ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547
9
เลขยกกําลัง
ถา a เปนจํานวนใด ๆ และ n เปนจํานวนเต็ม บวก “ a กําลัง n”
หรือ “ a กําลัง n” เขียนแทนดวย an
มีความหมายดังนี้
an
= a × a × a ×… a (a คูณกัน n ตัว)
n ตัว
เรียก an
วาเลขยกกําลัง (power)
โดยมี a คือ ฐาน (base) และ n คือ เลขยกกําลัง (exponent)
ระบบจํานวนเต็ม
1. จํานวนเต็ม
- จํานวนเต็มลบ
- ศูนย
- จํานวนเต็มบวก
ขอสรุป
1) 1 เปนจํานวนนับ หรือ จํานวนเต็มบวกที่นอยที่สุด
2) ไมมีจํานวนนับ หรือ จํานวนเต็มบวกที่มากที่สุด
3) ไมมีจํานวนเต็มลบที่นอยที่สุด
4) -1 เปนจํานวนเต็มลบ ที่มากที่สุด
5) บนเสนจํานวน จํานวนที่แทนดวยจุดที่อยูทางซาย จะมีคานอยกวาจํานวนที่แทนดวย
จุดที่อยูทางขวาเสมอ
2. คาสัมบูรณของจํานวนเต็มและจํานวนตรงขามของจํานวนเต็ม
คาสัมบูรณของจํานวนเต็มใด ๆ หมายถึง ระยะหางระหวางจํานวนเต็มนั้นกับ 0 บนเสน
จํานวน ดังนั้น คาสัมบูรณของจํานวนเต็มจึงเปนบวกเสมอ เขียน แทนคาสัมบูรณ เชน z อานวา
คาสัมบูรณของ z
3. การบวกจํานวนเต็ม
- จํานวนเต็มบวก + จํานวนเต็มบวก = ผลบวกของคาสัมบูรณของจํานวนทั้งสอง
- จํานวนเต็มลบ + จํานวนเต็มลบ = จํานวนตรงขามของผลบวก ของคาสัมบูรณ
ของจํานวนทั้งสอง
- จํานวนเต็มบวก + จํานวนเต็มลบ = จํานวนตรงขามของผลลัพธที่เกิดจากคาสัมบูรณ
ของจํานวนเต็มลบ ลบดวยคาสัมบูรณของจํานวนเต็มบวก
เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547
10
4. การลบจํานวนเต็ม
ตัวตั้ง − ตัวลบ = ตัวตั้ง + จํานวนตรงขามของตัวลบ
5. การคูณจํานวนเต็ม
- จํานวนเต็มบวกคูณจํานวนเต็มลบเทากับจํานวนตรงขามของผลคูณของคาสัมบูรณของ
จํานวนทั้งสองนั่นคือ ถา a, b เปนจํานวนเต็มบวกใด ๆ
a × (− b) = ( a x b− )
- จํานวนเต็มลบคูณจํานวนเต็มบวกเทากับจํานวนตรงขามของผลคูณของคาสัมบูรณของ
จํานวนทั้งสองนั่นคือ ถา a, b เปนจํานวนเต็มบวกใดๆ
(− a) × b = − ( a × b )
- จํานวนเต็มลบคูณจํานวนเต็มลบเทากับผลคูณของคาสัมบูรณของจํานวน ทั้งสอง
นั่นคือ ถา a, b เปนจํานวนเต็มบวกใดๆ
(− a) × (− b) = − ( a− × b− )
6. การหารจํานวนเต็ม
- การหารจํานวนเต็มเมื่อตัวตั้งเปนจํานวนเต็มบวกและตัวหารเปนจํานวนเต็มลบหรือตัวตั้ง
เปนจํานวนเต็มลบ และตัวหารเปนจํานนเต็มบวก ผลลัพธเทากับจํานวนตรงขามของคาสัมบูรณของตัวตั้ง
หารดวยคาสัมบูรณของตัวหาร
- การหารจํานวนเต็มเมื่อตัวตั้งและตัวหารเปนจํานวนเต็มลบทั้งคู ผลลัพธเทากับ คาสัมบูรณ
ของตัวตั้งหารดวยคาสัมบูรณของตัวหาร
7. สมบัติของ 1 และ 0
- ถา a เปนจํานวน ใด ๆ
- ถา a เปนจํานวนใด ๆ ซึ่งไมเทากับ 0
1 × a = a = a × 1
a
0
= 0
1
a
= a
1
a
= a
a + 0 = a = 0 + a
a × 0 = 0 = 0 × a
เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547
11
เลขยกกําลัง
การคูณและการหารเลขยกกําลัง
1. สมบัติการคูณเลขยกกําลังที่มีเลขชี้กําลังเปนจํานวนเต็มบวก
เมื่อ a เปนจํานวนใด ๆ และ m, n เปนจํานวนเต็มบวก
จงเขียนจํานวนตอไปนี้ใหอยูในรูปอยางงาย
(1) 23
× 27
× 29
= 2 (3 + 7 + 9)
= 219
(2) 56
× 5 × 53
× 54
= 5 (6+1+3+4)
= 514
(3) (3 2n-1
) (3 2n+1
) = 3 2n-1+2n+1
= 34n
(4) 5 n+1
× 52n-2
= 5 n+1+2n-2
= 53n-1
2. สมบัติการหารเลขยกกําลังที่มีเลขชี้กําลังเปนจํานวนเต็มบวก
กรณีที่ 1 เมื่อ a เปนจํานวน จริงใด ๆ ที่ไมใชศูนย และ m, n เปนจํานวนเต็มบวกที่ m > n
am
÷ an
กรณีที่ 2 เมื่อ a เปนจํานวน จริงใด ๆ ที่ไมใชศูนย และ m, n เปนจํานวนเต็มบวกที่ m = n
am
÷ an
= am – n
= 1
นิยาม ถา a เปนจํานวนจริงใดๆ ที่ไมใชศูนย a0
= 1
am
× an
= m+n
เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547
12
กรณีที่ 3 เมื่อ a เปนจํานวน จริงใด ๆ ที่ไมใชศูนย และ m, n เปนจํานวนเต็มบวกที่ m < n
n
m
a
a
= mn
a −
1
นิยาม ถา a เปนจํานวนจริงใดๆ ที่ไมใชศูนย และ n เปนจํานวนเต็มบวก แลว
a-n
= n
a
1
หรือ an
= n
a −
1
2. จงทําใหเปนผลสําเร็จ
1) 34
÷ 32
= 34-2
= 32
2)
3535
2
1
2
1
2
1
−
⎟
⎠
⎞
⎜
⎝
⎛
=⎟
⎠
⎞
⎜
⎝
⎛
÷⎟
⎠
⎞
⎜
⎝
⎛
3) 28
÷ 29
= 2 98−
= 2 1−
= 2
1
=
2
2
1
⎟
⎠
⎞
⎜
⎝
⎛
4) baba
ab
ba 31214
24
8.8
7
56
== −−
5) xxxx
x
x nnnn
n
n
==== +−−−
−
11)1(
1
3. สมบัติการคูณและการหารเลขยกกําลัง เมื่อเลขชี้กําลังเปนจํานวนเต็ม
3.1 am
×an
= am+n
เมื่อ a≠ 0 และ m, n เปนจํานวนเต็ม
3.2 เมื่อ a≠ 0 และ m, n เปนจํานวนเต็ม
กรณีที่ 1 ถา m > n จะได nmnm
aaa −
=÷
กรณีที่ 2 ถา m = n จะได 10
==÷ aaa nm
กรณีที่ 3 ถา m < n จะได mn
nm
a
aa −
=÷
1
3.3 n
n
a
a
1
=−
หรือ n
n
a
a −
=
1
เมื่อ a≠ 0 และ n เปนจํานวนเต็ม
เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547
13
จงทําใหเปนรูปอยางงายและใหเลขยกกําลังเปนบวก
1) 7 × 79
× 7-2
× 710
× 7-7
= 71 + 9 + 2 + 10 + 7
= 711
2) (95
× x3
× 76
) (9-5
× x-2
× 7-10
) = 95 – 5
× x3 – 2
× 76 – 10
= 90
× x × 7-4
= 4
7
1 x×
= 4
7
x
3)
279
97
465
524
×××
××
−−
−−−
x
x
=
27
9
5464
52
×× +−+
+−
x
=
27
9
10
3
×× x
4. นําสมบัติของการคูณและการหารเลขยกกําลังมาเขียนจํานวนที่มีคามาก ๆ และจํานวนนอย ๆ
ในรูปเลขทศนิยม โดยเขียนใหอยูในรูป A × 10n
เมื่อ 1 ≤ A < 10 และ n เปนจํานวนเต็ม
จงเขียนจํานวนตอไปนี้ใหอยูในรูป A × 10n
เมื่อ ≤ A < 10 และ n เปนจํานวนเต็ม
1) 128,000,000,000 = 1.28 × 1011
2) 0.000000951 = 9.51 × 10-7
3) 0.00084 × 10-5
= 8.4 × 10-4
× 10-5
= 8.4 × 10-9
5. สมบัติอื่นๆ ของเลขยกกําลัง
1. เลขยกกําลังที่มีฐานเปนเลขยกกําลัง
เมื่อ a ≥ 0 และ m, n เปนจํานวนเต็ม
2. เลขยกกําลังที่มีฐานอยูในรูปการคูณ หรือการหารของจํานวนหลาย ๆจํานวน
เมื่อ a ≠ 0 , b ≠ 0 และ n เปนจํานวนเต็ม
3. เลขยกกําลังที่มีเลขชี้กําลังเปนเศษสวน
เมื่อ a > 0 และ n เปนจํานวนเต็มบวกที่มากกวา 1
เมื่อ a ≠ 0 และ m เปนจํานวนเต็มบวก ; n ≥ 2
( ) mnnm
aa =
( ) nnn
baab =
n
nn
b
a
b
a
=⎟
⎠
⎞
⎜
⎝
⎛
nn aa =
1
n mn
m
aa =
เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547
14
ตัวอยาง
จงเขียนใหอยูในรูปอยางงาย และเลขชี้กําลังเปนบวก
1) ( ) 84242
333 == ×
2) ( ) 15
155353
2
1
222 === −×−−
3) 666
6
32
32
3
2
2
1
nmn
m
n
m
n
m
===
⎟
⎟
⎠
⎞
⎜
⎜
⎝
⎛ −
×
×−−
4)
4
2
3
3
4
3
7
−
−
⎥
⎥
⎦
⎤
⎢
⎢
⎣
⎡
÷
⎥
⎥
⎦
⎤
⎢
⎢
⎣
⎡
xy
x
เมื่อ ≠x 0 และ 0≠y
241212
89
12
8
12
9
8
12
12
9
7777
7
7
xxxx
x
x
==×=÷= +
−−
−
ตัวอยาง เชน
1) 5
7
5
3
5
4
355 4
2222 ==×
+
2) ( ) 2
1
2
1
1
2
1
6
3
6 6
6 3
6 23
6
6 2
22
2
2
2
2
2
2
8
8
=====
−
เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547
15
ระบบจํานวนเต็ม
คาสัมบูรณของจํานวนเต็ม และจํานวนตรงขามของจํานวนเต็ม
ตัวอยาง
(1) 4− = 4
(2) 6−− = −6
(3) 0 = 0
(4) − (−8) = 8
การบวกจํานวนเต็ม
ตัวอยาง
(1) 4 + 8 = 4 + 8
= 4 + 8
= 12
(2) (−9) + (−11) = −( 9− + 12− )
= −(9 +12)
= −21
(3) 21 + (−7) = 21 − 7
= 21 − 7
= 14
(4) 5 + (−15) = −( 15− − 5 )
= −(15 − 5)
= −10
เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547
16
การลบจํานวนเต็ม
ตัวอยาง
(1) 9 −15 = 9 + จํานวนตรงขามของ 15
= 9 + (−15)
= −( 15− 9 )
= − (15 − 9)
= −6
(2) (−4) − (−8) = (−4) + จํานวนตรงขามของ (+8)
= (−4) + 8
= 8 − 4
= 8 − 4
= 4
การคูณจํานวนเต็ม
ตัวอยาง
(1) 5 × (−7) = − ( 5 × 7− )
= − (5×7)
= − 35
(2) (−12) × 9 = − ( 12− × 9 )
= − (12×9)
= − 108
เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547
17
(3) (−11) × (−2) = ( 11− × 2− )
= 11 × 2
= 22
การหารจํานวนเต็ม
ตัวอยาง
(1) 7
35−
= −
⎥
⎥
⎦
⎤
⎢
⎢
⎣
⎡ −
7
35
= − ⎥
⎦
⎤
⎢
⎣
⎡
7
35
= − 5
(2) 10
80
−
−
= 10
80
−
−
= 10
80
= 8
เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547
18
แบบฝกทักษะ
1. เลขสามจํานวน คือ 3524, 4005 และ 4597 หารดวยเลขจํานวนหนึ่ง เหลือเศษเทากันหมด
จงหาผลบวกของตัวหารนั้นกับเศษวาเทากับเทาไร
2. ถา 2
1
=+
a
a และ 4
1
=+++
abb
a
a
b
ab แลวคาของ 12
+a คือจํานวนใด
3. ( )
⎟
⎟
⎠
⎞
⎜
⎜
⎝
⎛
−
++
⎟
⎠
⎞
⎜
⎝
⎛ +
0
210
3
34
44444
4
44
4. ให x = −2 จงหาคาของ 1678
... −
++++ xxxx
5. 68 + 69 + ...+ 997 + 998 มีคาเทาไร
6. 119951994
199519931994
−×
×+
+
119961995
199619941995
−×
×+
+
119971996
199719951996
−×
×+
7. จงหาวาจะตองใชจํานวนเต็มบวกที่เรียงตอเนื่องกันมากที่สุดกี่จํานวน นํามาบวกกันและ
ไดผลลัพธเทากับ 720,600 พอดี
8. P และ Q เปนจํานวนสองจํานวนที่แตกตางกันอยูระหวาง 1 − 1,000 จงหาวา
คาที่มากที่สุดของ QP
QP
−
+ 22
มีคาเทาไร
9. A และ B เปนจํานวนที่มีคาตางกันและ 13
A
− 7
B
= 91
10
จงหาวา (A × B) มากกวา (A + B) อยูเทาไร
10.พอมีเงินเดือน 27,810 บาท ในการคิดภาษีเงินพึงประเมินคือเงินเดือนที่ไดรับใน 1 ป
แมไมมีเงินได และพอมีลูก 3 คน หักคาลดหยอนภาษีของพอและแมคนละ 60,000 บาท
หักคาลดหยอนภาษีลูกคนละ 17,000 บาท เงินรายไดหลังจากหักคาลดหยอนภาษีพอตอง
เสียภาษีใหกับรัฐบาล 5% หนวยงานตนสังกัดของพอหักภาษีไวเดือนละ 500 บาท
พอสิ้นปพอตองเสียภาษีเพิ่มหรือไดรับภาษีคืนเปนจํานวนเทาไร
เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547
19
แนวคิดแบบฝกทักษะ
1. เลขสามจํานวน คือ 3524, 4005 และ 4597 หารดวยเลขจํานวนหนึ่ง เหลือเศษเทากันหมด
จงหาผลบวกของตัวหารนั้นกับเศษวาเทากับเทาไร
แนวคิด
4597 − 4005 = 592
4597 − 3524 = 1073
4005 − 3524 = 481
37 592, 1073, 481
16, 29, 13,
∴ เลขจํานวนนั้นคือ 37
3524 ÷ 37 = 95 เศษ 9
4005 ÷ 37 = 108 เศษ 9
4597 ÷ 37 = 124 เศษ 9
∴ เศษที่ไดจากการหาร คือ 9
ดังนั้น ผลบวกของตัวหาร กับเศษเทากับ 37 + 9 = 46
ตอบ 46
2. ถา 2
1
=+
a
a และ 4
1
=+++
abb
a
a
b
ab แลวคาของ 12
+a คือจํานวนใด
แนวคิด
จาก abb
a
a
b
ab
1
+++ = 4
⎟
⎠
⎞
⎜
⎝
⎛
++⎟
⎠
⎞
⎜
⎝
⎛
+
aba
b
b
a
ab
1
= 4
⎟
⎠
⎞
⎜
⎝
⎛
++⎟
⎠
⎞
⎜
⎝
⎛
+
b
b
ab
ba
111
= 4
ตอบ 4
เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547
20
3. ( )
⎟
⎟
⎠
⎞
⎜
⎜
⎝
⎛
−
++
⎟
⎠
⎞
⎜
⎝
⎛ +
0
210
3
34
44444
4
44
แนวคิด
( )
⎟
⎟
⎠
⎞
⎜
⎜
⎝
⎛
−
++
⎟
⎠
⎞
⎜
⎝
⎛ +
0
210
3
34
44444
4
44
( )
⎟
⎠
⎞
⎜
⎝
⎛
−
++
⎟
⎠
⎞
⎜
⎝
⎛
=
14
164414
64
8
⎟
⎠
⎞
⎜
⎝
⎛ ××
×=
3
1694
8
1
3
1694
8
1 ××
×=
24=
ตอบ 24
4. ให x = −2 จงหาคาของ 1678
... −
++++ xxxx
แนวคิด
ให x = −2
∴ 102345678 −
+++++++++ xxxxxxxxxx
( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( )102345678
2222222222 −+−+−+−+−+−+−+−+−+−=
21248163264125256 −+−+−+−+−=
172=
ตอบ 172
เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547
21
5. 68 + 69 + ...+ 997 + 998 มีคาเทาไร
แนวคิด
จับคูจํานวนที่รวมกันได 1,065 จาก 67 ถึง 998
67 + 68 + 69 + ... + 996 + 997 + 998
ซึ่งมี 466 คู ผลรวมจึงมีคาเทากับ 1,065 × 466 = 496,290
ดังนั้น 68 + 69 + ...+ 997 + 998 = 496,290 − 67
= 496,223
ตอบ 496,223
6. 119951994
199519931994
−×
×+
+
119961995
199619941995
−×
×+
+
119971996
199719951996
−×
×+
แนวคิด
119951994
199519931994
−×
×+
= 119951994
)19951993(11995
−×
×+−
= ( )
119951994
1199519931995
−×
−×+
= ( )[ ]
119951994
1199311995
−×
−+×
= 1
119951994
119941995
=
−×
−×
ทํานองเดียวกัน 119961995
199619941995
−×
×+
= 1
และ 119971996
199719951996
−×
×+
= 1
ดังนั้น 119951994
199519931994
−×
×+
+ 119961995
199619941995
−×
×+
+ 119971996
199719951996
−×
×+
= 1 + 1 + 1 = 3
ตอบ 3
เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547
22
7. จงหาวาจะตองใชจํานวนเต็มบวกที่เรียงตอเนื่องกันมากที่สุดกี่จํานวน นํามาบวกกันและ
ไดผลลัพธเทากับ 720,600 พอดี
แนวคิด
1 + 2 + 3 + 4 ...+ n = 720,600
( )
2
1
n
n + = 720,600
nn +2
= 1,441,200
200,441,12
−+ nn = 0
(n + 1,201)(n − 1,200) = 0
(n + 1,201) = 0
n = −1,200
(n − 1,200) = 0
n = 1,200
∴ n = −1,200 และ 1,200
ใชจํานวนเต็มบวก 1,200 จํานวน
ตอบ 1,200 จํานวน
8. P และ Q เปนจํานวนสองจํานวนที่แตกตางกันอยูระหวาง 1 − 1,000 จงหาวา
คาที่มากที่สุดของ QP
QP
−
+ 22
มีคาเทาไร
แนวคิด
QP
QP
−
+ 22
จะมีคามากที่สุดเมื่อ P – Q มีคานอยที่สุด
∴ จะได P = 1,000, Q = 999
ดังนั้น QP
QP
−
+ 22
= ( ) ( )
9991000
9991000 22
−
+
= ( )2
1000 + ( )2
999
= 1,000,000 + 998,001
= 1,998,001
ตอบ 1,998,001
เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547
23
9. A และ B เปนจํานวนที่มีคาตางกันและ 13
A
− 7
B
= 91
10
จงหาวา (A × B) มากกวา (A + B) อยูเทาไร
แนวคิด
7
13
13
−
A
= 91
10
91
137 BA −
= 91
10
7A – 13B = 10
1) พิจารณาผลตางของผลคูณของ A กับ 7 และ B กับ 13 มีผลลัพธตางกันอยู 10 พิจารณาตาม
ตารางดังนี้
ตัวคูณ
ผลคูณ
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
A x 7 7 14 21 28 35 42 49 56 63 70
B x 13 13 26 39 42 65 78 91 104 117 130
2) จากตารางพบวา เมื่อนํา A คูณ 7 ลบดวย B คูณ 13 แลว มีผลตางเทากับ 10 จะได A เทากับ 7
และ B เทากับ 3
∴ (A × B) − (A + B) = (7 × 3) − (7 + 3)
= 21 − 10 = 11
ตอบ 11
เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547
24
10. พอมีเงินเดือน 27,810 บาท ในการคิดภาษีเงินไดพึงประเมินคือเงินเดือนที่ไดรับใน 1 ป
แมไมมีเงินได และพอมีลูก 3 คน หักคาลดหยอนภาษีของพอและแมคนละ 60,000 บาท
หักคาลดหยอนภาษีลูกคนละ 17,000 บาท เงินรายไดหลังจากหักคาลดหยอนภาษีพอตอง
เสียภาษีใหกับรัฐบาล 5 % หนวยงานตนสังกัดของพอหักภาษีไวเดือนละ 500 บาท
พอสิ้นปพอตองเสียภาษีเพิ่มหรือไดรับภาษีคืนเปนจํานวนเทาไร
แนวคิด
เงินไดพึงประเมินคือ เงินเดือนที่ไดรับใน 1 ป
ดังนั้น พอมีเงินพึงประเมิน 27,810 × 12 = 333,720 บาท
คาหักลดหยอนภาษี 60,000 + 60,000 + 17,000 − 17,000 −17,000 = 171,000 บาท
เงินไดหลังหักคาลดหยอนภาษี คือ 333,720 − 171,000 = 162,720 บาท
เสียภาษี 5% คิดเปนเงิน 100
5
× 162720 = 8,136 บาท
หนวยงานตนสังกัดหักภาษีไว 500 × 12 = 6,000 บาท
ดังนั้น พอตองจายภาษีเพิ่มอีก 8,136 − 6,000 = 2,136 บาท
ตอบ 2,136 บาท

More Related Content

What's hot (20)

ชุดการสอนที่ 4 เรื่อง เส้นขนานและรูปสามเหลี่ยม
ชุดการสอนที่ 4 เรื่อง เส้นขนานและรูปสามเหลี่ยมชุดการสอนที่ 4 เรื่อง เส้นขนานและรูปสามเหลี่ยม
ชุดการสอนที่ 4 เรื่อง เส้นขนานและรูปสามเหลี่ยม
วิเชียร กีรติศักดิ์กุล
สรุปเนื้อหา O- net ม.6
สรุปเนื้อหา O- net ม.6 สรุปเนื้อหา O- net ม.6
สรุปเนื้อหา O- net ม.6
sensehaza
บทที่ 1 การแยกตัวประกอบและการแก้สมการพหุนามดีกรีสอง
บทที่ 1 การแยกตัวประกอบและการแก้สมการพหุนามดีกรีสองบทที่ 1 การแยกตัวประกอบและการแก้สมการพหุนามดีกรีสอง
บทที่ 1 การแยกตัวประกอบและการแก้สมการพหุนามดีกรีสอง
sawed kodnara
ชุดที่ 1 อัตราส่วน
ชุดที่ 1 อัตราส่วนชุดที่ 1 อัตราส่วน
ชุดที่ 1 อัตราส่วน
Sataporn Butsai
ใบงาȨระมาณค่า
ใบงาȨระมาณค่าใบงาȨระมาณค่า
ใบงาȨระมาณค่า
kanjana2536
การคูณพหุนามึϹวยพหุนาม
การคูณพหุนามึϹวยพหุนามการคูณพหุนามึϹวยพหุนาม
การคูณพหุนามึϹวยพหุนาม
kroojaja
สูตรต่างๆ ในคำนวณในข้อสอบครูผู้ช่วย
สูตรต่างๆ ในคำนวณในข้อสอบครูผู้ช่วยสูตรต่างๆ ในคำนวณในข้อสอบครูผู้ช่วย
สูตรต่างๆ ในคำนวณในข้อสอบครูผู้ช่วย
มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
คอมพลี๶มนต์
คอมพลี๶มนต์คอมพลี๶มนต์
คอมพลี๶มนต์
Aon Narinchoti
สมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยว
สมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยวสมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยว
สมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยว
Piyanouch Suwong
ลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรมลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรม
rdschool
ใบความรู้ เรื่องสถิติ
ใบความรู้ เรื่องสถิติใบความรู้ เรื่องสถิติ
ใบความรู้ เรื่องสถิติ
พัน พัน
แบบฝึกทักษะชุดที่ 2 การบวกทศนิยม
แบบฝึกทักษะชุดที่ 2 การบวกทศนิยมแบบฝึกทักษะชุดที่ 2 การบวกทศนิยม
แบบฝึกทักษะชุดที่ 2 การบวกทศนิยม
Kamolthip Boonpo
แบบฝึกหัดเรื่องสมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยว
แบบฝึกหัดเรื่องสมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยวแบบฝึกหัดเรื่องสมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยว
แบบฝึกหัดเรื่องสมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยว
Jirathorn Buenglee
สมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยว
สมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยวสมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยว
สมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยว
kroojaja
การประยุกต์จำนวน๶ต็มและ๶ลྺยกกำลัง
การประยุกต์จำนวน๶ต็มและ๶ลྺยกกำลังการประยุกต์จำนวน๶ต็มและ๶ลྺยกกำลัง
การประยุกต์จำนวน๶ต็มและ๶ลྺยกกำลัง
kroojaja
รายงานวิจัย ฯ เศรษฐกิจพอเพียง
รายงานวิจัย ฯ เศรษฐกิจพอเพียงรายงานวิจัย ฯ เศรษฐกิจพอเพียง
รายงานวิจัย ฯ เศรษฐกิจพอเพียง
Intrapan Suwan
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว
Somporn Amornwech
ชุดการสอนที่ 4 เรื่อง เส้นขนานและรูปสามเหลี่ยม
ชุดการสอนที่ 4 เรื่อง เส้นขนานและรูปสามเหลี่ยมชุดการสอนที่ 4 เรื่อง เส้นขนานและรูปสามเหลี่ยม
ชุดการสอนที่ 4 เรื่อง เส้นขนานและรูปสามเหลี่ยม
วิเชียร กีรติศักดิ์กุล
สรุปเนื้อหา O- net ม.6
สรุปเนื้อหา O- net ม.6 สรุปเนื้อหา O- net ม.6
สรุปเนื้อหา O- net ม.6
sensehaza
บทที่ 1 การแยกตัวประกอบและการแก้สมการพหุนามดีกรีสอง
บทที่ 1 การแยกตัวประกอบและการแก้สมการพหุนามดีกรีสองบทที่ 1 การแยกตัวประกอบและการแก้สมการพหุนามดีกรีสอง
บทที่ 1 การแยกตัวประกอบและการแก้สมการพหุนามดีกรีสอง
sawed kodnara
ชุดที่ 1 อัตราส่วน
ชุดที่ 1 อัตราส่วนชุดที่ 1 อัตราส่วน
ชุดที่ 1 อัตราส่วน
Sataporn Butsai
ใบงาȨระมาณค่า
ใบงาȨระมาณค่าใบงาȨระมาณค่า
ใบงาȨระมาณค่า
kanjana2536
การคูณพหุนามึϹวยพหุนาม
การคูณพหุนามึϹวยพหุนามการคูณพหุนามึϹวยพหุนาม
การคูณพหุนามึϹวยพหุนาม
kroojaja
คอมพลี๶มนต์
คอมพลี๶มนต์คอมพลี๶มนต์
คอมพลี๶มนต์
Aon Narinchoti
สมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยว
สมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยวสมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยว
สมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยว
Piyanouch Suwong
ลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรมลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรม
rdschool
ใบความรู้ เรื่องสถิติ
ใบความรู้ เรื่องสถิติใบความรู้ เรื่องสถิติ
ใบความรู้ เรื่องสถิติ
พัน พัน
แบบฝึกทักษะชุดที่ 2 การบวกทศนิยม
แบบฝึกทักษะชุดที่ 2 การบวกทศนิยมแบบฝึกทักษะชุดที่ 2 การบวกทศนิยม
แบบฝึกทักษะชุดที่ 2 การบวกทศนิยม
Kamolthip Boonpo
แบบฝึกหัดเรื่องสมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยว
แบบฝึกหัดเรื่องสมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยวแบบฝึกหัดเรื่องสมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยว
แบบฝึกหัดเรื่องสมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยว
Jirathorn Buenglee
สมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยว
สมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยวสมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยว
สมการเชิงเส้Ȩัวแปรเึϸยว
kroojaja
การประยุกต์จำนวน๶ต็มและ๶ลྺยกกำลัง
การประยุกต์จำนวน๶ต็มและ๶ลྺยกกำลังการประยุกต์จำนวน๶ต็มและ๶ลྺยกกำลัง
การประยุกต์จำนวน๶ต็มและ๶ลྺยกกำลัง
kroojaja
รายงานวิจัย ฯ เศรษฐกิจพอเพียง
รายงานวิจัย ฯ เศรษฐกิจพอเพียงรายงานวิจัย ฯ เศรษฐกิจพอเพียง
รายงานวิจัย ฯ เศรษฐกิจพอเพียง
Intrapan Suwan
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว
3.2 การแก้สมการกำลังสองตัวแปรเดียว
Somporn Amornwech

Similar to 6.2ฐาน6 2 ๶ลྺยกกำลัง (20)

๶ลྺยกกำลัง
๶ลྺยกกำลัง๶ลྺยกกำลัง
๶ลྺยกกำลัง
krookay2012
Exponential and logarithm function
Exponential and logarithm functionExponential and logarithm function
Exponential and logarithm function
Thanuphong Ngoapm
๶ลྺยกกำลังครูดาว
๶ลྺยกกำลังครูดาว๶ลྺยกกำลังครูดาว
๶ลྺยกกำลังครูดาว
dow2512
ลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรมลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรม
rdschool
ลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรมลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรม
rdschool
Chapter 3 อนุกรม
Chapter 3 อนุกรมChapter 3 อนุกรม
Chapter 3 อนุกรม
PumPui Oranuch
สมบัติการเท่ากัน
สมบัติการเท่ากันสมบัติการเท่ากัน
สมบัติการเท่ากัน
Aon Narinchoti
๶ฉลย กสพท. คณิตศาสตร์ 2559
๶ฉลย กสพท. คณิตศาสตร์ 2559๶ฉลย กสพท. คณิตศาสตร์ 2559
๶ฉลย กสพท. คณิตศาสตร์ 2559
Tonson Lalitkanjanakul
จำȨȨชิงซ้อน.
จำȨȨชิงซ้อน.จำȨȨชิงซ้อน.
จำȨȨชิงซ้อน.
rattapoomKruawang2
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึมบทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
ภัชรณันติ์ ศรีประเสริฐ
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึมบทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
ภัชรณันติ์ ศรีประเสริฐ
112
112112
112
pranee54
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
PumPui Oranuch
___ facebook.com_123_grade4--- _________ 3.1 ___ 01-10
  ___ facebook.com_123_grade4---  _________ 3.1 ___ 01-10  ___ facebook.com_123_grade4---  _________ 3.1 ___ 01-10
___ facebook.com_123_grade4--- _________ 3.1 ___ 01-10
Kuntoonbut Wissanu
๶ลྺยกกำลัง
๶ลྺยกกำลัง๶ลྺยกกำลัง
๶ลྺยกกำลัง
krookay2012
Exponential and logarithm function
Exponential and logarithm functionExponential and logarithm function
Exponential and logarithm function
Thanuphong Ngoapm
๶ลྺยกกำลังครูดาว
๶ลྺยกกำลังครูดาว๶ลྺยกกำลังครูดาว
๶ลྺยกกำลังครูดาว
dow2512
ลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรมลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรม
rdschool
ลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรมลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรม
rdschool
Chapter 3 อนุกรม
Chapter 3 อนุกรมChapter 3 อนุกรม
Chapter 3 อนุกรม
PumPui Oranuch
สมบัติการเท่ากัน
สมบัติการเท่ากันสมบัติการเท่ากัน
สมบัติการเท่ากัน
Aon Narinchoti
๶ฉลย กสพท. คณิตศาสตร์ 2559
๶ฉลย กสพท. คณิตศาสตร์ 2559๶ฉลย กสพท. คณิตศาสตร์ 2559
๶ฉลย กสพท. คณิตศาสตร์ 2559
Tonson Lalitkanjanakul
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึมบทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
ภัชรณันติ์ ศรีประเสริฐ
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึมบทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
บทที่ 1 เรื่องฟังก์ชันเอกซ์โปเนนเชียลและลอการิทึม
ภัชรณันติ์ ศรีประเสริฐ
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
PumPui Oranuch
___ facebook.com_123_grade4--- _________ 3.1 ___ 01-10
  ___ facebook.com_123_grade4---  _________ 3.1 ___ 01-10  ___ facebook.com_123_grade4---  _________ 3.1 ___ 01-10
___ facebook.com_123_grade4--- _________ 3.1 ___ 01-10
Kuntoonbut Wissanu

6.2ฐาน6 2 ๶ลྺยกกำลัง

  • 1. เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547 9 เลขยกกําลัง ถา a เปนจํานวนใด ๆ และ n เปนจํานวนเต็ม บวก “ a กําลัง n” หรือ “ a กําลัง n” เขียนแทนดวย an มีความหมายดังนี้ an = a × a × a ×… a (a คูณกัน n ตัว) n ตัว เรียก an วาเลขยกกําลัง (power) โดยมี a คือ ฐาน (base) และ n คือ เลขยกกําลัง (exponent) ระบบจํานวนเต็ม 1. จํานวนเต็ม - จํานวนเต็มลบ - ศูนย - จํานวนเต็มบวก ขอสรุป 1) 1 เปนจํานวนนับ หรือ จํานวนเต็มบวกที่นอยที่สุด 2) ไมมีจํานวนนับ หรือ จํานวนเต็มบวกที่มากที่สุด 3) ไมมีจํานวนเต็มลบที่นอยที่สุด 4) -1 เปนจํานวนเต็มลบ ที่มากที่สุด 5) บนเสนจํานวน จํานวนที่แทนดวยจุดที่อยูทางซาย จะมีคานอยกวาจํานวนที่แทนดวย จุดที่อยูทางขวาเสมอ 2. คาสัมบูรณของจํานวนเต็มและจํานวนตรงขามของจํานวนเต็ม คาสัมบูรณของจํานวนเต็มใด ๆ หมายถึง ระยะหางระหวางจํานวนเต็มนั้นกับ 0 บนเสน จํานวน ดังนั้น คาสัมบูรณของจํานวนเต็มจึงเปนบวกเสมอ เขียน แทนคาสัมบูรณ เชน z อานวา คาสัมบูรณของ z 3. การบวกจํานวนเต็ม - จํานวนเต็มบวก + จํานวนเต็มบวก = ผลบวกของคาสัมบูรณของจํานวนทั้งสอง - จํานวนเต็มลบ + จํานวนเต็มลบ = จํานวนตรงขามของผลบวก ของคาสัมบูรณ ของจํานวนทั้งสอง - จํานวนเต็มบวก + จํานวนเต็มลบ = จํานวนตรงขามของผลลัพธที่เกิดจากคาสัมบูรณ ของจํานวนเต็มลบ ลบดวยคาสัมบูรณของจํานวนเต็มบวก
  • 2. เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547 10 4. การลบจํานวนเต็ม ตัวตั้ง − ตัวลบ = ตัวตั้ง + จํานวนตรงขามของตัวลบ 5. การคูณจํานวนเต็ม - จํานวนเต็มบวกคูณจํานวนเต็มลบเทากับจํานวนตรงขามของผลคูณของคาสัมบูรณของ จํานวนทั้งสองนั่นคือ ถา a, b เปนจํานวนเต็มบวกใด ๆ a × (− b) = ( a x b− ) - จํานวนเต็มลบคูณจํานวนเต็มบวกเทากับจํานวนตรงขามของผลคูณของคาสัมบูรณของ จํานวนทั้งสองนั่นคือ ถา a, b เปนจํานวนเต็มบวกใดๆ (− a) × b = − ( a × b ) - จํานวนเต็มลบคูณจํานวนเต็มลบเทากับผลคูณของคาสัมบูรณของจํานวน ทั้งสอง นั่นคือ ถา a, b เปนจํานวนเต็มบวกใดๆ (− a) × (− b) = − ( a− × b− ) 6. การหารจํานวนเต็ม - การหารจํานวนเต็มเมื่อตัวตั้งเปนจํานวนเต็มบวกและตัวหารเปนจํานวนเต็มลบหรือตัวตั้ง เปนจํานวนเต็มลบ และตัวหารเปนจํานนเต็มบวก ผลลัพธเทากับจํานวนตรงขามของคาสัมบูรณของตัวตั้ง หารดวยคาสัมบูรณของตัวหาร - การหารจํานวนเต็มเมื่อตัวตั้งและตัวหารเปนจํานวนเต็มลบทั้งคู ผลลัพธเทากับ คาสัมบูรณ ของตัวตั้งหารดวยคาสัมบูรณของตัวหาร 7. สมบัติของ 1 และ 0 - ถา a เปนจํานวน ใด ๆ - ถา a เปนจํานวนใด ๆ ซึ่งไมเทากับ 0 1 × a = a = a × 1 a 0 = 0 1 a = a 1 a = a a + 0 = a = 0 + a a × 0 = 0 = 0 × a
  • 3. เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547 11 เลขยกกําลัง การคูณและการหารเลขยกกําลัง 1. สมบัติการคูณเลขยกกําลังที่มีเลขชี้กําลังเปนจํานวนเต็มบวก เมื่อ a เปนจํานวนใด ๆ และ m, n เปนจํานวนเต็มบวก จงเขียนจํานวนตอไปนี้ใหอยูในรูปอยางงาย (1) 23 × 27 × 29 = 2 (3 + 7 + 9) = 219 (2) 56 × 5 × 53 × 54 = 5 (6+1+3+4) = 514 (3) (3 2n-1 ) (3 2n+1 ) = 3 2n-1+2n+1 = 34n (4) 5 n+1 × 52n-2 = 5 n+1+2n-2 = 53n-1 2. สมบัติการหารเลขยกกําลังที่มีเลขชี้กําลังเปนจํานวนเต็มบวก กรณีที่ 1 เมื่อ a เปนจํานวน จริงใด ๆ ที่ไมใชศูนย และ m, n เปนจํานวนเต็มบวกที่ m > n am ÷ an กรณีที่ 2 เมื่อ a เปนจํานวน จริงใด ๆ ที่ไมใชศูนย และ m, n เปนจํานวนเต็มบวกที่ m = n am ÷ an = am – n = 1 นิยาม ถา a เปนจํานวนจริงใดๆ ที่ไมใชศูนย a0 = 1 am × an = m+n
  • 4. เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547 12 กรณีที่ 3 เมื่อ a เปนจํานวน จริงใด ๆ ที่ไมใชศูนย และ m, n เปนจํานวนเต็มบวกที่ m < n n m a a = mn a − 1 นิยาม ถา a เปนจํานวนจริงใดๆ ที่ไมใชศูนย และ n เปนจํานวนเต็มบวก แลว a-n = n a 1 หรือ an = n a − 1 2. จงทําใหเปนผลสําเร็จ 1) 34 ÷ 32 = 34-2 = 32 2) 3535 2 1 2 1 2 1 − ⎟ ⎠ ⎞ ⎜ ⎝ ⎛ =⎟ ⎠ ⎞ ⎜ ⎝ ⎛ ÷⎟ ⎠ ⎞ ⎜ ⎝ ⎛ 3) 28 ÷ 29 = 2 98− = 2 1− = 2 1 = 2 2 1 ⎟ ⎠ ⎞ ⎜ ⎝ ⎛ 4) baba ab ba 31214 24 8.8 7 56 == −− 5) xxxx x x nnnn n n ==== +−−− − 11)1( 1 3. สมบัติการคูณและการหารเลขยกกําลัง เมื่อเลขชี้กําลังเปนจํานวนเต็ม 3.1 am ×an = am+n เมื่อ a≠ 0 และ m, n เปนจํานวนเต็ม 3.2 เมื่อ a≠ 0 และ m, n เปนจํานวนเต็ม กรณีที่ 1 ถา m > n จะได nmnm aaa − =÷ กรณีที่ 2 ถา m = n จะได 10 ==÷ aaa nm กรณีที่ 3 ถา m < n จะได mn nm a aa − =÷ 1 3.3 n n a a 1 =− หรือ n n a a − = 1 เมื่อ a≠ 0 และ n เปนจํานวนเต็ม
  • 5. เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547 13 จงทําใหเปนรูปอยางงายและใหเลขยกกําลังเปนบวก 1) 7 × 79 × 7-2 × 710 × 7-7 = 71 + 9 + 2 + 10 + 7 = 711 2) (95 × x3 × 76 ) (9-5 × x-2 × 7-10 ) = 95 – 5 × x3 – 2 × 76 – 10 = 90 × x × 7-4 = 4 7 1 x× = 4 7 x 3) 279 97 465 524 ××× ×× −− −−− x x = 27 9 5464 52 ×× +−+ +− x = 27 9 10 3 ×× x 4. นําสมบัติของการคูณและการหารเลขยกกําลังมาเขียนจํานวนที่มีคามาก ๆ และจํานวนนอย ๆ ในรูปเลขทศนิยม โดยเขียนใหอยูในรูป A × 10n เมื่อ 1 ≤ A < 10 และ n เปนจํานวนเต็ม จงเขียนจํานวนตอไปนี้ใหอยูในรูป A × 10n เมื่อ ≤ A < 10 และ n เปนจํานวนเต็ม 1) 128,000,000,000 = 1.28 × 1011 2) 0.000000951 = 9.51 × 10-7 3) 0.00084 × 10-5 = 8.4 × 10-4 × 10-5 = 8.4 × 10-9 5. สมบัติอื่นๆ ของเลขยกกําลัง 1. เลขยกกําลังที่มีฐานเปนเลขยกกําลัง เมื่อ a ≥ 0 และ m, n เปนจํานวนเต็ม 2. เลขยกกําลังที่มีฐานอยูในรูปการคูณ หรือการหารของจํานวนหลาย ๆจํานวน เมื่อ a ≠ 0 , b ≠ 0 และ n เปนจํานวนเต็ม 3. เลขยกกําลังที่มีเลขชี้กําลังเปนเศษสวน เมื่อ a > 0 และ n เปนจํานวนเต็มบวกที่มากกวา 1 เมื่อ a ≠ 0 และ m เปนจํานวนเต็มบวก ; n ≥ 2 ( ) mnnm aa = ( ) nnn baab = n nn b a b a =⎟ ⎠ ⎞ ⎜ ⎝ ⎛ nn aa = 1 n mn m aa =
  • 6. เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547 14 ตัวอยาง จงเขียนใหอยูในรูปอยางงาย และเลขชี้กําลังเปนบวก 1) ( ) 84242 333 == × 2) ( ) 15 155353 2 1 222 === −×−− 3) 666 6 32 32 3 2 2 1 nmn m n m n m === ⎟ ⎟ ⎠ ⎞ ⎜ ⎜ ⎝ ⎛ − × ×−− 4) 4 2 3 3 4 3 7 − − ⎥ ⎥ ⎦ ⎤ ⎢ ⎢ ⎣ ⎡ ÷ ⎥ ⎥ ⎦ ⎤ ⎢ ⎢ ⎣ ⎡ xy x เมื่อ ≠x 0 และ 0≠y 241212 89 12 8 12 9 8 12 12 9 7777 7 7 xxxx x x ==×=÷= + −− − ตัวอยาง เชน 1) 5 7 5 3 5 4 355 4 2222 ==× + 2) ( ) 2 1 2 1 1 2 1 6 3 6 6 6 3 6 23 6 6 2 22 2 2 2 2 2 2 8 8 ===== −
  • 7. เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547 15 ระบบจํานวนเต็ม คาสัมบูรณของจํานวนเต็ม และจํานวนตรงขามของจํานวนเต็ม ตัวอยาง (1) 4− = 4 (2) 6−− = −6 (3) 0 = 0 (4) − (−8) = 8 การบวกจํานวนเต็ม ตัวอยาง (1) 4 + 8 = 4 + 8 = 4 + 8 = 12 (2) (−9) + (−11) = −( 9− + 12− ) = −(9 +12) = −21 (3) 21 + (−7) = 21 − 7 = 21 − 7 = 14 (4) 5 + (−15) = −( 15− − 5 ) = −(15 − 5) = −10
  • 8. เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547 16 การลบจํานวนเต็ม ตัวอยาง (1) 9 −15 = 9 + จํานวนตรงขามของ 15 = 9 + (−15) = −( 15− 9 ) = − (15 − 9) = −6 (2) (−4) − (−8) = (−4) + จํานวนตรงขามของ (+8) = (−4) + 8 = 8 − 4 = 8 − 4 = 4 การคูณจํานวนเต็ม ตัวอยาง (1) 5 × (−7) = − ( 5 × 7− ) = − (5×7) = − 35 (2) (−12) × 9 = − ( 12− × 9 ) = − (12×9) = − 108
  • 9. เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547 17 (3) (−11) × (−2) = ( 11− × 2− ) = 11 × 2 = 22 การหารจํานวนเต็ม ตัวอยาง (1) 7 35− = − ⎥ ⎥ ⎦ ⎤ ⎢ ⎢ ⎣ ⎡ − 7 35 = − ⎥ ⎦ ⎤ ⎢ ⎣ ⎡ 7 35 = − 5 (2) 10 80 − − = 10 80 − − = 10 80 = 8
  • 10. เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547 18 แบบฝกทักษะ 1. เลขสามจํานวน คือ 3524, 4005 และ 4597 หารดวยเลขจํานวนหนึ่ง เหลือเศษเทากันหมด จงหาผลบวกของตัวหารนั้นกับเศษวาเทากับเทาไร 2. ถา 2 1 =+ a a และ 4 1 =+++ abb a a b ab แลวคาของ 12 +a คือจํานวนใด 3. ( ) ⎟ ⎟ ⎠ ⎞ ⎜ ⎜ ⎝ ⎛ − ++ ⎟ ⎠ ⎞ ⎜ ⎝ ⎛ + 0 210 3 34 44444 4 44 4. ให x = −2 จงหาคาของ 1678 ... − ++++ xxxx 5. 68 + 69 + ...+ 997 + 998 มีคาเทาไร 6. 119951994 199519931994 −× ×+ + 119961995 199619941995 −× ×+ + 119971996 199719951996 −× ×+ 7. จงหาวาจะตองใชจํานวนเต็มบวกที่เรียงตอเนื่องกันมากที่สุดกี่จํานวน นํามาบวกกันและ ไดผลลัพธเทากับ 720,600 พอดี 8. P และ Q เปนจํานวนสองจํานวนที่แตกตางกันอยูระหวาง 1 − 1,000 จงหาวา คาที่มากที่สุดของ QP QP − + 22 มีคาเทาไร 9. A และ B เปนจํานวนที่มีคาตางกันและ 13 A − 7 B = 91 10 จงหาวา (A × B) มากกวา (A + B) อยูเทาไร 10.พอมีเงินเดือน 27,810 บาท ในการคิดภาษีเงินพึงประเมินคือเงินเดือนที่ไดรับใน 1 ป แมไมมีเงินได และพอมีลูก 3 คน หักคาลดหยอนภาษีของพอและแมคนละ 60,000 บาท หักคาลดหยอนภาษีลูกคนละ 17,000 บาท เงินรายไดหลังจากหักคาลดหยอนภาษีพอตอง เสียภาษีใหกับรัฐบาล 5% หนวยงานตนสังกัดของพอหักภาษีไวเดือนละ 500 บาท พอสิ้นปพอตองเสียภาษีเพิ่มหรือไดรับภาษีคืนเปนจํานวนเทาไร
  • 11. เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547 19 แนวคิดแบบฝกทักษะ 1. เลขสามจํานวน คือ 3524, 4005 และ 4597 หารดวยเลขจํานวนหนึ่ง เหลือเศษเทากันหมด จงหาผลบวกของตัวหารนั้นกับเศษวาเทากับเทาไร แนวคิด 4597 − 4005 = 592 4597 − 3524 = 1073 4005 − 3524 = 481 37 592, 1073, 481 16, 29, 13, ∴ เลขจํานวนนั้นคือ 37 3524 ÷ 37 = 95 เศษ 9 4005 ÷ 37 = 108 เศษ 9 4597 ÷ 37 = 124 เศษ 9 ∴ เศษที่ไดจากการหาร คือ 9 ดังนั้น ผลบวกของตัวหาร กับเศษเทากับ 37 + 9 = 46 ตอบ 46 2. ถา 2 1 =+ a a และ 4 1 =+++ abb a a b ab แลวคาของ 12 +a คือจํานวนใด แนวคิด จาก abb a a b ab 1 +++ = 4 ⎟ ⎠ ⎞ ⎜ ⎝ ⎛ ++⎟ ⎠ ⎞ ⎜ ⎝ ⎛ + aba b b a ab 1 = 4 ⎟ ⎠ ⎞ ⎜ ⎝ ⎛ ++⎟ ⎠ ⎞ ⎜ ⎝ ⎛ + b b ab ba 111 = 4 ตอบ 4
  • 12. เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547 20 3. ( ) ⎟ ⎟ ⎠ ⎞ ⎜ ⎜ ⎝ ⎛ − ++ ⎟ ⎠ ⎞ ⎜ ⎝ ⎛ + 0 210 3 34 44444 4 44 แนวคิด ( ) ⎟ ⎟ ⎠ ⎞ ⎜ ⎜ ⎝ ⎛ − ++ ⎟ ⎠ ⎞ ⎜ ⎝ ⎛ + 0 210 3 34 44444 4 44 ( ) ⎟ ⎠ ⎞ ⎜ ⎝ ⎛ − ++ ⎟ ⎠ ⎞ ⎜ ⎝ ⎛ = 14 164414 64 8 ⎟ ⎠ ⎞ ⎜ ⎝ ⎛ ×× ×= 3 1694 8 1 3 1694 8 1 ×× ×= 24= ตอบ 24 4. ให x = −2 จงหาคาของ 1678 ... − ++++ xxxx แนวคิด ให x = −2 ∴ 102345678 − +++++++++ xxxxxxxxxx ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( ) ( )102345678 2222222222 −+−+−+−+−+−+−+−+−+−= 21248163264125256 −+−+−+−+−= 172= ตอบ 172
  • 13. เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547 21 5. 68 + 69 + ...+ 997 + 998 มีคาเทาไร แนวคิด จับคูจํานวนที่รวมกันได 1,065 จาก 67 ถึง 998 67 + 68 + 69 + ... + 996 + 997 + 998 ซึ่งมี 466 คู ผลรวมจึงมีคาเทากับ 1,065 × 466 = 496,290 ดังนั้น 68 + 69 + ...+ 997 + 998 = 496,290 − 67 = 496,223 ตอบ 496,223 6. 119951994 199519931994 −× ×+ + 119961995 199619941995 −× ×+ + 119971996 199719951996 −× ×+ แนวคิด 119951994 199519931994 −× ×+ = 119951994 )19951993(11995 −× ×+− = ( ) 119951994 1199519931995 −× −×+ = ( )[ ] 119951994 1199311995 −× −+× = 1 119951994 119941995 = −× −× ทํานองเดียวกัน 119961995 199619941995 −× ×+ = 1 และ 119971996 199719951996 −× ×+ = 1 ดังนั้น 119951994 199519931994 −× ×+ + 119961995 199619941995 −× ×+ + 119971996 199719951996 −× ×+ = 1 + 1 + 1 = 3 ตอบ 3
  • 14. เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547 22 7. จงหาวาจะตองใชจํานวนเต็มบวกที่เรียงตอเนื่องกันมากที่สุดกี่จํานวน นํามาบวกกันและ ไดผลลัพธเทากับ 720,600 พอดี แนวคิด 1 + 2 + 3 + 4 ...+ n = 720,600 ( ) 2 1 n n + = 720,600 nn +2 = 1,441,200 200,441,12 −+ nn = 0 (n + 1,201)(n − 1,200) = 0 (n + 1,201) = 0 n = −1,200 (n − 1,200) = 0 n = 1,200 ∴ n = −1,200 และ 1,200 ใชจํานวนเต็มบวก 1,200 จํานวน ตอบ 1,200 จํานวน 8. P และ Q เปนจํานวนสองจํานวนที่แตกตางกันอยูระหวาง 1 − 1,000 จงหาวา คาที่มากที่สุดของ QP QP − + 22 มีคาเทาไร แนวคิด QP QP − + 22 จะมีคามากที่สุดเมื่อ P – Q มีคานอยที่สุด ∴ จะได P = 1,000, Q = 999 ดังนั้น QP QP − + 22 = ( ) ( ) 9991000 9991000 22 − + = ( )2 1000 + ( )2 999 = 1,000,000 + 998,001 = 1,998,001 ตอบ 1,998,001
  • 15. เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547 23 9. A และ B เปนจํานวนที่มีคาตางกันและ 13 A − 7 B = 91 10 จงหาวา (A × B) มากกวา (A + B) อยูเทาไร แนวคิด 7 13 13 − A = 91 10 91 137 BA − = 91 10 7A – 13B = 10 1) พิจารณาผลตางของผลคูณของ A กับ 7 และ B กับ 13 มีผลลัพธตางกันอยู 10 พิจารณาตาม ตารางดังนี้ ตัวคูณ ผลคูณ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 A x 7 7 14 21 28 35 42 49 56 63 70 B x 13 13 26 39 42 65 78 91 104 117 130 2) จากตารางพบวา เมื่อนํา A คูณ 7 ลบดวย B คูณ 13 แลว มีผลตางเทากับ 10 จะได A เทากับ 7 และ B เทากับ 3 ∴ (A × B) − (A + B) = (7 × 3) − (7 + 3) = 21 − 10 = 11 ตอบ 11
  • 16. เลขยกกําลัง แกไขวันที่ 23 กันยายน 2547 24 10. พอมีเงินเดือน 27,810 บาท ในการคิดภาษีเงินไดพึงประเมินคือเงินเดือนที่ไดรับใน 1 ป แมไมมีเงินได และพอมีลูก 3 คน หักคาลดหยอนภาษีของพอและแมคนละ 60,000 บาท หักคาลดหยอนภาษีลูกคนละ 17,000 บาท เงินรายไดหลังจากหักคาลดหยอนภาษีพอตอง เสียภาษีใหกับรัฐบาล 5 % หนวยงานตนสังกัดของพอหักภาษีไวเดือนละ 500 บาท พอสิ้นปพอตองเสียภาษีเพิ่มหรือไดรับภาษีคืนเปนจํานวนเทาไร แนวคิด เงินไดพึงประเมินคือ เงินเดือนที่ไดรับใน 1 ป ดังนั้น พอมีเงินพึงประเมิน 27,810 × 12 = 333,720 บาท คาหักลดหยอนภาษี 60,000 + 60,000 + 17,000 − 17,000 −17,000 = 171,000 บาท เงินไดหลังหักคาลดหยอนภาษี คือ 333,720 − 171,000 = 162,720 บาท เสียภาษี 5% คิดเปนเงิน 100 5 × 162720 = 8,136 บาท หนวยงานตนสังกัดหักภาษีไว 500 × 12 = 6,000 บาท ดังนั้น พอตองจายภาษีเพิ่มอีก 8,136 − 6,000 = 2,136 บาท ตอบ 2,136 บาท