ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
อาณาจักรอยุธยา
พัฒนาการทางด้ านสั งคม
๑)   โครงสร้างทางสังคมไทย
     โครงสร้างสังคมไทยในสมัยอยุธยา มีการแบ่งชนชั้นออกเป็ น
     ลาดับ ตั้งแต่ช้ นสูงสุ ด คือ พระมหากษัตริ ย ์ ถึงชั้นล่างสุ ด คือ
                     ั
     ทาส และมีชนชั้นพิเศษอีกชนชั้น ได้แก่ พระสงฆ์ ซึ่งเป็ นผู้
     สื บทอดศาสนา และเป็ นที่พ่ ึงพิงทางจิตใจและให้การศึกษาแก่
     ประชาชน
๑.   กลุ่มคนในสังคม แบ่งเป็ น 6 กลุ่ม ดังนี้

                           พระมหากษัคริ ย ์



พระบรมวงศานุวงศ์      ขุนนาง                  ไพร่   ทาส


                            นักบวชทางศาสนา
พระมหากษัตริย์
เป็ นผูมีอานาจสูงสุ ดในอาณาจักร มีฐานะเป็ นสมมติเทพ มีพระราชอานาจ
       ้
  เหนือทุกคนในแผ่นดิน
พระบรมวงศานุวงศ์
คือ ผูที่มีเชื้อสายร่ วมกับกษัตริ ย ์ มีหน้าที่ช่วยเหลือราชการแทนกษัตริ ย ์
      ้
 โดยกษัตริ ยจะส่ งไปปกครองหัวเมืองสาคัญต่าง ๆ เช่น พระราชโอรส
                ์
 พระราชธิดา
ขุนนาง
คือ ผูที่ปฏิบติหน้าที่ในการดูแลบ้านเมือง ปกครองคนตามพระบรมราช
      ้      ั
  โองการของกษัตริ ย ์ มีฐานะแตกต่างกันไปตามหน้าที่และรับ
  พระราชทานที่ดินและไพร่ ไว้ใช้งาน
ไพร่
คือ ราษฎรสามัญชนทัวไป มีอิสรเสรี ในการดารงชีวิต และจะถูกเกณฑ์
                      ่
   แรงงานโดยขุนนางเป็ นครั้งคราว
   ไพร่ แบ่งออกเป็ น ๓ ประเภท
   ๑) ไพร่ หลวง ทางานให้ราชการแทนการเสี ยภาษี ปี ละ ๖ เดือน เรี ยกว่า
   “เข้าเดือนออกเดือน”
   ๒) ไพร่ สม ทางานรับใช้เจ้านายที่ตนสังกัด และออกรบเมื่อเกิดสงคราม
   เหมือนกับไพร่ หลวง
   ๓) ไพร่ ส่วย เป็ นไพร่ ท่ีส่งเงินหรื อสิ่ งของเข้ามาแทนการเกณฑ์แรงงาน
ทาส
คือ ผูไม่มีกรรมสิ ทธิ์ในแรงงานและชีวตของตน ไม่มีอิสรภาพ ต้องทา
      ้                             ิ
  ตามความต้องการของนายเงิน
นักบวชทางศาสนา
คือ พระสงฆ์ พราหมณ์ มีหน้าที่ในการอบรมสังสอนและประกอบ
                                         ่
  พิธีกรรมทางศาสนาภายใต้การอุปถัมภ์ของกษัตริ ย ์
พัฒนาการทางด้ านศิลปวัฒนธรรม
      วัฒนธรรม หมายถึง วิถีชีวิตของคนในสังคม เช่น ชีวิตความ
เป็ นอยู่ อาหารการกิน ภาษาพูด ความเชื่อ มักแสดงในรู ปของธรรม
เนียมประเพณี โดยเฉพาะด้านศิลปะ จึงเรี ยกรวมกันว่า
“ศิลปวัฒนธรรม”
      การสถาปนาอาณาจักรอยุธยาใน พ.ศ.๑๘๙๓ นับเป็ นการเริ่ มต้น
ศิลปวัฒนธรรมไทยในสมัยอยุธยาซึ่งมีรากฐานมาจากสถาบัน
                                    ่
พระมหากษัตริ ยและสถาบันศาสนา ไม่วาจะเป็ นทางด้านศิลปกรรม
                ์
วรรณกรรมประเพณี รวมทั้งพระพุทธศาสนา ซึ่งคนไทยศรัทธาและยึด
มันเป็ นสรณะมาโดยตลอด
  ่
ศิลปวัฒนธรรมไทยในสมัยอยุธยาเกิดจากการผสมผสานระหว่าง
ศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมของคนไทย และ ศิลปวัฒนธรรมที่รับมาจาก
ภายนอก โดยเฉพาะอย่างยิงศิลปวัฒนธรรมจากอินเดียที่อยุธยารับมาจาก
                       ่
เขมรและจากอินเดียโดยตรง
นอกจากนี้ อยุธยายังรับศิลปวัฒนธรรมไทยจากสุ โขทัยเข้ามาผสม
เข้ากับวัฒนธรรมของอยุธยา จนกลายเป็ นศิลปวัฒนธรรมของอยุธยาใน
ที่สุด และในระยะต่อมาได้กลายเป็ นรากฐานของศิลปวัฒนธรรมไทยใน
สมัยต่างๆจนถึงปัจจุบน ซึ่งมีท้ งทางด้านศิลปกรรม อันประกอบด้วย
                      ั        ั
สถาปัตยกรรม ประติมากรรมจิตรกรรม ประณี ตศิลป์ และ
ศิลปะการแสดง เป็ นต้น
๑. ด้ านสถาปัตยกรรม
     แสดงให้เห็นผ่านรู ปแบบเจดียตามอารามต่าง ๆ ซึ่งได้รับอิทธิพล
                                 ์
จากดินแดนรอบข้าง เช่น เจดียทรงมะปราง ได้รับอิทธิพลจากศิลปะ
                             ์
ลพบุรี เจดียทรงลังกา ได้รับอิทธิพลจากศิลปะสุ โขทัย เป็ นต้น
            ์
                                                            ์่
     ต่อมามีการสร้างศิลปกรรมที่เป็ นของอยุธยาเอง เช่น เจดียยอมุม
ไม้สิบสอง ต่อมาได้รับอิทธิพลชาติตะวันตก ได้สร้างสถาปัตยกรรม
เช่น พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จังหวัดลพบุรี เป็ นต้น
เจดีย์ย่อมุมไม้ สิบสอง
                             ่
    วัดไชยวัฒนาราม ตั้งอยูริมแม่น้ าเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกนอกเกาะเมือง เป็ นวัดที่
    พระเจ้าปราสาททอง กษัตริ ยกรุ งศรี อยุธยาองค์ที่ 24 (พ.ศ. 2173-2198) โปรด
                                   ์
    ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2173 ได้ชื่อว่าเป็ นวัดที่มีความงดงามมากแห่ งหนึ่ งในกรุ ง
    ศรี อยุธยา ความสาคัญอีกประการหนึ่ งคือ วัดนี้เป็ นที่ฝังพระศพของเจ้าฟ้ า
                           ้
    ธรรมธิเบศร์ (เจ้าฟ้ ากุง) กวีเอกสมัยอยุธยาตอนปลายกับเจ้าฟ้ าสังวาลย์ซ่ ึ งต้อง
    พระราชอาญาโบยจนสิ้ นพระชนม์ในรัชสมัยของพระเจ้าอยูหวบรมโกศ    ่ ั
ด้ านประติมากรรม
ในสมัยอยุธยาตอนต้นนิยมสร้างพระพุทธรู ปตามแบบศิลปะอู่ทอง
ต่อมามีการรับอิทธิพลศิลปะสุ โขทัยผสมผสานเป็ นศิลปะอยุธยา เช่น
พระมงคลบพิธที่วิหารพระมงคลมหาบพิธ
นอกจากนี้มีการสร้างพระพุทธรู ปทรงเครื่ อง เช่น ที่วดหน้าพระเมรุ
                                                   ั
ด้ านวรรณกรรม
วรรณกรรมสาคัญ ได้แก่ บทร้อยกรอง เช่น ลิลิตโองการแช่งน้ า เป็ น
วรรณคดีเรื่ องแรกสมัยอยุธยา
ยุคทองแห่งวรรณกรรม ตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยูหวบรมโกศ ่ ั
วรรณกรรมที่มีชื่อเสี ยง คือ กาพย์เห่เรื อ ของเจ้าฟ้ าธรรมธิเบศ (เจ้าฟ้ า
  ้
กุง)
ด้ านจิตรกรรม
ส่ วนใหญ่นิยมวาดภาพพุทธประวัติ ภาพไตรภูมิ ระยะแรกได้รับอิทธิพล
    จากศิลปะลพบุรีและสุ โขทัย ต่อมาพัฒนาเป็ นแบบอยุธยา คือมีการนาสี
    ที่ทาให้ภาพแลดูสว่างขึ้น เช่น สี ดา ขาว เหลือง และแดง
พัฒนาการด้ านความสั มพันธ์ กบต่ างประเทศ
                                  ั
๑.                    ั
     ความสัมพันธ์กบเขมร เขมรมีบทบาทด้านวัฒนธรรมต่ออยุธยาใน
     ระยะแรกเริ่ ม เนื่องจากเป็ นดินแดนที่ส่งผ่านอารยธรรมอินเดียเข้า
     มายังลุ่มแม่น้ าเจ้าพระยา
๒.                      ั
     ความสัมพันธ์กบมอญ มอญมักถูกพม่าและอยุธยาเข้ารุ กรานเพื่อชิง
     ความเป็ นใหญ่เหนือหัวเมืองมอญ เพื่อให้หวเมืองมอญเป็ นเมือง
                                                ั
     ท่าทางการค้า
๓.                   ั                         ั
      ความสัมพันธ์กบล้านช้าง มีความสัมพันธ์กนแบบฉันท์มิตร
      เนื่องจากล้านช้างจะส่ งเครื่ องราชบรรณาการมาอยุธยาสม่าเสมอ และ
      ราษฏรทั้งสองฝั่งก็มีวฒนธรรมคล้ายคลึงกัน
                            ั
๔.                     ั
      ความสัมพันธ์กบหัวเมืองมลายู อยุธยาขยายอาณาเขตลงทางใต้เพื่อ
      ผลประโยชน์ทางการค้า แต่ไม่สามารถควบคุมมะละกาได้อย่าง
      เด็ดขาด
      ส่ วนหัวเมืองมลายูอื่น ๆ เช่น ปัตตานี ไทรบุรี กลันตัน และ
     ตรังกานู เป็ นประเทศราชที่ควบคุมโดยนครศรี ธรรมราช
๕.                       ั
     ความสัมพันธ์กบพม่า ส่ วนใหญ่เป็ นเรื่ องความขัดแย้ง เพราะต่าง
     ต้องการขยายอานาจไปยังหัวเมืองมอญและล้านช้าง จึงมีการทา
     สงครามรวม ๒๔ ครั้ง
         สงครามครั้งแรก คือ ศึกเมืองเชียงกราน พ.ศ. ๒๐๘๑ และ
     สงครามครั้งสาคัญเกิดขึ้นใน พ.ศ. ๒๑๑๒ ตรงกับสมัยสมเด็จพระมหิ
     นทราธิราช ทาให้อยุธยาตกเป็ นของพม่าครั้งแรก จนกระทังสมเด็จ
                                                             ่
     พระนเรศวรมหาราช ใน พ.ศ. ๒๑๒๗ และใน พ.ศ. ๒๓๑๐ สมัย
     สมเด็จพระที่นงสุ ริยาศน์อมริ นทร์ อยุธยาตกเป็ นของพม่าอีกครั้ง และ
                      ่ั
     เป็ นการสิ้ นสุ ดการเป็ นราชธานีของไทย

More Related Content

What's hot (20)

แบบทึϸอบ๶สียงในภาษา
แบบทึϸอบ๶สียงในภาษาแบบทึϸอบ๶สียงในภาษา
แบบทึϸอบ๶สียงในภาษา
Piyarerk Bunkoson
อจท. พระพุทธศาสนา ม.3
อจท. พระพุทธศาสนา ม.3อจท. พระพุทธศาสนา ม.3
อจท. พระพุทธศาสนา ม.3
O'Orh ChatmaNee
คำยืมภาษาต่างประ๶ทศในภาษาไทย
คำยืมภาษาต่างประ๶ทศในภาษาไทยคำยืมภาษาต่างประ๶ทศในภาษาไทย
คำยืมภาษาต่างประ๶ทศในภาษาไทย
พัน พัน
ใบงาน วิชา เศรษฐศาสตร์ ม.1
ใบงาน วิชา เศรษฐศาสตร์ ม.1ใบงาน วิชา เศรษฐศาสตร์ ม.1
ใบงาน วิชา เศรษฐศาสตร์ ม.1
prayut2516
ประวัติศาสตร์สุโྺทัย
ประวัติศาสตร์สุโྺทัยประวัติศาสตร์สุโྺทัย
ประวัติศาสตร์สุโྺทัย
chatsawat265
ระบบ๶ศรษฐกิจแบบแมȨȨร์
ระบบ๶ศรษฐกิจแบบแมȨȨร์ระบบ๶ศรษฐกิจแบบแมȨȨร์
ระบบ๶ศรษฐกิจแบบแมȨȨร์
Srinthip Chaiya
ร่ายสุภาพ
ร่ายสุภาพร่ายสุภาพ
ร่ายสุภาพ
khorntee
แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การสื่อสารของมนุษย์
แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การสื่อสารของมนุษย์แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การสื่อสารของมนุษย์
แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การสื่อสารของมนุษย์
Sivagon Soontong
ใบงาȨฎหมาย
ใบงาȨฎหมายใบงาȨฎหมาย
ใบงาȨฎหมาย
พจีกานต์ หว่านพืช
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ม.2 ภาคเรียนที่ 1
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ม.2 ภาคเรียนที่ 1 หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ม.2 ภาคเรียนที่ 1
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ม.2 ภาคเรียนที่ 1
เพ็ญลักษณ์ สุวรรณาโชติ
ใบความรู้ที่ 4 เรื่อง พัฒนาการทางสังคมสมัยอยุธยา
ใบความรู้ที่ 4 เรื่อง พัฒนาการทางสังคมสมัยอยุธยาใบความรู้ที่ 4 เรื่อง พัฒนาการทางสังคมสมัยอยุธยา
ใบความรู้ที่ 4 เรื่อง พัฒนาการทางสังคมสมัยอยุธยา
Princess Chulabhon's College Chonburi
พัոาการยุโรปสมัยกลาง
พัոาการยุโรปสมัยกลางพัոาการยุโรปสมัยกลาง
พัոาการยุโรปสมัยกลาง
Pannaray Kaewmarueang
กัณฑ์มัทรี2๕๗
กัณฑ์มัทรี2๕๗กัณฑ์มัทรี2๕๗
กัณฑ์มัทรี2๕๗
Milky' __
ศาสนายิว
ศาสนายิวศาสนายิว
ศาสนายิว
Padvee Academy
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณบทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
Supicha Ploy
ความแตกต่างྺองวัոธรรมและประ๶พณี4ภาค
ความแตกต่างྺองวัոธรรมและประ๶พณี4ภาคความแตกต่างྺองวัոธรรมและประ๶พณี4ภาค
ความแตกต่างྺองวัոธรรมและประ๶พณี4ภาค
MintraMarisa
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสȨิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสȨิแบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสȨิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสȨิ
Surapong Klamboot
Key of 4 การสถาปนาอยุธยา-57
Key of 4 การสถาปนาอยุธยา-57Key of 4 การสถาปนาอยุธยา-57
Key of 4 การสถาปนาอยุธยา-57
Pracha Wongsrida
แบบทึϸอบ๶สียงในภาษา
แบบทึϸอบ๶สียงในภาษาแบบทึϸอบ๶สียงในภาษา
แบบทึϸอบ๶สียงในภาษา
Piyarerk Bunkoson
อจท. พระพุทธศาสนา ม.3
อจท. พระพุทธศาสนา ม.3อจท. พระพุทธศาสนา ม.3
อจท. พระพุทธศาสนา ม.3
O'Orh ChatmaNee
คำยืมภาษาต่างประ๶ทศในภาษาไทย
คำยืมภาษาต่างประ๶ทศในภาษาไทยคำยืมภาษาต่างประ๶ทศในภาษาไทย
คำยืมภาษาต่างประ๶ทศในภาษาไทย
พัน พัน
ใบงาน วิชา เศรษฐศาสตร์ ม.1
ใบงาน วิชา เศรษฐศาสตร์ ม.1ใบงาน วิชา เศรษฐศาสตร์ ม.1
ใบงาน วิชา เศรษฐศาสตร์ ม.1
prayut2516
ประวัติศาสตร์สุโྺทัย
ประวัติศาสตร์สุโྺทัยประวัติศาสตร์สุโྺทัย
ประวัติศาสตร์สุโྺทัย
chatsawat265
ระบบ๶ศรษฐกิจแบบแมȨȨร์
ระบบ๶ศรษฐกิจแบบแมȨȨร์ระบบ๶ศรษฐกิจแบบแมȨȨร์
ระบบ๶ศรษฐกิจแบบแมȨȨร์
Srinthip Chaiya
ร่ายสุภาพ
ร่ายสุภาพร่ายสุภาพ
ร่ายสุภาพ
khorntee
แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การสื่อสารของมนุษย์
แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การสื่อสารของมนุษย์แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การสื่อสารของมนุษย์
แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การสื่อสารของมนุษย์
Sivagon Soontong
ใบความรู้ที่ 4 เรื่อง พัฒนาการทางสังคมสมัยอยุธยา
ใบความรู้ที่ 4 เรื่อง พัฒนาการทางสังคมสมัยอยุธยาใบความรู้ที่ 4 เรื่อง พัฒนาการทางสังคมสมัยอยุธยา
ใบความรู้ที่ 4 เรื่อง พัฒนาการทางสังคมสมัยอยุธยา
Princess Chulabhon's College Chonburi
พัոาการยุโรปสมัยกลาง
พัոาการยุโรปสมัยกลางพัոาการยุโรปสมัยกลาง
พัոาการยุโรปสมัยกลาง
Pannaray Kaewmarueang
กัณฑ์มัทรี2๕๗
กัณฑ์มัทรี2๕๗กัณฑ์มัทรี2๕๗
กัณฑ์มัทรี2๕๗
Milky' __
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณบทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
Supicha Ploy
ความแตกต่างྺองวัոธรรมและประ๶พณี4ภาค
ความแตกต่างྺองวัոธรรมและประ๶พณี4ภาคความแตกต่างྺองวัոธรรมและประ๶พณี4ภาค
ความแตกต่างྺองวัոธรรมและประ๶พณี4ภาค
MintraMarisa
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสȨิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสȨิแบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสȨิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสȨิ
Surapong Klamboot
Key of 4 การสถาปนาอยุธยา-57
Key of 4 การสถาปนาอยุธยา-57Key of 4 การสถาปนาอยุธยา-57
Key of 4 การสถาปนาอยุธยา-57
Pracha Wongsrida

Similar to อาณาจักรอยุธยา (20)

เธ„เธงเธฒเธกเธชเธฑเธกเธžเธฑ...Ppt กลุม 4
เธ„เธงเธฒเธกเธชเธฑเธกเธžเธฑ...Ppt  กลุม 4เธ„เธงเธฒเธกเธชเธฑเธกเธžเธฑ...Ppt  กลุม 4
เธ„เธงเธฒเธกเธชเธฑเธกเธžเธฑ...Ppt กลุม 4
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
ผลงาȨัก๶รียนชั้นม.6/1 เรื่องการสถาปนา สมัยสุโྺทัย อยุธยาและธนบุรี
ผลงาȨัก๶รียนชั้นม.6/1 เรื่องการสถาปนา สมัยสุโྺทัย อยุธยาและธนบุรีผลงาȨัก๶รียนชั้นม.6/1 เรื่องการสถาปนา สมัยสุโྺทัย อยุธยาและธนบุรี
ผลงาȨัก๶รียนชั้นม.6/1 เรื่องการสถาปนา สมัยสุโྺทัย อยุธยาและธนบุรี
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
ความสัมพันธ์ระหว่างประ๶ทศสมัยสุโྺทัย อยุธยาและธนบุรี
ความสัมพันธ์ระหว่างประ๶ทศสมัยสุโྺทัย อยุธยาและธนบุรีความสัมพันธ์ระหว่างประ๶ทศสมัยสุโྺทัย อยุธยาและธนบุรี
ความสัมพันธ์ระหว่างประ๶ทศสมัยสุโྺทัย อยุธยาและธนบุรี
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
การสถาปนา
การสถาปนาการสถาปนา
การสถาปนา
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
การสถาปนา..
การสถาปนา..การสถาปนา..
การสถาปนา..
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
สุโྺทัย
สุโྺทัยสุโྺทัย
สุโྺทัย
sangworn
ความสัมพั...Pptx กลุ่ม 4
ความสัมพั...Pptx  กลุ่ม 4ความสัมพั...Pptx  กลุ่ม 4
ความสัมพั...Pptx กลุ่ม 4
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
คร งท__ 02 - อาณาจ_กรตอนเหน_อล__มน_ำเจ_าพระยาก_อนส_โขท_ย
คร  งท__ 02 - อาณาจ_กรตอนเหน_อล__มน_ำเจ_าพระยาก_อนส_โขท_ยคร  งท__ 02 - อาณาจ_กรตอนเหน_อล__มน_ำเจ_าพระยาก_อนส_โขท_ย
คร งท__ 02 - อาณาจ_กรตอนเหน_อล__มน_ำเจ_าพระยาก_อนส_โขท_ย
ปาล์มมี่ ไม่เล่นเกมส์
รุ่งอรุณแห่งความสุข
รุ่งอรุณแห่งความสุขรุ่งอรุณแห่งความสุข
รุ่งอรุณแห่งความสุข
Kwandjit Boonmak
Conceptของสุโྺทัย
ConceptของสุโྺทัยConceptของสุโྺทัย
Conceptของสุโྺทัย
sangworn
รายงานโครงงาȨังคมศึกษา
รายงานโครงงาȨังคมศึกษารายงานโครงงาȨังคมศึกษา
รายงานโครงงาȨังคมศึกษา
เดชฤทธิ์ ทองประภา
เธ„เธงเธฒเธกเธชเธฑเธกเธžเธฑ...Ppt กลุม 4
เธ„เธงเธฒเธกเธชเธฑเธกเธžเธฑ...Ppt  กลุม 4เธ„เธงเธฒเธกเธชเธฑเธกเธžเธฑ...Ppt  กลุม 4
เธ„เธงเธฒเธกเธชเธฑเธกเธžเธฑ...Ppt กลุม 4
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
ผลงาȨัก๶รียนชั้นม.6/1 เรื่องการสถาปนา สมัยสุโྺทัย อยุธยาและธนบุรี
ผลงาȨัก๶รียนชั้นม.6/1 เรื่องการสถาปนา สมัยสุโྺทัย อยุธยาและธนบุรีผลงาȨัก๶รียนชั้นม.6/1 เรื่องการสถาปนา สมัยสุโྺทัย อยุธยาและธนบุรี
ผลงาȨัก๶รียนชั้นม.6/1 เรื่องการสถาปนา สมัยสุโྺทัย อยุธยาและธนบุรี
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
ความสัมพันธ์ระหว่างประ๶ทศสมัยสุโྺทัย อยุธยาและธนบุรี
ความสัมพันธ์ระหว่างประ๶ทศสมัยสุโྺทัย อยุธยาและธนบุรีความสัมพันธ์ระหว่างประ๶ทศสมัยสุโྺทัย อยุธยาและธนบุรี
ความสัมพันธ์ระหว่างประ๶ทศสมัยสุโྺทัย อยุธยาและธนบุรี
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
สุโྺทัย
สุโྺทัยสุโྺทัย
สุโྺทัย
sangworn
คร งท__ 02 - อาณาจ_กรตอนเหน_อล__มน_ำเจ_าพระยาก_อนส_โขท_ย
คร  งท__ 02 - อาณาจ_กรตอนเหน_อล__มน_ำเจ_าพระยาก_อนส_โขท_ยคร  งท__ 02 - อาณาจ_กรตอนเหน_อล__มน_ำเจ_าพระยาก_อนส_โขท_ย
คร งท__ 02 - อาณาจ_กรตอนเหน_อล__มน_ำเจ_าพระยาก_อนส_โขท_ย
ปาล์มมี่ ไม่เล่นเกมส์
รุ่งอรุณแห่งความสุข
รุ่งอรุณแห่งความสุขรุ่งอรุณแห่งความสุข
รุ่งอรุณแห่งความสุข
Kwandjit Boonmak
Conceptของสุโྺทัย
ConceptของสุโྺทัยConceptของสุโྺทัย
Conceptของสุโྺทัย
sangworn

อาณาจักรอยุธยา

  • 2. พัฒนาการทางด้ านสั งคม ๑) โครงสร้างทางสังคมไทย โครงสร้างสังคมไทยในสมัยอยุธยา มีการแบ่งชนชั้นออกเป็ น ลาดับ ตั้งแต่ช้ นสูงสุ ด คือ พระมหากษัตริ ย ์ ถึงชั้นล่างสุ ด คือ ั ทาส และมีชนชั้นพิเศษอีกชนชั้น ได้แก่ พระสงฆ์ ซึ่งเป็ นผู้ สื บทอดศาสนา และเป็ นที่พ่ ึงพิงทางจิตใจและให้การศึกษาแก่ ประชาชน
  • 3. ๑. กลุ่มคนในสังคม แบ่งเป็ น 6 กลุ่ม ดังนี้ พระมหากษัคริ ย ์ พระบรมวงศานุวงศ์ ขุนนาง ไพร่ ทาส นักบวชทางศาสนา
  • 4. พระมหากษัตริย์ เป็ นผูมีอานาจสูงสุ ดในอาณาจักร มีฐานะเป็ นสมมติเทพ มีพระราชอานาจ ้ เหนือทุกคนในแผ่นดิน
  • 5. พระบรมวงศานุวงศ์ คือ ผูที่มีเชื้อสายร่ วมกับกษัตริ ย ์ มีหน้าที่ช่วยเหลือราชการแทนกษัตริ ย ์ ้ โดยกษัตริ ยจะส่ งไปปกครองหัวเมืองสาคัญต่าง ๆ เช่น พระราชโอรส ์ พระราชธิดา
  • 6. ขุนนาง คือ ผูที่ปฏิบติหน้าที่ในการดูแลบ้านเมือง ปกครองคนตามพระบรมราช ้ ั โองการของกษัตริ ย ์ มีฐานะแตกต่างกันไปตามหน้าที่และรับ พระราชทานที่ดินและไพร่ ไว้ใช้งาน
  • 7. ไพร่ คือ ราษฎรสามัญชนทัวไป มีอิสรเสรี ในการดารงชีวิต และจะถูกเกณฑ์ ่ แรงงานโดยขุนนางเป็ นครั้งคราว ไพร่ แบ่งออกเป็ น ๓ ประเภท ๑) ไพร่ หลวง ทางานให้ราชการแทนการเสี ยภาษี ปี ละ ๖ เดือน เรี ยกว่า “เข้าเดือนออกเดือน” ๒) ไพร่ สม ทางานรับใช้เจ้านายที่ตนสังกัด และออกรบเมื่อเกิดสงคราม เหมือนกับไพร่ หลวง ๓) ไพร่ ส่วย เป็ นไพร่ ท่ีส่งเงินหรื อสิ่ งของเข้ามาแทนการเกณฑ์แรงงาน
  • 8. ทาส คือ ผูไม่มีกรรมสิ ทธิ์ในแรงงานและชีวตของตน ไม่มีอิสรภาพ ต้องทา ้ ิ ตามความต้องการของนายเงิน
  • 9. นักบวชทางศาสนา คือ พระสงฆ์ พราหมณ์ มีหน้าที่ในการอบรมสังสอนและประกอบ ่ พิธีกรรมทางศาสนาภายใต้การอุปถัมภ์ของกษัตริ ย ์
  • 10. พัฒนาการทางด้ านศิลปวัฒนธรรม วัฒนธรรม หมายถึง วิถีชีวิตของคนในสังคม เช่น ชีวิตความ เป็ นอยู่ อาหารการกิน ภาษาพูด ความเชื่อ มักแสดงในรู ปของธรรม เนียมประเพณี โดยเฉพาะด้านศิลปะ จึงเรี ยกรวมกันว่า “ศิลปวัฒนธรรม” การสถาปนาอาณาจักรอยุธยาใน พ.ศ.๑๘๙๓ นับเป็ นการเริ่ มต้น ศิลปวัฒนธรรมไทยในสมัยอยุธยาซึ่งมีรากฐานมาจากสถาบัน ่ พระมหากษัตริ ยและสถาบันศาสนา ไม่วาจะเป็ นทางด้านศิลปกรรม ์ วรรณกรรมประเพณี รวมทั้งพระพุทธศาสนา ซึ่งคนไทยศรัทธาและยึด มันเป็ นสรณะมาโดยตลอด ่
  • 11. ศิลปวัฒนธรรมไทยในสมัยอยุธยาเกิดจากการผสมผสานระหว่าง ศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิมของคนไทย และ ศิลปวัฒนธรรมที่รับมาจาก ภายนอก โดยเฉพาะอย่างยิงศิลปวัฒนธรรมจากอินเดียที่อยุธยารับมาจาก ่ เขมรและจากอินเดียโดยตรง
  • 12. นอกจากนี้ อยุธยายังรับศิลปวัฒนธรรมไทยจากสุ โขทัยเข้ามาผสม เข้ากับวัฒนธรรมของอยุธยา จนกลายเป็ นศิลปวัฒนธรรมของอยุธยาใน ที่สุด และในระยะต่อมาได้กลายเป็ นรากฐานของศิลปวัฒนธรรมไทยใน สมัยต่างๆจนถึงปัจจุบน ซึ่งมีท้ งทางด้านศิลปกรรม อันประกอบด้วย ั ั สถาปัตยกรรม ประติมากรรมจิตรกรรม ประณี ตศิลป์ และ ศิลปะการแสดง เป็ นต้น
  • 13. ๑. ด้ านสถาปัตยกรรม แสดงให้เห็นผ่านรู ปแบบเจดียตามอารามต่าง ๆ ซึ่งได้รับอิทธิพล ์ จากดินแดนรอบข้าง เช่น เจดียทรงมะปราง ได้รับอิทธิพลจากศิลปะ ์ ลพบุรี เจดียทรงลังกา ได้รับอิทธิพลจากศิลปะสุ โขทัย เป็ นต้น ์ ์่ ต่อมามีการสร้างศิลปกรรมที่เป็ นของอยุธยาเอง เช่น เจดียยอมุม ไม้สิบสอง ต่อมาได้รับอิทธิพลชาติตะวันตก ได้สร้างสถาปัตยกรรม เช่น พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จังหวัดลพบุรี เป็ นต้น
  • 15. ่ วัดไชยวัฒนาราม ตั้งอยูริมแม่น้ าเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกนอกเกาะเมือง เป็ นวัดที่ พระเจ้าปราสาททอง กษัตริ ยกรุ งศรี อยุธยาองค์ที่ 24 (พ.ศ. 2173-2198) โปรด ์ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2173 ได้ชื่อว่าเป็ นวัดที่มีความงดงามมากแห่ งหนึ่ งในกรุ ง ศรี อยุธยา ความสาคัญอีกประการหนึ่ งคือ วัดนี้เป็ นที่ฝังพระศพของเจ้าฟ้ า ้ ธรรมธิเบศร์ (เจ้าฟ้ ากุง) กวีเอกสมัยอยุธยาตอนปลายกับเจ้าฟ้ าสังวาลย์ซ่ ึ งต้อง พระราชอาญาโบยจนสิ้ นพระชนม์ในรัชสมัยของพระเจ้าอยูหวบรมโกศ ่ ั
  • 16. ด้ านประติมากรรม ในสมัยอยุธยาตอนต้นนิยมสร้างพระพุทธรู ปตามแบบศิลปะอู่ทอง ต่อมามีการรับอิทธิพลศิลปะสุ โขทัยผสมผสานเป็ นศิลปะอยุธยา เช่น พระมงคลบพิธที่วิหารพระมงคลมหาบพิธ นอกจากนี้มีการสร้างพระพุทธรู ปทรงเครื่ อง เช่น ที่วดหน้าพระเมรุ ั
  • 17. ด้ านวรรณกรรม วรรณกรรมสาคัญ ได้แก่ บทร้อยกรอง เช่น ลิลิตโองการแช่งน้ า เป็ น วรรณคดีเรื่ องแรกสมัยอยุธยา ยุคทองแห่งวรรณกรรม ตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยูหวบรมโกศ ่ ั วรรณกรรมที่มีชื่อเสี ยง คือ กาพย์เห่เรื อ ของเจ้าฟ้ าธรรมธิเบศ (เจ้าฟ้ า ้ กุง)
  • 18. ด้ านจิตรกรรม ส่ วนใหญ่นิยมวาดภาพพุทธประวัติ ภาพไตรภูมิ ระยะแรกได้รับอิทธิพล จากศิลปะลพบุรีและสุ โขทัย ต่อมาพัฒนาเป็ นแบบอยุธยา คือมีการนาสี ที่ทาให้ภาพแลดูสว่างขึ้น เช่น สี ดา ขาว เหลือง และแดง
  • 19. พัฒนาการด้ านความสั มพันธ์ กบต่ างประเทศ ั ๑. ั ความสัมพันธ์กบเขมร เขมรมีบทบาทด้านวัฒนธรรมต่ออยุธยาใน ระยะแรกเริ่ ม เนื่องจากเป็ นดินแดนที่ส่งผ่านอารยธรรมอินเดียเข้า มายังลุ่มแม่น้ าเจ้าพระยา ๒. ั ความสัมพันธ์กบมอญ มอญมักถูกพม่าและอยุธยาเข้ารุ กรานเพื่อชิง ความเป็ นใหญ่เหนือหัวเมืองมอญ เพื่อให้หวเมืองมอญเป็ นเมือง ั ท่าทางการค้า
  • 20. ๓. ั ั ความสัมพันธ์กบล้านช้าง มีความสัมพันธ์กนแบบฉันท์มิตร เนื่องจากล้านช้างจะส่ งเครื่ องราชบรรณาการมาอยุธยาสม่าเสมอ และ ราษฏรทั้งสองฝั่งก็มีวฒนธรรมคล้ายคลึงกัน ั ๔. ั ความสัมพันธ์กบหัวเมืองมลายู อยุธยาขยายอาณาเขตลงทางใต้เพื่อ ผลประโยชน์ทางการค้า แต่ไม่สามารถควบคุมมะละกาได้อย่าง เด็ดขาด ส่ วนหัวเมืองมลายูอื่น ๆ เช่น ปัตตานี ไทรบุรี กลันตัน และ ตรังกานู เป็ นประเทศราชที่ควบคุมโดยนครศรี ธรรมราช
  • 21. ๕. ั ความสัมพันธ์กบพม่า ส่ วนใหญ่เป็ นเรื่ องความขัดแย้ง เพราะต่าง ต้องการขยายอานาจไปยังหัวเมืองมอญและล้านช้าง จึงมีการทา สงครามรวม ๒๔ ครั้ง สงครามครั้งแรก คือ ศึกเมืองเชียงกราน พ.ศ. ๒๐๘๑ และ สงครามครั้งสาคัญเกิดขึ้นใน พ.ศ. ๒๑๑๒ ตรงกับสมัยสมเด็จพระมหิ นทราธิราช ทาให้อยุธยาตกเป็ นของพม่าครั้งแรก จนกระทังสมเด็จ ่ พระนเรศวรมหาราช ใน พ.ศ. ๒๑๒๗ และใน พ.ศ. ๒๓๑๐ สมัย สมเด็จพระที่นงสุ ริยาศน์อมริ นทร์ อยุธยาตกเป็ นของพม่าอีกครั้ง และ ่ั เป็ นการสิ้ นสุ ดการเป็ นราชธานีของไทย