More Related Content
What's hot (11)
Similar to โรคบาหวาน (20)
โรคบาหวาน
- 1. นำเสนอโดย กลุ่ม strawberry สมาชิกกลุ่ม 1. ด . ญ . สุพัตรา แก้วอามาตย์ ชั้น ม .1/13 เลขที่ 42 2. ด . ญ . ญาฎา เรียนดารา ชั้น ม .1/13 เลขที่ 8 3. ด . ช . พัณณกร สารสุวรรณ ชั้น ม .1/13 เลขที่ 23 4. ด . ญ . เพชรัตน์ ไชโย ชั้น ม .1/13 เลขที่ 25 5. ด . ญ . สุภาพิชญ์ สมแวง ชั้น ม .1/13 เลขที่ 37
- 2. สาเหตุของโรคบาหวาน 1. ถ้ามีพี่น้อง พ่อแม่ ( ญาติสายตรง ) เป็น ก็จะมีโอกาสหรือ 1 ความเสี่ยง ในการเกิดโรคบาหวาน 2. ความอ้วน ขาดการออกกำลังกาย กินอาหารแป้ง , น้ำตาลมากเกินไป 3. บาหวานจากการตั้งครรภ์ , บาหวานจากยา เช่น ยาสเตียรอยด์ ที่ชอบใช้แบบผิดๆ รักษา โรคปวดข้อ , ปวดกระดูก , ตับอ่อนอักเสบ 4. คนที่ชอบดื่มเหล้ามากๆ จนเป็นตับอ่อนอักเสบ สุดท้ายก็บาหวาน จากการขาดสารอาหาร ( ทุพโภชนาการ )
- 3. อาการเบื้องต้นของบาหวาน 1. ปวดปัสสาวะบ่อย ครั้งขึ้น 2. กระหายน้ำ และดื่มน้ำในปริมาณมากๆต่อครั้ง 3. อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายไม่มีเรี่ยวแรง 4. เบื่ออาหาร 5. น้ำหนักตัวลดโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยเฉพาะถ้าหากน้ำหนักเคยมากมาก่อน อันเนื่องมาจากร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปสร้างพลังงานได้เต็มที่จึงต้องนำไขมันและโปรตีนจากกล้ามเนื้อมาใช้ทดแทน 6. ติดเชื้อบ่อยกว่าปรกติ เช่นติดเชื้อทางผิวหนังและกระเพาะอาหาร สังเกตได้จากเมื่อเป็นแผลแล้วแผลจะหายยาก 7. สายตาพร่ามองไม่ชัดเจน 8. อาการชาไม่ค่อยมีความรู้สึก เนื่องมาจากบาหวานจะทำลายเส้นประสาทให้เสื่อมสมรรถภาพลงความสามารถในการรับรู้ความรู้สึกจึงถดถอยลง 9. อาจจะมีอาการของโรคหัวใจ และโรคไต
- 4. วิธีป้องกันการเป็นโรคบาหวาน การควบคุมโภชนาการสำหรับผู้ที่เป็นโรคบาหวาน เลือกรับประทานอาหารโดยคำนึงถึงพลังงานที่ได้ตามประเภทของอาหาร คือพลังงานจากคาร์โบไฮเดรต ( แป้ง ) ประมาณ 50-60% พลังงานจากโปรตีน ( เนื้อสัตว์ ) ประมาณ 15-20% พลังงานจากไขมัน ประมาณ 25% อย่ารับประทานอาหารจุกจิกและไม่ตรงเวลา ถ้าพลาดมื้ออาหารไปอาจเกิดน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป รับประทานในปริมาณที่สม่ำเสมอคงที่ ไม่ควรรับประทานมากเกินไป หรือน้อย ผู้ที่เป็นความดันเลือดสูง หรือโรคไตร่วมด้วย ไม่ควรรับประทานอาหารรสเค็มจัด ควรจะ ลดอาหารเค็ม
- 5. สถิติคนไทยที่เป็นโรคบาหวาน จากสถิติจำนวนผู้ป่วยบาหวานทั่วโลก 50 ล้านคนในปีพ . ศ . 2528 เพิ่มเป็นกว่า 170 ล้านคนในขณะนี้ และมีการทำนายว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 300 ล้านคนในปีพ . ศ . 2568 จึงเป็นความท้าทายของงานสาธารณสุขยุคศตวรรษที่ 21 นี้เป็นอย่างยิ่ง ในการควบคุมป้องกันภาวะโรคนี้ สำหรับประเทศไทย แต่ละปีมีผู้เสียชีวิตด้วยบาหวานปีละ 2 หมื่นคน ความชุกของบาหวานในประชาชนไทยอายุ 35 ปีขึ้นไปมีร้อยละ 9.6 และร้อยละ 50 ของผู้เป็นบาหวานเหล่านี้ไม่ทราบว่าตนเองมีบาหวาน ดังนั้นกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยบาหวานไม่ได้รับการวินิจฉัยจึงสูญเสียโอกาสในการทราบว่าตนเองเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องรีบดำเนินการป้องกันและ รักษา “ จากผลสำรวจกลุ่มของดิฉันพบว่าไม่มีใครที่เป็นโรคบาหวาน ”