ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
นายประภัทร์ กุด
หอม
นายวัฒนา คำาภูษา 55632227109
 การเจริญเติบโต
 พัոาการ
 การเปลียนแปลงเนืองมาจาก
         ่        ่
  พัոาการ
 หลักพัոาการ
 ทฤษฎีพฒนาการ
         ั
พัոาการ
   (Development)
การเปลี่ยนแปลงของบุคคล
ในทุก ๆ ด้านตามระยะเวลา
ที่เปลี่ยนไป การ
เปลี่ยนแปลงนั้นเป็นผลมา
จาก ระบบชีววิทยาในตัว
การเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อม
การเจริญเติบโต
การเปลี่ยนแปลงด้านขนาด
ส่วนสูง นำ้าหนัก และ
สัดส่วนในร่างกายของ
บุคคล ซึ่งเป็นการ
เปลียนแปลงในแง่ทเจริญ
     ่                ี่
ขึ้น ดีขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น
วุոาวะ
            ิ
         (Maturation)
หมายถึง รูปแบบพฤติกรรมในเชิงชีววิทยาที่
มีความสัมพันธ์กับอายุ โดยการเปลี่ยนแปลง
ในแบบพฤติกรรมเหล่านี้จะได้รับการตั้งโปรม
แกรมโดยยีนส์ ซึ่งได้รวมถึงควาสามารถทาง
กายและความสามารถทางด้านความคิด
การเรียนรู้ (Learning)
หมายถึง รูปแบบการแปลง
 พฤติกรรมที่เป็นผลมาจาก
 การฝึกฝนและการฝึกหัด การ
 เรียนรู้จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมี
 วุฒิภาวะเป็นพืนฐาน โดยเด็ก
                  ้
 ทีมีวุฒิภาวะแล้วจะได้รับการ
   ่
การเปลี่ยนแปลง๶Ȩ่องมา
   จากพัոาการ
1. การเปลี่ยนแปลงด้าน
ขนาด
2. การเปลี่ยนแปลงด้าน
สัดส่วน
 3. การเปลียนแปลงที่เกิด
             ่
ขึ้นทำาให้ลกษณะเก่า ๆหาย
           ั
พัոาการ 4 ด้าน
1. พัոาการทางกาย
2. พัոาการทางสติ
ปัญญา
3. พัոาการทาง
อารมณ์
หลักของพัոาการ Principle of
  Development
อาร์โนลด์ จีเซลล์ ได้สรุปหลักของ
   พัոาการของมȨษย์
1.พัոาการของมȨษย์มีทิศทาง (Principle of
  Directions)

    - ทิศทางจากส่วนบนลงสู่สวนกลาง
                                ่
  (Cephalocaudal Law) เป็นการพัฒนาใน
  แนวดิง โดยยึดศีรษะเป็นอวัยวะหลัก
          ่
  คือ อวัยวะใดที่อยู่ใกล้ศรษะมากที่สด
                             ี       ุ
  บุคคลก็จะสามารถควบคุมการ
  ทำางานของอวัยวะส่วนนั้นได้ก่อน
หลักของพัոาการ Principle of
    Development

   ทิศทางจากส่วนใกล้ไปสู่ส่วนไกล
    (Proximodistal Law) เป็นการพัฒนา
    ในแนวขวาง โดยยึดลำาตัวเป็น
    อวัยวะหลัก คืออวัยวะใดก็ตามที่
    อยูใกล้ร่างกายมากทีสุดจะ
       ่                    ่
    สามารถควบคุมได้ก่อนส่วนอื่น ๆ
    ดังนันเด็กจึงขยับร่างกายได้ก่อน
         ้
    ส่วนอื่น ๆ
2. พัոาการของมȨษย์มี
    ลักษณะต่อเนื่อง (Principle of
           Continuity)
   พัոาการใดด้านใดก็ตามต้อง
    อาศัยระยะเวลาและความต่อ
    เนืองอย่างค่อยเป็นค่อย ไป
        ่
    ไม่ใช่เกิดได้โดยฉับพลันทันที
    ทันใด โดยเริ่มพัոาการ
    ตั้งแต่วัยเด็ก และพัոาการ
    ถึงขีดสุดในวัยผู้ใหญ่ และ
    เสื่อมลงเมื่อถึงวัยชราตาม
3. พัոาการของมȨษย์เป็นไป
              ตามลำาดับขั้น
     (Principle of Developmental Sequence)

   พัոาการของสิ่งต่าง ๆ ทั้ง
    หลายต่างก็มีแบบแผนเฉพาะ
    ของตน เมื่อพัոาการมี
    ลักษณะต่อเนื่อง ดังนั้นจึงไม่
    สามารถที่จะข้ามขั้นได้ และเป็น
    ไปตามลำาดับขั้นตอนตาม
    ธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น เด็กจะ
4. พัոาการของมȨษย์ต้องอาศัย
       วุฒิภาวะและการเรียนรู้
      (Principle of Maturation and Learning)

   วุฒิภาวะนั้นเป็นความพยายามขั้น
    ต้นของสิ่งมีชีวิตในการจัดระบบ
    เพื่อเตรียม ให้ได้มาซึ่ง
    ประสบการณ์ตาง ๆ อันยัง
                    ่
    ประโยชน์ให้กับตนเอง ส่วนการ
    เรียนรู้เป็นการเพิ่มความชำานาญ
5.   พัոาการของมȨษย์แต่ละบุคคล
           มีอัตราแตกต่างกัน
       (Principle of Individual Growth Rate)

 ช่วงชีวิตของแต่ ละบุคคลนั้น
  จะมีความถึงพร้อมซึงวุฒิ
                     ่
  ภาวะแตกต่างกัน เช่น ในเด็ก
  หญิงจะถึงวุฒิภาวะของความ
  เป็นสาวเร็วกว่าการถึงวุฒิ
  ภาวะความเป็นหนุ่ม ของเด็ก
สรุปลักษณะเด่นของ
พัոาการ
1. พัոาการเป็นไปตามแบบฉบับของตัว
เอง
2. พัոาการไม่ว่าด้านใดก็ตามจะเริ่มจาก
ส่วนใหญ่ไปหาส่วนย่อย ๆ
3. พัոาการทั้งหลายเป็นสิ่งที่ต่อเนื่องกัน
ไป
4. อัตราพัոาการของบุคคลจะแตกต่าง
กันไป
5. คุณลักษณะต่าง ๆ ของพัոาการจะมี
ความสัมพันธ์กัน
พัոาการของมȨษย์
พัոาการในวัย
          ต่าง ๆ
วัยทารก
      จะมีชวงเวลาตั้งแต่แรกเกิด – 2 ปี
           ่
   วัยทารกยังเป็นวัยที่ยงช่วยเหลือตัว
                         ั
   เองไม่ได้ ต้องอาศัยความช่วยเหลือ
   จากบุคคลอื่น วัยนี้มการเจริญเติบโต
                       ี
   อย่างรวดเร็ว และเห็นพัոาการทาง
   ด้านร่างกายอย่างชัดเจน สิงที่สำาคัญ
                             ่
   คือการพัฒนากล้ามเนื้อ
พัոาการของมȨษย์
พัոาการของมȨษย์
วัยเด็ก
  วัยเด็ก เป็นวัยที่อยู่ในช่วงอายุ 2 – 11 ปี มี
 การพัฒนากล้ามเนื้อทีใช้ในการเล่นมักมี
                          ่
  พฤติกรรมเลียนแบบผู้ใหญ่ทอยู่ใกล้ตัว
                                 ี่
 พัոาการทางสติปัญญาจะก้าวหน้าอย่าง
        รวดเร็วในตอนปลายของวัย
 วัยเด็กจะมีการพัฒนาเอกลักษณ์ของตนเอง
(Identification) เด็กจะรับเอาทัศนคติและ
            พฤติกรรมจากพ่อแม่
  พฤติกรรมทางสังคม เด็กจะมีความสัมพันธ์
พัոาการของมȨษย์
วัยรุ่น
    การเข้าสู่วยรุนของเด็กชายและเด็กหญิงแตก
               ั ่
ต่างกัน เด็กชายจะมีอายุประมาณ 13 ปี ส่วน
เด็กหญิงจะมีอายุประมาณ 11 ปี ทั้งนี้เพราะผู้
หญิงโตเร็วกว่าผู้ชาย กว่า 2 ปี และจะสิ้นสุด
เมื่ออายุ 18-20 ปี
    พัոาการทางกายมีการเจริญเติบโตอย่าง
รวดเร็ว เด็กผู้หญิงเริ่มมีประจำาเดือน เด็กผู้ชาย
เริ่มฝันเปียก มีลักษณะเป็นวัยหนุ่มวัยสาว
วัยรุ่น
     การสร้างมิตรภาพ วัยรุ่นมักชอบเพื่อน
ทีมีบุคลิกภาพและความสนใจเดียวกัน วัย
   ่
รุ่นชายจะพัฒนาความสัมพันธ์โดยการทำา
     กิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ผูหญิงพัฒนา
                              ้
ความสัมพันธ์โดยการติดต่อสื่อสารซึ่งกัน
                   และกัน
     วัยรุนเป็นวัยหนึ่งเป็นวัยทีมีปัญหา ซึ่ง
          ่                     ่
   อาจจะพบปัญหาการฆ่าตัวตายในวัยรุ่น
อันเป็นมาจากการซึมเศร้า และความรู้สก       ึ
พัոาการของมȨษย์
วัยผูใหญ่
               ้
  วัยผู้ใหญ่แบ่งออกเป็น 3 ช่วง
อายุ คือ
1 วัยผู้ใหญ่ตอนต้น อายุ 18-45 ปี
2 วัยกลางคน อายุ 45-65 ปี
3 วัยชรา หรือผู้ใหญ่ตอนปลาย
อายุ 65 ปีขึ้นไป
พัոาการของมȨษย์
พัոาการทางกาย
   วัยผู้ใหญ่ตอนต้น จัดว่าเป็นระยะที่ดีที่สด
                                           ุ
ของชีวต ร่างกายมีการเจริญเติบโตมากที่สดตอน
       ิ                                ุ
    อายุ 20 ปี มีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
    วัยกลางคน ร่างกายจะเริ่มค่อย ๆ เสื่อมลง
             จากวัยผู้ใหญ่ตอนต้น
  วัยชรา กระบวนการเสือมในร่างกายเมกปราก
                        ่
ฎอย่างรวดเร็ว ร่างกายจะสูญเสียความสามารถที่
          ปกป้องตนเองจากโรคต่าง ๆ
พัոาการทางสังคมและ
บุคลิกภาพของผู้ใหญ่
    วัยผู้ใหญ่เป็นวัยที่ประสบ
 ความสำาเร็จในงานอาชีพ
 จะเพิ่มมากขึนในระหว่าง
               ้
 20-40 ปี บุคคลจะมี
 ประสบการณ์ในการจัดการ
 กับสถานการณ์ต่าง ๆ ใน
 ชีวตประจำาวันและการงาน
     ิ
 อาชีพสิงเหล่านี้จะมีผลต่อ
           ่
 บุคลิกภาพของบุคคลในวัย
การแต่งงานและการมี
  ครอบครัว
   ผู้ใหญ่ตอนต้น
เป็นวัยที่จัดว่าเป็น
ช่วงของการสร้าง
ความสนิทสนมกับ
เพือนต่างเพศคนใด
   ่
คนหนึ่ง ซึงมักจะนำา
            ่
มาสูการแต่งงาน
      ่
และต่อมาก็คือการมี
การเกษียณอายุ
     การเกษียณอายุมีอยู่ 6 ระยะด้วยกัน
1 ระยะก่อนการเกษียณอายุ
2 ระยะของการมีความสุข
3 ระยะของการหมดความสุข
4 ระยะการปรับตัวอีกครั้ง
5 ระยะความมั่นคง
6 ระยะสุดท้าย
บุคคลในวัยชรามี
  ลักษณะดังนี้
1 โครงสร้างของร่างกาย
   เปลี่ยนแปลง
2 จุกจิกจู้จี้ ขี้บ่น
3 หลงลืมได้ง่าย
4 ขี้น้อยใจ
5 เจ็บป่วยได้ง่าย
จุดจบของชีวิต (การ
       ตาย)
1 การปฏิเสธ
2 ความโกรธ
3 อาการที่บุคคลคาดหวังว่าจะ
ต่อรองได้
4 ความซึมเศร้า
5 การยอมรับ
ทฤษฎีพัոาการ
1. ทฤษฎีพัոาการของ
ฟรอยึϹ
2. ทฤษฎีพัոาการของ
เพียเจท์
 3. ทฤษฎีพัոาการของ
อีริคสัน
ทฤษฎีการพัոา
    ของฟรอยึϹ
พัոาการความต้องการทาง
เพศและบุคลิกภาพของบุคคล
ต้องอาศัยการพัฒนาที่ตอเนื่อง
                       ่
อย่างเป็นลำาดับขั้นจนกลายเป็น
บุคลิกภาพที่ถาวรในที่สุด
พัոาการแต่ละขั้นเป็นการ
ตอบสนองความสุขความพึง
ลำาดับขั้นพัոาการของซิ
กมันด์ฟรอยึϹ
1. ขั้นพึงพอใจทางปาก
(Oral Stage)
2. ขั้นพึงพอใจทางทวาร
(Anal Stage)
 3. ขั้นสนใจอวัยวะเพศของ
ตน (Phallic)
ตังแต่แรกเกิดถึงประมาณ
  ้
    1-2 ปี เด็กจะชอบ ดูด กัด
    อม เช่น ดูดนม กัดแทะของ
    เล่น ดูดนิ้ว เล่นนำ้าลาย และ
    ทำาเสียงต่าง ๆ
ถ้าถูกขัดขวางจะเกิด Oral
อยู่ในช่วงอายุ 2-3 ปี ระยะนี้
 เด็กจะพึงพอใจกับการขับ
 ถ่าย การฝึกการขับถ่ายควร
 ทำาค่อยเป็นค่อยไปด้วย
 ความอ่อนโยนอย่าบังคับ ถ้า
 เกิดการติดตรึงจะทำาให้ เป็น
 พวกชอบสะสมของ หวงของ
อยูระหว่าง 3-5 ปี เด็กจะมีความ
     ่
 พึงพอใจกับการได้สมผัสอวัยวะ
                     ั
 เพศของตนเองถ้าไม่ได้รับการ
 ตอบสนองจะเกิดความแปรปรวน
 ทางเพศขึ้นในวัยผูใหญ่
                  ้
ชาย = ปมออดิปุส            หญิง
 = ปมอิเล็กตรา
อายุ 6 -12 ปี ระยะนี้จะเป็น
 ระยะพักเด็กจะเริ่มแสวงหา
 บทบาทที่เหมาะสมให้กับ
 ตนเอง ชอบเล่นในกลุม    ่
 เพศเดียวกัน เล่นกีฬา เล่น
 เกม และกิจกรรมต่าง ๆที่
อายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป ถ้า
 เด็กผ่านขั้นอวัยวะเพศ
 ไปได้อย่างราบรื่น เด็กจะ
 แสดงบทบาทความเป็น
 ชายและหญิงตรงตาม
 เพศของตน
ทฤษฎีการพัոา
 ของเพียเจท์
1. ขั้นใช้อวัยวะสัมผัสและ
กล้ามเนื้อ
2. ขั้นเริ่มคิดเริ่มเข้าใจ
 3. ขั้นคิดออกเองโดยไม่
ต้องใช้เหตุผล
4. ขั้นใช้ความคิดเชิงรูป
ตั้งแต่แรกเกิดถึง 2 ปี เป็นวัยทีเริ่ม
                                ่
   เรียนรู้โดยใช้ประสาทสัมผัสและ
   การเคลื่อนไหวของร่างกายเพื่อ
   ตอบสนองสิ่งแวดล้อมเด็กที่
   สามารถใช้ประสาทสัมผัสกับสิง      ่
   แวดล้อมได้มากเท่าใดก็จะช่วย
   พัฒนาเชาวน์ปัญญาของเด็กได้
อายุตั้งแต่ 2-4 ขวบ เริ่มเรียน
 รู้การใช้ภาษาเรียกสิ่งของ
 เช่น ข้าว นม เป็นต้น
อายุ 4 -7 ปี เชือตัวเองไม่ยอม
                ่
 เปลี่ยนความคิด หรือเชื่อใน
 เรื่องการทรงภาวะเดิมของ
 วัตถุ
   ก            ข
อายุ 7 – 11 ปี เป็นระยะทีเด็ก
                          ่
  สามารถคิดอย่างมีเหตุผลใน
  เรื่องทีเป็นรูปธรรม ถ้าให้วาด
          ่
  ภาพครอบครัวของฉัน เด็กใน
  วัยนีจะสามารถวางภาพได้ใกล้
        ้
  เคียงความเป็นจริง จัดหมวด
  หมู่ได้ เรียงลำาดับได้
เด็กอายุระหว่าง 11 ถึง 15 ปี
  เด็กจะเริ่มคิดได้แบบผู้ใหญ่
  สามารถเข้าใจสิ่งที่เป็น
  นามธรรมได้ คิดตั้ง
  สมมติฐานและสร้างทฤษฎี
  แบบนักวิทยาศาสตร์ได้ เป็น
  ตัวของตนเอง ต้องการความ
ทฤษฎีการพัոาของ
     อีริคสัน
1. ขันไว้ใจกับไม่ไว้ใจผูอื่น
      ้                    ้
2. ขันทีมีความอิสระกับความ
        ้ ่
สงสัย
    3. ขั้นความคิดริเริ่มกับความ
รู้สึกผิด
4. ขันขยันหมั่นเพียรกับความ
         ้
รู้สึกมีปมด้อย
5. ขันเข้าใจเอกลักษณ์ของ
           ้
ตังแต่แรกเกิดจนถึง 1 ปี ถ้าเด็ก
  ้
    ได้รับความรัก ความอบอุ่น และ
    การดูแลจากคนใกล้ชิด เด็กโต
    ขึ้นก็จะเกิดความรู้สึกไว้วางใจ
    สังคม แต่ถ้าไม่ไเด็รับพ่อแม่ ก ้
    ผู้ที่มีบทบาทกับ ด้ ก ความรัผู
    ความอบอุ่น เมื่อโตขึ้นก็จะหลีก
           ปกครอง หรือพี่เลี้ยง
    หนีสังคม
อายุ 2-3 ปี เด็กจะเรียนรู้การ
   เดิน การพูด และทำาอะไรตาม
   อิสระ พ่อแม่ควรให้อิสระกับ
   เด็กในการทำากิจกรรมต่าง ๆ
   ด้วยตนเองพยายามให้เด็ก
   ช่วยเหลือตนเองให้มากที่สุด
   ไม่ข่มขู่ลงโทษเมื่อเด็กทำาผิด
ผู้มีบทบาท พ่อเด็กจะเกิ้เลี้ยงดู
   อย่างรุนแรง  แม่และผูดความ
อายุ 3 - 5 ปี เด็กจะใช้ของเล่น
       ทดแทนจินตนาการ โดยนำา
       ของเล่นรวมกันแล้วสร้างเป็น
       เรื่องราวขึ้นมา เด็กพอใจที่จะ
       เลียนแบบพฤติกรรมผู้ใหญ่ที่
       ใกล้ชิด ดังนั้นหากพ่อแม่
ผู้ทมีบทบาทคือ้ยงดูยอมรับผลงาน
    ี่ และคนเลี บุคคลในครอบครัว
อายุ 6-11 ปี เด็กในวัยนีไม่อยูนง
                        ้       ่ ิ่
  ชอบเขียน อ่าน ทำาในสิ่งทีตน ่
  อยากทำาขยันในการทำางานต่าง ๆ
  และภาคภูมิใจในผลงานทีได้รับ
                            ่
  ความสำาเร็จเนืองจากความ
                 ่
  พยายามของตน ผูใหญ่ต้องไม่
                      ้
  คาดหวัทบาท เด็กสูงเกินไป จน
   ผู้มีบ งในตัว พ่อแม่ ครู และ
อายุ 12-18 ปี ช่วงนีถือเป็นช่วง
                     ้
  วิกฤตมากที่สด เมือเด็กเกิด
                 ุ     ่
  ปัญหาใด ๆ ขึ้น เขาจะเกิด
  ความสับสนว่าควรจะเชื่อใครดี
  ระหว่างพ่อแม่ ตนเอง หรือ
  เพื่อน เด็กวัยนีคือการแสวงหา
                   ้
  ตนเองเพื่อให้รู้จักตนเองในแง่
  มุมต่าง ๆ
วัยผูใหญ่ตอนต้น เริ่มนัดหมาย
      ้
   การแต่งงานและชีวิตครอบครัว
   ถ้าหากว่าแต่ละคนได้พัฒนา
   ความเข้าใจเอกลักษณ์ตนเองดี
   พอ แต่ถ้าบุคคลใดไม่สามารถ
   ผ่านขั้นนีไปได้ จะกลายเป็นคน
             ้
   รักตนเองและไม่สามารถจะ
   แสดงความรักต่อผู้อื่นได้
ระยะวัยกลางคนเป็นระยะที่
จะคอยให้ความช่วยเหลือคน
รุ่นหลังสำาหรับผู้ที่ผ่านขั้น
พัոาการต้น ๆ มาเป็นอย่าง
ดี แต่ถ้าบุคคลใดไม่สามารถ
แก้ปัญหาขัดแย้งในอดีตของ
ตนได้จะกลายเป็นคนชอบ
วัยชรา เขาจะมีความไว้วางใจ
  เพื่อนร่วมโลกและตัวเองถ้า
  เขามีความทรงจำาในด้านความ
  สุขความสบายใจ แต่ถ้าเขามี
  ความทรงจำาเกี่ยวกับความผิด
  หวังตลอดเวลาเขาก็ไม่มีความ
  สุขในชีวิต
ทฤษฎีพัոาการทางจริยธรรม
      ของโคห์ลเบิร์ก
       (Kohlberg’s Moral Development)
   เป็นทฤษฎีทมีแนวคิดพื้นฐาน
                ี่
    มาจากทฤษฎีพัոาการทาง
    เชาวน์ปัญญาของเพียเจต์ โดย
    ได้ขยายขอบเขตงานวิจัยให้
    ครอบคลุมกว้างขวางมากยิงขึ้น
                            ่
    โคห์ลเบิร์กได้สรุปทฤษฎี
    พัոาการทางจริยธรรมของ
ระดับที่ 1 ระดับก่อนเกณฑ์ทาง
              สังคม
            (Pre-conventional Level)
   เด็กจะรับรู้ถึงกฎเกณฑ์ที่ดีและไม่ดีจากคนที่มี
    อิทธิพลเหนือตน เช่น พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู หรือ
    เด็กที่โตกว่า และจะนึกถึงรางวัลและการลงโทษ
    เป็นส่วนประกอบในการแสดงพฤติกรรม
   ขั้นของการลงโทษและเชือฟัง (Punishment and
                              ่
   obedience orientation)
แรกเกิดถึง 7 ปี เป็นหลักของการใช้เหตุผลของการแสดงพฤติกรรมเป็น
    เครื่องช่วยตัดสินว่าถูกหรือ
2. ขั้นการแสวงหารางวัล (Naively egoistic orientation)
ระดับที่ 2 ระดับแสดงจริยธรรมตาม
  กฎเกณฑ์ของสังคม (Conventional
                               Level)
 การแสดงออกของพฤติกรรมทีเป็นไป   ่
  ตามความคาดหวัง ของสังคมที่เป็น
  สมาชิกอยู่ โดยในขั้นนี้เด็กจะไม่คำานึง
  ถึงรางวัลหรือการลงโทษแล้ว แต่จะ
  ยึดถือมาตรฐานที่สังคมกำาหนด
1.ขั้นทำาตามเพื่อเพื่อนและสิงทีสังคม
                            ่ ่
  ยอมรับ
(Interpersonalconcordance of “Goodboy-Nicegirl” orientation)
ระดับที่ 3 ระดับจริยธรรมเหนือกฎ
  เกณฑ์ทางสังคม (Post-conventional
                        Level)
  พฤติกรรมเกิดจากการใชวิจารณญาณของ
   ตนเป็นมาตรฐานในการตัดสิน การปฏิบัติ
   โดยปราศจากอิทธิพลของบุคคลและสิ่ง
   แวดล้อมในสังคมเข้ามาเกี่ยวข้อง
 ขั้นทำาตามสัญญา (Social contract orientation)
   เป็นขั้นหลักการมีเหตุผลและเคารพตนเอง
   อยู่ในช่วงอายุ 16 ปีขึ้นไป
2. ขั้นอุดมคติสากล (Universal ethical principle orient
   ation)กฎระเบียบของสังคม และทำาหน้าที่
สวัสึϸ

More Related Content

What's hot (20)

หน่วยที่ 1 การวางแผȨูเ๶ลสุྺภาพྺองตน๶อง๶๶ละครอบครัว
หน่วยที่ 1 การวางแผȨูเ๶ลสุྺภาพྺองตน๶อง๶๶ละครอบครัว หน่วยที่ 1 การวางแผȨูเ๶ลสุྺภาพྺองตน๶อง๶๶ละครอบครัว
หน่วยที่ 1 การวางแผȨูเ๶ลสุྺภาพྺองตน๶อง๶๶ละครอบครัว
Terapong Piriyapan
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เรียนรู้ชั้นบรรยากาศ
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เรียนรู้ชั้นบรรยากาศชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เรียนรู้ชั้นบรรยากาศ
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เรียนรู้ชั้นบรรยากาศ
Khwankamon Changwiriya
คำกล่าวต้อȨับคณะกรรมการประเมิน
คำกล่าวต้อȨับคณะกรรมการประเมินคำกล่าวต้อȨับคณะกรรมการประเมิน
คำกล่าวต้อȨับคณะกรรมการประเมิน
pupphawittayacom
การพันผ้าแบบต่างๆ
การพันผ้าแบบต่างๆการพันผ้าแบบต่างๆ
การพันผ้าแบบต่างๆ
Dashodragon KaoKaen
แบบฝึกภาษาไทยป.4 ตำที่มีตัวการันต์ (1)
แบบฝึกภาษาไทยป.4 ตำที่มีตัวการันต์ (1)แบบฝึกภาษาไทยป.4 ตำที่มีตัวการันต์ (1)
แบบฝึกภาษาไทยป.4 ตำที่มีตัวการันต์ (1)
Petsa Petsa
สุขฯ ม.2 หน่วย 1
สุขฯ ม.2 หน่วย 1สุขฯ ม.2 หน่วย 1
สุขฯ ม.2 หน่วย 1
supap6259
ใบความรู้+วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย+ป.6+297+dltvscip6+55t2sci p06 f22-1page
ใบความรู้+วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย+ป.6+297+dltvscip6+55t2sci p06 f22-1pageใบความรู้+วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย+ป.6+297+dltvscip6+55t2sci p06 f22-1page
ใบความรู้+วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย+ป.6+297+dltvscip6+55t2sci p06 f22-1page
Prachoom Rangkasikorn
Casestudy การศึกษารายกรณี
Casestudy การศึกษารายกรณีCasestudy การศึกษารายกรณี
Casestudy การศึกษารายกรณี
rewat Chitthaing
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3
teerachon
รายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ครูเวรประจำวันพฤหัสบดี 1-2563
รายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ครูเวรประจำวันพฤหัสบดี 1-2563รายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ครูเวรประจำวันพฤหัสบดี 1-2563
รายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ครูเวรประจำวันพฤหัสบดี 1-2563
SuparatMuangthong
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
poms0077
บทที่ ๓ อาหารหลัก ๕ หมู่
บทที่ ๓ อาหารหลัก ๕ หมู่บทที่ ๓ อาหารหลัก ๕ หมู่
บทที่ ๓ อาหารหลัก ๕ หมู่
kasocute
แผȨาร๶รียนรู้สุภาษิต
แผȨาร๶รียนรู้สุภาษิตแผȨาร๶รียนรู้สุภาษิต
แผȨาร๶รียนรู้สุภาษิต
yaowarat Lertpipatkul
เขียนเรื่องจากจินตนาการ ป.3
เขียนเรื่องจากจินตนาการ ป.3เขียนเรื่องจากจินตนาการ ป.3
เขียนเรื่องจากจินตนาการ ป.3
เกษสุดา สนน้อย
ระบบไหลเวียนเลือด (Circulatory System)
ระบบไหลเวียนเลือด (Circulatory System)ระบบไหลเวียนเลือด (Circulatory System)
ระบบไหลเวียนเลือด (Circulatory System)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
ขันธ์ 5
ขันธ์ 5 ขันธ์ 5
ขันธ์ 5
Chalachon Presentation Studio
1.ตัวอย่างแผȨูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง
1.ตัวอย่างแผȨูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง1.ตัวอย่างแผȨูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง
1.ตัวอย่างแผȨูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง
Wareerut Hunter
คำกล่าวอวยพรวัȨล้ายวัȨกิด
คำกล่าวอวยพรวัȨล้ายวัȨกิดคำกล่าวอวยพรวัȨล้ายวัȨกิด
คำกล่าวอวยพรวัȨล้ายวัȨกิด
A-NKR Ning
หน่วยที่ 1 การวางแผȨูเ๶ลสุྺภาพྺองตน๶อง๶๶ละครอบครัว
หน่วยที่ 1 การวางแผȨูเ๶ลสุྺภาพྺองตน๶อง๶๶ละครอบครัว หน่วยที่ 1 การวางแผȨูเ๶ลสุྺภาพྺองตน๶อง๶๶ละครอบครัว
หน่วยที่ 1 การวางแผȨูเ๶ลสุྺภาพྺองตน๶อง๶๶ละครอบครัว
Terapong Piriyapan
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เรียนรู้ชั้นบรรยากาศ
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เรียนรู้ชั้นบรรยากาศชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เรียนรู้ชั้นบรรยากาศ
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เรียนรู้ชั้นบรรยากาศ
Khwankamon Changwiriya
คำกล่าวต้อȨับคณะกรรมการประเมิน
คำกล่าวต้อȨับคณะกรรมการประเมินคำกล่าวต้อȨับคณะกรรมการประเมิน
คำกล่าวต้อȨับคณะกรรมการประเมิน
pupphawittayacom
การพันผ้าแบบต่างๆ
การพันผ้าแบบต่างๆการพันผ้าแบบต่างๆ
การพันผ้าแบบต่างๆ
Dashodragon KaoKaen
แบบฝึกภาษาไทยป.4 ตำที่มีตัวการันต์ (1)
แบบฝึกภาษาไทยป.4 ตำที่มีตัวการันต์ (1)แบบฝึกภาษาไทยป.4 ตำที่มีตัวการันต์ (1)
แบบฝึกภาษาไทยป.4 ตำที่มีตัวการันต์ (1)
Petsa Petsa
สุขฯ ม.2 หน่วย 1
สุขฯ ม.2 หน่วย 1สุขฯ ม.2 หน่วย 1
สุขฯ ม.2 หน่วย 1
supap6259
ใบความรู้+วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย+ป.6+297+dltvscip6+55t2sci p06 f22-1page
ใบความรู้+วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย+ป.6+297+dltvscip6+55t2sci p06 f22-1pageใบความรู้+วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย+ป.6+297+dltvscip6+55t2sci p06 f22-1page
ใบความรู้+วงจรไฟฟ้าอย่างง่าย+ป.6+297+dltvscip6+55t2sci p06 f22-1page
Prachoom Rangkasikorn
Casestudy การศึกษารายกรณี
Casestudy การศึกษารายกรณีCasestudy การศึกษารายกรณี
Casestudy การศึกษารายกรณี
rewat Chitthaing
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3
แบบทดสอบ สุขศึกษา ม.3
teerachon
รายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ครูเวรประจำวันพฤหัสบดี 1-2563
รายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ครูเวรประจำวันพฤหัสบดี 1-2563รายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ครูเวรประจำวันพฤหัสบดี 1-2563
รายงานผลการปฏิบัติหน้าที่ครูเวรประจำวันพฤหัสบดี 1-2563
SuparatMuangthong
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้สื่อและแหล่งการเรียนรู้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
poms0077
บทที่ ๓ อาหารหลัก ๕ หมู่
บทที่ ๓ อาหารหลัก ๕ หมู่บทที่ ๓ อาหารหลัก ๕ หมู่
บทที่ ๓ อาหารหลัก ๕ หมู่
kasocute
แผȨาร๶รียนรู้สุภาษิต
แผȨาร๶รียนรู้สุภาษิตแผȨาร๶รียนรู้สุภาษิต
แผȨาร๶รียนรู้สุภาษิต
yaowarat Lertpipatkul
1.ตัวอย่างแผȨูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง
1.ตัวอย่างแผȨูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง1.ตัวอย่างแผȨูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง
1.ตัวอย่างแผȨูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง
Wareerut Hunter
คำกล่าวอวยพรวัȨล้ายวัȨกิด
คำกล่าวอวยพรวัȨล้ายวัȨกิดคำกล่าวอวยพรวัȨล้ายวัȨกิด
คำกล่าวอวยพรวัȨล้ายวัȨกิด
A-NKR Ning

Similar to พัոาการของมȨษย์ (20)

พัոาการของมȨษย์

  • 2.  การเจริญเติบโต  พัոาการ  การเปลียนแปลงเนืองมาจาก ่ ่ พัոาการ  หลักพัոาการ  ทฤษฎีพฒนาการ ั
  • 3. พัոาการ (Development) การเปลี่ยนแปลงของบุคคล ในทุก ๆ ด้านตามระยะเวลา ที่เปลี่ยนไป การ เปลี่ยนแปลงนั้นเป็นผลมา จาก ระบบชีววิทยาในตัว การเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อม
  • 4. การเจริญเติบโต การเปลี่ยนแปลงด้านขนาด ส่วนสูง นำ้าหนัก และ สัดส่วนในร่างกายของ บุคคล ซึ่งเป็นการ เปลียนแปลงในแง่ทเจริญ ่ ี่ ขึ้น ดีขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น
  • 5. วุոาวะ ิ (Maturation) หมายถึง รูปแบบพฤติกรรมในเชิงชีววิทยาที่ มีความสัมพันธ์กับอายุ โดยการเปลี่ยนแปลง ในแบบพฤติกรรมเหล่านี้จะได้รับการตั้งโปรม แกรมโดยยีนส์ ซึ่งได้รวมถึงควาสามารถทาง กายและความสามารถทางด้านความคิด
  • 6. การเรียนรู้ (Learning) หมายถึง รูปแบบการแปลง พฤติกรรมที่เป็นผลมาจาก การฝึกฝนและการฝึกหัด การ เรียนรู้จะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมี วุฒิภาวะเป็นพืนฐาน โดยเด็ก ้ ทีมีวุฒิภาวะแล้วจะได้รับการ ่
  • 7. การเปลี่ยนแปลง๶Ȩ่องมา จากพัոาการ 1. การเปลี่ยนแปลงด้าน ขนาด 2. การเปลี่ยนแปลงด้าน สัดส่วน 3. การเปลียนแปลงที่เกิด ่ ขึ้นทำาให้ลกษณะเก่า ๆหาย ั
  • 8. พัոาการ 4 ด้าน 1. พัոาการทางกาย 2. พัոาการทางสติ ปัญญา 3. พัոาการทาง อารมณ์
  • 9. หลักของพัոาการ Principle of Development อาร์โนลด์ จีเซลล์ ได้สรุปหลักของ พัոาการของมȨษย์ 1.พัոาการของมȨษย์มีทิศทาง (Principle of Directions) - ทิศทางจากส่วนบนลงสู่สวนกลาง ่ (Cephalocaudal Law) เป็นการพัฒนาใน แนวดิง โดยยึดศีรษะเป็นอวัยวะหลัก ่ คือ อวัยวะใดที่อยู่ใกล้ศรษะมากที่สด ี ุ บุคคลก็จะสามารถควบคุมการ ทำางานของอวัยวะส่วนนั้นได้ก่อน
  • 10. หลักของพัոาการ Principle of Development  ทิศทางจากส่วนใกล้ไปสู่ส่วนไกล (Proximodistal Law) เป็นการพัฒนา ในแนวขวาง โดยยึดลำาตัวเป็น อวัยวะหลัก คืออวัยวะใดก็ตามที่ อยูใกล้ร่างกายมากทีสุดจะ ่ ่ สามารถควบคุมได้ก่อนส่วนอื่น ๆ ดังนันเด็กจึงขยับร่างกายได้ก่อน ้ ส่วนอื่น ๆ
  • 11. 2. พัոาการของมȨษย์มี ลักษณะต่อเนื่อง (Principle of Continuity)  พัոาการใดด้านใดก็ตามต้อง อาศัยระยะเวลาและความต่อ เนืองอย่างค่อยเป็นค่อย ไป ่ ไม่ใช่เกิดได้โดยฉับพลันทันที ทันใด โดยเริ่มพัոาการ ตั้งแต่วัยเด็ก และพัոาการ ถึงขีดสุดในวัยผู้ใหญ่ และ เสื่อมลงเมื่อถึงวัยชราตาม
  • 12. 3. พัոาการของมȨษย์เป็นไป ตามลำาดับขั้น (Principle of Developmental Sequence)  พัոาการของสิ่งต่าง ๆ ทั้ง หลายต่างก็มีแบบแผนเฉพาะ ของตน เมื่อพัոาการมี ลักษณะต่อเนื่อง ดังนั้นจึงไม่ สามารถที่จะข้ามขั้นได้ และเป็น ไปตามลำาดับขั้นตอนตาม ธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น เด็กจะ
  • 13. 4. พัոาการของมȨษย์ต้องอาศัย วุฒิภาวะและการเรียนรู้ (Principle of Maturation and Learning)  วุฒิภาวะนั้นเป็นความพยายามขั้น ต้นของสิ่งมีชีวิตในการจัดระบบ เพื่อเตรียม ให้ได้มาซึ่ง ประสบการณ์ตาง ๆ อันยัง ่ ประโยชน์ให้กับตนเอง ส่วนการ เรียนรู้เป็นการเพิ่มความชำานาญ
  • 14. 5. พัոาการของมȨษย์แต่ละบุคคล มีอัตราแตกต่างกัน (Principle of Individual Growth Rate)  ช่วงชีวิตของแต่ ละบุคคลนั้น จะมีความถึงพร้อมซึงวุฒิ ่ ภาวะแตกต่างกัน เช่น ในเด็ก หญิงจะถึงวุฒิภาวะของความ เป็นสาวเร็วกว่าการถึงวุฒิ ภาวะความเป็นหนุ่ม ของเด็ก
  • 15. สรุปลักษณะเด่นของ พัոาการ 1. พัոาการเป็นไปตามแบบฉบับของตัว เอง 2. พัոาการไม่ว่าด้านใดก็ตามจะเริ่มจาก ส่วนใหญ่ไปหาส่วนย่อย ๆ 3. พัոาการทั้งหลายเป็นสิ่งที่ต่อเนื่องกัน ไป 4. อัตราพัոาการของบุคคลจะแตกต่าง กันไป 5. คุณลักษณะต่าง ๆ ของพัոาการจะมี ความสัมพันธ์กัน
  • 17. พัոาการในวัย ต่าง ๆ วัยทารก จะมีชวงเวลาตั้งแต่แรกเกิด – 2 ปี ่ วัยทารกยังเป็นวัยที่ยงช่วยเหลือตัว ั เองไม่ได้ ต้องอาศัยความช่วยเหลือ จากบุคคลอื่น วัยนี้มการเจริญเติบโต ี อย่างรวดเร็ว และเห็นพัոาการทาง ด้านร่างกายอย่างชัดเจน สิงที่สำาคัญ ่ คือการพัฒนากล้ามเนื้อ
  • 20. วัยเด็ก วัยเด็ก เป็นวัยที่อยู่ในช่วงอายุ 2 – 11 ปี มี การพัฒนากล้ามเนื้อทีใช้ในการเล่นมักมี ่ พฤติกรรมเลียนแบบผู้ใหญ่ทอยู่ใกล้ตัว ี่ พัոาการทางสติปัญญาจะก้าวหน้าอย่าง รวดเร็วในตอนปลายของวัย วัยเด็กจะมีการพัฒนาเอกลักษณ์ของตนเอง (Identification) เด็กจะรับเอาทัศนคติและ พฤติกรรมจากพ่อแม่ พฤติกรรมทางสังคม เด็กจะมีความสัมพันธ์
  • 22. วัยรุ่น การเข้าสู่วยรุนของเด็กชายและเด็กหญิงแตก ั ่ ต่างกัน เด็กชายจะมีอายุประมาณ 13 ปี ส่วน เด็กหญิงจะมีอายุประมาณ 11 ปี ทั้งนี้เพราะผู้ หญิงโตเร็วกว่าผู้ชาย กว่า 2 ปี และจะสิ้นสุด เมื่ออายุ 18-20 ปี พัոาการทางกายมีการเจริญเติบโตอย่าง รวดเร็ว เด็กผู้หญิงเริ่มมีประจำาเดือน เด็กผู้ชาย เริ่มฝันเปียก มีลักษณะเป็นวัยหนุ่มวัยสาว
  • 23. วัยรุ่น การสร้างมิตรภาพ วัยรุ่นมักชอบเพื่อน ทีมีบุคลิกภาพและความสนใจเดียวกัน วัย ่ รุ่นชายจะพัฒนาความสัมพันธ์โดยการทำา กิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน ผูหญิงพัฒนา ้ ความสัมพันธ์โดยการติดต่อสื่อสารซึ่งกัน และกัน วัยรุนเป็นวัยหนึ่งเป็นวัยทีมีปัญหา ซึ่ง ่ ่ อาจจะพบปัญหาการฆ่าตัวตายในวัยรุ่น อันเป็นมาจากการซึมเศร้า และความรู้สก ึ
  • 25. วัยผูใหญ่ ้ วัยผู้ใหญ่แบ่งออกเป็น 3 ช่วง อายุ คือ 1 วัยผู้ใหญ่ตอนต้น อายุ 18-45 ปี 2 วัยกลางคน อายุ 45-65 ปี 3 วัยชรา หรือผู้ใหญ่ตอนปลาย อายุ 65 ปีขึ้นไป
  • 27. พัոาการทางกาย วัยผู้ใหญ่ตอนต้น จัดว่าเป็นระยะที่ดีที่สด ุ ของชีวต ร่างกายมีการเจริญเติบโตมากที่สดตอน ิ ุ อายุ 20 ปี มีความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ วัยกลางคน ร่างกายจะเริ่มค่อย ๆ เสื่อมลง จากวัยผู้ใหญ่ตอนต้น วัยชรา กระบวนการเสือมในร่างกายเมกปราก ่ ฎอย่างรวดเร็ว ร่างกายจะสูญเสียความสามารถที่ ปกป้องตนเองจากโรคต่าง ๆ
  • 28. พัոาการทางสังคมและ บุคลิกภาพของผู้ใหญ่ วัยผู้ใหญ่เป็นวัยที่ประสบ ความสำาเร็จในงานอาชีพ จะเพิ่มมากขึนในระหว่าง ้ 20-40 ปี บุคคลจะมี ประสบการณ์ในการจัดการ กับสถานการณ์ต่าง ๆ ใน ชีวตประจำาวันและการงาน ิ อาชีพสิงเหล่านี้จะมีผลต่อ ่ บุคลิกภาพของบุคคลในวัย
  • 29. การแต่งงานและการมี ครอบครัว ผู้ใหญ่ตอนต้น เป็นวัยที่จัดว่าเป็น ช่วงของการสร้าง ความสนิทสนมกับ เพือนต่างเพศคนใด ่ คนหนึ่ง ซึงมักจะนำา ่ มาสูการแต่งงาน ่ และต่อมาก็คือการมี
  • 30. การเกษียณอายุ การเกษียณอายุมีอยู่ 6 ระยะด้วยกัน 1 ระยะก่อนการเกษียณอายุ 2 ระยะของการมีความสุข 3 ระยะของการหมดความสุข 4 ระยะการปรับตัวอีกครั้ง 5 ระยะความมั่นคง 6 ระยะสุดท้าย
  • 31. บุคคลในวัยชรามี ลักษณะดังนี้ 1 โครงสร้างของร่างกาย เปลี่ยนแปลง 2 จุกจิกจู้จี้ ขี้บ่น 3 หลงลืมได้ง่าย 4 ขี้น้อยใจ 5 เจ็บป่วยได้ง่าย
  • 32. จุดจบของชีวิต (การ ตาย) 1 การปฏิเสธ 2 ความโกรธ 3 อาการที่บุคคลคาดหวังว่าจะ ต่อรองได้ 4 ความซึมเศร้า 5 การยอมรับ
  • 34. ทฤษฎีการพัոา ของฟรอยึϹ พัոาการความต้องการทาง เพศและบุคลิกภาพของบุคคล ต้องอาศัยการพัฒนาที่ตอเนื่อง ่ อย่างเป็นลำาดับขั้นจนกลายเป็น บุคลิกภาพที่ถาวรในที่สุด พัոาการแต่ละขั้นเป็นการ ตอบสนองความสุขความพึง
  • 35. ลำาดับขั้นพัոาการของซิ กมันด์ฟรอยึϹ 1. ขั้นพึงพอใจทางปาก (Oral Stage) 2. ขั้นพึงพอใจทางทวาร (Anal Stage) 3. ขั้นสนใจอวัยวะเพศของ ตน (Phallic)
  • 36. ตังแต่แรกเกิดถึงประมาณ ้ 1-2 ปี เด็กจะชอบ ดูด กัด อม เช่น ดูดนม กัดแทะของ เล่น ดูดนิ้ว เล่นนำ้าลาย และ ทำาเสียงต่าง ๆ ถ้าถูกขัดขวางจะเกิด Oral
  • 37. อยู่ในช่วงอายุ 2-3 ปี ระยะนี้ เด็กจะพึงพอใจกับการขับ ถ่าย การฝึกการขับถ่ายควร ทำาค่อยเป็นค่อยไปด้วย ความอ่อนโยนอย่าบังคับ ถ้า เกิดการติดตรึงจะทำาให้ เป็น พวกชอบสะสมของ หวงของ
  • 38. อยูระหว่าง 3-5 ปี เด็กจะมีความ ่ พึงพอใจกับการได้สมผัสอวัยวะ ั เพศของตนเองถ้าไม่ได้รับการ ตอบสนองจะเกิดความแปรปรวน ทางเพศขึ้นในวัยผูใหญ่ ้ ชาย = ปมออดิปุส หญิง = ปมอิเล็กตรา
  • 39. อายุ 6 -12 ปี ระยะนี้จะเป็น ระยะพักเด็กจะเริ่มแสวงหา บทบาทที่เหมาะสมให้กับ ตนเอง ชอบเล่นในกลุม ่ เพศเดียวกัน เล่นกีฬา เล่น เกม และกิจกรรมต่าง ๆที่
  • 40. อายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป ถ้า เด็กผ่านขั้นอวัยวะเพศ ไปได้อย่างราบรื่น เด็กจะ แสดงบทบาทความเป็น ชายและหญิงตรงตาม เพศของตน
  • 41. ทฤษฎีการพัոา ของเพียเจท์ 1. ขั้นใช้อวัยวะสัมผัสและ กล้ามเนื้อ 2. ขั้นเริ่มคิดเริ่มเข้าใจ 3. ขั้นคิดออกเองโดยไม่ ต้องใช้เหตุผล 4. ขั้นใช้ความคิดเชิงรูป
  • 42. ตั้งแต่แรกเกิดถึง 2 ปี เป็นวัยทีเริ่ม ่ เรียนรู้โดยใช้ประสาทสัมผัสและ การเคลื่อนไหวของร่างกายเพื่อ ตอบสนองสิ่งแวดล้อมเด็กที่ สามารถใช้ประสาทสัมผัสกับสิง ่ แวดล้อมได้มากเท่าใดก็จะช่วย พัฒนาเชาวน์ปัญญาของเด็กได้
  • 43. อายุตั้งแต่ 2-4 ขวบ เริ่มเรียน รู้การใช้ภาษาเรียกสิ่งของ เช่น ข้าว นม เป็นต้น
  • 44. อายุ 4 -7 ปี เชือตัวเองไม่ยอม ่ เปลี่ยนความคิด หรือเชื่อใน เรื่องการทรงภาวะเดิมของ วัตถุ ก ข
  • 45. อายุ 7 – 11 ปี เป็นระยะทีเด็ก ่ สามารถคิดอย่างมีเหตุผลใน เรื่องทีเป็นรูปธรรม ถ้าให้วาด ่ ภาพครอบครัวของฉัน เด็กใน วัยนีจะสามารถวางภาพได้ใกล้ ้ เคียงความเป็นจริง จัดหมวด หมู่ได้ เรียงลำาดับได้
  • 46. เด็กอายุระหว่าง 11 ถึง 15 ปี เด็กจะเริ่มคิดได้แบบผู้ใหญ่ สามารถเข้าใจสิ่งที่เป็น นามธรรมได้ คิดตั้ง สมมติฐานและสร้างทฤษฎี แบบนักวิทยาศาสตร์ได้ เป็น ตัวของตนเอง ต้องการความ
  • 47. ทฤษฎีการพัոาของ อีริคสัน 1. ขันไว้ใจกับไม่ไว้ใจผูอื่น ้ ้ 2. ขันทีมีความอิสระกับความ ้ ่ สงสัย 3. ขั้นความคิดริเริ่มกับความ รู้สึกผิด 4. ขันขยันหมั่นเพียรกับความ ้ รู้สึกมีปมด้อย 5. ขันเข้าใจเอกลักษณ์ของ ้
  • 48. ตังแต่แรกเกิดจนถึง 1 ปี ถ้าเด็ก ้ ได้รับความรัก ความอบอุ่น และ การดูแลจากคนใกล้ชิด เด็กโต ขึ้นก็จะเกิดความรู้สึกไว้วางใจ สังคม แต่ถ้าไม่ไเด็รับพ่อแม่ ก ้ ผู้ที่มีบทบาทกับ ด้ ก ความรัผู ความอบอุ่น เมื่อโตขึ้นก็จะหลีก ปกครอง หรือพี่เลี้ยง หนีสังคม
  • 49. อายุ 2-3 ปี เด็กจะเรียนรู้การ เดิน การพูด และทำาอะไรตาม อิสระ พ่อแม่ควรให้อิสระกับ เด็กในการทำากิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเองพยายามให้เด็ก ช่วยเหลือตนเองให้มากที่สุด ไม่ข่มขู่ลงโทษเมื่อเด็กทำาผิด ผู้มีบทบาท พ่อเด็กจะเกิ้เลี้ยงดู อย่างรุนแรง แม่และผูดความ
  • 50. อายุ 3 - 5 ปี เด็กจะใช้ของเล่น ทดแทนจินตนาการ โดยนำา ของเล่นรวมกันแล้วสร้างเป็น เรื่องราวขึ้นมา เด็กพอใจที่จะ เลียนแบบพฤติกรรมผู้ใหญ่ที่ ใกล้ชิด ดังนั้นหากพ่อแม่ ผู้ทมีบทบาทคือ้ยงดูยอมรับผลงาน ี่ และคนเลี บุคคลในครอบครัว
  • 51. อายุ 6-11 ปี เด็กในวัยนีไม่อยูนง ้ ่ ิ่ ชอบเขียน อ่าน ทำาในสิ่งทีตน ่ อยากทำาขยันในการทำางานต่าง ๆ และภาคภูมิใจในผลงานทีได้รับ ่ ความสำาเร็จเนืองจากความ ่ พยายามของตน ผูใหญ่ต้องไม่ ้ คาดหวัทบาท เด็กสูงเกินไป จน ผู้มีบ งในตัว พ่อแม่ ครู และ
  • 52. อายุ 12-18 ปี ช่วงนีถือเป็นช่วง ้ วิกฤตมากที่สด เมือเด็กเกิด ุ ่ ปัญหาใด ๆ ขึ้น เขาจะเกิด ความสับสนว่าควรจะเชื่อใครดี ระหว่างพ่อแม่ ตนเอง หรือ เพื่อน เด็กวัยนีคือการแสวงหา ้ ตนเองเพื่อให้รู้จักตนเองในแง่ มุมต่าง ๆ
  • 53. วัยผูใหญ่ตอนต้น เริ่มนัดหมาย ้ การแต่งงานและชีวิตครอบครัว ถ้าหากว่าแต่ละคนได้พัฒนา ความเข้าใจเอกลักษณ์ตนเองดี พอ แต่ถ้าบุคคลใดไม่สามารถ ผ่านขั้นนีไปได้ จะกลายเป็นคน ้ รักตนเองและไม่สามารถจะ แสดงความรักต่อผู้อื่นได้
  • 54. ระยะวัยกลางคนเป็นระยะที่ จะคอยให้ความช่วยเหลือคน รุ่นหลังสำาหรับผู้ที่ผ่านขั้น พัոาการต้น ๆ มาเป็นอย่าง ดี แต่ถ้าบุคคลใดไม่สามารถ แก้ปัญหาขัดแย้งในอดีตของ ตนได้จะกลายเป็นคนชอบ
  • 55. วัยชรา เขาจะมีความไว้วางใจ เพื่อนร่วมโลกและตัวเองถ้า เขามีความทรงจำาในด้านความ สุขความสบายใจ แต่ถ้าเขามี ความทรงจำาเกี่ยวกับความผิด หวังตลอดเวลาเขาก็ไม่มีความ สุขในชีวิต
  • 56. ทฤษฎีพัոาการทางจริยธรรม ของโคห์ลเบิร์ก (Kohlberg’s Moral Development)  เป็นทฤษฎีทมีแนวคิดพื้นฐาน ี่ มาจากทฤษฎีพัոาการทาง เชาวน์ปัญญาของเพียเจต์ โดย ได้ขยายขอบเขตงานวิจัยให้ ครอบคลุมกว้างขวางมากยิงขึ้น ่ โคห์ลเบิร์กได้สรุปทฤษฎี พัոาการทางจริยธรรมของ
  • 57. ระดับที่ 1 ระดับก่อนเกณฑ์ทาง สังคม (Pre-conventional Level)  เด็กจะรับรู้ถึงกฎเกณฑ์ที่ดีและไม่ดีจากคนที่มี อิทธิพลเหนือตน เช่น พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู หรือ เด็กที่โตกว่า และจะนึกถึงรางวัลและการลงโทษ เป็นส่วนประกอบในการแสดงพฤติกรรม  ขั้นของการลงโทษและเชือฟัง (Punishment and ่ obedience orientation) แรกเกิดถึง 7 ปี เป็นหลักของการใช้เหตุผลของการแสดงพฤติกรรมเป็น เครื่องช่วยตัดสินว่าถูกหรือ 2. ขั้นการแสวงหารางวัล (Naively egoistic orientation)
  • 58. ระดับที่ 2 ระดับแสดงจริยธรรมตาม กฎเกณฑ์ของสังคม (Conventional Level)  การแสดงออกของพฤติกรรมทีเป็นไป ่ ตามความคาดหวัง ของสังคมที่เป็น สมาชิกอยู่ โดยในขั้นนี้เด็กจะไม่คำานึง ถึงรางวัลหรือการลงโทษแล้ว แต่จะ ยึดถือมาตรฐานที่สังคมกำาหนด 1.ขั้นทำาตามเพื่อเพื่อนและสิงทีสังคม ่ ่ ยอมรับ (Interpersonalconcordance of “Goodboy-Nicegirl” orientation)
  • 59. ระดับที่ 3 ระดับจริยธรรมเหนือกฎ เกณฑ์ทางสังคม (Post-conventional Level)  พฤติกรรมเกิดจากการใชวิจารณญาณของ ตนเป็นมาตรฐานในการตัดสิน การปฏิบัติ โดยปราศจากอิทธิพลของบุคคลและสิ่ง แวดล้อมในสังคมเข้ามาเกี่ยวข้อง  ขั้นทำาตามสัญญา (Social contract orientation) เป็นขั้นหลักการมีเหตุผลและเคารพตนเอง อยู่ในช่วงอายุ 16 ปีขึ้นไป 2. ขั้นอุดมคติสากล (Universal ethical principle orient ation)กฎระเบียบของสังคม และทำาหน้าที่