ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
๶มโสโปเตเมีย เป็ นคำภำษำกรีก แปลว่ำ ระหว่ำงแม่ น้ำ ดินแดนที่ชำวกรีกเรียกว่ำ เมโสโปเต
เมียธนี้ต้งอยู่ในลุ่มน้ำไทกรีสและยูเฟรตีสเป็ นส่ วนหนึ่งของ "ดินแดนรูปพระจันทร์ เสี้ยวอัน
           ั
อุดมสมบูรณ์ " ซึ่งเป็ นดินแดนรูปครึ่งวงกลมผืนใหญ่ ที่ทอดโค้งขึนไปจำกฝั่งทะเลเมดิเตอร์ เร
                                                                  ้
เนียนและอ่ ำวเปอร์ เซีย
   ๶มโสโปเตเมีย เป็ นดินแดนที่อำกำศร้ อนและกันดำรฝน น้ำที่ได้ รับส่ วนใหญ่ เป็ น น้ำจำกแม่ น้ำ
ที่มำจำกหิมะละลำยในภำคฤดูร้อนบนเทือกเขำในอำร์ มิเนียน้ำ จะพัดพำเอำโคลนตมมำทับถม
ชำยฝั่งทั้งสอง ทำให้ พนดินอุดมสมบูรณ์ เหมำะแก่ กำรเพำะปลูก กำรเอ่ อล้ นของน้ำอันเกิดจำก
                         ื้
หิมะละลำยไม่มีกำหนดเวลำที่แน่ นอนและ บำงครั้งทำควำมเสี ยหำยแก่ บ้ำนเมือง ไร่ นำ
ทรัพย์ สินและชีวตผู้คน กำรกสิ กรรมที่จะได้ ผลดีในสภำพแวดล้ อมเช่ นนี้ต้องอำศัยระบบกำร
                    ิ
ชลประทำนที่มีประสิ ทธิภำพ ควำมอุดมสมบูรณ์ ของลุ่มแม่น้ำเป็ นเครื่องดึงดูดให้ ผู้คนเข้ ำมำ
ทำมำหำกินในบริเวณนี้ แต่ควำมร้ อนของอำกำศก็เป็ นเครื่องบั่นทอนกำลังของผู้คนที่อำศัยอยู่ทำ
ให้ คนเหล่ ำ นั้นขำดควำมกระตือรือร้ น เมื่อมีพวกอื่นเข้ ำรุกรำนจึงต้องหลีกทำงให้ ผู้ที่เข้ ำมำใหม่
ซึ่ง เมื่ออยู่ไปนำนๆเข้ ำก็ประสบภำวะเดียวกันต้องหลีกให้ ผู้อื่นต่อไปวกที่เข้ ำมำรุกรำน ส่ วนใหญ่
มักจะมำจำกบริเวณหุบเขำที่รำบสู งทำงภำคเหนือและตะวันออกซึ่งส่ วนใหญ่ เป็ นเขำหินปูนไม่
อุดมสมบูรณ์ เท่ ำเขตลุ่มแม่ น้ำ คนกลุ่มแรกทีสร้ ำงอำรยธรรม๶มโสโปเตเมียขึนคือชำวสุ เมเรียน
                                               ่                                ้
ผู้คดประดิษฐ์ ตวอักษรขึนเป็ นครั้งแรกในโลก อำรยธรรมที่ชำวสุ เมเรียนขึน เป็ นพืนฐำนสำคัญ
    ิ            ั          ้                                             ้         ้
ของอำรยธรรม๶มโสโปเตเมีย สถำปัตยธรรม ตัวอักษร ศิลปกรรมอื่นๆ ตลอดจนทัศนคติต่อชีวต                 ิ
และเทพเจ้ำของชำวสุ เมเรียน ได้ ดำรงอยู่และมีอทธิพลอยู่ในลุ่มแม่น้ำทั้งสองตลอดช่ วงสมัย
                                                  ิ
โบรำณ

แนวคิดของอำรยธรรม

 อำรยธรรม๶มโสโปเตเมีย เป็ นอำรยธรรมทีแสดงให้ เห็นถึงพัฒนำ กำรทำงวัฒนธรรม อำรยะร
                                           ่
รมที่สำคัญของโลก กล่ ำวคือ เป็ นกลุ่มชนที่ริเริ่มและสร้ ำงสรรค์ควำมเจริญไว้มำกมำย อำทิเช่ น
ด้ ำนคณิตศำสตร์ ดำรำศำสตร์ อักษรศำสตร์ สถำปัตยกรรม และกฎหมำยที่สำคัญต่ำงๆ ของโลก
รวมไปถึงทำให้ ทรำบถึงกำร ต่อสู้ ดินแดน และเพืออยู่รอดของเผ่ำพันธุ์ของมนุษย์ เอง กำรสร้ ำง
                                                  ่
หลักควำมเชื่อโดยมีพระหรือนักบวชเป็ นผู้นำที่สำคัญ
่
 1. มนุษย์รวมตัวกันอยูในรู ปองค์กรทางการเมือง แบบนครรัฐเป็ นอันดับแรก และสามารถ
สร้างสรรค์ความเจริ ญภายใต้รูปแบบการปกครอง

 2. การผลิตจนเหลือกินเหลือใช้ในชุมชนหนึ่งกับความยากไร้และแร้นแค้นในบาง

  ชุมชนก่อให้เกิดสงครามซึ่ งตามมาด้วยการที่ชุมชนหนึ่ง สถาปนาอานาจเหนือชุมชนอื่นๆ ที่
พ่ายแพ้ในรู ปขององค์กรทางการเมืองแบบจักรพรรดิ

 3. การขยายตัวทางการเมือง และเศรษฐกิจในรู ปแบบของจักรวรรดิในยุคแรกเป็ นไปอย่าง
กว้างขวาง

 ปัจจัยที่ส่งผลให้อารยธรรม๶มโสโปเตเมียเจริ ญรุ่ งเรื อง

 1. ความอุดมสมบูรณ์ของลุ่มแม่น้ าไทกรี สและยูเฟรตีส

 2. ความคิด และการสื บทอดอารยธรรมของกลุ่มชนในดินแดนแห่งนี้ซ่ ึ งมีดวยกัน 6 กลุ่ม
                                                                   ้

   3.มีพรมแดนธรรมชาติเป็ นเกราะป้ องกันการรุ กรานจากศัตรู ภายนอก โดยทิศเหนือมีภูเขาและ
ที่ราบสูง ทิศใต้ติดอ่าวเปอร์เซี ย ทิศตะวันออกจดเทือกเขาซาร์ กอส และทิศตะวันเป็ นทะเลทราย
ซี เรี ย

 ลักษณะที่ต้งทำงภูมิศำสตร ๶มโสโปเตเมียแหล่ งอำรยธรรมที่เก่ ำแก่ที่สุดแห่ งหนึ่งในสมัยโบรำณ
             ั
คำว่ำ๶มโสโปเตเมีย เป็ นภำษำกรีก มีควำมหมำยว่ำดินแดนระหว่ำงแม่ น้ำทีสอง คือแม่น้ำไทกรีส
                                                                          ่
(Tigris) และ ยูเฟรตีส (Euphrates) ปัจจุบันคือประเทศอิรัก มีนครหลวงคือกรุงแบกแดด แม่น้ำ
ทั้ง 2 สำยมีต้นน้ำอยู่ในอำร์ มีเนีย และเอเซียไมเนอร์ ไหลลงสู่ ทะเลทีอ่ำวเปอร์ เซอ
                                                                    ่

   บริเวณที่รำบลุ่มแม่ น้ำไทกรีสและยูเฟรตีส ตอนล่ ำงเรียกว่ำบำบิโลเนีย (Babylonia) เป็ นเขต
ซึ่งอยู่ตดกับอ่ ำวเปอร์ เซีย มีชื่อเรียกในสมัยหนึ่งว่ำชินำร์ (Shina) เกิดจำกกำรทับถมของดินที่
         ิ
แม่ น้ำพัดพำมำกล่ ำวคือในฤดูร้อนหิมะบนภูเขำ ในอำร์ มีเนียละลำยไหลบ่ ำลงมำทำงใต้พดพำเอำ ั
โคลนตมมำทับถมไว้ยัง บริเวณปำกน้ำทำให้ พนดินตรงปำกแม่ น้ำงอกออกทุกปี โดยเฉลี่ยแล้ ว
                                                ื้
ประมำณ 1 ไมล์ ครึ่ง ทุกๆ ศตวรรษ ( ประมำณปี ละ 29 นิ้วครึ่ง)
   อำณำบริเวณที่เรียกว่ำ๶มโสโปเตเมีย มีทิศเหนือจรดทะเลดำ และทะสำบแคสเบียน ทิศ
ตะวันตกเฉียงใต้จรดคำบสมุทรอำระเบีย ซึ่งล้ อมรอบด้ วยทะเลแดง และมหำสมุทรอินเดีย ทิศ
ตะวันตกจรดที่รำบซีเรีย และปำเลสไตน์ ส่ วนทิศตะวันออก จรดที่รำบสู งอิหร่ ำน
                                                                                         ์
๶มโสโปเตเมียแบ่ งออกเป็ นสองส่ วน ส่ วนล่ ำงใกล้ กับอ่ ำวเปอร์ เซีย มีควำมอุดมสมบูรณ ์เรียกว่ำ
บำบิโลเนีย ส่ วนบนซึ่งค่อนข้ ำงแห้ งแล้ งเรียกว่ำแอสซีเรีย (Assyria) บริเวณ ทั้งหมดมีชนชำติ
หลำยเผ่ำพันธุ์อำศัยอยู่ มีกำรรบพุ่งกันอยู่เสมอ เมื่อชำติใดมีอำนำจ ก็เข้ ำไปยึดครองและ
กลำยเป็ นชนชำติเดียวกัน นักประวัตศำสตร์ บำงท่ ำนกล่ ำวว่ำ ไม่ มีแห่ งหนตำบลใด จะมีชำติพนธุ์
                                       ิ                                                       ั
มนุษย์ ผสมปนเปกันมำกมำยเหมือนทีน ์ี์ และยังเป็ นยุทธภูมิระหว่ำงตะวันตก กับตะวันออก
                                         ่ ่
ตลอดสมัยประวัตศำสตร์ ดังนั้น ประวัตเิ รื่องรำวต่ำงๆ ของชนชำติเหล่ ำนี้จงค่อนข้ ำงสั บสน
                   ิ                                                        ึ
  ประวัตศำสตร์ ของดินแดนแห่ งนี้เป็ นเรื่องรำวเกี่ยวกับควำมเจริญของแต่ละแคว้น ที่แยกออก
           ิ
จำกกัน และเรื่องรำวทำงอำรยธรรมใน๶มโสโปเตเมียมีหลักฐำนยืนยัน ทำงโบรำณคดีว่ำเก่ ำแก่
นำนนับถึง 8,000 - 7,000 B.C. เช่ น กำรขุดพบหมู่บ้ำน ที่เมืองจำร์ โม (Jarmo) ในอิรักใกล้ แม่น้ำ
ไทกรีสเมืองซำทำล ฮือยึค (Catal Huyl) ภำยใต้ของอนำโตเลีย (ประเทศตุรกี) ซึ่งเมื่อเทียบ
กับอิยิปต์แล้ วหลักฐำนทำง โบรำณคดีในเมืองเก่ ำแก่ ใกล้ ดินดอนสำมเหลียมปำกแม่น้ำไนล์ คอที่
                                                                          ่                 ื
ไฟยูม (Faiyum) มีอำยุเพียง 4,500 B.C. เท่ ำนั้น ตัวอักษรของ๶มโสโปเตเมียก็ปรำกฎว่ำ ใช้ มำ
นำนแล้ วอำจจะก่ อนอียิปต์หลำยร้ อยปี อีกด้ วย แต่ก็ไม่ ปรำกฎยืนยันว่ำ ตัวอักษรของเมโสโปเต
เมียให้ อิทธิพลแก่อียิปต์แต่อย่ ำงใด
  ชนชำติกลุ่มแรกที่มอำยุในสมัยหิน และเข้ ำมำอยู่อำศัยระหว่ำงหุบเขำริมแม่ น้ำ จอร์ แดน
                       ี
ประเทศอิรัก เรียกว่ำ เจริโค (Jericho) มีอำยุรำว 8,000 B.C. กำรขุดค้น หลักฐำนทำงโบรำณคดี
ขุดค้นซำกกำแพงยำวสร้ ำงด้ วยหิน สู งถึง 12 ฟุต หนำ 5 ฟุต และพบซำกหอคอยซึ่งมีควำมสู ง
ถึง 30 ฟุต รู ปแบบกำรก่ อสร้ ำงแสดง อำรยธรรมดั้งเดิมของมนุษย์ทีใช้ มำก่ อสร้ ำงชนกลุ่มต่อมำ
คือซำทำล ฮือยึค (Catal Huyuk) มีอำยุรำว 7000-5000 B.C. นักโบรำณคดีได้ ขดลงไปพบเมืองุ
ต่ำงๆ ที่ทับถมเป็ นชั้น ๆ ถึง 12 ชั้น และชั้นที่ 4 พบซำกเมืองมีผงต่อเนื่อง คล้ ำยเมืองใหญ่ แต่ไม่ มี
                                                                 ั
ถนน ตัวอำคำรเป็ นห้ องโถง มีภำพเขียนหนังและตกแต่ง ปฏิมำกรรมที่ทำมำจำกเขำสั ตว์ งำน
จิตรกรรมบนผนังของ ซำทำล ฮือยึค หลังจำกพิสูจน์ ด้วยเครื่องมือทำงวิทยำศำสตร์ แล้ วปรำกฎ
ว่ำมีอำยุรำว 6,200 B.C. เป็ นภำพหมู่บ้ำนที่อำศัยมำกมำย มีภำพภูเขำไฟกำลังระเบิด สำหรับ
งำนปฏิมกรรม เป็ นรูปปั้นจำกดินดำและรูปแกะสลักจำกหินชั้นเล็กๆ สู งประมำณ 2-8 นิ้ว
  แม้ พวกเจริโคและซำทำล ฮือยึค จะเป็ นชนชำติที่ปรำกฎหลักฐำนว่ำเก่ ำแก่ ทีสุดในเมโสโปรเต
                                                                                 ่
เมีย แต่ก็เข้ ำใจว่ำยังไม่ มีอำรยธรรมใดจะเป็ นเครื่องยืนยันว่ำ มีควำมเจริญหลุดพ้นจำกยุคหิน
หรือยุคโลหะมำได้ ชนชำติเก่ ำแก่ ชำติแรกที่ ปรำกฎหลักฐำนแสดงควำมเจริญรุ่งเรือง และมีอำรย
ธรรมเก่ ำแก่ ทสุดใน ๶มโสโปเตเมีย คือ ชนชำติซูเมอร์ และบำบิโลเนีย
                ี่

 ปัจจัยที่เอืออำนวยให้ เกิดอำรยธรรม๶มโสโปเตเมีย
             ้


1. ควำมคิดสร้ ำงสรรค์รักษำ ปรับปรุงและสื บทอดในอำรยธรรมของกลุ่มชน 6 กลุ่มคือ

  1.1 สุ เมเรียน (Sumerians)
  1.2 อัคคำเดียน (Akkadians)
  1.3 อะมอไรท์ (Amorites)
  1.4 คัสไซท์ (Kassites)
  1.5 อัสซีเรียน (Assyrians)
  1.6 แคลเดียน (Chaldeans)
 2. แม่ น้ำไทกรีสและยูเฟรตีส ทำให้ ๶มโสโปเตเมียชุ่มชื้นเกิดกำรรวมตัวของกลุ่มชน และกำเนิด
อำรยธรรมเฉพำะขึน      ้
  3. พรมแดนธรรมชำติซ่ึงมีส่วนช่ วยเป็ นกำแพงปองกันศัตรูภำยนอกแม้ ไม่ดีเท่ ำ แถบลุ่มน้ำ
                                                    ้
ไนล์ ก็ตำม แต่ก็เอืออำนวยให้ กลุ่มชนซึ่งผลัดกันขึนมีบทบำทใน ๶มโสโปเตเมียสำมำรถใช้
                    ้                             ้
ประโยชน์ ของพรมแดนธรรมชำตินี้กำเนิดอำรยธรรม ๶มโสโปเตเมียขึน กล่ ำวคือทิศเหนือจรด
                                                                   ้
เทือกเขำอเมเนียทิศใต้จรดอ่ ำวเปอร์ เซีย ทิศตะวันออกจรดแนวเทือกเขำยำว ทิศตะวันตกจรด
ทะเลทรำยอำรเบียนกำร รวมตัวทำงกำรเมืองของ๶มโสโปเตเมีย กำรรวมตัวอย่ ำงถำวรครั้งแรก
              ้
กระทำได ์เป็ นผลสำเร็จโดยผู้พชิตชำวเซเมติคผู้หนึ่งซึ่งเป็ นกษัตริย์แห่ งอัคคัตทรง พระนำม
                                  ิ
ว่ำซำร์ กอนพระองค์ทรงได้ ๶มโสโปเตเมียไว้ในครอบครองเมื่อ ประมำณปี 2370 ก่ อนคริสตกำล
และพระรำชวงศ์ ของพระองค์ ปกครองอย่ ำง ยำกลำบำกต่อมำอีกหลำยชั่วคน (ประมำณ 2370-
2230) กษัตริย์ซำร์ กอนทรง ได้ รับกำรยกย่ องในสมัยนั้น เพรำะจักรวรรดิของพระองค์เป็ น
จักรวรรดิที่ย่ง ใหญ่ ท่สุดในโลกที่เคยรู้จกมำ ที่สำมำรถรวบรวมอำณำจักรอัคคัตและ ซูเมอร์ เข้ ำ
                ิ       ี                ั
ไว้เป็ นหน่ วยกำรปกครองเดียวกันและเรื่องเล่ ำในสมัยต่อมำ ได้ ขยำยให้ ใหญ่ โตยิ่งไปกว่ำควำม
เป็ นจริงเล่ ำกันว่ำกษัตริย์ซำกอน ได้ ทรงปกครองประชำชนของดินแดนทั้งหมด ชัยชนะของ
พระองค์มีผลใน กำรเร่ งให้ วฒนธรรมสุ เมเรียนเผยแพร่ ไปทั่วตะวันออกใกล้ ได้ เร็วขึนทำยำท
                                  ั                                                    ้
องค์หนึ่งของกษัตริย์ซำร์ กอนฝ่ ำฝื นขนบประเพณีของสุ เมเรียน และตัดสิ นใจเสี่ ยงด้ วยกำรอ้ ำง
พระองค์เป็ นเทพ ต่อมำรำชวงศ์ ซำร์ กอน แห่ งอัคคัตถูกอนำรยชนจำกภำคตะวันออกเฉียงเหนือ
เข้ ำทำลำยล้ ำง ยังผลทำให้ เกิดควำมไม่ สงบทำงกำรเมืองอีกช่ วยระยะหนึ่ ง ครั้งเมื่อ ประมำณ
2,100 ก่ อนคริสตกำล นครรัฐสุ เมเรียนแห่ งอูร์กลับได้ อำนำจ และบรรดำกษัตริย์แห่ ง 14 นครนี้ก็
อ้ ำงตนเป็ นเทพเช่ นเดียวกัน แต่ในที่สุดจักรวรรดิอูร์ก็ถูกทำลำยลงด้ วยกำรเบียดเบียนของอ
นำรยชน และควำมแตกแยกภำยใน พร้ อมกับควำมหำยนะของจักรวรรดิอูร์อำนำจ ทำงกำรเมือง
ของสุ เมเรียนก็สิ้นสุ ดลงตลอดไป อนำคตของ๶มโสโปเตเมีย จึงอยู่ในมือของพวกเซไมท์
   ในช่ วงระยะที่เกิดควำมวุ่นวำยคือประมำณ 2,000 ปี ก่ อนคริสตกำล ชนเผ่ำเซเมติค กลุ่มใหม่
หลำยกลุ่มพำกันอพยพเข้ ำมำยังดินแดนลุ่มแม่น้ำ กลุ่มหนึ่งของชนเผ่ำนี้ คือพวกอะมอไรท์ จำก
                                                            ้
ซีเรียเข้ ำมำยึดครองนครต่ำงๆ รวมทั้งบำบิโลนเมืองที่ไร ์ควำมสำคัญพระเจ้ ำฮัมมูรำบี
(ประมำณ ค.ศ. 1792 - 1750) กษัตริย์อะมอไรท์ แห่ ง บำบิโลนผู้สำมำรถและมีชื่อเสี ยง เข้ ำพิชิต
ดินแดนแห่ ง อัคคัตและมูเซอร์ ได้ ท้ ังหมด และขยำยอำนำจไปจนทั่วดินแดนรูปพระจันทร์ ครึ่ง
เสี้ยว ตั้งแต่ทะเล เมดิเตอร์ เรเนียนมำจนถึงอ่ ำวเปอร์ เซีย เพียงชั่วเวลำอันสั้ น บำบิโลนก็เปลี่ยน
จำกเมืองเล็กๆ ที่ไร้ ควำมหมำยมำเป็ นนครหลวงของ จักรวรรดิที่ทรงอำนำจ
   สิ่ งที่จะต้องเน้ นไว้ในทีนี้ก็คอหลักฐำนเกียวกับเรื่องพัฒนำกำรทำงกำรเมืองเหล่ ำ นี้มีอยู่น้อย
                             ่ ื              ่
และไม่ ชัดเจนและรำยละเอียดบำงประกำรในกำรประติดประต่อเรื่อง ของเรำอำจผิดพลำดได้
ศักรำชในช่ วงสมัยเริ่มแรกนี้กอำจผิดไปถึงศตวรรษหรือ มำกกว่ำนั้นอย่ ำงไรก็ตำมลำดับ
                                    ็
เหตุกำรณ์ ต่ำงๆ นั้นจัดได้ อย่ ำงถูกต้อง และไม่น่ำสงสั ยว่ำพระเจ้ำฮัมมูรำบี ผู้ได้ รับแนวควำมคิด
จำกขนบธรรมเนียมและ วัฒนธรรมสุ เมเรียนซึ่งได้แพร่ หลำยอยู่เกือบ 2,000 ปี แล้ ว จะไม่
สำมำรถสร้ ำงสรรค์ โครงสร้ ำงทำงกำรเมืองที่มีประสิ ทธิภำพยอดเยียมขึนมำได้ ประมวล
                                                                         ่ ้
กฎหมำยอันลือ ชื่อของพระองค์เป็ นเสมือนหน้ ำต่ำงเผยให้ เห็นชีวตประจำวันในจักรวรรดิบำ
                                                                       ิ
บิโลเนีย กฎหมำยฉบับนี้ยึดถือประมวลกฎหมำยที่มมำแล้ วและทีย่นย่อของชำวสุ เมเรียน และ
                                                        ี            ่
ได้ มำจำกประเพณีของสุ เมเรียนเป็ นส่ วนใหญ่ พระเจ้ำฮัมมูรำบีมิได้ ทรงอ้ ำง พระองค์เป็ นเทพ
เจ้ำ แต่ทรงรับบทบำทตำมขนบธรรมเนียมเดิมคือผู้รับใช้ บรรดำเทพเจ้ำ สั งคมที่ทรงปกครอง
แบ่ งออกเป็ นชั้นต่ำงๆ คือ ชั้นขุนนำง เสรีชน และทำส รำยละเอียด ของกฎข้ อบังคับเกี่ยวกับ
กำรค้ำ แสดงให้ เห็นถึงชีวตค้ำขำยที่ตนตัวและสลับซับซ้ อน แต่ทว่ำประมำณกฎหมำยของฮัมมู
                              ิ          ื่
รำบีน้ ันเข้ มงวดว่ำกฎหมำยสุ เมเรียนที่ถือกำเนิดขึน ก่ อนอย่ ำงเห็นได้ ชัด แสดงถึงกำรใช้ อำนำจ
                                                    ้
เผด็จกำรในระดับสู งกว่ำเดิม กำรลงโทษ หนักปรำกฎบ่ อยๆ ในขณะที่แต่ก่อนนีแทบจะไม่ มีเลย
                                                                                ้
และควำมคิดเกี่ยวกับควำมยุตธรรม โดยให้ ผลกรรมตำมทัน หรือกล่ ำวอีกนัยหนึ่ง ตำต่อตำ นั้น
                                   ิ
ได้ นำปฏิบัตอย่ ำงรุนแรงน่ ำ สะพึงกลัว ดังเช่ น ถ้ ำบ้ ำนหลังหนึ่งทรุดตัวลง ทำให้ เจ้ำของบ้ ำน
               ิ
เสี ยชีวตผู้สร้ ำงบ้ ำนหลัง นั้นย่ อมถูกประหำรชีวต ถ้ ำคนไข้ ตำยในระหว่ำงกำรผ่ำตัด แพทย์ ผู้
        ิ                                        ิ
ผ่ำตัดถูกประหำร ถ้ ำผู้ป่วยเสี ยนัยตำข้ ำงหนึ่งแพทย์จะต้องถูกตัดนิ้วทิง นับเป็ นกำรลงโทษชนิด
                                                                        ้
ที่ทำ ให้ แพทย์ ผ้น้ ันมิอำจประกอบอำชีพได้ อีก
                   ู

More Related Content

What's hot (15)

อารยธรรมของโลกยุคโบราณและยุคแบบแก้แล้ว
อารยธรรมของโลกยุคโบราณและยุคแบบแก้แล้วอารยธรรมของโลกยุคโบราณและยุคแบบแก้แล้ว
อารยธรรมของโลกยุคโบราณและยุคแบบแก้แล้ว
kittiyawir
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณบทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
Supicha Ploy
อารยธรรม๶มโสโปเตเมียและอียิปต์
อารยธรรม๶มโสโปเตเมียและอียิปต์อารยธรรม๶มโสโปเตเมียและอียิปต์
อารยธรรม๶มโสโปเตเมียและอียิปต์
6091429
อารยธรรม๶มโสโปเตเมีย2
อารยธรรม๶มโสโปเตเมีย2อารยธรรม๶มโสโปเตเมีย2
อารยธรรม๶มโสโปเตเมีย2
Napatrapee Puttarat
๶อเชียไมเȨร์และกรีก 6.7 21-22
๶อเชียไมเȨร์และกรีก 6.7 21-22๶อเชียไมเȨร์และกรีก 6.7 21-22
๶อเชียไมเȨร์และกรีก 6.7 21-22
pnmn2122
ลักษณะทางสังคม ประชากร ภาษา การปกครองและ Etc.
ลักษณะทางสังคม ประชากร ภาษา การปกครองและ Etc.ลักษณะทางสังคม ประชากร ภาษา การปกครองและ Etc.
ลักษณะทางสังคม ประชากร ภาษา การปกครองและ Etc.
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
อารยธรรม๶มโสโปเตเมีย
อารยธรรม๶มโสโปเตเมียอารยธรรม๶มโสโปเตเมีย
อารยธรรม๶มโสโปเตเมีย
6091429
ภูมิศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 2
ภูมิศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 2ภูมิศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 2
ภูมิศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 2
Bow Rattikarn
1.1 การแบ่งยุคสมัยปวศ.
1.1 การแบ่งยุคสมัยปวศ.1.1 การแบ่งยุคสมัยปวศ.
1.1 การแบ่งยุคสมัยปวศ.
Jitjaree Lertwilaiwittaya
โครงงาȨะบบนิเวศȨในประเทศมา๶ลเซียบูรณาการผ่าȨว็บไซต์
โครงงาȨะบบนิเวศȨในประเทศมา๶ลเซียบูรณาการผ่าȨว็บไซต์โครงงาȨะบบนิเวศȨในประเทศมา๶ลเซียบูรณาการผ่าȨว็บไซต์
โครงงาȨะบบนิเวศȨในประเทศมา๶ลเซียบูรณาการผ่าȨว็บไซต์
kai2910
อารยธรรมกรีก โรมัน
อารยธรรมกรีก โรมันอารยธรรมกรีก โรมัน
อารยธรรมกรีก โรมัน
Jungko
อารยธรรมตะวัȨกยุคโบราณ(อัพเึϸ2557)
อารยธรรมตะวัȨกยุคโบราณ(อัพเึϸ2557)อารยธรรมตะวัȨกยุคโบราณ(อัพเึϸ2557)
อารยธรรมตะวัȨกยุคโบราณ(อัพเึϸ2557)
Heritagecivil Kasetsart
อารยธรรมของโลกยุคโบราณและยุคแบบแก้แล้ว
อารยธรรมของโลกยุคโบราณและยุคแบบแก้แล้วอารยธรรมของโลกยุคโบราณและยุคแบบแก้แล้ว
อารยธรรมของโลกยุคโบราณและยุคแบบแก้แล้ว
kittiyawir
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณบทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
บทที่ 2 อารยธรรมของโลกตะวันตกในยุคโบราณ
Supicha Ploy
อารยธรรม๶มโสโปเตเมียและอียิปต์
อารยธรรม๶มโสโปเตเมียและอียิปต์อารยธรรม๶มโสโปเตเมียและอียิปต์
อารยธรรม๶มโสโปเตเมียและอียิปต์
6091429
อารยธรรม๶มโสโปเตเมีย2
อารยธรรม๶มโสโปเตเมีย2อารยธรรม๶มโสโปเตเมีย2
อารยธรรม๶มโสโปเตเมีย2
Napatrapee Puttarat
๶อเชียไมเȨร์และกรีก 6.7 21-22
๶อเชียไมเȨร์และกรีก 6.7 21-22๶อเชียไมเȨร์และกรีก 6.7 21-22
๶อเชียไมเȨร์และกรีก 6.7 21-22
pnmn2122
ลักษณะทางสังคม ประชากร ภาษา การปกครองและ Etc.
ลักษณะทางสังคม ประชากร ภาษา การปกครองและ Etc.ลักษณะทางสังคม ประชากร ภาษา การปกครองและ Etc.
ลักษณะทางสังคม ประชากร ภาษา การปกครองและ Etc.
Princess Chulabhorn's College, Chiang Rai Thailand
อารยธรรม๶มโสโปเตเมีย
อารยธรรม๶มโสโปเตเมียอารยธรรม๶มโสโปเตเมีย
อารยธรรม๶มโสโปเตเมีย
6091429
ภูมิศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 2
ภูมิศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 2ภูมิศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 2
ภูมิศาสตร์ ม.1 หน่วยที่ 2
Bow Rattikarn
1.1 การแบ่งยุคสมัยปวศ.
1.1 การแบ่งยุคสมัยปวศ.1.1 การแบ่งยุคสมัยปวศ.
1.1 การแบ่งยุคสมัยปวศ.
Jitjaree Lertwilaiwittaya
โครงงาȨะบบนิเวศȨในประเทศมา๶ลเซียบูรณาการผ่าȨว็บไซต์
โครงงาȨะบบนิเวศȨในประเทศมา๶ลเซียบูรณาการผ่าȨว็บไซต์โครงงาȨะบบนิเวศȨในประเทศมา๶ลเซียบูรณาการผ่าȨว็บไซต์
โครงงาȨะบบนิเวศȨในประเทศมา๶ลเซียบูรณาการผ่าȨว็บไซต์
kai2910
อารยธรรมกรีก โรมัน
อารยธรรมกรีก โรมันอารยธรรมกรีก โรมัน
อารยธรรมกรีก โรมัน
Jungko
อารยธรรมตะวัȨกยุคโบราณ(อัพเึϸ2557)
อารยธรรมตะวัȨกยุคโบราณ(อัพเึϸ2557)อารยธรรมตะวัȨกยุคโบราณ(อัพเึϸ2557)
อารยธรรมตะวัȨกยุคโบราณ(อัพเึϸ2557)
Heritagecivil Kasetsart

Similar to ต้ȨำเȨึϸารยธรรมสมัย๶มโสโปเตเมีย (20)

อารยธรรม๶มโสโปเตเมียและอียิปต์
อารยธรรม๶มโสโปเตเมียและอียิปต์อารยธรรม๶มโสโปเตเมียและอียิปต์
อารยธรรม๶มโสโปเตเมียและอียิปต์
6091429
3.1 3.3 เมโส-ไนล์-๶อเชียไมเȨร์
3.1 3.3 เมโส-ไนล์-๶อเชียไมเȨร์3.1 3.3 เมโส-ไนล์-๶อเชียไมเȨร์
3.1 3.3 เมโส-ไนล์-๶อเชียไมเȨร์
Jitjaree Lertwilaiwittaya
DzԳของสุโขทัย
DzԳของสุโขทัยDzԳของสุโขทัย
DzԳของสุโขทัย
sangworn
Mesopotamia civilization
Mesopotamia civilizationMesopotamia civilization
Mesopotamia civilization
than khan
กรณีพิพาทปราสาทพระวิหาร11
กรณีพิพาทปราสาทพระวิหาร11กรณีพิพาทปราสาทพระวิหาร11
กรณีพิพาทปราสาทพระวิหาร11
teacherhistory
อารยธรรมตะวัȨก
อารยธรรมตะวัȨกอารยธรรมตะวัȨก
อารยธรรมตะวัȨก
Chanapa Youngmang
อารยธรรมตะวัȨก
อารยธรรมตะวัȨกอารยธรรมตะวัȨก
อารยธรรมตะวัȨก
Chanapa Youngmang
อารยธรรมตะวัȨก
อารยธรรมตะวัȨกอารยธรรมตะวัȨก
อารยธรรมตะวัȨก
Chanapa Youngmang
อารยธรรมตะวัȨกกรีกโรมัน(อัพเดท2557)
อารยธรรมตะวัȨกกรีกโรมัน(อัพเดท2557)อารยธรรมตะวัȨกกรีกโรมัน(อัพเดท2557)
อารยธรรมตะวัȨกกรีกโรมัน(อัพเดท2557)
Heritagecivil Kasetsart
ประวัติศาสตร์ทวีปอ๶มริกาเหนือ
ประวัติศาสตร์ทวีปอ๶มริกาเหนือประวัติศาสตร์ทวีปอ๶มริกาเหนือ
ประวัติศาสตร์ทวีปอ๶มริกาเหนือ
Pann Boonthong
บทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณ
บทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณบทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณ
บทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณ
Padvee Academy
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีนอารยธรรมจีน
อารยธรรมจีน
warintorntip
อารยธรรม๶มโสโปเตเมียและอียิปต์
อารยธรรม๶มโสโปเตเมียและอียิปต์อารยธรรม๶มโสโปเตเมียและอียิปต์
อารยธรรม๶มโสโปเตเมียและอียิปต์
6091429
3.1 3.3 เมโส-ไนล์-๶อเชียไมเȨร์
3.1 3.3 เมโส-ไนล์-๶อเชียไมเȨร์3.1 3.3 เมโส-ไนล์-๶อเชียไมเȨร์
3.1 3.3 เมโส-ไนล์-๶อเชียไมเȨร์
Jitjaree Lertwilaiwittaya
DzԳของสุโขทัย
DzԳของสุโขทัยDzԳของสุโขทัย
DzԳของสุโขทัย
sangworn
Mesopotamia civilization
Mesopotamia civilizationMesopotamia civilization
Mesopotamia civilization
than khan
กรณีพิพาทปราสาทพระวิหาร11
กรณีพิพาทปราสาทพระวิหาร11กรณีพิพาทปราสาทพระวิหาร11
กรณีพิพาทปราสาทพระวิหาร11
teacherhistory
อารยธรรมตะวัȨก
อารยธรรมตะวัȨกอารยธรรมตะวัȨก
อารยธรรมตะวัȨก
Chanapa Youngmang
อารยธรรมตะวัȨก
อารยธรรมตะวัȨกอารยธรรมตะวัȨก
อารยธรรมตะวัȨก
Chanapa Youngmang
อารยธรรมตะวัȨก
อารยธรรมตะวัȨกอารยธรรมตะวัȨก
อารยธรรมตะวัȨก
Chanapa Youngmang
อารยธรรมตะวัȨกกรีกโรมัน(อัพเดท2557)
อารยธรรมตะวัȨกกรีกโรมัน(อัพเดท2557)อารยธรรมตะวัȨกกรีกโรมัน(อัพเดท2557)
อารยธรรมตะวัȨกกรีกโรมัน(อัพเดท2557)
Heritagecivil Kasetsart
ประวัติศาสตร์ทวีปอ๶มริกาเหนือ
ประวัติศาสตร์ทวีปอ๶มริกาเหนือประวัติศาสตร์ทวีปอ๶มริกาเหนือ
ประวัติศาสตร์ทวีปอ๶มริกาเหนือ
Pann Boonthong
บทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณ
บทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณบทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณ
บทที่ ๓ ศาสนาอียิปต์โบราณ
Padvee Academy
อารยธรรมจีน
อารยธรรมจีนอารยธรรมจีน
อารยธรรมจีน
warintorntip

ต้ȨำเȨึϸารยธรรมสมัย๶มโสโปเตเมีย

  • 1. ๶มโสโปเตเมีย เป็ นคำภำษำกรีก แปลว่ำ ระหว่ำงแม่ น้ำ ดินแดนที่ชำวกรีกเรียกว่ำ เมโสโปเต เมียธนี้ต้งอยู่ในลุ่มน้ำไทกรีสและยูเฟรตีสเป็ นส่ วนหนึ่งของ "ดินแดนรูปพระจันทร์ เสี้ยวอัน ั อุดมสมบูรณ์ " ซึ่งเป็ นดินแดนรูปครึ่งวงกลมผืนใหญ่ ที่ทอดโค้งขึนไปจำกฝั่งทะเลเมดิเตอร์ เร ้ เนียนและอ่ ำวเปอร์ เซีย ๶มโสโปเตเมีย เป็ นดินแดนที่อำกำศร้ อนและกันดำรฝน น้ำที่ได้ รับส่ วนใหญ่ เป็ น น้ำจำกแม่ น้ำ ที่มำจำกหิมะละลำยในภำคฤดูร้อนบนเทือกเขำในอำร์ มิเนียน้ำ จะพัดพำเอำโคลนตมมำทับถม ชำยฝั่งทั้งสอง ทำให้ พนดินอุดมสมบูรณ์ เหมำะแก่ กำรเพำะปลูก กำรเอ่ อล้ นของน้ำอันเกิดจำก ื้ หิมะละลำยไม่มีกำหนดเวลำที่แน่ นอนและ บำงครั้งทำควำมเสี ยหำยแก่ บ้ำนเมือง ไร่ นำ ทรัพย์ สินและชีวตผู้คน กำรกสิ กรรมที่จะได้ ผลดีในสภำพแวดล้ อมเช่ นนี้ต้องอำศัยระบบกำร ิ ชลประทำนที่มีประสิ ทธิภำพ ควำมอุดมสมบูรณ์ ของลุ่มแม่น้ำเป็ นเครื่องดึงดูดให้ ผู้คนเข้ ำมำ ทำมำหำกินในบริเวณนี้ แต่ควำมร้ อนของอำกำศก็เป็ นเครื่องบั่นทอนกำลังของผู้คนที่อำศัยอยู่ทำ ให้ คนเหล่ ำ นั้นขำดควำมกระตือรือร้ น เมื่อมีพวกอื่นเข้ ำรุกรำนจึงต้องหลีกทำงให้ ผู้ที่เข้ ำมำใหม่ ซึ่ง เมื่ออยู่ไปนำนๆเข้ ำก็ประสบภำวะเดียวกันต้องหลีกให้ ผู้อื่นต่อไปวกที่เข้ ำมำรุกรำน ส่ วนใหญ่ มักจะมำจำกบริเวณหุบเขำที่รำบสู งทำงภำคเหนือและตะวันออกซึ่งส่ วนใหญ่ เป็ นเขำหินปูนไม่ อุดมสมบูรณ์ เท่ ำเขตลุ่มแม่ น้ำ คนกลุ่มแรกทีสร้ ำงอำรยธรรม๶มโสโปเตเมียขึนคือชำวสุ เมเรียน ่ ้ ผู้คดประดิษฐ์ ตวอักษรขึนเป็ นครั้งแรกในโลก อำรยธรรมที่ชำวสุ เมเรียนขึน เป็ นพืนฐำนสำคัญ ิ ั ้ ้ ้ ของอำรยธรรม๶มโสโปเตเมีย สถำปัตยธรรม ตัวอักษร ศิลปกรรมอื่นๆ ตลอดจนทัศนคติต่อชีวต ิ และเทพเจ้ำของชำวสุ เมเรียน ได้ ดำรงอยู่และมีอทธิพลอยู่ในลุ่มแม่น้ำทั้งสองตลอดช่ วงสมัย ิ โบรำณ แนวคิดของอำรยธรรม อำรยธรรม๶มโสโปเตเมีย เป็ นอำรยธรรมทีแสดงให้ เห็นถึงพัฒนำ กำรทำงวัฒนธรรม อำรยะร ่ รมที่สำคัญของโลก กล่ ำวคือ เป็ นกลุ่มชนที่ริเริ่มและสร้ ำงสรรค์ควำมเจริญไว้มำกมำย อำทิเช่ น ด้ ำนคณิตศำสตร์ ดำรำศำสตร์ อักษรศำสตร์ สถำปัตยกรรม และกฎหมำยที่สำคัญต่ำงๆ ของโลก รวมไปถึงทำให้ ทรำบถึงกำร ต่อสู้ ดินแดน และเพืออยู่รอดของเผ่ำพันธุ์ของมนุษย์ เอง กำรสร้ ำง ่ หลักควำมเชื่อโดยมีพระหรือนักบวชเป็ นผู้นำที่สำคัญ
  • 2. ่ 1. มนุษย์รวมตัวกันอยูในรู ปองค์กรทางการเมือง แบบนครรัฐเป็ นอันดับแรก และสามารถ สร้างสรรค์ความเจริ ญภายใต้รูปแบบการปกครอง 2. การผลิตจนเหลือกินเหลือใช้ในชุมชนหนึ่งกับความยากไร้และแร้นแค้นในบาง ชุมชนก่อให้เกิดสงครามซึ่ งตามมาด้วยการที่ชุมชนหนึ่ง สถาปนาอานาจเหนือชุมชนอื่นๆ ที่ พ่ายแพ้ในรู ปขององค์กรทางการเมืองแบบจักรพรรดิ 3. การขยายตัวทางการเมือง และเศรษฐกิจในรู ปแบบของจักรวรรดิในยุคแรกเป็ นไปอย่าง กว้างขวาง ปัจจัยที่ส่งผลให้อารยธรรม๶มโสโปเตเมียเจริ ญรุ่ งเรื อง 1. ความอุดมสมบูรณ์ของลุ่มแม่น้ าไทกรี สและยูเฟรตีส 2. ความคิด และการสื บทอดอารยธรรมของกลุ่มชนในดินแดนแห่งนี้ซ่ ึ งมีดวยกัน 6 กลุ่ม ้ 3.มีพรมแดนธรรมชาติเป็ นเกราะป้ องกันการรุ กรานจากศัตรู ภายนอก โดยทิศเหนือมีภูเขาและ ที่ราบสูง ทิศใต้ติดอ่าวเปอร์เซี ย ทิศตะวันออกจดเทือกเขาซาร์ กอส และทิศตะวันเป็ นทะเลทราย ซี เรี ย ลักษณะที่ต้งทำงภูมิศำสตร ๶มโสโปเตเมียแหล่ งอำรยธรรมที่เก่ ำแก่ที่สุดแห่ งหนึ่งในสมัยโบรำณ ั คำว่ำ๶มโสโปเตเมีย เป็ นภำษำกรีก มีควำมหมำยว่ำดินแดนระหว่ำงแม่ น้ำทีสอง คือแม่น้ำไทกรีส ่ (Tigris) และ ยูเฟรตีส (Euphrates) ปัจจุบันคือประเทศอิรัก มีนครหลวงคือกรุงแบกแดด แม่น้ำ ทั้ง 2 สำยมีต้นน้ำอยู่ในอำร์ มีเนีย และเอเซียไมเนอร์ ไหลลงสู่ ทะเลทีอ่ำวเปอร์ เซอ ่ บริเวณที่รำบลุ่มแม่ น้ำไทกรีสและยูเฟรตีส ตอนล่ ำงเรียกว่ำบำบิโลเนีย (Babylonia) เป็ นเขต ซึ่งอยู่ตดกับอ่ ำวเปอร์ เซีย มีชื่อเรียกในสมัยหนึ่งว่ำชินำร์ (Shina) เกิดจำกกำรทับถมของดินที่ ิ แม่ น้ำพัดพำมำกล่ ำวคือในฤดูร้อนหิมะบนภูเขำ ในอำร์ มีเนียละลำยไหลบ่ ำลงมำทำงใต้พดพำเอำ ั โคลนตมมำทับถมไว้ยัง บริเวณปำกน้ำทำให้ พนดินตรงปำกแม่ น้ำงอกออกทุกปี โดยเฉลี่ยแล้ ว ื้ ประมำณ 1 ไมล์ ครึ่ง ทุกๆ ศตวรรษ ( ประมำณปี ละ 29 นิ้วครึ่ง) อำณำบริเวณที่เรียกว่ำ๶มโสโปเตเมีย มีทิศเหนือจรดทะเลดำ และทะสำบแคสเบียน ทิศ
  • 3. ตะวันตกเฉียงใต้จรดคำบสมุทรอำระเบีย ซึ่งล้ อมรอบด้ วยทะเลแดง และมหำสมุทรอินเดีย ทิศ ตะวันตกจรดที่รำบซีเรีย และปำเลสไตน์ ส่ วนทิศตะวันออก จรดที่รำบสู งอิหร่ ำน ์ ๶มโสโปเตเมียแบ่ งออกเป็ นสองส่ วน ส่ วนล่ ำงใกล้ กับอ่ ำวเปอร์ เซีย มีควำมอุดมสมบูรณ ์เรียกว่ำ บำบิโลเนีย ส่ วนบนซึ่งค่อนข้ ำงแห้ งแล้ งเรียกว่ำแอสซีเรีย (Assyria) บริเวณ ทั้งหมดมีชนชำติ หลำยเผ่ำพันธุ์อำศัยอยู่ มีกำรรบพุ่งกันอยู่เสมอ เมื่อชำติใดมีอำนำจ ก็เข้ ำไปยึดครองและ กลำยเป็ นชนชำติเดียวกัน นักประวัตศำสตร์ บำงท่ ำนกล่ ำวว่ำ ไม่ มีแห่ งหนตำบลใด จะมีชำติพนธุ์ ิ ั มนุษย์ ผสมปนเปกันมำกมำยเหมือนทีน ์ี์ และยังเป็ นยุทธภูมิระหว่ำงตะวันตก กับตะวันออก ่ ่ ตลอดสมัยประวัตศำสตร์ ดังนั้น ประวัตเิ รื่องรำวต่ำงๆ ของชนชำติเหล่ ำนี้จงค่อนข้ ำงสั บสน ิ ึ ประวัตศำสตร์ ของดินแดนแห่ งนี้เป็ นเรื่องรำวเกี่ยวกับควำมเจริญของแต่ละแคว้น ที่แยกออก ิ จำกกัน และเรื่องรำวทำงอำรยธรรมใน๶มโสโปเตเมียมีหลักฐำนยืนยัน ทำงโบรำณคดีว่ำเก่ ำแก่ นำนนับถึง 8,000 - 7,000 B.C. เช่ น กำรขุดพบหมู่บ้ำน ที่เมืองจำร์ โม (Jarmo) ในอิรักใกล้ แม่น้ำ ไทกรีสเมืองซำทำล ฮือยึค (Catal Huyl) ภำยใต้ของอนำโตเลีย (ประเทศตุรกี) ซึ่งเมื่อเทียบ กับอิยิปต์แล้ วหลักฐำนทำง โบรำณคดีในเมืองเก่ ำแก่ ใกล้ ดินดอนสำมเหลียมปำกแม่น้ำไนล์ คอที่ ่ ื ไฟยูม (Faiyum) มีอำยุเพียง 4,500 B.C. เท่ ำนั้น ตัวอักษรของ๶มโสโปเตเมียก็ปรำกฎว่ำ ใช้ มำ นำนแล้ วอำจจะก่ อนอียิปต์หลำยร้ อยปี อีกด้ วย แต่ก็ไม่ ปรำกฎยืนยันว่ำ ตัวอักษรของเมโสโปเต เมียให้ อิทธิพลแก่อียิปต์แต่อย่ ำงใด ชนชำติกลุ่มแรกที่มอำยุในสมัยหิน และเข้ ำมำอยู่อำศัยระหว่ำงหุบเขำริมแม่ น้ำ จอร์ แดน ี ประเทศอิรัก เรียกว่ำ เจริโค (Jericho) มีอำยุรำว 8,000 B.C. กำรขุดค้น หลักฐำนทำงโบรำณคดี ขุดค้นซำกกำแพงยำวสร้ ำงด้ วยหิน สู งถึง 12 ฟุต หนำ 5 ฟุต และพบซำกหอคอยซึ่งมีควำมสู ง ถึง 30 ฟุต รู ปแบบกำรก่ อสร้ ำงแสดง อำรยธรรมดั้งเดิมของมนุษย์ทีใช้ มำก่ อสร้ ำงชนกลุ่มต่อมำ คือซำทำล ฮือยึค (Catal Huyuk) มีอำยุรำว 7000-5000 B.C. นักโบรำณคดีได้ ขดลงไปพบเมืองุ ต่ำงๆ ที่ทับถมเป็ นชั้น ๆ ถึง 12 ชั้น และชั้นที่ 4 พบซำกเมืองมีผงต่อเนื่อง คล้ ำยเมืองใหญ่ แต่ไม่ มี ั ถนน ตัวอำคำรเป็ นห้ องโถง มีภำพเขียนหนังและตกแต่ง ปฏิมำกรรมที่ทำมำจำกเขำสั ตว์ งำน จิตรกรรมบนผนังของ ซำทำล ฮือยึค หลังจำกพิสูจน์ ด้วยเครื่องมือทำงวิทยำศำสตร์ แล้ วปรำกฎ ว่ำมีอำยุรำว 6,200 B.C. เป็ นภำพหมู่บ้ำนที่อำศัยมำกมำย มีภำพภูเขำไฟกำลังระเบิด สำหรับ งำนปฏิมกรรม เป็ นรูปปั้นจำกดินดำและรูปแกะสลักจำกหินชั้นเล็กๆ สู งประมำณ 2-8 นิ้ว แม้ พวกเจริโคและซำทำล ฮือยึค จะเป็ นชนชำติที่ปรำกฎหลักฐำนว่ำเก่ ำแก่ ทีสุดในเมโสโปรเต ่
  • 4. เมีย แต่ก็เข้ ำใจว่ำยังไม่ มีอำรยธรรมใดจะเป็ นเครื่องยืนยันว่ำ มีควำมเจริญหลุดพ้นจำกยุคหิน หรือยุคโลหะมำได้ ชนชำติเก่ ำแก่ ชำติแรกที่ ปรำกฎหลักฐำนแสดงควำมเจริญรุ่งเรือง และมีอำรย ธรรมเก่ ำแก่ ทสุดใน ๶มโสโปเตเมีย คือ ชนชำติซูเมอร์ และบำบิโลเนีย ี่ ปัจจัยที่เอืออำนวยให้ เกิดอำรยธรรม๶มโสโปเตเมีย ้ 1. ควำมคิดสร้ ำงสรรค์รักษำ ปรับปรุงและสื บทอดในอำรยธรรมของกลุ่มชน 6 กลุ่มคือ 1.1 สุ เมเรียน (Sumerians) 1.2 อัคคำเดียน (Akkadians) 1.3 อะมอไรท์ (Amorites) 1.4 คัสไซท์ (Kassites) 1.5 อัสซีเรียน (Assyrians) 1.6 แคลเดียน (Chaldeans) 2. แม่ น้ำไทกรีสและยูเฟรตีส ทำให้ ๶มโสโปเตเมียชุ่มชื้นเกิดกำรรวมตัวของกลุ่มชน และกำเนิด อำรยธรรมเฉพำะขึน ้ 3. พรมแดนธรรมชำติซ่ึงมีส่วนช่ วยเป็ นกำแพงปองกันศัตรูภำยนอกแม้ ไม่ดีเท่ ำ แถบลุ่มน้ำ ้ ไนล์ ก็ตำม แต่ก็เอืออำนวยให้ กลุ่มชนซึ่งผลัดกันขึนมีบทบำทใน ๶มโสโปเตเมียสำมำรถใช้ ้ ้ ประโยชน์ ของพรมแดนธรรมชำตินี้กำเนิดอำรยธรรม ๶มโสโปเตเมียขึน กล่ ำวคือทิศเหนือจรด ้ เทือกเขำอเมเนียทิศใต้จรดอ่ ำวเปอร์ เซีย ทิศตะวันออกจรดแนวเทือกเขำยำว ทิศตะวันตกจรด ทะเลทรำยอำรเบียนกำร รวมตัวทำงกำรเมืองของ๶มโสโปเตเมีย กำรรวมตัวอย่ ำงถำวรครั้งแรก ้ กระทำได ์เป็ นผลสำเร็จโดยผู้พชิตชำวเซเมติคผู้หนึ่งซึ่งเป็ นกษัตริย์แห่ งอัคคัตทรง พระนำม ิ ว่ำซำร์ กอนพระองค์ทรงได้ ๶มโสโปเตเมียไว้ในครอบครองเมื่อ ประมำณปี 2370 ก่ อนคริสตกำล และพระรำชวงศ์ ของพระองค์ ปกครองอย่ ำง ยำกลำบำกต่อมำอีกหลำยชั่วคน (ประมำณ 2370- 2230) กษัตริย์ซำร์ กอนทรง ได้ รับกำรยกย่ องในสมัยนั้น เพรำะจักรวรรดิของพระองค์เป็ น จักรวรรดิที่ย่ง ใหญ่ ท่สุดในโลกที่เคยรู้จกมำ ที่สำมำรถรวบรวมอำณำจักรอัคคัตและ ซูเมอร์ เข้ ำ ิ ี ั ไว้เป็ นหน่ วยกำรปกครองเดียวกันและเรื่องเล่ ำในสมัยต่อมำ ได้ ขยำยให้ ใหญ่ โตยิ่งไปกว่ำควำม เป็ นจริงเล่ ำกันว่ำกษัตริย์ซำกอน ได้ ทรงปกครองประชำชนของดินแดนทั้งหมด ชัยชนะของ
  • 5. พระองค์มีผลใน กำรเร่ งให้ วฒนธรรมสุ เมเรียนเผยแพร่ ไปทั่วตะวันออกใกล้ ได้ เร็วขึนทำยำท ั ้ องค์หนึ่งของกษัตริย์ซำร์ กอนฝ่ ำฝื นขนบประเพณีของสุ เมเรียน และตัดสิ นใจเสี่ ยงด้ วยกำรอ้ ำง พระองค์เป็ นเทพ ต่อมำรำชวงศ์ ซำร์ กอน แห่ งอัคคัตถูกอนำรยชนจำกภำคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้ ำทำลำยล้ ำง ยังผลทำให้ เกิดควำมไม่ สงบทำงกำรเมืองอีกช่ วยระยะหนึ่ ง ครั้งเมื่อ ประมำณ 2,100 ก่ อนคริสตกำล นครรัฐสุ เมเรียนแห่ งอูร์กลับได้ อำนำจ และบรรดำกษัตริย์แห่ ง 14 นครนี้ก็ อ้ ำงตนเป็ นเทพเช่ นเดียวกัน แต่ในที่สุดจักรวรรดิอูร์ก็ถูกทำลำยลงด้ วยกำรเบียดเบียนของอ นำรยชน และควำมแตกแยกภำยใน พร้ อมกับควำมหำยนะของจักรวรรดิอูร์อำนำจ ทำงกำรเมือง ของสุ เมเรียนก็สิ้นสุ ดลงตลอดไป อนำคตของ๶มโสโปเตเมีย จึงอยู่ในมือของพวกเซไมท์ ในช่ วงระยะที่เกิดควำมวุ่นวำยคือประมำณ 2,000 ปี ก่ อนคริสตกำล ชนเผ่ำเซเมติค กลุ่มใหม่ หลำยกลุ่มพำกันอพยพเข้ ำมำยังดินแดนลุ่มแม่น้ำ กลุ่มหนึ่งของชนเผ่ำนี้ คือพวกอะมอไรท์ จำก ้ ซีเรียเข้ ำมำยึดครองนครต่ำงๆ รวมทั้งบำบิโลนเมืองที่ไร ์ควำมสำคัญพระเจ้ ำฮัมมูรำบี (ประมำณ ค.ศ. 1792 - 1750) กษัตริย์อะมอไรท์ แห่ ง บำบิโลนผู้สำมำรถและมีชื่อเสี ยง เข้ ำพิชิต ดินแดนแห่ ง อัคคัตและมูเซอร์ ได้ ท้ ังหมด และขยำยอำนำจไปจนทั่วดินแดนรูปพระจันทร์ ครึ่ง เสี้ยว ตั้งแต่ทะเล เมดิเตอร์ เรเนียนมำจนถึงอ่ ำวเปอร์ เซีย เพียงชั่วเวลำอันสั้ น บำบิโลนก็เปลี่ยน จำกเมืองเล็กๆ ที่ไร้ ควำมหมำยมำเป็ นนครหลวงของ จักรวรรดิที่ทรงอำนำจ สิ่ งที่จะต้องเน้ นไว้ในทีนี้ก็คอหลักฐำนเกียวกับเรื่องพัฒนำกำรทำงกำรเมืองเหล่ ำ นี้มีอยู่น้อย ่ ื ่ และไม่ ชัดเจนและรำยละเอียดบำงประกำรในกำรประติดประต่อเรื่อง ของเรำอำจผิดพลำดได้ ศักรำชในช่ วงสมัยเริ่มแรกนี้กอำจผิดไปถึงศตวรรษหรือ มำกกว่ำนั้นอย่ ำงไรก็ตำมลำดับ ็ เหตุกำรณ์ ต่ำงๆ นั้นจัดได้ อย่ ำงถูกต้อง และไม่น่ำสงสั ยว่ำพระเจ้ำฮัมมูรำบี ผู้ได้ รับแนวควำมคิด จำกขนบธรรมเนียมและ วัฒนธรรมสุ เมเรียนซึ่งได้แพร่ หลำยอยู่เกือบ 2,000 ปี แล้ ว จะไม่ สำมำรถสร้ ำงสรรค์ โครงสร้ ำงทำงกำรเมืองที่มีประสิ ทธิภำพยอดเยียมขึนมำได้ ประมวล ่ ้ กฎหมำยอันลือ ชื่อของพระองค์เป็ นเสมือนหน้ ำต่ำงเผยให้ เห็นชีวตประจำวันในจักรวรรดิบำ ิ บิโลเนีย กฎหมำยฉบับนี้ยึดถือประมวลกฎหมำยที่มมำแล้ วและทีย่นย่อของชำวสุ เมเรียน และ ี ่ ได้ มำจำกประเพณีของสุ เมเรียนเป็ นส่ วนใหญ่ พระเจ้ำฮัมมูรำบีมิได้ ทรงอ้ ำง พระองค์เป็ นเทพ เจ้ำ แต่ทรงรับบทบำทตำมขนบธรรมเนียมเดิมคือผู้รับใช้ บรรดำเทพเจ้ำ สั งคมที่ทรงปกครอง แบ่ งออกเป็ นชั้นต่ำงๆ คือ ชั้นขุนนำง เสรีชน และทำส รำยละเอียด ของกฎข้ อบังคับเกี่ยวกับ กำรค้ำ แสดงให้ เห็นถึงชีวตค้ำขำยที่ตนตัวและสลับซับซ้ อน แต่ทว่ำประมำณกฎหมำยของฮัมมู ิ ื่
  • 6. รำบีน้ ันเข้ มงวดว่ำกฎหมำยสุ เมเรียนที่ถือกำเนิดขึน ก่ อนอย่ ำงเห็นได้ ชัด แสดงถึงกำรใช้ อำนำจ ้ เผด็จกำรในระดับสู งกว่ำเดิม กำรลงโทษ หนักปรำกฎบ่ อยๆ ในขณะที่แต่ก่อนนีแทบจะไม่ มีเลย ้ และควำมคิดเกี่ยวกับควำมยุตธรรม โดยให้ ผลกรรมตำมทัน หรือกล่ ำวอีกนัยหนึ่ง ตำต่อตำ นั้น ิ ได้ นำปฏิบัตอย่ ำงรุนแรงน่ ำ สะพึงกลัว ดังเช่ น ถ้ ำบ้ ำนหลังหนึ่งทรุดตัวลง ทำให้ เจ้ำของบ้ ำน ิ เสี ยชีวตผู้สร้ ำงบ้ ำนหลัง นั้นย่ อมถูกประหำรชีวต ถ้ ำคนไข้ ตำยในระหว่ำงกำรผ่ำตัด แพทย์ ผู้ ิ ิ ผ่ำตัดถูกประหำร ถ้ ำผู้ป่วยเสี ยนัยตำข้ ำงหนึ่งแพทย์จะต้องถูกตัดนิ้วทิง นับเป็ นกำรลงโทษชนิด ้ ที่ทำ ให้ แพทย์ ผ้น้ ันมิอำจประกอบอำชีพได้ อีก ู