ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
โครงงาȨอมพิวเตอร์
จัดทำโดย
นำงสำวภัทรวดี ด้วงผึ้ง เลขที่ 40 ชั้น ม.6/4
ควำมหมำยและควำมสำคัญของโครงงำนคอมพิวเตอร์
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อความเจริญก้าวหน้าของสังคม
ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านนี้มีการ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงเป็นเรื่องยากที่
ประชาชนจะคอยติดตามความก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการศึกษา
เทคโนโลยี ของคอมพิวเตอร์ จึงต้องศึกษาหลักการและเนื้อหาพื้นฐานเป็น
สาคัญ การศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งจาเป็นเสมือนกับ
การศึกษาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ คอมพิวเตอร์ได้เปลี่ยนแปลง โลกของเราใน
ด้านต่างๆ มากมาย ได้แก่
1. สังคมโดยส่วนใหญ่เปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมเป็นสังคมสารสนเทศ
2. การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มักขึ้นอยู่กับข้อมูลซึ่งได้จากระบบคอมพิวเตอร์
3. คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือที่สาคัญแทนเครื่องมืออื่นๆ ในอดีต เช่น
เครื่องพิมพ์ดีด เครื่องคิดเลข เป็นต้น
4. คอมพิวเตอร์ถูกใช้ในการออกแบบสถานการณ์หรือปัญหาที่ซับซ้อนต่างๆ
5. คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในงานติดต่อสื่อสารของโลกปัจจุบัน
การศึกษาด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีขึ้น เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ ความ
เข้าใจในวิทยาการคอมพิวเตอร์ และมีความสามารถในการพัฒนาโปรแกรมได้ การจัดทา
โครงงาȨอมพิวเตอร์จะเป็นสิ่งที่ทาให้ผู้เรียน สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้อย่างสมบูรณ์
จุดมุ่งหมายที่สาคัญประการหนึ่งของการเรียน การสอน คอมพิวเตอร์ ในโรงเรียน คือ
การที่ผู้เรียนได้มีโอกาสนาความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์
คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเอง ซึ่งวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากวิธีหนึ่งคือ
การทาโครงงาȨอมพิวเตอร์ โครงงาȨอมพิวเตอร์เป็นการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์
อื่นๆ ในการศึกษา ทดลอง แก้ปัญหาต่างๆ เพื่อนาผลงานที่ได้มาประยุกต์ใช้งานจริง
หรือเพื่อใช้ช่วยสร้างสื่อเสริมการเรียนการสอนให้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โครงงาน
คอมพิวเตอร์จึงเป็นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะการใช้
เครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเครื่องมือต่างๆในการแก้ปัญหา รวมทั้งการ
พัฒนาเจตคติในการสร้างผลงาน โครงงาȨอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ผู้เรียนสามารถ
ศึกษาปัญหาที่ตนสนใจ ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่ต้องใช้ความรู้ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มา
ผสมผสานกัน
ขอบข่ำยของโครงงำน
1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลัก
วิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง
ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว
2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลา
สั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่
3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติ
ด้วยตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม
4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการ
แปลผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตาม
จุดหมายที่กาหนดไว้
5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา
รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
ประเภทของโครงงำน
คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยในทุก ๆ สาขาวิชา ดังนั้นโครงงาน
คอมพิวเตอร์จึงมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก ทั้งในลักษณะของเนื้อหา กิจกรรม
และลักษณะของประโยชน์หรือผลงานที่ได้ ซึ่งอาจแบ่งเป็นประเภทใหญ่
ได้ 5 ประเภท คือ
1.โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media)
2.โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development)
3.โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี (Theory Experiment)
4.โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application)
โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ
(Educational Media)
ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรม
บทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน
และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม
การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การ
สอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ Online ให้
นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้
โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม
วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทาความ
เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน
โครงงำนพัฒนำเครื่องมือ
(Tools Development)
เพื่อพัฒนาเครื่องมือมาใช้ช่วยสร้างงานประยุกต์ต่าง ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะ
เป็นในรูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครื่องมือช่วยงาน เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป
ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ เป็นต้น สาหรับ
ซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลผลภาษา ซึ่งจะเป็น
เครื่องมือให้เราใช้งานในงานพิมพ์ต่าง ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นไปได้โดยง่าย
ซึ่งรูปที่ได้สามารถนาไปใช้งานต่าง ๆ ได้มากมาย สาหรับซอฟต์แวร์ช่วยในการ
มองวัตถุในมุมต่าง ๆ ใช้สาหรับช่วยในการออกแบบสิ่งของต่าง ๆ อาทิเช่น ผู้ใช้
วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้
ซอฟต์แวร์คานวณค่าและภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกัน
ที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก เช่น โปรแกรมประเภท 3D
โครงงำนประเภทกำรทดลองทฤษฎี
(Theory Experiment)
เป็นโครงงานใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการทดลองของสาขาต่าง ๆ
ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด
เป็นต้น เป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง
และแนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษา แล้วเสนอเป็น
แนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสมการ สูตร หรือ
คาอธิบายก็ได้ พร้อมทั้งนาเสนอวิธีการจาลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ การทา
โครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้เรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดี
โครงงำนประเภทกำรประยุกต์ใช้งำน (Application)
ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน
เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการ
ผสมสี ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานงานประเภทนี้จะมีการ
ประดิษฐ์ซึ่งอาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี
ประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้ โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการ
ของผู้ใช้ก่อนแล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้น ๆ
ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้ว
ปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับ
เครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องฮาร์ดแวร์
ซอฟต์แวร์
โครงงำนพัฒนำเกม (Game Development)
เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ และ/หรือ ความ
เพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก เกมหมากฮอส เกมการคานวณเลข ซึ่งเกมที่
พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่าง
มีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น
เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะ
ได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั่วไปและนามา
ปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่และน่าสนใจแก่ผู้เล่น
เกล่มต่าง ๆ
ที่มำ…
• http://tc.mengrai.ac.th/kruyuy/e-
learning/project/unit1/01_2.html
• http://ksitds55.blogspot.com/2012/11/blog-post.html
• http://www.chakkham.ac.th/krusuriya/index.php?option=com_
content&view=article&id=98&Itemid=115
Ad

Recommended

โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
noeiinoii
งาȨำเสนอ11
งาȨำเสนอ11
noeiinoii
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Tossaporn Sri
7ใบงาน 02 วณัฎฐ์ 605
7ใบงาน 02 วณัฎฐ์ 605
Bo N'Roll
ความรู้เรื่องโครงงาȨอมพิวเตอร์
ความรู้เรื่องโครงงาȨอมพิวเตอร์
jeabspk
ใบงานคอมพิวเตอร 2-8
ใบงานคอมพิวเตอร 2-8
Peeranut Poungsawud
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
flimgold
ใบงานคอมพิวเตอร์ 2 8
ใบงานคอมพิวเตอร์ 2 8
Peeranut Poungsawud
ความหมาย ความสําคัญของโครงงาน คอมพิวเตอร์
ความหมาย ความสําคัญของโครงงาน คอมพิวเตอร์
Royphim Namsongwong
ใบงานท 2 ความหมายและความสำค_ญของโครงงาȨอมพ_วเตอร_
ใบงานท 2 ความหมายและความสำค_ญของโครงงาȨอมพ_วเตอร_
Eakarat Sumpavaman
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Kamonrut Deeporum
ใบงานท 2-8 ซ_น
ใบงานท 2-8 ซ_น
NNarumon Obtom
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
Kawinna Mitda
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Cherry Patharawadee
ข้อสอบ O net 52 สุขศึกษา
ข้อสอบ O net 52 สุขศึกษา
Cherry Patharawadee

More Related Content

What's hot (14)

ใบงานคอมพิวเตอร์ 2 8
ใบงานคอมพิวเตอร์ 2 8
Peeranut Poungsawud
ความหมาย ความสําคัญของโครงงาน คอมพิวเตอร์
ความหมาย ความสําคัญของโครงงาน คอมพิวเตอร์
Royphim Namsongwong
ใบงานท 2 ความหมายและความสำค_ญของโครงงาȨอมพ_วเตอร_
ใบงานท 2 ความหมายและความสำค_ญของโครงงาȨอมพ_วเตอร_
Eakarat Sumpavaman
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Kamonrut Deeporum
ใบงานท 2-8 ซ_น
ใบงานท 2-8 ซ_น
NNarumon Obtom
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
Kawinna Mitda
ใบงานคอมพิวเตอร์ 2 8
ใบงานคอมพิวเตอร์ 2 8
Peeranut Poungsawud
ความหมาย ความสําคัญของโครงงาน คอมพิวเตอร์
ความหมาย ความสําคัญของโครงงาน คอมพิวเตอร์
Royphim Namsongwong
ใบงานท 2 ความหมายและความสำค_ญของโครงงาȨอมพ_วเตอร_
ใบงานท 2 ความหมายและความสำค_ญของโครงงาȨอมพ_วเตอร_
Eakarat Sumpavaman
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Kamonrut Deeporum
ใบงานท 2-8 ซ_น
ใบงานท 2-8 ซ_น
NNarumon Obtom
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
Kawinna Mitda

Viewers also liked (20)

โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Cherry Patharawadee
ข้อสอบ O net 52 สุขศึกษา
ข้อสอบ O net 52 สุขศึกษา
Cherry Patharawadee
PechaKuchaPresentation - FinalSaluteInc
PechaKuchaPresentation - FinalSaluteInc
kristenknea
O net 50 สุขศึกษา ม 6
O net 50 สุขศึกษา ม 6
Cherry Patharawadee
O net51-eng
O net51-eng
Cherry Patharawadee
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Cherry Patharawadee
Automated Verb Sense Labelling Based on Linked Lexical Resources. Presentatio...
Automated Verb Sense Labelling Based on Linked Lexical Resources. Presentatio...
Judith Eckle-Kohler
Lediscoursrapportindirect
Patricia Álvarez Sánchez
Ad

Similar to โครงงาȨอมพิวเตอร์ (20)

งานนำเสนอ1 253801
งานนำเสนอ1 253801
Pawarat Panyati
คอม
คอม
Bliss_09
ความหมายของโครงงาȨอม2 8
ความหมายของโครงงาȨอม2 8
aeiareeya19
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
changmin06
โครงงาȨอมพิวเตอร์2
โครงงาȨอมพิวเตอร์2
changmin06
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
changmin06
ใบงาȨี่2
ใบงาȨี่2
Intangible Mz
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
Thanaporn Klinfung
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
Prach Sommana
กิจกรรมที่2 ประเภทของโครงงาȨอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่2 ประเภทของโครงงาȨอมพิวเตอร์
jeabspk
ความรู้เรื่องโครงงาȨอมพิวเตอร์
ความรู้เรื่องโครงงาȨอมพิวเตอร์
Phakapong Budnate
ความหมายและความสำคัญของโครงงาȨอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงาȨอมพิวเตอร์
Mymi Santikunnukan
งาȨอมȨ
งาȨอมȨ
JorJames Satawat
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Kanjanaporn Thompat
งานนำเสนอ1 253801
งานนำเสนอ1 253801
Pawarat Panyati
ความหมายของโครงงาȨอม2 8
ความหมายของโครงงาȨอม2 8
aeiareeya19
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
changmin06
โครงงาȨอมพิวเตอร์2
โครงงาȨอมพิวเตอร์2
changmin06
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
changmin06
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
Thanaporn Klinfung
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
ใบงานที่ 2 เรื่อง ความหมายและความสำคัญของโครงงาน
Prach Sommana
กิจกรรมที่2 ประเภทของโครงงาȨอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่2 ประเภทของโครงงาȨอมพิวเตอร์
jeabspk
ความรู้เรื่องโครงงาȨอมพิวเตอร์
ความรู้เรื่องโครงงาȨอมพิวเตอร์
Phakapong Budnate
ความหมายและความสำคัญของโครงงาȨอมพิวเตอร์
ความหมายและความสำคัญของโครงงาȨอมพิวเตอร์
Mymi Santikunnukan
โครงงาȨอมพิวเตอร์
โครงงาȨอมพิวเตอร์
Kanjanaporn Thompat
Ad

More from Cherry Patharawadee (7)

Onet 52 เฉลยข้อสอบวิชา สุขศึกษาและพลศึกษาฯ รหัสวิชา 06
Onet 52 เฉลยข้อสอบวิชา สุขศึกษาและพลศึกษาฯ รหัสวิชา 06
Cherry Patharawadee
เฉลย Onet 51 สุขศึกษา
เฉลย Onet 51 สุขศึกษา
Cherry Patharawadee
เฉลย Onet 50 สุขศึกษา
เฉลย Onet 50 สุขศึกษา
Cherry Patharawadee
Onet 52 เฉลยข้อสอบวิชา สุขศึกษาและพลศึกษาฯ รหัสวิชา 06
Onet 52 เฉลยข้อสอบวิชา สุขศึกษาและพลศึกษาฯ รหัสวิชา 06
Cherry Patharawadee
เฉลย Onet 51 สุขศึกษา
เฉลย Onet 51 สุขศึกษา
Cherry Patharawadee
เฉลย Onet 50 สุขศึกษา
เฉลย Onet 50 สุขศึกษา
Cherry Patharawadee

โครงงาȨอมพิวเตอร์

  • 2. ควำมหมำยและควำมสำคัญของโครงงำนคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อความเจริญก้าวหน้าของสังคม ปัจจุบันเทคโนโลยีด้านนี้มีการ เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงเป็นเรื่องยากที่ ประชาชนจะคอยติดตามความก้าวหน้าอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการศึกษา เทคโนโลยี ของคอมพิวเตอร์ จึงต้องศึกษาหลักการและเนื้อหาพื้นฐานเป็น สาคัญ การศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งจาเป็นเสมือนกับ การศึกษาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ คอมพิวเตอร์ได้เปลี่ยนแปลง โลกของเราใน ด้านต่างๆ มากมาย ได้แก่
  • 3. 1. สังคมโดยส่วนใหญ่เปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมเป็นสังคมสารสนเทศ 2. การตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มักขึ้นอยู่กับข้อมูลซึ่งได้จากระบบคอมพิวเตอร์ 3. คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องมือที่สาคัญแทนเครื่องมืออื่นๆ ในอดีต เช่น เครื่องพิมพ์ดีด เครื่องคิดเลข เป็นต้น 4. คอมพิวเตอร์ถูกใช้ในการออกแบบสถานการณ์หรือปัญหาที่ซับซ้อนต่างๆ 5. คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ในงานติดต่อสื่อสารของโลกปัจจุบัน
  • 4. การศึกษาด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีขึ้น เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนมีความรู้ ความ เข้าใจในวิทยาการคอมพิวเตอร์ และมีความสามารถในการพัฒนาโปรแกรมได้ การจัดทา โครงงาȨอมพิวเตอร์จะเป็นสิ่งที่ทาให้ผู้เรียน สามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้อย่างสมบูรณ์ จุดมุ่งหมายที่สาคัญประการหนึ่งของการเรียน การสอน คอมพิวเตอร์ ในโรงเรียน คือ การที่ผู้เรียนได้มีโอกาสนาความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการแก้ปัญหา ประดิษฐ์ คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ด้วยตนเอง ซึ่งวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากวิธีหนึ่งคือ การทาโครงงาȨอมพิวเตอร์ โครงงาȨอมพิวเตอร์เป็นการใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ อื่นๆ ในการศึกษา ทดลอง แก้ปัญหาต่างๆ เพื่อนาผลงานที่ได้มาประยุกต์ใช้งานจริง หรือเพื่อใช้ช่วยสร้างสื่อเสริมการเรียนการสอนให้มี ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โครงงาน คอมพิวเตอร์จึงเป็นกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และฝึกทักษะการใช้ เครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ พร้อมทั้งเครื่องมือต่างๆในการแก้ปัญหา รวมทั้งการ พัฒนาเจตคติในการสร้างผลงาน โครงงาȨอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ผู้เรียนสามารถ ศึกษาปัญหาที่ตนสนใจ ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่ต้องใช้ความรู้ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มา ผสมผสานกัน
  • 5. ขอบข่ำยของโครงงำน 1. เป็นกิจกรรมการเรียนให้นักเรียนศึกษา ค้นคว้า ปฏิบัติดัวยตนเองโดยอาศัยหลัก วิชาการทางทฤษฎีตามเนื้อหาโครงงานนั้นๆ หรือจากประสบการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นมากแล้ว 2. นักเรียนทุกคนพิจารณาจัดทาโครงงานด้วยตนเอง หรือเป็นกลุ่มโดยใช้ระยะเวลา สั้นๆ เป็นภาคเรียน หรือมากว่าก็ได้ แล้วแต่โครงงานเล็กหรือใหญ่ 3. นักเรียนเป็นผู้พิจารณาริเริ่มสร้างสรรค์ คัดเลือกโครงงานที่จะศึกษาค้นคว้าปฏิบัติ ด้วยตนเองตามความถนัด สนใจ และความพร้อม 4. นักเรียนเป็นผู้เสนอโครงงาน รายละเอียดของโครงงาน แผนปฏิบัติงานและการ แปลผล รายงานผลต่ออาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อดาเนินงานร่วมกันให้บรรลุตาม จุดหมายที่กาหนดไว้ 5. เป็นโครงงานที่เหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของนักเรียนตามวัยและสติปัญญา รวมทั้งการใช้จ่ายเงินดาเนินงานด้วย
  • 6. ประเภทของโครงงำน คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยในทุก ๆ สาขาวิชา ดังนั้นโครงงาน คอมพิวเตอร์จึงมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก ทั้งในลักษณะของเนื้อหา กิจกรรม และลักษณะของประโยชน์หรือผลงานที่ได้ ซึ่งอาจแบ่งเป็นประเภทใหญ่ ได้ 5 ประเภท คือ 1.โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา (Educational Media) 2.โครงงานพัฒนาเครื่องมือ (Tools Development) 3.โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี (Theory Experiment) 4.โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน (Application)
  • 7. โครงงำนพัฒนำสื่อเพื่อกำรศึกษำ (Educational Media) ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่อการศึกษา โดยการสร้างโปรแกรม บทเรียน หรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และคาถามคาตอบไว้พร้อม ผู้เรียนสามารถเรียนแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่ม การสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยนี้ ถือว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์การ สอน ไม่ใช่เป็นครูผู้สอน ซึ่งอาจเป็นการพัฒนาบทเรียนแบบ Online ให้ นักเรียนเข้ามาศึกษาด้วยตนเองก็ได้ โครงงานประเภทนี้สามารถพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประกอบการสอนในวิชาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสาขาคอมพิวเตอร์ วิชาคณิตศาสตร์ วิชาวิทยาศาสตร์ วิชาสังคม วิชาชีพอื่น ๆ ฯลฯ โดยนักเรียนอาจคัดเลือกหัวข้อที่นักเรียนทั่วไปที่ทาความ เข้าใจยาก มาเป็นหัวข้อในการพัฒนาโปรแกรมบทเรียน
  • 8. โครงงำนพัฒนำเครื่องมือ (Tools Development) เพื่อพัฒนาเครื่องมือมาใช้ช่วยสร้างงานประยุกต์ต่าง ๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะ เป็นในรูปซอฟต์แวร์ ตัวอย่างของเครื่องมือช่วยงาน เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน ซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่าง ๆ เป็นต้น สาหรับ ซอฟต์แวร์เพื่อการพิมพ์งานนั้นสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมประมวลผลภาษา ซึ่งจะเป็น เครื่องมือให้เราใช้งานในงานพิมพ์ต่าง ๆ บนเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นไปได้โดยง่าย ซึ่งรูปที่ได้สามารถนาไปใช้งานต่าง ๆ ได้มากมาย สาหรับซอฟต์แวร์ช่วยในการ มองวัตถุในมุมต่าง ๆ ใช้สาหรับช่วยในการออกแบบสิ่งของต่าง ๆ อาทิเช่น ผู้ใช้ วาดแจกันด้านหน้า และต้องการจะดูว่าด้านบนและด้านข้างเป็นอย่างไร ก็ให้ ซอฟต์แวร์คานวณค่าและภาพที่ควรจะเป็นมาให้ เพื่อพิจารณาและแก้ไขภาพแจกัน ที่ออกแบบไว้ได้อย่างสะดวก เช่น โปรแกรมประเภท 3D
  • 9. โครงงำนประเภทกำรทดลองทฤษฎี (Theory Experiment) เป็นโครงงานใช้คอมพิวเตอร์ในการจาลองการทดลองของสาขาต่าง ๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น การจุดระเบิด เป็นต้น เป็นโครงงานที่ผู้ทาต้องศึกษารวบรวมความรู้ หลักการ ข้อเท็จจริง และแนวความคิดต่าง ๆ อย่างลึกซึ้งในเรื่องที่ต้องการศึกษา แล้วเสนอเป็น แนวคิด แบบจาลอง หลักการ ซึ่งอาจอยู่ในรูปของสมการ สูตร หรือ คาอธิบายก็ได้ พร้อมทั้งนาเสนอวิธีการจาลองทฤษฎีด้วยคอมพิวเตอร์ การทา โครงงานประเภทนี้มีจุดสาคัญอยู่ที่ผู้ทาต้องมีความรู้เรื่องนั้น ๆ เป็นอย่างดี
  • 10. โครงงำนประเภทกำรประยุกต์ใช้งำน (Application) ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจาวัน เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับการออกแบบและตกแต่งอาคาร ซอฟต์แวร์สาหรับการ ผสมสี ซอฟต์แวร์สาหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น โครงงานงานประเภทนี้จะมีการ ประดิษฐ์ซึ่งอาจจะสร้างใหม่หรือปรับปรุงดัดแปลงของเดิมที่มีอยู่แล้วให้มี ประสิทธิภาพสูงขึ้นก็ได้ โครงงานลักษณะนี้จะต้องศึกษาและวิเคราะห์ความต้องการ ของผู้ใช้ก่อนแล้วนาข้อมูลที่ได้มาใช้ในการออกแบบ และพัฒนาสิ่งของนั้น ๆ ต่อจากนั้นต้องมีการทดสอบการทางานหรือทดสอบคุณภาพของสิ่งประดิษฐ์แล้ว ปรับปรุงแก้ไขให้มีความสมบูรณ์ โครงงานประเภทนี้นักเรียนต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับ เครื่องคอมพิวเตอร์ ภาษาโปรแกรม และเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์
  • 11. โครงงำนพัฒนำเกม (Game Development) เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้ และ/หรือ ความ เพลิดเพลิน เช่น เกมหมากรุก เกมหมากฮอส เกมการคานวณเลข ซึ่งเกมที่ พัฒนาขึ้นนี้น่าจะเน้นให้เป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่าง มีหลักการ โครงงานประเภทนี้จะมีการออกแบบลักษณะและกฎเกณฑ์การเล่น เพื่อให้น่าสนใจแก่ผู้เล่น พร้อมทั้งให้ความรู้สอดแทรกไปด้วย ผู้พัฒนาควรจะ ได้ทาการสารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเกมต่าง ๆ ที่มีอยู่ทั่วไปและนามา ปรับปรุงหรือพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อให้เป็นเกมที่แปลกใหม่และน่าสนใจแก่ผู้เล่น เกล่มต่าง ๆ
  • 12. ที่มำ… • http://tc.mengrai.ac.th/kruyuy/e- learning/project/unit1/01_2.html • http://ksitds55.blogspot.com/2012/11/blog-post.html • http://www.chakkham.ac.th/krusuriya/index.php?option=com_ content&view=article&id=98&Itemid=115