ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล และ แบบ
จำา ลองข้อ มูล
Database Architecture and Data
Model
Introduction to
Database

อ.อัจฉรา สุมังเกษตร

Introduction to Database
สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล (Database
Architecture)
 “สถาปัต ยกรรม”

จะเป็นการศึกษาถึงโครงสร้าง
องค์ประกอบหลักของระบบ และหน้าที่ในแต่ละองค์
ประกอบ รวมทังการสื่อสารหรือการติดต่อกับส่วน
้
อื่น ๆ ทีเกี่ยวข้อง ในระบบฐาȨ้อมูล โปรแกรม
่
ประยุกต์ไม่ได้ขึ้นอยูกับโครงสร้างข้อมูลทีมการ
่
่ ี
เปลี่ยนแปลงเนื่องจากการจัดโครงสร้างของระบบ
ฐาȨ้อมูล สถาบันANSI-SPARC ( American
National Standards Institute : ANSI and
Standards Planning and Requirements
Committee : SPARC) มีการแบ่งระดับของข้อมูล
Introduction to Database
สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล (Database
Architecture)
 ระดับ ภายใน

( Internal Level)
เป็นระดับของการจัดเก็บฐาȨ้อมูลในหน่วยเก็บ
ข้อมูลสำารองจริง ๆ ว่ามีโครงสร้างข้อมูลจัดเก็บ
อย่างไร (how) ในฐาȨ้อมูล โดยโครงสร้างข้อมูล
ในแต่ละแบบจะมีผลต่อประสิทธิภาพของความเร็ว
ในการเข้าถึง (access) ด้วย

Introduction to Database
สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล (Database
Architecture)
 ระดับ แนวคิด

(Conceptual Level)
เป็นโครงสร้างหลักของระบบโดยรวม เป็นระดับ
ของการออกแบบฐาȨ้อมูล ว่าจะเก็บข้อมูลอะไร
(what) และมุงเน้นความสัมพันธ์ (relationship)
่
ระหว่างข้อมูล ผลลัพธ์ทได้จะทำาให้เกิดสิงทีเรียกว่า
ี่
่ ่
Schema (มุมมองระบบ) ในระดับนีจะเรียกว่า
้
Conceptual Schema อธิบายว่า ฐาȨ้อมูลที่
สร้างประกอบด้วยEntityอะไรบ้าง แต่ละEntity
ประกอบด้วยเขตข้อมูล(Attribute)ใดบ้าง และ
ความสัมพันธ์(Relationship)แต่ละEntityเป็น
Introduction to Database
อย่างไร
สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล (Database
Architecture)
: การกำาหนดความสัมพันธ์ระหว่าง
ตาราง แบ่งออกเป็น
1. ความสัม พัน ธ์แ บบหนึง ต่อ หนึง (one-to่
่
one relationship) : เป็นความสัมพันธ์
ระหว่างentityหนึ่งไปมีความสัมพันธ์กับ
อีกentityหนึ่งเพียงหนึ่งรายการเท่านั้น เช่น
1
พนักงาน(Staff) หนึ่งคนจะดูแลหนึงสาขา ในขณะ
่
1
Staff
Manages
Branch
ทีสาขาจะมีหัวหน้าพนักงานดูแลได้เพียงหนึงคน
่
่

 Relationship

รูปความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง

Introduction to Database
สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล (Database
Architecture)
2. ความสัม พัน ธ์แ บบหนึง ต่อ กลุ่ม (one-to่
many relationship) : เป็นความสัมพันธ์
ระหว่าง entity หนึ่งไปมีความสัมพันธ์กับอีก
entity หนึ่งมากกว่าหนึ่งรายการ เช่น สาขาหนึง
่
จะมีพนักงานอยู่หลายคน โดยที่พนักงานหลาย ๆ
คนจะสังกัดอยู่หนึ่งสาขา
Branch

1

Is Allocated

M

Staff

รูปความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่ม

Introduction to Database
สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล (Database
Architecture)
3. ความสัม พัน ธ์แ บบกลุ่ม ต่อ กลุ่ม (many-tomany relationship) : เป็นความสัมพันธ์แบบ
หลายรายการระหว่างentityทังสอง เช่น บ้านเช่า
้
หลาย ๆ หลังสามารถประกาศโฆษณาลงใน
หนังสือพิมพ์หลาย ๆ ฉบับได้ ในขณะที่
N
หนัNewspaper หลายฉบับก็สามารถลงโฆษณาบ้าน
งสือพิมพ์ M Is Allocated
Property_for
_Rent
เช่าได้หลายหลังเช่นกัน
รูปความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่ม
Introduction to Database
สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล (Database
Architecture)
 ระดับ ภายนอก

(External Level)
เป็นระดับการมองหรือวิว(View)ของข้อมูลภายใน
ฐาȨ้อมูลสำาหรับผู้ใช้งานแต่ละคน เป็นระดับทีมี
่
การนำาข้อมูลจากฐาȨ้อมูลไปใช้งาน โดยผู้ใช้
แต่ละคนสามารถเลือกอ่านข้อมูลเฉพาะที่ตนสนใจ
หรือต้องการใช้เท่านั้น วิวของข้อมูลจะถูกดึงมา
จาก Conceptual Schema และสิ่งทีใช้อธิบายวิว
่
ข้อมูลทีถูกดึงมาจากฐาȨ้อมูลทีอยู่ในระดับ
่
่
Conceptual นีจะเรียกว่า External Schema
้
Introduction to Database
หรือ Subschema(มุมมองผู้ใช้งาน) ซึงสามารถมี
่
สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล (Database
Architecture)
 ประโยชน์ข องสถาปัต ยกรรม

3 ระดับ
1. มุม มองข้อ มูล ของผู้ใ ช้ง าน (View of each
user)
สถาปัตยกรรมฐาȨ้อมูลในแต่ละระดับจะมี DBMS
ทำาหน้าทีแปล(Map) ระดับข้อมูลจากระดับหนึงไป
่
่
อีกระดับหนึง ซึ่ง DBMS จะต้องมีการตรวจสอบ
่
Schema เพื่อให้เกิดความถูกต้องตรงกัน
การMapหรือการแปลระดับข้อมูลจะทำาให้เกิด
ประโยชน์ด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. ระดับ ความคิด และระดับ ภายนอก : ทำาให้ผู้
ใช้งานฐาȨ้อมูลสามารถมีมมมองข้อมูลที่แตกต่าง
ุ
Introduction to Database
กัน
สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล (Database
Architecture)
2. ระดับ แนวคิด และระดับ ภายใน : ทำาให้ผู้ใช้
งานฐาȨ้อมูลไม่จำาเป็นต้องทราบว่าข้อมูลที่
ต้องการใช้นนถูกจัดเก็บอยูอย่างไรในดิสก์ จะเป็น
ั้
่
หน้าทีของ DBMS ทีจะดูว่าข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการนัน
่
่
้
ถูกจัดเก็บอยู่ ณ ตำาแหน่งใดในดิสก์ แล้วทำาการดึง
ข้อมูลนันจากดิสก์มาให้แก้ผู้ใช้
้
2. ความเป็น อิส ระของข้อ มูล (Data
Independence)
คือ ผู้ใช้ไม่จำาเป็นต้องแก้ไขโปรแกรมทุกครั้งเมื่อมี
การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหรือข้อมูลในระดับ
Introduction to Database
แนวคิดและระดับภายใน โดยจะปล่อยให้ DBMS
สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล (Database
Architecture)
1.ความอิส ระของข้อ มูล ทางลอจิค ัล (Logical
Data Independence) คือ การเปลี่ยนแปลง คือ
การเปลี่ยนแปลงในโครงร่างแนวคิด เช่น การเพิ่ม
การเปลี่ยนแปลง Attribute หรือ ความสัมพันธ์ใด
ๆ จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงร่างภายนอกทีผู้ใช้ใช้
่
งานอยู่
2.ความอิส ระของข้อ มูล ทางฟิส ิ
คอล(Physical Data Independence) คือ ผล
ของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างไฟล์นั้นจะไม่ส่ง
ผลกระทบใด ๆ ต่อ โครงร่างแนวคิดและระดับ
Introduction งลำาดับ
ภายใน เช่น เปลี่ยนโครงสร้างไฟล์แบบเรียto Database
สมาชิก ในกลุ่ม
 1.นาย

ทีปกร แสนดี ม.5/3 เลขที่ 3
 2.นาย วิชญ์พล กาญจนกำาเนิด ม.5/3 เลขที่ 11
 3.นาย ณัฐพร คำามะนาง ม.5/3 เลขที่ 15
 4.นาย นัฐพงษ์ คิ้ววงศ์งาม ม.5/3 เลขที่ 16
 5.นาย ภานรินทร์ จิตธรรม ม.5/3 เลขที่ 18
 6.นาย ปานเทพ บุญมนภัทร ม.5/3 เลขที่ 22

Introduction to Database
Ad

Recommended

สถาปัตยกรรมและการออกแบบฐาȨ้อมูล
สถาปัตยกรรมและการออกแบบฐาȨ้อมูล
N'Ice Thnaphop
mind map
mind map
Annette N'uity
สถาปัตยกรรมฐาȨ้อมูล
สถาปัตยกรรมฐาȨ้อมูล
skiats
สถาปัตยกรรมฐาȨ้อมูล
สถาปัตยกรรมฐาȨ้อมูล
นายแสงธรรม สระจันทร์
บทที่ 2 สถาปัตยกรรม
บทที่ 2 สถาปัตยกรรม
PrinceStorm Nueng
งาȨรูทรงศักึϸ์1
งาȨรูทรงศักึϸ์1
startnaza
05 ภาษาที่ใช้ในระบบการจัดการฐาȨ้อมูล
05 ภาษาที่ใช้ในระบบการจัดการฐาȨ้อมูล
Nattipong Siangyen
บทที่ 3
บทที่ 3
nunzaza
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 โครงสร้างข้อมูล
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 โครงสร้างข้อมูล
Wareerut Suwannalop
สถาปัตยกรรม และการออกแบบฐาȨ้อมูล
สถาปัตยกรรม และการออกแบบฐาȨ้อมูล
kunanya12
บทที่ 10
บทที่ 10
nunzaza
ฐาȨ้อมูลเชิงสัมพันธ์ 2
ฐาȨ้อมูลเชิงสัมพันธ์ 2
kanjana Pongkan
บทที่ 6
บทที่ 6
nunzaza
แบบรูป ลักษณะคุณสมบัติและข้อดีของฐาȨ้อมูลเชิงวัตถุ
แบบรูป ลักษณะคุณสมบัติและข้อดีของฐาȨ้อมูลเชิงวัตถุ
AmIndy Thirawut
การจัดการฐาȨ้อมูล๶ชิงสัมพัȨ์2
การจัดการฐาȨ้อมูล๶ชิงสัมพัȨ์2
sunisa3112
หน่วย1 ใบงาน 2-3
หน่วย1 ใบงาน 2-3
giggle036
หน่วยที่ 3 ระบบฐาȨ้อมูลเชิงสัมพันธ์
หน่วยที่ 3 ระบบฐาȨ้อมูลเชิงสัมพันธ์
Kochakorn Noiket
หน่วย1
หน่วย1
giggle036
ระบบฐาȨ้อมูลเบื้องต้น บทที่ 3.docx
ระบบฐาȨ้อมูลเบื้องต้น บทที่ 3.docx
BuraparThailand
องค์ประกอบของระบบสารสน๶ทศ
องค์ประกอบของระบบสารสน๶ทศ
Orapan Chamnan
บทที่7
บทที่7
nunzaza
MS Access 2010 - Query
MS Access 2010 - Query
A-Pimzy OnePiece
สถาปัตยกรรม และแบบฐาȨ้อมูล
สถาปัตยกรรม และแบบฐาȨ้อมูล
ด.ช. ทีม น่ะจ๊ะ
สถาปัตยกรรมฐาȨ้อมูลและแบบฐาȨ้อมูล
สถาปัตยกรรมฐาȨ้อมูลและแบบฐาȨ้อมูล
ด.ช. ทีม น่ะจ๊ะ
งาȨำเสนอ1คอม
งาȨำเสนอ1คอม
kanjana123

More Related Content

What's hot (19)

05 ภาษาที่ใช้ในระบบการจัดการฐาȨ้อมูล
05 ภาษาที่ใช้ในระบบการจัดการฐาȨ้อมูล
Nattipong Siangyen
บทที่ 3
บทที่ 3
nunzaza
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 โครงสร้างข้อมูล
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 โครงสร้างข้อมูล
Wareerut Suwannalop
สถาปัตยกรรม และการออกแบบฐาȨ้อมูล
สถาปัตยกรรม และการออกแบบฐาȨ้อมูล
kunanya12
บทที่ 10
บทที่ 10
nunzaza
ฐาȨ้อมูลเชิงสัมพันธ์ 2
ฐาȨ้อมูลเชิงสัมพันธ์ 2
kanjana Pongkan
บทที่ 6
บทที่ 6
nunzaza
แบบรูป ลักษณะคุณสมบัติและข้อดีของฐาȨ้อมูลเชิงวัตถุ
แบบรูป ลักษณะคุณสมบัติและข้อดีของฐาȨ้อมูลเชิงวัตถุ
AmIndy Thirawut
การจัดการฐาȨ้อมูล๶ชิงสัมพัȨ์2
การจัดการฐาȨ้อมูล๶ชิงสัมพัȨ์2
sunisa3112
หน่วย1 ใบงาน 2-3
หน่วย1 ใบงาน 2-3
giggle036
หน่วยที่ 3 ระบบฐาȨ้อมูลเชิงสัมพันธ์
หน่วยที่ 3 ระบบฐาȨ้อมูลเชิงสัมพันธ์
Kochakorn Noiket
หน่วย1
หน่วย1
giggle036
ระบบฐาȨ้อมูลเบื้องต้น บทที่ 3.docx
ระบบฐาȨ้อมูลเบื้องต้น บทที่ 3.docx
BuraparThailand
องค์ประกอบของระบบสารสน๶ทศ
องค์ประกอบของระบบสารสน๶ทศ
Orapan Chamnan
บทที่7
บทที่7
nunzaza
MS Access 2010 - Query
MS Access 2010 - Query
A-Pimzy OnePiece
05 ภาษาที่ใช้ในระบบการจัดการฐาȨ้อมูล
05 ภาษาที่ใช้ในระบบการจัดการฐาȨ้อมูล
Nattipong Siangyen
บทที่ 3
บทที่ 3
nunzaza
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 โครงสร้างข้อมูล
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 โครงสร้างข้อมูล
Wareerut Suwannalop
สถาปัตยกรรม และการออกแบบฐาȨ้อมูล
สถาปัตยกรรม และการออกแบบฐาȨ้อมูล
kunanya12
บทที่ 10
บทที่ 10
nunzaza
ฐาȨ้อมูลเชิงสัมพันธ์ 2
ฐาȨ้อมูลเชิงสัมพันธ์ 2
kanjana Pongkan
บทที่ 6
บทที่ 6
nunzaza
แบบรูป ลักษณะคุณสมบัติและข้อดีของฐาȨ้อมูลเชิงวัตถุ
แบบรูป ลักษณะคุณสมบัติและข้อดีของฐาȨ้อมูลเชิงวัตถุ
AmIndy Thirawut
การจัดการฐาȨ้อมูล๶ชิงสัมพัȨ์2
การจัดการฐาȨ้อมูล๶ชิงสัมพัȨ์2
sunisa3112
หน่วย1 ใบงาน 2-3
หน่วย1 ใบงาน 2-3
giggle036
หน่วยที่ 3 ระบบฐาȨ้อมูลเชิงสัมพันธ์
หน่วยที่ 3 ระบบฐาȨ้อมูลเชิงสัมพันธ์
Kochakorn Noiket
ระบบฐาȨ้อมูลเบื้องต้น บทที่ 3.docx
ระบบฐาȨ้อมูลเบื้องต้น บทที่ 3.docx
BuraparThailand
องค์ประกอบของระบบสารสน๶ทศ
องค์ประกอบของระบบสารสน๶ทศ
Orapan Chamnan
บทที่7
บทที่7
nunzaza

Similar to สถาปัตยกรรมและการออกแบบฐาȨ้อมูล (20)

สถาปัตยกรรม และแบบฐาȨ้อมูล
สถาปัตยกรรม และแบบฐาȨ้อมูล
ด.ช. ทีม น่ะจ๊ะ
สถาปัตยกรรมฐาȨ้อมูลและแบบฐาȨ้อมูล
สถาปัตยกรรมฐาȨ้อมูลและแบบฐาȨ้อมูล
ด.ช. ทีม น่ะจ๊ะ
งาȨำเสนอ1คอม
งาȨำเสนอ1คอม
kanjana123
สถาปัตยกรรมฐาȨ้อมูล
สถาปัตยกรรมฐาȨ้อมูล
ขาม้า ชนบท
งาȨำเสนอ1
งาȨำเสนอ1
Kittipong Joy
วิชาระบบจัดการฐาȨ้อมูลและการออกแบบ-ปวส.
วิชาระบบจัดการฐาȨ้อมูลและการออกแบบ-ปวส.
itboat2019
สรุปกลุ่มที่ 1,2,3,5,6
สรุปกลุ่มที่ 1,2,3,5,6
Khanut Anusatsanakul
บทที่1 ความรู้พื้นฐาน
บทที่1 ความรู้พื้นฐาน
tapabnum
การจัดการข้อมูลด้วยระบบการจัดการฐาȨ้อมูล
การจัดการข้อมูลด้วยระบบการจัดการฐาȨ้อมูล
chanoot29
Lesson 1
Lesson 1
Thanchanok Phongchareon
บทที่ 1
บทที่ 1
nunzaza
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐาȨ้อมูล
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐาȨ้อมูล
Isareeya Keatwuttikan
สถาปัตยกรรม และแบบฐาȨ้อมูล
สถาปัตยกรรม และแบบฐาȨ้อมูล
ด.ช. ทีม น่ะจ๊ะ
สถาปัตยกรรมฐาȨ้อมูลและแบบฐาȨ้อมูล
สถาปัตยกรรมฐาȨ้อมูลและแบบฐาȨ้อมูล
ด.ช. ทีม น่ะจ๊ะ
งาȨำเสนอ1คอม
งาȨำเสนอ1คอม
kanjana123
สถาปัตยกรรมฐาȨ้อมูล
สถาปัตยกรรมฐาȨ้อมูล
ขาม้า ชนบท
วิชาระบบจัดการฐาȨ้อมูลและการออกแบบ-ปวส.
วิชาระบบจัดการฐาȨ้อมูลและการออกแบบ-ปวส.
itboat2019
สรุปกลุ่มที่ 1,2,3,5,6
สรุปกลุ่มที่ 1,2,3,5,6
Khanut Anusatsanakul
บทที่1 ความรู้พื้นฐาน
บทที่1 ความรู้พื้นฐาน
tapabnum
การจัดการข้อมูลด้วยระบบการจัดการฐาȨ้อมูล
การจัดการข้อมูลด้วยระบบการจัดการฐาȨ้อมูล
chanoot29
บทที่ 1
บทที่ 1
nunzaza
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐาȨ้อมูล
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับฐาȨ้อมูล
Isareeya Keatwuttikan
Ad

สถาปัตยกรรมและการออกแบบฐาȨ้อมูล

  • 1. สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล และ แบบ จำา ลองข้อ มูล Database Architecture and Data Model Introduction to Database อ.อัจฉรา สุมังเกษตร Introduction to Database
  • 2. สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล (Database Architecture)  “สถาปัต ยกรรม” จะเป็นการศึกษาถึงโครงสร้าง องค์ประกอบหลักของระบบ และหน้าที่ในแต่ละองค์ ประกอบ รวมทังการสื่อสารหรือการติดต่อกับส่วน ้ อื่น ๆ ทีเกี่ยวข้อง ในระบบฐาȨ้อมูล โปรแกรม ่ ประยุกต์ไม่ได้ขึ้นอยูกับโครงสร้างข้อมูลทีมการ ่ ่ ี เปลี่ยนแปลงเนื่องจากการจัดโครงสร้างของระบบ ฐาȨ้อมูล สถาบันANSI-SPARC ( American National Standards Institute : ANSI and Standards Planning and Requirements Committee : SPARC) มีการแบ่งระดับของข้อมูล Introduction to Database
  • 3. สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล (Database Architecture)  ระดับ ภายใน ( Internal Level) เป็นระดับของการจัดเก็บฐาȨ้อมูลในหน่วยเก็บ ข้อมูลสำารองจริง ๆ ว่ามีโครงสร้างข้อมูลจัดเก็บ อย่างไร (how) ในฐาȨ้อมูล โดยโครงสร้างข้อมูล ในแต่ละแบบจะมีผลต่อประสิทธิภาพของความเร็ว ในการเข้าถึง (access) ด้วย Introduction to Database
  • 4. สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล (Database Architecture)  ระดับ แนวคิด (Conceptual Level) เป็นโครงสร้างหลักของระบบโดยรวม เป็นระดับ ของการออกแบบฐาȨ้อมูล ว่าจะเก็บข้อมูลอะไร (what) และมุงเน้นความสัมพันธ์ (relationship) ่ ระหว่างข้อมูล ผลลัพธ์ทได้จะทำาให้เกิดสิงทีเรียกว่า ี่ ่ ่ Schema (มุมมองระบบ) ในระดับนีจะเรียกว่า ้ Conceptual Schema อธิบายว่า ฐาȨ้อมูลที่ สร้างประกอบด้วยEntityอะไรบ้าง แต่ละEntity ประกอบด้วยเขตข้อมูล(Attribute)ใดบ้าง และ ความสัมพันธ์(Relationship)แต่ละEntityเป็น Introduction to Database อย่างไร
  • 5. สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล (Database Architecture) : การกำาหนดความสัมพันธ์ระหว่าง ตาราง แบ่งออกเป็น 1. ความสัม พัน ธ์แ บบหนึง ต่อ หนึง (one-to่ ่ one relationship) : เป็นความสัมพันธ์ ระหว่างentityหนึ่งไปมีความสัมพันธ์กับ อีกentityหนึ่งเพียงหนึ่งรายการเท่านั้น เช่น 1 พนักงาน(Staff) หนึ่งคนจะดูแลหนึงสาขา ในขณะ ่ 1 Staff Manages Branch ทีสาขาจะมีหัวหน้าพนักงานดูแลได้เพียงหนึงคน ่ ่  Relationship รูปความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง Introduction to Database
  • 6. สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล (Database Architecture) 2. ความสัม พัน ธ์แ บบหนึง ต่อ กลุ่ม (one-to่ many relationship) : เป็นความสัมพันธ์ ระหว่าง entity หนึ่งไปมีความสัมพันธ์กับอีก entity หนึ่งมากกว่าหนึ่งรายการ เช่น สาขาหนึง ่ จะมีพนักงานอยู่หลายคน โดยที่พนักงานหลาย ๆ คนจะสังกัดอยู่หนึ่งสาขา Branch 1 Is Allocated M Staff รูปความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่ม Introduction to Database
  • 7. สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล (Database Architecture) 3. ความสัม พัน ธ์แ บบกลุ่ม ต่อ กลุ่ม (many-tomany relationship) : เป็นความสัมพันธ์แบบ หลายรายการระหว่างentityทังสอง เช่น บ้านเช่า ้ หลาย ๆ หลังสามารถประกาศโฆษณาลงใน หนังสือพิมพ์หลาย ๆ ฉบับได้ ในขณะที่ N หนัNewspaper หลายฉบับก็สามารถลงโฆษณาบ้าน งสือพิมพ์ M Is Allocated Property_for _Rent เช่าได้หลายหลังเช่นกัน รูปความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่ม Introduction to Database
  • 8. สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล (Database Architecture)  ระดับ ภายนอก (External Level) เป็นระดับการมองหรือวิว(View)ของข้อมูลภายใน ฐาȨ้อมูลสำาหรับผู้ใช้งานแต่ละคน เป็นระดับทีมี ่ การนำาข้อมูลจากฐาȨ้อมูลไปใช้งาน โดยผู้ใช้ แต่ละคนสามารถเลือกอ่านข้อมูลเฉพาะที่ตนสนใจ หรือต้องการใช้เท่านั้น วิวของข้อมูลจะถูกดึงมา จาก Conceptual Schema และสิ่งทีใช้อธิบายวิว ่ ข้อมูลทีถูกดึงมาจากฐาȨ้อมูลทีอยู่ในระดับ ่ ่ Conceptual นีจะเรียกว่า External Schema ้ Introduction to Database หรือ Subschema(มุมมองผู้ใช้งาน) ซึงสามารถมี ่
  • 9. สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล (Database Architecture)  ประโยชน์ข องสถาปัต ยกรรม 3 ระดับ 1. มุม มองข้อ มูล ของผู้ใ ช้ง าน (View of each user) สถาปัตยกรรมฐาȨ้อมูลในแต่ละระดับจะมี DBMS ทำาหน้าทีแปล(Map) ระดับข้อมูลจากระดับหนึงไป ่ ่ อีกระดับหนึง ซึ่ง DBMS จะต้องมีการตรวจสอบ ่ Schema เพื่อให้เกิดความถูกต้องตรงกัน การMapหรือการแปลระดับข้อมูลจะทำาให้เกิด ประโยชน์ด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ 1. ระดับ ความคิด และระดับ ภายนอก : ทำาให้ผู้ ใช้งานฐาȨ้อมูลสามารถมีมมมองข้อมูลที่แตกต่าง ุ Introduction to Database กัน
  • 10. สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล (Database Architecture) 2. ระดับ แนวคิด และระดับ ภายใน : ทำาให้ผู้ใช้ งานฐาȨ้อมูลไม่จำาเป็นต้องทราบว่าข้อมูลที่ ต้องการใช้นนถูกจัดเก็บอยูอย่างไรในดิสก์ จะเป็น ั้ ่ หน้าทีของ DBMS ทีจะดูว่าข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการนัน ่ ่ ้ ถูกจัดเก็บอยู่ ณ ตำาแหน่งใดในดิสก์ แล้วทำาการดึง ข้อมูลนันจากดิสก์มาให้แก้ผู้ใช้ ้ 2. ความเป็น อิส ระของข้อ มูล (Data Independence) คือ ผู้ใช้ไม่จำาเป็นต้องแก้ไขโปรแกรมทุกครั้งเมื่อมี การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหรือข้อมูลในระดับ Introduction to Database แนวคิดและระดับภายใน โดยจะปล่อยให้ DBMS
  • 11. สถาปัต ยกรรมฐานข้อ มูล (Database Architecture) 1.ความอิส ระของข้อ มูล ทางลอจิค ัล (Logical Data Independence) คือ การเปลี่ยนแปลง คือ การเปลี่ยนแปลงในโครงร่างแนวคิด เช่น การเพิ่ม การเปลี่ยนแปลง Attribute หรือ ความสัมพันธ์ใด ๆ จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงร่างภายนอกทีผู้ใช้ใช้ ่ งานอยู่ 2.ความอิส ระของข้อ มูล ทางฟิส ิ คอล(Physical Data Independence) คือ ผล ของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างไฟล์นั้นจะไม่ส่ง ผลกระทบใด ๆ ต่อ โครงร่างแนวคิดและระดับ Introduction งลำาดับ ภายใน เช่น เปลี่ยนโครงสร้างไฟล์แบบเรียto Database
  • 12. สมาชิก ในกลุ่ม  1.นาย ทีปกร แสนดี ม.5/3 เลขที่ 3  2.นาย วิชญ์พล กาญจนกำาเนิด ม.5/3 เลขที่ 11  3.นาย ณัฐพร คำามะนาง ม.5/3 เลขที่ 15  4.นาย นัฐพงษ์ คิ้ววงศ์งาม ม.5/3 เลขที่ 16  5.นาย ภานรินทร์ จิตธรรม ม.5/3 เลขที่ 18  6.นาย ปานเทพ บุญมนภัทร ม.5/3 เลขที่ 22 Introduction to Database