ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
สภาวะสมึϸลเคมี


                จัดทำำโดย
       นำงสำวพักตร์นภำ       รุ่งโรจน์




                  เสนอ
          คุณครูวีรพงษ์ บรรจง




รำยงำนนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชำเคมี(ว٤٠٢٢٢)
              ภำคเรียนที่١
  สำำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำมุกดำหำร
           กระทรวงศึกษำธิกำร
คำำนำำ
ในปัจจุบันนี้กำรเรียนรู้เรื่องเคมีมีควำมสำำคัญมำก
ในชีวิตประจำำวัน มีเนื้อหำสำระสำำคัญ เช่นกำรผัน
กลับได้ ภำวะสมึϸล เป็นต้น




พักตร์นภา   รุงโรจน์
              ่
สำรบัญ
เรื่อง                                    หน้ำ
การเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได้
    1
ภาวะสมึϸล                                       2
ความสำาพันธ์ระหว่างความเข้มข้นของสารต่างๆ ณ ภาวะสมึϸล
          3
การเปลี่ยนแปลงภาวะสมึϸล
    4
หลักของเลอชาเตอลิเอ                                 ٥
เรื่อง สมึϸลเคมี (Equilibrium)
เนื้อหำ(Content)
การเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได้
ภาวะสมึϸล
ความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มข้นของสารต่างๆ ณ ภาวะสมึϸล
การเปลี่ยนภาวะสมึϸล
หลักของเลอชาเตอลิเอ
จุดประสงค์กำรเรียนรู้(Objective)
1.เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับปฏิกิริยาที่ผันกลับได้ ภาวะสมึϸล
และสมบัติของระบบ ณภาวะสมึϸล
2.เพื่อให้นักเรียนมีทักษะสามารถเขียนแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มข้น
ของ สารตั้งต้นกับสารผลิตภัณฑ์ ณ ภาวะสมึϸล ตลอดจนคำานวณค่าคงที่สมึϸล
และความเข้มข้นของสารต่างๆ ณ ภาวะสมึϸล
3.เพื่อให้นักเรียนสามารถทราบถึงปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมึϸลและมีความเข้าใจ
ในการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเมื่อภาวะสมึϸลของระบบถูกรบกวน
4.เพื่อให้นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับหลักของเลอชาเตอลิเอและมีความเข้าใจใน
การปรับตัวของระบบเมื่อมีการรบกวนสมึϸลของระบบ
สมึϸลเคมี (Eguilibrium)

นักเคมีมักพบปัญหาจากปฏิกิริยาเคมีใดๆว่า ผลิตภัณฑ์ที่ได้มักได้ไม่ถึง 100%
โดยอาจมีสาเหตุมาจากเทคนิคของการทดลอง หรือปฏิกิริยาเกิดไม่สมบูรณ์
จากหลักปริมาณสารสัมพัȨ์จะพิจารณาว่า ในการเกิดปฏิกิริยาใดๆ ปฏิกิริยาต้อง
ดำาเนินไปจนสมบูรณ์กล่าวคือ เมื่อสารทำาปฏิกิริยากัน ปฏิกิริยาจะเกิดขึ้นจนกว่า
สารตั้งต้นสารใดสารหนึ่งหมดไป ปฏิกิริยาจึงจะหยุด
Ex 1.CaCO3(s)— CaO(s) + CO2(g)………………..(1)
CaO(s) + CO2(g)— CaCO3(s)…………………(2)
เมื่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาไปข้างหน้า(Rate of forward Reaction) ปฏิกิริยา (1)เท่ากับ
อัตราการเกิดปฏิกิริยาย้อนกลับ(Rate of backward Reaction)ปฏิกิริยา(2) แล้วในขณะ
นั้นระบบมีสมบัติคงที่ เรียกว่า เกิดภาวะสมึϸล(Equilibrium State)
กำรเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได้
1. การเปลี่ยนแปลงที่เข้าสู่ภาวะสมึϸล โดยระบบมิได้หยุดนิ่ง แต่จะมีการ
เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เรียกว่าสมึϸลไดนามิก(Dynamic Equilibrium) ซึ่งเป็น
สมึϸลที่โมเลกุลของสารในระบบยังคงมีการเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได้และเกิด
ขึ้นอยู่ตลอดเวลาในระบบปิด(Closed system)
2. ระบบจะดำาเนินเข้าสู้ภาวะสมึϸลได้เอง โดยอัตราการเกิดปฏิกิริยาไปข้างหน้า
เท่ากับอัตราการเกิดปฏิกิริยาย้อนกลับ
3. การดำาเนินเข้าสู่ภาวะสมึϸลของระบบอาจเริ่มจากทางซ้ายหรือทางขวาก็ได้
Ex 2.PCl5(g) =PCl3(g) + Cl2(g)
ค่ำคงที่สมึϸล
ในปฏิกิริยาเคมีใดๆ จะมีค่าคงที่ค่าหนึ่งซึ่งบอกให้ทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่าง
ความเข้มข้น
ของสารต่างๆที่ภาวะสมึϸล เรียกว่า ค่าคงที่สมึϸล(Equilibrium Constant)
Ex 3.H2(g) + I2(g) =2HI(g) ที่ 4250C

  การทดลองที่         [N2]        [I2]    [HI]        K = [HI]2 / [H2][I2]
        1            4.565       0.738   13.54              54.79
        2            3.560       1.250   15.59              54.67
        3            2.253       2.336   16.85              54.14
        4            1.831       3.130   17.67              54.79
        5            0.479       0.479   3.531              54.35
        6            1.141       1.141   8.410              54.35


หมายเหตุ lab 1-4 ได้จากการรวมตัวชอง H2 และ I2
lab 5-6 ได้จากการสลายตัวของ HI

จากตารางสรุปได้ว่าไม่ว่าจะเริ่มต้นด้วยปริมาณสารเท่าใดก็ตาม อัตราส่วน
ระหว่างผลคูณของความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดยกกำาลังด้วย
สัมประสิทธิ์บอกจำานวนโมลของผลิตภัณฑ์นั้นๆกับผลคูณของความเข้มข้นของ
สารตั้งต้นที่เหลือแต่ละชนิดยกกำาลังด้วยสัมประสิทธิ์บอกจำานวนโมลของสารที่
เหลือที่สภาวะสมึϸลจะมีค่าคงที่เสมอเมื่ออุณหภูมิคงที่ เรียกว่า ค่ำคงที่สมึϸล(k
)




K = [HI]2 / [H2][I2]

จลนศำสตร์เคมีและค่ำคงที่สมึϸล
ค.ศ. 1866 C.M. Guldberg นักคณิตศาสตร์ประยุกต์ และ P .Waage นักเคมีได้เสนอ
“Law of mass action” กล่าวคือ “ อัตรำกำรเกิดปฏิกิริยำจะต้องเป็นปฏิภำค
กับควำมเข้มข้นของสำรตั้งต้นยกกำำลังด้วยสัมประสิทธิ์บอกจำำนวนโมล
ของสำรนั้นๆ”
Ex aA + bB —cC + dD
อัตราการเกิดปฏิกิริยาไปข้างหน้า
Ratef = kf[A]a[B]b………………..(1)
อัตราการเกิดปฏิกิริยาย้อนกลับ
Rater = kr [C]c[D]d………………..(2)
เมื่อระบบเข้าสู่สภาวะสมึϸลจะได้
(1)=(2) kf[A]a[B]b = kr [C]c[D]d
เมื่อ kf/ kr = K
จะได้ K = [C]c[D]d/[A]a[B]b
หลักกำรใช้ค่ำคงที่สมึϸล
1.เมื่ออุณหภูมิคงที่ ค่าคงที่สมึϸล k จะมีค่าคงที่ และจะต้องอ้างถึงสมการหนึ่ง
สมการใดด้วยเสมอ เพราะถ้าเขียนสมการโดยใช้สัมประสิทธิ์ต่างกันไป ค่า k จะ
แตกต่างกันด้วย
Ex4. H2(g) + I2(g) =2HI(g)…………………………..(1)
K1 = [HI]2/[H2][I2]
2 x(1) 2H2(g) + 2 I2(g)= 4HI(g)
K2 = [HI]4/[H2]2[I2]2
K2 = K12
ดังนั้น ถ้าคูณสมการเดิมด้วย n ค่า K ใหม่เท่ากับ Kn เดิม
2.ถ้าเขียนสมการกลับกัน ค่า k ก็จะกลับกันด้วย
Ex 5. 2NO(g) + O2(g) =2NO2(g)……………………(2)
K1 =[NO2]2/[NO]2[O2]
ถ้าเขียนสมการกลับกัน
2NO2(g) =2NO(g) + O2(g)
K2 = [NO]2[O2] /[NO2]2
K2 = 1/K1
ดังนั้นถ้าเขียนสมการกลับกัน K ใหม่ = 1/K เดิม
2.ในกรณีที่ปฏิกิริยาเกิดขึ้นหลายๆขั้นตอน ค่า K ของปฏิกิริยารวม จะเท่ากับผล
คูณของค่า K ของปฏิกิริยาย่อยๆนั้น
Ex 6. 2NO(g) + O2(g) =2NO2(g)………………..(1)
2NO2(g) N2O4(g)…………………(2)
(1)+(2) ได้ 2NO(g) + O2(g) =N2O4(g)
K3 =K1.K2=[N2O4]/[NO2]2[O2]
การใช้ค่า K ในสมึϸลเอกพันธ์ ซึ่งสารตั้งต้นและสารผลิตภัณฑ์อยู่ในวัฏภาค
เดียวกัน เช่น
Ex 7. จากปฏิกิริยา aA + bB= cC +dD
Kc = [C]c [D]d /[A] a[B] b

                                                                              4
Kp = PCc PDd / PAa PBb ; P = n/v RT

จาก Kp = Kc(RT) n ; n = (c+d)-(a+b)
ถ้า n = 0 จะได้ Kp = Kc(RT)0 ; Kp = Kc
Ex 8. N2(g) + 3H2(g) =2NH3(g)
Kc = [ NH3]2 /[ N2][ H2 ]3
หรือ Kp = ( P NH3)2/ (PN2)(PH2)3
การใช้ค่า K ในสมึϸลวิวิธภัณฑ์ สารที่เป็นของแข็งกำาหนดให้มีค่าคงที่เท่ากับ 1
Ex 9. CaCO3(s) =CaO(s) + CO2(g)
Kc = [CO2] ; Kp = PCO2
กำรคำำนวณเกี่ยวกับค่ำคงที่สมึϸล
Ex 10. จากปฏิกิริยา 2SO2(g) + O2(g)= 2SO3(g) ที่ 250 c
จงคำานวณหา Kc ที่สภาวะสมึϸล (กำาหนด Kp = 2.5 x 1024 atm-1)
วิธีทำา จาก Kp = Kc(RT) n
Kc = Kp(RT)- n
Kc = (2.5 x 1024)(0.0821)(298)-(1)
= 6.2 x 1025 dm3 mol-1
Ex 11. เมื่อเติม ก๊าซ H2 และ I2 อย่างละ 0.5 mol ลงในภาชนะขนาด 2 dm3 ที่
อุณหภูมิ 520Oc เมื่อระบบเข้าสุ่ภาวะสมึϸลจากการวิเคราะห์พบว่าภายในภาชนะ
ประกอบด้วยก๊าซ HI 0.06 mol จงคำานวณหาค่าคงที่สมึϸล
วิธีทำา H2 (g) + I2(g) =2HI (g)
เริ่มต้น 0.25 0.25 -
เปลี่ยนแปลง 0.015 0.015 0.03
ที่สมึϸล 0.235 0.235 0.03
K = [HI]2/[H2][I2]
= (0.03)2/(0.235)2
= 2 x 10-2
Ex 12. ที่อุณหภูมิหนึ่งก๊าซ HX 1.0 mol/dm3 สลายตัวได้ 20 % ดังสมการ
2HX =H2 + X2 จงคำานวณหาค่าคงที่สมึϸล
วิธีทำา HX 1.0 mol/dm3 สลายตัวได้ 20 %
ดังนั้น HX สลายตัว= 20/100 X 1= 0.2 mol/dm3
2HX= H2 + X2
เริ่มต้น 1 - -
เปลี่ยนแปลง 0.2 0.1 0.1
ที่สมึϸล 0.8 0.1 0.1
K =[H2][X2]/[HX]2
=(0.1)2/(0.8)2
=1.56 X 10-2
Ex 13. ก๊าซ N2 ทำาปฏิกิริยากับก๊าซ H2 ดังสมการ
3H2(g) + N2(g)= 2NH3(g) ที่อุณหภูมิ 400oC
ที่ภาวะสมึϸลพบว่ามี N2 0.6mol/dm3 , H2 0.4 mol/dm3
และ NH3 0.14mol/dm3 จงคำานวณหาค่าคงที่สมึϸล
K = [NH3]2/[H2]3[N2]
= (0.14)2/(0.6)(0.4)3
= 0.51

กำรเปลี่ยนภำวะสมึϸล
ที่ภาวะสมึϸลของปฏิกิริยาใดๆสมบัติต่างๆเช่น ความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์ที่เกิด
ขึ้นและความเข้มข้นของสารตั้งต้นที่เหลือจะมีค่าคงที่ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง
ปัจจัยบางอย่างขึ้น เช่น การเปลี่ยนความเข้มข้น อุณหภูมิ หรือความดัน อัตรา
การเกิดปฏิกิริยาจะเปลี่ยนแปลงไป โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลต่อ
ภาวะสมึϸล
ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมึϸลได้แก่
1.การเปลี่ยนความเข้มข้น
2.การเปลี่ยนความดัน
3.การเปลี่ยนอุณหภูมิ



กำรเปลี่ยนควำมเข้มข้นของสำรกับภำวะสมึϸล
Ex 14. ปฏิกิริยาระหว่าง Fe(NO3)3 กับ NH4 SCN
Fe3+(aq) + SCN-(aq)= [FeSCN]2+(aq)
นำ้าตาล ไม่มีสี สีแดงเลือดนก
ทำาการทดลองโดยแบ่งสารละลายออกเป็น 4 ส่วนดังนี้
1.เก็บไว้เปรียบเทียบ (blank)
2.เติม Fe(NO3)3 ลงไป ปรากฏว่าสีแดงเพิ่มขึ้น
3.เติม NH4 SCN ลงไปปรากฏว่าสีแดงเพิ่มขึ้น(มากกว่าส่วนที่ 1 แต่น้อยกว่าส่วนที่
2)
4.เติม Na2HPO4 ลงไป ปรากฏว่าสีแดงจางลงและมีตะกอนสีขาวเกิดขึ้น
จากการทดลองอธิบายได้ดังนี้
2.การเติม Fe(NO3)3 ลงไปเท่ากับเป็นการเพิ่ม Fe3+ซึ่งจะทำาปฏิกิริยากับ SCN- ที่
เหลืออยู่เกิดเป็น [FeSCN]2+ทำาให้สแดงเข้มขึ้น และ Fe3+ ที่เติมลงไปถูกใช้ไม่
                                  ี
หมด
3.การเติม NH4 SCN เท่ากับเป็นการเพิ่ม SCN-ซึ่งจะทำาปฏิกิริยากับ Fe3+ ที่เหลือ
อยู่เกิดเป็น [FeSCN]2+ ทำาให้สแดงเข้มขึ้นแต่สีจะน้อยกว่าส่วนที่ 2 เนื่องจาก
                              ี
SCN-ไม่มีสี
4.การเติม Na2HPO4 ลงไปเท่ากับเป็นการเพิ่ม HPO42- ที่จะไปดึง Fe3+เกิดเป็น
ตะกอนขาวของ FePO4 ทำาให้สแดงของสารลายจางลงกว่าเดิม
                                ี
Fe3+(aq) + 2 HPO42-(aq) =FePO4(s) + H2 PO4-(s)
จากตัวอย่างสรุปได้ว่า การเพิ่มหรือลดความเข้มข้นของสารจะมีผลทำาให้ภาวะ
สมึϸลเปลี่ยนไปซึ่งที่สมึϸลใหม่สมบัติของระบบจะแตกต่างไปจากสมึϸลเดิม
กำรเปลี่ยนควำมดันของสำรกับภำวะสมึϸล
Ex 15. ปฏิกิริยาการเตรียมก๊าซ NO2 ดังสมการ
Cu(s) + 4HNO3(aq)— Cu(NO3)2(aq) +2NO2(g) + 2H2O(l)
2NO2(g) =N2O4(g)
สีนำ้าตาลแดง ไม่มีสี

จากปฏิกิริยาถ้าเพิ่มความดันจะพบว่าสีของก๊าซในกระบอกฉีดยาเข้มขึ้นและ
ค่อยๆจางลงจนคงที่แต่ถ้าลดความดันจะพบว่าสีของสารละลายในกระบอกฉีดยา
จะจางลงและเข้มขึนจนคงที่จากตัวอย่างสรุปได้ว่าการเพิ่มหรือ
                    ้
ลดความดันของก๊าซจะมีผลทำาให้ภาวะสมึϸลเปลี่ยนไปท่าสมึϸลใหม่ สมบัติของ
ระบบจะแตกต่างไปจากสมึϸลเดิม
กำรเปลี่ยนอุณหภูมิกับภำวะสมึϸล
Ex 16 จากปฏิกิริยา 2NO2(g) =N2O4(g) +DH
สีนำ้าตาลแดง ไม่มีสี
จากปฏิกิริยา ถ้าเพิ่มอุณหภูมิโดยการให้ความร้อน จะพบว่าสีของก๊าซใน
กระบอกฉีดยาเข้มขึ้นแล้วคงที่ แต่ถ้าลดอุณหภูมิจะพบว่าสีของก๊าซในกระบอก
ฉีดยาจางลงแล้วคงที่
จึงสรุปได้ว่าการเพิ่มหรือลดอุณหภูมิของสาร จะมีผลทำาให้ภาวะสมึϸลของระบบ
เปลี่ยนไป และทีสมึϸลใหม่สมบัติของระบบจะแตกต่างไปจากสมึϸลเดิม

ปี ค.ศ. 1884 เลอ ชาเตอลิเอ นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยว
กับการ
เปลี่ยนแปลงภาวะสมึϸลของปฏิกิริยาต่างๆและได้ข้อสรุปว่า ‘เมือระบบที่อยู่ใน
                                                           ่
ภำวะสมึϸล
ถูกรบกวนโดยกำรเปลี่ยนแปลงปัจจัยที่มีผลต่อภำวะสมึϸลของระบบ
ระบบจะเกิดกำรเปลี่ยนแปลงไปในทิศทำงที่จะลดผลของกำรรบกวนนั้น
เพื่อให้ระบบเข้ำสู่ภำวะสมึϸลใหม่อีกครั้ง’

กรณีที่ควำมเข้มข้นเปลี่ยน
Ex 17 A + B= C + D
1.ถ้าเพิ่มความเข้มข้นของสาร A ระบบจะปรับตัวโดยการเกิดปฏิกิริยาไปข้างหน้า
ผลที่ได้คือ
สาร C และ D มากขึ้น สาร B ลดลง
2.ถ้าลดความเข้มข้นของสาร A ระบบจะปรับตัวโดยการเกิดปฏิกิริยาย้อนกลับผล
ที่ได้คือ
สาร B เพิ่มขึ้น สาร C และ D ลดลง
หมายเหตุ กรณีการเพิ่มหรือลดสารผลิตภัณฑ์ก็ให้ใช้หลักในการพิจารณาเช่น
เดียวกับสารตั้งต้น
กรณีที่ความดันเปลี่ยน
Ex 18 3A + B= C + 4D
1.ถ้าเพิ่มความดัน ระบบจะเกิดการปรับตัวในทิศทางที่จะลดความดันโดยการเกิด
ปฏิกิริยาย้อน
กลับ ผลที่เกิดขึ้นคือ สาร A และ B มากขึ้น สาร C และ D จะลดลง
2.ถ้าลดความดันระบบจะเกิดการปรับตัวในทิศทางเพิ่มความดันโดยการเกิด
ปฏิกิริยาไปข้างหน้าผลที่เกิดขึ้นคือสาร C และ D
มากขึ้น สาร A และ B ลดลง
หมายเหตุ การเพิ่มหรือลดความดันจะไม่มีผลต่อภาวะสมึϸลของปฏิกิริยาถ้า
จำานวนโมลของสารที่เป็นก๊าซทั้งสองข้างเท่ากัน
กรณีที่อุณหภูมิเปลี่ยนแปลง
Ex 19 X + Y =Z + D+H
1.ถ้าเพิ่มอุณหภูมิ ระบบจะปรับตัวในทิศทางลดอุณหภูมิโดยเกิดปฏิกิริยาย้อน
กลับ ผลที่เกิดขึ้นคือสาร X และ Y มากขึ้น สาร Z ลดลง และค่าคงท่าสมึϸล(K)
ลดลงด้วย
2.ถ้าลดอุณหภูมิ ระบบจะปรับตัวในทิศทางเพิ่มอุณหภูมิโดยเกิดปฏิกิริยาไปข้าง
หน้า ผลที่เกิดขึ้นคือสาร X และ Y ลดลง สาร Z เพิ่มขึ้นและค่าคงท่าสมึϸล(K)
เพิ่มขึ้นด้วย
Ex 20 A + B + D+H=C + D
1.ถ้าเพิ่มอุณหภูมิ ระบบจะปรับตัวในทิศทางลดอุณหภูมิโดยเกิดปฏิกิริยาไปข้าง
หน้า ผลที่เกิดขึ้นคือสาร A และ B ลดลง สาร C และ D เพิ่มขึ้น และค่าคงท่า
สมึϸล(K) เพิ่มขึ้นด้วย
2.ถ้าลดอุณหภูมิ ระบบจะปรับตัวในทิศทางเพิ่มอุณหภูมิโดยเกิดปฏิกิริยาย้อน
กลับผลที่เกิดขึ้นคือสาร A และ B เพิ่มขึ้น สาร C และ D ลดลงและค่าคงท่า
สมึϸล(K)ลดลงด้วย กรณีตัวเร่งปฏิกิริยากับภาวะสมึϸล
การใส่ตัวเร่งปฏิกิริยาเป็นการทำาให้ปฏิกิริยาเกิดขึ้นเร็วขึ้นโดยไม่มีผลต่อภาวะ
สมึϸลแต่อย่างใด เพียงแต่ระบบเข้าสู่ภาวะสมึϸลเร็วเท่านั้น
สมึϸลเคมี
ภำค
ผนวก
สมึϸลเคมี
เอกสำรอ้ำงอิง
http://elearning.spu.ac.th/content/chm100/chm/100
                      _11.html

More Related Content

What's hot (14)

Chemographics : Gases
Chemographics : GasesChemographics : Gases
Chemographics : Gases
Dr.Woravith Chansuvarn
สมึϸลเคมี
สมึϸลเคมีสมึϸลเคมี
สมึϸลเคมี
Trithep Ratanapipop
สมึϸล
สมึϸลสมึϸล
สมึϸล
Muk52
ทบทวนเรื่องสมึϸลเคมี
ทบทวนเรื่องสมึϸลเคมีทบทวนเรื่องสมึϸลเคมี
ทบทวนเรื่องสมึϸลเคมี
maneerat kinnarat
สมึϸลเคมี
สมึϸลเคมีสมึϸลเคมี
สมึϸลเคมี
พัน พัน
แก๊ส ของแข็ง ของเหลวและสารละลาย - Gas Solid Liquid and Solution
แก๊ส ของแข็ง ของเหลวและสารละลาย - Gas Solid Liquid and Solutionแก๊ส ของแข็ง ของเหลวและสารละลาย - Gas Solid Liquid and Solution
แก๊ส ของแข็ง ของเหลวและสารละลาย - Gas Solid Liquid and Solution
Dr.Woravith Chansuvarn
ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมึϸล
ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมึϸลปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมึϸล
ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมึϸล
Manchai
สมึϸลเคมี
สมึϸลเคมีสมึϸลเคมี
สมึϸลเคมี
Gesika
บทที่ 7 สมึϸลเคมี
บทที่ 7 สมึϸลเคมีบทที่ 7 สมึϸลเคมี
บทที่ 7 สมึϸลเคมี
oraneehussem
ปริมาณสารสัมพัȨ์
ปริมาณสารสัมพัȨ์ปริมาณสารสัมพัȨ์
ปริมาณสารสัมพัȨ์
Chicciiz Pu
สมึϸลเคมี
สมึϸลเคมีสมึϸลเคมี
สมึϸลเคมี
chemnpk
สมึϸล
สมึϸลสมึϸล
สมึϸล
Muk52
ทบทวนเรื่องสมึϸลเคมี
ทบทวนเรื่องสมึϸลเคมีทบทวนเรื่องสมึϸลเคมี
ทบทวนเรื่องสมึϸลเคมี
maneerat kinnarat
แก๊ส ของแข็ง ของเหลวและสารละลาย - Gas Solid Liquid and Solution
แก๊ส ของแข็ง ของเหลวและสารละลาย - Gas Solid Liquid and Solutionแก๊ส ของแข็ง ของเหลวและสารละลาย - Gas Solid Liquid and Solution
แก๊ส ของแข็ง ของเหลวและสารละลาย - Gas Solid Liquid and Solution
Dr.Woravith Chansuvarn
ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมึϸล
ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมึϸลปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมึϸล
ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมึϸล
Manchai
สมึϸลเคมี
สมึϸลเคมีสมึϸลเคมี
สมึϸลเคมี
Gesika
บทที่ 7 สมึϸลเคมี
บทที่ 7 สมึϸลเคมีบทที่ 7 สมึϸลเคมี
บทที่ 7 สมึϸลเคมี
oraneehussem
ปริมาณสารสัมพัȨ์
ปริมาณสารสัมพัȨ์ปริมาณสารสัมพัȨ์
ปริมาณสารสัมพัȨ์
Chicciiz Pu
สมึϸลเคมี
สมึϸลเคมีสมึϸลเคมี
สมึϸลเคมี
chemnpk

Viewers also liked (7)

สมึϸลเคมี
สมึϸลเคมีสมึϸลเคมี
สมึϸลเคมี
paknapa
Día de campoDía de campo
Día de campo
cdocuerna
Sec gas 108 112
Sec gas 108 112Sec gas 108 112
Sec gas 108 112
Roberto Cuadra
How to install brake linings
How to install brake liningsHow to install brake linings
How to install brake linings
jonespub
Piper "Dream Wings" Winner
Piper "Dream Wings" WinnerPiper "Dream Wings" Winner
Piper "Dream Wings" Winner
jonespub
How to install fuel cap seals
How to install fuel cap sealsHow to install fuel cap seals
How to install fuel cap seals
jonespub
How to install aircraft spark plugs
How to install aircraft spark plugsHow to install aircraft spark plugs
How to install aircraft spark plugs
jonespub
สมึϸลเคมี
สมึϸลเคมีสมึϸลเคมี
สมึϸลเคมี
paknapa
Día de campoDía de campo
Día de campo
cdocuerna
How to install brake linings
How to install brake liningsHow to install brake linings
How to install brake linings
jonespub
Piper "Dream Wings" Winner
Piper "Dream Wings" WinnerPiper "Dream Wings" Winner
Piper "Dream Wings" Winner
jonespub
How to install fuel cap seals
How to install fuel cap sealsHow to install fuel cap seals
How to install fuel cap seals
jonespub
How to install aircraft spark plugs
How to install aircraft spark plugsHow to install aircraft spark plugs
How to install aircraft spark plugs
jonespub

Similar to สมึϸลเคมี (20)

รายงาน๶รียน
รายงาน๶รียนรายงาน๶รียน
รายงาน๶รียน
tippawan61
ค่าคงที่สมึϸล (K)
ค่าคงที่สมึϸล (K)ค่าคงที่สมึϸล (K)
ค่าคงที่สมึϸล (K)
Manchai
สมึϸลเคมี
สมึϸลเคมีสมึϸลเคมี
สมึϸลเคมี
korng001
สมึϸลเคมี
สมึϸลเคมีสมึϸลเคมี
สมึϸลเคมี
kamonmart
๶ฉลยโจทย์
๶ฉลยโจทย์๶ฉลยโจทย์
๶ฉลยโจทย์
Pipat Chooto
สมึϸลเคมี
สมึϸลเคมีสมึϸลเคมี
สมึϸลเคมี
kamonmart
สมึϸลเคมี
สมึϸลเคมีสมึϸลเคมี
สมึϸลเคมี
kamonmart
3210000000000000000
32100000000000000003210000000000000000
3210000000000000000
Awirut619
เล่ม 2 สมการเคมี
เล่ม 2 สมการเคมีเล่ม 2 สมการเคมี
เล่ม 2 สมการเคมี
Preeyapat Lengrabam
สมึϸลเคมี
สมึϸลเคมีสมึϸลเคมี
สมึϸลเคมี
ja1122
ของเหลวและสารละลาย๶พื่อการศึกษาในระึϸบอุดมศึกษา
ของเหลวและสารละลาย๶พื่อการศึกษาในระึϸบอุดมศึกษาของเหลวและสารละลาย๶พื่อการศึกษาในระึϸบอุดมศึกษา
ของเหลวและสารละลาย๶พื่อการศึกษาในระึϸบอุดมศึกษา
661031554
รายงาน๶รียน
รายงาน๶รียนรายงาน๶รียน
รายงาน๶รียน
tippawan61
ค่าคงที่สมึϸล (K)
ค่าคงที่สมึϸล (K)ค่าคงที่สมึϸล (K)
ค่าคงที่สมึϸล (K)
Manchai
สมึϸลเคมี
สมึϸลเคมีสมึϸลเคมี
สมึϸลเคมี
korng001
สมึϸลเคมี
สมึϸลเคมีสมึϸลเคมี
สมึϸลเคมี
kamonmart
๶ฉลยโจทย์
๶ฉลยโจทย์๶ฉลยโจทย์
๶ฉลยโจทย์
Pipat Chooto
สมึϸลเคมี
สมึϸลเคมีสมึϸลเคมี
สมึϸลเคมี
kamonmart
สมึϸลเคมี
สมึϸลเคมีสมึϸลเคมี
สมึϸลเคมี
kamonmart
3210000000000000000
32100000000000000003210000000000000000
3210000000000000000
Awirut619
เล่ม 2 สมการเคมี
เล่ม 2 สมการเคมีเล่ม 2 สมการเคมี
เล่ม 2 สมการเคมี
Preeyapat Lengrabam
สมึϸลเคมี
สมึϸลเคมีสมึϸลเคมี
สมึϸลเคมี
ja1122
ของเหลวและสารละลาย๶พื่อการศึกษาในระึϸบอุดมศึกษา
ของเหลวและสารละลาย๶พื่อการศึกษาในระึϸบอุดมศึกษาของเหลวและสารละลาย๶พื่อการศึกษาในระึϸบอุดมศึกษา
ของเหลวและสารละลาย๶พื่อการศึกษาในระึϸบอุดมศึกษา
661031554

สมึϸลเคมี

  • 1. สภาวะสมึϸลเคมี จัดทำำโดย นำงสำวพักตร์นภำ รุ่งโรจน์ เสนอ คุณครูวีรพงษ์ บรรจง รำยงำนนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชำเคมี(ว٤٠٢٢٢) ภำคเรียนที่١ สำำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำมุกดำหำร กระทรวงศึกษำธิกำร
  • 3. สำรบัญ เรื่อง หน้ำ การเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได้ 1 ภาวะสมึϸล 2 ความสำาพันธ์ระหว่างความเข้มข้นของสารต่างๆ ณ ภาวะสมึϸล 3 การเปลี่ยนแปลงภาวะสมึϸล 4 หลักของเลอชาเตอลิเอ ٥
  • 4. เรื่อง สมึϸลเคมี (Equilibrium) เนื้อหำ(Content) การเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได้ ภาวะสมึϸล ความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มข้นของสารต่างๆ ณ ภาวะสมึϸล การเปลี่ยนภาวะสมึϸล หลักของเลอชาเตอลิเอ จุดประสงค์กำรเรียนรู้(Objective) 1.เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับปฏิกิริยาที่ผันกลับได้ ภาวะสมึϸล และสมบัติของระบบ ณภาวะสมึϸล 2.เพื่อให้นักเรียนมีทักษะสามารถเขียนแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มข้น ของ สารตั้งต้นกับสารผลิตภัณฑ์ ณ ภาวะสมึϸล ตลอดจนคำานวณค่าคงที่สมึϸล และความเข้มข้นของสารต่างๆ ณ ภาวะสมึϸล 3.เพื่อให้นักเรียนสามารถทราบถึงปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมึϸลและมีความเข้าใจ ในการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเมื่อภาวะสมึϸลของระบบถูกรบกวน 4.เพื่อให้นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับหลักของเลอชาเตอลิเอและมีความเข้าใจใน การปรับตัวของระบบเมื่อมีการรบกวนสมึϸลของระบบ
  • 5. สมึϸลเคมี (Eguilibrium) นักเคมีมักพบปัญหาจากปฏิกิริยาเคมีใดๆว่า ผลิตภัณฑ์ที่ได้มักได้ไม่ถึง 100% โดยอาจมีสาเหตุมาจากเทคนิคของการทดลอง หรือปฏิกิริยาเกิดไม่สมบูรณ์ จากหลักปริมาณสารสัมพัȨ์จะพิจารณาว่า ในการเกิดปฏิกิริยาใดๆ ปฏิกิริยาต้อง ดำาเนินไปจนสมบูรณ์กล่าวคือ เมื่อสารทำาปฏิกิริยากัน ปฏิกิริยาจะเกิดขึ้นจนกว่า สารตั้งต้นสารใดสารหนึ่งหมดไป ปฏิกิริยาจึงจะหยุด Ex 1.CaCO3(s)— CaO(s) + CO2(g)………………..(1) CaO(s) + CO2(g)— CaCO3(s)…………………(2) เมื่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาไปข้างหน้า(Rate of forward Reaction) ปฏิกิริยา (1)เท่ากับ อัตราการเกิดปฏิกิริยาย้อนกลับ(Rate of backward Reaction)ปฏิกิริยา(2) แล้วในขณะ นั้นระบบมีสมบัติคงที่ เรียกว่า เกิดภาวะสมึϸล(Equilibrium State) กำรเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได้ 1. การเปลี่ยนแปลงที่เข้าสู่ภาวะสมึϸล โดยระบบมิได้หยุดนิ่ง แต่จะมีการ เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เรียกว่าสมึϸลไดนามิก(Dynamic Equilibrium) ซึ่งเป็น สมึϸลที่โมเลกุลของสารในระบบยังคงมีการเปลี่ยนแปลงที่ผันกลับได้และเกิด ขึ้นอยู่ตลอดเวลาในระบบปิด(Closed system) 2. ระบบจะดำาเนินเข้าสู้ภาวะสมึϸลได้เอง โดยอัตราการเกิดปฏิกิริยาไปข้างหน้า เท่ากับอัตราการเกิดปฏิกิริยาย้อนกลับ 3. การดำาเนินเข้าสู่ภาวะสมึϸลของระบบอาจเริ่มจากทางซ้ายหรือทางขวาก็ได้ Ex 2.PCl5(g) =PCl3(g) + Cl2(g) ค่ำคงที่สมึϸล ในปฏิกิริยาเคมีใดๆ จะมีค่าคงที่ค่าหนึ่งซึ่งบอกให้ทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ความเข้มข้น ของสารต่างๆที่ภาวะสมึϸล เรียกว่า ค่าคงที่สมึϸล(Equilibrium Constant) Ex 3.H2(g) + I2(g) =2HI(g) ที่ 4250C การทดลองที่ [N2] [I2] [HI] K = [HI]2 / [H2][I2] 1 4.565 0.738 13.54 54.79 2 3.560 1.250 15.59 54.67 3 2.253 2.336 16.85 54.14 4 1.831 3.130 17.67 54.79 5 0.479 0.479 3.531 54.35 6 1.141 1.141 8.410 54.35 หมายเหตุ lab 1-4 ได้จากการรวมตัวชอง H2 และ I2 lab 5-6 ได้จากการสลายตัวของ HI จากตารางสรุปได้ว่าไม่ว่าจะเริ่มต้นด้วยปริมาณสารเท่าใดก็ตาม อัตราส่วน ระหว่างผลคูณของความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดยกกำาลังด้วย สัมประสิทธิ์บอกจำานวนโมลของผลิตภัณฑ์นั้นๆกับผลคูณของความเข้มข้นของ สารตั้งต้นที่เหลือแต่ละชนิดยกกำาลังด้วยสัมประสิทธิ์บอกจำานวนโมลของสารที่
  • 6. เหลือที่สภาวะสมึϸลจะมีค่าคงที่เสมอเมื่ออุณหภูมิคงที่ เรียกว่า ค่ำคงที่สมึϸล(k ) K = [HI]2 / [H2][I2] จลนศำสตร์เคมีและค่ำคงที่สมึϸล ค.ศ. 1866 C.M. Guldberg นักคณิตศาสตร์ประยุกต์ และ P .Waage นักเคมีได้เสนอ “Law of mass action” กล่าวคือ “ อัตรำกำรเกิดปฏิกิริยำจะต้องเป็นปฏิภำค กับควำมเข้มข้นของสำรตั้งต้นยกกำำลังด้วยสัมประสิทธิ์บอกจำำนวนโมล ของสำรนั้นๆ” Ex aA + bB —cC + dD อัตราการเกิดปฏิกิริยาไปข้างหน้า Ratef = kf[A]a[B]b………………..(1) อัตราการเกิดปฏิกิริยาย้อนกลับ Rater = kr [C]c[D]d………………..(2) เมื่อระบบเข้าสู่สภาวะสมึϸลจะได้ (1)=(2) kf[A]a[B]b = kr [C]c[D]d เมื่อ kf/ kr = K จะได้ K = [C]c[D]d/[A]a[B]b หลักกำรใช้ค่ำคงที่สมึϸล 1.เมื่ออุณหภูมิคงที่ ค่าคงที่สมึϸล k จะมีค่าคงที่ และจะต้องอ้างถึงสมการหนึ่ง สมการใดด้วยเสมอ เพราะถ้าเขียนสมการโดยใช้สัมประสิทธิ์ต่างกันไป ค่า k จะ แตกต่างกันด้วย Ex4. H2(g) + I2(g) =2HI(g)…………………………..(1) K1 = [HI]2/[H2][I2] 2 x(1) 2H2(g) + 2 I2(g)= 4HI(g) K2 = [HI]4/[H2]2[I2]2 K2 = K12 ดังนั้น ถ้าคูณสมการเดิมด้วย n ค่า K ใหม่เท่ากับ Kn เดิม 2.ถ้าเขียนสมการกลับกัน ค่า k ก็จะกลับกันด้วย Ex 5. 2NO(g) + O2(g) =2NO2(g)……………………(2) K1 =[NO2]2/[NO]2[O2] ถ้าเขียนสมการกลับกัน 2NO2(g) =2NO(g) + O2(g) K2 = [NO]2[O2] /[NO2]2 K2 = 1/K1 ดังนั้นถ้าเขียนสมการกลับกัน K ใหม่ = 1/K เดิม 2.ในกรณีที่ปฏิกิริยาเกิดขึ้นหลายๆขั้นตอน ค่า K ของปฏิกิริยารวม จะเท่ากับผล คูณของค่า K ของปฏิกิริยาย่อยๆนั้น Ex 6. 2NO(g) + O2(g) =2NO2(g)………………..(1) 2NO2(g) N2O4(g)…………………(2) (1)+(2) ได้ 2NO(g) + O2(g) =N2O4(g) K3 =K1.K2=[N2O4]/[NO2]2[O2]
  • 7. การใช้ค่า K ในสมึϸลเอกพันธ์ ซึ่งสารตั้งต้นและสารผลิตภัณฑ์อยู่ในวัฏภาค เดียวกัน เช่น Ex 7. จากปฏิกิริยา aA + bB= cC +dD Kc = [C]c [D]d /[A] a[B] b 4 Kp = PCc PDd / PAa PBb ; P = n/v RT จาก Kp = Kc(RT) n ; n = (c+d)-(a+b) ถ้า n = 0 จะได้ Kp = Kc(RT)0 ; Kp = Kc Ex 8. N2(g) + 3H2(g) =2NH3(g) Kc = [ NH3]2 /[ N2][ H2 ]3 หรือ Kp = ( P NH3)2/ (PN2)(PH2)3 การใช้ค่า K ในสมึϸลวิวิธภัณฑ์ สารที่เป็นของแข็งกำาหนดให้มีค่าคงที่เท่ากับ 1 Ex 9. CaCO3(s) =CaO(s) + CO2(g) Kc = [CO2] ; Kp = PCO2 กำรคำำนวณเกี่ยวกับค่ำคงที่สมึϸล Ex 10. จากปฏิกิริยา 2SO2(g) + O2(g)= 2SO3(g) ที่ 250 c จงคำานวณหา Kc ที่สภาวะสมึϸล (กำาหนด Kp = 2.5 x 1024 atm-1) วิธีทำา จาก Kp = Kc(RT) n Kc = Kp(RT)- n Kc = (2.5 x 1024)(0.0821)(298)-(1) = 6.2 x 1025 dm3 mol-1 Ex 11. เมื่อเติม ก๊าซ H2 และ I2 อย่างละ 0.5 mol ลงในภาชนะขนาด 2 dm3 ที่ อุณหภูมิ 520Oc เมื่อระบบเข้าสุ่ภาวะสมึϸลจากการวิเคราะห์พบว่าภายในภาชนะ ประกอบด้วยก๊าซ HI 0.06 mol จงคำานวณหาค่าคงที่สมึϸล วิธีทำา H2 (g) + I2(g) =2HI (g) เริ่มต้น 0.25 0.25 - เปลี่ยนแปลง 0.015 0.015 0.03 ที่สมึϸล 0.235 0.235 0.03 K = [HI]2/[H2][I2] = (0.03)2/(0.235)2 = 2 x 10-2 Ex 12. ที่อุณหภูมิหนึ่งก๊าซ HX 1.0 mol/dm3 สลายตัวได้ 20 % ดังสมการ 2HX =H2 + X2 จงคำานวณหาค่าคงที่สมึϸล วิธีทำา HX 1.0 mol/dm3 สลายตัวได้ 20 % ดังนั้น HX สลายตัว= 20/100 X 1= 0.2 mol/dm3 2HX= H2 + X2 เริ่มต้น 1 - - เปลี่ยนแปลง 0.2 0.1 0.1 ที่สมึϸล 0.8 0.1 0.1 K =[H2][X2]/[HX]2 =(0.1)2/(0.8)2 =1.56 X 10-2 Ex 13. ก๊าซ N2 ทำาปฏิกิริยากับก๊าซ H2 ดังสมการ
  • 8. 3H2(g) + N2(g)= 2NH3(g) ที่อุณหภูมิ 400oC ที่ภาวะสมึϸลพบว่ามี N2 0.6mol/dm3 , H2 0.4 mol/dm3 และ NH3 0.14mol/dm3 จงคำานวณหาค่าคงที่สมึϸล K = [NH3]2/[H2]3[N2] = (0.14)2/(0.6)(0.4)3 = 0.51 กำรเปลี่ยนภำวะสมึϸล ที่ภาวะสมึϸลของปฏิกิริยาใดๆสมบัติต่างๆเช่น ความเข้มข้นของผลิตภัณฑ์ที่เกิด ขึ้นและความเข้มข้นของสารตั้งต้นที่เหลือจะมีค่าคงที่ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลง ปัจจัยบางอย่างขึ้น เช่น การเปลี่ยนความเข้มข้น อุณหภูมิ หรือความดัน อัตรา การเกิดปฏิกิริยาจะเปลี่ยนแปลงไป โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลต่อ ภาวะสมึϸล ปัจจัยที่มีผลต่อภาวะสมึϸลได้แก่ 1.การเปลี่ยนความเข้มข้น 2.การเปลี่ยนความดัน 3.การเปลี่ยนอุณหภูมิ กำรเปลี่ยนควำมเข้มข้นของสำรกับภำวะสมึϸล Ex 14. ปฏิกิริยาระหว่าง Fe(NO3)3 กับ NH4 SCN Fe3+(aq) + SCN-(aq)= [FeSCN]2+(aq) นำ้าตาล ไม่มีสี สีแดงเลือดนก ทำาการทดลองโดยแบ่งสารละลายออกเป็น 4 ส่วนดังนี้ 1.เก็บไว้เปรียบเทียบ (blank) 2.เติม Fe(NO3)3 ลงไป ปรากฏว่าสีแดงเพิ่มขึ้น 3.เติม NH4 SCN ลงไปปรากฏว่าสีแดงเพิ่มขึ้น(มากกว่าส่วนที่ 1 แต่น้อยกว่าส่วนที่ 2) 4.เติม Na2HPO4 ลงไป ปรากฏว่าสีแดงจางลงและมีตะกอนสีขาวเกิดขึ้น จากการทดลองอธิบายได้ดังนี้ 2.การเติม Fe(NO3)3 ลงไปเท่ากับเป็นการเพิ่ม Fe3+ซึ่งจะทำาปฏิกิริยากับ SCN- ที่ เหลืออยู่เกิดเป็น [FeSCN]2+ทำาให้สแดงเข้มขึ้น และ Fe3+ ที่เติมลงไปถูกใช้ไม่ ี หมด 3.การเติม NH4 SCN เท่ากับเป็นการเพิ่ม SCN-ซึ่งจะทำาปฏิกิริยากับ Fe3+ ที่เหลือ อยู่เกิดเป็น [FeSCN]2+ ทำาให้สแดงเข้มขึ้นแต่สีจะน้อยกว่าส่วนที่ 2 เนื่องจาก ี SCN-ไม่มีสี 4.การเติม Na2HPO4 ลงไปเท่ากับเป็นการเพิ่ม HPO42- ที่จะไปดึง Fe3+เกิดเป็น ตะกอนขาวของ FePO4 ทำาให้สแดงของสารลายจางลงกว่าเดิม ี Fe3+(aq) + 2 HPO42-(aq) =FePO4(s) + H2 PO4-(s) จากตัวอย่างสรุปได้ว่า การเพิ่มหรือลดความเข้มข้นของสารจะมีผลทำาให้ภาวะ สมึϸลเปลี่ยนไปซึ่งที่สมึϸลใหม่สมบัติของระบบจะแตกต่างไปจากสมึϸลเดิม กำรเปลี่ยนควำมดันของสำรกับภำวะสมึϸล
  • 9. Ex 15. ปฏิกิริยาการเตรียมก๊าซ NO2 ดังสมการ Cu(s) + 4HNO3(aq)— Cu(NO3)2(aq) +2NO2(g) + 2H2O(l) 2NO2(g) =N2O4(g) สีนำ้าตาลแดง ไม่มีสี จากปฏิกิริยาถ้าเพิ่มความดันจะพบว่าสีของก๊าซในกระบอกฉีดยาเข้มขึ้นและ ค่อยๆจางลงจนคงที่แต่ถ้าลดความดันจะพบว่าสีของสารละลายในกระบอกฉีดยา จะจางลงและเข้มขึนจนคงที่จากตัวอย่างสรุปได้ว่าการเพิ่มหรือ ้ ลดความดันของก๊าซจะมีผลทำาให้ภาวะสมึϸลเปลี่ยนไปท่าสมึϸลใหม่ สมบัติของ ระบบจะแตกต่างไปจากสมึϸลเดิม กำรเปลี่ยนอุณหภูมิกับภำวะสมึϸล Ex 16 จากปฏิกิริยา 2NO2(g) =N2O4(g) +DH สีนำ้าตาลแดง ไม่มีสี จากปฏิกิริยา ถ้าเพิ่มอุณหภูมิโดยการให้ความร้อน จะพบว่าสีของก๊าซใน กระบอกฉีดยาเข้มขึ้นแล้วคงที่ แต่ถ้าลดอุณหภูมิจะพบว่าสีของก๊าซในกระบอก ฉีดยาจางลงแล้วคงที่ จึงสรุปได้ว่าการเพิ่มหรือลดอุณหภูมิของสาร จะมีผลทำาให้ภาวะสมึϸลของระบบ เปลี่ยนไป และทีสมึϸลใหม่สมบัติของระบบจะแตกต่างไปจากสมึϸลเดิม ปี ค.ศ. 1884 เลอ ชาเตอลิเอ นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยว กับการ เปลี่ยนแปลงภาวะสมึϸลของปฏิกิริยาต่างๆและได้ข้อสรุปว่า ‘เมือระบบที่อยู่ใน ่ ภำวะสมึϸล ถูกรบกวนโดยกำรเปลี่ยนแปลงปัจจัยที่มีผลต่อภำวะสมึϸลของระบบ ระบบจะเกิดกำรเปลี่ยนแปลงไปในทิศทำงที่จะลดผลของกำรรบกวนนั้น เพื่อให้ระบบเข้ำสู่ภำวะสมึϸลใหม่อีกครั้ง’ กรณีที่ควำมเข้มข้นเปลี่ยน Ex 17 A + B= C + D 1.ถ้าเพิ่มความเข้มข้นของสาร A ระบบจะปรับตัวโดยการเกิดปฏิกิริยาไปข้างหน้า ผลที่ได้คือ สาร C และ D มากขึ้น สาร B ลดลง 2.ถ้าลดความเข้มข้นของสาร A ระบบจะปรับตัวโดยการเกิดปฏิกิริยาย้อนกลับผล ที่ได้คือ สาร B เพิ่มขึ้น สาร C และ D ลดลง หมายเหตุ กรณีการเพิ่มหรือลดสารผลิตภัณฑ์ก็ให้ใช้หลักในการพิจารณาเช่น เดียวกับสารตั้งต้น กรณีที่ความดันเปลี่ยน Ex 18 3A + B= C + 4D 1.ถ้าเพิ่มความดัน ระบบจะเกิดการปรับตัวในทิศทางที่จะลดความดันโดยการเกิด ปฏิกิริยาย้อน กลับ ผลที่เกิดขึ้นคือ สาร A และ B มากขึ้น สาร C และ D จะลดลง 2.ถ้าลดความดันระบบจะเกิดการปรับตัวในทิศทางเพิ่มความดันโดยการเกิด
  • 10. ปฏิกิริยาไปข้างหน้าผลที่เกิดขึ้นคือสาร C และ D มากขึ้น สาร A และ B ลดลง หมายเหตุ การเพิ่มหรือลดความดันจะไม่มีผลต่อภาวะสมึϸลของปฏิกิริยาถ้า จำานวนโมลของสารที่เป็นก๊าซทั้งสองข้างเท่ากัน กรณีที่อุณหภูมิเปลี่ยนแปลง Ex 19 X + Y =Z + D+H 1.ถ้าเพิ่มอุณหภูมิ ระบบจะปรับตัวในทิศทางลดอุณหภูมิโดยเกิดปฏิกิริยาย้อน กลับ ผลที่เกิดขึ้นคือสาร X และ Y มากขึ้น สาร Z ลดลง และค่าคงท่าสมึϸล(K) ลดลงด้วย 2.ถ้าลดอุณหภูมิ ระบบจะปรับตัวในทิศทางเพิ่มอุณหภูมิโดยเกิดปฏิกิริยาไปข้าง หน้า ผลที่เกิดขึ้นคือสาร X และ Y ลดลง สาร Z เพิ่มขึ้นและค่าคงท่าสมึϸล(K) เพิ่มขึ้นด้วย Ex 20 A + B + D+H=C + D 1.ถ้าเพิ่มอุณหภูมิ ระบบจะปรับตัวในทิศทางลดอุณหภูมิโดยเกิดปฏิกิริยาไปข้าง หน้า ผลที่เกิดขึ้นคือสาร A และ B ลดลง สาร C และ D เพิ่มขึ้น และค่าคงท่า สมึϸล(K) เพิ่มขึ้นด้วย 2.ถ้าลดอุณหภูมิ ระบบจะปรับตัวในทิศทางเพิ่มอุณหภูมิโดยเกิดปฏิกิริยาย้อน กลับผลที่เกิดขึ้นคือสาร A และ B เพิ่มขึ้น สาร C และ D ลดลงและค่าคงท่า สมึϸล(K)ลดลงด้วย กรณีตัวเร่งปฏิกิริยากับภาวะสมึϸล การใส่ตัวเร่งปฏิกิริยาเป็นการทำาให้ปฏิกิริยาเกิดขึ้นเร็วขึ้นโดยไม่มีผลต่อภาวะ สมึϸลแต่อย่างใด เพียงแต่ระบบเข้าสู่ภาวะสมึϸลเร็วเท่านั้น