ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
3
Most read
4
Most read
5
Most read
สามัคคีเภทคาฉัȨ์




           จัดทาโดย

     นายปิ ยวุฒิ แกล้วกล้า

      เลขที่ ๓ ชั้น ม.๖/๓




             เสนอ

    คุณครูนิตยา ทองดียง
                      ิ่




โรงเรียนรัษฎานุประดิษฐ์ อนุสรณ์
อุปชาติ ฉันท์ ๑๑
       ๏ เราคิดจะใคร่ ยก                 พยุห์พลสกลไกร
ประชุมประชิดชัย                          รณรัฐวัชชี
       ๏ ฉะนี้แหละเสนา                   บดิฐานมนตรี

คือใครจะใคร่ มี                          พจค้านประการไร
                           ็
          ๏ ฝ่ ายพราหมณ์กกราบทูล         อดิศูรนราศัย
นยาธิบายใน                               วจนัตถทัดทาน
          ๏ พระราชปรารม                  ภนิยมมิควรการณ์
ขอองคภูบาล                               พิเคราะห์ถ่อง ณ ทางดี
          ๏ ข้อที่จะกรี ธา               พลไกรและไปตี
กษัตริ ย ์ ณ วัชชี                       ชนบท บ สมหมาย
          ๏ มิแผกมิผิดพา                 กยข้าพระองค์ทาย
ไป่ ได้สะดวกดาย                          และจะแพ้เพราะไพรี
          ๏ พวกลิจฉวีขต  ั               ติยรัฐวัชชี
ละองค์ละองค์มี                           มิตรพันธมันคง
                                                     ่
          ๏ อนึ่งสิ สามารถ               รณอาจกระทาสง
ครามยุทธยรรยง                            มิระย่อมิเยงใคร
          ๏ เราน้อยจะย่อยยับ             พลทัพปราชัย
กระนี้แหละแน่ใน                          มนข้าพยากรณ์
          ๏ และแสนจะสามารถ               พละอาจกระทาสง
ครามยุทธยรรยง                            มิระย่อมิเยงใคร
          ๏ เราน้อยจะย่อยยับ             พลทัพปราชัย
กระนี้แหละแน่ใน                          มนข้าพยากรณ์
          ๏ และอีกประการเล่า             ผิวเขาคะนึงคลอน
แคลนพาลระรานรอน                          ทุจริ ตผจญเรา
          ๏ เป็ นก่อนกระนั้นชอบ          ทุษตอบก็ทาเนา
มิมีคดีเอา                               ธุระเห็น บ เป็ นธรรม
๏ และโลกจะล่วงวา                           ่
                                                  ทติวาพระองค์จา
       นงเจตนาดา                                  ริ วิรุธประทุษเขา
              ๏ ฉะนี้พระจุ่งปรา                   รภภารเบื่อเบา
       แบ่งกล่อมถนอมเกลา                          มิตรภาพสงบงามฯ


                               ถอดความอุปชาติฉันท์ ๑๑
           เมื่อพระเจ้าอชาตศัตรู เสด็จออกว่าราชการ ท่ามกลางเหล่าเสนาบดีและอมาตย์ท้ งหลาย
                                                                                    ั
ที่เข้าเฝ้ าฯเรี ยงรายตามฐานันดรศักดิ์ ณ ท้องพระโรงเพื่อคอยรับฟังพระราชโองการเรื่ องต่างๆ
พระองค์จึงมีพระราชดารัสว่า พระองค์มีพระประสงค์จะยกกองทัพอันเกรี ยงไกรไปทาสงคราม
กับแคว้นวัชชี ด้วยเหตุน้ ีบรรดาเสนาบดีและอมาตย์ท้ งหลายมีผใดจะคัดค้านอย่างไรหรื อไม่
                                                      ั       ู้
วัสสการพราหมณ์จึงกราบทูลพระมหากษัตริ ย ์ แสดงความคิดเห็นส่ วนตัวว่า ในข้อที่จะทรง
กรี ธาทัพอันเกรี ยงไกรไปตีเมืองกษัตริ ยแห่งแคว้นวัชชีน้ นคงจะไม่สมดังประราชประสงค์ จะมิ
                                           ์              ั
ผิดไปจากคากราบทูลของข้าพระพุทธเจ้าที่ถวายทานายไว้ จะไม่ได้แคว้นวัชชีอย่างสะดวกสบาย
                         ั               ์              ั                             ั
ทั้งยังจะต้องพ่ายแพ้ศตรู เพราะกษัตริ ยแห่งแคว้นวัชชีน้ นแต่ละองค์ทรงมีความสามัคคีกนอย่าง
มันคง นอกจากนี้ยงมีความสามารถในการทาสงครามไม่เกรงกลัวผูใด พวกของเราน้อยกว่าจะ
   ่                   ั                                          ้
เป็ นฝ่ ายแพ้ ข้าพระพุทธเจ้ามันใจจึงขอทานายเช่นนี้ อีกประการหนึ่งนั้นถ้าหากพวกเขาคิดร้าย
                                ่
กลันแกล้งให้เราเดือดร้อนก่อน ก็เป็ นการสมควรที่จะตอบโต้กลับไปบ้าง แต่น้ ีไม่ได้มีเรื่ อง
     ่
                                                            ่
พิพาทกัน จึงเป็ นสิ่ งที่ไม่ถูกต้อง ชาวโลกจะพากันตาหนิวาพระองค์ทรงมีเจตนาจะคิดร้ายกับเขา
ดังนั้นพระองค์ควรจะคิดรักษามิตรภาพและความสงบสุ ขไว้


                                     อีทสัง ฉันท์ ๒๐
                                        ิ
              ๏ ภูบดีสดับอุปายะตาม
       ณ วาทวัสสการะพราหมณ                                      ณ บังอาจ
              ๏ เกินประมาณเพราะการณ์ละเมิดประมาท
       บ ควรจะขัดบรมราช                                         วโรงการ
๏ ท้าวก็ทรงแสดงพระองค์ ธ ปาน
ประหนึ่งพระราชหทัยลุดาล                   พิโรธจึง
       ๏ ผันพระกายกระทืบพระบาทและอึง
พระศัพทสี หนาทพึง                         สยองภัย
       ๏ เอออุเหม่นะมึงชิช่างกระไร
ทุทาสสถุลฉะนี้ไฉน                         ก็มาเป็ น
       ๏ ศึก บ ถึงและมึงก็ยงมิเห็น
                           ั
จะน้อยจะมากจะยากจะเย็น                    ประการใด
       ๏ อวดฉลาดและคาดแถลงเพราะใจ
ขยาดขยั้ȨิทȨะไร
            ั                             ก็หมิ่นกู
       ๏ กลละกากะหวาดขมังธนู
บ ห่อนจะเห็นธวัชริ ปู                     สิ ล่าถอย
       ๏ พ่ายเพราะภัยพะตัวและกลัวจะพลอย
พินาศชิพิตประดิดประดอย                    ประเด็นขัด
       ๏ กูกเ็ อกอุดมบรมกษัตริ ย ์
วิจาระถ้วน บ ควรจะทัด                     จะทานคา
       ๏ นี่นะเห็นเพราะเป็ นอมาตย์กระทา
พระราชการมาฉนา                            สมัยนาน
       ๏ ใช่กระนั้นละไซร้จะให้ประหาร
ชิวาตม์และหัวจะเสี ยบประจาน               ณ ทันที
       ๏ นาคราภิบาลสภาบดี
และราชบุรุษแน่ะเฮ้ยจะรี                   จะรอไย
       ๏ ฉุดกระชากกลีอปรี ยเ์ ถอะไป
บ พักจะต้องกรุ ณอะไร                      กะคนคด
๏ ลงพระราชกรรมกรณบท
       พระอัยการพิพากษกฎ                                         และโกนผม
              ๏ ไล่มิให้สถิต ณ คามนิคม
       นครมหาสิ มานิยม                                           บุรีไร
              ๏ มันสมัครสวามิภกดิใน
                              ั
                   ็
       อมิตรลิจฉวีกไป                                            บ ห้ามกัน
              ๏ เสร็ จประกาศพระราชธูรสรรพ์
       เสด็จนิวตสภาภิมณฑ์
               ั      ั                                          มหาคารฯ



                                ถอดความอีทสัง ฉันท์ ๒๐
                                          ิ
       พระเจ้าอชาตศัตรู ทรงฟังกลอุบายตามคากราบทูลของวัสสการพราหมณ์ที่หมิ่นพระบรม
เดชานุภาพและขัดคาสังพระองค์ จึงทรงกระทาเสมือนหนึ่งว่าทรงขัดเคืองพระราชหฤทัย ขยับ
                   ่
พระองค์กระทืบพระบาทและทรงตวาดด้วยเสี ยงที่ดงน่าเกรงขาม เจ้าช่างเป็ นทาสที่ชวช้าเลว
                                           ั                               ั่
ทราม เหตุใดจึงตาหนิขาถึงเพียงนี้ ศึกสงครามก็ยงไม่ทนมีมา มึงก็ยงไม่เห็นว่าข้าศึกจะมากหรื อ
                    ้                        ั    ั           ั
น้อยเพียงใด และการทาสงครามจะยากจะง่ายประการใด กลับมาทาอวดฉลาดคาดคะเนเอาก็
เพราะใจมีหวาดกลัวอยู่ ไม่ทนอะไรเลยก็มาหมิ่นกูเสี ยแล้ว เสมือนหนึ่งกาที่หวาดเกรงพรานผู ้
                          ั
ชานาญ นี่ยงไม่ทนเห็นธงของศัตรู เลยก็สงถอยเสี ยแล้ว พ่ายแพ้เพราะเกรงภัยจะมาถึงตัว กลัวว่า
          ั    ั                     ั่
จะพลอยเสี ยชีวตจึงคิดหาประเด็นมาขัดแย้ง เราเป็ นถึงกษัตริ ยผสูงส่ ง มีวิจารณญาณถี่ถวนไม่
              ิ                                            ์ ู้                    ้
สมควรจะมาทัดทาน นี่เราเห็นว่าเป็ นอมาตย์รับราชการมาหลายปี ไม่เช่นนั้นเราจะสังประหาร
                                                                            ่
                                                           ่
ชีวิตตัดหัวเสี ยบประจานทันที นคราภิบาลและราชบุรุษจะรี รออยูทาไม จงรี บลากตัวคนชัวร้าย
                                                                                ่
ออกไปโดยไม่ตองเห็นอกเห็นใจกับคนคด เอาตัวไปลงพระราชอาญาตามกฎหมาย เสร็ จแล้วก็
            ้
จงโกนผม แล้วไล่มนไปให้พนเมืองของเรา มันจะไปสวามิภกดิ์กษัตริ ยลิจฉวีกตามใจไม่ตองไป
                ั      ้                         ั           ์      ็        ้
ห้ามมัน เสร็ จประกาศพระราชโองการก็เสด็จกลับยังที่ประทับที่ตกแต่งอย่างงดงาม
คุณค่ าด้ านวรรณศิลป์
 เรื่ องสามัคคีเภทคาฉัȨ์ มีที่มาจากหนังสื อธรรมจักษุ ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรม
หลวงวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื่น นภวงศ์) นายชิต บุรทัต ได้อ่านนิทานแล้วเห็นว่าเป็ นเรื่ องที่ดีมีคติ
จึงแต่งเป็ นฉันท์ นายชิต บุรทัต มีฝีมือเชี่ยวชาญในการแต่งคาประพันธ์ประเภทฉันท์เป็ นอย่าง
มาก โดยเฉพาะการเลือกฉันท์ชนิดต่างๆ มาใช้สลับกันอย่างเหมาะสมกับเนื้อเรื่ องและลีลาของ
แต่ละตอน จนได้รับการยกย่องว่ามีความไพเราะ งดงาม เป็ นที่นิยมอ่านแล้วจดจาตลอดมา
นายชิต บุรทัต แต่งเรื่ องสามัคคีเภทคาฉัȨ์เสร็ จเมื่ออายุเพียง ๒๓ ปี

๑. การสรรหาคา เป็ นการเลือกใช้คาในลักษณะต่างๆ เพื่อความคิดและความรู ้สึกได้แก่

 ๑.๑) การเลือกใช้คาได้ถูกต้อง มีความหมายชัดเจน สั้นแต่ได้ใจความ เช่น

               ๏ เราคิดจะใคร่ ยก        พยุห์พลสกลไกร
       ประชุมประชิดชัย                  รณรัฐวัชชี
         ๏ ฉะนี้แหละเสนา                บดิฐานมนตรี

 คือใครจะใคร่ มี                                      พจค้านประการไร


 ๑.๒) การเลือกใช้คาเหมาะสมกับฐานะของบุคคลในเรื่ อง เช่น

                          ั
       - พระเจ้าอชาตศตรู กบวัสสการพราหมณ์

 ๏                 เอออุเหม่นะมึงชิช่างกระไร
 ทุทาสสถุลฉะนี้ไฉน                   ก็มาเป็ น
 ๏                 ศึก บ ถึงและมึงก็ยงมิเห็น
                                     ั
 จะน้อยจะมากจะยากจะเย็น                    ประการใด
 ๏                 อวดฉลาดและคาดแถลงเพราะใจ
ขยาดขยั้ȨิทȨะไร
            ั                        ก็หมิ่นกู


๑.๓) การเลือกใช้คาให้เหมาะแก่ลกษณะคาประพันธ์ เหมาะกับเนื้อเรื่ อง เช่น
                              ั

 ๏               ท้าวก็ทรงแสดงพระองค์ ธ ปาน
ประหนึ่งพระราชหทัยลุดาล                     พิโรธจึง
 ๏               ผันพระกายกระทืบพระบาทและอึง
พระศัพทสี หนาทพึง                    สยองภัย


        ๑.๔) การเลือกใช้คาโดยคานึงเสี ยง

 (๑.) มีการเล่นคาสัมผัสคล้องจอง เช่น

 ๏ ใช่กระนั้นละไซร้จะให้ประ                      หาร
ชิวาตม์และหัวจะเสี ยบประ            จาน           ณ ทัน             ที
 ๏ นาคราภิบาลสภาบ                    ดี
และราชบุรุษแน่ะเฮ้ยจะ          รี                             จะรอไย
 ๏               ฉุดกระชากกลีอปรี ยเ์ ถอะไป
บ พักจะต้องกรุ ณอะ        ไร              กะคนคด
  (๒.) การย้าคาที่มีความหมายเหมือนกันหรื อใกล้เคียงกัน เช่น

        - จะน้อยจะมากจะยากจะเย็น

 (๓.)              การเล่นอักษร เสี ยงสัมผัสสระ และสัมผัสพยัญชนะ ให้มีจงหวะไพเราะ เช่น
                                                                       ั

        - จะน้อยจะมากจะยากจะเย็น

        - ขยาดขยั้ȨิทȨะไร
                      ั
๒. การใช้โวหาร ดังนี้

๒.๑) บรรยายโวหาร เป็ นการใช้ถอยคาเล่าเรื่ องราวต่างๆ ตามลาดับเหตุการณ์จนเห็น
                             ้
ภาพชัดเจน ดังตัวอย่าง

 ๏               ภูบดีสดับอุปายะตาม
 ณ วาทวัสสการะพราหมณ                        ณ บังอาจ
 ๏               เกินประมาณเพราะการณ์ละเมิดประมาท
 บ ควรจะขัดบรมราช                    วโรงการ
 ๏               ท้าวก็ทรงแสดงพระองค์ ธ ปาน
 ประหนึ่งพระราชหทัยลุดาล                     พิโรธจึง
 ๏               ผันพระกายกระทืบพระบาทและอึง
 พระศัพทสี หนาทพึง                  สยองภัย
 ๏               เอออุเหม่นะมึงชิช่างกระไร
 ทุทาสสถุลฉะนี้ไฉน                  ก็มาเป็ น


       ๒.๒) อุปมาโวหาร เป็ นโวหารที่กวีนามาใช้ประกอบเรื่ องโดยการเล่าแบบเปรี ยบเทียบ
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิงขึ้น ดังตัวอย่าง
                       ่

 ๏               กลละกากะหวาดขมังธนู
 บ ห่อนจะเห็นธวัชริ ปู                สิ ล่าถอย
 ๏               พ่ายเพราะภัยพะตัวและกลัวจะพลอย
 พินาศชิพิตประดิดประดอย                     ประเด็นขัด
 ๏ กูกเ็ อกอุดมบรมกษัตริ ย ์
 วิจาระถ้วน บ ควรจะทัด                     จะทานคา
๏ นี่นะเห็นเพราะเป็ นอมาตย์กระทา
พระราชการมาฉนา                สมัยนาน
๏ ใช่กระนั้นละไซร้จะให้ประหาร
ชิวาตม์และหัวจะเสี ยบประจาน             ณ ทันที
Ad

Recommended

PDF
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
ปิยะวุո แกล้วกล้า
DOCX
แผนผังความสัมพันธ์ของตัวละครเรื่อง ขุนช้างขุนแผน
Chittraporn Phalao
PDF
ข้อสอบปลายภาคเรียนที่ 2 (ม.4).1
Sivagon Soontong
PDF
งานภาษาไทย (อนุสรา)
Chutima Tongnork
PDF
บทละครพูด เรื่อง เห็นแก่ลูก
พัน พัน
PDF
สามัคคีเภทคำฉัȨ์ (อินทรวิเชียร)
B'Ben Rattanarat
PDF
แบบฝึกหัด
Hansa Srikrachang
PDF
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Sudarat Makon
PDF
สามัคคีเภทคำฉัȨ์ (อินทรวิเชียร)2
B'Ben Rattanarat
PDF
1 ธรรมชาติและพลังของภาษาไทย(5-34)
อัมพร ศรีพิทักษ์
PPTX
กัณฑ์มัทรี2๕๗
Milky' __
PDF
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ Ppt[1]
นิตยา ทองดียิ่ง
PDF
แบบฝึกทักษะการ๶ขียน๶รียงความ
sripayom
DOCX
สรุปความรู้จากเรื่องขุนช้าง ขุนแผน
Atiwat SN
DOCX
ร่ายยาวมหา๶วสสัȨรชาดก
Ruangrat Watthanasaowalak
PDF
สามัคคีเภทคำฉัȨ์Pdf
Mind Candle Ka
PPTX
ศาสนาชินโต
Padvee Academy
PDF
ประโยคความซ้อน
พัน พัน
PDF
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์.Pdf โดย พรทิวา
pontiwalovelove
PDF
งาȨำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
อิ่' เฉิ่ม
PPTX
การเลิกไพร่
PakChee
PDF
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6
teerachon
PDF
ใบความรู้เรื่อมัทนะพาธา
Chinnakorn Pawannay
PDF
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
Khwanruthai Kongpol
PDF
บทละครพูด เรื่อง มัทนะพาธา
น้อง มัดไหม
PDF
โครงงาȨระึϸษสา
Nattarika Wonkumdang
PDF
สามัคคีคำฉันท์.Ppt 34
Kittisak Chumnumset

More Related Content

What's hot (20)

PDF
สามัคคีเภทคำฉัȨ์ (อินทรวิเชียร)2
B'Ben Rattanarat
PDF
1 ธรรมชาติและพลังของภาษาไทย(5-34)
อัมพร ศรีพิทักษ์
PPTX
กัณฑ์มัทรี2๕๗
Milky' __
PDF
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ Ppt[1]
นิตยา ทองดียิ่ง
PDF
แบบฝึกทักษะการ๶ขียน๶รียงความ
sripayom
DOCX
สรุปความรู้จากเรื่องขุนช้าง ขุนแผน
Atiwat SN
DOCX
ร่ายยาวมหา๶วสสัȨรชาดก
Ruangrat Watthanasaowalak
PDF
สามัคคีเภทคำฉัȨ์Pdf
Mind Candle Ka
PPTX
ศาสนาชินโต
Padvee Academy
PDF
ประโยคความซ้อน
พัน พัน
PDF
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์.Pdf โดย พรทิวา
pontiwalovelove
PDF
งาȨำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
อิ่' เฉิ่ม
PPTX
การเลิกไพร่
PakChee
PDF
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6
teerachon
PDF
ใบความรู้เรื่อมัทนะพาธา
Chinnakorn Pawannay
PDF
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
Khwanruthai Kongpol
PDF
บทละครพูด เรื่อง มัทนะพาธา
น้อง มัดไหม
PDF
โครงงาȨระึϸษสา
Nattarika Wonkumdang
สามัคคีเภทคำฉัȨ์ (อินทรวิเชียร)2
B'Ben Rattanarat
1 ธรรมชาติและพลังของภาษาไทย(5-34)
อัมพร ศรีพิทักษ์
กัณฑ์มัทรี2๕๗
Milky' __
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ Ppt[1]
นิตยา ทองดียิ่ง
แบบฝึกทักษะการ๶ขียน๶รียงความ
sripayom
สรุปความรู้จากเรื่องขุนช้าง ขุนแผน
Atiwat SN
ร่ายยาวมหา๶วสสัȨรชาดก
Ruangrat Watthanasaowalak
สามัคคีเภทคำฉัȨ์Pdf
Mind Candle Ka
ศาสนาชินโต
Padvee Academy
ประโยคความซ้อน
พัน พัน
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์.Pdf โดย พรทิวา
pontiwalovelove
งาȨำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
อิ่' เฉิ่ม
การเลิกไพร่
PakChee
แบบทดสอบ ภาษาไทย(วรรณคดี) ม.6
teerachon
ใบความรู้เรื่อมัทนะพาธา
Chinnakorn Pawannay
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
Khwanruthai Kongpol
บทละครพูด เรื่อง มัทนะพาธา
น้อง มัดไหม
โครงงาȨระึϸษสา
Nattarika Wonkumdang

Viewers also liked (20)

PDF
สามัคคีคำฉันท์.Ppt 34
Kittisak Chumnumset
PDF
Satthatharachan
Piyarerk Bunkoson
PDF
บทȨัสการมาตาปิตุคุณ1
Mameaw Pawa
PDF
อิȨรวิเชียรฉัȨ์๑๑
Tidatep Kunprabath
PDF
สามัคคีเภทคำฉัȨ์แก๊ป
อภิมหึมา มหาแก็ปกังหันลม
PPT
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
A'waken P'Kong
PDF
Kamalachan
Piyarerk Bunkoson
PDF
Salinichan11
Piyarerk Bunkoson
PDF
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Jariya Huangjing
PDF
Phuchongkhaprayatachan
Piyarerk Bunkoson
PDF
Upenthrawichianchan
Piyarerk Bunkoson
PDF
วสันต
Piyarerk Bunkoson
PDF
Manawakachan
Piyarerk Bunkoson
PDF
Chitrapathachan
Piyarerk Bunkoson
PDF
Inthawong
Piyarerk Bunkoson
PDF
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
kingkarn somchit
PDF
อิȨร๑๑
Piyarerk Bunkoson
PDF
วิช
Piyarerk Bunkoson
สามัคคีคำฉันท์.Ppt 34
Kittisak Chumnumset
Satthatharachan
Piyarerk Bunkoson
บทȨัสการมาตาปิตุคุณ1
Mameaw Pawa
อิȨรวิเชียรฉัȨ์๑๑
Tidatep Kunprabath
สามัคคีเภทคำฉัȨ์แก๊ป
อภิมหึมา มหาแก็ปกังหันลม
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
A'waken P'Kong
Salinichan11
Piyarerk Bunkoson
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Jariya Huangjing
Phuchongkhaprayatachan
Piyarerk Bunkoson
Upenthrawichianchan
Piyarerk Bunkoson
วสันต
Piyarerk Bunkoson
Manawakachan
Piyarerk Bunkoson
Chitrapathachan
Piyarerk Bunkoson
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
kingkarn somchit
อิȨร๑๑
Piyarerk Bunkoson
Ad

Similar to สามัคคีเภทคำฉัȨ์2 (20)

PPT
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
A'waken P'Kong
PDF
งาȨำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
Kamonchapat Boonkua
PDF
งาȨำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
Kamonchapat Boonkua
PDF
สามัคคีเภทคำฉัȨ1
Sirisak Promtip
PDF
งานนำเสนอไทย ตุกติก & เบล
อิ่' เฉิ่ม
PDF
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Chutima Tongnork
PDF
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Chutima Tongnork
PDF
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Nid Noy Kaowkong
PDF
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Nid Noy Kaowkong
PDF
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Nakkarin Keesun
PDF
สามัคคีเภทคำฉัȨ์ท๊อป
อภิมหึมา มหาแก็ปกังหันลม
PDF
ไทย
AB'ball Kongmak
PDF
งาน
Kamonwan Choophol
PDF
วราภรณ์
Mu Koy
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
A'waken P'Kong
งาȨำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
Kamonchapat Boonkua
งาȨำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
Kamonchapat Boonkua
สามัคคีเภทคำฉัȨ1
Sirisak Promtip
งานนำเสนอไทย ตุกติก & เบล
อิ่' เฉิ่ม
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Chutima Tongnork
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Chutima Tongnork
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Nid Noy Kaowkong
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Nid Noy Kaowkong
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Nakkarin Keesun
สามัคคีเภทคำฉัȨ์ท๊อป
อภิมหึมา มหาแก็ปกังหันลม
วราภรณ์
Mu Koy
Ad

More from ปิยะวุո แกล้วกล้า (9)

สามัคคีเภทคำฉัȨ์2

  • 1. สามัคคีเภทคาฉัȨ์ จัดทาโดย นายปิ ยวุฒิ แกล้วกล้า เลขที่ ๓ ชั้น ม.๖/๓ เสนอ คุณครูนิตยา ทองดียง ิ่ โรงเรียนรัษฎานุประดิษฐ์ อนุสรณ์
  • 2. อุปชาติ ฉันท์ ๑๑ ๏ เราคิดจะใคร่ ยก พยุห์พลสกลไกร ประชุมประชิดชัย รณรัฐวัชชี ๏ ฉะนี้แหละเสนา บดิฐานมนตรี คือใครจะใคร่ มี พจค้านประการไร ็ ๏ ฝ่ ายพราหมณ์กกราบทูล อดิศูรนราศัย นยาธิบายใน วจนัตถทัดทาน ๏ พระราชปรารม ภนิยมมิควรการณ์ ขอองคภูบาล พิเคราะห์ถ่อง ณ ทางดี ๏ ข้อที่จะกรี ธา พลไกรและไปตี กษัตริ ย ์ ณ วัชชี ชนบท บ สมหมาย ๏ มิแผกมิผิดพา กยข้าพระองค์ทาย ไป่ ได้สะดวกดาย และจะแพ้เพราะไพรี ๏ พวกลิจฉวีขต ั ติยรัฐวัชชี ละองค์ละองค์มี มิตรพันธมันคง ่ ๏ อนึ่งสิ สามารถ รณอาจกระทาสง ครามยุทธยรรยง มิระย่อมิเยงใคร ๏ เราน้อยจะย่อยยับ พลทัพปราชัย กระนี้แหละแน่ใน มนข้าพยากรณ์ ๏ และแสนจะสามารถ พละอาจกระทาสง ครามยุทธยรรยง มิระย่อมิเยงใคร ๏ เราน้อยจะย่อยยับ พลทัพปราชัย กระนี้แหละแน่ใน มนข้าพยากรณ์ ๏ และอีกประการเล่า ผิวเขาคะนึงคลอน แคลนพาลระรานรอน ทุจริ ตผจญเรา ๏ เป็ นก่อนกระนั้นชอบ ทุษตอบก็ทาเนา มิมีคดีเอา ธุระเห็น บ เป็ นธรรม
  • 3. ๏ และโลกจะล่วงวา ่ ทติวาพระองค์จา นงเจตนาดา ริ วิรุธประทุษเขา ๏ ฉะนี้พระจุ่งปรา รภภารเบื่อเบา แบ่งกล่อมถนอมเกลา มิตรภาพสงบงามฯ ถอดความอุปชาติฉันท์ ๑๑ เมื่อพระเจ้าอชาตศัตรู เสด็จออกว่าราชการ ท่ามกลางเหล่าเสนาบดีและอมาตย์ท้ งหลาย ั ที่เข้าเฝ้ าฯเรี ยงรายตามฐานันดรศักดิ์ ณ ท้องพระโรงเพื่อคอยรับฟังพระราชโองการเรื่ องต่างๆ พระองค์จึงมีพระราชดารัสว่า พระองค์มีพระประสงค์จะยกกองทัพอันเกรี ยงไกรไปทาสงคราม กับแคว้นวัชชี ด้วยเหตุน้ ีบรรดาเสนาบดีและอมาตย์ท้ งหลายมีผใดจะคัดค้านอย่างไรหรื อไม่ ั ู้ วัสสการพราหมณ์จึงกราบทูลพระมหากษัตริ ย ์ แสดงความคิดเห็นส่ วนตัวว่า ในข้อที่จะทรง กรี ธาทัพอันเกรี ยงไกรไปตีเมืองกษัตริ ยแห่งแคว้นวัชชีน้ นคงจะไม่สมดังประราชประสงค์ จะมิ ์ ั ผิดไปจากคากราบทูลของข้าพระพุทธเจ้าที่ถวายทานายไว้ จะไม่ได้แคว้นวัชชีอย่างสะดวกสบาย ั ์ ั ั ทั้งยังจะต้องพ่ายแพ้ศตรู เพราะกษัตริ ยแห่งแคว้นวัชชีน้ นแต่ละองค์ทรงมีความสามัคคีกนอย่าง มันคง นอกจากนี้ยงมีความสามารถในการทาสงครามไม่เกรงกลัวผูใด พวกของเราน้อยกว่าจะ ่ ั ้ เป็ นฝ่ ายแพ้ ข้าพระพุทธเจ้ามันใจจึงขอทานายเช่นนี้ อีกประการหนึ่งนั้นถ้าหากพวกเขาคิดร้าย ่ กลันแกล้งให้เราเดือดร้อนก่อน ก็เป็ นการสมควรที่จะตอบโต้กลับไปบ้าง แต่น้ ีไม่ได้มีเรื่ อง ่ ่ พิพาทกัน จึงเป็ นสิ่ งที่ไม่ถูกต้อง ชาวโลกจะพากันตาหนิวาพระองค์ทรงมีเจตนาจะคิดร้ายกับเขา ดังนั้นพระองค์ควรจะคิดรักษามิตรภาพและความสงบสุ ขไว้ อีทสัง ฉันท์ ๒๐ ิ ๏ ภูบดีสดับอุปายะตาม ณ วาทวัสสการะพราหมณ ณ บังอาจ ๏ เกินประมาณเพราะการณ์ละเมิดประมาท บ ควรจะขัดบรมราช วโรงการ
  • 4. ๏ ท้าวก็ทรงแสดงพระองค์ ธ ปาน ประหนึ่งพระราชหทัยลุดาล พิโรธจึง ๏ ผันพระกายกระทืบพระบาทและอึง พระศัพทสี หนาทพึง สยองภัย ๏ เอออุเหม่นะมึงชิช่างกระไร ทุทาสสถุลฉะนี้ไฉน ก็มาเป็ น ๏ ศึก บ ถึงและมึงก็ยงมิเห็น ั จะน้อยจะมากจะยากจะเย็น ประการใด ๏ อวดฉลาดและคาดแถลงเพราะใจ ขยาดขยั้ȨิทȨะไร ั ก็หมิ่นกู ๏ กลละกากะหวาดขมังธนู บ ห่อนจะเห็นธวัชริ ปู สิ ล่าถอย ๏ พ่ายเพราะภัยพะตัวและกลัวจะพลอย พินาศชิพิตประดิดประดอย ประเด็นขัด ๏ กูกเ็ อกอุดมบรมกษัตริ ย ์ วิจาระถ้วน บ ควรจะทัด จะทานคา ๏ นี่นะเห็นเพราะเป็ นอมาตย์กระทา พระราชการมาฉนา สมัยนาน ๏ ใช่กระนั้นละไซร้จะให้ประหาร ชิวาตม์และหัวจะเสี ยบประจาน ณ ทันที ๏ นาคราภิบาลสภาบดี และราชบุรุษแน่ะเฮ้ยจะรี จะรอไย ๏ ฉุดกระชากกลีอปรี ยเ์ ถอะไป บ พักจะต้องกรุ ณอะไร กะคนคด
  • 5. ๏ ลงพระราชกรรมกรณบท พระอัยการพิพากษกฎ และโกนผม ๏ ไล่มิให้สถิต ณ คามนิคม นครมหาสิ มานิยม บุรีไร ๏ มันสมัครสวามิภกดิใน ั ็ อมิตรลิจฉวีกไป บ ห้ามกัน ๏ เสร็ จประกาศพระราชธูรสรรพ์ เสด็จนิวตสภาภิมณฑ์ ั ั มหาคารฯ ถอดความอีทสัง ฉันท์ ๒๐ ิ พระเจ้าอชาตศัตรู ทรงฟังกลอุบายตามคากราบทูลของวัสสการพราหมณ์ที่หมิ่นพระบรม เดชานุภาพและขัดคาสังพระองค์ จึงทรงกระทาเสมือนหนึ่งว่าทรงขัดเคืองพระราชหฤทัย ขยับ ่ พระองค์กระทืบพระบาทและทรงตวาดด้วยเสี ยงที่ดงน่าเกรงขาม เจ้าช่างเป็ นทาสที่ชวช้าเลว ั ั่ ทราม เหตุใดจึงตาหนิขาถึงเพียงนี้ ศึกสงครามก็ยงไม่ทนมีมา มึงก็ยงไม่เห็นว่าข้าศึกจะมากหรื อ ้ ั ั ั น้อยเพียงใด และการทาสงครามจะยากจะง่ายประการใด กลับมาทาอวดฉลาดคาดคะเนเอาก็ เพราะใจมีหวาดกลัวอยู่ ไม่ทนอะไรเลยก็มาหมิ่นกูเสี ยแล้ว เสมือนหนึ่งกาที่หวาดเกรงพรานผู ้ ั ชานาญ นี่ยงไม่ทนเห็นธงของศัตรู เลยก็สงถอยเสี ยแล้ว พ่ายแพ้เพราะเกรงภัยจะมาถึงตัว กลัวว่า ั ั ั่ จะพลอยเสี ยชีวตจึงคิดหาประเด็นมาขัดแย้ง เราเป็ นถึงกษัตริ ยผสูงส่ ง มีวิจารณญาณถี่ถวนไม่ ิ ์ ู้ ้ สมควรจะมาทัดทาน นี่เราเห็นว่าเป็ นอมาตย์รับราชการมาหลายปี ไม่เช่นนั้นเราจะสังประหาร ่ ่ ชีวิตตัดหัวเสี ยบประจานทันที นคราภิบาลและราชบุรุษจะรี รออยูทาไม จงรี บลากตัวคนชัวร้าย ่ ออกไปโดยไม่ตองเห็นอกเห็นใจกับคนคด เอาตัวไปลงพระราชอาญาตามกฎหมาย เสร็ จแล้วก็ ้ จงโกนผม แล้วไล่มนไปให้พนเมืองของเรา มันจะไปสวามิภกดิ์กษัตริ ยลิจฉวีกตามใจไม่ตองไป ั ้ ั ์ ็ ้ ห้ามมัน เสร็ จประกาศพระราชโองการก็เสด็จกลับยังที่ประทับที่ตกแต่งอย่างงดงาม
  • 6. คุณค่ าด้ านวรรณศิลป์ เรื่ องสามัคคีเภทคาฉัȨ์ มีที่มาจากหนังสื อธรรมจักษุ ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรม หลวงวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื่น นภวงศ์) นายชิต บุรทัต ได้อ่านนิทานแล้วเห็นว่าเป็ นเรื่ องที่ดีมีคติ จึงแต่งเป็ นฉันท์ นายชิต บุรทัต มีฝีมือเชี่ยวชาญในการแต่งคาประพันธ์ประเภทฉันท์เป็ นอย่าง มาก โดยเฉพาะการเลือกฉันท์ชนิดต่างๆ มาใช้สลับกันอย่างเหมาะสมกับเนื้อเรื่ องและลีลาของ แต่ละตอน จนได้รับการยกย่องว่ามีความไพเราะ งดงาม เป็ นที่นิยมอ่านแล้วจดจาตลอดมา นายชิต บุรทัต แต่งเรื่ องสามัคคีเภทคาฉัȨ์เสร็ จเมื่ออายุเพียง ๒๓ ปี ๑. การสรรหาคา เป็ นการเลือกใช้คาในลักษณะต่างๆ เพื่อความคิดและความรู ้สึกได้แก่ ๑.๑) การเลือกใช้คาได้ถูกต้อง มีความหมายชัดเจน สั้นแต่ได้ใจความ เช่น ๏ เราคิดจะใคร่ ยก พยุห์พลสกลไกร ประชุมประชิดชัย รณรัฐวัชชี ๏ ฉะนี้แหละเสนา บดิฐานมนตรี คือใครจะใคร่ มี พจค้านประการไร ๑.๒) การเลือกใช้คาเหมาะสมกับฐานะของบุคคลในเรื่ อง เช่น ั - พระเจ้าอชาตศตรู กบวัสสการพราหมณ์ ๏ เอออุเหม่นะมึงชิช่างกระไร ทุทาสสถุลฉะนี้ไฉน ก็มาเป็ น ๏ ศึก บ ถึงและมึงก็ยงมิเห็น ั จะน้อยจะมากจะยากจะเย็น ประการใด ๏ อวดฉลาดและคาดแถลงเพราะใจ
  • 7. ขยาดขยั้ȨิทȨะไร ั ก็หมิ่นกู ๑.๓) การเลือกใช้คาให้เหมาะแก่ลกษณะคาประพันธ์ เหมาะกับเนื้อเรื่ อง เช่น ั ๏ ท้าวก็ทรงแสดงพระองค์ ธ ปาน ประหนึ่งพระราชหทัยลุดาล พิโรธจึง ๏ ผันพระกายกระทืบพระบาทและอึง พระศัพทสี หนาทพึง สยองภัย ๑.๔) การเลือกใช้คาโดยคานึงเสี ยง (๑.) มีการเล่นคาสัมผัสคล้องจอง เช่น ๏ ใช่กระนั้นละไซร้จะให้ประ หาร ชิวาตม์และหัวจะเสี ยบประ จาน ณ ทัน ที ๏ นาคราภิบาลสภาบ ดี และราชบุรุษแน่ะเฮ้ยจะ รี จะรอไย ๏ ฉุดกระชากกลีอปรี ยเ์ ถอะไป บ พักจะต้องกรุ ณอะ ไร กะคนคด (๒.) การย้าคาที่มีความหมายเหมือนกันหรื อใกล้เคียงกัน เช่น - จะน้อยจะมากจะยากจะเย็น (๓.) การเล่นอักษร เสี ยงสัมผัสสระ และสัมผัสพยัญชนะ ให้มีจงหวะไพเราะ เช่น ั - จะน้อยจะมากจะยากจะเย็น - ขยาดขยั้ȨิทȨะไร ั
  • 8. ๒. การใช้โวหาร ดังนี้ ๒.๑) บรรยายโวหาร เป็ นการใช้ถอยคาเล่าเรื่ องราวต่างๆ ตามลาดับเหตุการณ์จนเห็น ้ ภาพชัดเจน ดังตัวอย่าง ๏ ภูบดีสดับอุปายะตาม ณ วาทวัสสการะพราหมณ ณ บังอาจ ๏ เกินประมาณเพราะการณ์ละเมิดประมาท บ ควรจะขัดบรมราช วโรงการ ๏ ท้าวก็ทรงแสดงพระองค์ ธ ปาน ประหนึ่งพระราชหทัยลุดาล พิโรธจึง ๏ ผันพระกายกระทืบพระบาทและอึง พระศัพทสี หนาทพึง สยองภัย ๏ เอออุเหม่นะมึงชิช่างกระไร ทุทาสสถุลฉะนี้ไฉน ก็มาเป็ น ๒.๒) อุปมาโวหาร เป็ นโวหารที่กวีนามาใช้ประกอบเรื่ องโดยการเล่าแบบเปรี ยบเทียบ เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิงขึ้น ดังตัวอย่าง ่ ๏ กลละกากะหวาดขมังธนู บ ห่อนจะเห็นธวัชริ ปู สิ ล่าถอย ๏ พ่ายเพราะภัยพะตัวและกลัวจะพลอย พินาศชิพิตประดิดประดอย ประเด็นขัด ๏ กูกเ็ อกอุดมบรมกษัตริ ย ์ วิจาระถ้วน บ ควรจะทัด จะทานคา
  • 9. ๏ นี่นะเห็นเพราะเป็ นอมาตย์กระทา พระราชการมาฉนา สมัยนาน ๏ ใช่กระนั้นละไซร้จะให้ประหาร ชิวาตม์และหัวจะเสี ยบประจาน ณ ทันที