ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
10 ผักต้านมะ๶ร็ง
จัดทาโดย
นางสาวธัชพรรณ กันทะสอน ม.6/10 เลขที่32
นางสาวชลันธร อินต๊ะวงค์ ม.6/10 เลขที่37
หน้าแรก
มะ๶ร็ง
10ผักต้านมะ๶ร็ง
15ผลไม้ต้านมะ๶ร็ง
แหล่งอ้างอิง
มะ๶ร็ง
มะ๶ร็ง คืออะไร ?
มะ๶ร็ง คือ โรคชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นจากเซลล์ที่ผิดปกติในร่างกาย ซึ่งเซลล์เหล่านี้
จะมีการเจริญเติบโตรวดเร็วกว่าปกติ ร่างกายไม่สามารถควบคุมได้ ฉะนั้น
เซลล์ที่ผิดปกติเหล่านี้จึงสามารถแพร่กระจายและลุกลามไปทั่วร่างกาย มีผล
ทาให้เซลล์ปกติของเนื้อเยื่อ รวมถึงอวัยวะต่างๆ ไม่สามารถทางานได้
ตามปกติ ก่อให้เกิดโรคและมีอาการต่างๆ เกิดขึ้นตามมา หากว่าเกิดมะ๶ร็งใน
อวัยวะสาคัญๆ หรือเซลล์มะ๶ร็งนั้นได้แพร่กระจายเข้าสู่อวัยวะสาคัญ ทาให้
อวัยวะนั้นๆ ล้มเหลว ทางานได้ไม่ปกติ จนอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้ในที่สุด
อวัยวะสาคัญที่อาจเป็นเป้าหมายของเซลล์มะ๶ร็ง ได้แก่ ตับ ปอด สมอง
กระดูก ไขกระดูก และไต
มะ๶ร็ง เกิดขึ้นได้อย่างไร
สาเหตุของการเกิดมะ๶ร็งนั้นยังไม่มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเกิดขึ้นและมีการ
แพร่กระจายได้อย่างไร แต่ในปัจจุบันแพทย์ได้มีการวิจัยและพบปัจจัยเสี่ยง
หลายประการที่อาจทาให้เกิดมะ๶ร็งได้ ซึ่งก็มีความเชื่อว่าสาเหตุที่ทาให้เกิด
น่าจะมาจากปลายปัจจัยเสี่ยงร่วมกัน น้อยมากที่จะเกิดขึ้นจากปัจจัยเดียว โดย
ปัจจัยเสี่ยงที่สาคัญของโรคมะ๶ร็ง ได้แก่ ..
ปัจจัยเสี่ยงที่สาคัญของโรคมะ๶ร็ง ได้แก่ ..
• มีความผิดปกติทางพันธุกรรม เกิดขึ้นได้จากมั้งพันธุกรรมที่มีการถ่ายทอด
และไม่ถ่ายทอด
• การสูบบุหรี่
• การดื่มเหล้า
• ขาดสารอาหารที่จาเป็นต่อร่างกาย
• ขาดการกินผักและผลไม้
• กินอาหารจาพวกไขมัน หรือเนื้อแดงต่อเนื่องเป็นประจา
• การสูดดมสารพิษบางอย่างเป็นประจา
ปัจจัยเสี่ยงที่สาคัญของโรคมะ๶ร็ง ได้แก่ ..
• ร่างกายได้รับโลหะหนัก จากการหายใจ อาหาร และ/หรือน้าดื่ม เช่น สารปรอท
• ติดเชื้อไวรัสบางชนิด อาทิ ไวรัสเอชไอวี (HIV) ไวรัสเอชพีวี (HPV)
• ติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด อาทิ เชื้อเอชไพโลริในกระเพาะอาหาร
• ติดเชื้อพยาธิบางชนิด อาทิ พยาธิใบไม้ตับ
• มีการใช้ยาฮอร์เพศอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
• อยู่ในวัยสุงอายุ เนื่องจากอายุที่มากขึ้น เซลล์ในผู้สูงอายุก็จะมีการเสื่อมและ
ซ่อมแซมตัวเองอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสาเหตุให้เซลล์กลายพันธ์ไปเป็น
เซลล์มะ๶ร็งได้ง่าย
มะ๶ร็ง ต่างจากเนื้องอกอย่างไร ?
• บางคนอาจจะยังมีความสงสัยอยู่ว่าการเป็นโรคมะ๶ร็งกับการเป็นเนื้องอก
นั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร ในตอนนี้เราจะมาพูดถึงความแตกต่างของ
ทั้งสองอาการให้เห็นกันชัดๆ โรคมะ๶ร็งนั้นจะต่างจากการเป็นเนื้องอกก็
ตรงที่ ก้อนเนื้อ หรือแผลที่เป็นมะ๶ร็งนั้นจะลุกลามเข้าสู่อวัยวะข้างเคียงได้
เร็วกว่า เข้าต่อมน้าเหลือ แพร่กระจายเข้าสู่หลอดเลือด เข้าสู่กระแสเลือด
ตลอดจนหลอดน้าเหลืองต่อเนื่องไปยังอวัยวะต่างๆ ได้ทั่วร่างกาย โดยมาก
มักแพร่สู่ปอด ตับ สมอง กระดูก และไขกระดูก ฉะนั้น โรคมะ๶ร็งจึอาจมอง
ได้ว่าเป็นโรคที่เรื้อรัง รุนแรง มีการรักษาที่ซับซ้อนและต้องทาอย่าง
ต่อเนื่อง
มะ๶ร็ง ต่างจากเนื้องอกอย่างไร ?
• เนื้องอก หรือโรคเนื้องอก อันได้แก่ การมีก้อนเนื้อที่ผิดปกติ จะแตกต่าง
จากก้อนเนื้อของมะ๶ร็งตรงที่ก้อนเนื้อนั้นโตช้า ไม่ลุกลามเข้าเนื้อเยื่อ หรือ
อวัยวะข้างเคียง ไม่ลุกลามเข้าต่อมน้าเหลือง ไม่แพร่กระจายทางกระแส
โลหิต ตลอดจนกระแสน้าเหลือง ฉะนั้น การเป็นเนื้องอกทาการรักษาให้
หายได้โดยการผ่าตัด
• คราวนี้เมื่อรู้ถึงที่มาที่ไปของโรคมะ๶ร็งแล้ว เรามาดูกันซิว่าการรับประทาน
ประเภทไหนบ้างที่จะช่วยให้เรานั้นห่างไกล หรือมีโอกาสเสี่ยงจะเป็น
โรคมะ๶ร็งได้น้อยลง
ผัก
• ผักหลายชนิดที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะ๶ร็ง เพราะอุดมไปด้วย
สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น
- ผักสีเข้ม ไม่ว่าจะเป็นสีเขียว ส้ม แดง ม่วง เช่น ผักโขม แครอท มะเขือเทศ
- กะหล่าต่างๆ เช่น กะหล่าปลี บล็อกโคลี กะหล่าดอก
- หัวหอม และกระเทียม
มะ๶ร็ง รักษาหายหรือไม่ ?
• โรคมะ๶ร็ง นั้นเป็นโรคที่รักษาไม่หาย หรือเป็นโรคที่รักษาให้หายขาดยาก
เพราะเท่าที่ได้มีการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวเรื่องโรคมะ๶ร็งมา พบว่า โรคนี้เป็น
โรคที่สามารถรักษาให้หายได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น โอกาสในการรักษาให้หายก็
ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่อไปนี้ ..
ปัจจัย
• ระยะของโรค
• ชนิดของเซลล์มะ๶ร็ง
• วิธีการรักษา สามารถผ่าตัดได้หรือไม่ หากผ่าตัดได้ จะสามารถนาก้อนมะ๶ร็งออกได้ทั้งหมดหรือไม่
• มะ๶ร็งชนิดที่พบในผู้ป่วย เป็นชนิดที่ดื้อต่อรังสีรักษา และ/หรือยาเคมีบาบัด และ/หรือยาที่ใช้รักษาตรงเป้าหรือไม่
• ช่วงอายุ
• สุขภาพของผู้ป่วย
• โรคมะ๶ร็งระยะ 0 โอกาสหายจะอยู่ที่ 90 - 95%
• โรคมะ๶ร็งระยะที่ 1 โอกาสหายจะอยู่ที่ 70 - 90%
• โรคมะ๶ร็งระยะที่ 2 โอกาสหายจะอยู่ที่ 70 - 80%
• โรคมะ๶ร็งระยะที่ 3 โอกาสหายจะอยู่ที่ 20 - 60%
• โรคมะ๶ร็งระยะที่ 4 โอกาสหายจะอยู่ที่ 0 - 15%
10ผักต้านมะ๶ร็ง
คะน้า Kale
• คะน้า (ผักต้านมะ๶ร็ง) ผักคะน้าเป็นผักที่รับประทานได้ทั้งสด และนาไป
ปรุงเป็นอาหาร โดยเฉพาะการนาคะน้ามาลอกเปลือกออก แช่น้าแข็งให้
เย็นเจี๊ยบ ก็จะได้คะน้าที่กรอบอร่อย อีกทั้งมีประโยชน์ในด้านการยับยั้ง
มะ๶ร็ง เนื่องจากในคะน้ามีเบต้าแคโรทีนมาก
HOME
ตาลึงGlazed
• ตาลึง (ผักต้านมะ๶ร็ง) ผักริมรั้วสาหรับคนที่อยู่ในชนบท อร่อย ทั้งนามา
ทาเป็นแกงจืด หรือทานแบบลวกจิ้มกับน้าพริก ตาลึงเป็นผักที่มีวิตามินเอ
แคลเซียม และฟอสฟอรัส ซึ่งมีสรรพคุณป้องกันโรคได้หลายชนิด รวมถึง
ช่วยป้องกันโรคมะ๶ร็งได้อีกด้วย
HOME
มะระขี้นก Bitter gourd
• มะระขี้นก (ผักต้านมะ๶ร็ง) ใครจะคิดว่า มะระลูกเล็กๆ ที่นิยมนามาลวก
ทานกับน้าพริก จะมีวิตามินเอสูง และมีสาระสาคัญที่ช่วยในการต้านเชื้อ
ไวรัส รวมถึงฆ่าเซลล์มะ๶ร็งได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะมะ๶ร็งเต้านม โรคร้ายที่
เป็นภัยกับผู้หญิง นอกจากนี้มะระขี้นกยังมีคุณสมบัติเด่นในการฆ่า
เซลล์มะ๶ร็งสมองได้อีกด้วย
HOME
บัวบก Centipede
• บัวบก (ผักต้านมะ๶ร็ง) ค่อนข้างเป็นพืชสมุนไพรที่นิยมปลูกเพื่อใช้
รับประทานเป็นยา บัวบกมีวิตามินเอ วิตามินบี1 และแคลเซียมสูง
สารสาคัญในบัวบกคือ "กลัยโคไซด์" ที่ช่วยในเรื่องของผิวพรรณ ช่วยให้
ผิวแข็งแรง และบรรเทาอาการเส้นเลือดขอด นอกจากนี้สารสกัดจากใบ
บัวบก ล้วนมีสรรพคุณช่วยยับยั้งการแพร่ขยายของแบคทีเรีย ช่วยระงับ
การอักเสบ และทาลายเซลล์มะ๶ร็งได้ ซึ่งบัวบกสามารถนาไปคั้นเป็นน้าดื่ม
หรือจะกินสด เป็นผักเคียงจิ้มน้าพริกกับอาหารรสแซ่บได้ดี
HOME
ใบแป๊ะก๊วย Ginkgo
• ใบแป๊ะก๊วย (ผักต้านมะ๶ร็ง) อาหารเสริมบารุง
สมองตัวนี้มีชื่อเสียงมานานพอสมควร เหมาะ
สาหรับผู้ที่มีอาการเหนื่อยล้า ต้องเผชิญกับภาวะ
แวดล้อมที่ต้องใช้สมองมาก สารอาหารสาคัญที่ทา
ให้สมองตื่นตัวในใบแป๊ะก๊วยจะช่วยให้เลือดไหลไป
เลี้ยงสมองดีขึ้น ไม่เป็นโรคความจาเสื่อม อัลไซ
เมอร์ที่ระยะหลังมีคนเป็นกันมากขึ้น นอกจาก
แป๊ะก๊วยจะช่วยบารุงสมองแล้ว แป๊ะก๊วยยังเป็นผัก
ต้านมะ๶ร็งอีกด้วย เนื่องจากแป๊ะก๊วยช่วยกาจัด
อนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุให้เกิดมะ๶ร็งนั่นเอง
HOME
กะหล่าปลี cabbage
หัวผักกาด Turnip
• กะหล่าปลี หัวผักกาด (ผักต้านมะ๶ร็ง) หรือผักอื่นที่มี
คุณสมบัติในการช่วยกาจัดอนุมูลอิสระในร่างกาย ผัก
พวกนี้จะมีซิลีเนียม เป็นตัวที่สามารถยับยั้งหรือ
ป้องกันการเกิดมะ๶ร็งเต้านม ทั้งลดไม่ให้เกิด
ก้อนมะ๶ร็งเพิ่มขึ้น โดยที่สารในผักเหล่านี้ จะมี
คุณสมบัติในการกระตุ้นเอนไซม์ที่มีหน้าที่กาจัด
สารพิษออกจากร่างกาย สารพิษที่พร้อมจะเปลี่ยน
เซลล์ดีๆ ให้กลายเป็นเซลล์มะ๶ร็ง อีกอย่างหนึ่งที่
น่าสนใจก็คือ ในหัวผักกาดนั้น มีสารที่ช่วยทาให้ก้อน
เนื้องอกเล็กลงด้วย โอกาสที่จะกลายเป็นเซลล์มะ๶ร็ง
จึงน้อยลง
HOME
เห็ดหลินจือ Lacquered
• เห็ดหลินจือ (ผักต้านมะ๶ร็ง) หรือชื่อเรียกอื่นๆ
คือ เห็ดหมื่นปี หรือเห็ดอมตะอาหารสุขภาพที่
ขึ้นชื่อและเป็นที่นิยมนามาเป็นส่วนประกอบ
ของอาหารเสริมอีกชนิดหนึ่ง เนื่องจากในเห็ด
หลินจือมีสารพวก โพลีแซคคาไรด์ชนิดเบต้า
ดี-กลูแคน ที่สถาบันมะ๶ร็งแห่งชาติ ค้นพบว่า
มีฤทธิ์ช่วยให้ร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีและ
ต้านพิษที่เกิดจากการฉายรังสี จึงเชื่อว่าการใช้
เห็ดหลินจือจะช่วยชะลอการลุกลามของมะ๶ร็ง
ได้
HOME
คื่นช่าย celery
ผักชีฝรั่งParsley
• คื่นช่าย ผักชีฝรั่ง(ผักต้านมะ๶ร็ง) รวมถึงผักสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมแรง
หรือที่บางคนอาจรู้สึกว่ามันมีกลิ่นฉุนก็ตาม ผักเหล่านี้นิยมใช้ปรุง
อาหารเพื่อช่วยดับกลิ่นคาว ใส่ในน้าซุปเพื่อช่วยให้มีความหอมเพิ่มขึ้น
โดยตัวของมันเองมีสรรพคุณทางยา ช่วยรักษาโรคมากมาย เฉพาะใน
เรื่องของการป้องกันมะ๶ร็ง คื่นช่ายมีสารโพลิผีนอล ป้องกัน DNA ถูก
ทาลาย อีกทั้งช่วยลดการอักเสบ ป้องกันมะ๶ร็งและยับยั้งการกลาย
พันธุ์ของมะ๶ร็งในร่างกายได้เป็นอย่างดี
HOME
โหระพา basil
• โหระพา (ผักต้านมะ๶ร็ง) เจ้าผักใบเขียวที่เราคุ้นเคยในก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ด
ชนิดนี้มีกลิ่นหอมแรง มีคุณค่าทางอาหารและสรรพคุณเป็นยารักษาโรค
โหระพาในปัจจุบันนิยมนามาทาเป็นน้ามันหอมระเหย น้ามันโหระพาช่วยฆ่า
เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อไวรัสรวมถึงป้องกันมะ๶ร็งได้ดีอีกด้วย
HOME
ตะไคร้ lemon grass
• ตะไคร้ (ผักต้านมะ๶ร็ง) ในตะไคร้มีแคลเซียม
และฟอสฟอรัสที่มีคุณสมบัติป้องกันการเกิด
มะ๶ร็งทางเดินอาหารในระยะเริ่มต้น เมื่อทราบ
เช่นนี้แล้ว ต่อไปคงไม่เขี่ยตะไคร้ซอยที่โรยหน้า
อาหารกันอีกแล้วนะ เพราะนั่นเป็นประโยชน์
ป้องกันมะ๶ร็งล้วนๆ
HOME
15ผลไม้ต้านมะ๶ร็ง
ผลไม้ต้านมะ๶ร็ง
ผลไม้หลายชนิดที่เราคุ้นลิ้นกันมาตั้งแต่เด็ก สามารถกินเป็นยาป้องกันมะ๶ร็ง
ได้อีกทางหนึ่งด้วย
ทับทิม
ทับทิมไม่ได้มีแค่ไฟโตนิวเทรียนต์เท่านั้น แต่ยังพกกรดเอลลาจิก (Ellagic
Acid) ซึ่งเป็นกรดที่ช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในร่างกายมนุษย์
รวมทั้งยับยั้งการขยายของเซลล์ผิดปกติที่อาจจะกลายเป็นเซลล์มะ๶ร็ง โดย
สถาบันมะ๶ร็งแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา ยังบอกเพิ่มเติมด้วยว่า สาร
เอลลาจิกในทับทิม สามารถป้องกันโรคมะ๶ร็งปากมดลูกของผู้หญิงได้เป็น
อย่างดีเลยทีเดียว รู้อย่างนี้แล้วสาว ๆ อยากจะกินทับทิมกันแล้วใช่ไหม
มะขามป้อม
จากข้อมูลของมูลนิธิหมอชาวบ้าน เราก็พบว่า มะขามป้อมเป็นผลไม้อีกชนิดที่
มีกรดเอลลาจิก (Ellagic Acid) แฝงอยู่ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีวิตามินสูง
มาก จนเกือบจะเป็นราชาผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีเลยทีเดียวล่ะ แถมยัง
พ่วงกรดฟิลเลมลิก (Phyllemblic Acid) และสารฟีนอล (Phenols) มา
เป็นเพื่อนด้วย ซึ่งก็หมายความว่า มะขามป้อมเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณช่วย
ป้องกันมะ๶ร็งกับเขาได้เหมือนกันนั่นเอง
มันเทศ (Sweet Potato)
ในที่นี้อาจจะรวมไปถึงมันฝรั่งพันธุ์ต่าง ๆ ด้วยนะคะ ที่ศูนย์มันฝรั่งระหว่างประเทศ
(The International Potato Center : CIP) เขายืนยันเป็นมั่นเหมาะว่า มัน
ฝรั่งเกือบทุกชนิดมีคุณสัมบัติป้องกันมะ๶ร็งได้
โดยอธิบายว่า มันฝรั่งอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต, เบต้าแคโรทีน, ไฟเบอร์, วิตามินเอ
, วิตามินซี, ไรโบฟลาวิน (วิตามินบีชนิดหนึ่ง), กรดโพลีฟีนอล แอนตี้ออกซิแดนท์
คาเฟอิก (Polyphenol Anti-oxidants Caffeic Acid) และกรดคาเฟ
โออิวควินิก (Caffeoylquinic Acid) ซึ่งช่วยป้องกันโรคมะ๶ร็ง รวมทั้งลดความ
เสี่ยงโรคมะ๶ร็งเต้านม
มะละกอ
ผลมะละกอดิบมีวิตามินเอ และสารเบต้าเคโรทีน ช่วยบารุงสายตาและ
ช่วยต้านโรคมะ๶ร็ง อีกทั้งยังมีวิตามินซี, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, และเหล็กซึ่งช่วย
ป้องกันและรักษาโรคหวัด โรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตามไรฟันและใต้ผิวหนัง
นอกจากนี้ยังมีเอนไซม์พาเพน ซึ่งสามารถนามาเป็นยาช่วยย่อยสาหรับผู้ที่มีปัญหา
อาหารไม่ย่อย รวมทั้งช่วยกระตุ้นน้านมสาหรับคุณแม่ที่เพิ่งคลอดอีกด้วย
แต่ที่น่าสนใจก็คือ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฟลอริด้า ได้ทาการศึกษาและ
พบว่า คุณประโยชน์เหล่านี้ในผลมะละกอไม่ว่าจะดิบ หรือสุก สามารถช่วยป้องกัน
โรคมะ๶ร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเข้าไปยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก
หรือเซลล์ผิดปกติที่ทาท่าว่าจะเป็นเซลล์ก่อมะ๶ร็ง ที่สาคัญยังเจ๋งขนาดป้องกันได้ทั้ง
มะ๶ร็งปากมดลูก, มะ๶ร็งเต้านม, มะ๶ร็งตับ และมะ๶ร็งตับอ่อนเลยทีเดียวนะจ๊ะ
แก้วมังกร
ผลไม้ไทย ๆ อย่างแก้วมังกร มีสารต้านมะ๶ร็งกับเขาด้วย แต่ทั้งนี้ผล
การศึกษาจากศูนย์วิจัยสารต้านอนุมูลอิสระก็แนะนาว่า สารสกัดจากเปลือก
แก้วมังกรสีสด ๆ มีศักยภาพในการป้องกันมะ๶ร็งดีกว่าการรับประทานผลสด
ซะอย่างนั้น แต่อย่างไรก็แล้วแต่ การรับประทานแก้วมังกรเป็นประจาก็
สามารถป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด และช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายเราได้
เป็นอย่างดีอยู่แล้วเนอะ
มังคุด
มังคุดเป็นผลไม้สัญชาติไทยแท้ที่หากินได้ง่ายในบ้านเรา ซึ่งผลการวิจัย
โดย Current Molecular Medicine ก็บอกข่าวดีกับเราว่า ในมังคุดมีสารต้าน
เซลล์มะ๶ร็งที่น่าสนใจนั่นก็คือ สารที่เรียกว่า แซนโทน (XANTHONE) ซึ่งเป็นสาร
ต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถซ่อมแซมเซลล์ส่วนมี่ถูก
ทาลายโดยปัจจัยต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี จึงถูกยอมรับว่าเป็นสารที่ช่วยต้าน
เซลล์มะ๶ร็งตัวจี๊ดที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว ทั้งนี้นอกจากกินผลสด ๆ แล้ว เรายัง
สามารถนาเปลือกมังคุดไปทาเป็นไวน์ไว้ดื่มได้อีกอย่างหนึ่งด้วยนะคะ
องุ่น
มหาวิทยาลัยเวย์นสเตต (Wayne State University) ทาการศึกษา
คุณสมบัติขององุ่นกับการต้านมะ๶ร็งและพบว่า จากหลักฐานที่ทดลองกับมนุษย์มา
อย่างยาวนาน สามารถพิสูจน์ได้ว่า วิตามินและสารอาหารที่พบในองุ่นทุกชนิด มีผล
โดยตรงในการป้องกันโรคมะ๶ร็ง อีกทั้งองุ่นยังมีสารอาหารที่สาคัญที่ดีคือน้าตาล
และสารอาหารจาพวกกรดอินทรีย์ เช่น น้าตาลกลูโคส น้าตาลซูโครส วิตามินซี
เหล็กและแคลเซียม มีส่วนช่วยในการบารุงสมอง บารุงหัวใจ แก้กระหาย ขับ
ปัสสาวะ และช่วยฟื้นกาลังคนที่ร่างกายผอมแห้ง แก่ก่อนวัยและไม่มีเรี่ยวแรงด้วย
ส้ม และผลไม้ตระกูลส้มทุกชนิด
นอกจากจะอัดแน่นไปด้วยกรดวิตามินซีแล้ว ในผลไม้จาพวกส้มยังมี
คุณสมบัติต้านมะ๶ร็ง โดยเฉพาะป้องกันมะ๶ร็งเต้านม โดยข้อมูลทั้งหมดผ่าน
การรับรองและยืนยันความน่าเชื่อถือจากผลการศึกษาของมหาวิทยาลัย
เทกซัสเอแอนด์เอ็ม (Texas A&M University) แล้วด้วยนะจ๊ะ
แอปเปิล
สถาบัน Advances in Nutrition ได้ทาการวิจัยและพบว่า
แอปเปิลเป็นผลไม้ที่มีคุณประโยชน์ในเรื่องของการลดความเสี่ยงโรคมะ๶ร็ง อีก
ทั้งยังป้องกันโรคมะ๶ร็งได้ตั้งแต่สาเหตุของโรคเลยทีเดียว เนื่องจากสารฟลาโว
นอยด์ในปริมาณที่สูงมากของเปลือกแอปเปิล สามารถล้างพิษออกจาก
ร่างกาย และช่วยป้องกันอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของโรคมะ๶ร็งลาไส้ได้นั่นเอง
สตรอว์เบอร์รี
ไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) หรือสารพฤษเคมี บวกกับ
วิตามินซี และแร่ธาตุดี ๆ อีกหลายชนิดในสตรอว์เบอร์รี ก็เป็นส่วนสาคัญใน
การต้านเซลล์มะ๶ร็ง และมีสรรพคุณบาบัดโรค โดยเฉพาะป้องกันโรคมะ๶ร็งเต้า
นมของคุณผู้หญิง การันตีโดยผลวิจัยที่เว็บไซต์ Exan Health ได้นามา
เผยแพร่จ้า
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี
จริง ๆ แล้วผลไม้ตระกูลเบอร์รีทุกชนิดมีสารที่ช่วยป้องกันโรคมะ๶ร็ง
ได้เกือบทั้งหมด แต่ดอกเตอร์แกรี่ ดี สโตเนอร์ คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์
มหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอไฮโอ (The Ohio State University College of
Medicine) ชี้แจงว่า ในผลแบล็กเบอร์รีจะมีคุณสมบัติต้านมะ๶ร็งที่โดดเด่นกว่า
ใครเพื่อน เนื่องจากมีสารพฤษเคมีจาพวกแอนโทไซยานิน (Anthocyanins)
สูง ซึ่งช่วยชะลอการเกิดเซลล์มะ๶ร็ง แถมยังสามารถป้องกันการเกิดมะ๶ร็ง
ลาไส้ได้อีกต่างหาก
เลมอน
นักวิจัยจากประเทศออสเตรเลียเผยว่า วิตามินซี และกรดหลากชนิด
ในผลเลมอน สามารถป้องกันมะ๶ร็งช่องปาก, มะ๶ร็งลาคอ และมะ๶ร็งในช่อง
ท้องได้ หากดื่มน้าเลมอนคั้นสดวันละ 1 แก้วกาแฟเป็นประจาทุกวัน และ
แม้ว่าเลมอนจะไม่ใช่ผลไม้สัญชาติไทยแท้ แต่เลมอนก็ไม่ใช่ผลไม้ที่หายากใน
บ้านเราซะทีเดียว
อะโวคาโด
จากการศึกษาของวารสาร Experimental Therapeutics &
Oncology พบว่า สารพฤษเคมีในผลอะโวคาโดมีส่วนช่วยป้องกันความ
ผิดปกติที่เกิดจากเซลล์ ปกป้องเซลล์ในร่างกายไม่ได้เกิดเนื้อร้าย กาจัดเซลล์ที่
ตายแล้ว รวมทั้งยับยั้งการเจิญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติ และกาลังจะเติบโต
เป็นเนื้อร้ายได้อีกด้วย
กีวี
วารสาร Ethnopharmacology เผยว่า ผลไม้ที่อัดแน่นไปด้วยสาร
ต้านอนุมูลอิสระ, วิตามินซี, วิตามินอี, ลูเตียน (Lutein) และสังกะสีชนิดนี้ มี
ประสิทธิภาพมากพอจะต้านเซลล์มะ๶ร็งได้อยู่หมัด เพียงแค่กินกีวีสดวันละครึ่ง
ลูกก็เท่ากับกินยาต้านมะ๶ร็งเกรดพรีเมียมเข้าไปแล้วล่ะจ้า
• มะเขือเทศ
มะเขือเทศอาจจะก้ากึ่งระหว่างผักและผลไม้ แต่ประเด็นนั้นไม่น่าสนใจ
เท่ากับผลวิจัยที่สถาบันวิจัยโรคมะ๶ร็งอเมริกาพบว่า มะเขือเทศมีคุณสัมบัติป้องกัน
โรคมะ๶ร็งต่อมลูกหมาก รวมไปถึงมะ๶ร็งปอด, มะ๶ร็งเต้านม และมะ๶ร็งมดลูกได้
ชะงัด
เนื่องจากในมะเขือเทศลูกสีแดงแจ๊ดอุดมไปด้วยไลโคปีน ซึ่งเป็นสารต้าน
อนุมูลอิสระที่เรียกกันว่า ตระกูลสารสีแดง และสารพฤกษเคมี รวมไปถึงวิตามิน
และเกลือแร่อีกหลายชนิด ที่ช่วยบารุงเซลล์ในร่างกายให้ทางานอย่างปกติ ซึ่ง
เมื่อไรที่มีเซลล์ใดเซลล์หนึ่งเกิดความผิดปกติขึ้น เจ้าสารบารุงต่าง ๆ ก็จะเข้าไป
จัดการไม่ให้เซลล์ร้ายเจริญเติบโตลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ ในร่างกายเรานั่นเองจ้า
แหล่งอ้างอิง
ข้อมูล : http://sukkaphap-d.com
รูปภาพ : https://fb1-cb.lnwfile.com/_/cb/_raw/s8/ef/w2.jpg
https://policy.pinterest.com/en/privacy-policy
https://www.sanook.com/health/2601/
HOME

More Related Content

What's hot (15)

อาหารแลก๶ปลี่ยนและอาหาร๶พื่อสุขภาพ
อาหารแลก๶ปลี่ยนและอาหาร๶พื่อสุขภาพอาหารแลก๶ปลี่ยนและอาหาร๶พื่อสุขภาพ
อาหารแลก๶ปลี่ยนและอาหาร๶พื่อสุขภาพ
pasutitta
Food for CKD
Food for CKDFood for CKD
Food for CKD
Pha C
กินอย่างไรลดโรค ลดพุง
กินอย่างไรลดโรค ลดพุงกินอย่างไรลดโรค ลดพุง
กินอย่างไรลดโรค ลดพุง
techno UCH
อาหารบำบัดโรคไต
อาหารบำบัดโรคไตอาหารบำบัดโรคไต
อาหารบำบัดโรคไต
chalunthorn teeyamaneerat
การดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังใȨรงพยาบาลบางละมุง
การดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังใȨรงพยาบาลบางละมุงการดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังใȨรงพยาบาลบางละมุง
การดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังใȨรงพยาบาลบางละมุง
Rachanont Hiranwong
CVD Brochure
CVD BrochureCVD Brochure
CVD Brochure
Pha C
๶ห็ึϸามอย่าง
๶ห็ึϸามอย่าง๶ห็ึϸามอย่าง
๶ห็ึϸามอย่าง
u musics
โรงพยาบาลธรรมชาติ
โรงพยาบาลธรรมชาติโรงพยาบาลธรรมชาติ
โรงพยาบาลธรรมชาติ
หมอ เดือน
อาหารเพื่อสุขภาพ
อาหารเพื่อสุขภาพอาหารเพื่อสุขภาพ
อาหารเพื่อสุขภาพ
Dashodragon KaoKaen
โรงพยาบาลธรรมชาติ
โรงพยาบาลธรรมชาติโรงพยาบาลธรรมชาติ
โรงพยาบาลธรรมชาติ
Akkanath J.
อาหารแลก๶ปลี่ยนและอาหาร๶พื่อสุขภาพ
อาหารแลก๶ปลี่ยนและอาหาร๶พื่อสุขภาพอาหารแลก๶ปลี่ยนและอาหาร๶พื่อสุขภาพ
อาหารแลก๶ปลี่ยนและอาหาร๶พื่อสุขภาพ
pasutitta
Food for CKD
Food for CKDFood for CKD
Food for CKD
Pha C
กินอย่างไรลดโรค ลดพุง
กินอย่างไรลดโรค ลดพุงกินอย่างไรลดโรค ลดพุง
กินอย่างไรลดโรค ลดพุง
techno UCH
การดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังใȨรงพยาบาลบางละมุง
การดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังใȨรงพยาบาลบางละมุงการดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังใȨรงพยาบาลบางละมุง
การดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังใȨรงพยาบาลบางละมุง
Rachanont Hiranwong
CVD Brochure
CVD BrochureCVD Brochure
CVD Brochure
Pha C
๶ห็ึϸามอย่าง
๶ห็ึϸามอย่าง๶ห็ึϸามอย่าง
๶ห็ึϸามอย่าง
u musics
โรงพยาบาลธรรมชาติ
โรงพยาบาลธรรมชาติโรงพยาบาลธรรมชาติ
โรงพยาบาลธรรมชาติ
หมอ เดือน
อาหารเพื่อสุขภาพ
อาหารเพื่อสุขภาพอาหารเพื่อสุขภาพ
อาหารเพื่อสุขภาพ
Dashodragon KaoKaen
โรงพยาบาลธรรมชาติ
โรงพยาบาลธรรมชาติโรงพยาบาลธรรมชาติ
โรงพยาบาลธรรมชาติ
Akkanath J.

Similar to 10 ผักต้านมะ๶ร็ง (20)

โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์
benze2542
โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์
benze2542
โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์
benze2542
โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์
benze2542
โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์
benze2542
โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์
benze2542
ผลไม้เมืองร้อน มากคุณค่า
ผลไม้เมืองร้อน มากคุณค่าผลไม้เมืองร้อน มากคุณค่า
ผลไม้เมืองร้อน มากคุณค่า
Seew609
โรคมะ๶ร็ง
โรคมะ๶ร็งโรคมะ๶ร็ง
โรคมะ๶ร็ง
santti2055
เรื่องน่ารู้ของผัก ผลไม้
เรื่องน่ารู้ของผัก ผลไม้เรื่องน่ารู้ของผัก ผลไม้
เรื่องน่ารู้ของผัก ผลไม้
Smile Chotika
การรักษามะ๶ร็งตับ
การรักษามะ๶ร็งตับการรักษามะ๶ร็งตับ
การรักษามะ๶ร็งตับ
โฮลลี่ เมดิคอล
ตัวอย่างบทที่ 2 วิทยานิพนธ์เว็บไซต์เพื่อสุขภาพ
ตัวอย่างบทที่ 2 วิทยานิพนธ์เว็บไซต์เพื่อสุขภาพตัวอย่างบทที่ 2 วิทยานิพนธ์เว็บไซต์เพื่อสุขภาพ
ตัวอย่างบทที่ 2 วิทยานิพนธ์เว็บไซต์เพื่อสุขภาพ
rubtumproject.com
การส่งเสริมสุขภาพ หน่วย 5
การส่งเสริมสุขภาพ หน่วย 5การส่งเสริมสุขภาพ หน่วย 5
การส่งเสริมสุขภาพ หน่วย 5
primpatcha
การส่งเสริมสุขภาพ หน่วย 5
การส่งเสริมสุขภาพ หน่วย 5การส่งเสริมสุขภาพ หน่วย 5
การส่งเสริมสุขภาพ หน่วย 5
primpatcha
อาหารกับสารเคมีที่ก่อให้๶กิึϸะเร็ง.
อาหารกับสารเคมีที่ก่อให้๶กิึϸะเร็ง.อาหารกับสารเคมีที่ก่อให้๶กิึϸะเร็ง.
อาหารกับสารเคมีที่ก่อให้๶กิึϸะเร็ง.
pitsanu duangkartok
Riovida the river of life
Riovida the river of lifeRiovida the river of life
Riovida the river of life
4LIFEYES
Riovida the river of life
Riovida the river of lifeRiovida the river of life
Riovida the river of life
4LIFEYES
มิกซ์ไฟเบอร์
 มิกซ์ไฟเบอร์ มิกซ์ไฟเบอร์
มิกซ์ไฟเบอร์
manasapat
Healthy Food
Healthy FoodHealthy Food
Healthy Food
theeraphatluongbun
โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์
benze2542
โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์
benze2542
โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์
benze2542
โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์
benze2542
โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์
benze2542
โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์โรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์
benze2542
ผลไม้เมืองร้อน มากคุณค่า
ผลไม้เมืองร้อน มากคุณค่าผลไม้เมืองร้อน มากคุณค่า
ผลไม้เมืองร้อน มากคุณค่า
Seew609
โรคมะ๶ร็ง
โรคมะ๶ร็งโรคมะ๶ร็ง
โรคมะ๶ร็ง
santti2055
เรื่องน่ารู้ของผัก ผลไม้
เรื่องน่ารู้ของผัก ผลไม้เรื่องน่ารู้ของผัก ผลไม้
เรื่องน่ารู้ของผัก ผลไม้
Smile Chotika
ตัวอย่างบทที่ 2 วิทยานิพนธ์เว็บไซต์เพื่อสุขภาพ
ตัวอย่างบทที่ 2 วิทยานิพนธ์เว็บไซต์เพื่อสุขภาพตัวอย่างบทที่ 2 วิทยานิพนธ์เว็บไซต์เพื่อสุขภาพ
ตัวอย่างบทที่ 2 วิทยานิพนธ์เว็บไซต์เพื่อสุขภาพ
rubtumproject.com
การส่งเสริมสุขภาพ หน่วย 5
การส่งเสริมสุขภาพ หน่วย 5การส่งเสริมสุขภาพ หน่วย 5
การส่งเสริมสุขภาพ หน่วย 5
primpatcha
การส่งเสริมสุขภาพ หน่วย 5
การส่งเสริมสุขภาพ หน่วย 5การส่งเสริมสุขภาพ หน่วย 5
การส่งเสริมสุขภาพ หน่วย 5
primpatcha
อาหารกับสารเคมีที่ก่อให้๶กิึϸะเร็ง.
อาหารกับสารเคมีที่ก่อให้๶กิึϸะเร็ง.อาหารกับสารเคมีที่ก่อให้๶กิึϸะเร็ง.
อาหารกับสารเคมีที่ก่อให้๶กิึϸะเร็ง.
pitsanu duangkartok
Riovida the river of life
Riovida the river of lifeRiovida the river of life
Riovida the river of life
4LIFEYES
Riovida the river of life
Riovida the river of lifeRiovida the river of life
Riovida the river of life
4LIFEYES
มิกซ์ไฟเบอร์
 มิกซ์ไฟเบอร์ มิกซ์ไฟเบอร์
มิกซ์ไฟเบอร์
manasapat

More from Tcnk Pond (6)

Fantastic dolphins
Fantastic dolphinsFantastic dolphins
Fantastic dolphins
Tcnk Pond
Fantastic dolphins
Fantastic dolphinsFantastic dolphins
Fantastic dolphins
Tcnk Pond
กิจกรรมที่4 โครงงาȨอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่4 โครงงาȨอมพิวเตอร์กิจกรรมที่4 โครงงาȨอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่4 โครงงาȨอมพิวเตอร์
Tcnk Pond
project มหัศจรรย์โลมา
project มหัศจรรย์โลมา project มหัศจรรย์โลมา
project มหัศจรรย์โลมา
Tcnk Pond
Pondprofile
PondprofilePondprofile
Pondprofile
Tcnk Pond
Pondprofile
PondprofilePondprofile
Pondprofile
Tcnk Pond
Fantastic dolphins
Fantastic dolphinsFantastic dolphins
Fantastic dolphins
Tcnk Pond
Fantastic dolphins
Fantastic dolphinsFantastic dolphins
Fantastic dolphins
Tcnk Pond
กิจกรรมที่4 โครงงาȨอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่4 โครงงาȨอมพิวเตอร์กิจกรรมที่4 โครงงาȨอมพิวเตอร์
กิจกรรมที่4 โครงงาȨอมพิวเตอร์
Tcnk Pond
project มหัศจรรย์โลมา
project มหัศจรรย์โลมา project มหัศจรรย์โลมา
project มหัศจรรย์โลมา
Tcnk Pond

10 ผักต้านมะ๶ร็ง

  • 2. จัดทาโดย นางสาวธัชพรรณ กันทะสอน ม.6/10 เลขที่32 นางสาวชลันธร อินต๊ะวงค์ ม.6/10 เลขที่37
  • 5. มะ๶ร็ง คืออะไร ? มะ๶ร็ง คือ โรคชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นจากเซลล์ที่ผิดปกติในร่างกาย ซึ่งเซลล์เหล่านี้ จะมีการเจริญเติบโตรวดเร็วกว่าปกติ ร่างกายไม่สามารถควบคุมได้ ฉะนั้น เซลล์ที่ผิดปกติเหล่านี้จึงสามารถแพร่กระจายและลุกลามไปทั่วร่างกาย มีผล ทาให้เซลล์ปกติของเนื้อเยื่อ รวมถึงอวัยวะต่างๆ ไม่สามารถทางานได้ ตามปกติ ก่อให้เกิดโรคและมีอาการต่างๆ เกิดขึ้นตามมา หากว่าเกิดมะ๶ร็งใน อวัยวะสาคัญๆ หรือเซลล์มะ๶ร็งนั้นได้แพร่กระจายเข้าสู่อวัยวะสาคัญ ทาให้ อวัยวะนั้นๆ ล้มเหลว ทางานได้ไม่ปกติ จนอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้ในที่สุด อวัยวะสาคัญที่อาจเป็นเป้าหมายของเซลล์มะ๶ร็ง ได้แก่ ตับ ปอด สมอง กระดูก ไขกระดูก และไต
  • 6. มะ๶ร็ง เกิดขึ้นได้อย่างไร สาเหตุของการเกิดมะ๶ร็งนั้นยังไม่มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเกิดขึ้นและมีการ แพร่กระจายได้อย่างไร แต่ในปัจจุบันแพทย์ได้มีการวิจัยและพบปัจจัยเสี่ยง หลายประการที่อาจทาให้เกิดมะ๶ร็งได้ ซึ่งก็มีความเชื่อว่าสาเหตุที่ทาให้เกิด น่าจะมาจากปลายปัจจัยเสี่ยงร่วมกัน น้อยมากที่จะเกิดขึ้นจากปัจจัยเดียว โดย ปัจจัยเสี่ยงที่สาคัญของโรคมะ๶ร็ง ได้แก่ ..
  • 7. ปัจจัยเสี่ยงที่สาคัญของโรคมะ๶ร็ง ได้แก่ .. • มีความผิดปกติทางพันธุกรรม เกิดขึ้นได้จากมั้งพันธุกรรมที่มีการถ่ายทอด และไม่ถ่ายทอด • การสูบบุหรี่ • การดื่มเหล้า • ขาดสารอาหารที่จาเป็นต่อร่างกาย • ขาดการกินผักและผลไม้ • กินอาหารจาพวกไขมัน หรือเนื้อแดงต่อเนื่องเป็นประจา • การสูดดมสารพิษบางอย่างเป็นประจา
  • 8. ปัจจัยเสี่ยงที่สาคัญของโรคมะ๶ร็ง ได้แก่ .. • ร่างกายได้รับโลหะหนัก จากการหายใจ อาหาร และ/หรือน้าดื่ม เช่น สารปรอท • ติดเชื้อไวรัสบางชนิด อาทิ ไวรัสเอชไอวี (HIV) ไวรัสเอชพีวี (HPV) • ติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด อาทิ เชื้อเอชไพโลริในกระเพาะอาหาร • ติดเชื้อพยาธิบางชนิด อาทิ พยาธิใบไม้ตับ • มีการใช้ยาฮอร์เพศอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน • อยู่ในวัยสุงอายุ เนื่องจากอายุที่มากขึ้น เซลล์ในผู้สูงอายุก็จะมีการเสื่อมและ ซ่อมแซมตัวเองอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสาเหตุให้เซลล์กลายพันธ์ไปเป็น เซลล์มะ๶ร็งได้ง่าย
  • 9. มะ๶ร็ง ต่างจากเนื้องอกอย่างไร ? • บางคนอาจจะยังมีความสงสัยอยู่ว่าการเป็นโรคมะ๶ร็งกับการเป็นเนื้องอก นั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร ในตอนนี้เราจะมาพูดถึงความแตกต่างของ ทั้งสองอาการให้เห็นกันชัดๆ โรคมะ๶ร็งนั้นจะต่างจากการเป็นเนื้องอกก็ ตรงที่ ก้อนเนื้อ หรือแผลที่เป็นมะ๶ร็งนั้นจะลุกลามเข้าสู่อวัยวะข้างเคียงได้ เร็วกว่า เข้าต่อมน้าเหลือ แพร่กระจายเข้าสู่หลอดเลือด เข้าสู่กระแสเลือด ตลอดจนหลอดน้าเหลืองต่อเนื่องไปยังอวัยวะต่างๆ ได้ทั่วร่างกาย โดยมาก มักแพร่สู่ปอด ตับ สมอง กระดูก และไขกระดูก ฉะนั้น โรคมะ๶ร็งจึอาจมอง ได้ว่าเป็นโรคที่เรื้อรัง รุนแรง มีการรักษาที่ซับซ้อนและต้องทาอย่าง ต่อเนื่อง
  • 10. มะ๶ร็ง ต่างจากเนื้องอกอย่างไร ? • เนื้องอก หรือโรคเนื้องอก อันได้แก่ การมีก้อนเนื้อที่ผิดปกติ จะแตกต่าง จากก้อนเนื้อของมะ๶ร็งตรงที่ก้อนเนื้อนั้นโตช้า ไม่ลุกลามเข้าเนื้อเยื่อ หรือ อวัยวะข้างเคียง ไม่ลุกลามเข้าต่อมน้าเหลือง ไม่แพร่กระจายทางกระแส โลหิต ตลอดจนกระแสน้าเหลือง ฉะนั้น การเป็นเนื้องอกทาการรักษาให้ หายได้โดยการผ่าตัด • คราวนี้เมื่อรู้ถึงที่มาที่ไปของโรคมะ๶ร็งแล้ว เรามาดูกันซิว่าการรับประทาน ประเภทไหนบ้างที่จะช่วยให้เรานั้นห่างไกล หรือมีโอกาสเสี่ยงจะเป็น โรคมะ๶ร็งได้น้อยลง
  • 11. ผัก • ผักหลายชนิดที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะ๶ร็ง เพราะอุดมไปด้วย สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น - ผักสีเข้ม ไม่ว่าจะเป็นสีเขียว ส้ม แดง ม่วง เช่น ผักโขม แครอท มะเขือเทศ - กะหล่าต่างๆ เช่น กะหล่าปลี บล็อกโคลี กะหล่าดอก - หัวหอม และกระเทียม
  • 12. มะ๶ร็ง รักษาหายหรือไม่ ? • โรคมะ๶ร็ง นั้นเป็นโรคที่รักษาไม่หาย หรือเป็นโรคที่รักษาให้หายขาดยาก เพราะเท่าที่ได้มีการค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวเรื่องโรคมะ๶ร็งมา พบว่า โรคนี้เป็น โรคที่สามารถรักษาให้หายได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น โอกาสในการรักษาให้หายก็ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่อไปนี้ ..
  • 13. ปัจจัย • ระยะของโรค • ชนิดของเซลล์มะ๶ร็ง • วิธีการรักษา สามารถผ่าตัดได้หรือไม่ หากผ่าตัดได้ จะสามารถนาก้อนมะ๶ร็งออกได้ทั้งหมดหรือไม่ • มะ๶ร็งชนิดที่พบในผู้ป่วย เป็นชนิดที่ดื้อต่อรังสีรักษา และ/หรือยาเคมีบาบัด และ/หรือยาที่ใช้รักษาตรงเป้าหรือไม่ • ช่วงอายุ • สุขภาพของผู้ป่วย • โรคมะ๶ร็งระยะ 0 โอกาสหายจะอยู่ที่ 90 - 95% • โรคมะ๶ร็งระยะที่ 1 โอกาสหายจะอยู่ที่ 70 - 90% • โรคมะ๶ร็งระยะที่ 2 โอกาสหายจะอยู่ที่ 70 - 80% • โรคมะ๶ร็งระยะที่ 3 โอกาสหายจะอยู่ที่ 20 - 60% • โรคมะ๶ร็งระยะที่ 4 โอกาสหายจะอยู่ที่ 0 - 15%
  • 15. คะน้า Kale • คะน้า (ผักต้านมะ๶ร็ง) ผักคะน้าเป็นผักที่รับประทานได้ทั้งสด และนาไป ปรุงเป็นอาหาร โดยเฉพาะการนาคะน้ามาลอกเปลือกออก แช่น้าแข็งให้ เย็นเจี๊ยบ ก็จะได้คะน้าที่กรอบอร่อย อีกทั้งมีประโยชน์ในด้านการยับยั้ง มะ๶ร็ง เนื่องจากในคะน้ามีเบต้าแคโรทีนมาก HOME
  • 16. ตาลึงGlazed • ตาลึง (ผักต้านมะ๶ร็ง) ผักริมรั้วสาหรับคนที่อยู่ในชนบท อร่อย ทั้งนามา ทาเป็นแกงจืด หรือทานแบบลวกจิ้มกับน้าพริก ตาลึงเป็นผักที่มีวิตามินเอ แคลเซียม และฟอสฟอรัส ซึ่งมีสรรพคุณป้องกันโรคได้หลายชนิด รวมถึง ช่วยป้องกันโรคมะ๶ร็งได้อีกด้วย HOME
  • 17. มะระขี้นก Bitter gourd • มะระขี้นก (ผักต้านมะ๶ร็ง) ใครจะคิดว่า มะระลูกเล็กๆ ที่นิยมนามาลวก ทานกับน้าพริก จะมีวิตามินเอสูง และมีสาระสาคัญที่ช่วยในการต้านเชื้อ ไวรัส รวมถึงฆ่าเซลล์มะ๶ร็งได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะมะ๶ร็งเต้านม โรคร้ายที่ เป็นภัยกับผู้หญิง นอกจากนี้มะระขี้นกยังมีคุณสมบัติเด่นในการฆ่า เซลล์มะ๶ร็งสมองได้อีกด้วย HOME
  • 18. บัวบก Centipede • บัวบก (ผักต้านมะ๶ร็ง) ค่อนข้างเป็นพืชสมุนไพรที่นิยมปลูกเพื่อใช้ รับประทานเป็นยา บัวบกมีวิตามินเอ วิตามินบี1 และแคลเซียมสูง สารสาคัญในบัวบกคือ "กลัยโคไซด์" ที่ช่วยในเรื่องของผิวพรรณ ช่วยให้ ผิวแข็งแรง และบรรเทาอาการเส้นเลือดขอด นอกจากนี้สารสกัดจากใบ บัวบก ล้วนมีสรรพคุณช่วยยับยั้งการแพร่ขยายของแบคทีเรีย ช่วยระงับ การอักเสบ และทาลายเซลล์มะ๶ร็งได้ ซึ่งบัวบกสามารถนาไปคั้นเป็นน้าดื่ม หรือจะกินสด เป็นผักเคียงจิ้มน้าพริกกับอาหารรสแซ่บได้ดี HOME
  • 19. ใบแป๊ะก๊วย Ginkgo • ใบแป๊ะก๊วย (ผักต้านมะ๶ร็ง) อาหารเสริมบารุง สมองตัวนี้มีชื่อเสียงมานานพอสมควร เหมาะ สาหรับผู้ที่มีอาการเหนื่อยล้า ต้องเผชิญกับภาวะ แวดล้อมที่ต้องใช้สมองมาก สารอาหารสาคัญที่ทา ให้สมองตื่นตัวในใบแป๊ะก๊วยจะช่วยให้เลือดไหลไป เลี้ยงสมองดีขึ้น ไม่เป็นโรคความจาเสื่อม อัลไซ เมอร์ที่ระยะหลังมีคนเป็นกันมากขึ้น นอกจาก แป๊ะก๊วยจะช่วยบารุงสมองแล้ว แป๊ะก๊วยยังเป็นผัก ต้านมะ๶ร็งอีกด้วย เนื่องจากแป๊ะก๊วยช่วยกาจัด อนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุให้เกิดมะ๶ร็งนั่นเอง HOME
  • 20. กะหล่าปลี cabbage หัวผักกาด Turnip • กะหล่าปลี หัวผักกาด (ผักต้านมะ๶ร็ง) หรือผักอื่นที่มี คุณสมบัติในการช่วยกาจัดอนุมูลอิสระในร่างกาย ผัก พวกนี้จะมีซิลีเนียม เป็นตัวที่สามารถยับยั้งหรือ ป้องกันการเกิดมะ๶ร็งเต้านม ทั้งลดไม่ให้เกิด ก้อนมะ๶ร็งเพิ่มขึ้น โดยที่สารในผักเหล่านี้ จะมี คุณสมบัติในการกระตุ้นเอนไซม์ที่มีหน้าที่กาจัด สารพิษออกจากร่างกาย สารพิษที่พร้อมจะเปลี่ยน เซลล์ดีๆ ให้กลายเป็นเซลล์มะ๶ร็ง อีกอย่างหนึ่งที่ น่าสนใจก็คือ ในหัวผักกาดนั้น มีสารที่ช่วยทาให้ก้อน เนื้องอกเล็กลงด้วย โอกาสที่จะกลายเป็นเซลล์มะ๶ร็ง จึงน้อยลง HOME
  • 21. เห็ดหลินจือ Lacquered • เห็ดหลินจือ (ผักต้านมะ๶ร็ง) หรือชื่อเรียกอื่นๆ คือ เห็ดหมื่นปี หรือเห็ดอมตะอาหารสุขภาพที่ ขึ้นชื่อและเป็นที่นิยมนามาเป็นส่วนประกอบ ของอาหารเสริมอีกชนิดหนึ่ง เนื่องจากในเห็ด หลินจือมีสารพวก โพลีแซคคาไรด์ชนิดเบต้า ดี-กลูแคน ที่สถาบันมะ๶ร็งแห่งชาติ ค้นพบว่า มีฤทธิ์ช่วยให้ร่างกายมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีและ ต้านพิษที่เกิดจากการฉายรังสี จึงเชื่อว่าการใช้ เห็ดหลินจือจะช่วยชะลอการลุกลามของมะ๶ร็ง ได้ HOME
  • 22. คื่นช่าย celery ผักชีฝรั่งParsley • คื่นช่าย ผักชีฝรั่ง(ผักต้านมะ๶ร็ง) รวมถึงผักสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมแรง หรือที่บางคนอาจรู้สึกว่ามันมีกลิ่นฉุนก็ตาม ผักเหล่านี้นิยมใช้ปรุง อาหารเพื่อช่วยดับกลิ่นคาว ใส่ในน้าซุปเพื่อช่วยให้มีความหอมเพิ่มขึ้น โดยตัวของมันเองมีสรรพคุณทางยา ช่วยรักษาโรคมากมาย เฉพาะใน เรื่องของการป้องกันมะ๶ร็ง คื่นช่ายมีสารโพลิผีนอล ป้องกัน DNA ถูก ทาลาย อีกทั้งช่วยลดการอักเสบ ป้องกันมะ๶ร็งและยับยั้งการกลาย พันธุ์ของมะ๶ร็งในร่างกายได้เป็นอย่างดี HOME
  • 23. โหระพา basil • โหระพา (ผักต้านมะ๶ร็ง) เจ้าผักใบเขียวที่เราคุ้นเคยในก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ด ชนิดนี้มีกลิ่นหอมแรง มีคุณค่าทางอาหารและสรรพคุณเป็นยารักษาโรค โหระพาในปัจจุบันนิยมนามาทาเป็นน้ามันหอมระเหย น้ามันโหระพาช่วยฆ่า เชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อไวรัสรวมถึงป้องกันมะ๶ร็งได้ดีอีกด้วย HOME
  • 24. ตะไคร้ lemon grass • ตะไคร้ (ผักต้านมะ๶ร็ง) ในตะไคร้มีแคลเซียม และฟอสฟอรัสที่มีคุณสมบัติป้องกันการเกิด มะ๶ร็งทางเดินอาหารในระยะเริ่มต้น เมื่อทราบ เช่นนี้แล้ว ต่อไปคงไม่เขี่ยตะไคร้ซอยที่โรยหน้า อาหารกันอีกแล้วนะ เพราะนั่นเป็นประโยชน์ ป้องกันมะ๶ร็งล้วนๆ HOME
  • 27. ทับทิม ทับทิมไม่ได้มีแค่ไฟโตนิวเทรียนต์เท่านั้น แต่ยังพกกรดเอลลาจิก (Ellagic Acid) ซึ่งเป็นกรดที่ช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ในร่างกายมนุษย์ รวมทั้งยับยั้งการขยายของเซลล์ผิดปกติที่อาจจะกลายเป็นเซลล์มะ๶ร็ง โดย สถาบันมะ๶ร็งแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา ยังบอกเพิ่มเติมด้วยว่า สาร เอลลาจิกในทับทิม สามารถป้องกันโรคมะ๶ร็งปากมดลูกของผู้หญิงได้เป็น อย่างดีเลยทีเดียว รู้อย่างนี้แล้วสาว ๆ อยากจะกินทับทิมกันแล้วใช่ไหม
  • 28. มะขามป้อม จากข้อมูลของมูลนิธิหมอชาวบ้าน เราก็พบว่า มะขามป้อมเป็นผลไม้อีกชนิดที่ มีกรดเอลลาจิก (Ellagic Acid) แฝงอยู่ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีวิตามินสูง มาก จนเกือบจะเป็นราชาผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีเลยทีเดียวล่ะ แถมยัง พ่วงกรดฟิลเลมลิก (Phyllemblic Acid) และสารฟีนอล (Phenols) มา เป็นเพื่อนด้วย ซึ่งก็หมายความว่า มะขามป้อมเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณช่วย ป้องกันมะ๶ร็งกับเขาได้เหมือนกันนั่นเอง
  • 29. มันเทศ (Sweet Potato) ในที่นี้อาจจะรวมไปถึงมันฝรั่งพันธุ์ต่าง ๆ ด้วยนะคะ ที่ศูนย์มันฝรั่งระหว่างประเทศ (The International Potato Center : CIP) เขายืนยันเป็นมั่นเหมาะว่า มัน ฝรั่งเกือบทุกชนิดมีคุณสัมบัติป้องกันมะ๶ร็งได้ โดยอธิบายว่า มันฝรั่งอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต, เบต้าแคโรทีน, ไฟเบอร์, วิตามินเอ , วิตามินซี, ไรโบฟลาวิน (วิตามินบีชนิดหนึ่ง), กรดโพลีฟีนอล แอนตี้ออกซิแดนท์ คาเฟอิก (Polyphenol Anti-oxidants Caffeic Acid) และกรดคาเฟ โออิวควินิก (Caffeoylquinic Acid) ซึ่งช่วยป้องกันโรคมะ๶ร็ง รวมทั้งลดความ เสี่ยงโรคมะ๶ร็งเต้านม
  • 30. มะละกอ ผลมะละกอดิบมีวิตามินเอ และสารเบต้าเคโรทีน ช่วยบารุงสายตาและ ช่วยต้านโรคมะ๶ร็ง อีกทั้งยังมีวิตามินซี, แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, และเหล็กซึ่งช่วย ป้องกันและรักษาโรคหวัด โรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตามไรฟันและใต้ผิวหนัง นอกจากนี้ยังมีเอนไซม์พาเพน ซึ่งสามารถนามาเป็นยาช่วยย่อยสาหรับผู้ที่มีปัญหา อาหารไม่ย่อย รวมทั้งช่วยกระตุ้นน้านมสาหรับคุณแม่ที่เพิ่งคลอดอีกด้วย แต่ที่น่าสนใจก็คือ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฟลอริด้า ได้ทาการศึกษาและ พบว่า คุณประโยชน์เหล่านี้ในผลมะละกอไม่ว่าจะดิบ หรือสุก สามารถช่วยป้องกัน โรคมะ๶ร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเข้าไปยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอก หรือเซลล์ผิดปกติที่ทาท่าว่าจะเป็นเซลล์ก่อมะ๶ร็ง ที่สาคัญยังเจ๋งขนาดป้องกันได้ทั้ง มะ๶ร็งปากมดลูก, มะ๶ร็งเต้านม, มะ๶ร็งตับ และมะ๶ร็งตับอ่อนเลยทีเดียวนะจ๊ะ
  • 31. แก้วมังกร ผลไม้ไทย ๆ อย่างแก้วมังกร มีสารต้านมะ๶ร็งกับเขาด้วย แต่ทั้งนี้ผล การศึกษาจากศูนย์วิจัยสารต้านอนุมูลอิสระก็แนะนาว่า สารสกัดจากเปลือก แก้วมังกรสีสด ๆ มีศักยภาพในการป้องกันมะ๶ร็งดีกว่าการรับประทานผลสด ซะอย่างนั้น แต่อย่างไรก็แล้วแต่ การรับประทานแก้วมังกรเป็นประจาก็ สามารถป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด และช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายเราได้ เป็นอย่างดีอยู่แล้วเนอะ
  • 32. มังคุด มังคุดเป็นผลไม้สัญชาติไทยแท้ที่หากินได้ง่ายในบ้านเรา ซึ่งผลการวิจัย โดย Current Molecular Medicine ก็บอกข่าวดีกับเราว่า ในมังคุดมีสารต้าน เซลล์มะ๶ร็งที่น่าสนใจนั่นก็คือ สารที่เรียกว่า แซนโทน (XANTHONE) ซึ่งเป็นสาร ต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงมาก สามารถซ่อมแซมเซลล์ส่วนมี่ถูก ทาลายโดยปัจจัยต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี จึงถูกยอมรับว่าเป็นสารที่ช่วยต้าน เซลล์มะ๶ร็งตัวจี๊ดที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว ทั้งนี้นอกจากกินผลสด ๆ แล้ว เรายัง สามารถนาเปลือกมังคุดไปทาเป็นไวน์ไว้ดื่มได้อีกอย่างหนึ่งด้วยนะคะ
  • 33. องุ่น มหาวิทยาลัยเวย์นสเตต (Wayne State University) ทาการศึกษา คุณสมบัติขององุ่นกับการต้านมะ๶ร็งและพบว่า จากหลักฐานที่ทดลองกับมนุษย์มา อย่างยาวนาน สามารถพิสูจน์ได้ว่า วิตามินและสารอาหารที่พบในองุ่นทุกชนิด มีผล โดยตรงในการป้องกันโรคมะ๶ร็ง อีกทั้งองุ่นยังมีสารอาหารที่สาคัญที่ดีคือน้าตาล และสารอาหารจาพวกกรดอินทรีย์ เช่น น้าตาลกลูโคส น้าตาลซูโครส วิตามินซี เหล็กและแคลเซียม มีส่วนช่วยในการบารุงสมอง บารุงหัวใจ แก้กระหาย ขับ ปัสสาวะ และช่วยฟื้นกาลังคนที่ร่างกายผอมแห้ง แก่ก่อนวัยและไม่มีเรี่ยวแรงด้วย
  • 34. ส้ม และผลไม้ตระกูลส้มทุกชนิด นอกจากจะอัดแน่นไปด้วยกรดวิตามินซีแล้ว ในผลไม้จาพวกส้มยังมี คุณสมบัติต้านมะ๶ร็ง โดยเฉพาะป้องกันมะ๶ร็งเต้านม โดยข้อมูลทั้งหมดผ่าน การรับรองและยืนยันความน่าเชื่อถือจากผลการศึกษาของมหาวิทยาลัย เทกซัสเอแอนด์เอ็ม (Texas A&M University) แล้วด้วยนะจ๊ะ
  • 35. แอปเปิล สถาบัน Advances in Nutrition ได้ทาการวิจัยและพบว่า แอปเปิลเป็นผลไม้ที่มีคุณประโยชน์ในเรื่องของการลดความเสี่ยงโรคมะ๶ร็ง อีก ทั้งยังป้องกันโรคมะ๶ร็งได้ตั้งแต่สาเหตุของโรคเลยทีเดียว เนื่องจากสารฟลาโว นอยด์ในปริมาณที่สูงมากของเปลือกแอปเปิล สามารถล้างพิษออกจาก ร่างกาย และช่วยป้องกันอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของโรคมะ๶ร็งลาไส้ได้นั่นเอง
  • 36. สตรอว์เบอร์รี ไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients) หรือสารพฤษเคมี บวกกับ วิตามินซี และแร่ธาตุดี ๆ อีกหลายชนิดในสตรอว์เบอร์รี ก็เป็นส่วนสาคัญใน การต้านเซลล์มะ๶ร็ง และมีสรรพคุณบาบัดโรค โดยเฉพาะป้องกันโรคมะ๶ร็งเต้า นมของคุณผู้หญิง การันตีโดยผลวิจัยที่เว็บไซต์ Exan Health ได้นามา เผยแพร่จ้า
  • 37. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี จริง ๆ แล้วผลไม้ตระกูลเบอร์รีทุกชนิดมีสารที่ช่วยป้องกันโรคมะ๶ร็ง ได้เกือบทั้งหมด แต่ดอกเตอร์แกรี่ ดี สโตเนอร์ คณบดีคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอไฮโอ (The Ohio State University College of Medicine) ชี้แจงว่า ในผลแบล็กเบอร์รีจะมีคุณสมบัติต้านมะ๶ร็งที่โดดเด่นกว่า ใครเพื่อน เนื่องจากมีสารพฤษเคมีจาพวกแอนโทไซยานิน (Anthocyanins) สูง ซึ่งช่วยชะลอการเกิดเซลล์มะ๶ร็ง แถมยังสามารถป้องกันการเกิดมะ๶ร็ง ลาไส้ได้อีกต่างหาก
  • 38. เลมอน นักวิจัยจากประเทศออสเตรเลียเผยว่า วิตามินซี และกรดหลากชนิด ในผลเลมอน สามารถป้องกันมะ๶ร็งช่องปาก, มะ๶ร็งลาคอ และมะ๶ร็งในช่อง ท้องได้ หากดื่มน้าเลมอนคั้นสดวันละ 1 แก้วกาแฟเป็นประจาทุกวัน และ แม้ว่าเลมอนจะไม่ใช่ผลไม้สัญชาติไทยแท้ แต่เลมอนก็ไม่ใช่ผลไม้ที่หายากใน บ้านเราซะทีเดียว
  • 39. อะโวคาโด จากการศึกษาของวารสาร Experimental Therapeutics & Oncology พบว่า สารพฤษเคมีในผลอะโวคาโดมีส่วนช่วยป้องกันความ ผิดปกติที่เกิดจากเซลล์ ปกป้องเซลล์ในร่างกายไม่ได้เกิดเนื้อร้าย กาจัดเซลล์ที่ ตายแล้ว รวมทั้งยับยั้งการเจิญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติ และกาลังจะเติบโต เป็นเนื้อร้ายได้อีกด้วย
  • 40. กีวี วารสาร Ethnopharmacology เผยว่า ผลไม้ที่อัดแน่นไปด้วยสาร ต้านอนุมูลอิสระ, วิตามินซี, วิตามินอี, ลูเตียน (Lutein) และสังกะสีชนิดนี้ มี ประสิทธิภาพมากพอจะต้านเซลล์มะ๶ร็งได้อยู่หมัด เพียงแค่กินกีวีสดวันละครึ่ง ลูกก็เท่ากับกินยาต้านมะ๶ร็งเกรดพรีเมียมเข้าไปแล้วล่ะจ้า
  • 41. • มะเขือเทศ มะเขือเทศอาจจะก้ากึ่งระหว่างผักและผลไม้ แต่ประเด็นนั้นไม่น่าสนใจ เท่ากับผลวิจัยที่สถาบันวิจัยโรคมะ๶ร็งอเมริกาพบว่า มะเขือเทศมีคุณสัมบัติป้องกัน โรคมะ๶ร็งต่อมลูกหมาก รวมไปถึงมะ๶ร็งปอด, มะ๶ร็งเต้านม และมะ๶ร็งมดลูกได้ ชะงัด เนื่องจากในมะเขือเทศลูกสีแดงแจ๊ดอุดมไปด้วยไลโคปีน ซึ่งเป็นสารต้าน อนุมูลอิสระที่เรียกกันว่า ตระกูลสารสีแดง และสารพฤกษเคมี รวมไปถึงวิตามิน และเกลือแร่อีกหลายชนิด ที่ช่วยบารุงเซลล์ในร่างกายให้ทางานอย่างปกติ ซึ่ง เมื่อไรที่มีเซลล์ใดเซลล์หนึ่งเกิดความผิดปกติขึ้น เจ้าสารบารุงต่าง ๆ ก็จะเข้าไป จัดการไม่ให้เซลล์ร้ายเจริญเติบโตลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ ในร่างกายเรานั่นเองจ้า
  • 42. แหล่งอ้างอิง ข้อมูล : http://sukkaphap-d.com รูปภาพ : https://fb1-cb.lnwfile.com/_/cb/_raw/s8/ef/w2.jpg https://policy.pinterest.com/en/privacy-policy https://www.sanook.com/health/2601/ HOME