอดดี

       (พระฤาษีสอนสุดสาคร)




      อันนินทากาเลเหมือนเทน้ า
  ไม่ชอกช้าเหมือนเอามีดมากรีดหิน
      แค่องค์พระปฎิมายังราคิน
                     ิ้
    คนเดินดินหรือจะสนคนนินทา




เขาย่อมเปรียบเทียบความว่ายามรัก
      แต่น้ าผักต ้มขมชมว่าหวาน
    ครันรักจางห่างเหินไปเนินนาน
       ้                    ่
   แต่น้ าตาลว่าเปรียวไม่เหลียวแล
                     ้




                 ิ้
     ถึงม ้วยดินสนฟ้ ามหาสมุทร
    ไม่ส ินสุดความรักสมัครสมาน
          ้
       แม ้เกิดในใต ้ฟ้ าสุธาธาร
   ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา

     แม ้เนือเย็นเป็ นห ้วงมหรรณพ
            ้
      พีขอพบศรีสวัสดิเป็ นมัจฉา
        ่                  ์
       แม ้เป็ นบัวตัวพีเป็ นภุมรา
                         ่
      เชยผกาโกสุมประทุมทอง

     แม ้เป็ นถ้าอาไพใคร่เป็ นหงส ์
                    ิ ่
      จะร่อนลงสงสูเป็ นคูสอง่
ขอติึϸามทรามสงวนȨลละออง
                        เป็ นคูครองพิศวาสทุกชาติไป
                               ่

(ตอน พระอภัยมณีเกียวนางละเวง ได ้ถูกนาไปดัดแปลงเล็กน ้อยกลายเป็ นเพลง "คามั่น
                  ้
                                    ั
                                  สญญา")

บางตอนจาก เพลงยาวถวายโอวาท

                        อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ
                                       ่   ่ ี
                        ประเสริฐสุดซอนใสเสยในฝั ก
                           สงวนคมสมนึกใครฮกฮก  ึ ั
                         จึงค่อยชักเชอดฟั นให ้บรรลัย
                                     ื




                                                 ิ้
                       อันอ ้อยตาลหวานลินแล ้วสนซาก
                                         ้
                           แต่ลมปากหวานหูไม่รู ้หาย
                      แม ้นเจ็บอืนหมืนแสนจะแคลนคลาย
                                 ่   ่
                       เจ็บจนตายเพราะเหน็ บให ้เจ็บใจ


บางตอนจาก สุภาษิตสอนหญิง

                          มีสลึงพึงบรรจบให ้ครบบาท
                                     ิ่
                        อย่าให ้ขาดสงของต ้องประสงค์
                         จงมักน ้อยกินน ้อยค่อยบรรจง
                         อย่าจ่ายลงให ้มากจะยากนาน




                          จะพูดจาปราศรัยกับใครนัน  ้
                          อย่าตะคันตะคอกให ้เคืองหู
                                  ้
                           ไม่ควรพูดอืออึงขึนมึงกู
                                        ้ ้ ้
                          คนจะหลูลวงลามไม่ขามใจ
                                    ่ ่




                        เป็ นมนุษย์สดนิยมเพียงลมปาก
                                     ุ
                                                ิ
                         จะได ้ยากโหยหิวเพราะชวหา
                            แม ้นพูดดีมคนเขาเมตตา
                                       ี
                       จะพูดจาพิเคราะห์ให ้เหมาะความ




                             รู ้วิชาก็ให ้รู ้เป็ นครูเขา
่
                     จึงจะเบาแรงตนชวยขนขวาย
                                 ้
                      มีข ้าไทใชสอย ค่อยสบาย
                     ตัวเป็ นนายโง่เง่าบ่าวไม่เกรง



              ้
บางตอนจาก ขุนชางขุนแผน ตอนกาเนิดพลายงาม

                        แม่รักลูก ลูกก็รู ้ อยูวารัก
                                               ่ ่
                       ่ ั
                  ใครอืนสก หมืนแสน ไม่แม ้นเหมือน
                                 ่
                    จะกินนอนวอนว่า เมตตาเตือน
                     จะจากเรือน ร ้างแม่ ก็แต่กาย




                       ลูกผู ้ชายลายมือนันคือยศ
                                         ้
                                 ่
                     เจ ้าจงอตสาห์ทาสมาเสมียน
                                           ่

                        (ขุนแผนสอนพลายงาม)

บางตอนจาก Ȩราศภูเขาทอง

                     ถึงบางพูดพูดดีเป็ นศรีศักดิ์
                       มีคนรักรสถ ้อยอร่อยจิต
                             ั่
                     แม ้พูดชวตัวตายทาลายมิตร
                   จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจาฯ

บางตอนจาก นิราศพระบาท

                      เจ ้าของตาลรักหวานขึนปี นต ้น
                                           ้
                                       ้ ิ
                    เพราะดันด ้นอยากลิมชมรสหวาน
                             ้
                      ครันได ้รสสดสาวจากจาวตาล
                           ้
                               ่        ึ้
                   ย่อมซาบซานหวานซงตรึงถึงทรวง

                    ไหนจะยอมให ้เจ ้าหล่นลงเจ็บอก
                                   ้ ้ ิ
                    เพราะอยากวกขึนลินชมของหวง
                  อันรสตาลหวานละม ้ายคล ้ายพุมพวง
                                              ่
                   พีเจ็บทรวงช้าอกเหมือนตกตาล...
                     ่
ที่มาของวันสุ นทรภู่
 องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(UNESCO) ซึ่งเป็ นผูที่มีหน้าที่
                                                                           ้
ส่ งเสริ มและเผยแพร่ ผลงาน ด้านวัฒนธรรมของประเทศสมาชิกต่างๆ ทัวโลก ด้วยการประกาศ
                                                                   ่
ยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลผูมีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมระดับโลก ในวาระครบรอบ 100 ปี ขึ้น
                          ้
 ไป ประจาทุกปี โดยมีวตถุประสงค์คือ เพื่อเผยแพร่ เกียรติคุณและผลงานของผูมีผลงานดีเด่น
                        ั                                               ้
  ทางด้านวัฒนธรรมระดับโลกให้ปรากฎแก่มวลสมาชิกทัวโลก และเพื่อเชิญชวนให้ประเทศ
                                                      ่
   สมาชิกมีส่วนร่ วมในการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองร่ วมกับประเทศที่มีผได้รับการยกย่องเชิดชู
                                                                ู้
                                         เกียรติ

                                                            ่
             ในการนี้ รัฐบาลไทยโดยคณะกรรมการแห่งชาติวาด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์และ
 วัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ กระทรวงศึกษาธิการ จะเป็ นผูสืบค้นบรรพบุรุษไทยผูมีผลงาน
                                                              ้                     ้
 ดีเด่นทางวัฒนธรรม เพื่อให้ยเู นสโกประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติและได้ประกาศยกย่อง "สุ นทร
ภู่" ให้เป็ นบุคคลผูมีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมระดับโลก โดยในวาระครบรอบ 200 ปี เกิด เมื่อ
                     ้
     วันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2529 ต่อมาในปี พ.ศ. 2530 นายเสวตร เปี่ ยมพงศ์สานต์ อดีตรอง
  นายกรัฐมนตรี ได้ดาเนินการจัดตั้งสถาบันสุ นทรภู่ข้ ึน เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับ
 ชีวตและงานของสุ นทรภู่ ให้แพร่ หลายในหมู่เยาวชนและประชาชนชาวไทยมากยิงขึ้น ดังนั้น
     ิ                                                                           ่
ทางรัฐบาลจึงได้กาหนดให้ วันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี เป็ น "วันสุ นทรภู่" ซึ่งนับแต่น้ น เมื่อถึง
                                                                                      ั
  วันสุ นทรภู่ จะมีการจัดงานราลึกถึงสุ นทรภู่ตามสถานที่ต่างๆ เช่น ที่พิพิธภัณฑ์สุȨรภู่ "วัด
เทพธิดาราม" และ ที่จงหวัดระยอง และมีการจัดกิจกรรมเชิดชูเกียรติคุณและส่ งเสริ มศิลปะการ
                         ั
                            ประพันธ์บทกวีจากองค์กรต่างๆ โดยทัวไป่

      ทั้งนี้ ผลงานของสุ นทรภู่ยงเป็ นทีนิยมในสังคมไทยอย่ างต่ อเนื่องตลอดมาไม่ ขาดสาย และ
                                 ั      ่
   มีการนาไปดัดแปลงเป็ นสื่อต่ างๆ เช่น หนังสื อการ์ตูน ภาพยนตร์ เพลง รวมถึงละคร มีการ
ก่อสร้างอนุสาวรี ยสุȨรภู่ ไว้ที่ ตาบลบ้านกร่ า อาเภอแกลง จังหวัดระยอง ซึ่ งเป็ นบ้านเกิดของ
                   ์
      บิดาของสุ นทรภู่ และเป็ นกาเนิดผลงานนิราศเรื่ องแรกของท่านคือ นิราศเมืองแกลง
สุȨรภู่กวีเอกไทย302

More Related Content

What's hot (20)

Ȩราศภูเขาทองม.๑
Ȩราศภูเขาทองม.๑Ȩราศภูเขาทองม.๑
Ȩราศภูเขาทองม.๑
Kornnicha Wonglai
งานนำเสนอ มหาเวสสันดรชาดก กันฑ์กุมาร
งานนำเสนอ มหาเวสสันดรชาดก กันฑ์กุมารงานนำเสนอ มหาเวสสันดรชาดก กันฑ์กุมาร
งานนำเสนอ มหาเวสสันดรชาดก กันฑ์กุมาร
Santichon Islamic School
ภาพตัวแทȨองสม๶ึϹจพระมหาธรรมราชาใȨรรณกรรมไทย
ภาพตัวแทȨองสม๶ึϹจพระมหาธรรมราชาใȨรรณกรรมไทยภาพตัวแทȨองสม๶ึϹจพระมหาธรรมราชาใȨรรณกรรมไทย
ภาพตัวแทȨองสม๶ึϹจพระมหาธรรมราชาใȨรรณกรรมไทย
CUPress
งาȨำเสนอลิลิต๶ตลงพ่าย
งาȨำเสนอลิลิต๶ตลงพ่ายงาȨำเสนอลิลิต๶ตลงพ่าย
งาȨำเสนอลิลิต๶ตลงพ่าย
Santichon Islamic School
Ȩราศภูเขาทอง
Ȩราศภูเขาทอง Ȩราศภูเขาทอง
Ȩราศภูเขาทอง
Patzuri Orz
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรีถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
Warodom Techasrisutee
พระบาทสม๶ึϹจพระพุทธ๶ลิศหล้านภาลัย
พระบาทสม๶ึϹจพระพุทธ๶ลิศหล้านภาลัยพระบาทสม๶ึϹจพระพุทธ๶ลิศหล้านภาลัย
พระบาทสม๶ึϹจพระพุทธ๶ลิศหล้านภาลัย
fernbamoilsong
พระราชประวัติรัชกาลที่ 9
พระราชประวัติรัชกาลที่ 9พระราชประวัติรัชกาลที่ 9
พระราชประวัติรัชกาลที่ 9
banlangkhao
เล่มที่ 6 สม๶ึϹจพระบรมไตรโลกนาถ
เล่มที่ 6  สม๶ึϹจพระบรมไตรโลกนาถเล่มที่ 6  สม๶ึϹจพระบรมไตรโลกนาถ
เล่มที่ 6 สม๶ึϹจพระบรมไตรโลกนาถ
Choengchai Rattanachai
โบราณคึϸอีสาน
โบราณคึϸอีสานโบราณคึϸอีสาน
โบราณคึϸอีสาน
Benjawan Hengkrathok
แผ่นพับ
แผ่นพับแผ่นพับ
แผ่นพับ
nuttawon
๶มืองȨาน
๶มืองȨาน๶มืองȨาน
๶มืองȨาน
krunoony
Ȩราศภูเขาทองม.๑
Ȩราศภูเขาทองม.๑Ȩราศภูเขาทองม.๑
Ȩราศภูเขาทองม.๑
Kornnicha Wonglai
งานนำเสนอ มหาเวสสันดรชาดก กันฑ์กุมาร
งานนำเสนอ มหาเวสสันดรชาดก กันฑ์กุมารงานนำเสนอ มหาเวสสันดรชาดก กันฑ์กุมาร
งานนำเสนอ มหาเวสสันดรชาดก กันฑ์กุมาร
Santichon Islamic School
ภาพตัวแทȨองสม๶ึϹจพระมหาธรรมราชาใȨรรณกรรมไทย
ภาพตัวแทȨองสม๶ึϹจพระมหาธรรมราชาใȨรรณกรรมไทยภาพตัวแทȨองสม๶ึϹจพระมหาธรรมราชาใȨรรณกรรมไทย
ภาพตัวแทȨองสม๶ึϹจพระมหาธรรมราชาใȨรรณกรรมไทย
CUPress
งาȨำเสนอลิลิต๶ตลงพ่าย
งาȨำเสนอลิลิต๶ตลงพ่ายงาȨำเสนอลิลิต๶ตลงพ่าย
งาȨำเสนอลิลิต๶ตลงพ่าย
Santichon Islamic School
Ȩราศภูเขาทอง
Ȩราศภูเขาทอง Ȩราศภูเขาทอง
Ȩราศภูเขาทอง
Patzuri Orz
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรีถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
ถอดคำประพันธ์มหาเวสสันดรชาดก กัณฑ์มัทรี
Warodom Techasrisutee
พระบาทสม๶ึϹจพระพุทธ๶ลิศหล้านภาลัย
พระบาทสม๶ึϹจพระพุทธ๶ลิศหล้านภาลัยพระบาทสม๶ึϹจพระพุทธ๶ลิศหล้านภาลัย
พระบาทสม๶ึϹจพระพุทธ๶ลิศหล้านภาลัย
fernbamoilsong
พระราชประวัติรัชกาลที่ 9
พระราชประวัติรัชกาลที่ 9พระราชประวัติรัชกาลที่ 9
พระราชประวัติรัชกาลที่ 9
banlangkhao
เล่มที่ 6 สม๶ึϹจพระบรมไตรโลกนาถ
เล่มที่ 6  สม๶ึϹจพระบรมไตรโลกนาถเล่มที่ 6  สม๶ึϹจพระบรมไตรโลกนาถ
เล่มที่ 6 สม๶ึϹจพระบรมไตรโลกนาถ
Choengchai Rattanachai
แผ่นพับ
แผ่นพับแผ่นพับ
แผ่นพับ
nuttawon
๶มืองȨาน
๶มืองȨาน๶มืองȨาน
๶มืองȨาน
krunoony

Similar to สุȨรภู่กวีเอกไทย302 (20)

ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์
Ning Rommanee
ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์
Ning Rommanee
ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์
SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์
Ning Rommanee
งาน ปุ๋ย
งาน ปุ๋ยงาน ปุ๋ย
งาน ปุ๋ย
SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
พระบาทสม๶ึϹจพระจอมเกล้า๶จ้าอยู่หัว
พระบาทสม๶ึϹจพระจอมเกล้า๶จ้าอยู่หัวพระบาทสม๶ึϹจพระจอมเกล้า๶จ้าอยู่หัว
พระบาทสม๶ึϹจพระจอมเกล้า๶จ้าอยู่หัว
SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหารวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
zubasa_potato
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหารวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
PRINTT
105+hisp6+dltv54+550126+a+สไลด์ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท(1หน้า)
105+hisp6+dltv54+550126+a+สไลด์ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท(1หน้า)105+hisp6+dltv54+550126+a+สไลด์ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท(1หน้า)
105+hisp6+dltv54+550126+a+สไลด์ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท(1หน้า)
Prachoom Rangkasikorn
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท+602+dltvp6+55t2his p06 f16-1page
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท+602+dltvp6+55t2his p06 f16-1pageสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท+602+dltvp6+55t2his p06 f16-1page
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท+602+dltvp6+55t2his p06 f16-1page
Prachoom Rangkasikorn
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท+602+dltvp6+55t2his p06 f16-4page
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท+602+dltvp6+55t2his p06 f16-4pageสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท+602+dltvp6+55t2his p06 f16-4page
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท+602+dltvp6+55t2his p06 f16-4page
Prachoom Rangkasikorn
การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศ๶พื่อȨ้าน
การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศ๶พื่อȨ้าน การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศ๶พื่อȨ้าน
การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศ๶พื่อȨ้าน
เพ็ญลักษณ์ สุวรรณาโชติ
ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์
Ning Rommanee
ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์
Ning Rommanee
ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์
Ning Rommanee
พระบาทสม๶ึϹจพระจอมเกล้า๶จ้าอยู่หัว
พระบาทสม๶ึϹจพระจอมเกล้า๶จ้าอยู่หัวพระบาทสม๶ึϹจพระจอมเกล้า๶จ้าอยู่หัว
พระบาทสม๶ึϹจพระจอมเกล้า๶จ้าอยู่หัว
SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
SRINAKARIN MOTHER PRINCESS SCHOOL
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหารวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
zubasa_potato
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหารวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
PRINTT
105+hisp6+dltv54+550126+a+สไลด์ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท(1หน้า)
105+hisp6+dltv54+550126+a+สไลด์ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท(1หน้า)105+hisp6+dltv54+550126+a+สไลด์ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท(1หน้า)
105+hisp6+dltv54+550126+a+สไลด์ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท(1หน้า)
Prachoom Rangkasikorn
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท+602+dltvp6+55t2his p06 f16-1page
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท+602+dltvp6+55t2his p06 f16-1pageสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท+602+dltvp6+55t2his p06 f16-1page
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท+602+dltvp6+55t2his p06 f16-1page
Prachoom Rangkasikorn
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท+602+dltvp6+55t2his p06 f16-4page
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท+602+dltvp6+55t2his p06 f16-4pageสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท+602+dltvp6+55t2his p06 f16-4page
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท+602+dltvp6+55t2his p06 f16-4page
Prachoom Rangkasikorn
การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศ๶พื่อȨ้าน
การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศ๶พื่อȨ้าน การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศ๶พื่อȨ้าน
การเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศ๶พื่อȨ้าน
เพ็ญลักษณ์ สุวรรณาโชติ

สุȨรภู่กวีเอกไทย302

  • 1. สุ นทรภู่กวีเอกไทย ถ้าเอ่ยชื่อ "สุ นทรภู่" เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จกกวีชาวไทยที่มีชื่อเสี ยงก้องโลก โดยเฉพาะ ั กลอนนิทานเรื่ อง "พระอภัยมณี " จนได้รับยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็ นบุคคลสาคัญของ โลก ด้ านงานวรรณกรรม หรือ “มหากวีแห่ งรัตนโกสิ นทร์ " หรือ “เชกสเปี ยร์ แห่ งประเทศ ่ ไทย" และคงเป็ นที่ทราบกันดีอยูแล้วว่า "วันที่ 26 มิถุนายน" ของทุกปี คือ "วันสุ นทรภู่" ซึ่ง มักจะมีการจัดนิทรรศการ ประกวดแต่งคากลอน เพื่อแสดงถึงการราลึกถึง เพราะฉะนั้น วันนี้ กระปุกดอทคอมจึงไม่พลาด ขอพาไปเปิ ดประวัติ "วันสุ นทรภู่" ให้มากขึ้นครับ
  • 2. ชีวประวัติ "สุ นทรภู่" สุ นทรภู่ กวีสาคัญสมัยต้นรัตนโกสิ นทร์ เกิดวันจันทร์ เดือน 8 ขึ้น 1 ค่า ปี มะเมีย จุลศักราช 1148 เวลา 2 โมง เช้า หรื อตรงกับวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2329 เวลา 8.00 น. นันเอง ซึ่ งตรงกับสมัยรัชกาลที่ 1 แห่งกรุ ง ่ รัตนโกสิ นทร์ ณ บริ เวณด้านเหนือของพระราชวังหลัง (บริ เวณสถานีรถไฟบางกอกน้อยปัจจุบน) บิดาของ ั ท่านเป็ นชาวกร่ า อาเภอแกลง จังหวัดระยอง ชื่อพ่อพลับ ส่ วนมารดาเป็ นชาวเมืองฉะเชิงเทรา ชื่ อแม่ชอย ้ สันนิษฐานว่ามารดาเป็ นข้าหลวงอยูในพระราชวังหลัง เชื่ อว่าหลังจากสุ นทรภู่เกิดได้ไม่นาน บิดามารดาก็ ่ ่ ั หย่าร้างกัน บิดาออกไปบวชอยูที่วดป่ ากร่ า ตาบลบ้านกร่ า อาเภอแกลง อันเป็ นภูมิลาเนาเดิม ส่ วนมารดาได้ ่ เข้าไปอยูในพระราชวังหลัง ถวายตัวเป็ นนางนมของพระองค์เจ้าหญิงจงกล พระธิ ดาในเจ้าฟ้ ากรมหลวง อนุรักษ์เทเวศร์ ดังนั้น สุ นทรภู่จึงได้อยูในพระราชวังหลังกับมารดา และได้ถวายตัวเป็ นข้าในกรม ่ พระราชวังหลัง ซึ่ งสุ นทรภู่ยงมีนองสาวต่างบิดาอีกสองคน ชื่อฉิ มและนิ่ม อีกด้วย ั ้ "สุ นทรภู่" ได้รับการศึกษาในพระราชวังหลังและที่วดชีปะขาว (วัดศรี สุดาราม) ต่อมาได้เข้ารับ ั ราชการเป็ นเสมียนนายระวางกรมพระคลังสวน ในกรมพระคลังสวน แต่ไม่ชอบทางานอื่นนอกจากแต่งบท กลอน ซึ่ งสามารถแต่งได้ดีต้ งแต่ยงรุ่ นหนุ่ม เพราะตั้งแต่เยาว์วยสุ นทรภู่มีนิสัยรักแต่งกลอนยิงกว่างานอื่น ั ั ั ่ ครั้งรุ่ นหนุ่มก็ไปเป็ นครู สอนหนังสื ออยูที่วดศรี สุดารามในคลองบางกอกน้อย ได้แต่งกลอนสุ ภาษิตและ ่ ั กลอนนิทานขึ้นไว้ เมื่ออายุราว 20 ปี ต่อมาสุ นทรภู่ลอบรักกับนางข้าหลวงในวังหลังคนหนึ่ง ชื่อแม่จน ซึ่ งเป็ นบุตรหลานผูมีตระกูล จึงถูก ั ้ กรมพระราชวังหลังกริ้ วจนถึงให้โบยและจาคุกคนทั้งสอง แต่เมื่อกรมพระราชวังหลังเสด็จทิวงคตในปี พ.ศ. 2349 จึงมีการอภัยโทษแก่ผถูกลงโทษทั้งหมดถวายเป็ นพระราชกุศล หลังจากสุ นทรภู่ออกจากคุก เขากับแม่ ู้ ่ จันก็เดินทางไปหาบิดาที่ อาเภอแกลง จังหวัดระยอง และมีบุตรด้วยกัน 1 คน ชื่อ “พ่อพัด” ได้อยูในความ อุปการะของเจ้าครอกทองอยู่ ส่ วนสุ นทรภู่กบแม่จนก็มีเรื่ องระหองระแหงกันเสมอ จนภายหลังก็เลิกรากัน ั ั ไป หลังจากนั้น สุ นทรภู่ ก็เดินทางเข้าพระราชวังหลัง และมีโอกาสได้ติดตามพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ใน ฐานะมหาดเล็ก ตามเสด็จไปในงานพิธีมาฆบูชา ที่อาเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เมื่อปี พ.ศ. 2350 และ
  • 3. เขาก็ได้แต่ง “นิราศพระบาท” พรรณนาเหตุการณ์ในการเดินทางคราวนี้ดวย และหลังจาก “นิราศพระบาท” ้ ก็ไม่ปรากฏผลงานใดๆ ของสุ นทรภู่อีกเลย จนกระทังเข้ารับราชการในปี พ.ศ. 2359 ในรัชสมัยรัชกาลที่ 2 สุ นทรภู่ได้เข้ารับราชการในกรมพระ ่ อาลักษณ์ และเป็ นที่โปรดปรานของพระบาทสม๶ึϹจพระพุทธ๶ลิศหล้านภาลัย จนแต่งตั้งให้เป็ นกวีที่ปรึ กษา และคอยรับใช้ใกล้ชิด เนื่องจากเมื่อครั้งที่พระบาทสม๶ึϹจพระพุทธ๶ลิศหล้านภาลัยทรงแต่งกลอนบทละคร ในเรื่ อง "รามเกียรติ์" ติดขัดไม่ มผ้ ใดต่ อกลอนได้ ต้องพระราชหฤทัย จึงโปรดให้ สุȨรภู่ทดลองแต่ ง ปรากฏ ี ู ว่าแต่ งได้ ดีเป็ นทีพอพระทัย จึงทรงพระกรุ ณาฯ เลือนให้ เป็ น "ขุนสุ นทรโวหาร" ่ ่ ต่อมาในราว พ.ศ. 2364 สุ นทรภู่ตองติดคุกเพราะเมาสุ ราอาละวาดและทาร้ายท่านผูใหญ่ แต่ติดอยูไม ้ ้ ่ นานก็พนโทษ เนื่องจากพระบาทสม๶ึϹจพระพุทธ๶ลิศหล้านภาลัยทรงติดขัดบทพระราชนิพนธ์เรื่ อง "สั งข์ ้ ทอง" ไม่มีใครแต่งได้ตองพระทัย ทรงให้สุȨรภู่ทดลองแต่งก็เป็ นที่พอพระราชหฤทัยภายหลังพ้นโทษ ้ สุ นทรภู่ได้เป็ นพระอาจารย์ถวายอักษรสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ าอาภรณ์ พระราชโอรสในรัชกาลที่ 2 และ เชื่อกันว่าสุ นทรภู่แต่งเรื่ อง "สวัสดิรักษา" ในระหว่างเวลานี้ ซึ่ งในระหว่างรับราชการอยูน้ ี สุ นทรภู่ ่ ั แต่งงานใหม่กบแม่นิ่ม มีบุตรด้วยกันหนึ่งคน ชื่อ "พ่อตาบ "สุ นทรภู่" รับราชการอยูเ่ พียง 8 ปี เมื่อถึงปี พ.ศ. 2367 พระบาทสม๶ึϹจพระพุทธ๶ลิศหล้านภาลัยเสด็จ สวรรคต หลังจากนั้นสุ นทรภู่ก็ออกบวชที่วดราชบูรณะ (วัดเลียบ) อยูเ่ ป็ นเวลา 18 ปี ระหว่างนั้นได้ยายไปอยู่ ั ้ วัดต่างๆ หลายแห่ง ได้แก่ วัดเลียบ, วัดแจ้ง, วัดโพธิ์ , วัดมหาธาตุ และวัดเทพธิ ดาราม ซึ่ งผลจากการที่ภิกษุภู่ เดินทางธุ ดงค์ไปที่ต่างๆ ทัวประเทศ ปรากฏผลงานเป็ นนิ ราศเรื่ องต่างๆ มากมาย งานเขียนชิ้นสุ ดท้ายที่ภิกษุ ่ ภู่แต่งไว้ก่อนลาสิ กขาบท คือ ราพันพิลาป โดยแต่งขณะจาพรรษาอยูที่วดเทพธิ ดาราม พ.ศ. 2385 ทั้งนี้ ่ ั ระหว่างที่ออกเดินทางธุ ดงค์ ภิกษุภ่ได้รับการอุปการะจากพระองค์เจ้าลักขณานุคุณจนพระองค์ประชวรสิ้ น ู พระชมน์ สุ นทรภู่จึงลาสิ กขาบท รวมอายุพรรษาที่บวชได้ประมาณ 10 พรรษา สุ นทรภู่ออกมาตกระกา ่ ั ลาบากอยูพกหนึ่งจึงกลับเข้าไปบวชอีกครั้งหนึ่ง แต่ อยู่ได้ เพียง 2 พรรษา ก็ลาสิ กขาบท และถวายตัวอยู่กบ ั เจ้ าฟาน้ อย หรือสมเด็จเจ้ าฟาจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ พระราชวังเดิม รวมทั้งได้ รับอุปการะจากกรม ้ ้ หมื่นอัปสรสุ ดาเทพอีกด้ วย ่ ั ในสมัยรัชกาลที่ 4 เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยูหว ได้ครองราชย์ ทรงสถาปนาเจ้าฟ้ า กรม
  • 4. ขุนอิศเรศรังสรรค์ เป็ นพระบาทสมเด็จพระปิ่ นกล้าเจ้าอยูหว ประทับอยูวงหน้า (พระบวรราชวัง) สุ นทรภู่จึง ่ ั ่ั ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็ น "พระสุ นทรโวหาร" ตาแหน่งเจ้ากรมพระอาลักษณ์ฝ่ายบวรราชวังในปี พ.ศ. 2394 และรับราชการต่อมาได้ 4 ปี ก็ถึงแก่มรณกรรมใน พ.ศ. 2398 รวมอายุได้ 70 ปี ในเขตพระราชวัง เดิม ใกล้หอนังของพระยามนเทียรบาล (บัว) ที่เรี ยกชื่อกันว่า "ห้ องสุ นทรภู่" ่ สาหรับทายาทของสุ นทรภู่น้ น เชื่อกันว่าสุ นทรภู่มีบุตรชาย 3 คน คือ"พ่อพัด" เกิดจากภรรยาคนแรก ั คือแม่จน "พ่อตาบ" เกิดจากภรรยาคนที่สองคือแม่นิ่ม และ "พ่อนิล" เกิดจากภรรยาที่ชื่อแม่ม่วง นอกจากนี้ ั ปรากฏชื่อบุตรบุญธรรมอีกสองคน ชื่อ "พ่อกลัน" และ "พ่อชุบ" อย่างไรก็ตาม ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ ่ พระมงกุฎเกล้ าเจ้ าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ทรงตราพระราชบัญญัตินามสกุลขึน และตระกูลของสุ นทรภู่ได้ ใช้ ้ นามสกุลต่ อมาว่ า "ภู่เรือหงส์ "
  • 5. ผลงานของสุ นทรภู่ ื หนังสอบทกลอนของสุนทรภูมอยูมาก เท่าทีปรากฏเรืองทียงมีฉบับอยูในปั จจุบันนีคอ… ่ ี ่ ่ ่ ่ ั ่ ้ ื ประเภทนิราศ - นิราศเมืองแกลง (พ.ศ. 2349) - แต่งเมื่อหลังพ้นโทษจากคุก และเดินทางไปหาพ่อที่เมืองแกลง - นิราศพระบาท (พ.ศ. 2350) - แต่งหลังจากกลับจากเมืองแกลง และต้องตามเสด็จพระองค์เจ้าปฐม วงศ์ไปนมัสการรอยพระพุทธบาทที่จงหวัดสระบุรีในวันมาฆบูชา ั ่ - Ȩราศภูเขาทอง (ประมาณ พ.ศ. 2371) - แต่งโดยสมมุติวา เณรหนูพด เป็ นผูแต่งไปนมัสการพระเจดีย ์ ั ้ ภูเขาทองที่จงหวัดอยุธยา ั - นิราศสุ พรรณ (ประมาณ พ.ศ. 2374) - แต่งเมื่อครั้งยังบวชอยู่ และไปค้นหายาอายุวฒนะที่จงหวัด ั ั สุ พรรณบุรี เป็ นผลงานเรื่ องเดียวของสุ นทรภู่ที่แต่งเป็ นโคลง - นิราศวัดเจ้าฟ้ า (ประมาณ พ.ศ. 2375) - แต่งเมื่อครั้งยังบวชอยู่ และไปค้นหายาอายุวฒนะตามลาย ั แทงที่วดเจ้าฟ้ าอากาศ (ไม่ปรากฏว่าที่จริ งคือวัดใด) ที่จงหวัดอยุธยา ั ั - นิราศอิเหนา (ไม่ปรากฏ, คาดว่าเป็ นสมัยรัชกาลที่ 3) แต่งเป็ นเนื้ อเรื่ องอิเหนาราพันถึงนางบุษบา ่ ั - ราพันพิลาป (พ.ศ. 2385) - แต่งเมื่อครั้งจาพรรษาอยูที่วดเทพธิ ดาราม แล้วเกิดฝันร้ายว่าชะตาขาด จึง บันทึกความฝันพร้อมราพันความอาภัพของตัวไว้เป็ น "ราพันพิลาป" จากนั้นจึงลาสิ กขาบท - นิราศพระประธม (พ.ศ. 2385) –เชื่อว่าแต่งเมื่อหลังจากลาสิ กขาบทและเข้ารับราชการในพระบาท ่ ั สมเด็จพระปิ่ นเกล้าเจ้าอยูหว ไปนมัสการพระประธมเจดีย ์ (หรื อพระปฐมเจดีย)์ ที่เมืองนครชัยศรี ่ ั - นิราศเมืองเพชร (พ.ศ. 2388) - แต่งเมื่อเข้ารับราชการในพระบาทสมเด็จพระปิ่ นเกล้าเจ้าอยูหว เชื่อว่า ไปธุ ระราชการอย่างใดอย่างหนึ่ง นิ ราศเรื่ องนี้มีฉบับค้นพบเนื้อหาเพิ่มเติมซึ่ ง อ.ล้อม เพ็งแก้ว เชื่อว่า บรรพ บุรุษฝ่ ายมารดาของสุ นทรภู่เป็ นชาวเมืองเพชร
  • 6. ประเภทนิทาน เรื่ องโคบุตร, เรื่ องพระอภัยมณี , เรื่ องพระไชยสุ ริยา, เรื่ องลักษณวงศ์, เรื่ องสิ งหไกรภพ
  • 7. ประเภทสุ ภาษิต - สวัสดิรักษา- คาดว่าประพันธ์ในสมัยรัชกาลที่ 2 ขณะเป็ นพระอาจารย์ถวายอักษรแด่เจ้าฟ้ าอาภรณ์ - สุ ภาษิตสอนหญิง - เป็ นหนึ่งในผลงานซึ่ งยังเป็ นที่เคลือบแคลงว่า สุ นทรภู่เป็ นผูประพันธ์จริ งหรื อไม่ ้ - เพลงยาวถวายโอวาท - คาดว่าประพันธ์ในสมัยรัชกาลที่ 3 ขณะเป็ นพระอาจารย์ถวายอักษรแด่เจ้าฟ้ า กลางและเจ้าฟ้ าปิ๋ ว ประเภทบทละคร - เรื่องอภัยณุรา ซึ่ งเขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 4 เพื่อถวายพระองค์เจ้าดวงประภา พระธิดาใน ่ ั พระบาทสมเด็จพระปิ่ นเกล้าเจ้าอยูหว ประเภทบทเสภา - เรื่องขุนช้ างขุนแผน (ตอนกาเนิดพลายงาม) - เรื่องพระราชพงศาวดาร ประเภทบทเห่ กล่อม แต่งขึ้นสาหรับใช้ขบกล่อมหม่อมเจ้าในพระองค์เจ้าลักขณานุคุณ กับพระเจ้าลูกยาเธอใน ั ่ ั พระบาทสมเด็จพระปิ่ นเกล้าเจ้าอยูหว เท่าที่พบมี 4 เรื่ องคือ เห่ จบระบา, เห่เรื่ องพระอภัยมณี , เห่เรื่ องโคบุตร ั เห่เรื่ องพระอภัยมณี , เห่เรื่ องกากี
  • 8. ตัวอย่ างวรรคทองที่มีชื่อเสี ยงของสุ นทรภู่ ่ ุ ่ ิ ด ้วยความทีสนทรภูเป็ นศลปิ นเอกทีมผลงานทางวรรณกรรม วรรณคดีมากมาย ทาให ้ผลงาน ่ ี ึ หลาย ๆ เรืองของ สุȨรภู่ ถูกนาไปเป็ นบทเรียนให ้เด็กไทยได ้ศกษา จึงทาให ้มีหลาย ๆ บท ่ ประพันธ์ทคุ ้นหู หรือ "วรรคทอง" ยกตัวอย่างเช ี่ ่น บางตอนจาก Ȩราศภูเขาทอง ถึงโรงเหล ้าเตากลั่นควันโขมง มีคันโพงผูกสายไว ้ปลายเสา โอ ้บาปกรรมน้ านรกเจียวอกเรา ให ้มัวเมาเหมือนหนึงบ ้าเป็ นน่าอาย ่ ทาบุญบวชกรวดน้ าขอสาเร็จ สรรเพชญโพธิญาณประมาณหมาย ถึงสุราพารอดไม่วอดวาย ไม่ใกล ้กรายแกล ้งเมินก็เกินไป ไม่เมาเหล ้าแล ้วแต่เรายังเมารัก สุดจะหักห ้ามจิตคิดไฉน ้ ถึงเมาเหล ้าเชาสายก็หายไป แต่เมาใจนีประจาทุกคาคืนฯ ้ ่ ถึงบางพูดพูดดีเป็ นศรีศักดิ์ มีคนรักรสถ ้อยอร่อยจิต ั่ แม ้นพูดชวตัวตายทาลายมิตร จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา บางตอนจาก นิราศอิเหนา จะหักอืนขืนหักก็จักได ้ ่ หักอาลัยนีไม่หลุดสุดจะหัก ้ สารพัดตัดขาดประหลาดนัก แต่ตัดรักนีไม่ขาดประหลาดใจ ้ บางตอนจาก พระอภ ัยมณี บัดเดียวดังหงั่งเหง่งวังเวงแว่ว ๋ สะดุ ้งแล ้วเหลียวแลชะแง ้หา เห็นโยคีขรุ ้งพุงออกมา ี่ ่ ประคองพาขึนไปจนบนบรรพต ้
  • 9. แล ้วสอนว่าอย่าไว ้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้าเหลือกาหนด ถึงเถาวัลย์พันเกียวทีเลียวลด ่ ่ ้ ก็ไม่คดเหมือนหนึงในน้ าใจคน ่ (พระฤาษีสอนสุดสาคร) แม ้นใครรักรักมั่งชงชงตอบ ั ั ให ้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา ิ่ ู้ รู ้สงไรไม่สรู ้วิชา รู ้รักษาตัวรอดเป็ นยอดดี (พระฤาษีสอนสุดสาคร) อันนินทากาเลเหมือนเทน้ า ไม่ชอกช้าเหมือนเอามีดมากรีดหิน แค่องค์พระปฎิมายังราคิน ิ้ คนเดินดินหรือจะสนคนนินทา เขาย่อมเปรียบเทียบความว่ายามรัก แต่น้ าผักต ้มขมชมว่าหวาน ครันรักจางห่างเหินไปเนินนาน ้ ่ แต่น้ าตาลว่าเปรียวไม่เหลียวแล ้ ิ้ ถึงม ้วยดินสนฟ้ ามหาสมุทร ไม่ส ินสุดความรักสมัครสมาน ้ แม ้เกิดในใต ้ฟ้ าสุธาธาร ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา แม ้เนือเย็นเป็ นห ้วงมหรรณพ ้ พีขอพบศรีสวัสดิเป็ นมัจฉา ่ ์ แม ้เป็ นบัวตัวพีเป็ นภุมรา ่ เชยผกาโกสุมประทุมทอง แม ้เป็ นถ้าอาไพใคร่เป็ นหงส ์ ิ ่ จะร่อนลงสงสูเป็ นคูสอง่
  • 10. ขอติึϸามทรามสงวนȨลละออง เป็ นคูครองพิศวาสทุกชาติไป ่ (ตอน พระอภัยมณีเกียวนางละเวง ได ้ถูกนาไปดัดแปลงเล็กน ้อยกลายเป็ นเพลง "คามั่น ้ ั สญญา") บางตอนจาก เพลงยาวถวายโอวาท อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ ่ ่ ี ประเสริฐสุดซอนใสเสยในฝั ก สงวนคมสมนึกใครฮกฮก ึ ั จึงค่อยชักเชอดฟั นให ้บรรลัย ื ิ้ อันอ ้อยตาลหวานลินแล ้วสนซาก ้ แต่ลมปากหวานหูไม่รู ้หาย แม ้นเจ็บอืนหมืนแสนจะแคลนคลาย ่ ่ เจ็บจนตายเพราะเหน็ บให ้เจ็บใจ บางตอนจาก สุภาษิตสอนหญิง มีสลึงพึงบรรจบให ้ครบบาท ิ่ อย่าให ้ขาดสงของต ้องประสงค์ จงมักน ้อยกินน ้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให ้มากจะยากนาน จะพูดจาปราศรัยกับใครนัน ้ อย่าตะคันตะคอกให ้เคืองหู ้ ไม่ควรพูดอืออึงขึนมึงกู ้ ้ ้ คนจะหลูลวงลามไม่ขามใจ ่ ่ เป็ นมนุษย์สดนิยมเพียงลมปาก ุ ิ จะได ้ยากโหยหิวเพราะชวหา แม ้นพูดดีมคนเขาเมตตา ี จะพูดจาพิเคราะห์ให ้เหมาะความ รู ้วิชาก็ให ้รู ้เป็ นครูเขา
  • 11. จึงจะเบาแรงตนชวยขนขวาย ้ มีข ้าไทใชสอย ค่อยสบาย ตัวเป็ นนายโง่เง่าบ่าวไม่เกรง ้ บางตอนจาก ขุนชางขุนแผน ตอนกาเนิดพลายงาม แม่รักลูก ลูกก็รู ้ อยูวารัก ่ ่ ่ ั ใครอืนสก หมืนแสน ไม่แม ้นเหมือน ่ จะกินนอนวอนว่า เมตตาเตือน จะจากเรือน ร ้างแม่ ก็แต่กาย ลูกผู ้ชายลายมือนันคือยศ ้ ่ เจ ้าจงอตสาห์ทาสมาเสมียน ่ (ขุนแผนสอนพลายงาม) บางตอนจาก Ȩราศภูเขาทอง ถึงบางพูดพูดดีเป็ นศรีศักดิ์ มีคนรักรสถ ้อยอร่อยจิต ั่ แม ้พูดชวตัวตายทาลายมิตร จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจาฯ บางตอนจาก นิราศพระบาท เจ ้าของตาลรักหวานขึนปี นต ้น ้ ้ ิ เพราะดันด ้นอยากลิมชมรสหวาน ้ ครันได ้รสสดสาวจากจาวตาล ้ ่ ึ้ ย่อมซาบซานหวานซงตรึงถึงทรวง ไหนจะยอมให ้เจ ้าหล่นลงเจ็บอก ้ ้ ิ เพราะอยากวกขึนลินชมของหวง อันรสตาลหวานละม ้ายคล ้ายพุมพวง ่ พีเจ็บทรวงช้าอกเหมือนตกตาล... ่
  • 12. ที่มาของวันสุ นทรภู่ องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(UNESCO) ซึ่งเป็ นผูที่มีหน้าที่ ้ ส่ งเสริ มและเผยแพร่ ผลงาน ด้านวัฒนธรรมของประเทศสมาชิกต่างๆ ทัวโลก ด้วยการประกาศ ่ ยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลผูมีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมระดับโลก ในวาระครบรอบ 100 ปี ขึ้น ้ ไป ประจาทุกปี โดยมีวตถุประสงค์คือ เพื่อเผยแพร่ เกียรติคุณและผลงานของผูมีผลงานดีเด่น ั ้ ทางด้านวัฒนธรรมระดับโลกให้ปรากฎแก่มวลสมาชิกทัวโลก และเพื่อเชิญชวนให้ประเทศ ่ สมาชิกมีส่วนร่ วมในการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองร่ วมกับประเทศที่มีผได้รับการยกย่องเชิดชู ู้ เกียรติ ่ ในการนี้ รัฐบาลไทยโดยคณะกรรมการแห่งชาติวาด้วยการศึกษาวิทยาศาสตร์และ วัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ กระทรวงศึกษาธิการ จะเป็ นผูสืบค้นบรรพบุรุษไทยผูมีผลงาน ้ ้ ดีเด่นทางวัฒนธรรม เพื่อให้ยเู นสโกประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติและได้ประกาศยกย่อง "สุ นทร ภู่" ให้เป็ นบุคคลผูมีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมระดับโลก โดยในวาระครบรอบ 200 ปี เกิด เมื่อ ้ วันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2529 ต่อมาในปี พ.ศ. 2530 นายเสวตร เปี่ ยมพงศ์สานต์ อดีตรอง นายกรัฐมนตรี ได้ดาเนินการจัดตั้งสถาบันสุ นทรภู่ข้ ึน เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับ ชีวตและงานของสุ นทรภู่ ให้แพร่ หลายในหมู่เยาวชนและประชาชนชาวไทยมากยิงขึ้น ดังนั้น ิ ่ ทางรัฐบาลจึงได้กาหนดให้ วันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปี เป็ น "วันสุ นทรภู่" ซึ่งนับแต่น้ น เมื่อถึง ั วันสุ นทรภู่ จะมีการจัดงานราลึกถึงสุ นทรภู่ตามสถานที่ต่างๆ เช่น ที่พิพิธภัณฑ์สุȨรภู่ "วัด เทพธิดาราม" และ ที่จงหวัดระยอง และมีการจัดกิจกรรมเชิดชูเกียรติคุณและส่ งเสริ มศิลปะการ ั ประพันธ์บทกวีจากองค์กรต่างๆ โดยทัวไป่ ทั้งนี้ ผลงานของสุ นทรภู่ยงเป็ นทีนิยมในสังคมไทยอย่ างต่ อเนื่องตลอดมาไม่ ขาดสาย และ ั ่ มีการนาไปดัดแปลงเป็ นสื่อต่ างๆ เช่น หนังสื อการ์ตูน ภาพยนตร์ เพลง รวมถึงละคร มีการ ก่อสร้างอนุสาวรี ยสุȨรภู่ ไว้ที่ ตาบลบ้านกร่ า อาเภอแกลง จังหวัดระยอง ซึ่ งเป็ นบ้านเกิดของ ์ บิดาของสุ นทรภู่ และเป็ นกาเนิดผลงานนิราศเรื่ องแรกของท่านคือ นิราศเมืองแกลง