ݺߣ
Submit Search
ตำลึง เด็กหญิงวรรณิดา ศรีประเสริฐ
Sep 20, 2014
Download as PPTX, PDF
2 likes
665 views
ว
วรรณิดา ศรีประเสริฐ
ตำลึง คุณประโยชน์ที่คุณควรรู้ !!
Read less
Read more
1 of 10
Download now
Download to read offline
Recommended
การสืบสวนตามแนวพุทธCriminal process 0000
การสืบสวนตามแนวพุทธCriminal process 0000
Yota Bhikkhu
Quize 01
Quize 01
Adisorn Tanprasert
งานนำเสนอ1 5555
งานนำเสนอ1 5555
วรรณิดา ศรีประเสริฐ
ตำลึง คุณประโยชน์ที่คุณควรรู้ !!
25510901 Ivy Gourd
25510901 Ivy Gourd
narongptt
ส่วนประกอบของดอกไม้
ส่วนประกอบของดอกไม้
sawaddee
ส่วนประกอบของดอกไม้
โครงงาȨอเอส1
โครงงาȨอเอส1
Ocean'Funny Haha
ปลา ศิรินาฏ ทรัพย์สิน
ปลา ศิรินาฏ ทรัพย์สิน
Sorasak Tongon
ปลา ศิรินาฏ ทรัพย์สิน
ปลา ศิรินาฏ ทรัพย์สิน
Sorasak Tongon
Pomacea
Pomacea
Watchaphon Suwannasri
work
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
Tongsamut vorasan
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
Wataustin Austin
บาลี 13 80
บาลี 13 80
Rose Banioki
การวิเคราะห์ตัวชี้วัด Science ม.2
การวิเคราะห์ตัวชี้วัด Science ม.2
korakate
Unit1
Unit1
kulwadee
อ.กุลวดี คตชนะเลขา มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ
Herbarium
Herbarium
sartthapornanop
power point ของนักเรียนห้อง 825 กลุ่มที่ 5
Science2 110904044724-phpapp01
Science2 110904044724-phpapp01
korakate
บทที่ 5 สรุปผล
บทที่ 5 สรุปผล
Guntima NaLove
More Related Content
Similar to ตำลึง เด็กหญิงวรรณิดา ศรีประเสริฐ
(9)
Pomacea
Pomacea
Watchaphon Suwannasri
work
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
Tongsamut vorasan
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
Wataustin Austin
บาลี 13 80
บาลี 13 80
Rose Banioki
การวิเคราะห์ตัวชี้วัด Science ม.2
การวิเคราะห์ตัวชี้วัด Science ม.2
korakate
Unit1
Unit1
kulwadee
อ.กุลวดี คตชนะเลขา มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ
Herbarium
Herbarium
sartthapornanop
power point ของนักเรียนห้อง 825 กลุ่มที่ 5
Science2 110904044724-phpapp01
Science2 110904044724-phpapp01
korakate
บทที่ 5 สรุปผล
บทที่ 5 สรุปผล
Guntima NaLove
Pomacea
Pomacea
Watchaphon Suwannasri
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
Tongsamut vorasan
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
1 13+อธิบายวากยสัมพันธ์+เล่ม+2
Wataustin Austin
บาลี 13 80
บาลี 13 80
Rose Banioki
การวิเคราะห์ตัวชี้วัด Science ม.2
การวิเคราะห์ตัวชี้วัด Science ม.2
korakate
Unit1
Unit1
kulwadee
Herbarium
Herbarium
sartthapornanop
Science2 110904044724-phpapp01
Science2 110904044724-phpapp01
korakate
บทที่ 5 สรุปผล
บทที่ 5 สรุปผล
Guntima NaLove
ตำลึง เด็กหญิงวรรณิดา ศรีประเสริฐ
2.
สาระย่อ รายงานเรื่อง ตา
ลึง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา ลักษณะทาง พฤกษศาสตร์ของต้นตา ลึง และเพื่อวเิคราะห์สรรพคุณทางยาของตา ลึง ขั้นตอนการศึกษาค้นคว้าดา เนินการโดย กา หนดหัวเรื่องที่ต้องการจะ ศึกษา แล้วนา มาค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งเรียนรู้ต่างๆ แล้วนา มาทา เป็นโปรแกรมนาเสนองาน นาเสนอเป็นความเรียง ผลการศึกษาพบว่า ใบตา ลึงมีสารเคมีที่ตรวจพบคือ กรด อะมิโน หลายชนิด Bsitosterol มีรายงานว่ามีฤทธ์ิลดน้า ตาลในเลือดได้ในเวลาอัน สั้น โดยทดลองใช้หนูตะเภา ไม่มีรายงานการศึกษาฤทธ์ิแก้แพ้
3.
ความหมายของตา ลงึ ในหนังสืออักขราภิธานศรับท์ของหมอบรัดเลย์
อธิบาย ความหมายของคา ว่า ตา ลึง ไว้ว่าเป็นชื่อผักอย่างหนึ่ง เป็นเถาลูกมันสีแดง ยอดอ่อนๆ ต้มกินก็ได้ แกงเลียงก็ดี อนึ่งเป็นชื่อเดิมสีบาท
4.
ลกัษณะทางพฤกษศาสตร์ของตา ลงึ ตา
ลึงเป็นไม้เถามีอายุอยู่ได้หลายปี เมื่ออายุมากเถาจะใหญ่ และแข็งแรงมากขึ้น เถามีสีเขียวใบไม้ ตามข้อจะมีมือเกาะ ใบออก สลับกันเป็นรูปสามเหลี่ยม ดอกสีขาวข้างในมีสีเหลืองอ่อน มีผลคล้ายกับ ผลแตงกวาแต่มีขนาดเล็กกว่ามาก ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่ทั่วไปตามธรรมชาติ โดยเฉพาะในชนบทหรือคามที่รก ป่าละเมาะ ริมทาง
5.
การปลูกตา ลงึ ปลูกโดยใช้เมล็ดก็ได้
เก็บเมล็ดพันธุ์จากผลตา ลึงแก่สุกแดงมา ตากแห้ง (แกะเอาเพียงเมล็ด) เก็บเอาไว้ ทา พันธุ์ได้ดี หรือจะเพาะเลยก็ได้ ไม่ต้องตากแห้งยอดเมล็ดในที่เตรียมเอาไว้แล้ว เป็นพืชขึ้นได้ง่าย ทนแล้ง ได้ดี
6.
สรรพคุณ ใบ :
ใช้ในการแก้ไข้ตัวร้อน ตาแดง ตาเจ็บ ช่วยบา รุงเลือด ช่วย บา รุงน้า นมแม่ช่วยป้องกันและรักษาโรคหลอดเลือดแข็ง ตีบตัน และ แตกได้ เถา :นา น้า ต้มจากเถาตา ลึงมาหยอดตาแก้ตาแดง ตาฟาง ดอก :ตา ลึงช่วยทา ให้หายจากอาการคันได้ ราก :ใช้แก้อาการอาเจียน ตาฝ้า ช่วยลดไข้ น้ายางจากต้นและใบ :ช่วยลดน้า ตาลในเลือด
7.
คุณค่าทางอาหาร ยอดของตา ลึงใช้ปรุงอาหาร
ตา ลึง 100 กรัม ประกอบไปด้วย แคลเซียม 126 มิลลกิรมั โปรตีน 3.3 กรมั วิตามินบี1 0.17 มิลลกิรมั ฟอสฟอรสั 30 มิลลกิรมั ธาตุเหลก็ 4.6 มิลลกิรมั วิตามินซี 13 มิลลกิรมั ไนอาซีน1.2 มิลลกิรมั ใยอาหาร 2.2 กรมั บต้าแคโรทีนสูงถึง 699.88
8.
ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ใบตา ลึงมีสารเคมีที่ตรวจพบคือ
กรด อะมิโน หลายชนิด Bsitosterol มีรายงานว่ามีฤทธ์ิลดน้า ตาลในเลือดได้ในเวลาอันสั้น โดยทดลองใช้หนู ตะเภา ไม่มีรายงานการศึกษาฤทธ์ิแก้แพ้
9.
สรุป ตา ลึง
ไว้ว่าเป็นชื่อผักอย่างหนึ่ง เป็นเถาลูกมันสีแดง ยอด อ่อนๆ ต้มกินก็ได้ แกงเลียงก็ดี อนึ่งเป็นชื่อเดิมสีบาท ตา ลึงเป็นไม้เถามี อายุอยู่ได้หลายปี เมื่ออายุมากเถาจะใหญ่และแข็งแรงมากขึ้น ชาวชนบททั่วไปใช้ตา ลึงรักษาอาการโรคต่างๆกันเป็น ประจา เช่น เมื่อถูกขนของพืชหรือสัตว์(เช่น บุ้ง) เกิดอาการคันหรือผนื่ แดงขึ้น ก็ใช้ใบตา ลึงขยี้เอาน้า มาทาให้ทั่วบริเวณที่มีอาการ ก็จะทุเลาหรือ หายไปในไม่ช้า เป็นต้น
10.
ข้อเสนอแนะ ควรมีการนาข้อมูลที่เราศึกษานั้นมาทา เป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปโดยผลิตภัณฑ์ที่ได้จา
การศึกษานั้นคือ การทา ซอสลูกตา ลึง โดยมีวิธีทา ที่แสนง่าย และเป็นการพัฒนาสิ่งที่ทุก คนมองข้ามอย่างตา ลึงซึ่งพืชผักท้องถิ่นที่เป็นผักสวนครัวของคนไทย โดยมีขั้นตอนการทา ดังนี้ 1. นา น้า ใส่หม้อยกขึ้นตั้งไฟ ใส่กระเทียม ลูกตา ลึงสุก พริกชี้ฟ้า ต้มจนเปื่อย 2. นาส่วนผสมในข้อที่ 1 มายีบนตะแกรง หรือปั่นให้ละเอียด (เอาเมล็ดออก) 3. นา น้า ส้มสายชู น้า ตาลทราย เกลือ ใส่หม้อตั้งไฟให้ละลายเข้ากัน 4. นา ส่วนผสมที่ปั่นละเอียดแล้ว ใส่ลงหม้อ ตั้งไฟเคี่ยวจนข้น (ไฟแรงปานกลาง เคียว ประมาณ 20 นาที) สังเกตสีจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม จากนั่นชิมรสชาติตามที่ชอบ 5. นา ซอสลูกตา ลึงกรอกใส่ขวด ที่ล้างสะอาด แล้วปิดฝาให้สนิท นา ไปนึ่งฆ่าเชื้อโรค ประมาณ 30 นาที เก็บไว้รับประทาน