ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
คัมภีร์ฉันทศาสตร์  ศศิศา
บทวิเคราะห์
 คุณค่าด้านเนื้อหา
   รปแบบ
     ู          คมภีรฉนทศาสตร์ เป็นชอตาราหน่ึงทรวบรวมความรูหลากหลายจากตาราเรอง
                 ั ์ั                   ื่ ํ           ี่         ้             ํ ่ื
     ื่
    อนๆ ในชุดแพทยศาสตรสงเคราะหเ์ อาไว ้ เน้ ือหาแบ่งเป็นตอนๆ ๑๙ ตอน ผูแต่งเลือกใช้คา
                    ์     ์                                             ้             ํ
                                                                          ่
    ประพันธ์ในการนําเสนอเนื้อหาได้เหมาะสม โดยเฉพาะในบทนํา หรือตอนเปิ ดเรือง ผูใ้ ช้แต่งคํา
                                    ่                                 ่
    ประพนธประเภทกาพยยานี ๑๑ เริมต้นด้วยบทไหว้ครู และต่อด้วยเนื้อหาทีสอนจรรยาแพทย์
            ั ์         ์
        ั ้       ัิํ ั           ่                ่ี ่ ้ ั
    กบขอควรปฏิบตสาหรบแพทย์ สวนเน้ ือบทตอนทวาดวยลกษณะทบ ๘ ประการ ผูแต่งใช้คา
                                                                ั           ้           ํ
    ประพันธ์ประเภทร่ายอธิบายให้ความรูเ้ กี่ยวกับโรคและการรักษาโรคของแพทย์แผนไทย
                  ่
 องค์ประกอบของเรือง
 สาระ สาระสําคัญหรือแก่นของเรืองคัมภีรฉนทศาสตร์ ส่วนทีคดเลือกมาให้เรียนเป็ นการ
                               ่       ์ั              ่ ั
    กล่าวถึงความสาคญของแพทยและคุณสมบตทแพทยพึ่งมี ซงจะชวยใหรกษาโรคไดผลมากกวา
                     ํ ั       ์    ั ิ ่ี ์      ่ึ ่ ้ ั         ้      ่
           ่
    รูเ้ รืองยาเพียงอย่างเดียว
่
 โครงเรือง การลาดบเน้ ือความเรมตนดวยบทไหวครู ซงเป็นการไหวพระรตนตรย ไหว ้
                ํ ั            ่ิ ้ ้     ้ ึ่            ้ ั     ั
  เทพเจาของพราหมณ์ ไหวหมอชวกโกมารภจ (แพทยหลวงของพระเจาพิมพสารแห่งแคว้น
       ้                      ้ ี             ั     ์        ้ ิ
                               ั่
  มคธ) และไหวครูแพทยโ์ ดยทวไป เน้ ือหาบทตอมากล่าวถึงความสาคญของแพทยและจรรยา
                  ้                             ่        ํ ั       ์
  แพทย์ ซงเป็นคุณสมบตทแพทยพ่ึงมี และตอนทายกล่าวถึง ทบ ๘ ประการ ได้แก่ อาการของ
         ่ึ            ั ิ ่ี       ์             ้   ั
  โรคชนิดหนึ่งซึงแทรกซ้อนโรคอืนทีเ่ ป็ นอยูก่อน
                ่                 ่        ่
 กลวิธีการแต่ง คมภีรฉนทศาสตรเ์ ป็นหนงสอทจดเป็นตารามีเน้ ือหาเฉพาะดาน การ
                 ั ์ั                ั ื ่ี ั   ํ                  ้
  นําเสนอใช้โวหารอธิบายเป็ นส่วนใหญ่ แต่เมื่อจะกล่าวถึงเรืองทีเ่ ป็ นนามธรรมผูเ้ ขียนเลือกใช้
                                                          ่
                       ี          ่ึ ่ ้ ้ ่ ้
  อุปมาโวหารหรอบทเปรยบเทียบ ซงชวยใหผูอานเขาใจความหมายไดง่ายและทาใหเ้ ห็นภาพจาก
                ื                                                      ้     ํ
  ประพันธ์ชดเจนมากขึ้น ตัวอย่างเช่น
           ั
                          อาไวจนแก่กลา
                           ํ ้       ้                         ์ ื่ ็ ั
                                                         แพทยอนมากขดขวาง
                      ต่อโรคเขาระวาง
                               ้                                   ้ ึ่
                                                         ตรีโทษแลวจงออกตว
                                                                        ั
  ถอดความไดว่า : ปิ ดบังไว้จนไข้หนักมาก แพทย์คนอืนจะมารักษาก็ไม่ให้รกษา
           ้                                     ่                  ั
  ต่อเมื่อโรคนันเข้าขันทีเ่ สมหะ เลือด ลม เป็ นพิษใกล้ตายจึงไม่รกษาคนไข้นน
               ้      ้                                         ั        ั้
คุณค่าึϸȨรรณศลป
                             ้      ิ ์
 การสรรคา ผูแต่งได้เลือกใช้คาทีสอความคิด ความเข้าใจ ดังนี้
           ํ ้              ํ ่ ื่
 การใช้ถอยคําที่เหมาะสมกับเนื้อเรืองและบุคคลในเรือง
         ้                         ่                ่
              ้ ํ ่ี
   กวเี ลือกใชคาทสามารถถ่ายทอดความรูใ้ หเ้ ขาใจไดอย่างตรงไปตรงมา ดงตวอยาง
                                            ้ ้                   ั ั ่
                  หนชาติแพทยเ์ หล่าน้ ี
                   ิ                                 เวรามีมิได้กลัว
              ทากรรมนาใส่ตว
                ํ        ํ ั                          จะตกไปในอบาย
   ถอดความไดว่า : แพทยเ์ ลวทรามพวกน้ ี ไม่กลวผลการทาชวทาใหตวเองไดรบผลการ
            ้                               ั      ํ ่ั ํ ้ ั       ้ั
           ่
   กระทําทีไม่ดี ตายไปก็จะตกนรก
 การใชสานวนไทย
       ้ํ                มีการใชสานวนไทยประกอบการอธิบาย ชวยใหเ้ ขาใจเน้ ือความได ้
                                ้ํ                       ่       ้
          ่
  ชัดเจนยิงขึ้น   ดังตัวอย่าง
              เรียนรคมภีรไสย
                      ู้ ั ์                สขุมไวอยาแพร่งพราย
                                             ุ ้ ่
                   ่ึ
          ควรกล่าวจงขยาย                          ื่ ้
                                            อย่ายนแกวแก่วานร
  จากตวอยาง กล่าวถึงสํานวนยืนแก้วให้วานร หมายถึง การให้ของมีคาแก่คนทีไ่ ม่รูคุณค่า
      ั ่                    ่                               ่              ้
  ของสงนน เปรยบเทยบกบการเรยนรูคมภีรไ์ สยทควรนาไปบอกตอเม่อเหมาะสมเทานน
        ิ่ ั้   ี ี ั       ี ้ั          ่ี ํ      ่ ื           ่ ั้
  ถอดความไดว่า : เรยนรูตาราเวทมนตรคาถา รอบคอบเก็บไวไ้ ม่ตองบอกใครเม่ือสมควร
                 ้   ี ้ํ            ์                    ้
                   ่ ่ ํ ่ิ ี ้ ั      ่ี ้ ่
  พูดจงบอกใหทราบ วาอยานาสงดๆใหกบคนทไม่รูคุณคา
      ึ       ้
 การใชโวหาร
       ้         มีการใชถอยคาในการเปรยบเทยบเพ่อใหผูอานเขาใจความหมายและเห็นภาพ
                        ้ ํ          ี ี ื ้้่ ้
            ่
  ได้ชดเจนยิงขึ้น ดังตัวอย่างเช่น
      ั
               ไม่รกจะทายบ
                   ั ํ ั                       พาตารบเท่ียวขจร
                                                      ํ ั
         เสยแรงเป็นครสอน
           ี           ู                       ทงบุญคุณก็เสอมสญ
                                                ั้             ื่ ู
  ถอดความไดว่า : ไม่รกจะทําให้เสียหาย ทําให้ความรูเ้ ผยแพร่ไปลงแรงสอนให้ก็ไม่
             ้       ั
                     ได้ผลตามต้องการ ทังบุญคุณก็ไม่มี
                                       ้
คุณค่าึϸȨงคม
                                 ้ ั
                      ่
 สะท้อนให้เห็นความเชือของสังคมไทย        ฉนทศาสตร์ น่าจะมีความหมายวาตารา
                                              ั                       ่ ํ
             ่ี ่
  (ศาสตร)์ ทแตงเป็นสูตร (ฉันท์) ตามอยางตาราการแพทยใ์ นคมภีรอาถรรพเวท และด้วยเหตุ
                                     ่ ํ                 ั ์
  ทวาคมภีรอาถรรพเวท มีเรืองราวเกี่ยวกับไสยศาสตรดวย จึงมักเรียกว่า “ คัมภีรไสย์ ”
    ี่ ่ ั ์               ่                         ์ ้                  ์
  ดังปรากฏข้อความในบทประพันธ์กล่าวถึงคัมภีรไ์ สยไ์ ว้วา่
               รแลวเท่ียวโจทยทาย
                ู้ ้           ์            แกลงภิปรายถามเค้ามูล
                                                ้
           ความรนนจะสญ
                   ู ้ ั้ ู                   เพราะสามหาวเป็นใจพาล
  ถอดความไดว่า : ไดรบความรูแลวตงคาถามทายตามสบาย ตงใจถามเพ่อทดสอบความรู ้
           ้           ้ั   ้ ้ ั้ ํ              ั้      ื
        ้ ี่ ้ ั
  ความรูทไดรบมาก็จะหมดไปเพราะเป็นคนพาลพูดไม่ดี
                        ่
 สะท้อนให้เห็นคุณค่าเรืองแพทย์แผนไทย                         ่ ่ี
                                                  ถาจะพินิจในสวนทพรรณนาถึงทบ ๘
                                                   ้                        ั
  ประการ เราจะปฏิเสธไม่ไดวาการแพทยแผนไทยเป็นการรกษาอกวธีหน่ึง เป็นแพทยทางเลือก
                            ้่         ์                 ั ี ิ                 ์
   ่ี ั ํ                      ่ี ่                             ่ื ้ ั
  ทยงจาเป็นสาหรบชาวชนบททหางไกลความเจรญเราจะคดวาเป็นเรองลาสมยไม่ไดซงปัจจบน
              ํ ั                             ิ        ิ ่                 ้ ่ึ ุ ั
  การคนควาวจยทางการแพทย์ ก็กลบมาใหความสาคญตอคุณสมบตของพืชสมุนไพรในแตละ
          ้ ้ ิั                    ั     ้      ํ ั ่          ัิ               ่
  ท้องถิ่น โดยถือเป็ นทางเลือกหนึ่งในการบําบัดรักษาโรคให้กบคนไข้
                                                            ั
่
 สะท้อนข้อคิดเพือนําไปใช้ในการดําเนินชีวิต         ่ึ
                                                   ซงสามารถนาไปปรบใชไ้ ดกบทุกวชาชีพ เพราะไมวา
                                                             ํ    ั      ้ั ิ                  ่่
  จะเป็ นบุคคลในอาชีพใด ถ้าไม่มีความประมาท ความอวดดี ความริษยา ความโลภ ความเห็นแก่ตว         ั
  ความหลงตนเอง และมีศีลธรรมประจําใจ ย่อมได้รบการยกย่องจากบุคคลต่างๆ โดยเฉพาะอาชีพแพทย์ซง
                                                ั                                                 ึ่
  เกี่ยวข้องกับความเป็ นความตายของชีวตคน ให้ปฏิบตดวยความรอบคอบไม่ประมาท โดยนําคําสอนใน
                                      ิ           ัิ ้
  พระพุทธศาสนามาเป็นแนวทางช้ ีนา  ํ
                ่
 ให้ความรูเ้ รืองศัพท์ทางการแพทย์แผนโบราณ เชน คาวา “ธาตพิการ” หมายถึง ธาตุทง ๔ ใน
                                                       ่ ํ ่        ุ                   ั้
  รางกายผนปกติไป ทาใหเ้ กิดโรคตางๆ ข้ ึนตามกองธาตุเหลานน คาวา “กําเดา” หมายถึง อาการไขอยาง
   ่        ั           ํ           ่                   ่ ั้ ํ ่                            ้ ่
  หนึ่งเกิดจากหวัด เรียกว่า “ไขกาเดา” อาการของโรคจะมีเลือดออกทางจมูก เรียกวา เลือดกาเดา คาวา
                               ้ํ                                          ่       ํ       ํ ่
  “ปวดมวน” หมายถึง อาการปวดปั่นป่ วนในท้อง
                                            คาศพท์ยาก
                                             ํ ั
    คมภีรฉนทศาสตร : ต้นฉบับในเนื้อเรื่อง เขียนเช่นนี้ยกเว้นที่สารบัญมี ‘ ท่ีตวอกษรสุดทาย
       ั ์ั                                                                   ั ั      ้
    คมภีรไ์ สย์
        ั          : คมภีรไ์ สยศาสตร์ หมายถึง คัมภีรอาถรรพเวทของพราหมณ์ ตนฉบบในเน้ ือเร่ือง
                        ั                               ์                           ้ ั
                      เขียน “ไสย์”
   เกียจ          : คดโกง กีดกัน
   อาตมา           : ตน
   พิการ           : ความผิดปกติ เสียไปจากสภาพเดิม
   จกขุ
     ั               : สายตา
   พิริย            : ความเพียร
 เขาระวาง : เข้าไปถึง
     ้
 ตรีโทษ      : อาการไข้หนักมาก อยูในระยะทีเ่ ลือดลม เสมหะบังเกิดเป็ นพิษขึ้นพร้อมกันในร่างกาย
                                        ่
 หินชาติ     : เลว ไม่มีจรรยาแพทย์ ในความว่า “หนชาตแพทยเ์ หล่าน้ ี เวรามีมิได้กลัว”
                                                      ิ ิ
 เวรา        : (เวร) คอ บาปื
 อย่ายืนแก้วให้วานร : สานวนไทยใชในความหมายวาไม่ควรมอบของมีคาใหแก่ผูทไม่รูคุณคาของนน
        ่                     ํ       ้            ่                 ่ ้ ้ ่ี ้ ่            ั้
 โจทย์       : พูดโอ้อวดในความว่า “รูแล้วเทียวโจทย์ทาย”
                                           ้   ่
 จําเนียร : ในทน้ ีหมายถึง เชยวชาญ
                     ี่         ี่
 ครุกรรม : บาปหนก        ั
 วาตา        : ลม
 กําเดา      : อาการไข้อย่างหนึ่งเกิดจากหวัดเรียกว่าไข้กาเดา อาการของโรคมีเลือดออกทางจมูก
                                                         ํ
                เรียกว่า เลือดกําเดา
 ภิยโย      : (ภิญโญ) หมายถึง มากยิง ยิงขึ้น
                                          ่ ่
 วารี       : นา ํ้
 ปลายมือ : ในทีสุด     ่
 ท่อน       : อาการตัวแข็งนอนนิ่งไม่เคลือนไหวเพราะเพ้อไข้
                                             ่
…จบแลวค่ะĦ
           ้
   คัมภีรฉนทศาสตร์ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์
         ์ ั
                จัดทําโดย
           นางสาว ศศิศา จันทร์มีศรี
       ชนมธยมศกษาปีท่ี 5/2 เลขที่ 22
        ั้ ั ึ
                   เสนอ
          อาจารย์ นตยา ทองดยง
                   ิ         ี ิ่
       โรงเรยนรษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์
            ี ั
สานกงานเขตพ้ นท่การศกษามธยมศกษา เขต 13
 ํ ั         ื ี ึ      ั ึ
Ad

Recommended

ความหมายของครู
ความหมายของครู
niralai
สุภีร์ ทุมทอง สติปัฏฐาน ๔ เสันทางตรงสู่พระนิพพาน
สุภีร์ ทุมทอง สติปัฏฐาน ๔ เสันทางตรงสู่พระนิพพาน
Tongsamut vorasan
บทวิจารณ์หȨงสือลักษณะแห่งพระพุทธศาสȨ
บทวิจารณ์หȨงสือลักษณะแห่งพระพุทธศาสȨ
solarcell2
พุทธวิธีในการสอน พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตฺโต)
พุทธวิธีในการสอน พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตฺโต)
niralai
๶หตุผลแห่งྺ้อ๶ท็จจริงตามหลักกาลามสูตร
๶หตุผลแห่งྺ้อ๶ท็จจริงตามหลักกาลามสูตร
solarcell2
ภาษาไทย
ภาษาไทย
Suphatsorn Pennuanoong
2 22++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๔
2 22++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๔
Tongsamut vorasan
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ྺองึϸว
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ྺองึϸว
dawnythipsuda
รามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทก พร้อมแบบฝึกหัด
รามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทก พร้อมแบบฝึกหัด
Methaporn Meeyai
บทȨัสการมาตาปิตุคุณและอาจริยคุณ
บทȨัสการมาตาปิตุคุณและอาจริยคุณ
bua2503
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Jariya Huangjing
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
Tongsamut vorasan
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
Tongsamut vorasan
ปราบมาร ภาค 1
ปราบมาร ภาค 1
Touch Thanaboramat
คำคมคารมธรรม
คำคมคารมธรรม
niralai
วราภรณ์
วราภรณ์
Mu Koy
โพธิยาลัย เดือน กุมภาพันธ์ 2555
โพธิยาลัย เดือน กุมภาพันธ์ 2555
Panda Jing
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ น้องฟลุ๊ค
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ น้องฟลุ๊ค
MooFlook Indy
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
jupjiptogether
วิ๶คราะห์คำประพันธ์
วิ๶คราะห์คำประพันธ์
kwanboonpaitoon
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ วิว
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ วิว
Sineenat Kaewlay

More Related Content

What's hot (18)

ภาษาไทย
ภาษาไทย
Suphatsorn Pennuanoong
2 22++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๔
2 22++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๔
Tongsamut vorasan
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ྺองึϸว
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ྺองึϸว
dawnythipsuda
รามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทก พร้อมแบบฝึกหัด
รามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทก พร้อมแบบฝึกหัด
Methaporn Meeyai
บทȨัสการมาตาปิตุคุณและอาจริยคุณ
บทȨัสการมาตาปิตุคุณและอาจริยคุณ
bua2503
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Jariya Huangjing
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
Tongsamut vorasan
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
Tongsamut vorasan
ปราบมาร ภาค 1
ปราบมาร ภาค 1
Touch Thanaboramat
คำคมคารมธรรม
คำคมคารมธรรม
niralai
วราภรณ์
วราภรณ์
Mu Koy
โพธิยาลัย เดือน กุมภาพันธ์ 2555
โพธิยาลัย เดือน กุมภาพันธ์ 2555
Panda Jing
2 22++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๔
2 22++พระธัมมปทัฏฐกถาแปล+ภาค+๔
Tongsamut vorasan
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ྺองึϸว
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ྺองึϸว
dawnythipsuda
รามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทก พร้อมแบบฝึกหัด
รามเกียรติ์ ตอนนารายณ์ปราบนนทก พร้อมแบบฝึกหัด
Methaporn Meeyai
บทȨัสการมาตาปิตุคุณและอาจริยคุณ
บทȨัสการมาตาปิตุคุณและอาจริยคุณ
bua2503
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Jariya Huangjing
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
Tongsamut vorasan
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ขันธะวิมุติสะมังคีธรรม
Tongsamut vorasan
คำคมคารมธรรม
คำคมคารมธรรม
niralai
วราภรณ์
วราภรณ์
Mu Koy
โพธิยาลัย เดือน กุมภาพันธ์ 2555
โพธิยาลัย เดือน กุมภาพันธ์ 2555
Panda Jing

Similar to คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ศศิศา (20)

คัมภีร์ฉันทศาสตร์ น้องฟลุ๊ค
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ น้องฟลุ๊ค
MooFlook Indy
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
jupjiptogether
วิ๶คราะห์คำประพันธ์
วิ๶คราะห์คำประพันธ์
kwanboonpaitoon
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ วิว
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ วิว
Sineenat Kaewlay
น.ส. จุฑารัตน์ มัธยม
น.ส. จุฑารัตน์ มัธยม
Jutarat Mattayom
งาȨำเสนอ1
งาȨำเสนอ1
saoBenz
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ฟาง
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ฟาง
Kat Suksrikong
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
Kat Suksrikong
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
Jirakit Meroso
กิ๊งภาษาไทย ครูนิต 2
กิ๊งภาษาไทย ครูนิต 2
Suphatsorn Pennuanoong
ตั้ม
ตั้ม
Tam Khachonsak Damko
งาน Tomtam
งาน Tomtam
tammatura
ฉันทศาสตร์ Pdf
ฉันทศาสตร์ Pdf
Artiya Chaisuk
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ྺองึϸว
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ྺองึϸว
dawnythipsuda
ภาษาไทย จ้า11
ภาษาไทย จ้า11
Suphatsorn Pennuanoong
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ น้องฟลุ๊ค
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ น้องฟลุ๊ค
MooFlook Indy
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
jupjiptogether
วิ๶คราะห์คำประพันธ์
วิ๶คราะห์คำประพันธ์
kwanboonpaitoon
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ วิว
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ วิว
Sineenat Kaewlay
น.ส. จุฑารัตน์ มัธยม
น.ส. จุฑารัตน์ มัธยม
Jutarat Mattayom
งาȨำเสนอ1
งาȨำเสนอ1
saoBenz
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ฟาง
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ฟาง
Kat Suksrikong
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
Kat Suksrikong
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
คัมภีร์ฉันทศาสตร์
Jirakit Meroso
กิ๊งภาษาไทย ครูนิต 2
กิ๊งภาษาไทย ครูนิต 2
Suphatsorn Pennuanoong
ฉันทศาสตร์ Pdf
ฉันทศาสตร์ Pdf
Artiya Chaisuk
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ྺองึϸว
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ྺองึϸว
dawnythipsuda
Ad

คัมภีร์ฉันทศาสตร์ ศศิศา

  • 2. บทวิเคราะห์  คุณค่าด้านเนื้อหา  รปแบบ ู คมภีรฉนทศาสตร์ เป็นชอตาราหน่ึงทรวบรวมความรูหลากหลายจากตาราเรอง ั ์ั ื่ ํ ี่ ้ ํ ่ื ื่ อนๆ ในชุดแพทยศาสตรสงเคราะหเ์ อาไว ้ เน้ ือหาแบ่งเป็นตอนๆ ๑๙ ตอน ผูแต่งเลือกใช้คา ์ ์ ้ ํ ่ ประพันธ์ในการนําเสนอเนื้อหาได้เหมาะสม โดยเฉพาะในบทนํา หรือตอนเปิ ดเรือง ผูใ้ ช้แต่งคํา ่ ่ ประพนธประเภทกาพยยานี ๑๑ เริมต้นด้วยบทไหว้ครู และต่อด้วยเนื้อหาทีสอนจรรยาแพทย์ ั ์ ์ ั ้ ัิํ ั ่ ่ี ่ ้ ั กบขอควรปฏิบตสาหรบแพทย์ สวนเน้ ือบทตอนทวาดวยลกษณะทบ ๘ ประการ ผูแต่งใช้คา ั ้ ํ ประพันธ์ประเภทร่ายอธิบายให้ความรูเ้ กี่ยวกับโรคและการรักษาโรคของแพทย์แผนไทย ่  องค์ประกอบของเรือง  สาระ สาระสําคัญหรือแก่นของเรืองคัมภีรฉนทศาสตร์ ส่วนทีคดเลือกมาให้เรียนเป็ นการ ่ ์ั ่ ั กล่าวถึงความสาคญของแพทยและคุณสมบตทแพทยพึ่งมี ซงจะชวยใหรกษาโรคไดผลมากกวา ํ ั ์ ั ิ ่ี ์ ่ึ ่ ้ ั ้ ่ ่ รูเ้ รืองยาเพียงอย่างเดียว
  • 3. ่  โครงเรือง การลาดบเน้ ือความเรมตนดวยบทไหวครู ซงเป็นการไหวพระรตนตรย ไหว ้ ํ ั ่ิ ้ ้ ้ ึ่ ้ ั ั เทพเจาของพราหมณ์ ไหวหมอชวกโกมารภจ (แพทยหลวงของพระเจาพิมพสารแห่งแคว้น ้ ้ ี ั ์ ้ ิ ั่ มคธ) และไหวครูแพทยโ์ ดยทวไป เน้ ือหาบทตอมากล่าวถึงความสาคญของแพทยและจรรยา ้ ่ ํ ั ์ แพทย์ ซงเป็นคุณสมบตทแพทยพ่ึงมี และตอนทายกล่าวถึง ทบ ๘ ประการ ได้แก่ อาการของ ่ึ ั ิ ่ี ์ ้ ั โรคชนิดหนึ่งซึงแทรกซ้อนโรคอืนทีเ่ ป็ นอยูก่อน ่ ่ ่  กลวิธีการแต่ง คมภีรฉนทศาสตรเ์ ป็นหนงสอทจดเป็นตารามีเน้ ือหาเฉพาะดาน การ ั ์ั ั ื ่ี ั ํ ้ นําเสนอใช้โวหารอธิบายเป็ นส่วนใหญ่ แต่เมื่อจะกล่าวถึงเรืองทีเ่ ป็ นนามธรรมผูเ้ ขียนเลือกใช้ ่ ี ่ึ ่ ้ ้ ่ ้ อุปมาโวหารหรอบทเปรยบเทียบ ซงชวยใหผูอานเขาใจความหมายไดง่ายและทาใหเ้ ห็นภาพจาก ื ้ ํ ประพันธ์ชดเจนมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ั อาไวจนแก่กลา ํ ้ ้ ์ ื่ ็ ั แพทยอนมากขดขวาง ต่อโรคเขาระวาง ้ ้ ึ่ ตรีโทษแลวจงออกตว ั ถอดความไดว่า : ปิ ดบังไว้จนไข้หนักมาก แพทย์คนอืนจะมารักษาก็ไม่ให้รกษา ้ ่ ั ต่อเมื่อโรคนันเข้าขันทีเ่ สมหะ เลือด ลม เป็ นพิษใกล้ตายจึงไม่รกษาคนไข้นน ้ ้ ั ั้
  • 4. คุณค่าึϸȨรรณศลป ้ ิ ์ การสรรคา ผูแต่งได้เลือกใช้คาทีสอความคิด ความเข้าใจ ดังนี้ ํ ้ ํ ่ ื่  การใช้ถอยคําที่เหมาะสมกับเนื้อเรืองและบุคคลในเรือง ้ ่ ่ ้ ํ ่ี กวเี ลือกใชคาทสามารถถ่ายทอดความรูใ้ หเ้ ขาใจไดอย่างตรงไปตรงมา ดงตวอยาง ้ ้ ั ั ่ หนชาติแพทยเ์ หล่าน้ ี ิ เวรามีมิได้กลัว ทากรรมนาใส่ตว ํ ํ ั จะตกไปในอบาย ถอดความไดว่า : แพทยเ์ ลวทรามพวกน้ ี ไม่กลวผลการทาชวทาใหตวเองไดรบผลการ ้ ั ํ ่ั ํ ้ ั ้ั ่ กระทําทีไม่ดี ตายไปก็จะตกนรก
  • 5.  การใชสานวนไทย ้ํ มีการใชสานวนไทยประกอบการอธิบาย ชวยใหเ้ ขาใจเน้ ือความได ้ ้ํ ่ ้ ่ ชัดเจนยิงขึ้น ดังตัวอย่าง เรียนรคมภีรไสย ู้ ั ์ สขุมไวอยาแพร่งพราย ุ ้ ่ ่ึ ควรกล่าวจงขยาย ื่ ้ อย่ายนแกวแก่วานร จากตวอยาง กล่าวถึงสํานวนยืนแก้วให้วานร หมายถึง การให้ของมีคาแก่คนทีไ่ ม่รูคุณค่า ั ่ ่ ่ ้ ของสงนน เปรยบเทยบกบการเรยนรูคมภีรไ์ สยทควรนาไปบอกตอเม่อเหมาะสมเทานน ิ่ ั้ ี ี ั ี ้ั ่ี ํ ่ ื ่ ั้ ถอดความไดว่า : เรยนรูตาราเวทมนตรคาถา รอบคอบเก็บไวไ้ ม่ตองบอกใครเม่ือสมควร ้ ี ้ํ ์ ้ ่ ่ ํ ่ิ ี ้ ั ่ี ้ ่ พูดจงบอกใหทราบ วาอยานาสงดๆใหกบคนทไม่รูคุณคา ึ ้  การใชโวหาร ้ มีการใชถอยคาในการเปรยบเทยบเพ่อใหผูอานเขาใจความหมายและเห็นภาพ ้ ํ ี ี ื ้้่ ้ ่ ได้ชดเจนยิงขึ้น ดังตัวอย่างเช่น ั ไม่รกจะทายบ ั ํ ั พาตารบเท่ียวขจร ํ ั เสยแรงเป็นครสอน ี ู ทงบุญคุณก็เสอมสญ ั้ ื่ ู ถอดความไดว่า : ไม่รกจะทําให้เสียหาย ทําให้ความรูเ้ ผยแพร่ไปลงแรงสอนให้ก็ไม่ ้ ั ได้ผลตามต้องการ ทังบุญคุณก็ไม่มี ้
  • 6. คุณค่าึϸȨงคม ้ ั ่  สะท้อนให้เห็นความเชือของสังคมไทย ฉนทศาสตร์ น่าจะมีความหมายวาตารา ั ่ ํ ่ี ่ (ศาสตร)์ ทแตงเป็นสูตร (ฉันท์) ตามอยางตาราการแพทยใ์ นคมภีรอาถรรพเวท และด้วยเหตุ ่ ํ ั ์ ทวาคมภีรอาถรรพเวท มีเรืองราวเกี่ยวกับไสยศาสตรดวย จึงมักเรียกว่า “ คัมภีรไสย์ ” ี่ ่ ั ์ ่ ์ ้ ์ ดังปรากฏข้อความในบทประพันธ์กล่าวถึงคัมภีรไ์ สยไ์ ว้วา่ รแลวเท่ียวโจทยทาย ู้ ้ ์ แกลงภิปรายถามเค้ามูล ้ ความรนนจะสญ ู ้ ั้ ู เพราะสามหาวเป็นใจพาล ถอดความไดว่า : ไดรบความรูแลวตงคาถามทายตามสบาย ตงใจถามเพ่อทดสอบความรู ้ ้ ้ั ้ ้ ั้ ํ ั้ ื ้ ี่ ้ ั ความรูทไดรบมาก็จะหมดไปเพราะเป็นคนพาลพูดไม่ดี ่  สะท้อนให้เห็นคุณค่าเรืองแพทย์แผนไทย ่ ่ี ถาจะพินิจในสวนทพรรณนาถึงทบ ๘ ้ ั ประการ เราจะปฏิเสธไม่ไดวาการแพทยแผนไทยเป็นการรกษาอกวธีหน่ึง เป็นแพทยทางเลือก ้่ ์ ั ี ิ ์ ่ี ั ํ ่ี ่ ่ื ้ ั ทยงจาเป็นสาหรบชาวชนบททหางไกลความเจรญเราจะคดวาเป็นเรองลาสมยไม่ไดซงปัจจบน ํ ั ิ ิ ่ ้ ่ึ ุ ั การคนควาวจยทางการแพทย์ ก็กลบมาใหความสาคญตอคุณสมบตของพืชสมุนไพรในแตละ ้ ้ ิั ั ้ ํ ั ่ ัิ ่ ท้องถิ่น โดยถือเป็ นทางเลือกหนึ่งในการบําบัดรักษาโรคให้กบคนไข้ ั
  • 7. ่  สะท้อนข้อคิดเพือนําไปใช้ในการดําเนินชีวิต ่ึ ซงสามารถนาไปปรบใชไ้ ดกบทุกวชาชีพ เพราะไมวา ํ ั ้ั ิ ่่ จะเป็ นบุคคลในอาชีพใด ถ้าไม่มีความประมาท ความอวดดี ความริษยา ความโลภ ความเห็นแก่ตว ั ความหลงตนเอง และมีศีลธรรมประจําใจ ย่อมได้รบการยกย่องจากบุคคลต่างๆ โดยเฉพาะอาชีพแพทย์ซง ั ึ่ เกี่ยวข้องกับความเป็ นความตายของชีวตคน ให้ปฏิบตดวยความรอบคอบไม่ประมาท โดยนําคําสอนใน ิ ัิ ้ พระพุทธศาสนามาเป็นแนวทางช้ ีนา ํ ่  ให้ความรูเ้ รืองศัพท์ทางการแพทย์แผนโบราณ เชน คาวา “ธาตพิการ” หมายถึง ธาตุทง ๔ ใน ่ ํ ่ ุ ั้ รางกายผนปกติไป ทาใหเ้ กิดโรคตางๆ ข้ ึนตามกองธาตุเหลานน คาวา “กําเดา” หมายถึง อาการไขอยาง ่ ั ํ ่ ่ ั้ ํ ่ ้ ่ หนึ่งเกิดจากหวัด เรียกว่า “ไขกาเดา” อาการของโรคจะมีเลือดออกทางจมูก เรียกวา เลือดกาเดา คาวา ้ํ ่ ํ ํ ่ “ปวดมวน” หมายถึง อาการปวดปั่นป่ วนในท้อง คาศพท์ยาก ํ ั  คมภีรฉนทศาสตร : ต้นฉบับในเนื้อเรื่อง เขียนเช่นนี้ยกเว้นที่สารบัญมี ‘ ท่ีตวอกษรสุดทาย ั ์ั ั ั ้  คมภีรไ์ สย์ ั : คมภีรไ์ สยศาสตร์ หมายถึง คัมภีรอาถรรพเวทของพราหมณ์ ตนฉบบในเน้ ือเร่ือง ั ์ ้ ั เขียน “ไสย์”  เกียจ : คดโกง กีดกัน  อาตมา : ตน  พิการ : ความผิดปกติ เสียไปจากสภาพเดิม  จกขุ ั : สายตา  พิริย : ความเพียร
  • 8.  เขาระวาง : เข้าไปถึง ้  ตรีโทษ : อาการไข้หนักมาก อยูในระยะทีเ่ ลือดลม เสมหะบังเกิดเป็ นพิษขึ้นพร้อมกันในร่างกาย ่  หินชาติ : เลว ไม่มีจรรยาแพทย์ ในความว่า “หนชาตแพทยเ์ หล่าน้ ี เวรามีมิได้กลัว” ิ ิ  เวรา : (เวร) คอ บาปื  อย่ายืนแก้วให้วานร : สานวนไทยใชในความหมายวาไม่ควรมอบของมีคาใหแก่ผูทไม่รูคุณคาของนน ่ ํ ้ ่ ่ ้ ้ ่ี ้ ่ ั้  โจทย์ : พูดโอ้อวดในความว่า “รูแล้วเทียวโจทย์ทาย” ้ ่  จําเนียร : ในทน้ ีหมายถึง เชยวชาญ ี่ ี่  ครุกรรม : บาปหนก ั  วาตา : ลม  กําเดา : อาการไข้อย่างหนึ่งเกิดจากหวัดเรียกว่าไข้กาเดา อาการของโรคมีเลือดออกทางจมูก ํ เรียกว่า เลือดกําเดา  ภิยโย : (ภิญโญ) หมายถึง มากยิง ยิงขึ้น ่ ่  วารี : นา ํ้  ปลายมือ : ในทีสุด ่  ท่อน : อาการตัวแข็งนอนนิ่งไม่เคลือนไหวเพราะเพ้อไข้ ่
  • 9. …จบแลวค่ะĦ ้ คัมภีรฉนทศาสตร์ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ์ ั จัดทําโดย นางสาว ศศิศา จันทร์มีศรี ชนมธยมศกษาปีท่ี 5/2 เลขที่ 22 ั้ ั ึ เสนอ อาจารย์ นตยา ทองดยง ิ ี ิ่ โรงเรยนรษฎานุประดิษฐ์อนุสรณ์ ี ั สานกงานเขตพ้ นท่การศกษามธยมศกษา เขต 13 ํ ั ื ี ึ ั ึ