More Related Content
What's hot (20)
ไบโอมไบโอมKittiya GenEnjoyไบโอม (biomes) หรือชีวนิเวศ หมายถึงระบบนิเวศใดก็ตามที่มีองค์ประกอบของปัจจัยทางกายภาพ เช่น อุณหภูมิและความชื้น และปัจจัยทางชีวภาพ เช่น พืชและสัตว์ที่คล้ายคลึงกันกระจายอยู่ในเขตภูมิศาสตร์ต่างๆกัน เช่น ไบโอมทะเลทรายพบได้ที่ทวีปออสเตรเลีย ทวีปแอฟริกา และทวีปเอเชีย ไบโอมทรุนดาพบได้ที่ทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย นอกจากนี้พบว่าสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในไบโอมต่างๆนี้ต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับปัจจัยทางกายภาพในแต่ละเขตภูมิศาสตร์นั้นๆด้วย ไบโอมมีทั้งไบโอมบนบกและไบโอมในน้ำ โดยแพร่กระจายอยู่ตามเขตภูมิศาสตร์ต่างๆในโลกนี้ โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง เรื่อง การทดลองการเจริญเติบโตของยีสต์ในน้ำหมักช...ssuser858855การจัดทําโครงงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาความรู้และประสบการณ์ในการทําโครงงาน และเพื่อศึกษาการเจริญเติบโตของยีสต์ในนํ้าหมักชนิดต่างๆ โดยใช้รูปแบบโครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง ซึ่งทําการทดลอง 2 ชุด ได้แก่ ชุดควบคุม จํานวน 1 ตัวอย่างการทดลอง และชุดทดลอง จํานวน 5 ตัวอย่างการทดลอง รวม 6 ตัวอย่างการทดลอง โดยสังเกตการเจริญเติบโตของยีสต์ในเวลา 20.00 น. ของทุกวัน เป็นเวลา 5 วัน จากนั้นติดตามผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และอภิปรายผลการทดลอง เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ถูกต้องและตรงตามความเป็นจริง
ผลการศึกษาและจัดทําโครงงานพบว่า ผลการทดลองในครั้งนี้ นํ้าหมักกล้วย
มีการเจริญเติบโตของยีสต์สูงสุดจากนํ้าหมักทั้งหมด ซึ่งเป็นผลมากจากการที่กล้วยมีปริมาณสารประกอบอินทรีย์รวมกันมากกว่าพืชและผลไม้ตัวอย่างที่นํามาทดลอง และยีสต์ใช้สารประกอบอินทรีย์ ในกระบวนการเจริญเติบโต โดยนําคาร์บอนในสารประกอบอินทรีย์มาสร้างเป็นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ และแอลกอฮอล์ซึ่งทําให้ยีสต์ในขวดนํ้าหมักกล้วยสร้างแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ได้มาก จึงทําให้ แป้งโฮลวีทมีโพรงอากาศมาก ส่งผลให้ขวดนํ้าหมักกล้วยมีระดับความสูง สูงกว่าขวดอื่นๆ
จากผลการศึกษายังพบอีกว่า เวลาที่วัดการเจริญเติบโตของยีสต์ควรมีความถี่มากขึ้น และควรทดลองในช่วงที่มีอุณหภูมิคงที่ เพื่อที่จะได้ผลการทดลองที่ละเอียด ถูกต้อง และตรงตามความเป็นจริงมากขึ้น
คําสําคัญ : ยีสต์ นํ้าหมัก การเจริญเติบโตของยีสต์ สารประกอบอินทรีย์ โครงสร้างและการเจริญติบโตྺองพืชดอกโครงสร้างและการเจริญติบโตྺองพืชดอกRatarporn Ritmahaเนื้อเยื่อพืช
- Meristem (เนื้อเยื่อเจริญ)
- Plant tissue system (ระบบเนื้อเยื่อของพืช), Permanent tissue (เนื้อเยื่อถาวร)
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของราก
- primary/secondary growth (การเจริญปฐมภูมิและทุติยภูมิ)
โครงสร้างและการเจริญเติบโตของลำต้นและใบ
- primary/secondary growth (การเจริญปฐมภูมิและทุติยภูมิ)
Similar to ยีȨละโครโมโซม.ٳ (20)
More from Kru Bio Hazad (16)
ยีȨละโครโมโซม.ٳ
- 2. การถ่ายทอดยีȨละโครโมโซม
วอเตอร ์ ซัตตัน
เป็ นบุคคลแรกที่เสนอ ทฤษฏี
โครโมโซมในการถ่ายทอดลักษณะ
ทางพัȨุกรรม
โดยเสนอ สิ่งที่เรียกว่า ยีน นั้น
น่าจะอยู่บนโครโมโซม เพราะ มี
เหตุการณ์หลายอย่างที่ยีนและ
โครโมโซมมีความสอดคล้องกัน
- 4. 5. ขณะเกิดการสืบพันธุ ์
egg + sperm = zygoyeเป็ นไป
อย่างสุ่ม
chromosome,alleleจาก egg ,
sperm
รวมอย่างสุ่ม
6. ทุก cell ที่พัฒนาจาก zygote
จะมี
chromosome 1/2 จากพ่อ 1/2
จากแม่
1 1
- 6. พ.ศ. 2545
อาร ์ฟอยล์เกน (R. Feulgen)
นักเคมีชาวเยอรมัน
ได้ทดลองย้อมสี กรดนิวคลีอิค ด้วยสี
ฟุคชิน (fuchsin) พบว่า มีสีม่วงแดง
หนาแน่นที่บริเวณโครโมโซม จึงสรุปว่า
DNA อยู่ที่โครโมโซม
- 7. พ.ศ. 2471
เอฟ กริฟฟิ ท (Fm. Griffith)
ทาการทดลองโดย
ฉีดแบคทีเรีย (streptococcus
pneumoniae) ทาทาให้เกิดโรคปอด
บวมเข้าไปในหนู แบคทีเรียที่ฉีดเข้า
ไปนี้มี 2 สายพันธุ ์ คือ
1. S-train เป็ นสายพันธุ ์ที่มีผิว
เรียบ มีสารห่อหุ้ม
เซลล์(capsule) ทาให้เกิดโรค
ปอดบวม
่
- 13. พ.ศ. 2487
นักวิทยาศาสตร ์ชาวอเมริกัน 3
คน คือ
* โอ ที แอเวอรี (O.T. Avery)
* ซี แมคลอยด์(C. Macleod)
* เอ็ม แมคคาร ์ที (M.
McCarty)
ทาการทดลองต่อจาก กริฟฟิ ท โดน
นาแบคทีเรียสายพันธุ ์S มาทาให้
- 14. หลอด ก. เติมเอนไซม์
Rnase
(ribonuclease) เพื่อ
ย่อยสลาย RNA
หลอด ข. เติมเอนไซม์
โปรตีเอส
(protease) เพื่อย่อย
สลายโปรตีน
หลอด ค. เติมเอนไซม์
Dnase
(deoxyribonuclease)
เพื่อย่อย
สลาย DNA
หลอด ง. ไม่การเติม
- 27. ในแมลงพวก ตั๊กแตน จิ้งหรีด ใช้
chromosome
XO เป็ นตัวกาหนดเพศ
♀ = XX , 22 + XX gamete 11
+X , 11+X
♂ = XO , 22 + XO gamete 11
+X , 11+O
พวก ผึ้ง ต่อ แตน มดไม่มี Sex –
chromosome
กาหนดเพศโดยอาศัยชุดของ
chromosome
- 28. Parthenogesis ผึ้งนางพญา 2n =
32 , ♂ n = 16
♀สร้าง cell สืบพันธุ ์ n = 16
♂สร้าง cell สืบพันธุ ์n = 16
Sperm + cell ไข่ ลูก ♀ 2n
= 32
cell ไข่ ลูก ♂ n =
16
- 30. โปรตีนที่เป็ นองค์ประกอบของโคร
มาทิน 2 ชนิดคือ
1. histone chromosomal
protein
หมายถึง โปรตีนฮิสโตน ซึ่ง
ประกอบด้วย
กรดอะมิโน ที่มีสมบัติเป็ นเบส
เป็ นส่วนมาก
เช่น ไลซีน อาร ์จินีน อัสทิดีน
เป็ นต้น
ช่วยทาให้โปรตีนเกาะกับ
DNA ได้ดี
- 34. องค์ประกอบทางเคมีของ DNA
DNA เป็ นกรดนิวคลีอิคชนิด
หนึ่ง ซึ่งเป็ นพอลิเมอร ์(polymer)
สายยาว ประกอบด้วยหน่วยย่อย
หรือ
มอนอเมอร ์(monomer) ที่เรียกว่า นิ
วคลีโอไทด์(nucleotide)
- 36. 2. ไนโตรจีนัสเบส (nitrogenous
base)
เป็ นโครงสร้างปะกอบด้วยวงแหวนที่มี
อะตอมของคาร ์บอน
และไนโตรเจน แบ่งออกเป็ น 2 ประเภท
คือ
2.1 เบสพิวรีน (purine)
มี 2 ชนิด คือ อะดีนีน (adenine
หรือ A) และ
กวานีน (guanine หรือ G)
2.2 เบสไพริมิดีน(pyrimidine) มี 2
ชนิด คือ
- 38. 3. หมู่ฟอสเฟต ( PO4
3- )
โครงสร้างของเบสและน้าตาล
ที่เป็ องค์ประกอบ
ของกรดนิวคลีอิค ดังภาพ
แทน O
แทน C
แทน H
แทน N
- 43. ปี พ.ศ. 2493 – 2494
เอ็ม เอช เอฟ วิลคินส์( M. H.F
Wilkins ) และโรซาลินด์
แฟรงคลิน (Rosalind Franklin)
นักฟิ สิกส์ชาวอังกฤษ ศึกษา
โครงสร้างของ DNA ในสิ่งมีชีวิต
ชนิดต่าง ๆ โดยใช้เทคนิค เอกซ ์
เรย์ดิฟแฟรกชัน (X-ray
diffraction) ด้วยการฉายรังสี
เอกซ ์ผ่านผลึก DNA
การหักเหของรังสีเอกซ ์ทาให้
เกิดภาพบนแผ่นฟิ ล์ม ได้ภาพถ่าย
ที่ชัดเจนมาก
จากภาพถ่ายนี้นักฟิ สิกส์แปล
ผลได้ว่าโครงสร้างของ DNA จาก
สิ่งมีชีวิตชนิดต่าง ๆ มีลักษณะที่
- 44. ปี พ.ศ. 2496
เจ ดี วอตสัน (J.D. Watson) นัก
ชีวเคมีชาวอเมริกัน และ เอฟ คริก
(F. Crick) นักฟิ สิกส์ชาวอังกฤษ ได้
เสนอแบบจาลองโครงสร้างโมเลกุล
ของ DNA ที่สมบูรณ์ที่สุด โดย
รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ จากโครงสร้าง
ทางเคมีของส่วนประกอบของโมเลกุล
DNA จากผลการทดลองของ
ชาร ์กาฟฟ
์ คือ
- 46. 2. พอลินิวคลีโอ
ไทด์ 2 สาย ใน
โมเลกุล DNAนั้น แต่
ละสายจะมีทิศทาง
จากปลาย 5/ ไปยัง 3/
สวนทางกันและพัน
กันบิดเป็ นเกลียวคู่
(Double helix)
เวียนขวาตามเข็ม
นาฬิกาเกลียวแต่ละ
รอบห่างเท่า ๆ กัน
และมีคู่เบสจานวน
เท่ากัน
- 53. พอลินิวคลีโอไทด์2 สาย จะพัน
รอบกันและบิด
เป็ นเกลียวเป็ น DNA ใหม่ 2
โมเลกุล โดย
DNA แต่ละโมเลกุลประกอบด้วย
พอลินิวคลีโอไทด์
สายเก่า 1 สายและสายใหม่ 1
สาย เรียกการ
จาลองลักษณะนี้เรียกว่า แบบกึ่ง
อนุรักษ์
(semi conservative)