ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
การเขียนคำาสั่งควบคุมขั้นพื้น
ฐาน
           นาย พิธิวัต ศรี
     มานพ ม.6/1    
เลขที่ 11
        นาย นขรินทร์ อัตถ
 จรรยากุล ม.6/1     เลขที่
15
         นาย พรปฐม
       รวมสุข ม.6/1   
เลขที่ 17
       นางสาว มานิดา ครุฑ
      นาค ม.6/1    
เลขที่ 26
  นางสาว กนกกาญจน์ กองจันทร์
     ม.6/1     เลขที่ 29
• 1.ลักษณะการทำางานของภาษาซี
• ลักษณะการทำางานของภาษาซี
• ภาษาซีเป็นภาษาที่มีการพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง
ภาษาซีรุ่นแรกทำางานภายใต้ระบบปฏิบัติการคอส
(cos) ปัจจุบันทำางานภายใต้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์
(Windows) ภาษาซีใช้วิธีแปลรหัสคำาสั่งให้เป็นเลข
 ฐานสองเรียกว่า คอมไพเลอร์ การศึกษาภูมิหลังการ
เป็นมาของภาษาซีและกระบวนการแปลภาษาจะช่วย
ให้ผู้ใช้ภาษาซีในรุ่นและบริษัทผู้ผลิตแตกต่างกัน
สามารถใช้ภาษาได้อย่างเข้าใจมากขึ้น
• 1.1.ความเป็นมาของภาษาซี
• ภาษาซีได้รับการพัฒนาเมื่อปี ค.ศ.1972 โดยนายเดน
 นิส ริตซี่ ตั้งชื่อว่าซีเพราะพัฒนามาจากภาษา BCLP
และภาษา B ในช่วงแรกใช้ทดลองเขียนคำาสั่งควบคุมใน
ห้องปฏิบัติการเบล (Bell Laboratoorics) เท่านั้น เมื่อปี
ค.ศ.1978  นายไบรอัน เคอร์นิกฮัน และ นายเดนนิส
ริตซี่ ร่วมกันกำาหนดนิยามรายละเอียดของภาษาซี เผย
แพร่ความรู้โดยจัดทำาหนังสือ The C Programming
Language มีหลายบริษัท ให้ความสนใจนำาไปพัฒนาต่อ
จนมีภาษาซีหลายรูปแบบและแพร่หลายไปทั่วโลก แต่ยัง
ไม่มีมาตรฐานคำาสั่งเพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ ดัง
นั้นเมื่อปี ค.ศ.1988 นายริตซี่ ได้ร่วมกับสถาบันกำาหนด
มาตรฐาน ANSI สร้างมาตรฐานภาษาซีขึ้นมามีผลให้
โปรแกรมคำาสั่งที่สร้างด้วยภาษาซีสังกัดบริษัทใดๆก็ตาม
ที่ใช้คำาสั่งมาตรฐานของภาษาสามารถนำามาทำางานร่วม
กันได้
• 1.2การทำางานของตอมไพเลอร์ภาษาซี
• คอมไพเลอร์เป็นโปรแกรมที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อ
แปลลภาษาคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่งมักใช้กับโปรแกรม
เชิงโครงสร้าง ลักษณะการแปลจะอ่านรหัสคำาสั่งทั้ง
โปรแกรมตั้งแต่บรรทัดคำาสั่งแรกถึงบรรทัดสุดท้าย
หากมีข้อผิดพลาดจะรายงานทุกตำาแหน่งคำาสั่งที่ใช้ผิด
กฎไวยากรณ์ของภาษา กระบวนการคอมไพเลอร์
โปรแกรมคำาสั่งของภาษาซี มีดังนี้
• 1.จัดทำาโปรแกรมต้นฉบับ (Source Program)
หลังจากพิมคำาสั่งงาน ตามโครงสร้างภาษาที่
สมบูรณ์แล้วทุกส่วนประกอบ ให้บันทึกโดย
กำาหนดชนิดงานเป็น .c  เช่น work.c
• 2.การแปลรหัสคำาสั่งเป็นภาษาเครื่อง (Compile) หรือ
การบิวด์ (Build) เครื่องจะตรวจสอบคำาสั่งทีละคำาสั่ง
เพื่อวิเคราะห์ว่าใช้งานได้ถูกต้องตามรูปแบบไวยากรณ์
ที่ภาษาซีกำาหนดไว้หรือหากมีข้อผิดพลาดจะแจ้งให้
ทราบ หากไม่มีข้อผิดพลาดจะไปกระบวนการ3
• 3.การเชื่อมโยงโปรแกรม (Link) ภาษาซีมีฟังก์ชัน
มาตรฐานให้ใช้งาน เช่น printf() ซึ่งจัดเก็บไว้ใน
 เฮดเดอร์ไพล์ หรือเรียกว่า ไลบรารี ในตำาแหน่งที่
กำาหนดชื่อแตกต่างกันไป ผู้ใช้ต้องศึกษาและเรียกใช้
เฮดเดอร์ไฟล์กับฟังก์ชันให้สัมพันธ์เรียกว่าเชื่อมโยงกับ
ไลบรารี กระบวนการนี้ได้ผลลัพธ์เป็นไฟล์ชนิด .exe
• 2.ส่วนประกอบโครงสร้างภาษาซี
• สำาหรับโครงสร้างของภาษาซีในเบื้องต้นนี้จะกล่าวถึง
เฉพาะรายละเอียดที่นำาไปใช้ในการเขียนคำาสั่งควบคุม
ระดับพื้นฐาน ผู้สร้างงานโปรแกรมจะใช้งานส่วน
ประกอบในภาษาซีเพียง2ส่วน คือ ส่วนหัวและส่วน
ฟังก์ชันหลัก ดังนี้
•  2.1ส่วนหัวของโปรแกรม(Header File)
• หรือเรียกว่าฟรีโปรเซสเซอร์ไดเรกที ใช้ระบุชื่อเฮดเด
อร์ ควบคุมการทำางานของฟังก์ชันมาตรฐานที่ถูกเรียก
ใช้งานในส่วน main( ) เฮดเดอร์ไฟล์มีชนิดเป็น h.
จัดเก็บในไลบรารีฟังก์ชัน ผู้เขียนคำาสั่งต้องศึกษาว่า
ฟังก์ชันที่ใช้งานอยู่นั้นอยู่ในเฮดเดอร์ไฟล์ชื่ออะไร จึง
จะเรียกใช้งานได้ถูกต้อง
• 2.2 ส่วนฟังก์ชันหลัก (Main Function)
• เป็นส่วนเขียนคำาสั่งควบคุมการทำางานภายในขอบเขต
เครื่องหมาย{ }ของฟังก์ชันหลักคือ main( ) ต้องเขียน
คำาสั่งตามลำาดับขั้นตอนจากกระบวนการวิเคราะห์ระบบ
งานเบื้องต้นและขั้นวางแผนลำาดับการทำางานที่ได้จัด
ทำาไว้ล่วงหน้า เช่น ลำาดับการทำางานด้วยแผนผัง
โปรแกรมเพื่อลดข้อผิดพลาดในขั้นตอนลำาดับคำาสั่ง
ควบคุมงาน ในส่วนนี้พึงระมัดระวังเรื่องเดียวคือต้องใช้
งานคำาสั่งตามรูปแบบไวยากรณ์ของภาษาซีที่กำาหนด
ไว้
• 2.3การพิมพ์คำาสั่งควบคุมงานในโครงสร้างภาษาซี
• คำาแนะนำาในการพิมพ์คำาสั่งงาน ซึ่งภาษาซีเรียกว่า
ฟังก์ชัน (ต่อไปนี้จะเรียกว่า คำาสั่งตามที่นิยมทั่วไป) ใน
ส่วนประกอบภายในโครงสร้างภาษาซีมีแนวทางปฏิบัติ
ดังนี้
• 1.คำาสั่งที่ใช้ควบคุมการประมวลผมตามลำาดับที่
วิเคราะห์ไว้ ต้องเขียนภายในเครื่องหมาย { } ที่อยู่ภาย
ใต้การควบคุมงานของฟังก์ชันหลักชื่อ main {}
• 2.ปกติคำาสั่งควบคุมงานเป็นตัวอักษรพิมพ์เล็ก ยกเว้น
บางคำาสั่งที่ภาษากำาหนดว่าต้องเป็นอักษรตัวพิมพ์ใหญ่
ต้องปฏิบัติตามนั้น เพราะภาษาซีมีความแตกต่างเรื่อง
ตัวอักษร
• 3.เมื่อสิ้นสุดคำาสั่งงาน ต้องพิมพ์โคลอน(:)
• 4.ใน 1 บรรทัดพิมพ์ได้มากกว่า1 คำาสั่ง แต่นิยม
บรรทัดละ 1 คำาสั่ง เพราะว่าอ่านโปรแกรมง่ายเมื่อมีข้อ
ผิดพลาด ย่อมตรวจสอบและค้นหาเพื่อแก้ไขได้เร็ว
• 5.การพิมพ์คำาสั่ง หากมีส่วนย่อยนิมยมเคาะเยื้องเข้าไป
เพื่ออ่านโปรแกรมได้ง่ายขึ้น เมื่อมีข้อผิดพลาดย่อม
ตรวจสอบและแก้ไขได้รวดเร็ว
• 3. คำาสั่งจัดเก็บข้อมูลลงหน่วยความจำา
• การจัดเก็บข้อมูลลงหน่วยความจำาคอมพิวเตอร์ ภาษา
กำาหนดให้ดำาเนินการผ่านซื้อ (identifier) ที่ผู้สร้าง
งานโปรแกรมเป็นผู้กำาหนดเอง ระบบคอมพิวเตอร์จะจัด
เก็บชื่อและตำาแหน่งที่อยู่ (address) ในหน่วยความจำา
เพื่ออ้างอิงนำาข้อมูลที่จัดเก็บนั้นมาใช้งาน การกำาหนด
ชื่อที่ใช้เก็บข้อมูลต้องทำาภายใต้กฎเกณฑ์ และต้อง
ศึกษาวิธีกำาหนดลักษณะการจัดเก็บข้อมูลที่ภาษา
กำาหนดไว้ ลักษณะการจัดเก็บข้อมูลมี 2 แบบคือ แบบ
ค่าคงที่และแบบตัวแปร ทั้งนี้ก่อนที่จะเขียนคำาสั่ง
กำาหนดการจัดเก็บข้อมูล ควรมีความรู้ในเรื่องชนิด
ข้อมูลก่อน
• 3.1 ชนิดข้อมูลแบบพื้นฐาน
การจัดเก็บข้อมูลลงหน่วยความจำาทั้งแบบค่าคงที่หรือ
แบบตัวแปร ต้องกำาหนดชนิดข้อมูลให้ระบบรับทราบ
ในที่นี้กล่าวถึงชนิดข้อมูลแบบพื้นฐาน 3 กลุ่มหลัก
เท่านั้น
• 3.2 คำาสั่งจัดเก็บข้อมูลแบบค่าคงที่
• ประสิทธิภาพคำาสั่ง : ลักษณะการจัดเก็บข้อมูลในหน่วย
ความจำาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
• 4.คำำสั่งควบคุมกำรทำำงำนขั้นพื้นฐำน
• คำำสั่งที่ใช้ควบคุมกำรทำำงำนขั้นพื้นฐำน มี3 กลุ่ม
ใหญ่คือ คำำสั่งรับข้อมูลจำกแป้นพิมพ์แล้ว นำำไปจัด
เก็บหน่วยควำมจำำ (input) กำรเขียนสมกำรคำำนวณ
โดยใช้นิพจน์ทำงคณิตศำสตร์ (process) และคำำสั่ง
แสดงผลข้อมูล หรือข้อมูลที่จัดเก็บในหน่วยควำมจำำ
(output)
• 4.1 คำำสั่งแสดงผล printf()
• ประสิทธิภำพคำำสั่ง : ใช้แสดงผลสิ่งต่อไปนี้เช่น
ข้อควำม ข้อมูลจำกค่ำคงที่ หรือตัวแปลที่จอภำพ
• 4.2คำำสั่งรับข้อมูล:รับข้อมูลจำกแป้นพิมพ์ แล้วจัด
เก็บลงหน่วยควำมจำำ ของตัวแปล
• 4.3คำำสั่งประมวลผล : expreeion
• ประสิทธิภำพคำำสั่ง : เขียนคำำสั่งแบบนิพจน์
เพื่อประมวลผล แล้วนำำข้อมูลทีได้ไปจัดเก็บ ใน
หน่วยควำมจำำของตัวแปล ที่ต้องกำำหนดชื่อและ
ชนิดข้อมูลไว้แล้ว
• แนวคิดในกำรเขียนคำำสั่งควบคุมในกำรทำำงำน
• ส่วนป้อนข้อมูล ผู้ใช้ระบบงำนป้อนค่ำ 2 เก็บใน
หน่วยควำมจำำ x และป้อนค่ำ 3 เก็บในหน่วยควำมจำำ
y ด้วยคำำสั่ง
• Printf (“data x = “ ) scant (“%&x) :
• Printf (“data = “ ) scant (“%&y) :
•
• 2.ส่วนประมวลผล ระบบจำำนำำค่ำไปประมวลผล ตำม
นิพจน์คณิตศำสตร์
• R = 2+3 *2 ; ได้คำำตอบคือ 8
• S= (2+3) *2 ; ได้คำำตอบคือ 10
• T= 2+3 *2-1 ; ได้คำำตอบคือ 7
• ทั้งนี้คอมพิวเตอร์ประมวลผล โดยยึดหลักควำมสำำคัญ
ของ เครื่องหมำยทำงคณิตศำสตร์ เช่น คำำนวณ
เครื่องหมำย * ก่อนเครื่องหมำย +
• ส่วนแสดงผล คำำสั่งควบคุมให้แสดงผลลัพธ์
• Printf (“ r=x+y*2=%dn”,r) :
• Printf (“ r=(x+yX*2=5dn”,s) :
• Printf(“ r=x+y*2-1 =%dn”,t) :
• 5.คำำสั่งแสดงผล-รับข้อมูล เฉพำะอักขระ
• ภำษำซีมีคำำสั่งแสดงผลและรับข้อมูลเฉพำะข้อมูล
ประเภท 1 อักขระ (char) ดังนี้
• 5.1 คำำสั่ง putchar ( ) 5.2 คำำสั่ง getchar ( )
• 5.3 คำำสั่ง getch ( ) 5.4 คำำสั่ง getche ( )
• 5.1 คำำสั่ง putchar ( )
• แสดงข้อมูลจำกหน่อยควำมจำำของตัวแปร ทำงจอภำพ
ครั้งละ1อักขระเท่ำนั้น
• แนวคิดในกำรเขียนคำำสั่งควบคุมกำรทำำงำน
• 1. ‘กำำหนดค่ำ A’เก็บในตัวแปรประเภท char
ชื้อ word1 ‘และกำำหนดค่ำ 1’ เก็บในตัวแปรชื่อ
word2 ด้วยคำำสั่ง char word1=‘A’ , word2=‘1’
•  2.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรแสดงผลทีละ 1
อักขระโดยไม่ต้องใช้สัญลักษณ์ขึ้นบรรทัดใหม่ ด้วย
คำำสั่ง ยputchar(word1); putchar(word2); จึง
พิมพ์คำำว่ำ A1 ที่จอภำพ
• 5.2 คำำสั่ง getchar ( )
• รับข้อมูลจำกแป้นพิมพ์ครั้งละ 1 อักขระ และแสดง
อักขระที่จอภำพ จำกนั้นต้องกดแป้นพิมพ์ที่ Enter เพื่อนำำ
ข้อมูลบันทึกลงหน่วยควำมจำำด้วย
• แนวคิดในกำรเขียนคำำสั่งควบคุมกำรทำำงำน
• 1.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรป้อนข้อมูลประเภทอักขระ
ด้วยคำำสั่ง
• Printf (“Key 1 Character=”) ;
• Word = getchar ( ) ;
• หมำยถึงป้อนอักขระ 1 ตัว เช่น a จะแสดงค่ำให้เห็นที่หน้ำ
จอด้วย แล้วต้องกดแป้น Enter เพื่อนำำข้อมูลบันทึกลง
หน่วยควำมจำำตัวแปรประเภท char ชื่อ word
• 2.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรแสดงผลจำกหน่วยควำม
จำำ wordจึงเห็นค่ำ a (แทนที่word)
• Printf (“You key Character is =%cn”,word) ;
• 5.3 คำำสั่ง getch ( )
• รับข้อมูลจำกแป้นพิมพ์ครั้งละ 1 อักขระ แต่ไม่ปรำกฏอักษรบน
จอภำพและไม่ต้องกดแป้น Enter
•  แนวคิดในกำรเขียนคำำสั่งควบคุมกำรทำำงำน
• 1.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรป้อนข้อมูลประเภทอักขระ
ด้วยคำำสั่ง
• printf (“Key 1 Character =” ) ;
• word = getch ( ) ;
• หมำยถึงป้อนค่ำใดทำงแป้นพิมพ์เป็นอักขระ 1 ตัว เช่น a จะไม่
แสดงค่ำให้เห็นที่หน้ำจอ ไม่ต้องกดแป้ น Enter เพื่อนำำข้อมูล
บันทึกลงหน่วยควำมจำำตัวแปรประเภท char ชื่อ word
• 2.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรแสดงผลจำกหน่วยควำมจำำ
word จึงเห็นค่ำ a (แทนที่word)
• printf (“Key 1 Character =%cn”,word ) ;
• 5.4คำำสั่ง getche ( )
• รับข้อมูลจำกแป้นพิมพ์ครั้งละ 1 อักขระ และแสดงอักษรบน
จอภำพ และไม่ต้องกดแป้น Enter
• แนวคิดในกำรเขียนคำำสั่งควบคุมกำรทำำงำน
• 1.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรป้อนข้อมูลประเภทอักขระด้วย
คำำสั่ง
• printf (“Key 1 Character =” ) ;
• word = getcher ( ) ;
• หมำยถึงกำรป้อนค่ำใดทำงแป้นพิมพ์เป็นอักขระ 1 ตัว เช่น a จะ
แสดงค่ำให้เห็นที่หน้ำจอ และไม่ต้องกดแป้น Enter เพื่อนำำ
ข้อมูลบันทึกลงหน่วยควำมจำำตัวแปรประเภท char ชื่อ word
• 2.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรแสดงผลเพื่อแสดงค่ำจำก
หน่วยควำมจำำ word จึงเห็นค่ำ a (แทนที่word)
• printf (“Key 1 Character =
%cn”,word ) ;
• 6.คำำสั่งแสดงผล-เฉพำะข้อมูล เฉพำะข้อควำม
• ภำษำซีมีคำำสั่งใช้ในดำรรับข้อมมูลเฉพำะประเภท
ข้อควำม (String) ในภำษำซีคือชนิดข้อมูล char[n]
จัดเก็บในหน่วยควำมจำำ และแสดงผลข้อมูลประเภท
ข้อควำมเท่ำนั้น มีรำยละเอียดดังนี้
• 6.1 คำำสั่ง puts()แสดงผลเฉพำะประเภทข้อควำม
ทำงจอภำพครั้งละ 1 ข้อควำม
• แนวคิดในกำรเขียนคำำสั่งควบคุมกำรทำำงำน
• 1.เขียนคำำสั่งกำำหนดค่ำข้อควำมในตัวแปรชื่อ
word
• Char word [15] = “*Example*”;
• 2.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรแสดงผลในลักษณะ
ข้อควำมด้วย puts
• Puts (word) ;
• Puts (“***”);
• 6.2 คำำสั่ง gets( )รับข้อมูล ข้อควำมจำกแป้น
พิมพ์และต้องกดแป้น Enter
• รูปแบบ 1ไม่นำำข้อมูลจัดเก็บลงหน่วยควำมจำำของ
ตัวแปร
• แนวคิดในกำรเขียนคำำสั่งควบคุมกำทำำงำน
• 1.เขียนคำำสั่งให้รับข้อมูลนิดข้อควำมจำก
แป้นพิมพ์และต้องกดแป้น Enter เพื่อนนำำ
ข้อควำมบันทึกลงตัวแปรชนิดข้อควำมด้วยคำำสั่ง
gets (word);
• 2.เขียนคำำสั่งควบคุมให้แสดงผลลักษณะ
ข้อควำมด้วย printf (You name is =

More Related Content

Viewers also liked (16)

DOCX
cv simon2
ngweh palah simon
DOC
SOA AND WEBLOGIC ADMINISTRATION
Anil Ncodeit
PPTX
Turismo ecuador mrc
Xitasrc
PPTX
Hand washing 2
thorn1tl
PPTX
Pedagogia da Formação de Adultos
Maria Simões
PPTX
Ruizpadilla
Karlos Mcormik
PDF
2013 Chevrolet Traverse at Jerry's Chevrolet in Weatherford, Texas
Jerry's Chevrolet
PPTX
E ÖĞRENMEDE DERS GELİŞTİRME SÜRECİ
Okan Oğuz
PPT
2013 Eminent Domain & Regulatory Takings Update 071813
Anthony DellaPelle, Esq., CRE
PPTX
What's Good about Happiness?
Barry Casey
ODP
The passive voice
MisTrabajosIeda
PDF
Spanish
webdetic
PPTX
Conocer las partes internas del equipo de computo
cindi baray
PDF
Neodarwinismo e Evolução Humana
Gabriel Lopes (Guma)
PDF
Creative-IT Collaboration on the Rise
Robert Half
SOA AND WEBLOGIC ADMINISTRATION
Anil Ncodeit
Turismo ecuador mrc
Xitasrc
Hand washing 2
thorn1tl
Pedagogia da Formação de Adultos
Maria Simões
Ruizpadilla
Karlos Mcormik
2013 Chevrolet Traverse at Jerry's Chevrolet in Weatherford, Texas
Jerry's Chevrolet
E ÖĞRENMEDE DERS GELİŞTİRME SÜRECİ
Okan Oğuz
2013 Eminent Domain & Regulatory Takings Update 071813
Anthony DellaPelle, Esq., CRE
What's Good about Happiness?
Barry Casey
The passive voice
MisTrabajosIeda
Spanish
webdetic
Conocer las partes internas del equipo de computo
cindi baray
Neodarwinismo e Evolução Humana
Gabriel Lopes (Guma)
Creative-IT Collaboration on the Rise
Robert Half

Similar to งาȨำเสนอ1 (20)

PPTX
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
นายแสงธรรม สระจันทร์
PDF
การเขียนคำสังควบคุมขั้นพื้นฐาน 2
Tay Atcharawan
PDF
งาȨ
pussamon bosin
PPTX
การเขียนคำสั่งข้อมูลขั้นพื้นฐาน
Ratchanok Nutyimyong
PDF
บทที่ 2
1118192239
PPTX
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
Ja Phenpitcha
PPTX
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
BoOm mm
PDF
การเขียนคำสั่งขั้นพื้นฐาน(ภาษา)
Visaitus Palasak
PPTX
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
Pitchaya Jitbowornwong
DOCX
การเขียนคำสั่งควบคุม
Baramee Chomphoo
PPTX
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
Vi Vik Viv
PPT
1. ประวัติภาษาซี
mansuang1978
PDF
บทที่4 เมธอด (METHOD)
N'Name Phuthiphong
PDF
ภาษาซี๶บื้องต้น
สมใจ สีดาจันทร์
PPT
โครงสร้างภาษาซี
Patipat04
DOC
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
choco336
DOC
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
choco336
DOC
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
choco336
DOC
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
choco336
PPT
2. โครงสร้างภาษาซี
mansuang1978
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
นายแสงธรรม สระจันทร์
การเขียนคำสังควบคุมขั้นพื้นฐาน 2
Tay Atcharawan
การเขียนคำสั่งข้อมูลขั้นพื้นฐาน
Ratchanok Nutyimyong
บทที่ 2
1118192239
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
Ja Phenpitcha
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
BoOm mm
การเขียนคำสั่งขั้นพื้นฐาน(ภาษา)
Visaitus Palasak
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
Pitchaya Jitbowornwong
การเขียนคำสั่งควบคุม
Baramee Chomphoo
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
Vi Vik Viv
1. ประวัติภาษาซี
mansuang1978
บทที่4 เมธอด (METHOD)
N'Name Phuthiphong
ภาษาซี๶บื้องต้น
สมใจ สีดาจันทร์
โครงสร้างภาษาซี
Patipat04
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
choco336
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
choco336
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
choco336
การเขียนโปรแกรมภาษาซี
choco336
2. โครงสร้างภาษาซี
mansuang1978
Ad

More from HamHam' Kc (13)

DOCX
รายงาน Wordpress กล มท__ 2 (1)
HamHam' Kc
DOCX
รายงาน Wordpress กล มท__ 2
HamHam' Kc
DOCX
รายงาน Wordpress กล มท__ 2
HamHam' Kc
DOC
Doc3
HamHam' Kc
PPT
งาȨำเสนอ1
HamHam' Kc
DOC
Brand
HamHam' Kc
PPTX
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
HamHam' Kc
PPTX
การเข ยนคำส _งควบค_มข__นพ__นฐาน (1)
HamHam' Kc
DOC
itnews
HamHam' Kc
DOC
ซีน
HamHam' Kc
PDF
กระชากใจคอ๶Ȩ
HamHam' Kc
PDF
๶อชทีซี
HamHam' Kc
DOC
๶อชทีซี
HamHam' Kc
รายงาน Wordpress กล มท__ 2 (1)
HamHam' Kc
รายงาน Wordpress กล มท__ 2
HamHam' Kc
รายงาน Wordpress กล มท__ 2
HamHam' Kc
งาȨำเสนอ1
HamHam' Kc
การเขียนคำสั่งควบคุมขั้นพื้นฐาน
HamHam' Kc
การเข ยนคำส _งควบค_มข__นพ__นฐาน (1)
HamHam' Kc
ซีน
HamHam' Kc
กระชากใจคอ๶Ȩ
HamHam' Kc
๶อชทีซี
HamHam' Kc
๶อชทีซี
HamHam' Kc
Ad

งาȨำเสนอ1

  • 1. การเขียนคำาสั่งควบคุมขั้นพื้น ฐาน นาย พิธิวัต ศรี มานพ ม.6/1 เลขที่ 11 นาย นขรินทร์ อัตถ จรรยากุล ม.6/1 เลขที่ 15 นาย พรปฐม รวมสุข ม.6/1 เลขที่ 17 นางสาว มานิดา ครุฑ นาค ม.6/1 เลขที่ 26 นางสาว กนกกาญจน์ กองจันทร์ ม.6/1 เลขที่ 29
  • 2. • 1.ลักษณะการทำางานของภาษาซี • ลักษณะการทำางานของภาษาซี • ภาษาซีเป็นภาษาที่มีการพัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง ภาษาซีรุ่นแรกทำางานภายใต้ระบบปฏิบัติการคอส (cos) ปัจจุบันทำางานภายใต้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ (Windows) ภาษาซีใช้วิธีแปลรหัสคำาสั่งให้เป็นเลข ฐานสองเรียกว่า คอมไพเลอร์ การศึกษาภูมิหลังการ เป็นมาของภาษาซีและกระบวนการแปลภาษาจะช่วย ให้ผู้ใช้ภาษาซีในรุ่นและบริษัทผู้ผลิตแตกต่างกัน สามารถใช้ภาษาได้อย่างเข้าใจมากขึ้น
  • 3. • 1.1.ความเป็นมาของภาษาซี • ภาษาซีได้รับการพัฒนาเมื่อปี ค.ศ.1972 โดยนายเดน นิส ริตซี่ ตั้งชื่อว่าซีเพราะพัฒนามาจากภาษา BCLP และภาษา B ในช่วงแรกใช้ทดลองเขียนคำาสั่งควบคุมใน ห้องปฏิบัติการเบล (Bell Laboratoorics) เท่านั้น เมื่อปี ค.ศ.1978 นายไบรอัน เคอร์นิกฮัน และ นายเดนนิส ริตซี่ ร่วมกันกำาหนดนิยามรายละเอียดของภาษาซี เผย แพร่ความรู้โดยจัดทำาหนังสือ The C Programming Language มีหลายบริษัท ให้ความสนใจนำาไปพัฒนาต่อ จนมีภาษาซีหลายรูปแบบและแพร่หลายไปทั่วโลก แต่ยัง ไม่มีมาตรฐานคำาสั่งเพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ ดัง นั้นเมื่อปี ค.ศ.1988 นายริตซี่ ได้ร่วมกับสถาบันกำาหนด มาตรฐาน ANSI สร้างมาตรฐานภาษาซีขึ้นมามีผลให้ โปรแกรมคำาสั่งที่สร้างด้วยภาษาซีสังกัดบริษัทใดๆก็ตาม ที่ใช้คำาสั่งมาตรฐานของภาษาสามารถนำามาทำางานร่วม กันได้
  • 4. • 1.2การทำางานของตอมไพเลอร์ภาษาซี • คอมไพเลอร์เป็นโปรแกรมที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อ แปลลภาษาคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่งมักใช้กับโปรแกรม เชิงโครงสร้าง ลักษณะการแปลจะอ่านรหัสคำาสั่งทั้ง โปรแกรมตั้งแต่บรรทัดคำาสั่งแรกถึงบรรทัดสุดท้าย หากมีข้อผิดพลาดจะรายงานทุกตำาแหน่งคำาสั่งที่ใช้ผิด กฎไวยากรณ์ของภาษา กระบวนการคอมไพเลอร์ โปรแกรมคำาสั่งของภาษาซี มีดังนี้
  • 5. • 1.จัดทำาโปรแกรมต้นฉบับ (Source Program) หลังจากพิมคำาสั่งงาน ตามโครงสร้างภาษาที่ สมบูรณ์แล้วทุกส่วนประกอบ ให้บันทึกโดย กำาหนดชนิดงานเป็น .c เช่น work.c
  • 6. • 2.การแปลรหัสคำาสั่งเป็นภาษาเครื่อง (Compile) หรือ การบิวด์ (Build) เครื่องจะตรวจสอบคำาสั่งทีละคำาสั่ง เพื่อวิเคราะห์ว่าใช้งานได้ถูกต้องตามรูปแบบไวยากรณ์ ที่ภาษาซีกำาหนดไว้หรือหากมีข้อผิดพลาดจะแจ้งให้ ทราบ หากไม่มีข้อผิดพลาดจะไปกระบวนการ3 • 3.การเชื่อมโยงโปรแกรม (Link) ภาษาซีมีฟังก์ชัน มาตรฐานให้ใช้งาน เช่น printf() ซึ่งจัดเก็บไว้ใน เฮดเดอร์ไพล์ หรือเรียกว่า ไลบรารี ในตำาแหน่งที่ กำาหนดชื่อแตกต่างกันไป ผู้ใช้ต้องศึกษาและเรียกใช้ เฮดเดอร์ไฟล์กับฟังก์ชันให้สัมพันธ์เรียกว่าเชื่อมโยงกับ ไลบรารี กระบวนการนี้ได้ผลลัพธ์เป็นไฟล์ชนิด .exe
  • 8. • 2.1ส่วนหัวของโปรแกรม(Header File) • หรือเรียกว่าฟรีโปรเซสเซอร์ไดเรกที ใช้ระบุชื่อเฮดเด อร์ ควบคุมการทำางานของฟังก์ชันมาตรฐานที่ถูกเรียก ใช้งานในส่วน main( ) เฮดเดอร์ไฟล์มีชนิดเป็น h. จัดเก็บในไลบรารีฟังก์ชัน ผู้เขียนคำาสั่งต้องศึกษาว่า ฟังก์ชันที่ใช้งานอยู่นั้นอยู่ในเฮดเดอร์ไฟล์ชื่ออะไร จึง จะเรียกใช้งานได้ถูกต้อง
  • 9. • 2.2 ส่วนฟังก์ชันหลัก (Main Function) • เป็นส่วนเขียนคำาสั่งควบคุมการทำางานภายในขอบเขต เครื่องหมาย{ }ของฟังก์ชันหลักคือ main( ) ต้องเขียน คำาสั่งตามลำาดับขั้นตอนจากกระบวนการวิเคราะห์ระบบ งานเบื้องต้นและขั้นวางแผนลำาดับการทำางานที่ได้จัด ทำาไว้ล่วงหน้า เช่น ลำาดับการทำางานด้วยแผนผัง โปรแกรมเพื่อลดข้อผิดพลาดในขั้นตอนลำาดับคำาสั่ง ควบคุมงาน ในส่วนนี้พึงระมัดระวังเรื่องเดียวคือต้องใช้ งานคำาสั่งตามรูปแบบไวยากรณ์ของภาษาซีที่กำาหนด ไว้
  • 10. • 2.3การพิมพ์คำาสั่งควบคุมงานในโครงสร้างภาษาซี • คำาแนะนำาในการพิมพ์คำาสั่งงาน ซึ่งภาษาซีเรียกว่า ฟังก์ชัน (ต่อไปนี้จะเรียกว่า คำาสั่งตามที่นิยมทั่วไป) ใน ส่วนประกอบภายในโครงสร้างภาษาซีมีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้ • 1.คำาสั่งที่ใช้ควบคุมการประมวลผมตามลำาดับที่ วิเคราะห์ไว้ ต้องเขียนภายในเครื่องหมาย { } ที่อยู่ภาย ใต้การควบคุมงานของฟังก์ชันหลักชื่อ main {}
  • 11. • 2.ปกติคำาสั่งควบคุมงานเป็นตัวอักษรพิมพ์เล็ก ยกเว้น บางคำาสั่งที่ภาษากำาหนดว่าต้องเป็นอักษรตัวพิมพ์ใหญ่ ต้องปฏิบัติตามนั้น เพราะภาษาซีมีความแตกต่างเรื่อง ตัวอักษร • 3.เมื่อสิ้นสุดคำาสั่งงาน ต้องพิมพ์โคลอน(:)
  • 12. • 4.ใน 1 บรรทัดพิมพ์ได้มากกว่า1 คำาสั่ง แต่นิยม บรรทัดละ 1 คำาสั่ง เพราะว่าอ่านโปรแกรมง่ายเมื่อมีข้อ ผิดพลาด ย่อมตรวจสอบและค้นหาเพื่อแก้ไขได้เร็ว • 5.การพิมพ์คำาสั่ง หากมีส่วนย่อยนิมยมเคาะเยื้องเข้าไป เพื่ออ่านโปรแกรมได้ง่ายขึ้น เมื่อมีข้อผิดพลาดย่อม ตรวจสอบและแก้ไขได้รวดเร็ว
  • 13. • 3. คำาสั่งจัดเก็บข้อมูลลงหน่วยความจำา • การจัดเก็บข้อมูลลงหน่วยความจำาคอมพิวเตอร์ ภาษา กำาหนดให้ดำาเนินการผ่านซื้อ (identifier) ที่ผู้สร้าง งานโปรแกรมเป็นผู้กำาหนดเอง ระบบคอมพิวเตอร์จะจัด เก็บชื่อและตำาแหน่งที่อยู่ (address) ในหน่วยความจำา เพื่ออ้างอิงนำาข้อมูลที่จัดเก็บนั้นมาใช้งาน การกำาหนด ชื่อที่ใช้เก็บข้อมูลต้องทำาภายใต้กฎเกณฑ์ และต้อง ศึกษาวิธีกำาหนดลักษณะการจัดเก็บข้อมูลที่ภาษา กำาหนดไว้ ลักษณะการจัดเก็บข้อมูลมี 2 แบบคือ แบบ ค่าคงที่และแบบตัวแปร ทั้งนี้ก่อนที่จะเขียนคำาสั่ง กำาหนดการจัดเก็บข้อมูล ควรมีความรู้ในเรื่องชนิด ข้อมูลก่อน
  • 14. • 3.1 ชนิดข้อมูลแบบพื้นฐาน การจัดเก็บข้อมูลลงหน่วยความจำาทั้งแบบค่าคงที่หรือ แบบตัวแปร ต้องกำาหนดชนิดข้อมูลให้ระบบรับทราบ ในที่นี้กล่าวถึงชนิดข้อมูลแบบพื้นฐาน 3 กลุ่มหลัก เท่านั้น • 3.2 คำาสั่งจัดเก็บข้อมูลแบบค่าคงที่ • ประสิทธิภาพคำาสั่ง : ลักษณะการจัดเก็บข้อมูลในหน่วย ความจำาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
  • 15. • 4.คำำสั่งควบคุมกำรทำำงำนขั้นพื้นฐำน • คำำสั่งที่ใช้ควบคุมกำรทำำงำนขั้นพื้นฐำน มี3 กลุ่ม ใหญ่คือ คำำสั่งรับข้อมูลจำกแป้นพิมพ์แล้ว นำำไปจัด เก็บหน่วยควำมจำำ (input) กำรเขียนสมกำรคำำนวณ โดยใช้นิพจน์ทำงคณิตศำสตร์ (process) และคำำสั่ง แสดงผลข้อมูล หรือข้อมูลที่จัดเก็บในหน่วยควำมจำำ (output)
  • 16. • 4.1 คำำสั่งแสดงผล printf() • ประสิทธิภำพคำำสั่ง : ใช้แสดงผลสิ่งต่อไปนี้เช่น ข้อควำม ข้อมูลจำกค่ำคงที่ หรือตัวแปลที่จอภำพ • 4.2คำำสั่งรับข้อมูล:รับข้อมูลจำกแป้นพิมพ์ แล้วจัด เก็บลงหน่วยควำมจำำ ของตัวแปล
  • 17. • 4.3คำำสั่งประมวลผล : expreeion • ประสิทธิภำพคำำสั่ง : เขียนคำำสั่งแบบนิพจน์ เพื่อประมวลผล แล้วนำำข้อมูลทีได้ไปจัดเก็บ ใน หน่วยควำมจำำของตัวแปล ที่ต้องกำำหนดชื่อและ ชนิดข้อมูลไว้แล้ว
  • 18. • แนวคิดในกำรเขียนคำำสั่งควบคุมในกำรทำำงำน • ส่วนป้อนข้อมูล ผู้ใช้ระบบงำนป้อนค่ำ 2 เก็บใน หน่วยควำมจำำ x และป้อนค่ำ 3 เก็บในหน่วยควำมจำำ y ด้วยคำำสั่ง • Printf (“data x = “ ) scant (“%&x) : • Printf (“data = “ ) scant (“%&y) : •
  • 19. • 2.ส่วนประมวลผล ระบบจำำนำำค่ำไปประมวลผล ตำม นิพจน์คณิตศำสตร์ • R = 2+3 *2 ; ได้คำำตอบคือ 8 • S= (2+3) *2 ; ได้คำำตอบคือ 10 • T= 2+3 *2-1 ; ได้คำำตอบคือ 7
  • 20. • ทั้งนี้คอมพิวเตอร์ประมวลผล โดยยึดหลักควำมสำำคัญ ของ เครื่องหมำยทำงคณิตศำสตร์ เช่น คำำนวณ เครื่องหมำย * ก่อนเครื่องหมำย + • ส่วนแสดงผล คำำสั่งควบคุมให้แสดงผลลัพธ์ • Printf (“ r=x+y*2=%dn”,r) : • Printf (“ r=(x+yX*2=5dn”,s) : • Printf(“ r=x+y*2-1 =%dn”,t) :
  • 21. • 5.คำำสั่งแสดงผล-รับข้อมูล เฉพำะอักขระ • ภำษำซีมีคำำสั่งแสดงผลและรับข้อมูลเฉพำะข้อมูล ประเภท 1 อักขระ (char) ดังนี้ • 5.1 คำำสั่ง putchar ( ) 5.2 คำำสั่ง getchar ( ) • 5.3 คำำสั่ง getch ( ) 5.4 คำำสั่ง getche ( )
  • 22. • 5.1 คำำสั่ง putchar ( ) • แสดงข้อมูลจำกหน่อยควำมจำำของตัวแปร ทำงจอภำพ ครั้งละ1อักขระเท่ำนั้น • แนวคิดในกำรเขียนคำำสั่งควบคุมกำรทำำงำน • 1. ‘กำำหนดค่ำ A’เก็บในตัวแปรประเภท char ชื้อ word1 ‘และกำำหนดค่ำ 1’ เก็บในตัวแปรชื่อ word2 ด้วยคำำสั่ง char word1=‘A’ , word2=‘1’ • 2.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรแสดงผลทีละ 1 อักขระโดยไม่ต้องใช้สัญลักษณ์ขึ้นบรรทัดใหม่ ด้วย คำำสั่ง ยputchar(word1); putchar(word2); จึง พิมพ์คำำว่ำ A1 ที่จอภำพ
  • 23. • 5.2 คำำสั่ง getchar ( ) • รับข้อมูลจำกแป้นพิมพ์ครั้งละ 1 อักขระ และแสดง อักขระที่จอภำพ จำกนั้นต้องกดแป้นพิมพ์ที่ Enter เพื่อนำำ ข้อมูลบันทึกลงหน่วยควำมจำำด้วย • แนวคิดในกำรเขียนคำำสั่งควบคุมกำรทำำงำน • 1.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรป้อนข้อมูลประเภทอักขระ ด้วยคำำสั่ง • Printf (“Key 1 Character=”) ; • Word = getchar ( ) ; • หมำยถึงป้อนอักขระ 1 ตัว เช่น a จะแสดงค่ำให้เห็นที่หน้ำ จอด้วย แล้วต้องกดแป้น Enter เพื่อนำำข้อมูลบันทึกลง หน่วยควำมจำำตัวแปรประเภท char ชื่อ word • 2.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรแสดงผลจำกหน่วยควำม จำำ wordจึงเห็นค่ำ a (แทนที่word) • Printf (“You key Character is =%cn”,word) ;
  • 24. • 5.3 คำำสั่ง getch ( ) • รับข้อมูลจำกแป้นพิมพ์ครั้งละ 1 อักขระ แต่ไม่ปรำกฏอักษรบน จอภำพและไม่ต้องกดแป้น Enter • แนวคิดในกำรเขียนคำำสั่งควบคุมกำรทำำงำน • 1.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรป้อนข้อมูลประเภทอักขระ ด้วยคำำสั่ง • printf (“Key 1 Character =” ) ; • word = getch ( ) ; • หมำยถึงป้อนค่ำใดทำงแป้นพิมพ์เป็นอักขระ 1 ตัว เช่น a จะไม่ แสดงค่ำให้เห็นที่หน้ำจอ ไม่ต้องกดแป้ น Enter เพื่อนำำข้อมูล บันทึกลงหน่วยควำมจำำตัวแปรประเภท char ชื่อ word • 2.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรแสดงผลจำกหน่วยควำมจำำ word จึงเห็นค่ำ a (แทนที่word) • printf (“Key 1 Character =%cn”,word ) ;
  • 25. • 5.4คำำสั่ง getche ( ) • รับข้อมูลจำกแป้นพิมพ์ครั้งละ 1 อักขระ และแสดงอักษรบน จอภำพ และไม่ต้องกดแป้น Enter • แนวคิดในกำรเขียนคำำสั่งควบคุมกำรทำำงำน • 1.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรป้อนข้อมูลประเภทอักขระด้วย คำำสั่ง • printf (“Key 1 Character =” ) ; • word = getcher ( ) ; • หมำยถึงกำรป้อนค่ำใดทำงแป้นพิมพ์เป็นอักขระ 1 ตัว เช่น a จะ แสดงค่ำให้เห็นที่หน้ำจอ และไม่ต้องกดแป้น Enter เพื่อนำำ ข้อมูลบันทึกลงหน่วยควำมจำำตัวแปรประเภท char ชื่อ word • 2.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรแสดงผลเพื่อแสดงค่ำจำก หน่วยควำมจำำ word จึงเห็นค่ำ a (แทนที่word) • printf (“Key 1 Character = %cn”,word ) ;
  • 26. • 6.คำำสั่งแสดงผล-เฉพำะข้อมูล เฉพำะข้อควำม • ภำษำซีมีคำำสั่งใช้ในดำรรับข้อมมูลเฉพำะประเภท ข้อควำม (String) ในภำษำซีคือชนิดข้อมูล char[n] จัดเก็บในหน่วยควำมจำำ และแสดงผลข้อมูลประเภท ข้อควำมเท่ำนั้น มีรำยละเอียดดังนี้
  • 27. • 6.1 คำำสั่ง puts()แสดงผลเฉพำะประเภทข้อควำม ทำงจอภำพครั้งละ 1 ข้อควำม • แนวคิดในกำรเขียนคำำสั่งควบคุมกำรทำำงำน • 1.เขียนคำำสั่งกำำหนดค่ำข้อควำมในตัวแปรชื่อ word • Char word [15] = “*Example*”; • 2.เขียนคำำสั่งควบคุมกำรแสดงผลในลักษณะ ข้อควำมด้วย puts • Puts (word) ; • Puts (“***”);
  • 28. • 6.2 คำำสั่ง gets( )รับข้อมูล ข้อควำมจำกแป้น พิมพ์และต้องกดแป้น Enter • รูปแบบ 1ไม่นำำข้อมูลจัดเก็บลงหน่วยควำมจำำของ ตัวแปร • แนวคิดในกำรเขียนคำำสั่งควบคุมกำทำำงำน • 1.เขียนคำำสั่งให้รับข้อมูลนิดข้อควำมจำก แป้นพิมพ์และต้องกดแป้น Enter เพื่อนนำำ ข้อควำมบันทึกลงตัวแปรชนิดข้อควำมด้วยคำำสั่ง gets (word); • 2.เขียนคำำสั่งควบคุมให้แสดงผลลักษณะ ข้อควำมด้วย printf (You name is =