ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
งานทำBlog บทที่ 1
ภาษาซี เ ป็ น ภาษาโปรแกรมระดั บ สู ง ที่ ใ ช้ ส าหรั บ เขี ย นโปรแกรม
ประยุกต์ต่าง ๆ เช่นเดียวกันกับภาษาปาสคาล ภาษาเบสิก และภาษาฟอร์แทรน
เป็ น ต้ น นอกจากนี้ ภ าษาซี ยั ง ใช้ ส าหรั บ เขี ย นโปรแกรมระบบ โปรแกรม
สาหรับควบคุมฮาร์ดแวร์บางส่วนที่ภาษาโปรแกรมระดับสูงหลายภาษาไม่
สามารถทาได้ ดังนั้น ภาษาซีจึงจัดเป็นภาษาโปรแกรมในระดับกลางด้วย
ก่อนที่โปรแกรมภาษาซีจะถูกรัน (run) จะต้องถูกแปลงให้อยู่ในรูป
ของออบเจกต์โค้ด (object code) โดยการคอมไพล์ (compile) โปรแกรม
ภาษาซีที่เขียนโดยใช้คาสั่งตามมาตรฐานของ ANSI C สามารถนาไปคอมไพล์
และรันที่เครื่องคอมพิวเตอร์ต่างระบบกันได้
ภาษา C เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่ได้พัฒนาขึ้นในปี ค.ศ. 1972 (พ.ศ.
2515) โดย เดนนิส ริสชี (Dennis Ritchie) แห่ง Bell Telephone Laboratories,
Inc. (ในปัจจุบันก็คือ AT&T Bell Laboratories) ซึ่งภาษา C มีการพัฒนามาจาก
ภาษา B ในช่วงแรก ๆ ของภาษา C ได้ถูกนามาใช้เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการ
Unix หากนาวิวฒนาการของภาษา C มาแสดงออกเป็นแผนภาพจะได้ดังนี้
ั
ALGOL
ALGOL-68

BCPL

ALGOL-W

B

C
C++

PASCAL
ในปี ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521) เดนนิส ริสชี และนายเบรน เครนิกฮาน
(Dennis Ritchie and Brian W. Kernighan) ได้แต่งหนังสือชื่อ “The C
Programming Language” โดยนาเสนอภาษา C ที่สามารถนามาปรับ
ใช้กับคอมพิวเตอร์ในรูปแบบต่าง ๆ ได้มากยิ่งขึ้น และทาให้ภาษา C
ได้รับความนิยมอย่างมาก จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ได้มี
การสร้างมาตรฐานของภาษา C ขึ้นมาในชื่อของ ANSI C ภายใต้
ความร่วมมือระหว่างสถาบัน ANSI (American National Standard
Institute) กับนายเดนนิส ริสชี และนายเบรน เครนิกฮาน อีกครั้ง
หนึ่ง
รูปซ้ายมือคือ Mr. Dennis Ritchie รูปตรงกลาง Mr. Brian W. Kernighan และรูปขวามือคือ หนังสือที่ท้งคู่ได้ร่วมกันแต่งขึ้น
ั

ในปี ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) องค์กรมาตรฐานสากล หรือ ISO
(International Standards Organization) ได้ยอมรับมาตรฐานที่ได้สร้างขึ้นมา
นี้ ภายใต้ชื่อ ANSI/ISO C
จุดเด่นของภาษา C
•เป็ น ภาษาคอมพิ ว เตอร์ ที่ มี แ นวคิ ด ในการพั ฒ นาแบบ “โปรแกรมเชิ ง
โครงสร้าง (Structure Programming)” ทาให้ภาษา C เป็นภาษาที่เหมาะสม
สาหรับนามาพัฒนาระบบ
•เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่เป็นภาษามาตรฐาน ซึ่งการทางานของภาษาไม่
ขึ้นกับฮาร์ดแวร์ ทาให้สามารถนาไปใช้ใน CPU รุ่นต่าง ๆ ได้
•สามารถทางานแทนภาษา Assembly ได้
•ความสามารถของคอมไพเลอร์ในภาษา C มีประสิทธิภาพสูง ทางานได้
รวดเร็ว โดยใช้รหัส ออบเจ๊กต์ (Object) ที่สั้น จึงทาให้เหมาะสาหรับงานที่
ต้องการความรวดเร็ว
โครงสร้างของภาษา C
ในโปรแกรมที่พัฒนาด้วยภาษา C ทุกโปรแกรมจะมีโครงสร้าง
การพัฒนาไม่แตกต่างกัน ซึ่งประกอบด้วย 6 ส่วนหลัก ๆ โดยที่แต่ละ
ส่วนมีหน้าที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. ส่วนของเฮดเดอร์ไฟล์ (Header File or Processing
Directive) ส่วนนี้จะขึ้นต้นด้วยเครื่องหมาย # เสมอ การทางาน
ของคอมไพเลอร์จะทางานในส่วนนี้เป็นส่วนแรก จะเป็นส่วนที่
เก็บไลบราลีมาตรฐานของภาษา C ซึ่งจะถูกดึงเข้ามารวมกับ
โปรแกรมในขณะแปลภาษาโปรแกรม (Compile) โดยใช้คาสั่ง
# Include ซึ่งสามารถเขียนได้ 2 รูปแบบ คือ
•รูปแบบที่ 1 #include<HeaderName>
•รูปแบบที่ 2 #include“HeaderName”
โครงสร้างของภาษา C
แบบที่ใช้เครื่องหมาย <…> คอมไพเลอร์จะค้นหาเฮดเดอร์
จากไลบราลี ข องภาษา C เพี ย งที่ เ ดี ย วเท่ า นั้ น ส่ ว นที่ ใ ช้
เครื่องหมาย “…” คอมไพเลอร์จะค้นหาเฮดเดอร์จากไลบราลีที่
เก็บ Source Code ของเราก่อน ถ้าหากไม่เจอก็จะไปค้นหาที่ไล
บราลีของภาษา C และเฮดเดอร์ไฟล์นี้จะมีนามสกุลเป็น .h
เท่านั้น
ในการเขียนโปรแกรมภาษา C เฮดเดอร์ไฟล์ที่เก็บไลบราลี
มาตรฐานในการจั ด การเกี่ ย วกั บ อิ น พุ ต และเอาต์ พุ ต ของ
โปรแกรมก็คือ stdio.h ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสาคัญที่ขาดไม่ได้
2. ส่วนของตัวแปร Global เป็นส่วนประกาศตัวแปรที่สามารถใช้
ร่วมกันได้ทั้งโปรแกรม ซึ่งส่วนนี้จะมีหรือไม่มีก็ได้
3.
ส่วนของฟังก์ชัน (Function) เป็นส่วนการทางานของ
โปรแกรม ในโครงสร้างภาษา C จะบังคับให้มีอย่างน้อย 1
ฟังก์ชัน คือ ฟังก์ชัน main() ซึ่งเป็นฟังก์ชันเริ่มการทางานของ
โปรแกรม โดยในขอบเขตของฟังก์ชันจะเริ่มต้นด้วยเครื่องหมาย
{ และสิ้นสุดด้วยเครื่องหมาย }
4. ส่วนของตัวแปร Local เป็นส่วนประกาศตัวแปรที่สามารถ
ใช้ ไ ด้ เ ฉพาะภายในฟั ง ก์ ชั น ของตนเองเท่ า นั้ น ซึ่ ง ส่ ว นนี้ จ ะมี
หรือไม่มีก็ได้
5. ส่วนของตัวโปรแกรม เป็นส่วนคาสั่งการทางานของ
โปรแกรม โดยที่แต่ละคาสั่งจะต้องจบด้วยเครืองหมาย ; เสมอ
่

6. ส่วนของตัวส่งค่ากลับ เป็นส่วนของการส่งค่ากลับเมื่อฟังก์ชัน
จบการทางาน โดยค่าที่ส่งกลับนั้นจะต้องเป็นค่าที่มีชนิดของ
ข้อมูลตรงกับชนิดของข้อมูลที่ฟังก์ชันคืนค่ากลับ (Return Type)
ในกรณีไม่ต้องการให้ฟังก์ชันมีการส่งค่ากลับ สามารถกาหนดได้
โดยใช้คีย์เวิร์ด void
แนะนา Microsoft Visual C++ 2010 Express Edition
เตรียมตัวก่อนติดตั้ง Microsoft Visual C++ 2010 Express
ก่อนที่จะติดตั้งเครื่องมือ Microsoft Visual C++ 2010 Express เรา
จะต้องสารวจความพร้อมของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของเครื่องเสียก่อน
ทั้ง นี้ทั้ งนั้ น เพื่ อป้ องกัน ปั ญหาที่ อ าจจะเกิ ด ขึ้น ระหว่ า งการติด ตั้ งโปรแกรม
คุณสมบัติพ้นฐานของเครื่องคอมพิวเตอร์
ื
ฮาร์ดแวร์

Space เริ่มต้น

ซีพียู (CPU)
หน่วยความจา (Memory)
ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk)
การ์ดจอ
ระบบปฏิบัติการ (O/S)

1.6 GHz หรือมากกว่า
1024 MB หรือมากกว่า
ควรมีเนื้อที่ฮาร์ดดิสก์ก่อนติดตั้งไม่ต่ากว่า 3 GB
SuperVGA 1024  768 หรือสูงกว่า
Microsoft Windows XP (x86) Service Pack 3 ขึ้นไป
การดาวน์โหลดและติดตั้ง Dev C++
สาหรับ Dev C++ เป็นโปรแกรมประเภท Editor สาหรับใช้ในการ
เขียนโปรแกรมภาษาซีพลัสพลัส (C++) มีวิธีการดาวน์โหลดและติดตั้ง
ง่าย ๆ ดังนี้
1. ดาวน์โหลดได้โดยคลิกที่ http://www.bloodshed.net/dev/devcpp.html
2. คลิกลิงค์ดังรูปด้านล่างเพื่อดาวน์โหลดโปรแกรม
3. ดั บ เบิ้ ล คลิ ก ไอคอนโปรแกรมที่ ด าวน์ โ หลดมาเพิ่ ม ติ ด ตั้ ง จากนั้ น
โปรแกรมจะแสดงหน้าต่างเพิ่มบอกว่าหากคุณได้ติดตั้งโปรแกรมนี้ไว้
แล้ว กรุณาอย่าติดตั้งอีก ซึ่งหากเรายังไม่เคยติดตั้งก็คลิกปุ่ม OK ได้เลย

4. เลือกภาษาแล้วกดปุ่ม OK
5. ข้อบังคับการของใช้โปรแกรม เมื่อศึกษาแล้วสามารถกดปุ่ม I agree
ได้เลย
6. กดปุ่ม Next ต่อไปไึϹ๶ลย
7. เลือก path สาหรับติดตั้งหรือสามารถเลือกตามที่โปรแกรมกาหนดไว้
ให้ก็ได้ แล้วกดปุ่ม Install เพิ่มติดตั้งโปรแกรม
8. ต้องการติดตั้งโปรแกรมนี้สาหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์คนอื่น (user
อื่น) ไม่ ถ้าใช่ให้กด Yes
8. ต้องการติดตั้งโปรแกรมนี้สาหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์คนอื่น (user
อื่น) ไม่ ถ้าใช่ให้กด Yes
9. ติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ กดปุ่ม Finish
10. โปรแกรมจะทาการกาหนดค่าเริ่มต้นครับ ให้กดปุ่ม Next
11. กดปุ่ม Next
12. รอโปรแกรมทาการติดตั้ง feature ต่างๆ
13. ติดตั้ง feature เสร็จเรียบร้อย กดปุ่ม OK
14. เข้าสู่หน้าต่างโปรแกรม

เสร็จเรียบร้อยแล้ว สาหรับการติดตั้งและการใช้งานโปรแกรม Dev-C
เบื้องต้น
ที่มา : คู่มืออบรมครูวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม การเขียนโปรแกรมเบื้องต้นด้วยภาษา C บริษทซัคเซสมีเดีย
คู่มือเรียนเขียนโปรแกรมภาษา สานักพิมพ์ IDC PREMIER

More Related Content

What's hot (14)

PPTX
งานนำเสนอ การเขียนคำสั่่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
NoTe Tumrong
PPT
1. ประวัติภาษาซี
mansuang1978
PPTX
การเขียนโปรแกรมภาษา
tyt13
PDF
โครงสร้างของโปรแกรมภาษา C
รัสนา สิงหปรีชา
PPTX
บทที่2การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
Baramee Chomphoo
PDF
โครงสร้างของโปรแกรมภาษา C
รัสนา สิงหปรีชา
PDF
3.1 โครงสร้างของภาษาซี
รัสนา สิงหปรีชา
PDF
3.1 โครงสร้างของภาษาซี
รัสนา สิงหปรีชา
PPTX
หน่วยที่ 2 โปรแกรมภาษา
Phanupong Chanayut
PDF
การเขียนโปรแกรม Dev c++
Naowarat Jaikaroon
PDF
ประวัติภาษาซี
Hathaichon Nonruongrit
PPT
โครงสร้างของโปรแกรมภาษา C
รัสนา สิงหปรีชา
PPTX
การสร างงานโปรแกรมด วยภาษาคอมพ_วเตอร_
Aoy-Phisit Modify-Computer
งานนำเสนอ การเขียนคำสั่่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
NoTe Tumrong
1. ประวัติภาษาซี
mansuang1978
การเขียนโปรแกรมภาษา
tyt13
โครงสร้างของโปรแกรมภาษา C
รัสนา สิงหปรีชา
บทที่2การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
Baramee Chomphoo
โครงสร้างของโปรแกรมภาษา C
รัสนา สิงหปรีชา
3.1 โครงสร้างของภาษาซี
รัสนา สิงหปรีชา
3.1 โครงสร้างของภาษาซี
รัสนา สิงหปรีชา
หน่วยที่ 2 โปรแกรมภาษา
Phanupong Chanayut
การเขียนโปรแกรม Dev c++
Naowarat Jaikaroon
ประวัติภาษาซี
Hathaichon Nonruongrit
โครงสร้างของโปรแกรมภาษา C
รัสนา สิงหปรีชา
การสร างงานโปรแกรมด วยภาษาคอมพ_วเตอร_
Aoy-Phisit Modify-Computer

Viewers also liked (8)

PDF
02การแก้ไྺปัญหาพฤติกรรมการแต่งกายผิดระ๶บียบของนักศึกษารายวิชาฝึกปฏิบัติจริง(ฝ...
Yeah Pitloke
PPT
Radio recuit อุ๋ย 270710
AnNy Achara
PPT
Present sornor
SorNor Lukkaew
PPT
๶ทคโนโลยีสารสȨทศสำหรับห้องสมุดมหาวิทยาลัยྺอนแก่น
Smartian De Warunyuho
PPT
การสอนแบบอิงประสบการณ์
narongsak promwang
PPTX
บทที่ 1ภาษาคอมพิวเตอร์และการโปรแกรม
Ung Titaya
PDF
สื่อการสอน Microsoft Power point 2010
Krongkaew kumpet
02การแก้ไྺปัญหาพฤติกรรมการแต่งกายผิดระ๶บียบของนักศึกษารายวิชาฝึกปฏิบัติจริง(ฝ...
Yeah Pitloke
Radio recuit อุ๋ย 270710
AnNy Achara
Present sornor
SorNor Lukkaew
๶ทคโนโลยีสารสȨทศสำหรับห้องสมุดมหาวิทยาลัยྺอนแก่น
Smartian De Warunyuho
การสอนแบบอิงประสบการณ์
narongsak promwang
บทที่ 1ภาษาคอมพิวเตอร์และการโปรแกรม
Ung Titaya
สื่อการสอน Microsoft Power point 2010
Krongkaew kumpet
Ad

Similar to งานทำBlog บทที่ 1 (20)

DOC
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
choco336
DOC
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
choco336
DOC
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
choco336
PDF
ภาษาซี
nutty_npk
PDF
lesson 2
Monberry NooNan
PDF
content 2
Monberry NooNan
PDF
ภาษาซี
native
PDF
การเขียนโปรแกรมภาษา CProgrammingV2 สำหรับนัพกเรียน
bessza011
PDF
58210401120 งาน 1 ss
Rittiporn Sakangsai
PDF
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
nsumato
PDF
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
KEk YourJust'one
PDF
โครงสร้างྺองโปรแกรมภาษาซี
ณัฐพล บัวพันธ์
PPTX
บทที่ 1
Wittaya Kaewchat
PDF
ภาษา C
nattawt
PDF
ภาษา (1)
nattawt
PDF
ภาษา C
nutty_npk
PDF
พัชราภรณ์ แสงขาว เลขที่ 18
noo Carzy
DOC
โครงสร้างของภาษา C
กรูไม่ดีพอ คนสันดานมายดี
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
choco336
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
choco336
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
choco336
ภาษาซี
nutty_npk
ภาษาซี
native
การเขียนโปรแกรมภาษา CProgrammingV2 สำหรับนัพกเรียน
bessza011
58210401120 งาน 1 ss
Rittiporn Sakangsai
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
nsumato
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
KEk YourJust'one
โครงสร้างྺองโปรแกรมภาษาซี
ณัฐพล บัวพันธ์
บทที่ 1
Wittaya Kaewchat
ภาษา C
nattawt
ภาษา (1)
nattawt
ภาษา C
nutty_npk
พัชราภรณ์ แสงขาว เลขที่ 18
noo Carzy
โครงสร้างของภาษา C
กรูไม่ดีพอ คนสันดานมายดี
Ad

More from รัสนา สิงหปรีชา (20)

PDF
บทที่ 6-การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ
รัสนา สิงหปรีชา
PDF
บทที่ 1 เทคโนโลยีสมัยใหม่เอาลงบล๊อก
รัสนา สิงหปรีชา
PDF
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
รัสนา สิงหปรีชา
PPT
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
รัสนา สิงหปรีชา
PDF
3.1 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
รัสนา สิงหปรีชา
PDF
บทที่ 2 ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้
รัสนา สิงหปรีชา
PDF
3.8 การทำงานแบบลำดับ
รัสนา สิงหปรีชา
PDF
3.8 การทำงานตามลำดับ
รัสนา สิงหปรีชา
PDF
3.3. ชนิดของข้อมูล
รัสนา สิงหปรีชา
PDF
3.3. ชนิดของข้อมูล
รัสนา สิงหปรีชา
PDF
3.3. ชนิดของข้อมูล
รัสนา สิงหปรีชา
PDF
3.2 ตัวแปรและคำสงวน
รัสนา สิงหปรีชา
PDF
คู่มือนักเรียน 3.1
รัสนา สิงหปรีชา
PDF
คู่มือครู
รัสนา สิงหปรีชา
PDF
3.1 โครงสร้างของภาษาซี
รัสนา สิงหปรีชา
PDF
3.8 การทำงานตามลำดับ
รัสนา สิงหปรีชา
PDF
3.7 การเขียนผังงาน
รัสนา สิงหปรีชา
PDF
3.6 ฟังก์ชัน
รัสนา สิงหปรีชา
PDF
3.5 การแสดงผลและการรับข้อมูล
รัสนา สิงหปรีชา
PDF
3.4 ตัวดำเนินการและนิพจน์
รัสนา สิงหปรีชา
บทที่ 6-การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีความรับผิดชอบ
รัสนา สิงหปรีชา
บทที่ 1 เทคโนโลยีสมัยใหม่เอาลงบล๊อก
รัสนา สิงหปรีชา
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
รัสนา สิงหปรีชา
3.1 การทำงานขั้นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์
รัสนา สิงหปรีชา
3.1 องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์
รัสนา สิงหปรีชา
บทที่ 2 ข้อมูล สารสนเทศ และความรู้
รัสนา สิงหปรีชา
3.8 การทำงานแบบลำดับ
รัสนา สิงหปรีชา
3.8 การทำงานตามลำดับ
รัสนา สิงหปรีชา
3.3. ชนิดของข้อมูล
รัสนา สิงหปรีชา
3.3. ชนิดของข้อมูล
รัสนา สิงหปรีชา
3.3. ชนิดของข้อมูล
รัสนา สิงหปรีชา
3.2 ตัวแปรและคำสงวน
รัสนา สิงหปรีชา
คู่มือนักเรียน 3.1
รัสนา สิงหปรีชา
3.1 โครงสร้างของภาษาซี
รัสนา สิงหปรีชา
3.8 การทำงานตามลำดับ
รัสนา สิงหปรีชา
3.7 การเขียนผังงาน
รัสนา สิงหปรีชา
3.5 การแสดงผลและการรับข้อมูล
รัสนา สิงหปรีชา
3.4 ตัวดำเนินการและนิพจน์
รัสนา สิงหปรีชา

งานทำBlog บทที่ 1

  • 2. ภาษาซี เ ป็ น ภาษาโปรแกรมระดั บ สู ง ที่ ใ ช้ ส าหรั บ เขี ย นโปรแกรม ประยุกต์ต่าง ๆ เช่นเดียวกันกับภาษาปาสคาล ภาษาเบสิก และภาษาฟอร์แทรน เป็ น ต้ น นอกจากนี้ ภ าษาซี ยั ง ใช้ ส าหรั บ เขี ย นโปรแกรมระบบ โปรแกรม สาหรับควบคุมฮาร์ดแวร์บางส่วนที่ภาษาโปรแกรมระดับสูงหลายภาษาไม่ สามารถทาได้ ดังนั้น ภาษาซีจึงจัดเป็นภาษาโปรแกรมในระดับกลางด้วย ก่อนที่โปรแกรมภาษาซีจะถูกรัน (run) จะต้องถูกแปลงให้อยู่ในรูป ของออบเจกต์โค้ด (object code) โดยการคอมไพล์ (compile) โปรแกรม ภาษาซีที่เขียนโดยใช้คาสั่งตามมาตรฐานของ ANSI C สามารถนาไปคอมไพล์ และรันที่เครื่องคอมพิวเตอร์ต่างระบบกันได้
  • 3. ภาษา C เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่ได้พัฒนาขึ้นในปี ค.ศ. 1972 (พ.ศ. 2515) โดย เดนนิส ริสชี (Dennis Ritchie) แห่ง Bell Telephone Laboratories, Inc. (ในปัจจุบันก็คือ AT&T Bell Laboratories) ซึ่งภาษา C มีการพัฒนามาจาก ภาษา B ในช่วงแรก ๆ ของภาษา C ได้ถูกนามาใช้เพื่อสร้างระบบปฏิบัติการ Unix หากนาวิวฒนาการของภาษา C มาแสดงออกเป็นแผนภาพจะได้ดังนี้ ั ALGOL ALGOL-68 BCPL ALGOL-W B C C++ PASCAL
  • 4. ในปี ค.ศ. 1978 (พ.ศ. 2521) เดนนิส ริสชี และนายเบรน เครนิกฮาน (Dennis Ritchie and Brian W. Kernighan) ได้แต่งหนังสือชื่อ “The C Programming Language” โดยนาเสนอภาษา C ที่สามารถนามาปรับ ใช้กับคอมพิวเตอร์ในรูปแบบต่าง ๆ ได้มากยิ่งขึ้น และทาให้ภาษา C ได้รับความนิยมอย่างมาก จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1988 (พ.ศ. 2531) ได้มี การสร้างมาตรฐานของภาษา C ขึ้นมาในชื่อของ ANSI C ภายใต้ ความร่วมมือระหว่างสถาบัน ANSI (American National Standard Institute) กับนายเดนนิส ริสชี และนายเบรน เครนิกฮาน อีกครั้ง หนึ่ง
  • 5. รูปซ้ายมือคือ Mr. Dennis Ritchie รูปตรงกลาง Mr. Brian W. Kernighan และรูปขวามือคือ หนังสือที่ท้งคู่ได้ร่วมกันแต่งขึ้น ั ในปี ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) องค์กรมาตรฐานสากล หรือ ISO (International Standards Organization) ได้ยอมรับมาตรฐานที่ได้สร้างขึ้นมา นี้ ภายใต้ชื่อ ANSI/ISO C
  • 6. จุดเด่นของภาษา C •เป็ น ภาษาคอมพิ ว เตอร์ ที่ มี แ นวคิ ด ในการพั ฒ นาแบบ “โปรแกรมเชิ ง โครงสร้าง (Structure Programming)” ทาให้ภาษา C เป็นภาษาที่เหมาะสม สาหรับนามาพัฒนาระบบ •เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่เป็นภาษามาตรฐาน ซึ่งการทางานของภาษาไม่ ขึ้นกับฮาร์ดแวร์ ทาให้สามารถนาไปใช้ใน CPU รุ่นต่าง ๆ ได้ •สามารถทางานแทนภาษา Assembly ได้ •ความสามารถของคอมไพเลอร์ในภาษา C มีประสิทธิภาพสูง ทางานได้ รวดเร็ว โดยใช้รหัส ออบเจ๊กต์ (Object) ที่สั้น จึงทาให้เหมาะสาหรับงานที่ ต้องการความรวดเร็ว
  • 7. โครงสร้างของภาษา C ในโปรแกรมที่พัฒนาด้วยภาษา C ทุกโปรแกรมจะมีโครงสร้าง การพัฒนาไม่แตกต่างกัน ซึ่งประกอบด้วย 6 ส่วนหลัก ๆ โดยที่แต่ละ ส่วนมีหน้าที่แตกต่างกัน ดังนี้ 1. ส่วนของเฮดเดอร์ไฟล์ (Header File or Processing Directive) ส่วนนี้จะขึ้นต้นด้วยเครื่องหมาย # เสมอ การทางาน ของคอมไพเลอร์จะทางานในส่วนนี้เป็นส่วนแรก จะเป็นส่วนที่ เก็บไลบราลีมาตรฐานของภาษา C ซึ่งจะถูกดึงเข้ามารวมกับ โปรแกรมในขณะแปลภาษาโปรแกรม (Compile) โดยใช้คาสั่ง # Include ซึ่งสามารถเขียนได้ 2 รูปแบบ คือ •รูปแบบที่ 1 #include<HeaderName> •รูปแบบที่ 2 #include“HeaderName”
  • 8. โครงสร้างของภาษา C แบบที่ใช้เครื่องหมาย <…> คอมไพเลอร์จะค้นหาเฮดเดอร์ จากไลบราลี ข องภาษา C เพี ย งที่ เ ดี ย วเท่ า นั้ น ส่ ว นที่ ใ ช้ เครื่องหมาย “…” คอมไพเลอร์จะค้นหาเฮดเดอร์จากไลบราลีที่ เก็บ Source Code ของเราก่อน ถ้าหากไม่เจอก็จะไปค้นหาที่ไล บราลีของภาษา C และเฮดเดอร์ไฟล์นี้จะมีนามสกุลเป็น .h เท่านั้น ในการเขียนโปรแกรมภาษา C เฮดเดอร์ไฟล์ที่เก็บไลบราลี มาตรฐานในการจั ด การเกี่ ย วกั บ อิ น พุ ต และเอาต์ พุ ต ของ โปรแกรมก็คือ stdio.h ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสาคัญที่ขาดไม่ได้
  • 9. 2. ส่วนของตัวแปร Global เป็นส่วนประกาศตัวแปรที่สามารถใช้ ร่วมกันได้ทั้งโปรแกรม ซึ่งส่วนนี้จะมีหรือไม่มีก็ได้ 3. ส่วนของฟังก์ชัน (Function) เป็นส่วนการทางานของ โปรแกรม ในโครงสร้างภาษา C จะบังคับให้มีอย่างน้อย 1 ฟังก์ชัน คือ ฟังก์ชัน main() ซึ่งเป็นฟังก์ชันเริ่มการทางานของ โปรแกรม โดยในขอบเขตของฟังก์ชันจะเริ่มต้นด้วยเครื่องหมาย { และสิ้นสุดด้วยเครื่องหมาย }
  • 10. 4. ส่วนของตัวแปร Local เป็นส่วนประกาศตัวแปรที่สามารถ ใช้ ไ ด้ เ ฉพาะภายในฟั ง ก์ ชั น ของตนเองเท่ า นั้ น ซึ่ ง ส่ ว นนี้ จ ะมี หรือไม่มีก็ได้ 5. ส่วนของตัวโปรแกรม เป็นส่วนคาสั่งการทางานของ โปรแกรม โดยที่แต่ละคาสั่งจะต้องจบด้วยเครืองหมาย ; เสมอ ่ 6. ส่วนของตัวส่งค่ากลับ เป็นส่วนของการส่งค่ากลับเมื่อฟังก์ชัน จบการทางาน โดยค่าที่ส่งกลับนั้นจะต้องเป็นค่าที่มีชนิดของ ข้อมูลตรงกับชนิดของข้อมูลที่ฟังก์ชันคืนค่ากลับ (Return Type) ในกรณีไม่ต้องการให้ฟังก์ชันมีการส่งค่ากลับ สามารถกาหนดได้ โดยใช้คีย์เวิร์ด void
  • 11. แนะนา Microsoft Visual C++ 2010 Express Edition เตรียมตัวก่อนติดตั้ง Microsoft Visual C++ 2010 Express ก่อนที่จะติดตั้งเครื่องมือ Microsoft Visual C++ 2010 Express เรา จะต้องสารวจความพร้อมของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของเครื่องเสียก่อน ทั้ง นี้ทั้ งนั้ น เพื่ อป้ องกัน ปั ญหาที่ อ าจจะเกิ ด ขึ้น ระหว่ า งการติด ตั้ งโปรแกรม คุณสมบัติพ้นฐานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ื ฮาร์ดแวร์ Space เริ่มต้น ซีพียู (CPU) หน่วยความจา (Memory) ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk) การ์ดจอ ระบบปฏิบัติการ (O/S) 1.6 GHz หรือมากกว่า 1024 MB หรือมากกว่า ควรมีเนื้อที่ฮาร์ดดิสก์ก่อนติดตั้งไม่ต่ากว่า 3 GB SuperVGA 1024  768 หรือสูงกว่า Microsoft Windows XP (x86) Service Pack 3 ขึ้นไป
  • 12. การดาวน์โหลดและติดตั้ง Dev C++ สาหรับ Dev C++ เป็นโปรแกรมประเภท Editor สาหรับใช้ในการ เขียนโปรแกรมภาษาซีพลัสพลัส (C++) มีวิธีการดาวน์โหลดและติดตั้ง ง่าย ๆ ดังนี้ 1. ดาวน์โหลดได้โดยคลิกที่ http://www.bloodshed.net/dev/devcpp.html 2. คลิกลิงค์ดังรูปด้านล่างเพื่อดาวน์โหลดโปรแกรม
  • 13. 3. ดั บ เบิ้ ล คลิ ก ไอคอนโปรแกรมที่ ด าวน์ โ หลดมาเพิ่ ม ติ ด ตั้ ง จากนั้ น โปรแกรมจะแสดงหน้าต่างเพิ่มบอกว่าหากคุณได้ติดตั้งโปรแกรมนี้ไว้ แล้ว กรุณาอย่าติดตั้งอีก ซึ่งหากเรายังไม่เคยติดตั้งก็คลิกปุ่ม OK ได้เลย 4. เลือกภาษาแล้วกดปุ่ม OK
  • 15. 6. กดปุ่ม Next ต่อไปไึϹ๶ลย
  • 16. 7. เลือก path สาหรับติดตั้งหรือสามารถเลือกตามที่โปรแกรมกาหนดไว้ ให้ก็ได้ แล้วกดปุ่ม Install เพิ่มติดตั้งโปรแกรม
  • 23. 13. ติดตั้ง feature เสร็จเรียบร้อย กดปุ่ม OK
  • 25. ที่มา : คู่มืออบรมครูวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หนังสือเรียนรายวิชาเพิ่มเติม การเขียนโปรแกรมเบื้องต้นด้วยภาษา C บริษทซัคเซสมีเดีย คู่มือเรียนเขียนโปรแกรมภาษา สานักพิมพ์ IDC PREMIER