ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
2
Most read
5
Most read
6
Most read
บทที่ 1
ประวัติของดนตรีสากล
การสืบสาวเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นมาของดนตรีตั้งแต่สมัยโบราณมา
นับว่าเป็นเรื่องยากที่จะให้ได้เรื่องราว สมัยของการรู้จักใช้อักษรหรือสัญลักษณ์อื่น ๆ พึ่ง
จะมีปรากฏและเริ่มนิยมใช้กันในสมัยเริ่มต้นของยุค Middle age คือระหว่างศตวรรษที่
5-6 และการบันทึกมีเพียงเครื่องหมายแสดงเพียงระดับของเสียง และจังหวะ
(Pitch and Time) ดนตรีเกิดขึ้นมาในโลกพร้อม ๆ กับมนุษย์เรานั่นเอง ในยุคแรก ๆ
มนุษย์อาศัยอยู่ในป่าดง ในถ้า ในโพรงไม้ แต่ก็รู้จักการร้องราทาเพลงตาม
ธรรมชาติ เช่นรู้จักปรบมือ เคาะหิน เคาะไม้เป่าปาก เป่าเขา และเปล่งเสียงร้องตาม
เรื่อง การร้องราทาเพลงทาไปเพื่ออ้อนวอนพระเจ้าเพื่อช่วยให้ตนพ้นภัยบันดาลความสุข
ความอุดมสมบูรณ์ต่าง ๆ ให้แก่ตนหรือเป็นการบูชาแสดงความขอบคุณพระเจ้าที่บันดาล
ให้ตนมีความสุขความสบาย
โลกได้ผ่านหลายยุคหลายสมัย ดนตรีได้วิวัฒนาการไปตามความเจริญและ
ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ เครื่องดนตรีที่เคยใช้ในสมัยเริ่มแรกก็มีการวิวัฒนาการ
มาเป็นขั้น ๆ กลายเป็นเครื่องดนตรีที่เราเห็นอยู่ทุกวัน เพลงที่ร้องเพื่ออ้อนวอนพระ
เจ้า ก็กลายมาเป็นเพลงสวดทางศาสนาและเพลงร้อง ในระยะแรกดนตรีมีเพียงเสียง
เดียวและแนวเดียวเท่านั้นเรียกว่า Melody ไม่มีการประสานเสียง จนถึงศตวรรษที่
12 มนุษย์เราเริ่มรู้จักการใช้เสียงต่าง ๆ มาประสานกันอย่างง่าย ๆ เกิดเป็นดนตรีหลาย
เสียงขึ้นมา

6
ดนตรีสากล มีประวัติความเป็นมาและ
วิวัฒนาการที่ยาวนาน แสดงถึงความ
เจริญรุ่งเรืองทาง วัฒนธรรมของชาติ
ตะวันตกซึ่งเป็นที่นิยมและยอมรับกันทั่วโลก
ใน การศึกษาดนตรีสากล เพื่อความรู้ ความ
เข้าใจ และความซาบซึ้งในดนตรีตะวันตก จึง
จาเป็นจะต้องศึกษาวิวัฒนาการของดนตรี
สากลในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. ยุคกลาง (Middle Age) ค.ศ.500-1400
บทเพลงส่วนใหญ่เป็นเพลงร้องที่ใช้ในโบสถ์เพื่อสรรเสริญพระเจ้า
เพียงอย่างเดียว โดยบางครั้งอาจเป็นการร้องสอดประสานกันบ้างประมาณ 2-3 แนว ใน
ปลายยุค และยังไม่พบการบรรเลงที่เป็นรูปแบบมาตรฐานอย่างเด่นชัด
2. ยุคเรอเนสซองซ์หรือยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance) ค.ศ.1400-1600
บทเพลงในยุคนี้เริ่มมีการผสมผสานระหว่างเพลงพื้นฐานกับเพลงที่ใช้ใน
โบสถ์โดยการนาเอาเทคนิคการประพันธ์เพลงพื้นบ้านมาประยุกต์ใช้กับเพลงสวด ทา
ให้เกิดการนาเอาเครื่องดนตรีบางชนิดเข้ามาประกอบในเพลงสวดที่ใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ
เช่น ออร์แกน ฮาร์ฟซิคอร์ด เป็นต้น
3. ยุคบาโรก (Baroque) ค.ศ.1600-1750
เครื่องดนตรีได้รับการพัฒนาจึงทาให้นักดนตรีมีความสามารถในการบรรเลง
อย่างมาก จึงทาให้ยุคนี้มีประเภทการบรรเลงดนตรีที่หลากหลายมากขึ้น เช่น โซนาตา
คอนแชร์โต โอเปรา เป็นต้น เริ่มมีการผสมวงออร์เคสตรา เพื่อใช้ประกอบการแสดง
ละครเพลงหรือโอเปรา (Opera) แต่ลักษณะการผสมวงของเครื่องดนตรียังไม่มี
การกาหนดที่แน่นอน นอกจากนี้เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายยังได้รับการพัฒนาอย่าง
มาก
7
4. ยุคคลาสสิก (The Classical Era) ค.ศ. 1750-1820
เครื่องดนตรีมีวิวัฒนาการมาจนสมบูรณ์ที่สุด เริ่มมีการผสมวงที่กาหนด
แน่นอนว่าเป็นวงเล็กหรือใหญ่ คือ วงแชมเบอร์มิวสิก และวงออร์เคสตราในการจัดวง
ออร์เคสตราใช้เครื่องดนตรีครบทุกประเภท คือ เครื่องสาย เครื่องเป่าลมไม้เครื่องเป่าลม
ทองเหลือง และเครื่องตี วงออร์เคสตรา ในยุคนี้ถือได้ว่ามีรูปแบบที่ใช้เป็นแบบแผนมา
จนถึงปัจจุบัน
5. ยุคโรแมนติก (The Romantic Era) ค.ศ. 1820-1900
ในยุคนี้ เปียโนเป็นเครื่องดนตรีที่ได้รับ
การพัฒนารูปร่างจนสามารถบรรเลงด้วยวิธีการ
และเทคนิคต่าง ๆ ที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี
ในส่วนของการผสมวงออร์เคสตรา ยังคงใช้
หลักการผสมวงออร์เคสตราตามยุคคลาสสิก และ
เพิ่มขนาดโดยการเพิ่มจานวนเครื่องดนตรีให้มี
ความยิ่งใหญ่ขึ้น เพื่อให้อารมณ์ของบทเพลง
มีความหลากหลายและสามารถสื่อถึงผู้ฟังได้อย่างเด่นชัด
6. ยุคศตวรรษที่ 20 ค.ศ.1900-ปัจจุบัน
รูปแบบดนตรีมีการผสมผสานรูปแบบใหม่ขึ้น ซึ่งมีการนาเสียงจากเครื่อง
อิเล็กทรอนิกส์มาใช้เป็นเครื่องดนตรีด้วย ส่วนดนตรีในรูปแบบดนตรีคลาสสิกก็ยังคงใช้
รูปแบบการผสมวงตามยุคคลาสสิก ซึ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่จะเน้นที่รูปแบบ
การประพันธ์เพลงมากกว่า และในยุคนี้เริ่มมีวงดนตรีผสมผสานรูปแบบใหม่ซึ่งเป็น
รูปแบบวงดนตรีที่ผสมผสานระหว่าง แอฟริกาตะวันตก อเมริกาและยุโรป ที่เรียกว่าวง
ดนตรีแจ๊ส (Jazz) เครื่องดนตรีที่ใช้ในวงมักประกอบด้วย ทรัมเป็ต คลาริเน็ต ทรอมโบน
ทูบา และกลองประเภทต่าง ๆ เป็นต้น
8
บทเพลงสากลในยุคต่าง ๆ
1. ยุคกลาง (Middle Age) ค.ศ. 500-1400
บทเพลงที่ปรากฏในยุคนี้ คือ เพลงสวด (Chant) ซึ่งเป็นบทเพลงที่ใช้ใน
พิธีกรรม เป็นบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ใช้เป็นสื่อกลางในการติดต่อกับพระผู้เป็นเจ้า เนื้อหาของ
เพลงจะเป็นการสวดอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า ภาษาที่ใช้ในบทเพลงร้องส่วนใหญ่ คือ
ภาษาละติน ในระยะแรก เพลงสวดเป็นการร้องแนวเดียวไม่มีดนตรีประกอบไม่มีอัตรา
จังหวะและจะใช้เสียงเอื้อนในการทาทานองไปไม่มีกาหนดกฎเกณฑ์ที่ตายตัว ต่อมา
ในระยะหลัง ๆ เริ่มพัฒนาการร้องให้มีแนวการร้องสองประสาน เป็นเพลงร้องสองแนว
และเริ่มที่จะมีอัตราจังหวะที่แน่นอน จนกลายเป็นรูปแบบการร้องประสานเสียง
ที่มากกว่า 2 แนวขึ้นไป
2. ยุคเรอเนสซองซ์หรือยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)ค.ศ.1400-1600
ดนตรียังคงเป็นลักษณะสอดประสานทานองโดยมีการล้อกันของแนวทานอง
ที่เหมือนกันรูปแบบการประพันธ์เพลงมีมากขึ้น ในยุคนี้ยังเน้นการร้องเป็นพิเศษสาหรับ
ดนตรีคฤหัสถ์(ดนตรีประชาชนทั่วไป) เริ่มมีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งมักเป็น
เพลงร้องประกอบดนตรี
3. ยุคบาโรก (Baroque) ค.ศ. 1600-1750
บทเพลงบรรเลงมีความสาคัญเทียบเท่ากับบทเพลงร้อง เนื่องจากเครื่องดนตรี
มีการพัฒนาทั้งรูปแบบและเสียง รูปแบบการประพันธ์เพลงในยุคนี้มีการพัฒนาและ
ปรับปรุงจนมีลักษณะเด่นชัด โดยเฉพาะคอนแชร์โต (Concerto) ตัวบทเพลงประชัน
ระหว่างเครื่องดนตรีประเภทเดี่ยวกับวงดนตรี ซึ่งแสดงความสามารถของผู้บรรเลงได้
เป็นอย่างดี บทเพลง Concerto ที่ได้รับความนิยมคือ The Four Season ของ วิวัลดี และยุค
นี้เป็นจุดเริ่มต้นของบทเพลงบรรเลงประเภทต่าง ๆ
9
4. ยุคคลาสสิก (The Classic Era) ค.ศ. 1750-1820
เป็นยุคที่สาคัญมากของดนตรีตะวันตก เนื่องจากรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
การประพันธ์เพลง การผสมวง หรือบทเพลงบรรเลงมีความเป็นแบบแผนอย่างมาก
รูปแบบการประพันธ์บทเพลงในยุคนี้ได้แก่ โซนาตา คอนแชร์โต ซิมโฟนี และการ
ผสมวงได้แก่ วงแชมเบอร์มิวสิกและออร์เคสตรา ทุกอย่างล้วนจัดให้มีมาตรฐานทั้งสิ้น
นอกจากนี้ ละครร้องหรือโอเปรา (Opera) ก็ได้รับการพัฒนาจนได้รับความนิยมทั่วไป
5. ยุคโรแมนติก (The Romantic Era) ค.ศ. 1820-1900
ยุคนี้เป็นยุคที่นาหลักการของยุคคลาสสิกมาใช้ผสมผสานกับการใส่อารมณ์
ความรู้สึกเข้าไปในบทเพลงทาให้บทเพลงมีความไพเราะ สง่างาม อ่อนหวานใน
ขณะหนึ่งก็สะเทือนอารมณ์ของผู้ฟังได้เช่นกันสาหรับวงออร์เคสตรามีการเพิ่มขนาดของ
วงให้ใหญ่ขึ้น เพื่อความสมบูรณ์แบบของเสียงในวงดนตรี ยุคนี้ทานองของบทเพลงเน้น
แนวทานองหลักและใช้การประสานเสียงเพื่อให้มีความไพเราะ บทเพลงที่นิยมในยุคนี้
คือ ดนตรีบรรยายเรื่องราว คีตกวีที่สาคัญในยุคนี้คือ เบโธเฟน
6. ยุคศตวรรษที่ 20 ค.ศ. 1900-ปัจจุบัน
ยุคนี้เป็นยุคเปลี่ยนแปลงดนตรีชาติตะวันตก มีการเน้นรูปแบบจังหวะมากขึ้น
และบันไดเสียงเริ่มมีการใช้บันไดเสียง 12 เสียง หลักการในการประพันธ์บทเพลง
มีความแตกต่างจากยุคก่อนนี้ เริ่มมีการประสานเสียงทาให้ฟังแล้วรู้สึกไม่สบายหู เริ่มมี
การทดลองทฤษฎีแปลก ๆ ใหม่ ๆ ซึ่งทาให้กฎเกณฑ์ทางดนตรีมีความหลากหลาย ถือได้
ว่ายุคนี้เป็นยุคการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง
มากมายตามที่ได้พบเห็นในปัจจุบัน
10
ขนบธรรมเนียมประเพณีของแต่ละชาติ ศาสนา โดยเฉพาะดนตรีตะวันตก นับว่า
มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับศาสนามาก บทเพลงที่เกี่ยวกับศาสนาหรือเรียกว่าเพลงวัดนั้น
ได้แต่งขึ้นอย่างถูกหลักเกณฑ์ตามหลักวิชาการดนตรี ผู้แต่งเพลงวัดต้องมีความรู้
ความสามารถสูง เพราะต้องแต่งขึ้นให้สามารถโน้มน้าวจิตใจผู้ฟังให้นิยมเลื่อมใสใน
ศาสนามากขึ้น ดังนั้นบทเพลงสวดในศาสนาคริสต์จึงมีเสียงดนตรีประโคม
ประกอบการสวดมนต์ เมื่อมีบทเพลงเกี่ยวกับศาสนามากขึ้นเพื่อเป็นการป้องกันการลืม
จึงได้มีผู้ประดิษฐ์สัญลักษณ์ต่าง ๆ แทนทานอง เมื่อประมาณ ค.ศ. 1000 สัญลักษณ์
ดังกล่าว คือ ตัวโน้ต (Note) นั่นเอง โน้ตเพลงที่ใช้ในหลักวิชาดนตรีเบื้องต้นเป็นเสียงโด
เร มี นั้น เป็นคาสวดในภาษาละติน จึงกล่าวได้ว่าวิชาดนตรีมีจุดกาเนิดมาจากวัดหรือ
ศาสนา ซึ่งในยุโรปนั้นถือว่าเพลงเกี่ยวกับศาสนานั้นเป็นเพลงชั้นสูงสุด
11

Recommended

ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากล
leemeanshun minzstar
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากล.pdf
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากล.pdf
เวียงพิงค์ พิงค์ลดา
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงึϸตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 4 เรื่อง ประเภทของวงึϸตรีสากล
leemeanshun minzstar
สารคดีชีวประวัติ วาทิตย์ ขุราษี "โต้ง"
สารคดีชีวประวัติ วาทิตย์ ขุราษี "โต้ง"
สุพัตรา ไร่อำไพ
โวหารภาพพจȨ
โวหารภาพพจȨ
krubuatoom
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 7 เรื่อง โน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 7 เรื่อง โน้ตสากล
leemeanxun
แบบทดสอบวิชาดนตรี เรื่องยุคสมัยของดนตรีตะวันตก
แบบทดสอบวิชาดนตรี เรื่องยุคสมัยของดนตรีตะวันตก
peter dontoom
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล
leemeanxun
คำอธิบายรายวิชาดนตรี นาฎศิลป์ ม.6
คำอธิบายรายวิชาดนตรี นาฎศิลป์ ม.6
อำนาจ ศรีทิม
เล่มที่ 6 สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
เล่มที่ 6 สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
Choengchai Rattanachai
คำขอขมาพระอาจารย์และครูอาจารย์
คำขอขมาพระอาจารย์และครูอาจารย์
niralai
ลักษณะ๶ึϹȨองึϸตรีใȨต่ละวัոธรรม
ลักษณะ๶ึϹȨองึϸตรีใȨต่ละวัոธรรม
อำนาจ ศรีทิม
พัոาการของอาณาจักรธȨุรี
พัոาการของอาณาจักรธȨุรี
พัน พัน
แบบฝึกป.3คณิตศาสตร์ แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์
แบบฝึกป.3คณิตศาสตร์ แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์
LukmiHlaksi
แบบฝึกเสริมทักษะ ชุด มาตราตัวสะกด ป4
แบบฝึกเสริมทักษะ ชุด มาตราตัวสะกด ป4
Itt Bandhudhara
แบบทดสอบศิลปะ ม.ต้น (2)
แบบทดสอบศิลปะ ม.ต้น (2)
peter dontoom
โวหารการเขียน ม.6
โวหารการเขียน ม.6
WijittraSreepraram
ศาสนาเปรียบเทียบ
ศาสนาเปรียบเทียบ
thnaporn999
การเป่าเมโลเดี้ยน บทที่ 1
การเป่าเมโลเดี้ยน บทที่ 1
gueste0411f21
๶ครื่องึϸตรีสากล
๶ครื่องึϸตรีสากล
พัน พัน
บรรทัด 5 เส้น (Staff)
บรรทัด 5 เส้น (Staff)
first1122
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากล
sangkeetwittaya stourajini
บัญชีคำพื้นฐาน ระดับมัธยมศึกษา
บัญชีคำพื้นฐาน ระดับมัธยมศึกษา
VichakarnTNS
๶พลงหȨมาลี
๶พลงหȨมาลี
Teach Singing
วิวัոาการการศึกษาไทยและการศึกษาโลก
วิวัոาการการศึกษาไทยและการศึกษาโลก
Chainarong Maharak
คำศัพท์ทางทัศนศิลป์สำหรับใช้บรรยายผลงาȨางทัศนศิลป์
คำศัพท์ทางทัศนศิลป์สำหรับใช้บรรยายผลงาȨางทัศนศิลป์
พัน พัน
สคริปบทสารคดี ตลาดสามชุก
สคริปบทสารคดี ตลาดสามชุก
Ruzz Vimolrut
สังคีตวิทยา.dz
สังคีตวิทยา.dz
pinglada1
บทที่ 2 ดนตรี
บทที่ 2 ดนตรี
peter dontoom

More Related Content

What's hot (20)

ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล
leemeanxun
คำอธิบายรายวิชาดนตรี นาฎศิลป์ ม.6
คำอธิบายรายวิชาดนตรี นาฎศิลป์ ม.6
อำนาจ ศรีทิม
เล่มที่ 6 สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
เล่มที่ 6 สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
Choengchai Rattanachai
คำขอขมาพระอาจารย์และครูอาจารย์
คำขอขมาพระอาจารย์และครูอาจารย์
niralai
ลักษณะ๶ึϹȨองึϸตรีใȨต่ละวัոธรรม
ลักษณะ๶ึϹȨองึϸตรีใȨต่ละวัոธรรม
อำนาจ ศรีทิม
พัոาการของอาณาจักรธȨุรี
พัոาการของอาณาจักรธȨุรี
พัน พัน
แบบฝึกป.3คณิตศาสตร์ แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์
แบบฝึกป.3คณิตศาสตร์ แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์
LukmiHlaksi
แบบฝึกเสริมทักษะ ชุด มาตราตัวสะกด ป4
แบบฝึกเสริมทักษะ ชุด มาตราตัวสะกด ป4
Itt Bandhudhara
แบบทดสอบศิลปะ ม.ต้น (2)
แบบทดสอบศิลปะ ม.ต้น (2)
peter dontoom
โวหารการเขียน ม.6
โวหารการเขียน ม.6
WijittraSreepraram
ศาสนาเปรียบเทียบ
ศาสนาเปรียบเทียบ
thnaporn999
การเป่าเมโลเดี้ยน บทที่ 1
การเป่าเมโลเดี้ยน บทที่ 1
gueste0411f21
๶ครื่องึϸตรีสากล
๶ครื่องึϸตรีสากล
พัน พัน
บรรทัด 5 เส้น (Staff)
บรรทัด 5 เส้น (Staff)
first1122
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากล
sangkeetwittaya stourajini
บัญชีคำพื้นฐาน ระดับมัธยมศึกษา
บัญชีคำพื้นฐาน ระดับมัธยมศึกษา
VichakarnTNS
๶พลงหȨมาลี
๶พลงหȨมาลี
Teach Singing
วิวัոาการการศึกษาไทยและการศึกษาโลก
วิวัոาการการศึกษาไทยและการศึกษาโลก
Chainarong Maharak
คำศัพท์ทางทัศนศิลป์สำหรับใช้บรรยายผลงาȨางทัศนศิลป์
คำศัพท์ทางทัศนศิลป์สำหรับใช้บรรยายผลงาȨางทัศนศิลป์
พัน พัน
สคริปบทสารคดี ตลาดสามชุก
สคริปบทสารคดี ตลาดสามชุก
Ruzz Vimolrut
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล
leemeanxun
คำอธิบายรายวิชาดนตรี นาฎศิลป์ ม.6
คำอธิบายรายวิชาดนตรี นาฎศิลป์ ม.6
อำนาจ ศรีทิม
เล่มที่ 6 สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
เล่มที่ 6 สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
Choengchai Rattanachai
คำขอขมาพระอาจารย์และครูอาจารย์
คำขอขมาพระอาจารย์และครูอาจารย์
niralai
ลักษณะ๶ึϹȨองึϸตรีใȨต่ละวัոธรรม
ลักษณะ๶ึϹȨองึϸตรีใȨต่ละวัոธรรม
อำนาจ ศรีทิม
พัոาการของอาณาจักรธȨุรี
พัոาการของอาณาจักรธȨุรี
พัน พัน
แบบฝึกป.3คณิตศาสตร์ แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์
แบบฝึกป.3คณิตศาสตร์ แบบฝึกเสริมทักษะคณิตศาสตร์
LukmiHlaksi
แบบฝึกเสริมทักษะ ชุด มาตราตัวสะกด ป4
แบบฝึกเสริมทักษะ ชุด มาตราตัวสะกด ป4
Itt Bandhudhara
แบบทดสอบศิลปะ ม.ต้น (2)
แบบทดสอบศิลปะ ม.ต้น (2)
peter dontoom
โวหารการเขียน ม.6
โวหารการเขียน ม.6
WijittraSreepraram
ศาสนาเปรียบเทียบ
ศาสนาเปรียบเทียบ
thnaporn999
การเป่าเมโลเดี้ยน บทที่ 1
การเป่าเมโลเดี้ยน บทที่ 1
gueste0411f21
๶ครื่องึϸตรีสากล
๶ครื่องึϸตรีสากล
พัน พัน
บรรทัด 5 เส้น (Staff)
บรรทัด 5 เส้น (Staff)
first1122
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากล
sangkeetwittaya stourajini
บัญชีคำพื้นฐาน ระดับมัธยมศึกษา
บัญชีคำพื้นฐาน ระดับมัธยมศึกษา
VichakarnTNS
๶พลงหȨมาลี
๶พลงหȨมาลี
Teach Singing
วิวัոาการการศึกษาไทยและการศึกษาโลก
วิวัոาการการศึกษาไทยและการศึกษาโลก
Chainarong Maharak
คำศัพท์ทางทัศนศิลป์สำหรับใช้บรรยายผลงาȨางทัศนศิลป์
คำศัพท์ทางทัศนศิลป์สำหรับใช้บรรยายผลงาȨางทัศนศิลป์
พัน พัน
สคริปบทสารคดี ตลาดสามชุก
สคริปบทสารคดี ตลาดสามชุก
Ruzz Vimolrut

Similar to ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากล (20)

สังคีตวิทยา.dz
สังคีตวิทยา.dz
pinglada1
บทที่ 2 ดนตรี
บทที่ 2 ดนตรี
peter dontoom
เพลงคลาสสิค (Classical music)
เพลงคลาสสิค (Classical music)
Float Jo
๶อกสารสังคีตนิยม
๶อกสารสังคีตนิยม
Ruz' Glaow
ยุคกลาง.ٳ
ยุคกลาง.ٳ
PariphonDinlansagoon
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล.pdf
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล.pdf
PingladaPingladaz
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล
sangkeetwittaya stourajini
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล
leemeanshun minzstar
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล
leemeanshun minzstar
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล.pdf
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล.pdf
เวียงพิงค์ พิงค์ลดา
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล.pdf
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล.pdf
pinglada
9789740328308
9789740328308
CUPress
E learning หน่วยที่ 2 ดนตรีตะวันตก
E learning หน่วยที่ 2 ดนตรีตะวันตก
บ.บีม ลพบุรี
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 2 เรื่่อง องค์ประกอบึϸตรีสากล.pdf
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 2 เรื่่อง องค์ประกอบึϸตรีสากล.pdf
PingladaPingladaz
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 2 เรื่่อง องค์ประกอบึϸตรีสากล.pdf
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 2 เรื่่อง องค์ประกอบึϸตรีสากล.pdf
เวียงพิงค์ พิงค์ลดา
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 2 เรื่่อง องค์ประกอบึϸตรีสากล.pdf
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 2 เรื่่อง องค์ประกอบึϸตรีสากล.pdf
pinglada
บทที่ 2 ดนตรีกศน
บทที่ 2 ดนตรีกศน
peter dontoom
ประวัติความเป็Ȩาྺองกีตาร์
ประวัติความเป็Ȩาྺองกีตาร์
kruood
สังคีตวิทยา.dz
สังคีตวิทยา.dz
pinglada1
บทที่ 2 ดนตรี
บทที่ 2 ดนตรี
peter dontoom
เพลงคลาสสิค (Classical music)
เพลงคลาสสิค (Classical music)
Float Jo
๶อกสารสังคีตนิยม
๶อกสารสังคีตนิยม
Ruz' Glaow
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล.pdf
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล.pdf
PingladaPingladaz
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล
sangkeetwittaya stourajini
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล
leemeanshun minzstar
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล
leemeanshun minzstar
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล.pdf
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล.pdf
เวียงพิงค์ พิงค์ลดา
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล.pdf
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 5 เรื่อง ประเภทของ๶ครื่องึϸตรีสากล.pdf
pinglada
E learning หน่วยที่ 2 ดนตรีตะวันตก
E learning หน่วยที่ 2 ดนตรีตะวันตก
บ.บีม ลพบุรี
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 2 เรื่่อง องค์ประกอบึϸตรีสากล.pdf
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 2 เรื่่อง องค์ประกอบึϸตรีสากล.pdf
PingladaPingladaz
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 2 เรื่่อง องค์ประกอบึϸตรีสากล.pdf
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 2 เรื่่อง องค์ประกอบึϸตรีสากล.pdf
เวียงพิงค์ พิงค์ลดา
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 2 เรื่่อง องค์ประกอบึϸตรีสากล.pdf
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 2 เรื่่อง องค์ประกอบึϸตรีสากล.pdf
pinglada
บทที่ 2 ดนตรีกศน
บทที่ 2 ดนตรีกศน
peter dontoom
ประวัติความเป็Ȩาྺองกีตาร์
ประวัติความเป็Ȩาྺองกีตาร์
kruood

More from leemeanshun minzstar (20)

ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากล
leemeanshun minzstar
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะ
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะ
leemeanshun minzstar
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 8 เรื่อง กุญแจประจำหลัก
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 8 เรื่อง กุญแจประจำหลัก
leemeanshun minzstar
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 7 เรื่อง โน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 7 เรื่อง โน้ตสากล
leemeanshun minzstar
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 3 เรื่อง ลักษณะของวงึϸตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 3 เรื่อง ลักษณะของวงึϸตรีสากล
leemeanshun minzstar
โฮมเพจวารสาร
โฮมเพจวารสาร
leemeanshun minzstar
เหนือ ท่องเที่ยว
เหนือ ท่องเที่ยว
leemeanshun minzstar
เหนือ เที่ยว
เหนือ เที่ยว
leemeanshun minzstar
เหนือ ท่องเที่ยว
เหนือ ท่องเที่ยว
leemeanshun minzstar
โรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยา กรุงเทพมหานคร
โรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยา กรุงเทพมหานคร
leemeanshun minzstar
ภาคเหนือ เที่ยว
ภาคเหนือ เที่ยว
leemeanshun minzstar
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
leemeanshun minzstar
การท่องเที่ยว
การท่องเที่ยว
leemeanshun minzstar
ภาคตะวันตก เที่ยว
ภาคตะวันตก เที่ยว
leemeanshun minzstar
การจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยสุโྺทัยธรรมาธิราช
การจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยสุโྺทัยธรรมาธิราช
leemeanshun minzstar
กลยุทธ์การจัึϸารความรู้สำหรับการรับประกัȨุณภาพ
กลยุทธ์การจัึϸารความรู้สำหรับการรับประกัȨุณภาพ
leemeanshun minzstar
Wiki (บันทึกอัตโนมัติ)
Wiki (บันทึกอัตโนมัติ)
leemeanshun minzstar
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 10 เรื่อง การอ่านและการบันทึกโน้ตสากล
leemeanshun minzstar
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะ
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 9 เรื่อง จังหวะและเครื่องหมายกำหนดจังหวะ
leemeanshun minzstar
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 8 เรื่อง กุญแจประจำหลัก
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 8 เรื่อง กุญแจประจำหลัก
leemeanshun minzstar
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 7 เรื่อง โน้ตสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 7 เรื่อง โน้ตสากล
leemeanshun minzstar
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 3 เรื่อง ลักษณะของวงึϸตรีสากล
ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 3 เรื่อง ลักษณะของวงึϸตรีสากล
leemeanshun minzstar
เหนือ ท่องเที่ยว
เหนือ ท่องเที่ยว
leemeanshun minzstar
เหนือ ท่องเที่ยว
เหนือ ท่องเที่ยว
leemeanshun minzstar
โรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยา กรุงเทพมหานคร
โรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยา กรุงเทพมหานคร
leemeanshun minzstar
ภาคเหนือ เที่ยว
ภาคเหนือ เที่ยว
leemeanshun minzstar
ภาคตะวันออก เที่ยว
ภาคตะวันออก เที่ยว
leemeanshun minzstar
ภาคตะวันตก เที่ยว
ภาคตะวันตก เที่ยว
leemeanshun minzstar
การจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยสุโྺทัยธรรมาธิราช
การจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยสุโྺทัยธรรมาธิราช
leemeanshun minzstar
กลยุทธ์การจัึϸารความรู้สำหรับการรับประกัȨุณภาพ
กลยุทธ์การจัึϸารความรู้สำหรับการรับประกัȨุณภาพ
leemeanshun minzstar
Wiki (บันทึกอัตโนมัติ)
Wiki (บันทึกอัตโนมัติ)
leemeanshun minzstar

ใบความรู้ที่ 1 บทที่ 1 เรื่อง ประวัติดนตรีสากล

  • 1. บทที่ 1 ประวัติของดนตรีสากล การสืบสาวเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นมาของดนตรีตั้งแต่สมัยโบราณมา นับว่าเป็นเรื่องยากที่จะให้ได้เรื่องราว สมัยของการรู้จักใช้อักษรหรือสัญลักษณ์อื่น ๆ พึ่ง จะมีปรากฏและเริ่มนิยมใช้กันในสมัยเริ่มต้นของยุค Middle age คือระหว่างศตวรรษที่ 5-6 และการบันทึกมีเพียงเครื่องหมายแสดงเพียงระดับของเสียง และจังหวะ (Pitch and Time) ดนตรีเกิดขึ้นมาในโลกพร้อม ๆ กับมนุษย์เรานั่นเอง ในยุคแรก ๆ มนุษย์อาศัยอยู่ในป่าดง ในถ้า ในโพรงไม้ แต่ก็รู้จักการร้องราทาเพลงตาม ธรรมชาติ เช่นรู้จักปรบมือ เคาะหิน เคาะไม้เป่าปาก เป่าเขา และเปล่งเสียงร้องตาม เรื่อง การร้องราทาเพลงทาไปเพื่ออ้อนวอนพระเจ้าเพื่อช่วยให้ตนพ้นภัยบันดาลความสุข ความอุดมสมบูรณ์ต่าง ๆ ให้แก่ตนหรือเป็นการบูชาแสดงความขอบคุณพระเจ้าที่บันดาล ให้ตนมีความสุขความสบาย โลกได้ผ่านหลายยุคหลายสมัย ดนตรีได้วิวัฒนาการไปตามความเจริญและ ความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ เครื่องดนตรีที่เคยใช้ในสมัยเริ่มแรกก็มีการวิวัฒนาการ มาเป็นขั้น ๆ กลายเป็นเครื่องดนตรีที่เราเห็นอยู่ทุกวัน เพลงที่ร้องเพื่ออ้อนวอนพระ เจ้า ก็กลายมาเป็นเพลงสวดทางศาสนาและเพลงร้อง ในระยะแรกดนตรีมีเพียงเสียง เดียวและแนวเดียวเท่านั้นเรียกว่า Melody ไม่มีการประสานเสียง จนถึงศตวรรษที่ 12 มนุษย์เราเริ่มรู้จักการใช้เสียงต่าง ๆ มาประสานกันอย่างง่าย ๆ เกิดเป็นดนตรีหลาย เสียงขึ้นมา  6
  • 2. ดนตรีสากล มีประวัติความเป็นมาและ วิวัฒนาการที่ยาวนาน แสดงถึงความ เจริญรุ่งเรืองทาง วัฒนธรรมของชาติ ตะวันตกซึ่งเป็นที่นิยมและยอมรับกันทั่วโลก ใน การศึกษาดนตรีสากล เพื่อความรู้ ความ เข้าใจ และความซาบซึ้งในดนตรีตะวันตก จึง จาเป็นจะต้องศึกษาวิวัฒนาการของดนตรี สากลในด้านต่าง ๆ ดังนี้ 1. ยุคกลาง (Middle Age) ค.ศ.500-1400 บทเพลงส่วนใหญ่เป็นเพลงร้องที่ใช้ในโบสถ์เพื่อสรรเสริญพระเจ้า เพียงอย่างเดียว โดยบางครั้งอาจเป็นการร้องสอดประสานกันบ้างประมาณ 2-3 แนว ใน ปลายยุค และยังไม่พบการบรรเลงที่เป็นรูปแบบมาตรฐานอย่างเด่นชัด 2. ยุคเรอเนสซองซ์หรือยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance) ค.ศ.1400-1600 บทเพลงในยุคนี้เริ่มมีการผสมผสานระหว่างเพลงพื้นฐานกับเพลงที่ใช้ใน โบสถ์โดยการนาเอาเทคนิคการประพันธ์เพลงพื้นบ้านมาประยุกต์ใช้กับเพลงสวด ทา ให้เกิดการนาเอาเครื่องดนตรีบางชนิดเข้ามาประกอบในเพลงสวดที่ใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น ออร์แกน ฮาร์ฟซิคอร์ด เป็นต้น 3. ยุคบาโรก (Baroque) ค.ศ.1600-1750 เครื่องดนตรีได้รับการพัฒนาจึงทาให้นักดนตรีมีความสามารถในการบรรเลง อย่างมาก จึงทาให้ยุคนี้มีประเภทการบรรเลงดนตรีที่หลากหลายมากขึ้น เช่น โซนาตา คอนแชร์โต โอเปรา เป็นต้น เริ่มมีการผสมวงออร์เคสตรา เพื่อใช้ประกอบการแสดง ละครเพลงหรือโอเปรา (Opera) แต่ลักษณะการผสมวงของเครื่องดนตรียังไม่มี การกาหนดที่แน่นอน นอกจากนี้เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายยังได้รับการพัฒนาอย่าง มาก 7
  • 3. 4. ยุคคลาสสิก (The Classical Era) ค.ศ. 1750-1820 เครื่องดนตรีมีวิวัฒนาการมาจนสมบูรณ์ที่สุด เริ่มมีการผสมวงที่กาหนด แน่นอนว่าเป็นวงเล็กหรือใหญ่ คือ วงแชมเบอร์มิวสิก และวงออร์เคสตราในการจัดวง ออร์เคสตราใช้เครื่องดนตรีครบทุกประเภท คือ เครื่องสาย เครื่องเป่าลมไม้เครื่องเป่าลม ทองเหลือง และเครื่องตี วงออร์เคสตรา ในยุคนี้ถือได้ว่ามีรูปแบบที่ใช้เป็นแบบแผนมา จนถึงปัจจุบัน 5. ยุคโรแมนติก (The Romantic Era) ค.ศ. 1820-1900 ในยุคนี้ เปียโนเป็นเครื่องดนตรีที่ได้รับ การพัฒนารูปร่างจนสามารถบรรเลงด้วยวิธีการ และเทคนิคต่าง ๆ ที่หลากหลายได้เป็นอย่างดี ในส่วนของการผสมวงออร์เคสตรา ยังคงใช้ หลักการผสมวงออร์เคสตราตามยุคคลาสสิก และ เพิ่มขนาดโดยการเพิ่มจานวนเครื่องดนตรีให้มี ความยิ่งใหญ่ขึ้น เพื่อให้อารมณ์ของบทเพลง มีความหลากหลายและสามารถสื่อถึงผู้ฟังได้อย่างเด่นชัด 6. ยุคศตวรรษที่ 20 ค.ศ.1900-ปัจจุบัน รูปแบบดนตรีมีการผสมผสานรูปแบบใหม่ขึ้น ซึ่งมีการนาเสียงจากเครื่อง อิเล็กทรอนิกส์มาใช้เป็นเครื่องดนตรีด้วย ส่วนดนตรีในรูปแบบดนตรีคลาสสิกก็ยังคงใช้ รูปแบบการผสมวงตามยุคคลาสสิก ซึ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่จะเน้นที่รูปแบบ การประพันธ์เพลงมากกว่า และในยุคนี้เริ่มมีวงดนตรีผสมผสานรูปแบบใหม่ซึ่งเป็น รูปแบบวงดนตรีที่ผสมผสานระหว่าง แอฟริกาตะวันตก อเมริกาและยุโรป ที่เรียกว่าวง ดนตรีแจ๊ส (Jazz) เครื่องดนตรีที่ใช้ในวงมักประกอบด้วย ทรัมเป็ต คลาริเน็ต ทรอมโบน ทูบา และกลองประเภทต่าง ๆ เป็นต้น 8
  • 4. บทเพลงสากลในยุคต่าง ๆ 1. ยุคกลาง (Middle Age) ค.ศ. 500-1400 บทเพลงที่ปรากฏในยุคนี้ คือ เพลงสวด (Chant) ซึ่งเป็นบทเพลงที่ใช้ใน พิธีกรรม เป็นบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ใช้เป็นสื่อกลางในการติดต่อกับพระผู้เป็นเจ้า เนื้อหาของ เพลงจะเป็นการสวดอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า ภาษาที่ใช้ในบทเพลงร้องส่วนใหญ่ คือ ภาษาละติน ในระยะแรก เพลงสวดเป็นการร้องแนวเดียวไม่มีดนตรีประกอบไม่มีอัตรา จังหวะและจะใช้เสียงเอื้อนในการทาทานองไปไม่มีกาหนดกฎเกณฑ์ที่ตายตัว ต่อมา ในระยะหลัง ๆ เริ่มพัฒนาการร้องให้มีแนวการร้องสองประสาน เป็นเพลงร้องสองแนว และเริ่มที่จะมีอัตราจังหวะที่แน่นอน จนกลายเป็นรูปแบบการร้องประสานเสียง ที่มากกว่า 2 แนวขึ้นไป 2. ยุคเรอเนสซองซ์หรือยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance)ค.ศ.1400-1600 ดนตรียังคงเป็นลักษณะสอดประสานทานองโดยมีการล้อกันของแนวทานอง ที่เหมือนกันรูปแบบการประพันธ์เพลงมีมากขึ้น ในยุคนี้ยังเน้นการร้องเป็นพิเศษสาหรับ ดนตรีคฤหัสถ์(ดนตรีประชาชนทั่วไป) เริ่มมีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งมักเป็น เพลงร้องประกอบดนตรี 3. ยุคบาโรก (Baroque) ค.ศ. 1600-1750 บทเพลงบรรเลงมีความสาคัญเทียบเท่ากับบทเพลงร้อง เนื่องจากเครื่องดนตรี มีการพัฒนาทั้งรูปแบบและเสียง รูปแบบการประพันธ์เพลงในยุคนี้มีการพัฒนาและ ปรับปรุงจนมีลักษณะเด่นชัด โดยเฉพาะคอนแชร์โต (Concerto) ตัวบทเพลงประชัน ระหว่างเครื่องดนตรีประเภทเดี่ยวกับวงดนตรี ซึ่งแสดงความสามารถของผู้บรรเลงได้ เป็นอย่างดี บทเพลง Concerto ที่ได้รับความนิยมคือ The Four Season ของ วิวัลดี และยุค นี้เป็นจุดเริ่มต้นของบทเพลงบรรเลงประเภทต่าง ๆ 9
  • 5. 4. ยุคคลาสสิก (The Classic Era) ค.ศ. 1750-1820 เป็นยุคที่สาคัญมากของดนตรีตะวันตก เนื่องจากรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การประพันธ์เพลง การผสมวง หรือบทเพลงบรรเลงมีความเป็นแบบแผนอย่างมาก รูปแบบการประพันธ์บทเพลงในยุคนี้ได้แก่ โซนาตา คอนแชร์โต ซิมโฟนี และการ ผสมวงได้แก่ วงแชมเบอร์มิวสิกและออร์เคสตรา ทุกอย่างล้วนจัดให้มีมาตรฐานทั้งสิ้น นอกจากนี้ ละครร้องหรือโอเปรา (Opera) ก็ได้รับการพัฒนาจนได้รับความนิยมทั่วไป 5. ยุคโรแมนติก (The Romantic Era) ค.ศ. 1820-1900 ยุคนี้เป็นยุคที่นาหลักการของยุคคลาสสิกมาใช้ผสมผสานกับการใส่อารมณ์ ความรู้สึกเข้าไปในบทเพลงทาให้บทเพลงมีความไพเราะ สง่างาม อ่อนหวานใน ขณะหนึ่งก็สะเทือนอารมณ์ของผู้ฟังได้เช่นกันสาหรับวงออร์เคสตรามีการเพิ่มขนาดของ วงให้ใหญ่ขึ้น เพื่อความสมบูรณ์แบบของเสียงในวงดนตรี ยุคนี้ทานองของบทเพลงเน้น แนวทานองหลักและใช้การประสานเสียงเพื่อให้มีความไพเราะ บทเพลงที่นิยมในยุคนี้ คือ ดนตรีบรรยายเรื่องราว คีตกวีที่สาคัญในยุคนี้คือ เบโธเฟน 6. ยุคศตวรรษที่ 20 ค.ศ. 1900-ปัจจุบัน ยุคนี้เป็นยุคเปลี่ยนแปลงดนตรีชาติตะวันตก มีการเน้นรูปแบบจังหวะมากขึ้น และบันไดเสียงเริ่มมีการใช้บันไดเสียง 12 เสียง หลักการในการประพันธ์บทเพลง มีความแตกต่างจากยุคก่อนนี้ เริ่มมีการประสานเสียงทาให้ฟังแล้วรู้สึกไม่สบายหู เริ่มมี การทดลองทฤษฎีแปลก ๆ ใหม่ ๆ ซึ่งทาให้กฎเกณฑ์ทางดนตรีมีความหลากหลาย ถือได้ ว่ายุคนี้เป็นยุคการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นผลมาจากสภาพสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง มากมายตามที่ได้พบเห็นในปัจจุบัน 10
  • 6. ขนบธรรมเนียมประเพณีของแต่ละชาติ ศาสนา โดยเฉพาะดนตรีตะวันตก นับว่า มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับศาสนามาก บทเพลงที่เกี่ยวกับศาสนาหรือเรียกว่าเพลงวัดนั้น ได้แต่งขึ้นอย่างถูกหลักเกณฑ์ตามหลักวิชาการดนตรี ผู้แต่งเพลงวัดต้องมีความรู้ ความสามารถสูง เพราะต้องแต่งขึ้นให้สามารถโน้มน้าวจิตใจผู้ฟังให้นิยมเลื่อมใสใน ศาสนามากขึ้น ดังนั้นบทเพลงสวดในศาสนาคริสต์จึงมีเสียงดนตรีประโคม ประกอบการสวดมนต์ เมื่อมีบทเพลงเกี่ยวกับศาสนามากขึ้นเพื่อเป็นการป้องกันการลืม จึงได้มีผู้ประดิษฐ์สัญลักษณ์ต่าง ๆ แทนทานอง เมื่อประมาณ ค.ศ. 1000 สัญลักษณ์ ดังกล่าว คือ ตัวโน้ต (Note) นั่นเอง โน้ตเพลงที่ใช้ในหลักวิชาดนตรีเบื้องต้นเป็นเสียงโด เร มี นั้น เป็นคาสวดในภาษาละติน จึงกล่าวได้ว่าวิชาดนตรีมีจุดกาเนิดมาจากวัดหรือ ศาสนา ซึ่งในยุโรปนั้นถือว่าเพลงเกี่ยวกับศาสนานั้นเป็นเพลงชั้นสูงสุด 11