ݺߣ
Submit Search
ึϸน
May 23, 2013
17 likes
47,616 views
W
website22556
1 of 53
Download now
Downloaded 933 times
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
Most read
20
Most read
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
Most read
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
Ad
Recommended
PDF
ใบงานวิทยาศาสตร์ ป.5 ครบ
ssuserf8d051
PDF
งานและพลังงาน (work and_energy)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
PDF
สารละลาย (Solution)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
PDF
แรง (Force)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
PPTX
บทที่ 1 โครงสร้างของโลก
Ta Lattapol
PDF
แรงดึงึϸึϸะหว่างมวล2560
krulef1805
PDF
แบบทดสอบ บทที่ 1 ปฏิสัมพันธ์ในระบบสุริยะ
Jariya Jaiyot
PDF
แบบทดสอบตามตัวชี้วัด ม.1.doc.pdf
ssuser2feafc1
PPTX
โลกและการเปลี่ยนแปลง
smEduݺߣ
PDF
Ȩำ
website22556
PPTX
หินและแร่ ประถม
Ta Lattapol
PPTX
บรรยากาศ
Supaluk Juntap
PPTX
บทที่ 8 เทคโนโลยีอวกาศ
Ta Lattapol
PDF
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
krupornpana55
PDF
บทที่ 8 เทคโนโลยีอวกาศ
Pinutchaya Nakchumroon
PDF
หู
Wan Ngamwongwan
PDF
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
พัน พัน
PDF
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
Wuttipong Tubkrathok
PPTX
โรคทางพันธุกรรม ม.3
Wuttipong Tubkrathok
PDF
บทที่4โลกของเราม 2
Wichai Likitponrak
PDF
Slแบบฝึกหัดทบทวน เรื่อง อัตราเร็ว ความเร็ว ระยะทาง และการกระจัด
krupornpana55
PPT
ระบบȨวศ
Supaluk Juntap
PDF
บทที่ 1 การจำแนกสาร
Pinutchaya Nakchumroon
PPTX
ความร้อนกับการปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสสาร
dalarat
PPTX
ลมฟ้าอากาศ บรรยากาศ
Supaluk Juntap
PDF
ธาตุและสารประกอบ
website22556
PPTX
วิทยาศาสตร์ ม.3 วัฏจักรสาร
Wuttipong Tubkrathok
PDF
เรื่อง เมฆ
พัน พัน
PDF
หินอัคนี หินแปร หินตะกอน
website22556
PDF
ใบงานที่ 3 ผลของปฏิกิริยาเคมีต่อสิ่งมีชิวิตและสิ่งแวดล้อม
website22556
More Related Content
What's hot
(20)
PPTX
โลกและการเปลี่ยนแปลง
smEduݺߣ
PDF
Ȩำ
website22556
PPTX
หินและแร่ ประถม
Ta Lattapol
PPTX
บรรยากาศ
Supaluk Juntap
PPTX
บทที่ 8 เทคโนโลยีอวกาศ
Ta Lattapol
PDF
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
krupornpana55
PDF
บทที่ 8 เทคโนโลยีอวกาศ
Pinutchaya Nakchumroon
PDF
หู
Wan Ngamwongwan
PDF
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
พัน พัน
PDF
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
Wuttipong Tubkrathok
PPTX
โรคทางพันธุกรรม ม.3
Wuttipong Tubkrathok
PDF
บทที่4โลกของเราม 2
Wichai Likitponrak
PDF
Slแบบฝึกหัดทบทวน เรื่อง อัตราเร็ว ความเร็ว ระยะทาง และการกระจัด
krupornpana55
PPT
ระบบȨวศ
Supaluk Juntap
PDF
บทที่ 1 การจำแนกสาร
Pinutchaya Nakchumroon
PPTX
ความร้อนกับการปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสสาร
dalarat
PPTX
ลมฟ้าอากาศ บรรยากาศ
Supaluk Juntap
PDF
ธาตุและสารประกอบ
website22556
PPTX
วิทยาศาสตร์ ม.3 วัฏจักรสาร
Wuttipong Tubkrathok
PDF
เรื่อง เมฆ
พัน พัน
โลกและการเปลี่ยนแปลง
smEduݺߣ
Ȩำ
website22556
หินและแร่ ประถม
Ta Lattapol
บรรยากาศ
Supaluk Juntap
บทที่ 8 เทคโนโลยีอวกาศ
Ta Lattapol
Aแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การถ่ายโอนพลังงานความร้อน
krupornpana55
บทที่ 8 เทคโนโลยีอวกาศ
Pinutchaya Nakchumroon
หู
Wan Ngamwongwan
ใบความรู้ เรื่อง พลังงานความร้อน วิทยาศาสตร์ 2 ว 21102
พัน พัน
การถ่ายโอนความร้อน ม.1
Wuttipong Tubkrathok
โรคทางพันธุกรรม ม.3
Wuttipong Tubkrathok
บทที่4โลกของเราม 2
Wichai Likitponrak
Slแบบฝึกหัดทบทวน เรื่อง อัตราเร็ว ความเร็ว ระยะทาง และการกระจัด
krupornpana55
ระบบȨวศ
Supaluk Juntap
บทที่ 1 การจำแนกสาร
Pinutchaya Nakchumroon
ความร้อนกับการปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของสสาร
dalarat
ลมฟ้าอากาศ บรรยากาศ
Supaluk Juntap
ธาตุและสารประกอบ
website22556
วิทยาศาสตร์ ม.3 วัฏจักรสาร
Wuttipong Tubkrathok
เรื่อง เมฆ
พัน พัน
Viewers also liked
(11)
PDF
หินอัคนี หินแปร หินตะกอน
website22556
PDF
ใบงานที่ 3 ผลของปฏิกิริยาเคมีต่อสิ่งมีชิวิตและสิ่งแวดล้อม
website22556
PDF
ใบงานที่ 1 ธาตุและสารประกอบ
website22556
PDF
การจำแȨสารเȨ้อผสม
website22556
PDF
ใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
website22556
PDF
ใบงานที่ 6 ส่วนประกอบของโลก
website22556
PDF
แรงใȨีวิตประจำวัน
website22556
PDF
ใบงานที่ 4 ึϸน หิน แร่
website22556
PPT
การเกิดึϸน
sao0231
PDF
กำหดการจัดประสบการณ์อนุบาล1
krutitirut
PDF
ธาตุและสารประกอบ (elements and compound)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
หินอัคนี หินแปร หินตะกอน
website22556
ใบงานที่ 3 ผลของปฏิกิริยาเคมีต่อสิ่งมีชิวิตและสิ่งแวดล้อม
website22556
ใบงานที่ 1 ธาตุและสารประกอบ
website22556
การจำแȨสารเȨ้อผสม
website22556
ใบงานที่ 2 ปฏิกิริยาเคมี
website22556
ใบงานที่ 6 ส่วนประกอบของโลก
website22556
แรงใȨีวิตประจำวัน
website22556
ใบงานที่ 4 ึϸน หิน แร่
website22556
การเกิดึϸน
sao0231
กำหดการจัดประสบการณ์อนุบาล1
krutitirut
ธาตุและสารประกอบ (elements and compound)
ครูเสกสรรค์ สุวรรณสุข
Ad
ึϸน
1.
LOGO โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ กาญจนบุรี กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชา วิทยาศาสตร์
3 ( ว 22101) เรื)อง ึϸน 1 รายวิชา วิทยาศาสตร์ 3 ( ว 22101) เรื)อง ึϸน โดยครูสุกัญญา นาคอ้น
2.
เมื)อเรียนจบนักเรียนต้องสามารถ..... 1. อธิบายลักษณะของหน้าตัดของึϸน สมบัติของึϸน และกระบวนการสมบัติของึϸน
และกระบวนการ เกิดึϸน 2. สํารวจ วิเคราะห์และอธิบายการใช้ ประโยชน์และการปรับปรุง คุณภาพของึϸน 2
3.
ึϸน (Soil)ึϸน (Soil) ึϸน
(Soil) คือ วัตถุ ธรรมชาติที)ปกคลุมผิวโลกอยู่ บางๆ เกิดขึ8นจากผลของการ 3 ธรรมชาติที)ปกคลุมผิวโลกอยู่ บางๆ เกิดขึ8นจากผลของการ แปรสภาพหรือผุพังของหิน และแร่ และอินทรียวัตถุผสม คลุกเคล้ากัน
4.
การเกิดึϸนการเกิดึϸน ึϸนเกิดขึ*นตามธรรมชาติจากการ สลายตัวของหินและแร่ และการสลายตัว ของสารอินทรีย์ โดยหินและแร่สลายตัว สร้างึϸนมี ของสารอินทรีย์
โดยหินและแร่สลายตัว เป็นชิ*นเล็กชิ*นน้อยได้วัตถุต้นกําเนิดึϸน ส่วนสารอินทรีย์สลายตัวได้ฮิวมัส จากนั*นวัตถุ ต้นกําเนิดึϸนผสมกับฮิวมัส โดยมีพืชและสัตว์ ช่วยให้กลายเป็นึϸน ขั*นตอนของกระบวนการ สร้างึϸนมี 2 ขั*นตอน คือ 4
5.
การสลายตัว กระบวนการที4สลายตัว กระบวนการสร้างึϸน การสร้างึϸน กระบวนการผสมคลุกเคล้า การสลายตัว กระบวนการที4สลายตัว ผุพังของหิน แร่ ซากพืช ซากสัตว์ได้วัตถุต้น กําเนิดึϸน
และฮิวมัส ตามลําดับ กระบวนการผสมคลุกเคล้า ระหว่างวัตถุต้นกําเนิดึϸน กับฮิวมัสโดยมีพืช และสัตว์ ต่างๆ ช่วยและบางครั*ง เหตุการณ์ทางธรรมชาติ เช่น ลม ฝน ก็ช่วยทําให้เกิด ึϸนได้ 5
6.
6
7.
ฮิวมัส คือ ซากพืชซากสัตว์ ฮิวมัส
คือ อะไร? ฮิวมัส คือ ซากพืชซากสัตว์ ที)เน่าเปื)อยอยู่ในึϸน มีสีนํ8าตาลดํา มีสารอาหารที)พืชต้องการ 7
8.
ปัจจัยที)มีอิทธิพลต่อึϸนปัจจัยที)มีอิทธิพลต่อึϸน ึϸนมีการเปลี)ยนแปลงอยู่ ตลอดเวลา คุณสมบัติบาง ประการเปลี)ยนแปลงอย่าง รวดเร็ว คุณสมบัติบางประการ ประการเปลี)ยนแปลงอย่าง รวดเร็ว
คุณสมบัติบางประการ เปลี)ยนแปลงช้ามาก คุณสมบัติ ของึϸนจะเป็นอย่างไรนั8น ขึ8นอยู่กับปัจจัยหลักสําคัญ 5 ประการ ดังนี8 8
9.
ปัจจัยที)มีอิทธิพลต่อึϸน 1. วัตถุต้นกําเนิดึϸน 2. สภาพภูมิอากาศ2.
สภาพภูมิอากาศ 3. สิ)งมีชีวิตในึϸน 4. ภูมิประเทศ 5. ระยะเวลา 9
10.
ส่วนประกอบของึϸนส่วนประกอบของึϸน รวมกันเป็นแผ่นึϸนที)ยิ)งใหญ่รวมกันเป็นแผ่นึϸนที)ยิ)งใหญ่ มารวมสามัคคีกันมารวมสามัคคีกัน อินทรียวัตถุอินทรียวัตถุ อนิอนินทนทรียรียวัตถุวัตถุ นํ8านํ8า
อากาศอากาศ 10
11.
ส่วนประกอบของึϸน อนินทรียวัตถุ (Mineral matter) ได้แก่ส่วนของแร่ต่างๆ
ภายในได้แก่ส่วนของแร่ต่างๆ ภายใน หินซึ)งผุพังสึกกร่อนเป็นชิ8นเล็กชิ8น น้อย โดยทางเคมี ฟิสิกส์ และชีวเคมี 11
12.
ส่วนประกอบของึϸน อินทรียวัตถุ (Organic matter) ได้แก่ส่วนที)เกิดจากการเน่าได้แก่ส่วนที)เกิดจากการเน่า เปื)อยผุพังหรือสลายตัวของซากพืช ซากสัตว์ที)ทับถมกัน 12
13.
ส่วนประกอบของึϸน นํ!า (water) เป็นสารละลายซึ)งพบอยู่ในเป็นสารละลายซึ)งพบอยู่ใน ช่องระหว่างเม็ดึϸน (Aggregate) หรืออนุภาคึϸน
(Particle) 13
14.
ส่วนประกอบของึϸน อากาศ (Air) แทรกซึมอยู่ตามช่องว่างระหว่างเม็ด ึϸนในส่วนที4ไม่มีนํ*า ซึ4งเรียกว่า
“ ความพรุน”ึϸนในส่วนที4ไม่มีนํ*า ซึ4งเรียกว่า “ ความพรุน” อากาศที4อยู่ในึϸนมีประโยชน์ ออกซิเจนใน ึϸนจะมีความสําคัญต่อการเจริญเติบโตของ พืช ให้ึϸนมีความร่วนซุยและความอ่อนนุ่ม ละเอียดกว่าึϸนชั*นบน 14
15.
ภาพแสดงส่วนประกอบของึϸน 15
16.
สมบัติทั)วไปของึϸน 16
17.
ประเภทของึϸน (ตามความลึก)ประเภทของึϸน (ตามความลึก) ึϸนชั8นบน
ึϸนชั8นล่าง 1. ึϸนนับจากผิวึϸนจนถึงึϸนที)ลึก ประมาณ 20 เซนติเมตร 1. ึϸนที)อยู่ลึกกว่า 20 เซนติเมตร ขึ8นไปประมาณ 20 เซนติเมตร ขึ8นไป 2. ึϸนที)มีสารอินทรีย์สะสมมากทําให้ ึϸนมีสีคลํ8า 2. ึϸนที)มีสารอินทรีย์สะสมน้อยทํา ให้ึϸนมีสีจาง 3. เม็ดึϸนมีขนาดโต ทําให้ช่องว่าง ระหว่างเม็ดึϸนมีขนาดใหญ่นํ8า และอากาศผ่านสะดวก 3. เม็ดึϸนมีขนาดเล็ก ทําให้ช่องว่าง ระหว่างเม็ดึϸนมีขนาดเล็กนํ8า และอากาศผ่านยาก 17
18.
ประเภทของึϸน (ตามความลึก)ประเภทของึϸน (ตามความลึก) 1.
ึϸนชั!นบน มีสารอินทรีย์มาก จึงทําให้ สีเข้ม เนื*อ ึϸนหยาบ เม็ดึϸนมีขนาดใหญ่ เมื4อนําไป ละลายนํ*า เกิดตะกอนเป็นเศษกิ4งไม้ใบไม้ซากแมลงอยู่ข้างบน เนื*อึϸนตกตะกอนอยู่ข้างล่างและตกตะกอนช้า อาจ มีเศษกิ4งไม้ใบไม้และซากสัตว์บ้างเล็กน้อยมีเศษกิ4งไม้ใบไม้และซากสัตว์บ้างเล็กน้อย 2. ึϸนชั!นล่าง มีสารอินทรีย์น้อยกว่าึϸนชั*นบน จึง ทําให้มีสีอ่อน เนื*อึϸนละเอียด เม็ดึϸนมีขนาดเล็ก เมื4อนําไปละลายนํ*า เนื*อึϸนตกตะกอนอยู่ข้างล่าง และตกตะกอนช้า อาจมีเศษกิ4งไม้ใบไม้และ ซาก สัตว์ล้างเล็กน้อย 18
19.
เนื8อึϸน (Soil Texture)เนื8อึϸน
(Soil Texture) เนื8อึϸน หมายถึง องค์ประกอบเชิงกายภาพของึϸน เราจะสังเกตได้ว่า ึϸนในแต่ละสถานที)มีลักษณะแตกต่างกัน เนื)องจากึϸนประกอบขึ8นจากของ อนุภาคตะกอนหลาย ๆ ขนาด อนุภาคที)ใหญ่ที)สุดคืออนุภาคทราย (Sand) อนุภาคขนาดรองลงมาคือ อนุภาคทรายแป้ ง (Silt) และอนุภาคที)มีขนาดเล็กที)สุด คือ อนุภาคึϸนเหนียว (Clay) อนุภาคขนาดรองลงมาคือ อนุภาคทรายแป้ ง (Silt) และอนุภาคที)มีขนาดเล็กที)สุด คือ อนุภาคึϸนเหนียว (Clay) 19
20.
ประเภทของึϸน (ตามลักษณะเนื8อึϸน)ประเภทของึϸน (ตามลักษณะเนื8อึϸน) ึϸนทราย
- เป็นึϸนที)มีทรายประกอบอยู่ 70% ขึ8นไป - นํ8าซึมผ่านง่าย ึϸนเหนียว ึϸนร่วน - เป็นึϸนที)มีึϸนเหนียวอยู่ 40% ขึ8นไป - อุ้มนํ8าได้ดี - เป็นึϸนที)ประกอบด้วยทราย โคลนตม และ ึϸนเหนียว โดยมีทรายและึϸนเหนียวไม่มาก - นํ8าและอากาศผ่านได้ดีกว่าึϸนเหนียว 20
21.
1. ึϸนทราย เป็นึϸนที4มีการระบาย นํ*าและอากาศดีมาก
มีความสามารถ ในการอุ้มนํ*าตํ4า มีความอุดมสมบูรณ์ ตํ4า เพราะความสามารถในการจับยึด ชนิดของึϸนชนิดของึϸน ในการอุ้มนํ*าตํ4า มีความอุดมสมบูรณ์ ตํ4า เพราะความสามารถในการจับยึด ธาตุอาหารพืชมีน้อย พืชที4ชั*นบนึϸน ทรายจึงมักขาดทั*งอาหารและนํ*าเป็น ึϸนที4มีเนื*อึϸนทรายเพราะมีปริมาณ อนุภาคทรายมาก 21
22.
2. ึϸนเหนียว เป็นึϸนที4เมื4อเปียก แล้วมีความยืดหยุ่น
อาจปั*นเป็นก้อนหรือ คลึงเป็นเส้นยาวได้เหนียวเหนอะหนะ ติดมือ เป็นึϸนที4มีการระบายนํ*าและ อากาศไม่ดี มีความสามารถในการอุ้มนํ*า ชนิดของึϸนชนิดของึϸน อากาศไม่ดี มีความสามารถในการอุ้มนํ*า ได้ดี มีความสามารถในการจับยึดและ แลกเปลี4ยนธาตุอาหารพืชได้สูง หรือ ค่อนข้างสูง เป็นึϸนที4มีก้อนเนื*อละเอียด เพราะมีปริมาณอนุภาคึϸนเหนียวอยู่มาก เหมาะทีจะใช้ทํานาปลูกข้าวเพราะเก็บ นํ*าได้นาน 22
23.
3. ึϸนร่วน ได้แก่
ึϸนที4มี ส่วนประกอบึϸนทราย โคลนตม และึϸนเหนียวโดยปริมาณึϸน เหนียวและึϸนทรายไม่มากนัก ชนิดของึϸนชนิดของึϸน เหนียวและึϸนทรายไม่มากนัก เม็ดึϸนขนาดพอเหมาะ ฉะนั*น นํ*าและอากาศจึงไหลผ่านึϸน ร่วนได้ดีกว่าึϸนเหนียว 23
24.
สีของึϸน คือ สีที)เกิดจาก สารประกอบในึϸนทําให้ึϸนมี สีต่างกัน
เช่น ึϸนที)มีฮิวมัสปน สีของึϸน สีต่างกัน เช่น ึϸนที)มีฮิวมัสปน อยู่มากจะมี สีคลํ8า ึϸนที)มีเหล็ก ปนอยู่มากจะมีสีนํ8าตาลแดง 24
25.
สีของึϸนเกิดจากกระบวนการเกิดึϸน และวัตถุต้นกําเนิดที4 เป็นองค์ประกอบ สารประกอบที4ให้สีแก่ึϸน สารประกอบในึϸน
สีของึϸน เหล็ก เขียว เขียวปนนํ*าเงิน สีของึϸน เหล็ก เขียว เขียวปนนํ*าเงิน แมงกานีส ดํา สารอินทรีย์ ดํา สีคลํ*า สารประกอบเปอร์ออกไซด์ เหลืองปนนํ*าตาล หรือเทา 25
26.
ความพรุน (Porosity) คือ ช่องว่างระหว่างเม็ดึϸน เป็นที)สําหรับให้นํ8าและ ความพรุน
(Porosity) เป็นที)สําหรับให้นํ8าและ อากาศผ่านเข้าไปในเนื8อ ึϸน ึϸนชั8นบนมีความ พรุนมากกว่าึϸนชั8นล่าง 26
27.
ึϸนที4เม็ดึϸนขนาดใหญ่ จะมี ช่องว่างหรือรูพรุนมากกว่าเม็ด ึϸนขนาดเล็ก ความพรุน (Porosity) ึϸนขนาดเล็ก ึϸนที4มีความพรุนหรือช่องว่าง ระหว่างเม็ดึϸนขนาดใหญ่
นํ*า และอากาศผ่านได้ดี จะมีผลต่อ การเพาะปลูก 27
28.
ความเป็นกรดเป็นเบสของึϸน pH = ค่าตัวเลขที)แสดงความเป็นกรด-เบส มี
อยู่ 14 ค่า (1-14) ถ้า pH < 7 แสดงว่าึϸนเป็นกรด ยิ4งมีค่าน้อยความเป็นกรดยิ4งสูง ถ้า pH > 7 แสดงว่าึϸนเป็นเบส ยิ4งมีค่ามากความเป็นเบสยิ4งสูง ถ้า pH = 7 แสดงว่าึϸนเป็นกลาง 28
29.
การทดสอบความเป็นกรด-เบสของึϸน 1. ใช้กระดาษลิตมัส 2. ใช้ยูนิเวอร์แซลอินดิเคเตอร์ บอกได้ละเอียดกว่ากระดาษลิตมัสบอกได้ละเอียดกว่ากระดาษลิตมัส 3.
ใช้เครื4องวัด pH Meter ละเอียดที4สุด จะบอกค่าเป็นตัวเลขที4 หน้าปัดของเครื4อง 29
30.
ความเป็นกรดเป็นเบสของึϸนความเป็นกรดเป็นเบสของึϸน ึϸนเป็นกรด ; pH
< 7 - เกิดจากใส่ปุ๋ ยเคมีมากเกินไป เกิด- เกิดจากใส่ปุ๋ ยเคมีมากเกินไป เกิด จากการย่อยสลายสารอินทรีย์ในึϸน -แก้ไข เติมปูนขาว , Ca(OH)2 หรือึϸนมาร์ล - ึϸนมาร์ล คือ ึϸนที4มี CaCO3 ใช้ ทําธูป ทําปูนซีเมนต์ ทําแป้งกระแจาะ 30
31.
ความเป็นกรดเป็นเบสของึϸนความเป็นกรดเป็นเบสของึϸน ึϸนเป็นเบส ; pH
> 7 - เกิดจากึϸนมีเกลือ Na2CO3 หรือ NaCl- เกิดจากึϸนมีเกลือ Na2CO3 หรือ NaCl - การแก้สภาพึϸนเป็นเบส คือ เติมฮิวมัส หรือ ผงกํามะถัน 31
32.
หน้าตัดึϸนหน้าตัดึϸน หน้าตัดึϸนประกอบด้วย ึϸนที4ทับถมกันเป็นชั*นๆ เรียกว่า “ชั*นึϸน” (Soil
horizon) ชั*นึϸนบาง ชั*นอาจจะบางเพียง 2-3 มิลลิเมตร “ชั*นึϸน” (Soil horizon) ชั*นึϸนบาง ชั*นอาจจะบางเพียง 2-3 มิลลิเมตร หรือหนากว่า 1 เมตร ก็ได้เรา สามารถจําแนกชั*นึϸนแต่ละชั*นจาก สีและโครงสร้างของอนุภาคึϸนที4 แตกต่างกัน 32
33.
หน้าตัดึϸนหน้าตัดึϸน 1. ชั!นโอ (O
Horizon) เป็น ึϸนชั8นบนสุดมักมีสีคลํ8าเนื)องจาก ประกอบด้วยอินทรียวัตถุ (Organic)ประกอบด้วยอินทรียวัตถุ (Organic) หรือ ฮิวมัส ซึ)งเป็นซากพืชซากสัตว์ ซึ)งทําให้เกิดความเป็นกรด ึϸนชั8นโอ ส่วนใหญ่จะพบในพื8นที)ป่ า ส่วนใน พื8นที)การเกษตรจะไม่มีชั8นโอในหน้า ตัดึϸน เนื)องจากถูกไถพรวนไปหมด 33
34.
หน้าตัดึϸนหน้าตัดึϸน 2. ชั!นเอ (A
Horizon) เป็นึϸนชั8นบน (Top soil) เป็นส่วนที)มีนํ8าซึมผ่าน ึϸนชั8นเอ ส่วนใหญ่ประกอบด้วยหินแร่และ อินทรียวัตถุที)ย่อยสลายสมบูรณ์แล้วอยู่ด้วยอินทรียวัตถุที)ย่อยสลายสมบูรณ์แล้วอยู่ด้วย ทําให้ึϸนมีสีเข้ม ในพื8นที)เกษตรกรรมึϸนชั8น เอจะถูกไถพรวน เมื)อมีการย่อยสลายของ รากพืชและมีการสะสมอินทรียวัตถุ โดย ปกติโครงสร้างของึϸนจะเป็นแบบก้อนกลม แต่ถ้าึϸนมีการอัดตัวกันแน่น โครงสร้างของ ึϸนในชั8นเอจะเป็นแบบแผ่น 34
35.
หน้าตัดึϸนหน้าตัดึϸน 3. ชั!นบี (B
Horizon) เป็นชั8น ึϸนล่าง (subsoil) เนื8อึϸนและ โครงสร้างเป็นแบบก้อนเหลี)ยม หรือ แท่งผลึก เกิดจากการชะล้างแร่ธาตุแท่งผลึก เกิดจากการชะล้างแร่ธาตุ ต่างๆ ของสารละลายต่างๆ เคลื)อนตัว ผ่านชั8นเอ ลงมามาสะสมในชั8นบี ใน เขตภูมิอากาศชื8น ึϸนในชั8นบีส่วน ใหญ่จะมีสีนํ8าตาลปนแดง เนื)องจาก การสะสมตัวของเหล็กออกไซด์ 35
36.
หน้าตัดึϸนหน้าตัดึϸน 4. ชั!นซี (C
Horizon) เกิดจาก4. ชั!นซี (C Horizon) เกิดจาก การผุพังของหินกําเนิดึϸน (Parent rock) ไม่มีการตกตะกอนของวัสดุ ึϸนจากการชะล้าง และไม่มีการ สะสมของอินทรียวัตถุ 36
37.
หน้าตัดึϸนหน้าตัดึϸน ชั8นอาร์ (R Horizon) เป็นชั8นของวัตถุต้นกําเนิดึϸน หรือ
หินพื8น (Bedrock) 37
38.
การชะล้างพังทลายของึϸน 1. เกิดจากการกระทําของมนุษย์ เช่น -
การตัดไม้ทําลายป่ า การทําไร่ เลื)อนลอย - การขุดหน้าึϸน การขุดแร่ 2. เกิดจากธรรมชาติ เช่น - กระแสนํ8า - กระแสลม - แผ่นึϸนไหว- การขุดหน้าึϸน การขุดแร่ - การระเบิดภูเขา - การดูดทรายในแม่นํ8า - การสร้างถนน - แผ่นึϸนไหว -ภูเขาไฟระเบิด 38
39.
การชะล้างพังทลายของึϸนการชะล้างพังทลายของึϸน 1. ทําให้ึϸนเสื4อมคุณภาพเพราะึϸนชั*น บน ซึ4งมีแร่ธาตุถูกทําลายบน
ซึ4งมีแร่ธาตุถูกทําลาย 2. ทําให้แหล่งนํ*าตื*นเขิน 3. ทําให้เกิดอุทกภัย 39
40.
การอนุรักษ์และพัฒนาึϸนการอนุรักษ์และพัฒนาึϸน 1.การปลูกพืชคลุมึϸน การปลูกพืชคลุมึϸนจะช่วย ลดการชะล้างพังทลายหน้าึϸนลดการชะล้างพังทลายหน้าึϸน พืชที4นํามาปลูก ใบหนา รากแน่น ทนแล้ง 40
41.
การอนุรักษ์และพัฒนาึϸนการอนุรักษ์และพัฒนาึϸน 2. การปลูกพืชหมุนเวียน เป็นการปลูกพืชต่างชนิดกันใน พื*นที4เดียวกัน หมุนเวียนกันไป
เช่นพื*นที4เดียวกัน หมุนเวียนกันไป เช่น การปลูกถั4วสลับกับพืชที4เราต้องการ ผลผลิต ลดการระบาดของโรคพืช 41
42.
การอนุรักษ์และพัฒนาึϸนการอนุรักษ์และพัฒนาึϸน 3. การปลูกพืชตามแนวระดับ เป็นการปลูกพืชขนานไปตาม แนวเดียวกัน ขวางความลาดเอียงแนวเดียวกัน
ขวางความลาดเอียง ของพื*นที4 ช่วยลดการไหล่บ่าของนํ*า ลดการพังทลายของหน้าึϸน 42
43.
การอนุรักษ์และพัฒนาึϸนการอนุรักษ์และพัฒนาึϸน 4. การปลูกพืชแบบขั8นบันได เป็นวิธีการอนุรักษ์ึϸนที4มี ลักษณะเป็นเนินหรือไหล่เขา ทําลักษณะเป็นเนินหรือไหล่เขา
ทํา โดยการสร้างคันึϸนหรือแนวหิน ขวางความลาดเอียงของพื*นที4แล้ว ปลูกบนขั*นบันได เก็บความชื*นได้ดี 43
44.
การอนุรักษ์และพัฒนาึϸนการอนุรักษ์และพัฒนาึϸน 5. การปลูกพืชแซม เป็นการปลูกพืชที4ให้ผลผลิต ในพื*นที4ช่องว่างระหว่างแถวของในพื*นที4ช่องว่างระหว่างแถวของ พืชหลัก ป้องกันไม้ให้พื*นที4ว่างนั*น พังทลายและป้องกันวัชพืช 44
45.
การอนุรักษ์และพัฒนาึϸนการอนุรักษ์และพัฒนาึϸน 6. การใช้วัสดุธรรมชาติคลุมึϸน เช่น หญ้าหรือฟาง
ช่วยป้ องกัน การชะล้างพังทลายและช่วยรักษาการชะล้างพังทลายและช่วยรักษา ความชื*นของึϸน 45
46.
การอนุรักษ์และพัฒนาึϸนการอนุรักษ์และพัฒนาึϸน 7. การเติมปุ๋ ย ช่วยทําให้ึϸนอุดมสมบูรณ์เสมอ 46
47.
การอนุรักษ์และพัฒนาึϸนการอนุรักษ์และพัฒนาึϸน 8. การปลูกป่ า ช่วยป้องกันการชะล้าง พังทลายของหน้าึϸน
ป่าไม้พังทลายของหน้าึϸน ป่าไม้ จะช่วยชะลอการไหลของนํ*า ทําให้ซึมเข้าสู่ึϸนได้มากขึ*น หน้าึϸนไม่พังทลาย 47
48.
พระมหากษัตริย์นักพัฒนา 48
49.
“ฉันจะปลูกป่ าบนดอยตุง แต่คงจะต้องใช้ระยะ เวลานานมาก
อาจจะ 10 ปี ซึ)งฉันคงไม่ได้เห็น” พระราชปรารภของสมเด็จย่าที)ทรงต้องการ ทอดพระเนตรเห็นความเขียวชอุ่มและความสมบูรณ์ ของสภาพป่ าบนดอยตุง ซึ)งในขณะนั8นชาวเขา สมเด็จย่า 49 ทอดพระเนตรเห็นความเขียวชอุ่มและความสมบูรณ์ ของสภาพป่ าบนดอยตุง ซึ)งในขณะนั8นชาวเขา พื8นเมืองล้วนดํารงชีพด้วยการถางป่ าทําไร่เลื)อนลอย ปลูกฝิ)น และกัญชา ไม่เหลือแม้สภาพป่ า ดังนั8นภายใต้ รัฐบาลของ ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีฯในสมัยนั8นจึงได้ก่อตั8งโครงการพัฒนา ดอยตุงขึ8นในปี พ.ศ.2531
50.
50
51.
51
52.
52
53.
53
Download