ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
ใบความรู้ การสื่อสารข้อมูลสาหรับ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
การสื่อสารข้อมูลสาหรับ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
 ความรู้เบื้องต้นของการสื่อสารสาหรับ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
ความรู้เบื้องต้นของการสื่อสารข้อมูลสาหรับ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
การสื่อสารข้อมูลเป็นการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความรู้สึกจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งโดยอาศัยสื่อหรือเครื่องมือต่างๆ
เป็นช่องทางในการสื่อสาร เช่น การสื่อสารด้วยท่าทาง ถ้อยคา สัญลักษณ์ ภาพวาด จดหมาย โทรเลข เป็นต้น ต่อมาการสื่อ
วารข้อมูลได้พัฒนาและก้าวหน้าไปอย่างต่อเนื่อง มีการนาเทคโนโลยีด้าน๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์มาประยุกต์ใช้ในการ
ติดต่อสื่อสาร ทาให้การติดต่อสื่อสารเกิดความสะดวก รวดเร็ว รวมทั้งได้รับข่าวสารทันเหตุการณ์อีกด้วย
องค์ประกอบของระบบสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูลใน๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ มีองค์ประกอบ ดังนี้
1. ข่าวสาร (message) ในทางเทคโนโลยีและการสื่อสาร ข่าวสารเป็นข้อมูลที่ผู้ส่งทาการส่งไปยังผู้รับผ่านระบบการสื่อสาร
ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบ ดังต่อไปนี้
2. ผู้ส่ง (sender)เป็นอุปกรณ์ที่ทาหน้าที่ส่งข้อมูลที่อยู่ต้นทาง โดยข้อมูลต้องถูกจัดเตรียมนาเข้าสู่อุปกรณ์ส่งข้อมูล เช่น
เครื่องคอมพิวเตอร์ โมเด็ม (modem) จานไมโครเวฟ จานดาวเทียม เป็นต้น
3. ผู้รับ (receiver) เป็นอุปกรณ์ที่ทาหน้าที่รับข้อมูลจากอุปกรณ์ส่งข้อมูล เช่น เครื่องพิมพ์คอมพิวเตอร์ โมเด็ม จานดาวเทียม
เป็นต้น เพื่อนาข้อมูลไปใช้ประโยชน์ต่อไป
4. สื่อกลางหรือตัวกลาง (media) เป็นอุปกรณ์ที่ทาหน้าที่นาข่าวสารรูปแบบต่างๆจากผู้ส่งไปยังผู้รับ ได้แก่สายไฟ ขดลวด
สายเคเบิล สายไฟเบอร์ออฟติก เป็นต้น สื่อกลางอาจจะอยู่ในรูปของคลื่นที่ส่งผ่านทางอากาศ เช่น คลื่นไมโครเวฟ คลื่น
ดาวเทียม คลื่นวิทยุเป็นต้น
5. โพรโตคอล (protocol) เป็นตัวกาหนดคุณลักษณะ กฎระเบียบ หรือวิธีการที่ใช้ในการสื่อสาร เพื่อให้ผู้รับและผู้ส่งเข้าใจ
กัน และสามารถสื่อสารกันได้อย่างถูกต้อง
6. ซอฟต์แวร์ (software) เป็นโปรแกรมสาหรับดาเนินการและควบคุมการส่งข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์เพื่อให้ได้ข้อมูลตามที่
กาหนดไว้ตัวอย่างซอฟต์แวร์ เช่นMicrosoft Windows XP/Vista/7, Unix , Internet Explorer , Windows Live Message เป็น
ต้น
ความหมายของการสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
การสื่อสาร (communication) หมายถึง กระบวนการถ่ายทอดหรือแลกเปลี่ยนสารหรือสื่อระหว่างผู้ส่งกับผู้รับ โดยส่งผ่าน
ช่องทางนาสารหรือสื่อ เพื่อให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน
การสื่อสารข้อมูล (datacommunication) หมายถึง กระบวนการหรือวิธีถ่ายทอดข้อมูลระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ที่มักจะอยู่
ห่างไกลกัน และจาเป็นต้องอาศัยระบบการสื่อสารโทรคมนาคม (telecommunication) เป็นสื่อกลางในการรับส่งข้อมูล
๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ (computer network) หมายถึง การเชื่อมโยงระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไป เพื่อให้
สามารถสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมทั้งสามารถใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ภายในเครือข่ายร่วมกันได้เช่น ฮาร์ดดิสก์
เครื่องพิมพ์เป็นต้น
 การสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูล (Data Communications) หมายถึง กระบวนการถ่ายโอนหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างผู้ส่ง
และผู้รับ โดยผ่านช่องทางสื่อสาร เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือคอมพิวเตอร์เป็นตัวกลางในการส่งข้อมูล เพื่อให้ผู้
ส่งและผู้รับเกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน
วิธีการส่งข้อมูล จะแปลงข้อมูลเป็นสัญญาณ หรือรหัสเสียก่อนแล้วจึงส่งไปยังผู้รับ และเมื่อถึงปลายทางหรือ
ผู้รับก็จะต้องมีการแปลงสัญญาณนั้น กลับมาให้อยู่ในรูปที่มนุษย์สามารถที่จะเข้าใจได้ในระหว่างการส่งอาจจะมี
อุปสรรค์ที่เกิดขึ้นก็คือ สิ่งรบกวน (Noise) จากภายนอกทาให้ข้อมูลบางส่วนเสียหาย หรือผิดเพี้ยนไปได้ซึ่งระยะทางก็
มีส่วนเกี่ยวข้อง ด้วยเพราะถ้าระยะทางในการส่งยิ่งมากก็อาจจะทาให้เกิดสิ่งรบกวนได้มากเช่นกัน จึงต้องมีหาวิธีลด
สิ่งรบกวนเหล่านี้ โดยการพัฒนาตัวกลางในการสื่อสารที่จะทาให้เกิดการรบกวนน้อยที่สุด
องค์ประกอบขั้นพื้นฐานของระบบสื่อสารโทรคมนาคม สามารถจาแนกออกเป็นส่วนประกอบได้ดังต่อไปนี้
1. ผู้ส่งข่าวสารหรือแหล่งกาเนิดข่าวสาร (source) อาจจะเป็นสัญญาณต่าง ๆ เช่น สัญญาณภาพ
ข้อมูล และเสียงเป็นต้น ในการติดต่อสื่อสารสมัยก่อนอาจจะใช้แสงไฟ ควันไฟ หรือท่าทางต่าง ๆ ก็นับว่าเป็น
แหล่งกาเนิดข่าวสาร จัดอยู่ในหมวดหมู่นี้เช่นกัน
2. ผู้รับข่าวสารหรือจุดหมายปลายทางของข่าวสาร (sink) ซึ่งจะรับรู้จากสิ่งที่ผู้ส่งข่าวสาร หรือแหล่งกาเนิด
ข่าวสารส่งผ่านมาให้ตราบใด
ที่การติดต่อสื่อสารบรรลุวัตถุประสงค์ ผู้รับสารหรือจุดหมายปลายทางของข่าวสารก็จะได้รับข่าวสารนั้น ๆ ถ้าผู้รับ
สารหรือ จุดหมายปลายทางไม่ได้รับ
ข่าวสาร ก็แสดงว่าการสื่อสารนั้นไม่ประสบความสาเร็จ กล่าวคือไม่มีการสื่อสารเกิดขึ้นนั่นเอง
ช่องสัญญาณ (channel) ในที่นี้อาจจะหมายถึงสื่อกลางหรือตัวกลางที่ข่าวสารเดินทางผ่าน อาจจะเป็นอากาศ สายนา
สัญญาณต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งของเหลว เช่น น้า น้ามัน เป็นต้น เปรียบเสมือนเป็นสะพานที่จะให้ข่าวสารข้ามจาก
ฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่ง
4. การเข้ารหัส (encoding) เป็นการช่วยให้ผู้ส่งข่าวสารและผู้รับข่าวสารมีความเข้าใจตรงกันในการสื่อ
ความหมาย จึงมีความจาเป็นต้องแปลง
ความหมายนี้ การเข้ารหัสจึงหมายถึงการแปลงข่าวสารให้อยู่ในรูปพลังงาน ที่พร้อมจะส่งไปในสื่อกลาง ทางผู้ส่งมี
ความเข้าใจต้องตรงกันระหว่าง ผู้ส่งและผู้รับ หรือมีรหัสเดียวกัน การสื่อสารจึงเกิดขึ้นได้
5. การถอดรหัส (decoding) หมายถึงการที่ผู้รับข่าวสารแปลงพลังงานจากสื่อกลางให้กลับไปอยู่ในรูป
ข่าวสารที่ส่งมาจากผู้ส่งข่าวสาร โดยมีความเข้าในหรือรหัสตรงกัน
6. สัญญาณรบกวน (noise) เป็นสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติ มักจะลดทอนหรือรบกวนระบบ อาจจะเกิดขึ้นได้ทั้ง
ทางด้านผู้ส่งข่าวสาร ผู้รับข่าวสาร และช่องสัญญาณ แต่ในการศึกษาขั้นพื้นฐานมักจะสมมติให้ทางด้านผู้ส่ง
ข่าวสารและผู้รับข่าวสารไม่มีความผิดพลาด ตาแหน่งที่ใช้วิเคราะห์ มักจะเป็นที่ตัวกลางหรือช่องสัญญาณ เมื่อไรที่
รวมสัญญาณรบกวนด้านผู้ส่งข่าวสารและด้านผู้รับข่าวสาร ในทางปฎิบัติมักจะใช้วงจรกรอง (filter)
กรองสัญญาณแต่ต้นทาง เพื่อให้การสื่อสารมีคุณภาพดียิ่งขึ้นแล้วค่อยดาเนินการ เช่น การเข้ารหัสแหล่งข้อมูล เป็น
ต้น
ข่ายการสื่อสารข้อมูล
หมายถึง การรับส่งข้อมูลหรือสารสนเทศจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยอาศัยระบบการส่งข้อมูล ทาง
คลื่นไฟฟ้าหรือแสง อุปกรณ์ที่ประกอบเป็นระบบการสื่อสารข้อมูลโดยทั่วไปเรียกว่า
ข่ายการสื่อสารข้อมูล (Data Communication Networks)
องค์ประกอบพื้นฐาน
1. หน่วยส่งข้อมูล (Sending Unit)
2. ช่องทางการส่งข้อมูล (Transmisstion Channel)
3. หน่วยรับข้อมูล (Receiving Unit)
วัตถุประสงค์หลักของการนาการสื่อการข้อมูลมาประยุกต์ใช้ในองค์การประกอบด้วย
1. เพื่อรับข้อมูลและสารสนเทศจากแหล่งกาเนิดข้อมูล
2. เพื่อส่งและกระจายข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
3. เพื่อลดเวลาการทางาน
4. เพื่อการประหยัดค่าใช้จ่ายในการส่งข่าวสาร
5. เพื่อช่วยขยายการดาเนินการองค์การ
6. เพื่อช่วยปรับปรุงการบริหารขององค์การ
ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูล1) การจัดเก็บข้อมูลได้ง่ายและสื่อสารได้รวดเร็ว การจัดเก็บซึ่อยู่ในรูปของสัญญาณ
อิเล็กทรอนิกส์ สามารถจัดเก็บไว้ในแผ่นบันทึกที่มีความหนาแน่นสูง
แผ่นบันทึกแผ่นหนึ่งสามารถบันทึกข้อมูลได้มากกกว่า 1 ล้านตัวอักษร สาหรับการสื่อสารข้อมูลนั้น ถ้าข้อมูลผ่าน
สายโทรศัพท์ได้ในอัตรา 120 ตัวอักษร
ต่อวินาทีแล้ว จะส่งข้อมูล 200 หน้าได้ในเวลา 40 นาที โดยไม่ต้องเสียเวลานั่งป้ อนข้อมูลเหล่านั้นซ้าใหม่อีก
2) ความถูกต้องของข้อมูล โดยปกติวิธีส่งข้อมูลด้วยสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งด้วยระบบ
ดิจิตอล วิธีการส่งข้อมูลนั้นมีการตรวจสอบ
สภาพของข้อมูล หากข้อมูลผิดพลาดก็จะมีการรับรู้ และพยายามหาวิธีแก้ไขให้ข้อมูลที่ได้รับมีความถูกต้อง โดยอาจ
ให้ทาการส่งใหม่ หรือกรณีที่ผิดพลาด
ไม่มากนัก ฝ่ายผู้รับอาจใช้โปรแกรมของตนแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องได้
3) ความเร็วของการทางาน โดยปกติสัญญาณทางไฟฟ้าจะเดินทางด้วยความเร็วเท่าแสง ทาให้การใช้คอมพิวเตอร์ส่ง
ข้อมูลจากซีกโลกหนึ่ง ไปยังอีกซีก
โลกหนึ่ง หรือค้นหาข้อมูลจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ สามารถทาได้รวดเร็ว ความรวดเร็วของระบบทาให้ผู้ใช้
สะดวกสบายยิ่งขึ้น เช่น บริษัทสายการบินทุกแห่ง
สามารถทราบข้อมูลของทุกเที่ยวบินได้อย่างรวดเร็ว ทาให้การจองที่นั่งของสายการบินสามารถทาได้ทันที
4) ต้นทุนประหยัด การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้าหากันเป็นเครือข่าย เพื่อส่งหรือสาเนาข้อมูล ทาให้ราคาต้นทุนของ
การใช้ข้อมูลประหยัดขึ้น เมื่อเทียบกับการ
จัดส่งแบบวิธีอื่น สามารถส่งข้อมูลให้กันและกันผ่านทางสายโทรศัพท์ได้
 อุปกรณ์ที่สาคัญในระบบ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
บริดจ์ (Bridge)
บริดจ์ (Bridge)เป็นอุปกรณ์ที่มักจะใช้ในการเชื่อมต่อวงแลน (LAN Segments)เข้าด้วยกัน ทาให้สามารถขยายขอบเขต
ของ LAN ออกไปได้เรื่อยๆ โดยที่ประสิทธิภาพรวมของระบบ ไม่ลดลงมากนัก เนื่องจากการติดต่อของเครื่องที่อยู่ใน
เซกเมนต์เดียวกันจะไม่ถูกส่งผ่าน ไปรบกวนการจราจรของเซกเมนต์อื่น และเนื่องจากบริดจ์เป็นอุปกรณ์ที่ทางานอยู่ใน
ระดับ Data Link Layer จึงทาให้สามารถใช้ในการเชื่อมต่อเครือข่ายที่แตกต่างกันในระดับ Physical และData Link ได้เช่น
ระหว่าง Eternet กับ Token Ring เป็นต้น
เราเตอร์ (Router)
เราเตอร์ (Router)เป็นอุปรณ์ที่ทาหน้าที่ในเลเยอร์ที่ 3 เราท์เตอร์จะอ่านที่อยู่(Address) ของสถานีปลายทางที่ส่วนหัว
(Header) ข้อแพ็กเก็ตข้อมูล เพื่อที่จะกาหนดและส่งแพ็กเก็ตต่อไป เราท์เตอร์จะมีตัวจัดเส้นทางในแพ็กเก็ต เรียกว่า เราติ้งเท
เบิ์ล (Routing Table) หรือตารางจัดเส้นทางนอกจากนี้ยังส่งข้อมูลไปยังเครือาข่ายที่ให้โพรโทคอลต่างกันได้เช่น IP
(Internet Protocol) , IPX (Internet Package Exchange) และ AppleTalk นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับเครือข่ายอื่นได้เช่น
เครือข่ายอินเทอร์เน็ต
สวิตซ์ (Switch)
สวิตซ์ (Switch)คืออุปกรณ์เครือข่ายที่ทาหน้าที่ในเรเยอร์ที่ 2 และทาหน้าที่ส่งข้อมูลที่ได้รับมาจากพอร์ตหนึ่งไปยังพอร์ต
เฉพาะที่เป็นปลายทางเท่านั้น และทาให้คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับพอร์ตที่เหลือส่งข้อมูลถึงกันในเวลาเดียวกัน ดังนั้น อัตรา
การรับส่งข้อมูลหรือแบนด์วิธจึงไม่ขึ้นอยู่กับคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันนิยมเชื่อมต่อแบบนี้มากกว่าฮับเพราะลดปัญหาการชน
การของข้อมูล
ฮับ (HUB)
ฮับ (HUB)หรือ เรียก รีพีทเตอร์ (Repeater) คืออุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกลุ่มคอมพิวเตอร์ ฮับ มีหน้าที่รับส่งเฟรมข้อมูลทุกเฟรม
ที่ได้รับจากพอร์ตใดพอร์ตหนึ่ง ไปยังพอร์ตที่เหลือ คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเข้ากับฮับจะแชร์แบนด์วิธหรืออัตราข้อมูลของ
เครือข่าย เพราะฉะนั้นถ้ามีคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อมากจะทาให้อัตราการส่งข้อมูลลดลง
ไคลเอนต์(Client)
ไคลเอนต์(Client)หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เครื่องลูกข่าย เป็นคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายที่ร้องขอ บริการและเข้าถึง
ไฟล์ข้อมูลที่จัดเก็บในเซิร์ฟเวอร์ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ไคลเอนต์เป็นคอมพิวเตอร์ ของผู้ใช้แต่ละคนในระบบเครือข่าย
เซิร์ฟเวอร์ (Server)
เซิร์ฟเวอร์ (Server)หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เครื่องแม่ข่าย เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์หลักในเครือข่าย ที่ทาหน้าที่จัดเก็บและ
ให้บริการไฟล์ข้อมูลและทรัพยากรอื่นๆ กับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ใน เครือข่าย โดยปกติคอมพิวเตอร์ที่นามาใช้เป็น
เซิร์ฟเวอร์มักจะเป็นเครื่องที่มีสมรรถนะสูง และ มีฮาร์ดดิกส์ความจาสูงกว่าคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ในเครือข่าย
 ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
การที่ระบบเครือข่ายมีบทบาทและความสาคัญเพิ่มขึ้น เพราะไมโครคอมพิวเตอร์ได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลาย จึงเกิด
ความต้องการที่จะเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เหล่านั้นถึงกับเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของระบบให้สูงขึ้น เพิ่มการใช้งานด้านต่าง
ๆ และลดต้นทุนระบบโดยรวมลง มีการแบ่งใช้งานอุปกรณ์และข้อมูลต่าง ๆ ตลอดจนสามารถทางานร่วมกันได้สิ่งสาคัญ
ที่ทาให้ระบบข้อมูลมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้น คือ การโอนย้ายข้อมูลระหว่างกัน และการเชื่อมต่อหรือการสื่อสาร การ
โอนย้ายข้อมูลหมายถึงการนาข้อมูลมาแบ่งกันใช้งาน หรือการนาข้อมูลไปใช้ประมวลผลในลักษณะแบ่งกันใช้ทรัพยากร
เช่น แบ่งกันใช้ซีพียูแบ่งกันใช้ฮาร์ดดิสก์ แบ่งกันใช้โปรแกรม และแบ่งกันใช้อุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีราคาแพงหรือไม่สามารถ
จัดหาให้ทุกคนได้การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เป็นเครือข่ายจึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้กว้างขวางและมากขึ้น
จากเดิมการเชื่อมต่อในความหมายของระบบเครือข่ายท้องถิ่น ไม่ได้จากัดอยู่ที่การเชื่อมต่อระหว่างเครื่อง
ไมโครคอมพิวเตอร์ แต่ยังรวมไปถึงการเชื่อมต่ออุปกรณ์รอบข้าง เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าทาให้การทางานเฉพาะมีขอบเขต
กว้างขวางยิ่งขึ้น มีการใช้เครื่องบริการแฟ้มข้อมูลเป็นที่เก็บรวบควมแฟ้มข้อมูลต่างๆ มีการทาฐานข้อมูลกลาง มีหน่วย
จัดการระบบสือสารหน่วยบริการใช้เครื่องพิมพ์หน่วยบริการการใช้ซีดี หน่วยบริการปลายทาง และอุปกรณ์ประกอบ
สาหรับต่อเข้าในระบบเครือข่ายเพื่อจะทางานเฉพาะเจาะจงอย่างใดอย่างหนึ่ง ในรูป เป็นตัวอย่าง๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ที่
จัดกลุ่มเชื่อมโยงเป็นระบบ
ตัวอย่าง๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ที่จัดกลุ่มอุปกรณ์รอบข้างเชื่อมโยงเป็นระบบ
๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ก่อให้เกิดความสามารถในการปฎิบัติการร่วมกัน ซึ่งหมายถึงการให้อุปกรณ์ทุกชิ้นที่ต่ออยู่บน
เครือข่ายทางานร่วมกันได้ทั้งหมดในลักษณะที่ประสานรวมกัน โดยผู้ใช้เห็นเสมือนใช้งานในอุปกรณ์เดียวกัน จึงเป็น
วิธีการในการนาเอาอุปกรณ์ต่างชนิดจานวนมาก มารวมกันเป็นเสมือนระบบเดียวกัน ทั้ง ๆ ที่อุปกรณ์เหล่านั้นอาจจะมาจาก
ต่างยี่ห้อ ต่างบริษัท ก็ได้
 ประโยชน์๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
เครือข่ายที่ทางานรวมกันเป็นกลุ่มงาน เรียกว่า Workgroup เมื่อเชื่อมโยงหลาย ๆ กลุ่มงานเข้าด้วยกันจะเป็นเครือข่ายของ
องค์กร จะเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ สามารถประยุกต์ใช้งานได้อย่างกว้างขวางโดย๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์จะเกิดการ
เชื่อมโยงอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าด้วยกันและสื่อสารถึงกันได้ เช่น
1. การใช้ฐานข้อมูลร่วมกัน เครือข่ายที่ให้บริการเก็บข่าวสาร ตัวเลขหรือข้อมูลใช้งานจะใช้ฐานข้อมูลเดียวกันได้ เช่น ราคา
สินค้า บัญชีสินค้า ฯลฯ
2. การแบ่งปันทรัพยากรในเครือข่าย อุปกรณ์ต่าง ๆ ใช้ร่วมกันได้ เช่น การพิมพ์เอกสารจะใช้เครื่องพิมพ์เครื่องเดียวกับ
คอมพิวเตอร์เครือข่ายหลายเครื่องก็ได้เป็นต้น
3. การติดต่อสื่อสารระหว่างกันบนเครือข่าย เมื่อมีการเชื่อมโยงสถานีงานเข้าด้วยกันก็จะสามารถโอนย้ายข้อมูลระหว่างกัน
ได้ การดาเนินการต่าง ๆ ควรเป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่ฝ่ายบริหารเครือข่ายขององค์กรได้กาหนดไว้
4. สานักงานอัตโนมัติ แนวคิดคือต้องการลดการใช้กระดาษ หันมาใช้ระบบการทางานด้วยคอมพิวเตอร์ที่แลกเปลี่ยนข้อมูล
ระหว่างกันได้ทันที โดยการใช้สัญญาณอิเลคทรอนิกส์แทน จะทาให้การทางานคล่องตัวและรวดเร็ว
การใช้งานเครือข่ายยังมีการประยุกต์ได้หลายอย่างตั้งแต่ การโอนย้ายแฟ้มข้อมูลระหว่างกัน การทางานเป็นกลุ่ม การใช้
ทรัพยากรร่วมกัน การนัดหมายการส่งงาน แม้แต่ในห้องเรียนก็ใช้เครือข่ายเพื่อการเรียนการสอน ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้
เรียกค้นข้อมูลเป็นต้น

More Related Content

What's hot (15)

ใบความรู้ที่ 1
ใบความรู้ที่ 1ใบความรู้ที่ 1
ใบความรู้ที่ 1
Nattapon
บทที่ 3 การสื่อสารข้อมูล
บทที่ 3 การสื่อสารข้อมูลบทที่ 3 การสื่อสารข้อมูล
บทที่ 3 การสื่อสารข้อมูล
Nattapon
ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2
Nattapon
การสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูลการสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูล
sawalee kongyuen
การสื่อสารข้อมูล1
การสื่อสารข้อมูล1การสื่อสารข้อมูล1
การสื่อสารข้อมูล1
Tharathep Chumchuen
Data communication and network
Data communication and networkData communication and network
Data communication and network
anusorn kraiwatnussorn
ใบงานที่ 2.1
ใบงานที่  2.1ใบงานที่  2.1
ใบงานที่ 2.1
Meaw Sukee
ระบบสื่อสารྺ้อมูลสำหรับเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
ระบบสื่อสารྺ้อมูลสำหรับเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ระบบสื่อสารྺ้อมูลสำหรับเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
ระบบสื่อสารྺ้อมูลสำหรับเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
swiz14018
หน่วยที่ 2 การสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ 1
หน่วยที่ 2 การสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ 1หน่วยที่ 2 การสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ 1
หน่วยที่ 2 การสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ 1
อรยา ม่วงมนตรี
บทที่ 4 เทคโน ม.6 copy - copy
บทที่ 4 เทคโน ม.6   copy - copyบทที่ 4 เทคโน ม.6   copy - copy
บทที่ 4 เทคโน ม.6 copy - copy
ครู อินดี้
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 อินเทอร์เน็ตและการใช้งาน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 อินเทอร์เน็ตและการใช้งานหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 อินเทอร์เน็ตและการใช้งาน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 อินเทอร์เน็ตและการใช้งาน
ครู อินดี้
ใบความรู้ที่ 1
ใบความรู้ที่ 1ใบความรู้ที่ 1
ใบความรู้ที่ 1
Nattapon
บทที่ 3 การสื่อสารข้อมูล
บทที่ 3 การสื่อสารข้อมูลบทที่ 3 การสื่อสารข้อมูล
บทที่ 3 การสื่อสารข้อมูล
Nattapon
ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2ใบความรู้ที่ 2
ใบความรู้ที่ 2
Nattapon
การสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูลการสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูล
sawalee kongyuen
การสื่อสารข้อมูล1
การสื่อสารข้อมูล1การสื่อสารข้อมูล1
การสื่อสารข้อมูล1
Tharathep Chumchuen
ใบงานที่ 2.1
ใบงานที่  2.1ใบงานที่  2.1
ใบงานที่ 2.1
Meaw Sukee
ระบบสื่อสารྺ้อมูลสำหรับเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
ระบบสื่อสารྺ้อมูลสำหรับเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ระบบสื่อสารྺ้อมูลสำหรับเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
ระบบสื่อสารྺ้อมูลสำหรับเครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
swiz14018
หน่วยที่ 2 การสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ 1
หน่วยที่ 2 การสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ 1หน่วยที่ 2 การสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ 1
หน่วยที่ 2 การสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ 1
อรยา ม่วงมนตรี
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 อินเทอร์เน็ตและการใช้งาน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 อินเทอร์เน็ตและการใช้งานหน่วยการเรียนรู้ที่ 3 อินเทอร์เน็ตและการใช้งาน
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 อินเทอร์เน็ตและการใช้งาน
ครู อินดี้

Similar to ใบความรู้ การสื่อสารข้อมูลสำหรับ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ (20)

หน่วยที่ 8
หน่วยที่ 8หน่วยที่ 8
หน่วยที่ 8
ratiporn555
หน่วยที่ 1 พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลและเครือข่าย
หน่วยที่ 1 พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายหน่วยที่ 1 พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลและเครือข่าย
หน่วยที่ 1 พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลและเครือข่าย
Ta Khanittha
ระบบสื่อสารྺ้อมูลྺอง๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
ระบบสื่อสารྺ้อมูลྺอง๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ระบบสื่อสารྺ้อมูลྺอง๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
ระบบสื่อสารྺ้อมูลྺอง๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Manas Panjai
สื่อการเรียน เรื่อง พัฒนาการของการติดต่อสื่อสาร
สื่อการเรียน เรื่อง พัฒนาการของการติดต่อสื่อสารสื่อการเรียน เรื่อง พัฒนาการของการติดต่อสื่อสาร
สื่อการเรียน เรื่อง พัฒนาการของการติดต่อสื่อสาร
Khunakon Thanatee
2.1 การสื่อสารผ่านระบบ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
2.1 การสื่อสารผ่านระบบ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์2.1 การสื่อสารผ่านระบบ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
2.1 การสื่อสารผ่านระบบ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Siratcha Wongkom
Data communication and network
Data communication and networkData communication and network
Data communication and network
kamol
การสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูลการสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูล
Aqilla Madaka
บทที่ 1 ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
บทที่ 1 ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศบทที่ 1 ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
บทที่ 1 ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
peter dontoom
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หัวข้อที่1เส็ดแล้ว
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หัวข้อที่1เส็ดแล้วเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หัวข้อที่1เส็ดแล้ว
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หัวข้อที่1เส็ดแล้ว
frankenjay
บทที่ 6. การสื่อสารโทรคมนาคมและเครือข่าย
บทที่ 6. การสื่อสารโทรคมนาคมและเครือข่ายบทที่ 6. การสื่อสารโทรคมนาคมและเครือข่าย
บทที่ 6. การสื่อสารโทรคมนาคมและเครือข่าย
Pokypoky Leonardo
๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
delloov
2.1 พัฒนาการสื่อสารข้อมูล
2.1 พัฒนาการสื่อสารข้อมูล2.1 พัฒนาการสื่อสารข้อมูล
2.1 พัฒนาการสื่อสารข้อมูล
Meaw Sukee
การสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูลการสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูล
chukiat008
การสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูลการสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูล
chukiat008
บทบาทการสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
บทบาทการสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์บทบาทการสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
บทบาทการสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
ธีรภัฎ คำปู่
บทบาทการสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
บทบาทการสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์บทบาทการสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
บทบาทการสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
ธีรภัฎ คำปู่
การสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูล
การสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลการสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูล
การสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูล
Mareeyalosocity
หน่วยที่ 8
หน่วยที่ 8หน่วยที่ 8
หน่วยที่ 8
ratiporn555
หน่วยที่ 1 พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลและเครือข่าย
หน่วยที่ 1 พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายหน่วยที่ 1 พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลและเครือข่าย
หน่วยที่ 1 พื้นฐานการสื่อสารข้อมูลและเครือข่าย
Ta Khanittha
ระบบสื่อสารྺ้อมูลྺอง๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
ระบบสื่อสารྺ้อมูลྺอง๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ระบบสื่อสารྺ้อมูลྺอง๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
ระบบสื่อสารྺ้อมูลྺอง๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Manas Panjai
สื่อการเรียน เรื่อง พัฒนาการของการติดต่อสื่อสาร
สื่อการเรียน เรื่อง พัฒนาการของการติดต่อสื่อสารสื่อการเรียน เรื่อง พัฒนาการของการติดต่อสื่อสาร
สื่อการเรียน เรื่อง พัฒนาการของการติดต่อสื่อสาร
Khunakon Thanatee
2.1 การสื่อสารผ่านระบบ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
2.1 การสื่อสารผ่านระบบ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์2.1 การสื่อสารผ่านระบบ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
2.1 การสื่อสารผ่านระบบ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
Siratcha Wongkom
Data communication and network
Data communication and networkData communication and network
Data communication and network
kamol
การสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูลการสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูล
Aqilla Madaka
บทที่ 1 ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
บทที่ 1 ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศบทที่ 1 ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
บทที่ 1 ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
peter dontoom
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หัวข้อที่1เส็ดแล้ว
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หัวข้อที่1เส็ดแล้วเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หัวข้อที่1เส็ดแล้ว
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หัวข้อที่1เส็ดแล้ว
frankenjay
บทที่ 6. การสื่อสารโทรคมนาคมและเครือข่าย
บทที่ 6. การสื่อสารโทรคมนาคมและเครือข่ายบทที่ 6. การสื่อสารโทรคมนาคมและเครือข่าย
บทที่ 6. การสื่อสารโทรคมนาคมและเครือข่าย
Pokypoky Leonardo
๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
delloov
2.1 พัฒนาการสื่อสารข้อมูล
2.1 พัฒนาการสื่อสารข้อมูล2.1 พัฒนาการสื่อสารข้อมูล
2.1 พัฒนาการสื่อสารข้อมูล
Meaw Sukee
การสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูลการสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูล
chukiat008
การสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูลการสื่อสารข้อมูล
การสื่อสารข้อมูล
chukiat008
บทบาทการสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
บทบาทการสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์บทบาทการสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
บทบาทการสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
ธีรภัฎ คำปู่
บทบาทการสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
บทบาทการสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์บทบาทการสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
บทบาทการสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
ธีรภัฎ คำปู่
การสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูล
การสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลการสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูล
การสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูล
Mareeyalosocity

More from อยู่ไหน เหงา (9)

ใบความรู้เรื่อง อินเตอร์เน็ต
ใบความรู้เรื่อง อินเตอร์เน็ตใบความรู้เรื่อง อินเตอร์เน็ต
ใบความรู้เรื่อง อินเตอร์เน็ต
อยู่ไหน เหงา
การสื่อสารข้อมูลสำหรับ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
การสื่อสารข้อมูลสำหรับ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์การสื่อสารข้อมูลสำหรับ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
การสื่อสารข้อมูลสำหรับ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อยู่ไหน เหงา
ซอฟต์แวร์และการใช้งาȨี่๶หมาะสม
ซอฟต์แวร์และการใช้งาȨี่๶หมาะสมซอฟต์แวร์และการใช้งาȨี่๶หมาะสม
ซอฟต์แวร์และการใช้งาȨี่๶หมาะสม
อยู่ไหน เหงา
ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์
ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์
ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์
อยู่ไหน เหงา
ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์
ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์
ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์
อยู่ไหน เหงา
ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์
ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์
ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์
อยู่ไหน เหงา
ใบความรู้หลักการ๶ลือกซื้อคอมพิว๶ตอร์
ใบความรู้หลักการ๶ลือกซื้อคอมพิว๶ตอร์ใบความรู้หลักการ๶ลือกซื้อคอมพิว๶ตอร์
ใบความรู้หลักการ๶ลือกซื้อคอมพิว๶ตอร์
อยู่ไหน เหงา
บทที่ 1 เรื่องหลักการทำงานและการเลือกใช้คอมพิวเตอร์
บทที่ 1 เรื่องหลักการทำงานและการเลือกใช้คอมพิวเตอร์บทที่ 1 เรื่องหลักการทำงานและการเลือกใช้คอมพิวเตอร์
บทที่ 1 เรื่องหลักการทำงานและการเลือกใช้คอมพิวเตอร์
อยู่ไหน เหงา
ใบความรู้เรื่อง อินเตอร์เน็ต
ใบความรู้เรื่อง อินเตอร์เน็ตใบความรู้เรื่อง อินเตอร์เน็ต
ใบความรู้เรื่อง อินเตอร์เน็ต
อยู่ไหน เหงา
การสื่อสารข้อมูลสำหรับ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
การสื่อสารข้อมูลสำหรับ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์การสื่อสารข้อมูลสำหรับ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
การสื่อสารข้อมูลสำหรับ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์
อยู่ไหน เหงา
ซอฟต์แวร์และการใช้งาȨี่๶หมาะสม
ซอฟต์แวร์และการใช้งาȨี่๶หมาะสมซอฟต์แวร์และการใช้งาȨี่๶หมาะสม
ซอฟต์แวร์และการใช้งาȨี่๶หมาะสม
อยู่ไหน เหงา
ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์
ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์
ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์
อยู่ไหน เหงา
ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์
ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์
ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์
อยู่ไหน เหงา
ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์
ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์
ความจำ๶ป็Ȩองการใช้ซอฟต์แวร์
อยู่ไหน เหงา
ใบความรู้หลักการ๶ลือกซื้อคอมพิว๶ตอร์
ใบความรู้หลักการ๶ลือกซื้อคอมพิว๶ตอร์ใบความรู้หลักการ๶ลือกซื้อคอมพิว๶ตอร์
ใบความรู้หลักการ๶ลือกซื้อคอมพิว๶ตอร์
อยู่ไหน เหงา
บทที่ 1 เรื่องหลักการทำงานและการเลือกใช้คอมพิวเตอร์
บทที่ 1 เรื่องหลักการทำงานและการเลือกใช้คอมพิวเตอร์บทที่ 1 เรื่องหลักการทำงานและการเลือกใช้คอมพิวเตอร์
บทที่ 1 เรื่องหลักการทำงานและการเลือกใช้คอมพิวเตอร์
อยู่ไหน เหงา

ใบความรู้ การสื่อสารข้อมูลสำหรับ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์

  • 1. ใบความรู้ การสื่อสารข้อมูลสาหรับ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ การสื่อสารข้อมูลสาหรับ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์  ความรู้เบื้องต้นของการสื่อสารสาหรับ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ ความรู้เบื้องต้นของการสื่อสารข้อมูลสาหรับ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ การสื่อสารข้อมูลเป็นการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความรู้สึกจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนหนึ่งโดยอาศัยสื่อหรือเครื่องมือต่างๆ เป็นช่องทางในการสื่อสาร เช่น การสื่อสารด้วยท่าทาง ถ้อยคา สัญลักษณ์ ภาพวาด จดหมาย โทรเลข เป็นต้น ต่อมาการสื่อ วารข้อมูลได้พัฒนาและก้าวหน้าไปอย่างต่อเนื่อง มีการนาเทคโนโลยีด้าน๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์มาประยุกต์ใช้ในการ ติดต่อสื่อสาร ทาให้การติดต่อสื่อสารเกิดความสะดวก รวดเร็ว รวมทั้งได้รับข่าวสารทันเหตุการณ์อีกด้วย องค์ประกอบของระบบสื่อสารข้อมูล การสื่อสารข้อมูลใน๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ มีองค์ประกอบ ดังนี้ 1. ข่าวสาร (message) ในทางเทคโนโลยีและการสื่อสาร ข่าวสารเป็นข้อมูลที่ผู้ส่งทาการส่งไปยังผู้รับผ่านระบบการสื่อสาร ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบ ดังต่อไปนี้
  • 2. 2. ผู้ส่ง (sender)เป็นอุปกรณ์ที่ทาหน้าที่ส่งข้อมูลที่อยู่ต้นทาง โดยข้อมูลต้องถูกจัดเตรียมนาเข้าสู่อุปกรณ์ส่งข้อมูล เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ โมเด็ม (modem) จานไมโครเวฟ จานดาวเทียม เป็นต้น 3. ผู้รับ (receiver) เป็นอุปกรณ์ที่ทาหน้าที่รับข้อมูลจากอุปกรณ์ส่งข้อมูล เช่น เครื่องพิมพ์คอมพิวเตอร์ โมเด็ม จานดาวเทียม เป็นต้น เพื่อนาข้อมูลไปใช้ประโยชน์ต่อไป 4. สื่อกลางหรือตัวกลาง (media) เป็นอุปกรณ์ที่ทาหน้าที่นาข่าวสารรูปแบบต่างๆจากผู้ส่งไปยังผู้รับ ได้แก่สายไฟ ขดลวด สายเคเบิล สายไฟเบอร์ออฟติก เป็นต้น สื่อกลางอาจจะอยู่ในรูปของคลื่นที่ส่งผ่านทางอากาศ เช่น คลื่นไมโครเวฟ คลื่น ดาวเทียม คลื่นวิทยุเป็นต้น 5. โพรโตคอล (protocol) เป็นตัวกาหนดคุณลักษณะ กฎระเบียบ หรือวิธีการที่ใช้ในการสื่อสาร เพื่อให้ผู้รับและผู้ส่งเข้าใจ กัน และสามารถสื่อสารกันได้อย่างถูกต้อง 6. ซอฟต์แวร์ (software) เป็นโปรแกรมสาหรับดาเนินการและควบคุมการส่งข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์เพื่อให้ได้ข้อมูลตามที่ กาหนดไว้ตัวอย่างซอฟต์แวร์ เช่นMicrosoft Windows XP/Vista/7, Unix , Internet Explorer , Windows Live Message เป็น ต้น
  • 3. ความหมายของการสื่อสารข้อมูลและ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ การสื่อสาร (communication) หมายถึง กระบวนการถ่ายทอดหรือแลกเปลี่ยนสารหรือสื่อระหว่างผู้ส่งกับผู้รับ โดยส่งผ่าน ช่องทางนาสารหรือสื่อ เพื่อให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน การสื่อสารข้อมูล (datacommunication) หมายถึง กระบวนการหรือวิธีถ่ายทอดข้อมูลระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ที่มักจะอยู่ ห่างไกลกัน และจาเป็นต้องอาศัยระบบการสื่อสารโทรคมนาคม (telecommunication) เป็นสื่อกลางในการรับส่งข้อมูล ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ (computer network) หมายถึง การเชื่อมโยงระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไป เพื่อให้ สามารถสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูล รวมทั้งสามารถใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ภายในเครือข่ายร่วมกันได้เช่น ฮาร์ดดิสก์ เครื่องพิมพ์เป็นต้น
  • 4.  การสื่อสารข้อมูล การสื่อสารข้อมูล (Data Communications) หมายถึง กระบวนการถ่ายโอนหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างผู้ส่ง และผู้รับ โดยผ่านช่องทางสื่อสาร เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือคอมพิวเตอร์เป็นตัวกลางในการส่งข้อมูล เพื่อให้ผู้ ส่งและผู้รับเกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน วิธีการส่งข้อมูล จะแปลงข้อมูลเป็นสัญญาณ หรือรหัสเสียก่อนแล้วจึงส่งไปยังผู้รับ และเมื่อถึงปลายทางหรือ ผู้รับก็จะต้องมีการแปลงสัญญาณนั้น กลับมาให้อยู่ในรูปที่มนุษย์สามารถที่จะเข้าใจได้ในระหว่างการส่งอาจจะมี อุปสรรค์ที่เกิดขึ้นก็คือ สิ่งรบกวน (Noise) จากภายนอกทาให้ข้อมูลบางส่วนเสียหาย หรือผิดเพี้ยนไปได้ซึ่งระยะทางก็ มีส่วนเกี่ยวข้อง ด้วยเพราะถ้าระยะทางในการส่งยิ่งมากก็อาจจะทาให้เกิดสิ่งรบกวนได้มากเช่นกัน จึงต้องมีหาวิธีลด สิ่งรบกวนเหล่านี้ โดยการพัฒนาตัวกลางในการสื่อสารที่จะทาให้เกิดการรบกวนน้อยที่สุด องค์ประกอบขั้นพื้นฐานของระบบสื่อสารโทรคมนาคม สามารถจาแนกออกเป็นส่วนประกอบได้ดังต่อไปนี้ 1. ผู้ส่งข่าวสารหรือแหล่งกาเนิดข่าวสาร (source) อาจจะเป็นสัญญาณต่าง ๆ เช่น สัญญาณภาพ ข้อมูล และเสียงเป็นต้น ในการติดต่อสื่อสารสมัยก่อนอาจจะใช้แสงไฟ ควันไฟ หรือท่าทางต่าง ๆ ก็นับว่าเป็น แหล่งกาเนิดข่าวสาร จัดอยู่ในหมวดหมู่นี้เช่นกัน 2. ผู้รับข่าวสารหรือจุดหมายปลายทางของข่าวสาร (sink) ซึ่งจะรับรู้จากสิ่งที่ผู้ส่งข่าวสาร หรือแหล่งกาเนิด ข่าวสารส่งผ่านมาให้ตราบใด ที่การติดต่อสื่อสารบรรลุวัตถุประสงค์ ผู้รับสารหรือจุดหมายปลายทางของข่าวสารก็จะได้รับข่าวสารนั้น ๆ ถ้าผู้รับ
  • 5. สารหรือ จุดหมายปลายทางไม่ได้รับ ข่าวสาร ก็แสดงว่าการสื่อสารนั้นไม่ประสบความสาเร็จ กล่าวคือไม่มีการสื่อสารเกิดขึ้นนั่นเอง ช่องสัญญาณ (channel) ในที่นี้อาจจะหมายถึงสื่อกลางหรือตัวกลางที่ข่าวสารเดินทางผ่าน อาจจะเป็นอากาศ สายนา สัญญาณต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งของเหลว เช่น น้า น้ามัน เป็นต้น เปรียบเสมือนเป็นสะพานที่จะให้ข่าวสารข้ามจาก ฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่ง 4. การเข้ารหัส (encoding) เป็นการช่วยให้ผู้ส่งข่าวสารและผู้รับข่าวสารมีความเข้าใจตรงกันในการสื่อ ความหมาย จึงมีความจาเป็นต้องแปลง ความหมายนี้ การเข้ารหัสจึงหมายถึงการแปลงข่าวสารให้อยู่ในรูปพลังงาน ที่พร้อมจะส่งไปในสื่อกลาง ทางผู้ส่งมี ความเข้าใจต้องตรงกันระหว่าง ผู้ส่งและผู้รับ หรือมีรหัสเดียวกัน การสื่อสารจึงเกิดขึ้นได้ 5. การถอดรหัส (decoding) หมายถึงการที่ผู้รับข่าวสารแปลงพลังงานจากสื่อกลางให้กลับไปอยู่ในรูป ข่าวสารที่ส่งมาจากผู้ส่งข่าวสาร โดยมีความเข้าในหรือรหัสตรงกัน 6. สัญญาณรบกวน (noise) เป็นสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติ มักจะลดทอนหรือรบกวนระบบ อาจจะเกิดขึ้นได้ทั้ง ทางด้านผู้ส่งข่าวสาร ผู้รับข่าวสาร และช่องสัญญาณ แต่ในการศึกษาขั้นพื้นฐานมักจะสมมติให้ทางด้านผู้ส่ง ข่าวสารและผู้รับข่าวสารไม่มีความผิดพลาด ตาแหน่งที่ใช้วิเคราะห์ มักจะเป็นที่ตัวกลางหรือช่องสัญญาณ เมื่อไรที่ รวมสัญญาณรบกวนด้านผู้ส่งข่าวสารและด้านผู้รับข่าวสาร ในทางปฎิบัติมักจะใช้วงจรกรอง (filter) กรองสัญญาณแต่ต้นทาง เพื่อให้การสื่อสารมีคุณภาพดียิ่งขึ้นแล้วค่อยดาเนินการ เช่น การเข้ารหัสแหล่งข้อมูล เป็น ต้น
  • 6. ข่ายการสื่อสารข้อมูล หมายถึง การรับส่งข้อมูลหรือสารสนเทศจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง โดยอาศัยระบบการส่งข้อมูล ทาง คลื่นไฟฟ้าหรือแสง อุปกรณ์ที่ประกอบเป็นระบบการสื่อสารข้อมูลโดยทั่วไปเรียกว่า ข่ายการสื่อสารข้อมูล (Data Communication Networks) องค์ประกอบพื้นฐาน 1. หน่วยส่งข้อมูล (Sending Unit) 2. ช่องทางการส่งข้อมูล (Transmisstion Channel) 3. หน่วยรับข้อมูล (Receiving Unit) วัตถุประสงค์หลักของการนาการสื่อการข้อมูลมาประยุกต์ใช้ในองค์การประกอบด้วย 1. เพื่อรับข้อมูลและสารสนเทศจากแหล่งกาเนิดข้อมูล 2. เพื่อส่งและกระจายข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว 3. เพื่อลดเวลาการทางาน 4. เพื่อการประหยัดค่าใช้จ่ายในการส่งข่าวสาร 5. เพื่อช่วยขยายการดาเนินการองค์การ 6. เพื่อช่วยปรับปรุงการบริหารขององค์การ
  • 7. ประโยชน์ของการสื่อสารข้อมูล1) การจัดเก็บข้อมูลได้ง่ายและสื่อสารได้รวดเร็ว การจัดเก็บซึ่อยู่ในรูปของสัญญาณ อิเล็กทรอนิกส์ สามารถจัดเก็บไว้ในแผ่นบันทึกที่มีความหนาแน่นสูง แผ่นบันทึกแผ่นหนึ่งสามารถบันทึกข้อมูลได้มากกกว่า 1 ล้านตัวอักษร สาหรับการสื่อสารข้อมูลนั้น ถ้าข้อมูลผ่าน สายโทรศัพท์ได้ในอัตรา 120 ตัวอักษร ต่อวินาทีแล้ว จะส่งข้อมูล 200 หน้าได้ในเวลา 40 นาที โดยไม่ต้องเสียเวลานั่งป้ อนข้อมูลเหล่านั้นซ้าใหม่อีก 2) ความถูกต้องของข้อมูล โดยปกติวิธีส่งข้อมูลด้วยสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งด้วยระบบ ดิจิตอล วิธีการส่งข้อมูลนั้นมีการตรวจสอบ สภาพของข้อมูล หากข้อมูลผิดพลาดก็จะมีการรับรู้ และพยายามหาวิธีแก้ไขให้ข้อมูลที่ได้รับมีความถูกต้อง โดยอาจ ให้ทาการส่งใหม่ หรือกรณีที่ผิดพลาด ไม่มากนัก ฝ่ายผู้รับอาจใช้โปรแกรมของตนแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องได้ 3) ความเร็วของการทางาน โดยปกติสัญญาณทางไฟฟ้าจะเดินทางด้วยความเร็วเท่าแสง ทาให้การใช้คอมพิวเตอร์ส่ง ข้อมูลจากซีกโลกหนึ่ง ไปยังอีกซีก โลกหนึ่ง หรือค้นหาข้อมูลจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ สามารถทาได้รวดเร็ว ความรวดเร็วของระบบทาให้ผู้ใช้ สะดวกสบายยิ่งขึ้น เช่น บริษัทสายการบินทุกแห่ง สามารถทราบข้อมูลของทุกเที่ยวบินได้อย่างรวดเร็ว ทาให้การจองที่นั่งของสายการบินสามารถทาได้ทันที 4) ต้นทุนประหยัด การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้าหากันเป็นเครือข่าย เพื่อส่งหรือสาเนาข้อมูล ทาให้ราคาต้นทุนของ การใช้ข้อมูลประหยัดขึ้น เมื่อเทียบกับการ จัดส่งแบบวิธีอื่น สามารถส่งข้อมูลให้กันและกันผ่านทางสายโทรศัพท์ได้
  • 8.  อุปกรณ์ที่สาคัญในระบบ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ บริดจ์ (Bridge) บริดจ์ (Bridge)เป็นอุปกรณ์ที่มักจะใช้ในการเชื่อมต่อวงแลน (LAN Segments)เข้าด้วยกัน ทาให้สามารถขยายขอบเขต ของ LAN ออกไปได้เรื่อยๆ โดยที่ประสิทธิภาพรวมของระบบ ไม่ลดลงมากนัก เนื่องจากการติดต่อของเครื่องที่อยู่ใน เซกเมนต์เดียวกันจะไม่ถูกส่งผ่าน ไปรบกวนการจราจรของเซกเมนต์อื่น และเนื่องจากบริดจ์เป็นอุปกรณ์ที่ทางานอยู่ใน ระดับ Data Link Layer จึงทาให้สามารถใช้ในการเชื่อมต่อเครือข่ายที่แตกต่างกันในระดับ Physical และData Link ได้เช่น ระหว่าง Eternet กับ Token Ring เป็นต้น เราเตอร์ (Router) เราเตอร์ (Router)เป็นอุปรณ์ที่ทาหน้าที่ในเลเยอร์ที่ 3 เราท์เตอร์จะอ่านที่อยู่(Address) ของสถานีปลายทางที่ส่วนหัว (Header) ข้อแพ็กเก็ตข้อมูล เพื่อที่จะกาหนดและส่งแพ็กเก็ตต่อไป เราท์เตอร์จะมีตัวจัดเส้นทางในแพ็กเก็ต เรียกว่า เราติ้งเท เบิ์ล (Routing Table) หรือตารางจัดเส้นทางนอกจากนี้ยังส่งข้อมูลไปยังเครือาข่ายที่ให้โพรโทคอลต่างกันได้เช่น IP (Internet Protocol) , IPX (Internet Package Exchange) และ AppleTalk นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับเครือข่ายอื่นได้เช่น เครือข่ายอินเทอร์เน็ต
  • 9. สวิตซ์ (Switch) สวิตซ์ (Switch)คืออุปกรณ์เครือข่ายที่ทาหน้าที่ในเรเยอร์ที่ 2 และทาหน้าที่ส่งข้อมูลที่ได้รับมาจากพอร์ตหนึ่งไปยังพอร์ต เฉพาะที่เป็นปลายทางเท่านั้น และทาให้คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับพอร์ตที่เหลือส่งข้อมูลถึงกันในเวลาเดียวกัน ดังนั้น อัตรา การรับส่งข้อมูลหรือแบนด์วิธจึงไม่ขึ้นอยู่กับคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันนิยมเชื่อมต่อแบบนี้มากกว่าฮับเพราะลดปัญหาการชน การของข้อมูล ฮับ (HUB) ฮับ (HUB)หรือ เรียก รีพีทเตอร์ (Repeater) คืออุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อกลุ่มคอมพิวเตอร์ ฮับ มีหน้าที่รับส่งเฟรมข้อมูลทุกเฟรม ที่ได้รับจากพอร์ตใดพอร์ตหนึ่ง ไปยังพอร์ตที่เหลือ คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเข้ากับฮับจะแชร์แบนด์วิธหรืออัตราข้อมูลของ เครือข่าย เพราะฉะนั้นถ้ามีคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อมากจะทาให้อัตราการส่งข้อมูลลดลง ไคลเอนต์(Client) ไคลเอนต์(Client)หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เครื่องลูกข่าย เป็นคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายที่ร้องขอ บริการและเข้าถึง ไฟล์ข้อมูลที่จัดเก็บในเซิร์ฟเวอร์ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ไคลเอนต์เป็นคอมพิวเตอร์ ของผู้ใช้แต่ละคนในระบบเครือข่าย เซิร์ฟเวอร์ (Server)
  • 10. เซิร์ฟเวอร์ (Server)หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เครื่องแม่ข่าย เป็นเครื่องคอมพิวเตอร์หลักในเครือข่าย ที่ทาหน้าที่จัดเก็บและ ให้บริการไฟล์ข้อมูลและทรัพยากรอื่นๆ กับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ใน เครือข่าย โดยปกติคอมพิวเตอร์ที่นามาใช้เป็น เซิร์ฟเวอร์มักจะเป็นเครื่องที่มีสมรรถนะสูง และ มีฮาร์ดดิกส์ความจาสูงกว่าคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ในเครือข่าย  ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ การที่ระบบเครือข่ายมีบทบาทและความสาคัญเพิ่มขึ้น เพราะไมโครคอมพิวเตอร์ได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลาย จึงเกิด ความต้องการที่จะเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เหล่านั้นถึงกับเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของระบบให้สูงขึ้น เพิ่มการใช้งานด้านต่าง ๆ และลดต้นทุนระบบโดยรวมลง มีการแบ่งใช้งานอุปกรณ์และข้อมูลต่าง ๆ ตลอดจนสามารถทางานร่วมกันได้สิ่งสาคัญ ที่ทาให้ระบบข้อมูลมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้น คือ การโอนย้ายข้อมูลระหว่างกัน และการเชื่อมต่อหรือการสื่อสาร การ โอนย้ายข้อมูลหมายถึงการนาข้อมูลมาแบ่งกันใช้งาน หรือการนาข้อมูลไปใช้ประมวลผลในลักษณะแบ่งกันใช้ทรัพยากร เช่น แบ่งกันใช้ซีพียูแบ่งกันใช้ฮาร์ดดิสก์ แบ่งกันใช้โปรแกรม และแบ่งกันใช้อุปกรณ์อื่น ๆ ที่มีราคาแพงหรือไม่สามารถ จัดหาให้ทุกคนได้การเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เป็นเครือข่ายจึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานให้กว้างขวางและมากขึ้น จากเดิมการเชื่อมต่อในความหมายของระบบเครือข่ายท้องถิ่น ไม่ได้จากัดอยู่ที่การเชื่อมต่อระหว่างเครื่อง
  • 11. ไมโครคอมพิวเตอร์ แต่ยังรวมไปถึงการเชื่อมต่ออุปกรณ์รอบข้าง เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าทาให้การทางานเฉพาะมีขอบเขต กว้างขวางยิ่งขึ้น มีการใช้เครื่องบริการแฟ้มข้อมูลเป็นที่เก็บรวบควมแฟ้มข้อมูลต่างๆ มีการทาฐานข้อมูลกลาง มีหน่วย จัดการระบบสือสารหน่วยบริการใช้เครื่องพิมพ์หน่วยบริการการใช้ซีดี หน่วยบริการปลายทาง และอุปกรณ์ประกอบ สาหรับต่อเข้าในระบบเครือข่ายเพื่อจะทางานเฉพาะเจาะจงอย่างใดอย่างหนึ่ง ในรูป เป็นตัวอย่าง๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ที่ จัดกลุ่มเชื่อมโยงเป็นระบบ ตัวอย่าง๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ที่จัดกลุ่มอุปกรณ์รอบข้างเชื่อมโยงเป็นระบบ ๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ก่อให้เกิดความสามารถในการปฎิบัติการร่วมกัน ซึ่งหมายถึงการให้อุปกรณ์ทุกชิ้นที่ต่ออยู่บน เครือข่ายทางานร่วมกันได้ทั้งหมดในลักษณะที่ประสานรวมกัน โดยผู้ใช้เห็นเสมือนใช้งานในอุปกรณ์เดียวกัน จึงเป็น วิธีการในการนาเอาอุปกรณ์ต่างชนิดจานวนมาก มารวมกันเป็นเสมือนระบบเดียวกัน ทั้ง ๆ ที่อุปกรณ์เหล่านั้นอาจจะมาจาก ต่างยี่ห้อ ต่างบริษัท ก็ได้  ประโยชน์๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์ เครือข่ายที่ทางานรวมกันเป็นกลุ่มงาน เรียกว่า Workgroup เมื่อเชื่อมโยงหลาย ๆ กลุ่มงานเข้าด้วยกันจะเป็นเครือข่ายของ องค์กร จะเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ สามารถประยุกต์ใช้งานได้อย่างกว้างขวางโดย๶ครือข่ายคอมพิว๶ตอร์จะเกิดการ เชื่อมโยงอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าด้วยกันและสื่อสารถึงกันได้ เช่น 1. การใช้ฐานข้อมูลร่วมกัน เครือข่ายที่ให้บริการเก็บข่าวสาร ตัวเลขหรือข้อมูลใช้งานจะใช้ฐานข้อมูลเดียวกันได้ เช่น ราคา สินค้า บัญชีสินค้า ฯลฯ 2. การแบ่งปันทรัพยากรในเครือข่าย อุปกรณ์ต่าง ๆ ใช้ร่วมกันได้ เช่น การพิมพ์เอกสารจะใช้เครื่องพิมพ์เครื่องเดียวกับ คอมพิวเตอร์เครือข่ายหลายเครื่องก็ได้เป็นต้น
  • 12. 3. การติดต่อสื่อสารระหว่างกันบนเครือข่าย เมื่อมีการเชื่อมโยงสถานีงานเข้าด้วยกันก็จะสามารถโอนย้ายข้อมูลระหว่างกัน ได้ การดาเนินการต่าง ๆ ควรเป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่ฝ่ายบริหารเครือข่ายขององค์กรได้กาหนดไว้ 4. สานักงานอัตโนมัติ แนวคิดคือต้องการลดการใช้กระดาษ หันมาใช้ระบบการทางานด้วยคอมพิวเตอร์ที่แลกเปลี่ยนข้อมูล ระหว่างกันได้ทันที โดยการใช้สัญญาณอิเลคทรอนิกส์แทน จะทาให้การทางานคล่องตัวและรวดเร็ว การใช้งานเครือข่ายยังมีการประยุกต์ได้หลายอย่างตั้งแต่ การโอนย้ายแฟ้มข้อมูลระหว่างกัน การทางานเป็นกลุ่ม การใช้ ทรัพยากรร่วมกัน การนัดหมายการส่งงาน แม้แต่ในห้องเรียนก็ใช้เครือข่ายเพื่อการเรียนการสอน ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้ เรียกค้นข้อมูลเป็นต้น