ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
อ . ดร . ชาติชาย ไวยสุระสิงห์ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น บทที่  9 ดาราศาสตร์ปฏิบัติเบื้องต้น (Introduction to  Practical Astronomy)
โลกและทรงกลมฟ้า (Earth and Celestial Sphere) งานรังวัดดาราศาสตร์ถือว่า โลกหยุดนิ่ง ส่วนดวงดาวและวัตถุฟ้าอื่นๆโคจรอยู่บนผิวของทรงกลมฟ้าซึ้งมีรัศมีอนันต์จากจุดศูนย์กลางโลก แกนหมุดของโลกที่ต่อออกจากโลกไปจนตัดกับผิวของทรงกลมฟ้าจะได้จุดขั่วฟ้า  (P) L 90 o  -  L
นิยามศัพท์ทางดาราศาสตร์ เส้นขอบฟ้าของผู้รังวัด  (Celestial Horizon)  คือ วงกลมใหญ่ของทรงกลมฟ้าซึ่งเกิดจากระนาบที่ตั้งฉากกับเส้นดิ่งที่รังวัดผ่านจุดศูนย์กลางของโลกไปตัดกับทรงกลมฟ้า  (Celestial Sphere) เส้นเมอริเดียนของผู้รังวัด   (Celestial Meridian)   คือวงกลมใหญ่ของทรงกลมซึ่งผ่านจุดขั่วฟ้า และจุดดิ่งบนของผู้รังวัด เส้นศูนย์สูตรฟ้า   (Equator)  คือ วงกลมใหญ่ซึ่งเกิดจากการขยายของระนาบศูนย์สูตรของโลกไปตัดกับผิวของทรงกลมฟ้า มุมสูงของดาว  (Altitude of a star)  คือ ค่ามุมดิ่งจริงที่วัดไปยังดาว โคละติจูด  (Co-latitude)  คือระยะเชิงมุมที่ประกอบเป็นมุม 90 o   กับค่าละติดจูด หรือมีค่าเท่ากับ  90- f
จุดดิ่งบน  (Zenith) จากจุดที่ยืนอยู่หรือจุดที่ตั้งกล้องทำงานรังวัดต่อตรงในแนวดิ่งไปจนตัดทรงกลมฟ้าจะเป็นจุดดิ่งบน , Z (Zenith)
นิยามศัพท์ทางดาราศาสตร์  (2) ระยะดิ่งบน  (Zenith)  คือระยะเชิงมุมจากดวงดาวไปยังจุดดิ่งบน ใช้สัญลักษณ์  z มุมอะซิมุทของดาว  (Azimuth angle of a star)  คือค่ามุมซึ่งวัดบนระนาบของเส้นขอบฟ้าจากแนวเมอริเดียนของผู้รังวัดไปยังระนาบดิ่งที่ผ่านดาว ค่ามุมอะซิมุทของดาวเปลี่ยนแปลงจาก  0 o   ถึง  180 o   ไปทางตะวันออกและตะวันตก ใช้สัญลักษณ์  A อะซิมุทของดาว  (Azimuth of a star)  คือค่ามุมซึ่งวัดบนระนาบของเส้นของฟ้าจากแนวเมอริเดียนของผู้รังวัดในทิศทางตามเข็มนาฬิกาไปยังระนาบดิ่งที่ผ่านดาว ดังนั้น อะซิมุทของดาวจึงเปลี่ยนแปลงจาก  0 o   ถึง  360 o เดคลิเนชันของดาว  (Declination of a star)  คือระยะเชิงมุมจากเส้นศูนย์สูตรไปยังดวงดาว ถ้าดวงดาวอยู่ไปทางเหนือของเส้นศูนย์สูตร ค่าเดคลิเนชันเป็นบวก ถ้าดวงดาวอยู่ไปทางใต้ค่าเดคลิเนชันเป็นลบ   ใช้สัญลักษณ์  d
ตำแหȨงྺองึϸงอาทิตย์๶มื่ออยู่สูงกว่าเส้Ȩูนย์สูตรฟ้า
ตำแหȨงྺองึϸงอาทิตย์๶มื่ออยู่ต่ำกว่าเส้Ȩูนย์สูตรฟ้า
ตำแหȨงการ๶คลื่อนที่ྺองึϸงอาทิตย์ที่ปรากฏในช่วง๶วลาต่างๆของปี
นิยามศัพท์ทางดาราศาสตร์  (3) วงกลมชั่วโมง  (hour circle)  คือครึ่งวงกลมใหญ่บนทรงกลมฟ้าซึ่งผ่านจุดขั่วฟ้าทั้งสองของดวงดาว ดังนั้น วงกลมชั่วโมงของดาวจึงหมุนไปในทิศตะวันตกพร้อมๆกับดาว มุมชั่วโมง  (hour angle)  คือมุมที่จุดขั้วฟ้าซึ่งวัดบนระนาบศูนย์สูตรจากเส้นเมอริเดียนที่เลือกขึ้น  ( เมอริเดียนท้องถิ่นหรือกรีนิช )  ไปยังวงกลมชั่วโมงในทางทิศตะวันตก มุมเมอริเดียน   (meridian angle)  ของดาว  คือมุมที่จุดขั้วฟ้าซึ่งซึ่งวัดบนระนาบศูนย์สูตรจากเส้นเมอริเดียนของผู้รังวัดไปยังวงกลมชั่วโมงของดาวในทิศตะวันตกหรือตะวันออก มีค่าเปลี่ยนแปลงจาก  0 o   ถึง  180 o   ใช้สัญลักษณ์  t
นิยามศัพท์ทางดาราศาสตร์  (4) เส้นอีคลิปติค  (ecliptic)  คือวงกลมใหญ่ที่เกิดจากรอยตัดของระนาบวงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์กับทรงกลมฟ้า จุดอีควินอกซ์   (Equinox)  คือจุดตัดของเส้นอีคลิปติคกับเส้นศูนย์สูตรฟ้า จุดเวอร์นัลอีควีนอกซ์  (Vernal equinox)  เป็นจุดตัดซึ่งดวงอาทิตย์กำลังจะข้ามเส้นศูนย์สูตรจากทางใต้ไปทางเหนือ จุดออทัมนอลอีควีนอกซ์  (Autumnal equinox)  เป็นจุดตัดซึ่งดวงอาทิตย์กำลังจะข้ามเส้นศูนย์สูตรจากเหนือไปใต้ ไรท์แอสเซนชัน  (right ascension)  คือระยะเชิงมุมที่วัดไปทางตะวันออกบนระนาบศูนย์สูตรจากจุดเวอร์นัลอีควีนอกซ์ไปยังวงกลมชั่วโมงของดาว
เส้นอีคลิปติค  (ecliptic) –  “road of the sun”
เส้นอิคลิปติค  –  เส้นศูนย์สูตรฟ้า  -  จุดเวอร์นัลอิควีนอกซ์
ตำแหȨงการ๶คลื่อนที่ྺองึϸงอาทิตย์ที่ปรากฏในช่วง๶วลาต่างๆของปี
วัȨำคัญๆทางึϸราศาสตร์
วัȨำคัญๆทางึϸราศาสตร์ Summer solstice:   June 21 Autumnal equinox:  Sep 22  ( กลางวัน  =  กลางคืน ) Winter solstice:   Dec 21 Vernal (spring) equinox:  Mar 21  ( กลางวัน  =  กลางคืน )
Right Ascension  และ   Declination
งานรังวัดเพื่อหาอะซิมุท  (Observation for Azimuth)
งานรังวัดเพื่อหาอะซิมุท  (Observation for Azimuth) กระทำได้  2  วิธี คือ โดยการรังวัดมุมสูงของดวงดาว  ( วิธีที่ใช้ในแลป ) ใช้สูตร โดยการรังวัดมุมชั่วโมงของดวงดาว ใช้สูตร
งานรังวัดเพื่อหาอะซิมุท  โดยการรังวัดมุมสูงของดวงอาทิตย์
ภาพปรากฏของดวงอาทิตย์ผ่าน  Solar Prism (a)  ภาพจริง (b)   ภาพสเก็ต
ขั้นตอนการคำนวณหาอะซิมุท  โดยการรังวัดมุมสูงของอาทิตย์ Step 1  หาเวลา  U.T. Step 2  หามุม  Declination  ของดวงอาทิตย์ Step 3  หา  Refraction & Parallax Step 4  หา  True altitude  ของดวงอาทิตย์   (the Sun)  Step 5  หา ทิศทางราบที่ถูกต้องเมื่อส่องไปยัง  the Sun   และ  R.O. Step 6  หา  Azimuth  ของ  the Sun Step 7  หา  Azimuth  ของ  R.O.
Step 1  หาเวลา  U.T. เวลาท้องถิ่น  (Local Time) หาเวลาเฉลี่ยของนาฬิกา   =  ( เวลาส่องหน้าซ้าย  +   เวลาส่องหน้าขวา ) /2 เวลาจริงท้องถิ่น  =  เวลาเฉลี่ยนาฬิกา  +  ค่าแก้ไขเวลา เวลาสากล  (Universal Time) สำหรับประเทศไทยในการหาเวลาสากล  (U.T)  เนื่องจากประเทศไทยอยู่ในแนวเมอริเดียนที่  105 o   ใช้แทบเวลา  (Time Zone) +7 h เวลา   U.T. =  เวลาจริงท้องถิ่น  - 7
Step 2  การคำนวณหามุมเดคลิเนชั่น ( d ) ของดวงอาทิตย์ เฉลี่ยเวลาท้องถิ่นขณะส่องดวงอาทิตย์หน้าซ้ายและขวา เช่น  แปลงเวลาท้องถิ่นเฉลี่ยเป็นเวลาสากล  (UT) =  เปิดตาราง  Star Almanac   ณ วัน เดือน ปี ทำการรังวัด
Step 2  การคำนวณหามุมเดคลิเนชั่น ( d ) ของดวงอาทิตย์ จากตาราง  Star Almanac   ณ วัน เดือน ปี ทำการรังวัด UT Sun Dec Deg-Min-Sec 18d  07h S11 o  35.2’ -11 o  35’12” 08h S11 o  34.3’ -11 o  34’18”
Step 3  หา  Refraction & Parallax มุมเหลื่อม  (parallax)  p = p o  cos h s  = 8.79” cos h s มุมหักเห  (Refraction)  กรณีงานต่ำกว่างานชั้น  3  ให้ใช้มุมหักเห เป็น
Step 4  หา  True altitude  ของดวงอาทิตย์   (the Sun) -  การคำนวณค่าจานองศาดิ่ง หามุมสูงดวงอาทิตย์จริง  (True Altitude  หรือ   H) การหามุมสูงดวงอาทิตย์เฉลี่ย ค่าตรวจแก้มุมสูง ค่าแก้มุมหักเห  (Refraction, r) ค่าแก้มุมเหลี่ยม   (Parallax, p)
Step 4  หา  True altitude  ของ  (the Sun)  ค่ารังวัดมุมสูงดวงอาทิตย์เฉลี่ย   (h s ) True altitude of the Sun (H)= h s +r+p
การหามุมดิ่งของ  R.O.  เฉลี่ย ค่ารังวัดมุมดิ่งเฉลี่ย
Step 5  หา ทิศทางราบที่ถูกต้องเมื่อส่องไปยัง  the Sun และ  R.O.   จากการคำนวณค่าจานองศาราบ หาทิศทางที่ถูกต้องของดวงอาทิตย์ เฉลี่ยค่าจานองศาราบที่ส่องไปยังดวงอาทิตย์ ตรวจแก้ความเอียงของกล้องวัดมุม หาทิศทางที่ถูกต้องของ  R.O. เฉลี่ยค่าจานองศาราบที่ส่องไปยัง   R.O. ตรวจแก้ความเอียงของกล้องวัดมุม หามุมราบระหว่าง ดวงอาทิตย์ และ  R.O.
Step 5.1  ค่าเฉลี่ยจานองศาราบ สามารถคำนวณได้จาก เมื่อค่าจานราบจากกล้องหน้าซ้ายน้อยกว่า  180 o เมื่อค่าจานราบจากกล้องหน้าซ้ายมากกว่า  180 o
Step 5.2  ความคลาดเคลื่อนของกล้องวัดมุม เพื่อหาความเอียงของแกนนอนในชุดการวัด ค่าแก้มุมเอียง  เช่น ค่าแก้มุมเอียง   =   V =  ความไวหลอดระดับ H =  ค่าเฉลี่ยมุมดิ่ง  ( หรือมุมสูง ) กรณีของดวงอาทิตย์ H =  ค่าเฉลี่ยมุมสูงดวงอาทิตย์ ( หลังจากแก้มุมสูงแล้ว ) ซ้าย ขวา กล้องหน้าซ้าย 4.5 1.5 กล้องหน้าขวา 0.5 5.5 รวม 5.0 6.0 S L- S R -1.0
Step 5.3   ทิศทางราบที่ถูกต้องเมื่อส่องไป ยัง  the Sun   และ  R.O.  True Direction of the Sun = Mean.Hor.Rdg  ของ  the Sun +  ค่าแก้มุมเอียงของ  the Sun True Direction of R.O. = Mean.Hor.Rdg  ของ  R.O. +  ค่าแก้มุมเอียงของ  R.O.
Step 6  การหาค่า  Azimuth  ของดวงอาทิตย์ ภายหลังจากได้ค่า  d ,  f   และ  H  จากสมการที่ได้ความสัมพันธ์ของตรีโกณมิติทรงกลม  (Spherical Trigonometry)   จะได้ว่า คำนวณค่า  Azimuth  ของดวงอาทิตย์ได้จาก Az. of the Sun = Z  เมื่อดวงอาทิตย์อยู่ทางตะวันออก   ( เช้า ) Az. of the Sun = 360 - Z  เมื่อดวงอาทิตย์อยู่ทางตะวันตก   ( บ่าย )
Step 7  หา  Azimuth  ของ  R.O. หามุมราบระหว่าง  the Sun  และ  R.O.  Angle  Sun-R.O.  = True.Hor.Rdg  Sun  – True.Hor.Rdg  R.O.   หา  Azimuth  ของ  R.O. Az. of R.O. = Az. of the Sun - Angle  Sun-R.O
สรุปขั้นตอนการคำนวณหา  True Azimuth  ของ  R.O. คำนวณหาค่า  Declination     d คำนวณหาค่าจานองศาดิ่ง  ค่าเฉลี่ยมุมสูงจริงของดวงอาทิตย์   (H)    ค่าแก้แกนเอียง ( ดวงอาทิตย์ ) ค่าเฉลี่ยมุมสูงจริงของ   R.O.  ค่าแก้แกนเอียง (R.O.) หาค่า  Azimuth  ของดวงอาทิตย์   จาก  d , H  และ  f คำนวณหาค่าจานราบ + ค่าแก้แกนเอียง   มุมระหว่าง ดวงอาทิตย์ และ  R.O.     ค่า  Azimuth  ของ  R.O.
Example Theodolite at STA. A at Engineering Building Latitude  16-28-27 N Error on watch time = -20 sec กล้อง T2  ความไวหลอดระดับ  = 20"/ ขีด Febuary 18th, 1997, Temperature = 104 o  F, Pressure 28.7 in.Hg Sta. Obj. Face Hor.Rdg Mean Hor.Rdg Ver.Rdg Mean Ver.Rdg Time Plate bubble h  m  s Avg. Time L R A R.O. L 00-00-00 00-00-13.0 104-51-35.0 -14-51-33.0 3.5 2.5 Sun L 110-31-50.5 109-51-01.4 32-33-09.1 +57-17-38.0 14-02-33.0 14-03-06 4.5 1.5 Sun R 289-10-12.2 327-08-25.0 14-04-10.0 0.5 2.5  R.O. R 180-00-16.0  255-08-29.0    2.0 4.0
Step 1  หาเวลา  U.T. เวลาเฉลี่ย  = 14h 03m 06s เวลา  U.T. = 14h 03m 06s – 7h = 7h 3m 6s Sta. Obj. Face Hor.Rdg Mean Hor.Rdg Ver.Rdg Mean Ver.Rdg Time Plate bubble h  m  s Avg. Time L R A R.O. L 00-00-00 00-00-13.0 104-51-35.0 -14-51-33.0 3.5 2.5 Sun L 110-31-50.5 109-51-01.4 32-33-09.1 +57-17-38.0 14-02-33.0 14-03-06 4.5 1.5 Sun R 289-10-12.2 327-08-25.0 14-04-10.0 0.5 2.5  R.O. R 180-00-16.0  255-08-29.0    2.0 4.0
Step 2  การคำนวณหามุมเดคลิเนชั่น ( d ) ของดวงอาทิตย์ จากตาราง  Star Almanac   ณ วัน เดือน ปี ทำการรังวัด UT Sun Dec Deg-Min-Sec 18d  07h S11 o  35.2’ -11 o  35’12” 08h S11 o  34.3’ -11 o  34’18”
Step 3  หา  Refraction & Parallax มุมเหลื่อม  (parallax)  p = p o  cos h s  = 8.8” cos h s  = 8.8” cos 57 o 17’38”=  00 o 00’05” มุมหักเห  (Refraction)  Sta. Obj. Face Hor.Rdg Mean Hor.Rdg Ver.Rdg Mean Ver.Rdg Time Plate bubble h  m  s Avg. Time L R A R.O. L 00-00-00 00-00-13.0 104-51-35.0 -14-51-33.0 3.5 2.5 Sun L 110-31-50.5 109-51-01.4 32-33-09.1 +57-17-38.0 14-02-33.0 14-03-06 4.5 1.5 Sun R 289-10-12.2 327-08-25.0 14-04-10.0 0.5 2.5  R.O. R 180-00-16.0  255-08-29.0    2.0 4.0
Step 4  หา  True altitude  ของ  (the Sun)  True altitude of the Sun (H)= h s +r+p H = 57 o 17’38”+(-33”)+(05”) H = 57 o 17’10” Sta. Obj. Face Hor.Rdg Mean Hor.Rdg Ver.Rdg Mean Ver.Rdg Time Plate bubble h  m  s Avg. Time L R A R.O. L 00-00-00 00-00-13.0 104-51-35.0 -14-51-33.0 3.5 2.5 Sun L 110-31-50.5 109-51-01.4 32-33-09.1 +57-17-38.0 14-02-33.0 14-03-06 4.5 1.5 Sun R 289-10-12.2 327-08-25.0 14-04-10.0 0.5 2.5  R.O. R 180-00-16.0  255-08-29.0    2.0 4.0
Step 5.1  ค่าเฉลี่ยจานองศาราบ Sta. Obj. Face Hor.Rdg Mean Hor.Rdg Ver.Rdg Mean Ver.Rdg Time Plate bubble h  m  s Avg. Time L R A R.O. L 00-00-00 00-00-13.0 104-51-35.0 -14-51-33.0 3.5 2.5 Sun L 110-31-50.5 109-51-01.4 32-33-09.1 +57-17-38.0 14-02-33.0 14-03-06 4.5 1.5 Sun R 289-10-12.2 327-08-25.0 14-04-10.0 0.5 2.5  R.O. R 180-00-16.0  255-08-29.0    2.0 4.0
Step 5.2  ความคลาดเคลื่อนของกล้องวัดมุม ค่าแก้มุมเอียง  ค่าแก้มุมเอียง   S  =   V =  ความไวหลอดระดับ H =  ค่าเฉลี่ยมุมดิ่ง  ( หรือมุมสูง ) กรณีของดวงอาทิตย์ H =  ค่าเฉลี่ยมุมสูงดวงอาทิตย์ ( หลังจากแก้มุมสูงแล้ว ) ค่าแก้มุมเอียง   R.O.  =   ซ้าย ขวา กล้องหน้าซ้าย 4.5 1.5 กล้องหน้าขวา 0.5 5.5 รวม 5.0 6.0 S L- S R -1.0
Step 5.3   ทิศทางราบที่ถูกต้องเมื่อส่องไป ยัง  the Sun   และ  R.O.  True Direction of the Sun  = Mean.Hor.Rdg  ของ  the Sun +  ค่าแก้มุมเอียงของ  the Sun = 109 o 51’01.4”+(-15.6”) = = 109 o 51’45.8” True Direction of R.O.  = Mean.Hor.Rdg  ของ  R.O. +  ค่าแก้มุมเอียงของ  R.O. = 00 o 00’13.0”+(1.3”) = 00 o 00’14.3”
Step 5  หามุมราบระหว่าง  the Sun  และ  R.O. จาก  True Direction of the Sun = 109 o 51’45.8” True Direction of R.O. = 00 o 00’14.3” Angle  Sun-R.O.  = True.Hor.Rdg  Sun  – True.Hor.Rdg  R.O.   Angle  Sun-R.O.  = 109 o 51’45.8”- 00 o 00’14.3” นั่นคือ  Angle  Sun-R.O.  = 109 o 50’31.5”
Step 6  การหาค่า  Azimuth  ของดวงอาทิตย์ จาก และ  d  = -11 o 35’19”,  f  = 16 o 28’27”, H = 57 o 17’10” จะได้ว่า  cos z = -0.8479114382 นั้นคือ  z = 147 o 59’06.8” เนื่องจากเป็นการรังวัดตอนบ่าย  ดังนั้น  Az. of Sun = 360 - Z = 360 o  - 147 o 59’06.8” = 212 o 00’53.2”
Step 7  หา  Azimuth  ของ  R.O. จาก  Angle  Sun-R.O.  = 109 o 50’31.5” หา  Azimuth  ของ  R.O. Az. of R.O. = Az. of the Sun - Angle  Sun-R.O นั้นคือ  Az. of R.O.  = 212 o 00’53.2” - 109 o 50’31.5”  = 102 o 10’21.7”
Ad

Recommended

01 หลักการของงานสำรวจ
01 หลักการของงานสำรวจ
Nut Seraphim
บทที่ 12 การสำรวจแผนที่ภูมิประเทศ
บทที่ 12 การสำรวจแผนที่ภูมิประเทศ
Chattichai
14 คำนวณเนื้อที่รูปหลายเหลี่ยมด้านไม่เท่า
14 คำนวณเนื้อที่รูปหลายเหลี่ยมด้านไม่เท่า
Nut Seraphim
บทที่ 4 การระดับ 2
บทที่ 4 การระดับ 2
Chattichai
บทที่ 10 งานโครงข่ายสามเหลี่ยม
บทที่ 10 งานโครงข่ายสามเหลี่ยม
Chattichai
บทที่ 5 มุม แบริงส์ และแอซิมัธ
บทที่ 5 มุม แบริงส์ และแอซิมัธ
Chattichai
การเขียน กคศ.3 1
การเขียน กคศ.3 1
thanakit553
บทที่ 3 การวัดระยะทาง 2
บทที่ 3 การวัดระยะทาง 2
Chattichai
บทที่ 8 งานวงรอบและการคำนวณ
บทที่ 8 งานวงรอบและการคำนวณ
Chattichai
ปฏิบัติงานการวัดระยะึϹวยการนับก้าว
ปฏิบัติงานการวัดระยะึϹวยการนับก้าว
Nut Seraphim
ชุดกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ วงจรไฟฟ้ามหาสนุก
ชุดกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ วงจรไฟฟ้ามหาสนุก
Suparat2804
การเขียนสารคดี ขนมจีน
การเขียนสารคดี ขนมจีน
Maii's II
รูปสี่เหลี่ยม ป.5.pdf
รูปสี่เหลี่ยม ป.5.pdf
ssuser29b0ec
คู่มือฝึกระเบียบแถว
คู่มือฝึกระเบียบแถว
Teacher Sophonnawit
บทที่ 1 บทนำสู่การสำรวจรังวัด
บทที่ 1 บทนำสู่การสำรวจรังวัด
Chattichai
แบบฝึก๶สริมทักษะภาค๶รียนที่2ป.6
แบบฝึก๶สริมทักษะภาค๶รียนที่2ป.6
ทับทิม เจริญตา
บทที่ 20 ฟิสิกส์นิวเคลียร์ แก้ไขครั้งที่ 1
บทที่ 20 ฟิสิกส์นิวเคลียร์ แก้ไขครั้งที่ 1
Wijitta DevilTeacher
03 การวัดระยะทาง
03 การวัดระยะทาง
Nut Seraphim
ข้อสอบฟุตซอล ม. 4
ข้อสอบฟุตซอล ม. 4
preecha2001
โรคไคลน์เฟลเตอร์ ซินโดรม
โรคไคลน์เฟลเตอร์ ซินโดรม
Roongroeng
แผนการจัดหน่วยการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556
แผนการจัดหน่วยการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556
dnavaroj
โครงสร้างรายวิชาวิทยาศาสตร์ ป.3
โครงสร้างรายวิชาวิทยาศาสตร์ ป.3
Mam Chongruk
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน5บท
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน5บท
Sittidet Nawee
๶อกสารประกอบการ๶รียนรู้เรื่องพลังงานความร้อน
๶อกสารประกอบการ๶รียนรู้เรื่องพลังงานความร้อน
Kobwit Piriyawat
ใบความรู้สȨมแม่๶หล็ก
ใบความรู้สȨมแม่๶หล็ก
สุกัญญา นิ่มพันธุ์
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3
teerachon
ทรงกลมฟ้า
ทรงกลมฟ้า
Faris Singhasena
บทที่ 11 ทัชโอเมตรี
บทที่ 11 ทัชโอเมตรี
Chattichai
บทที่ 6 กล้องวัดมุม
บทที่ 6 กล้องวัดมุม
Chattichai

More Related Content

What's hot (20)

บทที่ 8 งานวงรอบและการคำนวณ
บทที่ 8 งานวงรอบและการคำนวณ
Chattichai
ปฏิบัติงานการวัดระยะึϹวยการนับก้าว
ปฏิบัติงานการวัดระยะึϹวยการนับก้าว
Nut Seraphim
ชุดกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ วงจรไฟฟ้ามหาสนุก
ชุดกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ วงจรไฟฟ้ามหาสนุก
Suparat2804
การเขียนสารคดี ขนมจีน
การเขียนสารคดี ขนมจีน
Maii's II
รูปสี่เหลี่ยม ป.5.pdf
รูปสี่เหลี่ยม ป.5.pdf
ssuser29b0ec
คู่มือฝึกระเบียบแถว
คู่มือฝึกระเบียบแถว
Teacher Sophonnawit
บทที่ 1 บทนำสู่การสำรวจรังวัด
บทที่ 1 บทนำสู่การสำรวจรังวัด
Chattichai
แบบฝึก๶สริมทักษะภาค๶รียนที่2ป.6
แบบฝึก๶สริมทักษะภาค๶รียนที่2ป.6
ทับทิม เจริญตา
บทที่ 20 ฟิสิกส์นิวเคลียร์ แก้ไขครั้งที่ 1
บทที่ 20 ฟิสิกส์นิวเคลียร์ แก้ไขครั้งที่ 1
Wijitta DevilTeacher
03 การวัดระยะทาง
03 การวัดระยะทาง
Nut Seraphim
ข้อสอบฟุตซอล ม. 4
ข้อสอบฟุตซอล ม. 4
preecha2001
โรคไคลน์เฟลเตอร์ ซินโดรม
โรคไคลน์เฟลเตอร์ ซินโดรม
Roongroeng
แผนการจัดหน่วยการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556
แผนการจัดหน่วยการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556
dnavaroj
โครงสร้างรายวิชาวิทยาศาสตร์ ป.3
โครงสร้างรายวิชาวิทยาศาสตร์ ป.3
Mam Chongruk
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน5บท
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน5บท
Sittidet Nawee
๶อกสารประกอบการ๶รียนรู้เรื่องพลังงานความร้อน
๶อกสารประกอบการ๶รียนรู้เรื่องพลังงานความร้อน
Kobwit Piriyawat
ใบความรู้สȨมแม่๶หล็ก
ใบความรู้สȨมแม่๶หล็ก
สุกัญญา นิ่มพันธุ์
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3
teerachon
ทรงกลมฟ้า
ทรงกลมฟ้า
Faris Singhasena
บทที่ 8 งานวงรอบและการคำนวณ
บทที่ 8 งานวงรอบและการคำนวณ
Chattichai
ปฏิบัติงานการวัดระยะึϹวยการนับก้าว
ปฏิบัติงานการวัดระยะึϹวยการนับก้าว
Nut Seraphim
ชุดกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ วงจรไฟฟ้ามหาสนุก
ชุดกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ วงจรไฟฟ้ามหาสนุก
Suparat2804
การเขียนสารคดี ขนมจีน
การเขียนสารคดี ขนมจีน
Maii's II
รูปสี่เหลี่ยม ป.5.pdf
รูปสี่เหลี่ยม ป.5.pdf
ssuser29b0ec
คู่มือฝึกระเบียบแถว
คู่มือฝึกระเบียบแถว
Teacher Sophonnawit
บทที่ 1 บทนำสู่การสำรวจรังวัด
บทที่ 1 บทนำสู่การสำรวจรังวัด
Chattichai
แบบฝึก๶สริมทักษะภาค๶รียนที่2ป.6
แบบฝึก๶สริมทักษะภาค๶รียนที่2ป.6
ทับทิม เจริญตา
บทที่ 20 ฟิสิกส์นิวเคลียร์ แก้ไขครั้งที่ 1
บทที่ 20 ฟิสิกส์นิวเคลียร์ แก้ไขครั้งที่ 1
Wijitta DevilTeacher
03 การวัดระยะทาง
03 การวัดระยะทาง
Nut Seraphim
ข้อสอบฟุตซอล ม. 4
ข้อสอบฟุตซอล ม. 4
preecha2001
โรคไคลน์เฟลเตอร์ ซินโดรม
โรคไคลน์เฟลเตอร์ ซินโดรม
Roongroeng
แผนการจัดหน่วยการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556
แผนการจัดหน่วยการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556
dnavaroj
โครงสร้างรายวิชาวิทยาศาสตร์ ป.3
โครงสร้างรายวิชาวิทยาศาสตร์ ป.3
Mam Chongruk
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน5บท
ตัวอย่างการเขียนโครงงาน5บท
Sittidet Nawee
๶อกสารประกอบการ๶รียนรู้เรื่องพลังงานความร้อน
๶อกสารประกอบการ๶รียนรู้เรื่องพลังงานความร้อน
Kobwit Piriyawat
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.3
teerachon

Viewers also liked (8)

บทที่ 11 ทัชโอเมตรี
บทที่ 11 ทัชโอเมตรี
Chattichai
บทที่ 6 กล้องวัดมุม
บทที่ 6 กล้องวัดมุม
Chattichai
บทที่ 7 E D M Total Station
บทที่ 7 E D M Total Station
Chattichai
บทที่ 2 ทฤษฏีการวัดและความคลาดเคลื่อน 2
บทที่ 2 ทฤษฏีการวัดและความคลาดเคลื่อน 2
Chattichai
บทที่ 3 การวัดระยะทาง 2
บทที่ 3 การวัดระยะทาง 2
Chattichai
Triangulation Sample
Triangulation Sample
Chattichai
แบบฝึกหัด Strength Of Figure
แบบฝึกหัด Strength Of Figure
Chattichai
บทที่ 11 ทัชโอเมตรี
บทที่ 11 ทัชโอเมตรี
Chattichai
บทที่ 6 กล้องวัดมุม
บทที่ 6 กล้องวัดมุม
Chattichai
บทที่ 7 E D M Total Station
บทที่ 7 E D M Total Station
Chattichai
บทที่ 2 ทฤษฏีการวัดและความคลาดเคลื่อน 2
บทที่ 2 ทฤษฏีการวัดและความคลาดเคลื่อน 2
Chattichai
บทที่ 3 การวัดระยะทาง 2
บทที่ 3 การวัดระยะทาง 2
Chattichai
Triangulation Sample
Triangulation Sample
Chattichai
แบบฝึกหัด Strength Of Figure
แบบฝึกหัด Strength Of Figure
Chattichai
Ad

Similar to บทที่ 9 ดาราศาสตร์ปฏิบัติเบื้องต้น Full Version (20)

Eratosthenes-on-vernal-equinox-report-thai-version
Eratosthenes-on-vernal-equinox-report-thai-version
SAKANAN ANANTASOOK
รวมปฏิสัมพันธ์.ٳ
รวมปฏิสัมพันธ์.ٳ
Kru Bio Hazad
Solar Energy Assessment Using Remote Sensing Technologies
Solar Energy Assessment Using Remote Sensing Technologies
oznilzo
บทที่ 6 ระบบสุริยะและดาวฤกษ์ (1).pptx
บทที่ 6 ระบบสุริยะและดาวฤกษ์ (1).pptx
ssuserfffbdb
2560 project (1)
2560 project (1)
Chonlakan Kuntakalang
แสงและการหัก๶ห2
แสงและการหัก๶ห2
DAWKAJAY20
Astroplan13
Astroplan13
SAKANAN ANANTASOOK
6.ปฏิสัมพันธ์สุริยะgs โลกหมุนโลกโคจร
6.ปฏิสัมพันธ์สุริยะgs โลกหมุนโลกโคจร
Wichai Likitponrak
8.ดาวในท้องฟ้าgs บอกตำแหน่งวัตถุท้องฟ้า
8.ดาวในท้องฟ้าgs บอกตำแหน่งวัตถุท้องฟ้า
Wichai Likitponrak
โลกและจักรวาล
โลกและจักรวาล
Pa'rig Prig
ึϸวฤกษ์.ٳ
ึϸวฤกษ์.ٳ
nattawootwiphanna1
7.ปฏิสัมพันธ์สุริยะgs ดวงจันทร์ดาวเคาระห์
7.ปฏิสัมพันธ์สุริยะgs ดวงจันทร์ดาวเคาระห์
Wichai Likitponrak
แบบทดสอบ สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอวกาศ
แบบทดสอบ สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอวกาศ
dnavaroj
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
dnavaroj
Eratosthenes-on-vernal-equinox-report-thai-version
Eratosthenes-on-vernal-equinox-report-thai-version
SAKANAN ANANTASOOK
รวมปฏิสัมพันธ์.ٳ
รวมปฏิสัมพันธ์.ٳ
Kru Bio Hazad
Solar Energy Assessment Using Remote Sensing Technologies
Solar Energy Assessment Using Remote Sensing Technologies
oznilzo
บทที่ 6 ระบบสุริยะและดาวฤกษ์ (1).pptx
บทที่ 6 ระบบสุริยะและดาวฤกษ์ (1).pptx
ssuserfffbdb
แสงและการหัก๶ห2
แสงและการหัก๶ห2
DAWKAJAY20
6.ปฏิสัมพันธ์สุริยะgs โลกหมุนโลกโคจร
6.ปฏิสัมพันธ์สุริยะgs โลกหมุนโลกโคจร
Wichai Likitponrak
8.ดาวในท้องฟ้าgs บอกตำแหน่งวัตถุท้องฟ้า
8.ดาวในท้องฟ้าgs บอกตำแหน่งวัตถุท้องฟ้า
Wichai Likitponrak
โลกและจักรวาล
โลกและจักรวาล
Pa'rig Prig
7.ปฏิสัมพันธ์สุริยะgs ดวงจันทร์ดาวเคาระห์
7.ปฏิสัมพันธ์สุริยะgs ดวงจันทร์ดาวเคาระห์
Wichai Likitponrak
แบบทดสอบ สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอวกาศ
แบบทดสอบ สาระที่ 7 ดาราศาสตร์และอวกาศ
dnavaroj
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
แบบทดสอบกลางภาคเรียน วิทย์ 6 (ออกตามตัวชี้วัด)
dnavaroj
Ad

บทที่ 9 ดาราศาสตร์ปฏิบัติเบื้องต้น Full Version

  • 1. อ . ดร . ชาติชาย ไวยสุระสิงห์ ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น บทที่ 9 ดาราศาสตร์ปฏิบัติเบื้องต้น (Introduction to Practical Astronomy)
  • 2. โลกและทรงกลมฟ้า (Earth and Celestial Sphere) งานรังวัดดาราศาสตร์ถือว่า โลกหยุดนิ่ง ส่วนดวงดาวและวัตถุฟ้าอื่นๆโคจรอยู่บนผิวของทรงกลมฟ้าซึ้งมีรัศมีอนันต์จากจุดศูนย์กลางโลก แกนหมุดของโลกที่ต่อออกจากโลกไปจนตัดกับผิวของทรงกลมฟ้าจะได้จุดขั่วฟ้า (P) L 90 o - L
  • 3. นิยามศัพท์ทางดาราศาสตร์ เส้นขอบฟ้าของผู้รังวัด (Celestial Horizon) คือ วงกลมใหญ่ของทรงกลมฟ้าซึ่งเกิดจากระนาบที่ตั้งฉากกับเส้นดิ่งที่รังวัดผ่านจุดศูนย์กลางของโลกไปตัดกับทรงกลมฟ้า (Celestial Sphere) เส้นเมอริเดียนของผู้รังวัด (Celestial Meridian) คือวงกลมใหญ่ของทรงกลมซึ่งผ่านจุดขั่วฟ้า และจุดดิ่งบนของผู้รังวัด เส้นศูนย์สูตรฟ้า (Equator) คือ วงกลมใหญ่ซึ่งเกิดจากการขยายของระนาบศูนย์สูตรของโลกไปตัดกับผิวของทรงกลมฟ้า มุมสูงของดาว (Altitude of a star) คือ ค่ามุมดิ่งจริงที่วัดไปยังดาว โคละติจูด (Co-latitude) คือระยะเชิงมุมที่ประกอบเป็นมุม 90 o กับค่าละติดจูด หรือมีค่าเท่ากับ 90- f
  • 4. จุดดิ่งบน (Zenith) จากจุดที่ยืนอยู่หรือจุดที่ตั้งกล้องทำงานรังวัดต่อตรงในแนวดิ่งไปจนตัดทรงกลมฟ้าจะเป็นจุดดิ่งบน , Z (Zenith)
  • 5. นิยามศัพท์ทางดาราศาสตร์ (2) ระยะดิ่งบน (Zenith) คือระยะเชิงมุมจากดวงดาวไปยังจุดดิ่งบน ใช้สัญลักษณ์ z มุมอะซิมุทของดาว (Azimuth angle of a star) คือค่ามุมซึ่งวัดบนระนาบของเส้นขอบฟ้าจากแนวเมอริเดียนของผู้รังวัดไปยังระนาบดิ่งที่ผ่านดาว ค่ามุมอะซิมุทของดาวเปลี่ยนแปลงจาก 0 o ถึง 180 o ไปทางตะวันออกและตะวันตก ใช้สัญลักษณ์ A อะซิมุทของดาว (Azimuth of a star) คือค่ามุมซึ่งวัดบนระนาบของเส้นของฟ้าจากแนวเมอริเดียนของผู้รังวัดในทิศทางตามเข็มนาฬิกาไปยังระนาบดิ่งที่ผ่านดาว ดังนั้น อะซิมุทของดาวจึงเปลี่ยนแปลงจาก 0 o ถึง 360 o เดคลิเนชันของดาว (Declination of a star) คือระยะเชิงมุมจากเส้นศูนย์สูตรไปยังดวงดาว ถ้าดวงดาวอยู่ไปทางเหนือของเส้นศูนย์สูตร ค่าเดคลิเนชันเป็นบวก ถ้าดวงดาวอยู่ไปทางใต้ค่าเดคลิเนชันเป็นลบ ใช้สัญลักษณ์ d
  • 6.
  • 10. นิยามศัพท์ทางดาราศาสตร์ (3) วงกลมชั่วโมง (hour circle) คือครึ่งวงกลมใหญ่บนทรงกลมฟ้าซึ่งผ่านจุดขั่วฟ้าทั้งสองของดวงดาว ดังนั้น วงกลมชั่วโมงของดาวจึงหมุนไปในทิศตะวันตกพร้อมๆกับดาว มุมชั่วโมง (hour angle) คือมุมที่จุดขั้วฟ้าซึ่งวัดบนระนาบศูนย์สูตรจากเส้นเมอริเดียนที่เลือกขึ้น ( เมอริเดียนท้องถิ่นหรือกรีนิช ) ไปยังวงกลมชั่วโมงในทางทิศตะวันตก มุมเมอริเดียน (meridian angle) ของดาว คือมุมที่จุดขั้วฟ้าซึ่งซึ่งวัดบนระนาบศูนย์สูตรจากเส้นเมอริเดียนของผู้รังวัดไปยังวงกลมชั่วโมงของดาวในทิศตะวันตกหรือตะวันออก มีค่าเปลี่ยนแปลงจาก 0 o ถึง 180 o ใช้สัญลักษณ์ t
  • 11. นิยามศัพท์ทางดาราศาสตร์ (4) เส้นอีคลิปติค (ecliptic) คือวงกลมใหญ่ที่เกิดจากรอยตัดของระนาบวงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์กับทรงกลมฟ้า จุดอีควินอกซ์ (Equinox) คือจุดตัดของเส้นอีคลิปติคกับเส้นศูนย์สูตรฟ้า จุดเวอร์นัลอีควีนอกซ์ (Vernal equinox) เป็นจุดตัดซึ่งดวงอาทิตย์กำลังจะข้ามเส้นศูนย์สูตรจากทางใต้ไปทางเหนือ จุดออทัมนอลอีควีนอกซ์ (Autumnal equinox) เป็นจุดตัดซึ่งดวงอาทิตย์กำลังจะข้ามเส้นศูนย์สูตรจากเหนือไปใต้ ไรท์แอสเซนชัน (right ascension) คือระยะเชิงมุมที่วัดไปทางตะวันออกบนระนาบศูนย์สูตรจากจุดเวอร์นัลอีควีนอกซ์ไปยังวงกลมชั่วโมงของดาว
  • 13. เส้นอิคลิปติค – เส้นศูนย์สูตรฟ้า - จุดเวอร์นัลอิควีนอกซ์
  • 16. วัȨำคัญๆทางึϸราศาสตร์ Summer solstice: June 21 Autumnal equinox: Sep 22 ( กลางวัน = กลางคืน ) Winter solstice: Dec 21 Vernal (spring) equinox: Mar 21 ( กลางวัน = กลางคืน )
  • 17. Right Ascension และ Declination
  • 19. งานรังวัดเพื่อหาอะซิมุท (Observation for Azimuth) กระทำได้ 2 วิธี คือ โดยการรังวัดมุมสูงของดวงดาว ( วิธีที่ใช้ในแลป ) ใช้สูตร โดยการรังวัดมุมชั่วโมงของดวงดาว ใช้สูตร
  • 21. ภาพปรากฏของดวงอาทิตย์ผ่าน Solar Prism (a) ภาพจริง (b) ภาพสเก็ต
  • 22. ขั้นตอนการคำนวณหาอะซิมุท โดยการรังวัดมุมสูงของอาทิตย์ Step 1 หาเวลา U.T. Step 2 หามุม Declination ของดวงอาทิตย์ Step 3 หา Refraction & Parallax Step 4 หา True altitude ของดวงอาทิตย์ (the Sun) Step 5 หา ทิศทางราบที่ถูกต้องเมื่อส่องไปยัง the Sun และ R.O. Step 6 หา Azimuth ของ the Sun Step 7 หา Azimuth ของ R.O.
  • 23. Step 1 หาเวลา U.T. เวลาท้องถิ่น (Local Time) หาเวลาเฉลี่ยของนาฬิกา = ( เวลาส่องหน้าซ้าย + เวลาส่องหน้าขวา ) /2 เวลาจริงท้องถิ่น = เวลาเฉลี่ยนาฬิกา + ค่าแก้ไขเวลา เวลาสากล (Universal Time) สำหรับประเทศไทยในการหาเวลาสากล (U.T) เนื่องจากประเทศไทยอยู่ในแนวเมอริเดียนที่ 105 o ใช้แทบเวลา (Time Zone) +7 h เวลา U.T. = เวลาจริงท้องถิ่น - 7
  • 24. Step 2 การคำนวณหามุมเดคลิเนชั่น ( d ) ของดวงอาทิตย์ เฉลี่ยเวลาท้องถิ่นขณะส่องดวงอาทิตย์หน้าซ้ายและขวา เช่น แปลงเวลาท้องถิ่นเฉลี่ยเป็นเวลาสากล (UT) = เปิดตาราง Star Almanac ณ วัน เดือน ปี ทำการรังวัด
  • 25. Step 2 การคำนวณหามุมเดคลิเนชั่น ( d ) ของดวงอาทิตย์ จากตาราง Star Almanac ณ วัน เดือน ปี ทำการรังวัด UT Sun Dec Deg-Min-Sec 18d 07h S11 o 35.2’ -11 o 35’12” 08h S11 o 34.3’ -11 o 34’18”
  • 26. Step 3 หา Refraction & Parallax มุมเหลื่อม (parallax) p = p o cos h s = 8.79” cos h s มุมหักเห (Refraction) กรณีงานต่ำกว่างานชั้น 3 ให้ใช้มุมหักเห เป็น
  • 27. Step 4 หา True altitude ของดวงอาทิตย์ (the Sun) - การคำนวณค่าจานองศาดิ่ง หามุมสูงดวงอาทิตย์จริง (True Altitude หรือ H) การหามุมสูงดวงอาทิตย์เฉลี่ย ค่าตรวจแก้มุมสูง ค่าแก้มุมหักเห (Refraction, r) ค่าแก้มุมเหลี่ยม (Parallax, p)
  • 28. Step 4 หา True altitude ของ (the Sun) ค่ารังวัดมุมสูงดวงอาทิตย์เฉลี่ย (h s ) True altitude of the Sun (H)= h s +r+p
  • 29. การหามุมดิ่งของ R.O. เฉลี่ย ค่ารังวัดมุมดิ่งเฉลี่ย
  • 30. Step 5 หา ทิศทางราบที่ถูกต้องเมื่อส่องไปยัง the Sun และ R.O. จากการคำนวณค่าจานองศาราบ หาทิศทางที่ถูกต้องของดวงอาทิตย์ เฉลี่ยค่าจานองศาราบที่ส่องไปยังดวงอาทิตย์ ตรวจแก้ความเอียงของกล้องวัดมุม หาทิศทางที่ถูกต้องของ R.O. เฉลี่ยค่าจานองศาราบที่ส่องไปยัง R.O. ตรวจแก้ความเอียงของกล้องวัดมุม หามุมราบระหว่าง ดวงอาทิตย์ และ R.O.
  • 31. Step 5.1 ค่าเฉลี่ยจานองศาราบ สามารถคำนวณได้จาก เมื่อค่าจานราบจากกล้องหน้าซ้ายน้อยกว่า 180 o เมื่อค่าจานราบจากกล้องหน้าซ้ายมากกว่า 180 o
  • 32. Step 5.2 ความคลาดเคลื่อนของกล้องวัดมุม เพื่อหาความเอียงของแกนนอนในชุดการวัด ค่าแก้มุมเอียง เช่น ค่าแก้มุมเอียง = V = ความไวหลอดระดับ H = ค่าเฉลี่ยมุมดิ่ง ( หรือมุมสูง ) กรณีของดวงอาทิตย์ H = ค่าเฉลี่ยมุมสูงดวงอาทิตย์ ( หลังจากแก้มุมสูงแล้ว ) ซ้าย ขวา กล้องหน้าซ้าย 4.5 1.5 กล้องหน้าขวา 0.5 5.5 รวม 5.0 6.0 S L- S R -1.0
  • 33. Step 5.3 ทิศทางราบที่ถูกต้องเมื่อส่องไป ยัง the Sun และ R.O. True Direction of the Sun = Mean.Hor.Rdg ของ the Sun + ค่าแก้มุมเอียงของ the Sun True Direction of R.O. = Mean.Hor.Rdg ของ R.O. + ค่าแก้มุมเอียงของ R.O.
  • 34. Step 6 การหาค่า Azimuth ของดวงอาทิตย์ ภายหลังจากได้ค่า d , f และ H จากสมการที่ได้ความสัมพันธ์ของตรีโกณมิติทรงกลม (Spherical Trigonometry) จะได้ว่า คำนวณค่า Azimuth ของดวงอาทิตย์ได้จาก Az. of the Sun = Z เมื่อดวงอาทิตย์อยู่ทางตะวันออก ( เช้า ) Az. of the Sun = 360 - Z เมื่อดวงอาทิตย์อยู่ทางตะวันตก ( บ่าย )
  • 35. Step 7 หา Azimuth ของ R.O. หามุมราบระหว่าง the Sun และ R.O. Angle Sun-R.O. = True.Hor.Rdg Sun – True.Hor.Rdg R.O. หา Azimuth ของ R.O. Az. of R.O. = Az. of the Sun - Angle Sun-R.O
  • 36. สรุปขั้นตอนการคำนวณหา True Azimuth ของ R.O. คำนวณหาค่า Declination  d คำนวณหาค่าจานองศาดิ่ง ค่าเฉลี่ยมุมสูงจริงของดวงอาทิตย์ (H)  ค่าแก้แกนเอียง ( ดวงอาทิตย์ ) ค่าเฉลี่ยมุมสูงจริงของ R.O.  ค่าแก้แกนเอียง (R.O.) หาค่า Azimuth ของดวงอาทิตย์ จาก d , H และ f คำนวณหาค่าจานราบ + ค่าแก้แกนเอียง  มุมระหว่าง ดวงอาทิตย์ และ R.O.  ค่า Azimuth ของ R.O.
  • 37. Example Theodolite at STA. A at Engineering Building Latitude 16-28-27 N Error on watch time = -20 sec กล้อง T2 ความไวหลอดระดับ = 20"/ ขีด Febuary 18th, 1997, Temperature = 104 o F, Pressure 28.7 in.Hg Sta. Obj. Face Hor.Rdg Mean Hor.Rdg Ver.Rdg Mean Ver.Rdg Time Plate bubble h m s Avg. Time L R A R.O. L 00-00-00 00-00-13.0 104-51-35.0 -14-51-33.0 3.5 2.5 Sun L 110-31-50.5 109-51-01.4 32-33-09.1 +57-17-38.0 14-02-33.0 14-03-06 4.5 1.5 Sun R 289-10-12.2 327-08-25.0 14-04-10.0 0.5 2.5 R.O. R 180-00-16.0 255-08-29.0 2.0 4.0
  • 38. Step 1 หาเวลา U.T. เวลาเฉลี่ย = 14h 03m 06s เวลา U.T. = 14h 03m 06s – 7h = 7h 3m 6s Sta. Obj. Face Hor.Rdg Mean Hor.Rdg Ver.Rdg Mean Ver.Rdg Time Plate bubble h m s Avg. Time L R A R.O. L 00-00-00 00-00-13.0 104-51-35.0 -14-51-33.0 3.5 2.5 Sun L 110-31-50.5 109-51-01.4 32-33-09.1 +57-17-38.0 14-02-33.0 14-03-06 4.5 1.5 Sun R 289-10-12.2 327-08-25.0 14-04-10.0 0.5 2.5 R.O. R 180-00-16.0 255-08-29.0 2.0 4.0
  • 39. Step 2 การคำนวณหามุมเดคลิเนชั่น ( d ) ของดวงอาทิตย์ จากตาราง Star Almanac ณ วัน เดือน ปี ทำการรังวัด UT Sun Dec Deg-Min-Sec 18d 07h S11 o 35.2’ -11 o 35’12” 08h S11 o 34.3’ -11 o 34’18”
  • 40. Step 3 หา Refraction & Parallax มุมเหลื่อม (parallax) p = p o cos h s = 8.8” cos h s = 8.8” cos 57 o 17’38”= 00 o 00’05” มุมหักเห (Refraction) Sta. Obj. Face Hor.Rdg Mean Hor.Rdg Ver.Rdg Mean Ver.Rdg Time Plate bubble h m s Avg. Time L R A R.O. L 00-00-00 00-00-13.0 104-51-35.0 -14-51-33.0 3.5 2.5 Sun L 110-31-50.5 109-51-01.4 32-33-09.1 +57-17-38.0 14-02-33.0 14-03-06 4.5 1.5 Sun R 289-10-12.2 327-08-25.0 14-04-10.0 0.5 2.5 R.O. R 180-00-16.0 255-08-29.0 2.0 4.0
  • 41. Step 4 หา True altitude ของ (the Sun) True altitude of the Sun (H)= h s +r+p H = 57 o 17’38”+(-33”)+(05”) H = 57 o 17’10” Sta. Obj. Face Hor.Rdg Mean Hor.Rdg Ver.Rdg Mean Ver.Rdg Time Plate bubble h m s Avg. Time L R A R.O. L 00-00-00 00-00-13.0 104-51-35.0 -14-51-33.0 3.5 2.5 Sun L 110-31-50.5 109-51-01.4 32-33-09.1 +57-17-38.0 14-02-33.0 14-03-06 4.5 1.5 Sun R 289-10-12.2 327-08-25.0 14-04-10.0 0.5 2.5 R.O. R 180-00-16.0 255-08-29.0 2.0 4.0
  • 42. Step 5.1 ค่าเฉลี่ยจานองศาราบ Sta. Obj. Face Hor.Rdg Mean Hor.Rdg Ver.Rdg Mean Ver.Rdg Time Plate bubble h m s Avg. Time L R A R.O. L 00-00-00 00-00-13.0 104-51-35.0 -14-51-33.0 3.5 2.5 Sun L 110-31-50.5 109-51-01.4 32-33-09.1 +57-17-38.0 14-02-33.0 14-03-06 4.5 1.5 Sun R 289-10-12.2 327-08-25.0 14-04-10.0 0.5 2.5 R.O. R 180-00-16.0 255-08-29.0 2.0 4.0
  • 43. Step 5.2 ความคลาดเคลื่อนของกล้องวัดมุม ค่าแก้มุมเอียง ค่าแก้มุมเอียง S = V = ความไวหลอดระดับ H = ค่าเฉลี่ยมุมดิ่ง ( หรือมุมสูง ) กรณีของดวงอาทิตย์ H = ค่าเฉลี่ยมุมสูงดวงอาทิตย์ ( หลังจากแก้มุมสูงแล้ว ) ค่าแก้มุมเอียง R.O. = ซ้าย ขวา กล้องหน้าซ้าย 4.5 1.5 กล้องหน้าขวา 0.5 5.5 รวม 5.0 6.0 S L- S R -1.0
  • 44. Step 5.3 ทิศทางราบที่ถูกต้องเมื่อส่องไป ยัง the Sun และ R.O. True Direction of the Sun = Mean.Hor.Rdg ของ the Sun + ค่าแก้มุมเอียงของ the Sun = 109 o 51’01.4”+(-15.6”) = = 109 o 51’45.8” True Direction of R.O. = Mean.Hor.Rdg ของ R.O. + ค่าแก้มุมเอียงของ R.O. = 00 o 00’13.0”+(1.3”) = 00 o 00’14.3”
  • 45. Step 5 หามุมราบระหว่าง the Sun และ R.O. จาก True Direction of the Sun = 109 o 51’45.8” True Direction of R.O. = 00 o 00’14.3” Angle Sun-R.O. = True.Hor.Rdg Sun – True.Hor.Rdg R.O. Angle Sun-R.O. = 109 o 51’45.8”- 00 o 00’14.3” นั่นคือ Angle Sun-R.O. = 109 o 50’31.5”
  • 46. Step 6 การหาค่า Azimuth ของดวงอาทิตย์ จาก และ d = -11 o 35’19”, f = 16 o 28’27”, H = 57 o 17’10” จะได้ว่า cos z = -0.8479114382 นั้นคือ z = 147 o 59’06.8” เนื่องจากเป็นการรังวัดตอนบ่าย ดังนั้น Az. of Sun = 360 - Z = 360 o - 147 o 59’06.8” = 212 o 00’53.2”
  • 47. Step 7 หา Azimuth ของ R.O. จาก Angle Sun-R.O. = 109 o 50’31.5” หา Azimuth ของ R.O. Az. of R.O. = Az. of the Sun - Angle Sun-R.O นั้นคือ Az. of R.O. = 212 o 00’53.2” - 109 o 50’31.5” = 102 o 10’21.7”