ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล
ระบบฐานข้อมูล (Database System) หมายถึง โครงสร้างสารสนเทศที่ประกอบด้วย
รายละเอียดของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกัน ที่จะนามาใช้ในระบบงานต่างๆ
ร่วมกัน ระบบฐานข้อมูลจึงนับเป็ นการจัด๶ก็บྺ้อมูลอย่างเป็ นระบบ โดยผูใช้สามารถจัดการกับ
                                                                   ้
ข้อมูลได้ในลักษณะต่างๆ ทังการเพิ่มข้อมูล การแก้ไข การลบ การค้นหา ตลอดจนการเรียกดู
                          ้
ข้อมูลในรูปแบบต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็ นการประยุกต์นาเอาระบบคอมพิว๶ตอร์เข้ามาช่วยใน
การจัดการฐานข้อมูล และนาฐานข้อมูลผ่านกระบวนการประมวลผลและแสดงผลลัพธ์ใน
รูปแบบต่างๆ ที่ต้องการ
บิต (Bit) หมายถึง หน่ วยของข้อมูลที่มีขนาดเล็กที่สด เป็ นข้อมูลที่มีการจัดเก็บในลักษณะ
                                                  ุ
ของเลขฐานสองคือ 0 กับ 1
ไบต์ (Byte) หมายถึงหน่ วยของข้อมูลที่เกิดจากการนาบิตมารวมเป็ นตัวอักขระหรือ
ตัวอักษร (Character)
ฟิลด์ (Field) หมายถึง เขตข้อมูลหรือหน่ วยของข้อมูลที่ประกอบขึนจากไบต์หรือตัวอักขระ
                                                                ้
ตังแต่หนึ่ งตัวขึนไป มารวมกันแล้วได้ความหมายเป็ นคา เป็ นข้อความ หรือของสิ่งใดสิ่งหนึ่ ง
  ้              ้
เช่น ชื่อบุคคล ตาแหน่ ง อายุ เป็ นต้น
เรคคอร์ด (Record) หมายถึง ระเบียนหรือหน่ วยของข้อมูลที่เกิดจากการนาเอาฟิลด์หรือเขต
ข้อมูลหลายๆเขตข้อมูลที่เกี่ยวข้องมารวมกัน เพื่อเกิดเป็ นรายการข้อมูลเรื่องใดเรื่องหนึ่ ง เช่น
ข้อมูลของพนักงาน 1 ระเบียน (1 คน) จะประกอบด้วย รหัสพนักงาน ชื่อ – สกุล ที่อยู่ ตาแหน่ ง
เงินเดือน เป็ นต้น
ไฟล์ (File) หมายถึง แฟ้ มข้อมูลหรือหน่ วยของข้อมูลหลายๆ ข้อมูล ที่เป็ นเรื่องเดียวกันมา
ร่วมกัน เช่น แฟ้ มข้อมูลพนักงาน แฟ้ มข้อมูลลูกค้า แฟ้ มข้อมูลสินค้า ฯลฯ

               ไฟล์พนักงาน                          ฟิ ลด์

                    รหัส           ชื่อ-สกุล       ตาแหน่ง         เงินเดือน
                    1001        โชคชัย บูลกุล      การบัญชี          8,500
เรคคอร์ด            1002       ชัยชาญ อลงกต         วิศวกร          25,000
                    1003       ชิดชม พานิชสกุล   ประชาสัมพันธ์       8,100
เอนทิตี้ (Entty) หมายถึง ชื่อของสิ่งใดสิ่งหนึ่ ง เปรียบเสมือนคานาม อาจได้แก่ คน สถานที่
สิ่งของ การกระทา ซึ่งต้องการจัด๶ก็บྺ้อมูลไว้ เช่น เอนทิตี้พนักงาน เอนทิตี้นักเรียน เป็ นต้น
แอททริบิวต์ (Attribute) หมายถึง รายละเอียดข้อมูลที่แสดงลักษณะและคุณสมบัติของ
แอททริบิวต์หนึ่ งๆ เช่น เอนทิตี้สินค้า ประกอบด้วย แอททริบิวต์รหัสสินค้า ประเภทสินค้า
ชื่อสินค้า ราคาต่อหน่ วย เป็ นต้น
ความสัมพันธ์ (Relationships) หมายถึง ความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้ เช่น ความสัมพันธ์
ระหว่างแอนทิตี้นักศึกษา และแอนทิตี้คณะวิชา เช่น นักศึกษาแต่ละคนเรียนอยู่ คณะวิชาใด
คณะวิชาหนึ่ ง เป็ นต้น
        เอนทิตี ้                       แอททริบวต์
                                               ิ

            รหัส          ชือ-สกุล
                            ่              ตาแหน่ ง      เงินเดือน
           1001        โชคชัย บูลกุล       การบัญชี       8,500
           1002       ชัยชาญ อลงกต          วิศวกร       25,000
           1003       ชิดชม พานิชสกุล    ประชาสัมพันธ์    8,100
1.ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ( Relational Database)
        ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ( Relational Database) เป็ นการเก็บข้อมูลในรูปแบบที่
เป็ นตาราง(Table) หรือเรียกว่า รีเลชัน(Relation) มีลกษณะ 2 มิติ คือ เป็ นแถว(Row) และ
                                                    ั
เป็ นคอลัมน์ (Column) การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างตารางจะเชื่อมโยง โดยใช้แอททริบิวต์
(Attribute) หรือคอลัมน์ ท่ีเหมือนกันทังสองตารางเป็ นตัวเชื่อมโยงข้อมูล ตัวอย่างเช่น
                                      ้
ตารางลงทะเบียน ถ้าต้องการทราบว่านักเรียนรหัส 1001 ลงทะเบียนวิชาอะไร กี่หน่ วยกิต
ก็สามารถ นารหัสวิชาในตารางนักเรียนไปตรวจสอบกับรหัสวิชาซึ่งเป็ นคียหลักในตาราง
                                                                          ์
หลักสูตร เพื่อนาชื่อวิชา และจานวนหน่ วยกิตมาใช้
1.ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ( Relational Database)

   ตารางลงทะเบียน                                                 ตารางหลักสูตร

  รหัส       ชื่อ         สกุล      แผนก    รหัส           รหัส         ชื่อวิชา   หน่ วย
นักเรียน                             วิชา   วิชา           วิชา                     กิต
  1001     สมชาย          มีสข
                             ุ      บัญชี   001            001      ประมวลผลคา       3
  1002     สมพล          สุขสม การขาย       003            002        ตารางงาน       3
  1003     สมสมร        สุขสวัสด์ ิ คอมฯ    002            003       การนาเสนอ       3



                    รูปที่ 1.4 แสดงตารางที่มีความสัมพันธ์เชิงสัมพันธ์
2. ฐานข้อมูลแบบเครือข่าย (Network Database)

     ฐานข้อมูลแบบเครือข่าย (Network Database) ฐานข้อมูลแบบเครือข่ายจะเป็ นการ
รวมระเบียนต่างๆ และความสัมพันธ์ระหว่างระเบียน แต่จะต่างกับฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
คือ ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์จะแฝงความสัมพันธ์เอาไว้ โดยระเบียนที่มีความสัมพันธ์กน
                                                                               ั
จะต้องมีค่าของข้อมูลในแอททริบิวต์หนึ่ งเหมือนกัน แต่ในฐานข้อมูลแบบเครือข่าย จะแสดง
ความสัมพันธ์อย่างชัดเจน โดยแสดงไว้ในโครงสร้างตัวอย่างเช่น
2. ฐานข้อมูลแบบเครือข่าย (Network Database)




                                                         รูปที่ 1.5 แสดงตารางที่มีความสัมพันธ์
                                                         แบบเครือข่าย
     จากรูป จะเห็นได้ว่า กรอบสี่เหลี่ยมแสดงถึงชนิดของระเบียนในฐานข้อมูล ลูกศรเป็ น
การแสดงความสัมพันธ์ จากรูปเป็ นการแสดงความสัมพันธ์แบบหนึ่ งต่อกลุ่ม การค้นหา
ข้อมูลที่ต้องการ เช่นถ้าต้องการค้นหารายชื่อนักเรียนที่เรียนอยู่แผนกที่ 5 ก็ทาโดยออก
คาสังบอก DBMS ให้ค้นหาแผนกที่ 5 จากระเบียนของทะเบียน แล้ววิ่งตามลูกศร ซึ่งจะ
      ่
เชื่อมข้อมูลของแผนกที่ 5 เข้ากับข้อมูลของนักเรียนซึ่งได้แก่ระเบียนของนักเรียนที่เรียน
ในแผนกที่ 5 เป็ นการค้นโดยใช้ลกศรเชื่อมโยงไปถึงความสัมพันธ์จึงไม่จาเป็ นต้องเก็บ
                                  ู
แอททริบิวต์รหัสแผนกไว้ในระเบียนของทะเบียน เช่นที่ทาในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
3. ฐานข้อมูลแบบลาดับ (Hierarchical Databas)

      ฐานข้อมูลแบบลาดับ (Hierarchical Databas) ฐานข้อมูลแบบลาดับชัน เป็ นโครงสร้าง
                                                                          ้
ที่จดเก็บข้อมูลในลักษณะความสัมพันธ์แบบ (Parent-Child Relationship Type) หรือเป็ น
    ั
โครงสร้างรูปแบบต้นไม้ (Tree) ข้อมูลที่จดเก็บในที่นี้ คือ ระเบียน (Record) ซึ่งประกอบด้วย
                                        ั
ค่าของเขตข้อมูล (Field) ของแอนทิตี้หนึ่ งๆ นี่ เอง
3. ฐานข้อมูลแบบลาดับ (Hierarchical Databas)

                                          แผนก
                       ชื่อแผนก         รหัสแผนก          ที่ตง
                                                              ั้




                  หลักสูตร                                  นักเรียน
         ชื่อวิชา รหัสวิชา     หน่ วย                 ชื่อ    รหัส     ที่อยู่
                               เรียน               นักเรียน นักเรียน


                             รูปที่ 1.6 ตัวอย่างฐานข้อมูลแบบลาดับชัน
                                                                   ้
โปรแกรมฐานข้อมูล เป็ นโปรแกรมซอฟแวร์ที่ช่วยจัดการข้อมูลหรือรายการต่างๆที่อยู่
ในฐานข้อมูล ไม่ว่าจะเป็ นการจัดเก็บ การเรียกใช้ การปรับปรุงข้อมูล โปรแกรมฐานข้อมูล
จะช่วยให้ผใช้สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งโปรแกรมฐานข้อมูลที่นิยมใช้มีอยู่
          ู้
ด้วยกันหลายตัว เช่น Access, FoxPro, Oracle, SQL เป็ นต้น

      สาหรับโปรแกรม Microsoft Access นี้ จะกล่าวถึงวิธีการใช้เบืองต้น โดยสังเขปไว้ใน
                                                                ้
หน่ วยถัดไป
ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล
ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล
ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล
ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล
1. คียหลัก (Primary Key)
      ์
Primary Key หมายถึง คียหลักที่กาหนดจากฟิลด์ที่ไม่มีข้อมูลซาซ้อน (Unique) ใน Table
                        ์                                    ้
เดียวกันโดยเด็ดขาดและจะต้องมีค่าเสมอจะเป็ นค่าว่าง (Null) ไม่ได้สามารถนามาจัด
เรียงลาดับและแยกแยะข้อมูลแต่ละรายการออกจากกันได้เป็ นอย่างดี ตัวอย่างของข้อมูลที่
นามากาหนดเป็ นคียหลัก ได้แก่ รหัสนักเรียน รหัสสินค้า หมายเลขห้องพัก รหัสวิชา ฯลฯ
                  ์
1. คียหลัก (Primary Key)
      ์



              รหัส              ชื่อ-สกุล      ตาแหน่ ง        เงินเดือน
              1001           โชคชัย บูลกุล     การบัญชี          8,500
              1002         ชัยชาญ อลงกต         วิศวกร          25,000
              1003         ชิดชม พานิชสกุล   ประชาสัมพันธ์       8,100



              รูปที่ 1.8 แสดงตัวอย่างการกาหนดคียหลัก ( Primary Key)
                                                ์
2. คียนอก (Foreign Key)
      ์

.Foreign Key หมายถึง คียนอก เป็ นคียที่เชื่อม Table ที่เกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์กน
                           ์            ์                                           ั
เช่น ใน Table หลักสูตร กาหนดให้รหัสวิชาเป็ น Primary Key และทาการเชื่อมโยงไปยัง
Table ลงทะเบียนเพื่อต้องการทราบชื่อวิชาและหน่ วยกิตที่นักเรียนลงทะเบียน โดยกาหนด
ฟิลด์ รหัสวิชา ใน Table ลงทะเบียนเป็ น Foreign Key ในลักษณะความสัมพันธ์ One to May
หมายความว่า รหัสวิชา 1 วิชาสามารถให้นักเรียนลงทะเบียนได้มากกว่า 1 คน ดังนันจึงมี
                                                                               ้
รหัสวิชาซากันได้ใน Table ลงทะเบียนเป็ น Foreign Key ในลักษณะความสัมพันธ์ One to
          ้
Many หมายความว่า รหัสวิชา 1 วิชาสามารถให้นักเรียนลงทะเบียนได้มากกว่า 1 คน ดังนัน      ้
จึงมีรหัสซากันได้ใน Table ลงทะเบียน
            ้
2. คียนอก (Foreign Key)
         ์

 ตารางหลักสูตร    รหัสวิชา              ชื่อวิชา          หน่ วยกิต
                    001              ประมวลผลคา                3
                    002                ตารางงาน                3
                    003               การนาเสนอ                2



ตารางลงทะเบียน     รหัส
                              ชื่อ            สกุล        แผนกวิชา    รหัสวิชา
                 นักเรียน
                   1001      สมชาย            มีสข
                                                 ุ         บัญชี        001
                   1002      สมพร            สุขสม        การขาย        003
                   1003      สมสมร          สุขสวัสด์ ิ    คอมฯ         001
                 รูปที่ 1.9. แสดงตัวอย่างการกาหนดคียนอก ( Foreign Key)
                                                    ์
3. คียค่แข่ง Candidate Key
      ์ ู

Candidate Key หมายถึง คียมีคณสมบัติใกล้เคียงกับคียหลัก ( Primary Key) หรือสามารถ
                          ์ ุ                     ์
นามาแทนคียหลักได้ เช่น ในตารางพนักงานกาหนดให้รหัสพนักงานเป็ นคียหลักที่มีค่าไม่ซา
              ์                                                    ์            ้
กัน แต่พบว่าหมายเลขบัตรประชาชนของพนักงานก็มีค่าไมซากัน ดังนัน หมายเลขบัตร
                                                      ้        ้
ประชาชนมีลกษณะเป็ น Candidate Key ซึ่งสามารถนามาเป็ นคียสารองแทนคียหลักได้
            ั                                            ์             ์
3. คียค่แข่ง Candidate Key
      ์ ู



        รหัส
                     ชื่อ       สกุล       หมายเลขบัตร       การศึกษา
       พนักงาน
         001       สมชาย        มีสกุล   1-1299-00123-25-8      ปวส.
         002       สิริวิมล   ชาญฉลาด    1-3205-12001-32-4   ปริญญาตรี
         003       สมควร       ชนะชาติ   3-2022-15444-77-9      ปวช.


       รูปที่ 1.10 แสดงตัวอย่างการกาหนดคียสารองคียหลัก ( Candidate Key)
                                          ์       ์
4. คียรวม (Compound Key)
      ์

Compound Key หมายถึง คียที่เกิดจากการรวมข้อมูลหลายฟิลด์ให้มีคณสมบัติเหมือนคียหลัก
                                ์                                        ุ               ์
( มีค่าไม่ซากันและไม่มีค่าว่าง หรือ null value) เช่น การนาฟิลด์ชื่อนักเรียน มารวมกับฟิลด์สกุล
           ้
ของนักเรียน ทาให้เกิดเป็ นฟิลด์ข้อมูลที่ไม่มีค่าไม่ซาซ้อนกัน เราเรียกคียที่เกิดจากการรวมชื่อ
                                                    ้                      ์
นักเรียนและสกุลว่า Compound key หรือคียรวม    ์
4. คียรวม (Compound Key)
      ์




         รหัส
                  ชื่อ-สกุล     สกุล       หมายเลขบัตร       การศึกษา
        พนักงาน
          001     สมชาย         มีสกุล   1-1299-00123-25-8      ปวส.
          002     สิริวิมล    ชาญฉลาด    1-3205-12001-32-4   ปริญญาตรี
          003     สมควร        ชนะชาติ   3-2022-15444-77-9      ปวช.


       รูปที่ 1.11. แสดงตัวอย่างการกาหนดคียรวม ( compound Key)
                                           ์
เนื้ อหาจบแล้ว ต่อไปให้นักเรียนทาแบบฝึ กหัดหน่ วยที่ 1
         เมื่อทาแบบฝึ กหัดหน่ วยที่ 1 เสร็จแล้ว
           ให้นักเรียนศึกษา หน่ วยที่ 2 ต่อไป
Ad

Recommended

ระบบฐาȨ้อมูลเบื้องต้น
ระบบฐาȨ้อมูลเบื้องต้น
Tophuto Piyapan
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับระบบฐาȨ้อมูล
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับระบบฐาȨ้อมูล
Watuka Wannarun
การใช้โปรแกรม Access เบื้องต้น
การใช้โปรแกรม Access เบื้องต้น
techno UCH
บทที่ 1 แนวคิดทั่วไป๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล
บทที่ 1 แนวคิดทั่วไป๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล
Rungnapa Rungnapa
Lesson 1
Lesson 1
Thanchanok Phongchareon
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ 2
ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ 2
kanjana Pongkan
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูล
Yongyut Nintakan
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูล
ABELE Snvip
งานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุล
งานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุล
chanoot29
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล
skiats
นวลลออ ถาวรโรจน์เสถียร เลขที่20 ม.5
นวลลออ ถาวรโรจน์เสถียร เลขที่20 ม.5
Nuanlaor Nuan
ความรู้เบื้องต้น๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล
ความรู้เบื้องต้น๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล
พัน พัน
งานคอมนางสาว มลทิรา เอกกุล เรื่อง เทคโนโลยีการสื่อสาร
งานคอมนางสาว มลทิรา เอกกุล เรื่อง เทคโนโลยีการสื่อสาร
miwmilk
บทที่ 1
บทที่ 1
Rungnapa Rungnapa
ลักษณะของྺ้อมูลที่ึϸและการจัึϹก็บྺ้อมูล
ลักษณะของྺ้อมูลที่ึϸและการจัึϹก็บྺ้อมูล
ปิยะดนัย วิเคียน
SA Chapter 6
SA Chapter 6
Nuth Otanasap
การจัดการྺ้อมูลด้วยระบบการจัึϸารฐาȨ้อมูล
การจัดการྺ้อมูลด้วยระบบการจัึϸารฐาȨ้อมูล
chanoot29
พจȨȨกรมྺ้อมูล
พจȨȨกรมྺ้อมูล
tumetr
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูล
Orapan Chamnan
นาย ทศพล จอมใจ
นาย ทศพล จอมใจ
taltan
ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับระบบฐาȨ้อมูล
ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับระบบฐาȨ้อมูล
kruthanyaporn
บทที่1ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล และหลักการออกแบบฐานข้อมูล
บทที่1ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล และหลักการออกแบบฐานข้อมูล
niwat50
ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล
ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล
Isareeya Keatwuttikan
ใบความรู้ที่ 1การออกแบบฐานข้อมูล
ใบความรู้ที่ 1การออกแบบฐานข้อมูล
Ko Kung

More Related Content

What's hot (16)

การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูล
ABELE Snvip
งานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุล
งานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุล
chanoot29
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล
skiats
นวลลออ ถาวรโรจน์เสถียร เลขที่20 ม.5
นวลลออ ถาวรโรจน์เสถียร เลขที่20 ม.5
Nuanlaor Nuan
ความรู้เบื้องต้น๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล
ความรู้เบื้องต้น๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล
พัน พัน
งานคอมนางสาว มลทิรา เอกกุล เรื่อง เทคโนโลยีการสื่อสาร
งานคอมนางสาว มลทิรา เอกกุล เรื่อง เทคโนโลยีการสื่อสาร
miwmilk
บทที่ 1
บทที่ 1
Rungnapa Rungnapa
ลักษณะของྺ้อมูลที่ึϸและการจัึϹก็บྺ้อมูล
ลักษณะของྺ้อมูลที่ึϸและการจัึϹก็บྺ้อมูล
ปิยะดนัย วิเคียน
SA Chapter 6
SA Chapter 6
Nuth Otanasap
การจัดการྺ้อมูลด้วยระบบการจัึϸารฐาȨ้อมูล
การจัดการྺ้อมูลด้วยระบบการจัึϸารฐาȨ้อมูล
chanoot29
พจȨȨกรมྺ้อมูล
พจȨȨกรมྺ้อมูล
tumetr
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูล
Orapan Chamnan
นาย ทศพล จอมใจ
นาย ทศพล จอมใจ
taltan
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูล
ABELE Snvip
งานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุล
งานนำเสนอ การจัดการฐานข้อมุล
chanoot29
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล
Lecture1 การประมวลผลข้อมูล และฐานข้อมูล
skiats
นวลลออ ถาวรโรจน์เสถียร เลขที่20 ม.5
นวลลออ ถาวรโรจน์เสถียร เลขที่20 ม.5
Nuanlaor Nuan
ความรู้เบื้องต้น๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล
ความรู้เบื้องต้น๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล
พัน พัน
งานคอมนางสาว มลทิรา เอกกุล เรื่อง เทคโนโลยีการสื่อสาร
งานคอมนางสาว มลทิรา เอกกุล เรื่อง เทคโนโลยีการสื่อสาร
miwmilk
ลักษณะของྺ้อมูลที่ึϸและการจัึϹก็บྺ้อมูล
ลักษณะของྺ้อมูลที่ึϸและการจัึϹก็บྺ้อมูล
ปิยะดนัย วิเคียน
การจัดการྺ้อมูลด้วยระบบการจัึϸารฐาȨ้อมูล
การจัดการྺ้อมูลด้วยระบบการจัึϸารฐาȨ้อมูล
chanoot29
พจȨȨกรมྺ้อมูล
พจȨȨกรมྺ้อมูล
tumetr
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูล
Orapan Chamnan
นาย ทศพล จอมใจ
นาย ทศพล จอมใจ
taltan

Similar to ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล (20)

ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับระบบฐาȨ้อมูล
ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับระบบฐาȨ้อมูล
kruthanyaporn
บทที่1ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล และหลักการออกแบบฐานข้อมูล
บทที่1ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล และหลักการออกแบบฐานข้อมูล
niwat50
ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล
ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล
Isareeya Keatwuttikan
ใบความรู้ที่ 1การออกแบบฐานข้อมูล
ใบความรู้ที่ 1การออกแบบฐานข้อมูล
Ko Kung
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูล
Yongyut Nintakan
Db1
Db1
Kru Tammada
การสร้างตาราง
การสร้างตาราง
kruthanyaporn
Database Review for Midterm Exam
Database Review for Midterm Exam
kunemata
Database1
Database1
kruninkppk
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับระบบฐาȨ้อมูล
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับระบบฐาȨ้อมูล
สุจิตรา แสงเรือง
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับระบบฐาȨ้อมูล
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับระบบฐาȨ้อมูล
สุจิตรา แสงเรือง
ฐาȨ้อมูลนะสอน
ฐาȨ้อมูลนะสอน
sariya25
Int3204 charapter1
Int3204 charapter1
Khwanchai Phunchanat
ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับระบบฐาȨ้อมูล
ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับระบบฐาȨ้อมูล
kruthanyaporn
บทที่1ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล และหลักการออกแบบฐานข้อมูล
บทที่1ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล และหลักการออกแบบฐานข้อมูล
niwat50
ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล
ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล
Isareeya Keatwuttikan
ใบความรู้ที่ 1การออกแบบฐานข้อมูล
ใบความรู้ที่ 1การออกแบบฐานข้อมูล
Ko Kung
การจัดการฐานข้อมูล
การจัดการฐานข้อมูล
Yongyut Nintakan
การสร้างตาราง
การสร้างตาราง
kruthanyaporn
Database Review for Midterm Exam
Database Review for Midterm Exam
kunemata
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับระบบฐาȨ้อมูล
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับระบบฐาȨ้อมูล
สุจิตรา แสงเรือง
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับระบบฐาȨ้อมูล
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับระบบฐาȨ้อมูล
สุจิตรา แสงเรือง
ฐาȨ้อมูลนะสอน
ฐาȨ้อมูลนะสอน
sariya25
Ad

More from kruthanyaporn (20)

หน่วยที่ 7 การสร้างคำสั่งอย่างง่าย
หน่วยที่ 7 การสร้างคำสั่งอย่างง่าย
kruthanyaporn
หน่วยที่ 6 การสร้างรายงาน
หน่วยที่ 6 การสร้างรายงาน
kruthanyaporn
หน่วยที่ 6 การสร้างรายงาน
หน่วยที่ 6 การสร้างรายงาน
kruthanyaporn
หน่วยที่ 5 การสร้างฟอร์ม
หน่วยที่ 5 การสร้างฟอร์ม
kruthanyaporn
หน่วยที่ 4 การสร้างแบบสอบถาม
หน่วยที่ 4 การสร้างแบบสอบถาม
kruthanyaporn
หน่วยที่ 3 การสร้างตาราง
หน่วยที่ 3 การสร้างตาราง
kruthanyaporn
หน่วยที่ 2 โปรแกรม Microsoft office Access 2007
หน่วยที่ 2 โปรแกรม Microsoft office Access 2007
kruthanyaporn
การสร้างคำสั่งอย่างง่าย (แมโคร)
การสร้างคำสั่งอย่างง่าย (แมโคร)
kruthanyaporn
การสร้างรายงาน
การสร้างรายงาน
kruthanyaporn
หน่วยที่ 6 รายงาน
หน่วยที่ 6 รายงาน
kruthanyaporn
การสร้างฟอร์ม
การสร้างฟอร์ม
kruthanyaporn
การสร้างแบบสอบถาม
การสร้างแบบสอบถาม
kruthanyaporn
โปรแกรม Microsoft Access 2007
โปรแกรม Microsoft Access 2007
kruthanyaporn
Database1
kruthanyaporn
Database1
kruthanyaporn
Database1
kruthanyaporn
หน่วยที่ 7 การสร้างคำสั่งอย่างง่าย
หน่วยที่ 7 การสร้างคำสั่งอย่างง่าย
kruthanyaporn
หน่วยที่ 6 การสร้างรายงาน
หน่วยที่ 6 การสร้างรายงาน
kruthanyaporn
หน่วยที่ 6 การสร้างรายงาน
หน่วยที่ 6 การสร้างรายงาน
kruthanyaporn
หน่วยที่ 5 การสร้างฟอร์ม
หน่วยที่ 5 การสร้างฟอร์ม
kruthanyaporn
หน่วยที่ 4 การสร้างแบบสอบถาม
หน่วยที่ 4 การสร้างแบบสอบถาม
kruthanyaporn
หน่วยที่ 3 การสร้างตาราง
หน่วยที่ 3 การสร้างตาราง
kruthanyaporn
หน่วยที่ 2 โปรแกรม Microsoft office Access 2007
หน่วยที่ 2 โปรแกรม Microsoft office Access 2007
kruthanyaporn
การสร้างคำสั่งอย่างง่าย (แมโคร)
การสร้างคำสั่งอย่างง่าย (แมโคร)
kruthanyaporn
การสร้างรายงาน
การสร้างรายงาน
kruthanyaporn
หน่วยที่ 6 รายงาน
หน่วยที่ 6 รายงาน
kruthanyaporn
การสร้างฟอร์ม
การสร้างฟอร์ม
kruthanyaporn
การสร้างแบบสอบถาม
การสร้างแบบสอบถาม
kruthanyaporn
โปรแกรม Microsoft Access 2007
โปรแกรม Microsoft Access 2007
kruthanyaporn
Database1
kruthanyaporn
Database1
kruthanyaporn
Database1
kruthanyaporn
Ad

ความรู้พื้Ȩาน๶กี่ยวกับฐาȨ้อมูล

  • 2. ระบบฐานข้อมูล (Database System) หมายถึง โครงสร้างสารสนเทศที่ประกอบด้วย รายละเอียดของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกัน ที่จะนามาใช้ในระบบงานต่างๆ ร่วมกัน ระบบฐานข้อมูลจึงนับเป็ นการจัด๶ก็บྺ้อมูลอย่างเป็ นระบบ โดยผูใช้สามารถจัดการกับ ้ ข้อมูลได้ในลักษณะต่างๆ ทังการเพิ่มข้อมูล การแก้ไข การลบ การค้นหา ตลอดจนการเรียกดู ้ ข้อมูลในรูปแบบต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็ นการประยุกต์นาเอาระบบคอมพิว๶ตอร์เข้ามาช่วยใน การจัดการฐานข้อมูล และนาฐานข้อมูลผ่านกระบวนการประมวลผลและแสดงผลลัพธ์ใน รูปแบบต่างๆ ที่ต้องการ
  • 3. บิต (Bit) หมายถึง หน่ วยของข้อมูลที่มีขนาดเล็กที่สด เป็ นข้อมูลที่มีการจัดเก็บในลักษณะ ุ ของเลขฐานสองคือ 0 กับ 1 ไบต์ (Byte) หมายถึงหน่ วยของข้อมูลที่เกิดจากการนาบิตมารวมเป็ นตัวอักขระหรือ ตัวอักษร (Character) ฟิลด์ (Field) หมายถึง เขตข้อมูลหรือหน่ วยของข้อมูลที่ประกอบขึนจากไบต์หรือตัวอักขระ ้ ตังแต่หนึ่ งตัวขึนไป มารวมกันแล้วได้ความหมายเป็ นคา เป็ นข้อความ หรือของสิ่งใดสิ่งหนึ่ ง ้ ้ เช่น ชื่อบุคคล ตาแหน่ ง อายุ เป็ นต้น
  • 4. เรคคอร์ด (Record) หมายถึง ระเบียนหรือหน่ วยของข้อมูลที่เกิดจากการนาเอาฟิลด์หรือเขต ข้อมูลหลายๆเขตข้อมูลที่เกี่ยวข้องมารวมกัน เพื่อเกิดเป็ นรายการข้อมูลเรื่องใดเรื่องหนึ่ ง เช่น ข้อมูลของพนักงาน 1 ระเบียน (1 คน) จะประกอบด้วย รหัสพนักงาน ชื่อ – สกุล ที่อยู่ ตาแหน่ ง เงินเดือน เป็ นต้น ไฟล์ (File) หมายถึง แฟ้ มข้อมูลหรือหน่ วยของข้อมูลหลายๆ ข้อมูล ที่เป็ นเรื่องเดียวกันมา ร่วมกัน เช่น แฟ้ มข้อมูลพนักงาน แฟ้ มข้อมูลลูกค้า แฟ้ มข้อมูลสินค้า ฯลฯ ไฟล์พนักงาน ฟิ ลด์ รหัส ชื่อ-สกุล ตาแหน่ง เงินเดือน 1001 โชคชัย บูลกุล การบัญชี 8,500 เรคคอร์ด 1002 ชัยชาญ อลงกต วิศวกร 25,000 1003 ชิดชม พานิชสกุล ประชาสัมพันธ์ 8,100
  • 5. เอนทิตี้ (Entty) หมายถึง ชื่อของสิ่งใดสิ่งหนึ่ ง เปรียบเสมือนคานาม อาจได้แก่ คน สถานที่ สิ่งของ การกระทา ซึ่งต้องการจัด๶ก็บྺ้อมูลไว้ เช่น เอนทิตี้พนักงาน เอนทิตี้นักเรียน เป็ นต้น แอททริบิวต์ (Attribute) หมายถึง รายละเอียดข้อมูลที่แสดงลักษณะและคุณสมบัติของ แอททริบิวต์หนึ่ งๆ เช่น เอนทิตี้สินค้า ประกอบด้วย แอททริบิวต์รหัสสินค้า ประเภทสินค้า ชื่อสินค้า ราคาต่อหน่ วย เป็ นต้น ความสัมพันธ์ (Relationships) หมายถึง ความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้ เช่น ความสัมพันธ์ ระหว่างแอนทิตี้นักศึกษา และแอนทิตี้คณะวิชา เช่น นักศึกษาแต่ละคนเรียนอยู่ คณะวิชาใด คณะวิชาหนึ่ ง เป็ นต้น เอนทิตี ้ แอททริบวต์ ิ รหัส ชือ-สกุล ่ ตาแหน่ ง เงินเดือน 1001 โชคชัย บูลกุล การบัญชี 8,500 1002 ชัยชาญ อลงกต วิศวกร 25,000 1003 ชิดชม พานิชสกุล ประชาสัมพันธ์ 8,100
  • 6. 1.ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ( Relational Database) ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ( Relational Database) เป็ นการเก็บข้อมูลในรูปแบบที่ เป็ นตาราง(Table) หรือเรียกว่า รีเลชัน(Relation) มีลกษณะ 2 มิติ คือ เป็ นแถว(Row) และ ั เป็ นคอลัมน์ (Column) การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างตารางจะเชื่อมโยง โดยใช้แอททริบิวต์ (Attribute) หรือคอลัมน์ ท่ีเหมือนกันทังสองตารางเป็ นตัวเชื่อมโยงข้อมูล ตัวอย่างเช่น ้ ตารางลงทะเบียน ถ้าต้องการทราบว่านักเรียนรหัส 1001 ลงทะเบียนวิชาอะไร กี่หน่ วยกิต ก็สามารถ นารหัสวิชาในตารางนักเรียนไปตรวจสอบกับรหัสวิชาซึ่งเป็ นคียหลักในตาราง ์ หลักสูตร เพื่อนาชื่อวิชา และจานวนหน่ วยกิตมาใช้
  • 7. 1.ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ ( Relational Database) ตารางลงทะเบียน ตารางหลักสูตร รหัส ชื่อ สกุล แผนก รหัส รหัส ชื่อวิชา หน่ วย นักเรียน วิชา วิชา วิชา กิต 1001 สมชาย มีสข ุ บัญชี 001 001 ประมวลผลคา 3 1002 สมพล สุขสม การขาย 003 002 ตารางงาน 3 1003 สมสมร สุขสวัสด์ ิ คอมฯ 002 003 การนาเสนอ 3 รูปที่ 1.4 แสดงตารางที่มีความสัมพันธ์เชิงสัมพันธ์
  • 8. 2. ฐานข้อมูลแบบเครือข่าย (Network Database) ฐานข้อมูลแบบเครือข่าย (Network Database) ฐานข้อมูลแบบเครือข่ายจะเป็ นการ รวมระเบียนต่างๆ และความสัมพันธ์ระหว่างระเบียน แต่จะต่างกับฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ คือ ในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์จะแฝงความสัมพันธ์เอาไว้ โดยระเบียนที่มีความสัมพันธ์กน ั จะต้องมีค่าของข้อมูลในแอททริบิวต์หนึ่ งเหมือนกัน แต่ในฐานข้อมูลแบบเครือข่าย จะแสดง ความสัมพันธ์อย่างชัดเจน โดยแสดงไว้ในโครงสร้างตัวอย่างเช่น
  • 9. 2. ฐานข้อมูลแบบเครือข่าย (Network Database) รูปที่ 1.5 แสดงตารางที่มีความสัมพันธ์ แบบเครือข่าย จากรูป จะเห็นได้ว่า กรอบสี่เหลี่ยมแสดงถึงชนิดของระเบียนในฐานข้อมูล ลูกศรเป็ น การแสดงความสัมพันธ์ จากรูปเป็ นการแสดงความสัมพันธ์แบบหนึ่ งต่อกลุ่ม การค้นหา ข้อมูลที่ต้องการ เช่นถ้าต้องการค้นหารายชื่อนักเรียนที่เรียนอยู่แผนกที่ 5 ก็ทาโดยออก คาสังบอก DBMS ให้ค้นหาแผนกที่ 5 จากระเบียนของทะเบียน แล้ววิ่งตามลูกศร ซึ่งจะ ่ เชื่อมข้อมูลของแผนกที่ 5 เข้ากับข้อมูลของนักเรียนซึ่งได้แก่ระเบียนของนักเรียนที่เรียน ในแผนกที่ 5 เป็ นการค้นโดยใช้ลกศรเชื่อมโยงไปถึงความสัมพันธ์จึงไม่จาเป็ นต้องเก็บ ู แอททริบิวต์รหัสแผนกไว้ในระเบียนของทะเบียน เช่นที่ทาในฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์
  • 10. 3. ฐานข้อมูลแบบลาดับ (Hierarchical Databas) ฐานข้อมูลแบบลาดับ (Hierarchical Databas) ฐานข้อมูลแบบลาดับชัน เป็ นโครงสร้าง ้ ที่จดเก็บข้อมูลในลักษณะความสัมพันธ์แบบ (Parent-Child Relationship Type) หรือเป็ น ั โครงสร้างรูปแบบต้นไม้ (Tree) ข้อมูลที่จดเก็บในที่นี้ คือ ระเบียน (Record) ซึ่งประกอบด้วย ั ค่าของเขตข้อมูล (Field) ของแอนทิตี้หนึ่ งๆ นี่ เอง
  • 11. 3. ฐานข้อมูลแบบลาดับ (Hierarchical Databas) แผนก ชื่อแผนก รหัสแผนก ที่ตง ั้ หลักสูตร นักเรียน ชื่อวิชา รหัสวิชา หน่ วย ชื่อ รหัส ที่อยู่ เรียน นักเรียน นักเรียน รูปที่ 1.6 ตัวอย่างฐานข้อมูลแบบลาดับชัน ้
  • 12. โปรแกรมฐานข้อมูล เป็ นโปรแกรมซอฟแวร์ที่ช่วยจัดการข้อมูลหรือรายการต่างๆที่อยู่ ในฐานข้อมูล ไม่ว่าจะเป็ นการจัดเก็บ การเรียกใช้ การปรับปรุงข้อมูล โปรแกรมฐานข้อมูล จะช่วยให้ผใช้สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งโปรแกรมฐานข้อมูลที่นิยมใช้มีอยู่ ู้ ด้วยกันหลายตัว เช่น Access, FoxPro, Oracle, SQL เป็ นต้น สาหรับโปรแกรม Microsoft Access นี้ จะกล่าวถึงวิธีการใช้เบืองต้น โดยสังเขปไว้ใน ้ หน่ วยถัดไป
  • 17. 1. คียหลัก (Primary Key) ์ Primary Key หมายถึง คียหลักที่กาหนดจากฟิลด์ที่ไม่มีข้อมูลซาซ้อน (Unique) ใน Table ์ ้ เดียวกันโดยเด็ดขาดและจะต้องมีค่าเสมอจะเป็ นค่าว่าง (Null) ไม่ได้สามารถนามาจัด เรียงลาดับและแยกแยะข้อมูลแต่ละรายการออกจากกันได้เป็ นอย่างดี ตัวอย่างของข้อมูลที่ นามากาหนดเป็ นคียหลัก ได้แก่ รหัสนักเรียน รหัสสินค้า หมายเลขห้องพัก รหัสวิชา ฯลฯ ์
  • 18. 1. คียหลัก (Primary Key) ์ รหัส ชื่อ-สกุล ตาแหน่ ง เงินเดือน 1001 โชคชัย บูลกุล การบัญชี 8,500 1002 ชัยชาญ อลงกต วิศวกร 25,000 1003 ชิดชม พานิชสกุล ประชาสัมพันธ์ 8,100 รูปที่ 1.8 แสดงตัวอย่างการกาหนดคียหลัก ( Primary Key) ์
  • 19. 2. คียนอก (Foreign Key) ์ .Foreign Key หมายถึง คียนอก เป็ นคียที่เชื่อม Table ที่เกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์กน ์ ์ ั เช่น ใน Table หลักสูตร กาหนดให้รหัสวิชาเป็ น Primary Key และทาการเชื่อมโยงไปยัง Table ลงทะเบียนเพื่อต้องการทราบชื่อวิชาและหน่ วยกิตที่นักเรียนลงทะเบียน โดยกาหนด ฟิลด์ รหัสวิชา ใน Table ลงทะเบียนเป็ น Foreign Key ในลักษณะความสัมพันธ์ One to May หมายความว่า รหัสวิชา 1 วิชาสามารถให้นักเรียนลงทะเบียนได้มากกว่า 1 คน ดังนันจึงมี ้ รหัสวิชาซากันได้ใน Table ลงทะเบียนเป็ น Foreign Key ในลักษณะความสัมพันธ์ One to ้ Many หมายความว่า รหัสวิชา 1 วิชาสามารถให้นักเรียนลงทะเบียนได้มากกว่า 1 คน ดังนัน ้ จึงมีรหัสซากันได้ใน Table ลงทะเบียน ้
  • 20. 2. คียนอก (Foreign Key) ์ ตารางหลักสูตร รหัสวิชา ชื่อวิชา หน่ วยกิต 001 ประมวลผลคา 3 002 ตารางงาน 3 003 การนาเสนอ 2 ตารางลงทะเบียน รหัส ชื่อ สกุล แผนกวิชา รหัสวิชา นักเรียน 1001 สมชาย มีสข ุ บัญชี 001 1002 สมพร สุขสม การขาย 003 1003 สมสมร สุขสวัสด์ ิ คอมฯ 001 รูปที่ 1.9. แสดงตัวอย่างการกาหนดคียนอก ( Foreign Key) ์
  • 21. 3. คียค่แข่ง Candidate Key ์ ู Candidate Key หมายถึง คียมีคณสมบัติใกล้เคียงกับคียหลัก ( Primary Key) หรือสามารถ ์ ุ ์ นามาแทนคียหลักได้ เช่น ในตารางพนักงานกาหนดให้รหัสพนักงานเป็ นคียหลักที่มีค่าไม่ซา ์ ์ ้ กัน แต่พบว่าหมายเลขบัตรประชาชนของพนักงานก็มีค่าไมซากัน ดังนัน หมายเลขบัตร ้ ้ ประชาชนมีลกษณะเป็ น Candidate Key ซึ่งสามารถนามาเป็ นคียสารองแทนคียหลักได้ ั ์ ์
  • 22. 3. คียค่แข่ง Candidate Key ์ ู รหัส ชื่อ สกุล หมายเลขบัตร การศึกษา พนักงาน 001 สมชาย มีสกุล 1-1299-00123-25-8 ปวส. 002 สิริวิมล ชาญฉลาด 1-3205-12001-32-4 ปริญญาตรี 003 สมควร ชนะชาติ 3-2022-15444-77-9 ปวช. รูปที่ 1.10 แสดงตัวอย่างการกาหนดคียสารองคียหลัก ( Candidate Key) ์ ์
  • 23. 4. คียรวม (Compound Key) ์ Compound Key หมายถึง คียที่เกิดจากการรวมข้อมูลหลายฟิลด์ให้มีคณสมบัติเหมือนคียหลัก ์ ุ ์ ( มีค่าไม่ซากันและไม่มีค่าว่าง หรือ null value) เช่น การนาฟิลด์ชื่อนักเรียน มารวมกับฟิลด์สกุล ้ ของนักเรียน ทาให้เกิดเป็ นฟิลด์ข้อมูลที่ไม่มีค่าไม่ซาซ้อนกัน เราเรียกคียที่เกิดจากการรวมชื่อ ้ ์ นักเรียนและสกุลว่า Compound key หรือคียรวม ์
  • 24. 4. คียรวม (Compound Key) ์ รหัส ชื่อ-สกุล สกุล หมายเลขบัตร การศึกษา พนักงาน 001 สมชาย มีสกุล 1-1299-00123-25-8 ปวส. 002 สิริวิมล ชาญฉลาด 1-3205-12001-32-4 ปริญญาตรี 003 สมควร ชนะชาติ 3-2022-15444-77-9 ปวช. รูปที่ 1.11. แสดงตัวอย่างการกาหนดคียรวม ( compound Key) ์
  • 25. เนื้ อหาจบแล้ว ต่อไปให้นักเรียนทาแบบฝึ กหัดหน่ วยที่ 1 เมื่อทาแบบฝึ กหัดหน่ วยที่ 1 เสร็จแล้ว ให้นักเรียนศึกษา หน่ วยที่ 2 ต่อไป