ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
ดร.รังสรรค์ โฉมยา
 การเจริญเติบโต
 พัոาการ
 การเปลียนแปลงเนื่องมาจาก
         ่
  พัոาการ
 หลักพัոาการ
 ทฤษฎีพฒนาการ
         ั
การเจริญเติบโต
การเปลี่ยนแปลงด้านขนาด
ส่วนสูง นำำาหนัก และ
สัดส่วนในร่างกายของ
บุคคล ซึ่งเป็นการ
เปลี่ยนแปลงในแง่ทเจริญี่
ขึำน ดีขึำนตามอายุที่เพิ่มขึำน
พัոาการ
   (Development)
การเปลี่ยนแปลงของบุคคล
ในทุก ๆ ด้านตามระยะเวลา
ที่เปลี่ยนไป การ
เปลี่ยนแปลงนัำนเป็นผลมา
จาก ระบบชีววิทยาในตัว
การเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อม
พัոาการ 4 ด้าน
1. พัոาการทางกาย
2. พัոาการทางสติ
ปัญญา
3. พัոาการทาง
อารมณ์
การเปลี่ยนแปลง๶Ȩ่องมา
   จากพัոาการ
1. การเปลี่ยนแปลงด้าน
ขนาด
2. การเปลี่ยนแปลงด้าน
สัดส่วน
 3. การเปลียนแปลงทีเกิด
             ่       ่
ขึำนทำาให้ลกษณะเก่า ๆหาย
           ั
หลักของพัոาการ
1. ตามแบบแผน
   1.1 ทิศทางจากส่วนบนลงสู่
   ส่วนล่าง
เฉลย อัวนใดจะขยัรษะ อันดับ
 อวัยวะส่ นดับ 1 = ศี บได้
   อันดับ1และอันดับสุดท้าย
สุดท้าย = นิ้วเท้า
   1.2 ทิศทางจากใกล้ตวไปสู่
                        ั
เฉลย อันดับ 1 = ร่างกาย
   ไกลตัว
อันดับสุดท้าย = นิ้วมือ
หลักของพัոาการ
        (ต่อ)
2. ลักษณะรวม ๆ กว้าง
เด็กเกิดใหม่จะเคลื่อนไหวทั้งตัว
  ก่อนทีจะเคลื่อนไหวได้เฉพาะ
         ่
  แขน
3. เป็นลำาดับ
เช่น เด็กจะเริ่มต้นพัոาการ
  จากหงาย ควำ่า คืบ คลาน นั่ง
หลักของพัոาการ (ต่อ)
4. มีลกษณะแตกต่างกัน
       ั
5. มีอัตราการเจริญเฉพาะ
 ด้านเป็นส่วน ๆ ไป
6. มีความสัมพันธ์กันทุก ๆ
 ด้าน
ทฤษฎีพัոาการ
1. ทฤษฎีพฒนาการของ
         ั
ฟรอยึϹ
2. ทฤษฎีพฒนาการของ
           ั
เพียเจท์
 3. ทฤษฎีพฒนาการของ
             ั
อีริคสัน
ทฤษฎีการพัոา
    ของฟรอยึϹ
พัոาการความต้องการทาง
เพศและบุคลิกภาพของบุคคล
ต้องอาศัยการพัฒนาที่ตอเนื่อง
                       ่
อย่างเป็นลำาดับขั้นจนกลายเป็น
บุคลิกภาพที่ถาวรในที่สุด
พัոาการแต่ละขั้นเป็นการ
ตอบสนองความสุขความพึง
ลำาดับขัำนพัոาการของซิ
กมันด์ฟรอยึϹ
1. ขัำนพึงพอใจทางปาก
(Oral Stage)
2. ขัำนพึงพอใจทางทวาร
(Anal Stage)
 3. ขัำนสนใจอวัยวะเพศของ
ตน (Phallic)
ตังแต่แรกเกิดถึงประมาณ
  ้
    1-2 ปี เด็กจะชอบ ดูด กัด
    อม เช่น ดูดนม กัดแทะของ
    เล่น ดูดนิ้ว เล่นนำ้าลาย และ
    ทำาเสียงต่าง ๆ
ถ้าถูกขัดขวางจะเกิด Oral
อยู่ในช่วงอายุ 2-3 ปี ระยะนี้
 เด็กจะพึงพอใจกับการขับ
 ถ่าย การฝึกการขับถ่ายควร
 ทำาค่อยเป็นค่อยไปด้วย
 ความอ่อนโยนอย่าบังคับ ถ้า
 เกิดการติดตรึงจะทำาให้ เป็น
 พวกชอบสะสมของ หวงของ
อยูระหว่าง 3-5 ปี เด็กจะมีความ
     ่
 พึงพอใจกับการได้สมผัสอวัยวะ
                     ั
 เพศของตนเองถ้าไม่ได้รับการ
 ตอบสนองจะเกิดความแปรปรวน
 ทางเพศขึ้นในวัยผู้ใหญ่
ชาย = ปมออดิปุส            หญิง
 = ปมอิเล็กตรา
อายุ 6 -12 ปี ระยะนี้จะเป็น
 ระยะพักเด็กจะเริ่มแสวงหา
 บทบาททีเหมาะสมให้กับ
          ่
 ตนเอง ชอบเล่นในกลุม    ่
 เพศเดียวกัน เล่นกีฬา เล่น
 เกม และกิจกรรมต่าง ๆที่
อายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป ถ้า
 เด็กผ่านขั้นอวัยวะเพศ
 ไปได้อย่างราบรื่น เด็กจะ
 แสดงบทบาทความเป็น
 ชายและหญิงตรงตาม
 เพศของตน
ทฤษฎีการพัոา
 ของเพียเจท์
1. ขั้นใช้อวัยวะสัมผัสและ
กล้ามเนื้อ
2. ขั้นเริ่มคิดเริ่มเข้าใจ
 3. ขั้นคิดออกเองโดยไม่
ต้องใช้เหตุผล
4. ขั้นใช้ความคิดเชิงรูป
ตั้งแต่แรกเกิดถึง 2 ปี เป็นวัยที่เริ่ม
   เรียนรู้โดยใช้ประสาทสัมผัสและ
   การเคลื่อนไหวของร่างกายเพื่อ
   ตอบสนองสิ่งแวดล้อมเด็กที่
   สามารถใช้ประสาทสัมผัสกับสิ่ง
   แวดล้อมได้มากเท่าใดก็จะช่วย
   พัฒนาเชาวน์ปัญญาของเด็กได้
อายุตั้งแต่ 2-4 ขวบ เริ่มเรียน
 รู้การใช้ภาษาเรียกสิ่งของ
 เช่น ข้าว นม เป็นต้น
อายุ 4 -7 ปี เชื่อตัวเองไม่ยอม
 เปลี่ยนความคิด หรือเชื่อใน
 เรื่องการทรงภาวะเดิมของ
 วัตถุ
   ก             ข
อายุ 7 – 11 ปี เป็นระยะทีเด็ก
                           ่
  สามารถคิดอย่างมีเหตุผลใน
  เรื่องที่เป็นรูปธรรม ถ้าให้วาด
  ภาพครอบครัวของฉัน เด็กใน
  วัยนีจะสามารถวางภาพได้ใกล้
        ้
  เคียงความเป็นจริง จัดหมวด
  หมู่ได้ เรียงลำาดับได้
เด็กอายุระหว่าง 11 ถึง 15 ปี
  เด็กจะเริ่มคิดได้แบบผู้ใหญ่
  สามารถเข้าใจสิ่งที่เป็น
  นามธรรมได้ คิดตั้ง
  สมมติฐานและสร้างทฤษฎี
  แบบนักวิทยาศาสตร์ได้ เป็น
  ตัวของตนเอง ต้องการความ
ทฤษฎีการพัոาของอีริคสัน
1. ขันไว้ใจกับไม่ไว้ใจผูอื่น
      ้                    ้
2. ขันทีมีความอิสระกับความ
        ้ ่
สงสัย
    3. ขั้นความคิดริเริ่มกับความ
รู้สึกผิด
4. ขันขยันหมั่นเพียรกับความ
         ้
รู้สึกมีปมด้อย
5. ขันเข้าใจเอกลักษณ์ของ
           ้
ตนเองกับไม่เข้าใจตนเอง
ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 1 ปี ถ้าเด็ก
   ได้รับความรัก ความอบอุ่น และ
   การดูแลจากคนใกล้ชิด เด็กโต
   ขึ้นก็จะเกิดความรู้สึกไว้วางใจ
   สังคม แต่ถ้าไม่ไเด็รับพ่อแม่ ก ้
   ผู้ที่มีบทบาทกับ ด้ ก ความรัผู
   ความอบอุ่น เมื่อโตขึ้นก็จะหลีก
          ปกครอง หรือพี่เลี้ยง
   หนีสังคม
อายุ 2-3 ปี เด็กจะเรียนรู้การ
   เดิน การพูด และทำาอะไรตาม
   อิสระ พ่อแม่ควรให้อิสระกับ
   เด็กในการทำากิจกรรมต่าง ๆ
   ด้วยตนเองพยายามให้เด็ก
   ช่วยเหลือตนเองให้มากที่สุด
   ไม่ข่มขู่ลงโทษเมื่อเด็กทำาผิด
ผู้มีบทบาท พ่อเด็กจะเกิ้เลี้ยงดู
   อย่างรุนแรง  แม่และผูดความ
อายุ 3 - 5 ปี เด็กจะใช้ของเล่น
       ทดแทนจินตนาการ โดยนำา
       ของเล่นรวมกันแล้วสร้างเป็น
       เรื่องราวขึ้นมา เด็กพอใจที่จะ
       เลียนแบบพฤติกรรมผู้ใหญ่ที่
       ใกล้ชิด ดังนั้นหากพ่อแม่
ผู้ทมีบทบาทคือ้ยงดูยอมรับผลงาน
    ี่ และคนเลี บุคคลในครอบครัว
อายุ 6-11 ปี เด็กในวัยนีไม่อยูนง
                        ้       ่ ิ่
  ชอบเขียน อ่าน ทำาในสิ่งทีตน ่
  อยากทำาขยันในการทำางานต่าง ๆ
  และภาคภูมใจในผลงานทีได้รับ
               ิ            ่
  ความสำาเร็จเนืองจากความ
                 ่
  พยายามของตน ผูใหญ่ต้องไม่
                      ้
  คาดหวัทบาท เด็กสูงเกินไป จน
   ผู้มีบ งในตัว พ่อแม่ ครู และ
อายุ 12-18 ปี ช่วงนีถือเป็นช่วง
                    ้
  วิกฤตมากที่สุด เมือเด็กเกิด
                      ่
  ปัญหาใด ๆ ขึ้น เขาจะเกิด
  ความสับสนว่าควรจะเชื่อใครดี
  ระหว่างพ่อแม่ ตนเอง หรือ
  เพื่อน เด็กวัยนี้คือการแสวงหา
  ตนเองเพื่อให้รู้จักตนเองในแง่
  มุมต่าง ๆ
วัยผูใหญ่ตอนต้น เริ่มนัดหมาย
      ้
   การแต่งงานและชีวิตครอบครัว
   ถ้าหากว่าแต่ละคนได้พัฒนา
   ความเข้าใจเอกลักษณ์ตนเองดี
   พอ แต่ถ้าบุคคลใดไม่สามารถ
   ผ่านขั้นนีไปได้ จะกลายเป็นคน
             ้
   รักตนเองและไม่สามารถจะ
   แสดงความรักต่อผู้อื่นได้
ระยะวัยกลางคนเป็นระยะที่
จะคอยให้ความช่วยเหลือคน
รุ่นหลังสำาหรับผู้ที่ผ่านขั้น
พัոาการต้น ๆ มาเป็นอย่าง
ดี แต่ถ้าบุคคลใดไม่สามารถ
แก้ปัญหาขัดแย้งในอดีตของ
ตนได้จะกลายเป็นคนชอบ
วัยชรา เขาจะมีความไว้วางใจ
  เพื่อนร่วมโลกและตัวเองถ้า
  เขามีความทรงจำาในด้านความ
  สุขความสบายใจ แต่ถ้าเขามี
  ความทรงจำาเกี่ยวกับความผิด
  หวังตลอดเวลาเขาก็ไม่มีความ
  สุขในชีวิต

More Related Content

Viewers also liked (12)

ทฤษฎีพัฒȨการྺองอีริคสัน
ทฤษฎีพัฒȨการྺองอีริคสันทฤษฎีพัฒȨการྺองอีริคสัน
ทฤษฎีพัฒȨการྺองอีริคสัน
earlychildhood024057
อิริคสัน
อิริคสันอิริคสัน
อิริคสัน
fateemeenorm
Edu9
Edu9Edu9
Edu9
anitha rattanatrang
ทฤษฎีพัฒȨการྺองโคลเบิร์ก
ทฤษฎีพัฒȨการྺองโคลเบิร์กทฤษฎีพัฒȨการྺองโคลเบิร์ก
ทฤษฎีพัฒȨการྺองโคลเบิร์ก
Habsoh Noitabtim
จิตวิทยาพัոาการ
จิตวิทยาพัոาการจิตวิทยาพัոาการ
จิตวิทยาพัոาการ
Rukvicha Jitsumrawy
ทฤษฎีจิตสังคม อีริคสัน
ทฤษฎีจิตสังคม อีริคสันทฤษฎีจิตสังคม อีริคสัน
ทฤษฎีจิตสังคม อีริคสัน
6Phepho
Original erikson 2
Original erikson 2Original erikson 2
Original erikson 2
New Born
ทฤษฎีྺองอิริคสัน
ทฤษฎีྺองอิริคสันทฤษฎีྺองอิริคสัน
ทฤษฎีྺองอิริคสัน
hoossanee
ทฤษฎีพัոาการของฟรอยึϹ
ทฤษฎีพัոาการของฟรอยึϹทฤษฎีพัոาการของฟรอยึϹ
ทฤษฎีพัոาการของฟรอยึϹ
hoossanee
ทฤษฎีྺองอิริคสัน
ทฤษฎีྺองอิริคสันทฤษฎีྺองอิริคสัน
ทฤษฎีྺองอิริคสัน
7roommate
งาȨ่ง๶สริมทัȨสุขภาพและป้องกันโรคช่องปาก
งาȨ่ง๶สริมทัȨสุขภาพและป้องกันโรคช่องปากงาȨ่ง๶สริมทัȨสุขภาพและป้องกันโรคช่องปาก
งาȨ่ง๶สริมทัȨสุขภาพและป้องกันโรคช่องปาก
techno UCH
ทฤษฎีพัฒȨการྺองอีริคสัน
ทฤษฎีพัฒȨการྺองอีริคสันทฤษฎีพัฒȨการྺองอีริคสัน
ทฤษฎีพัฒȨการྺองอีริคสัน
earlychildhood024057
อิริคสัน
อิริคสันอิริคสัน
อิริคสัน
fateemeenorm
ทฤษฎีพัฒȨการྺองโคลเบิร์ก
ทฤษฎีพัฒȨการྺองโคลเบิร์กทฤษฎีพัฒȨการྺองโคลเบิร์ก
ทฤษฎีพัฒȨการྺองโคลเบิร์ก
Habsoh Noitabtim
จิตวิทยาพัոาการ
จิตวิทยาพัոาการจิตวิทยาพัոาการ
จิตวิทยาพัոาการ
Rukvicha Jitsumrawy
ทฤษฎีจิตสังคม อีริคสัน
ทฤษฎีจิตสังคม อีริคสันทฤษฎีจิตสังคม อีริคสัน
ทฤษฎีจิตสังคม อีริคสัน
6Phepho
Original erikson 2
Original erikson 2Original erikson 2
Original erikson 2
New Born
ทฤษฎีྺองอิริคสัน
ทฤษฎีྺองอิริคสันทฤษฎีྺองอิริคสัน
ทฤษฎีྺองอิริคสัน
hoossanee
ทฤษฎีพัոาการของฟรอยึϹ
ทฤษฎีพัոาการของฟรอยึϹทฤษฎีพัոาการของฟรอยึϹ
ทฤษฎีพัոาการของฟรอยึϹ
hoossanee
ทฤษฎีྺองอิริคสัน
ทฤษฎีྺองอิริคสันทฤษฎีྺองอิริคสัน
ทฤษฎีྺองอิริคสัน
7roommate
งาȨ่ง๶สริมทัȨสุขภาพและป้องกันโรคช่องปาก
งาȨ่ง๶สริมทัȨสุขภาพและป้องกันโรคช่องปากงาȨ่ง๶สริมทัȨสุขภาพและป้องกันโรคช่องปาก
งาȨ่ง๶สริมทัȨสุขภาพและป้องกันโรคช่องปาก
techno UCH

Similar to 02 พัոาการ (20)

More from rorsed (10)

ฟรอยึϹ
ฟรอยึϹฟรอยึϹ
ฟรอยึϹ
rorsed
ฟรอยึϹ
ฟรอยึϹฟรอยึϹ
ฟรอยึϹ
rorsed
เฟียเจท์ 1
เฟียเจท์ 1เฟียเจท์ 1
เฟียเจท์ 1
rorsed
ฟรอยึϹ
ฟรอยึϹฟรอยึϹ
ฟรอยึϹ
rorsed
ฟรอยึϹ
ฟรอยึϹฟรอยึϹ
ฟรอยึϹ
rorsed
ฟรอยึϹ
ฟรอยึϹฟรอยึϹ
ฟรอยึϹ
rorsed
ฟรอยึϹ
ฟรอยึϹฟรอยึϹ
ฟรอยึϹ
rorsed
ฟรอยึϹ
ฟรอยึϹฟรอยึϹ
ฟรอยึϹ
rorsed
ฟรอยึϹ
ฟรอยึϹฟรอยึϹ
ฟรอยึϹ
rorsed
Rorsed
RorsedRorsed
Rorsed
rorsed
ฟรอยึϹ
ฟรอยึϹฟรอยึϹ
ฟรอยึϹ
rorsed
ฟรอยึϹ
ฟรอยึϹฟรอยึϹ
ฟรอยึϹ
rorsed
เฟียเจท์ 1
เฟียเจท์ 1เฟียเจท์ 1
เฟียเจท์ 1
rorsed
ฟรอยึϹ
ฟรอยึϹฟรอยึϹ
ฟรอยึϹ
rorsed
ฟรอยึϹ
ฟรอยึϹฟรอยึϹ
ฟรอยึϹ
rorsed
ฟรอยึϹ
ฟรอยึϹฟรอยึϹ
ฟรอยึϹ
rorsed
ฟรอยึϹ
ฟรอยึϹฟรอยึϹ
ฟรอยึϹ
rorsed
ฟรอยึϹ
ฟรอยึϹฟรอยึϹ
ฟรอยึϹ
rorsed
ฟรอยึϹ
ฟรอยึϹฟรอยึϹ
ฟรอยึϹ
rorsed

02 พัոาการ

  • 2.  การเจริญเติบโต  พัոาการ  การเปลียนแปลงเนื่องมาจาก ่ พัոาการ  หลักพัոาการ  ทฤษฎีพฒนาการ ั
  • 3. การเจริญเติบโต การเปลี่ยนแปลงด้านขนาด ส่วนสูง นำำาหนัก และ สัดส่วนในร่างกายของ บุคคล ซึ่งเป็นการ เปลี่ยนแปลงในแง่ทเจริญี่ ขึำน ดีขึำนตามอายุที่เพิ่มขึำน
  • 4. พัոาการ (Development) การเปลี่ยนแปลงของบุคคล ในทุก ๆ ด้านตามระยะเวลา ที่เปลี่ยนไป การ เปลี่ยนแปลงนัำนเป็นผลมา จาก ระบบชีววิทยาในตัว การเรียนรู้จากสิ่งแวดล้อม
  • 5. พัոาการ 4 ด้าน 1. พัոาการทางกาย 2. พัոาการทางสติ ปัญญา 3. พัոาการทาง อารมณ์
  • 6. การเปลี่ยนแปลง๶Ȩ่องมา จากพัոาการ 1. การเปลี่ยนแปลงด้าน ขนาด 2. การเปลี่ยนแปลงด้าน สัดส่วน 3. การเปลียนแปลงทีเกิด ่ ่ ขึำนทำาให้ลกษณะเก่า ๆหาย ั
  • 7. หลักของพัոาการ 1. ตามแบบแผน 1.1 ทิศทางจากส่วนบนลงสู่ ส่วนล่าง เฉลย อัวนใดจะขยัรษะ อันดับ อวัยวะส่ นดับ 1 = ศี บได้ อันดับ1และอันดับสุดท้าย สุดท้าย = นิ้วเท้า 1.2 ทิศทางจากใกล้ตวไปสู่ ั เฉลย อันดับ 1 = ร่างกาย ไกลตัว อันดับสุดท้าย = นิ้วมือ
  • 8. หลักของพัոาการ (ต่อ) 2. ลักษณะรวม ๆ กว้าง เด็กเกิดใหม่จะเคลื่อนไหวทั้งตัว ก่อนทีจะเคลื่อนไหวได้เฉพาะ ่ แขน 3. เป็นลำาดับ เช่น เด็กจะเริ่มต้นพัոาการ จากหงาย ควำ่า คืบ คลาน นั่ง
  • 9. หลักของพัոาการ (ต่อ) 4. มีลกษณะแตกต่างกัน ั 5. มีอัตราการเจริญเฉพาะ ด้านเป็นส่วน ๆ ไป 6. มีความสัมพันธ์กันทุก ๆ ด้าน
  • 10. ทฤษฎีพัոาการ 1. ทฤษฎีพฒนาการของ ั ฟรอยึϹ 2. ทฤษฎีพฒนาการของ ั เพียเจท์ 3. ทฤษฎีพฒนาการของ ั อีริคสัน
  • 11. ทฤษฎีการพัոา ของฟรอยึϹ พัոาการความต้องการทาง เพศและบุคลิกภาพของบุคคล ต้องอาศัยการพัฒนาที่ตอเนื่อง ่ อย่างเป็นลำาดับขั้นจนกลายเป็น บุคลิกภาพที่ถาวรในที่สุด พัոาการแต่ละขั้นเป็นการ ตอบสนองความสุขความพึง
  • 12. ลำาดับขัำนพัոาการของซิ กมันด์ฟรอยึϹ 1. ขัำนพึงพอใจทางปาก (Oral Stage) 2. ขัำนพึงพอใจทางทวาร (Anal Stage) 3. ขัำนสนใจอวัยวะเพศของ ตน (Phallic)
  • 13. ตังแต่แรกเกิดถึงประมาณ ้ 1-2 ปี เด็กจะชอบ ดูด กัด อม เช่น ดูดนม กัดแทะของ เล่น ดูดนิ้ว เล่นนำ้าลาย และ ทำาเสียงต่าง ๆ ถ้าถูกขัดขวางจะเกิด Oral
  • 14. อยู่ในช่วงอายุ 2-3 ปี ระยะนี้ เด็กจะพึงพอใจกับการขับ ถ่าย การฝึกการขับถ่ายควร ทำาค่อยเป็นค่อยไปด้วย ความอ่อนโยนอย่าบังคับ ถ้า เกิดการติดตรึงจะทำาให้ เป็น พวกชอบสะสมของ หวงของ
  • 15. อยูระหว่าง 3-5 ปี เด็กจะมีความ ่ พึงพอใจกับการได้สมผัสอวัยวะ ั เพศของตนเองถ้าไม่ได้รับการ ตอบสนองจะเกิดความแปรปรวน ทางเพศขึ้นในวัยผู้ใหญ่ ชาย = ปมออดิปุส หญิง = ปมอิเล็กตรา
  • 16. อายุ 6 -12 ปี ระยะนี้จะเป็น ระยะพักเด็กจะเริ่มแสวงหา บทบาททีเหมาะสมให้กับ ่ ตนเอง ชอบเล่นในกลุม ่ เพศเดียวกัน เล่นกีฬา เล่น เกม และกิจกรรมต่าง ๆที่
  • 17. อายุตั้งแต่ 13 ปีขึ้นไป ถ้า เด็กผ่านขั้นอวัยวะเพศ ไปได้อย่างราบรื่น เด็กจะ แสดงบทบาทความเป็น ชายและหญิงตรงตาม เพศของตน
  • 18. ทฤษฎีการพัոา ของเพียเจท์ 1. ขั้นใช้อวัยวะสัมผัสและ กล้ามเนื้อ 2. ขั้นเริ่มคิดเริ่มเข้าใจ 3. ขั้นคิดออกเองโดยไม่ ต้องใช้เหตุผล 4. ขั้นใช้ความคิดเชิงรูป
  • 19. ตั้งแต่แรกเกิดถึง 2 ปี เป็นวัยที่เริ่ม เรียนรู้โดยใช้ประสาทสัมผัสและ การเคลื่อนไหวของร่างกายเพื่อ ตอบสนองสิ่งแวดล้อมเด็กที่ สามารถใช้ประสาทสัมผัสกับสิ่ง แวดล้อมได้มากเท่าใดก็จะช่วย พัฒนาเชาวน์ปัญญาของเด็กได้
  • 20. อายุตั้งแต่ 2-4 ขวบ เริ่มเรียน รู้การใช้ภาษาเรียกสิ่งของ เช่น ข้าว นม เป็นต้น
  • 21. อายุ 4 -7 ปี เชื่อตัวเองไม่ยอม เปลี่ยนความคิด หรือเชื่อใน เรื่องการทรงภาวะเดิมของ วัตถุ ก ข
  • 22. อายุ 7 – 11 ปี เป็นระยะทีเด็ก ่ สามารถคิดอย่างมีเหตุผลใน เรื่องที่เป็นรูปธรรม ถ้าให้วาด ภาพครอบครัวของฉัน เด็กใน วัยนีจะสามารถวางภาพได้ใกล้ ้ เคียงความเป็นจริง จัดหมวด หมู่ได้ เรียงลำาดับได้
  • 23. เด็กอายุระหว่าง 11 ถึง 15 ปี เด็กจะเริ่มคิดได้แบบผู้ใหญ่ สามารถเข้าใจสิ่งที่เป็น นามธรรมได้ คิดตั้ง สมมติฐานและสร้างทฤษฎี แบบนักวิทยาศาสตร์ได้ เป็น ตัวของตนเอง ต้องการความ
  • 24. ทฤษฎีการพัոาของอีริคสัน 1. ขันไว้ใจกับไม่ไว้ใจผูอื่น ้ ้ 2. ขันทีมีความอิสระกับความ ้ ่ สงสัย 3. ขั้นความคิดริเริ่มกับความ รู้สึกผิด 4. ขันขยันหมั่นเพียรกับความ ้ รู้สึกมีปมด้อย 5. ขันเข้าใจเอกลักษณ์ของ ้ ตนเองกับไม่เข้าใจตนเอง
  • 25. ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 1 ปี ถ้าเด็ก ได้รับความรัก ความอบอุ่น และ การดูแลจากคนใกล้ชิด เด็กโต ขึ้นก็จะเกิดความรู้สึกไว้วางใจ สังคม แต่ถ้าไม่ไเด็รับพ่อแม่ ก ้ ผู้ที่มีบทบาทกับ ด้ ก ความรัผู ความอบอุ่น เมื่อโตขึ้นก็จะหลีก ปกครอง หรือพี่เลี้ยง หนีสังคม
  • 26. อายุ 2-3 ปี เด็กจะเรียนรู้การ เดิน การพูด และทำาอะไรตาม อิสระ พ่อแม่ควรให้อิสระกับ เด็กในการทำากิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเองพยายามให้เด็ก ช่วยเหลือตนเองให้มากที่สุด ไม่ข่มขู่ลงโทษเมื่อเด็กทำาผิด ผู้มีบทบาท พ่อเด็กจะเกิ้เลี้ยงดู อย่างรุนแรง แม่และผูดความ
  • 27. อายุ 3 - 5 ปี เด็กจะใช้ของเล่น ทดแทนจินตนาการ โดยนำา ของเล่นรวมกันแล้วสร้างเป็น เรื่องราวขึ้นมา เด็กพอใจที่จะ เลียนแบบพฤติกรรมผู้ใหญ่ที่ ใกล้ชิด ดังนั้นหากพ่อแม่ ผู้ทมีบทบาทคือ้ยงดูยอมรับผลงาน ี่ และคนเลี บุคคลในครอบครัว
  • 28. อายุ 6-11 ปี เด็กในวัยนีไม่อยูนง ้ ่ ิ่ ชอบเขียน อ่าน ทำาในสิ่งทีตน ่ อยากทำาขยันในการทำางานต่าง ๆ และภาคภูมใจในผลงานทีได้รับ ิ ่ ความสำาเร็จเนืองจากความ ่ พยายามของตน ผูใหญ่ต้องไม่ ้ คาดหวัทบาท เด็กสูงเกินไป จน ผู้มีบ งในตัว พ่อแม่ ครู และ
  • 29. อายุ 12-18 ปี ช่วงนีถือเป็นช่วง ้ วิกฤตมากที่สุด เมือเด็กเกิด ่ ปัญหาใด ๆ ขึ้น เขาจะเกิด ความสับสนว่าควรจะเชื่อใครดี ระหว่างพ่อแม่ ตนเอง หรือ เพื่อน เด็กวัยนี้คือการแสวงหา ตนเองเพื่อให้รู้จักตนเองในแง่ มุมต่าง ๆ
  • 30. วัยผูใหญ่ตอนต้น เริ่มนัดหมาย ้ การแต่งงานและชีวิตครอบครัว ถ้าหากว่าแต่ละคนได้พัฒนา ความเข้าใจเอกลักษณ์ตนเองดี พอ แต่ถ้าบุคคลใดไม่สามารถ ผ่านขั้นนีไปได้ จะกลายเป็นคน ้ รักตนเองและไม่สามารถจะ แสดงความรักต่อผู้อื่นได้
  • 31. ระยะวัยกลางคนเป็นระยะที่ จะคอยให้ความช่วยเหลือคน รุ่นหลังสำาหรับผู้ที่ผ่านขั้น พัոาการต้น ๆ มาเป็นอย่าง ดี แต่ถ้าบุคคลใดไม่สามารถ แก้ปัญหาขัดแย้งในอดีตของ ตนได้จะกลายเป็นคนชอบ
  • 32. วัยชรา เขาจะมีความไว้วางใจ เพื่อนร่วมโลกและตัวเองถ้า เขามีความทรงจำาในด้านความ สุขความสบายใจ แต่ถ้าเขามี ความทรงจำาเกี่ยวกับความผิด หวังตลอดเวลาเขาก็ไม่มีความ สุขในชีวิต