ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
งาȨทย
จัดทาโดย
นางสาวบุญวิไล ทองดียง เลขที่ 27
                        ิ่
นางสาวกัญญาณี ศรี สุกใส เลขที่ 28
            ชั้น ม. 6/1
              เสนอ
       อาจารย์นิตยา ทองดียงิ่
  โรงเรี ยนรัษฏานุประดิษฐ์อนุสรณ์
 จอมทัพมาคธราษฎร์ ธ ยาตรพยุหกรี
ธาสู่ สาลี                                นคร
จอมทัพแห่ งแคว้ นมคธกรีธาทัพเข้ าเมืองเวสาลี

 โดยทางอันพระทวารเปิ ดนรนิกร
ฤารอจะต่อรอน                                 อะไร
ทางประตูเมืองทีเ่ ปิ ดอยู่โดยไม่ มผ้คนหรือทหารต่ อสู้
                                   ี ู
ประการใด

 เบื้องนั้นท่านคุรุวสสการทิชก็ไป
                     ั
นาทัพชเนนทร์ไท                             มคธ
 ขณะนั้นวัสสการพราหมณ์ ผู้เป็ นอาจารย์ กไปนาทัพ
                                         ็
ของกษัตริย์แห่ งมคธ
 เข้าปราบลิจฉวิขตติยรัฐชนบท
                     ั ์
สูเ้ งื้อมพระหัตถ์หมด                   และโดย
 เข้ ามาปราบกษัตริย์ลจฉวี อาณาจักรทั้งหมดก็ตกอยู่ใน
                         ิ
เงือมพระหัตถ์
    ้

 ไป่ พักต้องจะกะเกณฑ์นิกายพหลโรย
แรงเปลืองระดมโปรย                          ประยุทธ์
 โดยทีกองทัพไม่ ต้องเปลืองแรงในการต่ อสู้
         ่

 ราบคาบเสร็ จ ธ เสด็จลุราชคฤหอุต
ดมเขตบุเรศดุจ                          ณ เดิม
 ปราบราบคาบแล้ วเสด็จยังราชคฤห์ เมืองยิงใหญ่ ดงเดิม
                                        ่      ั
ชิต บุรทัตได้ ยกพุทธภาษิต แสดงคุณและโทษความสามัคคี ดังนี้


 พุทธทิบณฑิตั               พิเคราะห์คิดพินิจปรา
รภสรรเสริ ญ                  ธุสมัครภาพผล
 ผู้รู้ ท้งหลายมีพระพุทธเจ้ าเป็ นต้ น ได้ ใคร่ ครวญพิจารณา
           ั
กล่ าวสรรเสริญว่ าชอบแล้ วในเรื่องผลแห่ งความพร้ อมเพรียงกัน

 ว่าอาจจะอวยพรผา          สุ กภาวมาดล
ดีสู่ณ หมู่ตน              บ นิราศนิรันดร
 ความสามัคคีอาจอานวยให้ ถึงซึ่งสภาพแห่ งความผาสุ ก ณ
หมู่ของตนไม่ เสื่อมคลายตลอดไป
 หมู่ใดผิสามัค                คยพรรคสโมสร
ไปปราศนิราศรอน                 คุณไร้ไฉนดล
 หากหมู่ใดมีความสามัคคีร่วมชุมนุมกัน ไม่ ห่างเหินกัน สิ่งทีไร้
                                                            ่
ประโยชน์ จะมาสู่ ได้ อย่ างไร

 พร้อมเพรี ยงประเสริ ฐครัน        เพราะฉะนั้นแหละบุคคล
ผูหวังเจริ ญตน
    ้                           ธุระเกี่ยวกะหมู่เขา
 ความพร้ อมเพรี ยงนั้นประเสริฐยิง นัก เพราะฉะนั้นบุคคลใดหวัง
                                    ่
ทีจะได้ รับความเจริญแห่ งตนและมีกจธุระอันเป็ นส่ วนรวม
  ่                              ิ

 พึงหมายสมัครเป็ น                  มุขเป็ นประธานเอา
ธูรทัว ณ ตัวเรา
     ่                              บ มิเห็น ณ ฝ่ ายเดียว
 ก็พงตั้งใจเป็ นหัวหน้ าเอาเป็ นธุระด้ วยตัวของเราเองโดยมิเห็น
       ึ
ประโยชน์ ตนแต่ ฝ่ายเดียว
 ควรยกประโยชน์ยน     ื่           นครอื่นก็แลเหลียว
ดูบางและกลมเกลียว
   ้                              มิตรภาพประดุจครอง
 ควรยกประโยชน์ ให้ บุคคลอืนบ้ าง นึกถึงผู้อนบ้ าง ต้ องกลมเกลียว
                           ่                ื่
มีความเป็ นมิตรกันไว้

 ยั้งทิฐิมานหย่อน                    ทมผ่อนผจงจอง
อารี มิมีหมอง                     มนเมื่อจะทาใด
 ต้ องลดทิฐิมานะ รู้ จกข่ มใจ จะทาสิ่งใดก็เอือเฟื้ อกันไม่มความ
                       ั                      ้             ี
บาดหมางใจ

 ลาภผลสกลบรร                           ็
                                     ลุกปันก็แบ่งไป
ตามน้อยมากใจ                       สุจริ ตนิยมธรรม
 ผลประโยชน์ ท้งหลายทีเ่ กิดขึนก็แบ่ งปันกันไป มากบ้ างน้ อยบ้ าง
                ั             ้
อย่ างเป็ นธรรม
 พึงมารยาทยึด            สุประพฤติสงวนพรรค์
รื้ อริ ษยาอัน            อุปเฉทไมตรี
 ควรยึดมันในมารยาทและความประพฤติทดงาม รักษาหมู่
               ่                      ี่ ี
คณะโดยไม่ มความริษยากันอันจะตัดรอนไมตรี
                 ี

 ดังนั้น ณ หมู่ใด
     ่                       ผิ บ ไร้สมัครมี
พร้อมเพรี ยงนิพทธ์นี
                ั            รวิวาทระแวงกัน
 ดังนั้นถ้ าหมู่คณะใดไม่ ขาดซึ่งความสามัคคี มีความพร้ อม
เพรียงกันอยู่เสมอ ไม่มการวิวาท และระแวงกัน
                      ี

 หวังเทอญมิตองสง้             สยคงประสบพลัน
ซึ่งสุขเกษมสันต์               หิ ตะกอบทวีการ
 ก็หวังได้ โดยไม่ ต้องสงสัยว่ า คงจะพบซึ่งความสุ ข ความ
สงบ และประกอบด้ วยประโยชน์ มากมาย
 ใครเล่าจะสามารถ               มนอาจระรานหาญ
หักล้าง บ แหลกลาญ              ก็เพราะพร้อมเพราะเพรี ยงกัน
 ใครเล่ าจะมีใจกล้ าคิดทาสงครามด้ วย หวังจะทาลายล้ างก็
ไม่ ได้ ทั้งนีเ้ พราะความพร้ อมเพรียงกันนั่นเอง

 ป่ วยกล่าวอะไรฝูง          นรสูงประเสริ ฐครัน
ฤาสรรพสัตวือนั               เฉพาะมีชีวครอง
                                       ี
 กล่ าวไปไยกับมนุษย์ ผู้ประเสริฐหรือสรรพสัตว์ ทมชีวต
                                                ี่ ี ิ

 แม้มากผิกิ่งไม้            ผิวใครจะใคร่ ลอง
มัดกากระนั้นปอง              พลหักก็เต็มทน
 แม้ แต่ กงไม้ หากใครจะใคร่ ลองเอามามัดเป็ นกา ตั้งใจใช้ กาลัง
           ิ่
หักก็ยากเต็มทน
 เหล่านั้นผิไมตรี        สละลี้ ณ หมู่ตน
กิจใดจะขวายขวน           บ มิพร้อมมิเพรี ยงกัน
 หากหมู่ใดไม่มความสามัคคีในหมู่คณะของตน และกิจการอันใดที่
                ี
จะต้ องขวนขวายทาก็มพร้ อมเพรียงกัน
                   ิ

 อย่าปรารถนาหวัง           สุขทั้งเจริ ญอัน
มวลมาอุบติบรร
          ั                 ลุไฉน บ ได้มี
 ก็อย่ าได้ หวังเลยความสุ ขความเจริญจะเกิดขึนได้ อย่ างไร
                                             ้

 ปวงทุกข์พิบติสรร  ั       พภยันตรายกลี
แม้ปราศนิยมปรี             ติประสงค์ก็คงสม
 ความทุกข์ พบัตอนตรายและความชั่วร้ ายทั้งปวง ถึงแม้ จะไม่ ต้องการก็
                   ิ ิั
จะต้ องได้ รับเป็ นแน่ แท้
 ควรชนประชุมเช่น           คณะเป็ นสมาคม
สามัคคิปรารม               ภนิ พทธราพึง
                                ั
 ผู้ทอยู่รวมกันเป็ นหมู่คณะหรือสมาคม ควรคานึงถึงความสามัคคี
         ี่
อยู่เป็ นนิจ

 ไป่ มีก็ให้มี                    ้
                             ผิวมีกคานึง
เนื่องเพื่ออภิยโยจึง        จะประสบสุขาลัยฯฯ
 ถ้ ายังไม่ มกควรจะมีขน ถ้ ามีอยู่แล้ วก็ควรให้ เจริญรุ่งเรือง
               ี็       ึ้
ยิงขึนไปจึงจะถึงซึ่งความสุ ขความสบาย
  ่ ้
คุณค่ าด้ านวรรณศิลป์


1) การสรรคา เป็ นการเลือกใช้คาที่สื่อความคิดและอารมณ์ได้อย่าง
       ถาวร และศักดิ์สิทธิ์
ตัวอย่ าง
จอมทัพมาคธราษฎร์ ธ ยาตรพยุหกรี
ธาสู่ สาลี                               นคร

 โดยทางอันพระทวารเปิ ดนรนิกร
ฤารอจะต่ อรอน                               อะไร
2) การใช้ โวหาร สามัคคีเภทคาฉันท์มีความไพเราะงดงามอันเกิดจาก
     กวีใช้ศิลปะในการถ่ายทอดความหมายของเนื้อหาโดยการใช้
     บรรยายโวหารและพรรณนาโวหารเพื่อให้ผอ่านจินตนาการเห็น
                                               ู้
     ภาพ เข้าใจง่ายและเกิดอารมณ์คล้อยตามดังนี้
 บรรยายโวหาร ใช้คาให้เห็นภาพชัดเจนตามลาดับเหตุการณ์
     รวดเร็ วไม่เยิยเย้อ เข้าใจง่าย
                   ่
ตัวอย่ าง
 หมูใดผิสามัค
        ่                           คยพรรคสโมสร
ไปปราศนิราศรอน                      คุณไร้ ไฉนดล

 พร้ อมเพรี ยงประเสริ ฐครัน    เพราะฉะนันแหละบุคคล
                                            ้
ผู้หวังเจริ ญตน                 ธุระเกี่ยวกะหมูเ่ ขา
พรรณนาโวหาร เป็ นการสร้างมโนภาพ ให้ผอ่านเกิดภาพขึ้น
                                         ู้
ในใจหรื อมองเห็นภาพ บรรยายตามที่กวีตองการที่จะสื่ อ
                                      ้
ตัวอย่ าง
 ป่ วยกล่าวอะไรฝูง      นรสูงประเสริ ฐครัน
ฤาสรรพสัตวือนั           เฉพาะมีชีวครอง
                                    ี

 แม้มากผิกิ่งไม้       ผิวใครจะใคร่ ลอง
มัดกากระนั้นปอง         พลหักก็เต็มทน
งาȨทย

More Related Content

What's hot (19)

วังสัฏ ฉันท์ ๑๒
วังสัฏ  ฉันท์ ๑๒วังสัฏ  ฉันท์ ๑๒
วังสัฏ ฉันท์ ๑๒
Jiraprapa Noinoo
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
Kamonchapat Boonkua
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Sirisak Promtip
สามัคคีเภทคำฉัȨ์ (อินทรวิเชียร)2
สามัคคีเภทคำฉัȨ์ (อินทรวิเชียร)2สามัคคีเภทคำฉัȨ์ (อินทรวิเชียร)2
สามัคคีเภทคำฉัȨ์ (อินทรวิเชียร)2
B'Ben Rattanarat
สามัคคีเภทคำฉัȨ1
สามัคคีเภทคำฉัȨ1สามัคคีเภทคำฉัȨ1
สามัคคีเภทคำฉัȨ1
Sirisak Promtip
สามัคคีเภทคำฉัȨ์Pdf
สามัคคีเภทคำฉัȨ์PdfสามัคคีเภทคำฉัȨ์Pdf
สามัคคีเภทคำฉัȨ์Pdf
Mind Candle Ka
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
A'waken P'Kong
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Nakkarin Keesun
งานภาษาไทย (ชุติมา)
งานภาษาไทย (ชุติมา)งานภาษาไทย (ชุติมา)
งานภาษาไทย (ชุติมา)
Chutima Tongnork
วังสัฏ ฉันท์ ๑๒
วังสัฏ  ฉันท์ ๑๒วังสัฏ  ฉันท์ ๑๒
วังสัฏ ฉันท์ ๑๒
Jiraprapa Noinoo
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
Kamonchapat Boonkua
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Sirisak Promtip
สามัคคีเภทคำฉัȨ์ (อินทรวิเชียร)2
สามัคคีเภทคำฉัȨ์ (อินทรวิเชียร)2สามัคคีเภทคำฉัȨ์ (อินทรวิเชียร)2
สามัคคีเภทคำฉัȨ์ (อินทรวิเชียร)2
B'Ben Rattanarat
สามัคคีเภทคำฉัȨ1
สามัคคีเภทคำฉัȨ1สามัคคีเภทคำฉัȨ1
สามัคคีเภทคำฉัȨ1
Sirisak Promtip
สามัคคีเภทคำฉัȨ์Pdf
สามัคคีเภทคำฉัȨ์PdfสามัคคีเภทคำฉัȨ์Pdf
สามัคคีเภทคำฉัȨ์Pdf
Mind Candle Ka
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
A'waken P'Kong
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Nakkarin Keesun
งานภาษาไทย (ชุติมา)
งานภาษาไทย (ชุติมา)งานภาษาไทย (ชุติมา)
งานภาษาไทย (ชุติมา)
Chutima Tongnork

Similar to งาȨทย (20)

สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Sp'z Puifai
โวหารใȨาร๶ขียน
โวหารใȨาร๶ขียนโวหารใȨาร๶ขียน
โวหารใȨาร๶ขียน
krubuatoom
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Chutima Tongnork
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Nid Noy Kaowkong
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Nid Noy Kaowkong
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Chutima Tongnork
สุภีร์ ทุมทอง สติปัญญา
สุภีร์ ทุมทอง   สติปัญญาสุภีร์ ทุมทอง   สติปัญญา
สุภีร์ ทุมทอง สติปัญญา
Tongsamut vorasan
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
Kamonchapat Boonkua
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
อิ่' เฉิ่ม
คำȨทำ1
คำȨทำ1คำȨทำ1
คำȨทำ1
Songsarid Ruecha
ฉันทศาสตร์ 2
ฉันทศาสตร์ 2ฉันทศาสตร์ 2
ฉันทศาสตร์ 2
tayanon
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
Tongsamut vorasan
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Sp'z Puifai
โวหารใȨาร๶ขียน
โวหารใȨาร๶ขียนโวหารใȨาร๶ขียน
โวหารใȨาร๶ขียน
krubuatoom
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Chutima Tongnork
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Nid Noy Kaowkong
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Nid Noy Kaowkong
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์สามัคคีเภทคำฉัȨ์
สามัคคีเภทคำฉัȨ์
Chutima Tongnork
สุภีร์ ทุมทอง สติปัญญา
สุภีร์ ทุมทอง   สติปัญญาสุภีร์ ทุมทอง   สติปัญญา
สุภีร์ ทุมทอง สติปัญญา
Tongsamut vorasan
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
Kamonchapat Boonkua
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
งานนำเสนอ1 วสันตดิลก ฉันท์ ๑๔
อิ่' เฉิ่ม
ฉันทศาสตร์ 2
ฉันทศาสตร์ 2ฉันทศาสตร์ 2
ฉันทศาสตร์ 2
tayanon
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail3 ตามรอยธรรม dhamatrail
3 ตามรอยธรรม dhamatrail
Tongsamut vorasan

งาȨทย

  • 2. จัดทาโดย นางสาวบุญวิไล ทองดียง เลขที่ 27 ิ่ นางสาวกัญญาณี ศรี สุกใส เลขที่ 28 ชั้น ม. 6/1 เสนอ อาจารย์นิตยา ทองดียงิ่ โรงเรี ยนรัษฏานุประดิษฐ์อนุสรณ์
  • 3.  จอมทัพมาคธราษฎร์ ธ ยาตรพยุหกรี ธาสู่ สาลี นคร จอมทัพแห่ งแคว้ นมคธกรีธาทัพเข้ าเมืองเวสาลี  โดยทางอันพระทวารเปิ ดนรนิกร ฤารอจะต่อรอน อะไร ทางประตูเมืองทีเ่ ปิ ดอยู่โดยไม่ มผ้คนหรือทหารต่ อสู้ ี ู ประการใด  เบื้องนั้นท่านคุรุวสสการทิชก็ไป ั นาทัพชเนนทร์ไท มคธ  ขณะนั้นวัสสการพราหมณ์ ผู้เป็ นอาจารย์ กไปนาทัพ ็ ของกษัตริย์แห่ งมคธ
  • 4.  เข้าปราบลิจฉวิขตติยรัฐชนบท ั ์ สูเ้ งื้อมพระหัตถ์หมด และโดย  เข้ ามาปราบกษัตริย์ลจฉวี อาณาจักรทั้งหมดก็ตกอยู่ใน ิ เงือมพระหัตถ์ ้  ไป่ พักต้องจะกะเกณฑ์นิกายพหลโรย แรงเปลืองระดมโปรย ประยุทธ์  โดยทีกองทัพไม่ ต้องเปลืองแรงในการต่ อสู้ ่  ราบคาบเสร็ จ ธ เสด็จลุราชคฤหอุต ดมเขตบุเรศดุจ ณ เดิม  ปราบราบคาบแล้ วเสด็จยังราชคฤห์ เมืองยิงใหญ่ ดงเดิม ่ ั
  • 5. ชิต บุรทัตได้ ยกพุทธภาษิต แสดงคุณและโทษความสามัคคี ดังนี้  พุทธทิบณฑิตั พิเคราะห์คิดพินิจปรา รภสรรเสริ ญ ธุสมัครภาพผล  ผู้รู้ ท้งหลายมีพระพุทธเจ้ าเป็ นต้ น ได้ ใคร่ ครวญพิจารณา ั กล่ าวสรรเสริญว่ าชอบแล้ วในเรื่องผลแห่ งความพร้ อมเพรียงกัน  ว่าอาจจะอวยพรผา สุ กภาวมาดล ดีสู่ณ หมู่ตน บ นิราศนิรันดร  ความสามัคคีอาจอานวยให้ ถึงซึ่งสภาพแห่ งความผาสุ ก ณ หมู่ของตนไม่ เสื่อมคลายตลอดไป
  • 6.  หมู่ใดผิสามัค คยพรรคสโมสร ไปปราศนิราศรอน คุณไร้ไฉนดล  หากหมู่ใดมีความสามัคคีร่วมชุมนุมกัน ไม่ ห่างเหินกัน สิ่งทีไร้ ่ ประโยชน์ จะมาสู่ ได้ อย่ างไร  พร้อมเพรี ยงประเสริ ฐครัน เพราะฉะนั้นแหละบุคคล ผูหวังเจริ ญตน ้ ธุระเกี่ยวกะหมู่เขา  ความพร้ อมเพรี ยงนั้นประเสริฐยิง นัก เพราะฉะนั้นบุคคลใดหวัง ่ ทีจะได้ รับความเจริญแห่ งตนและมีกจธุระอันเป็ นส่ วนรวม ่ ิ  พึงหมายสมัครเป็ น มุขเป็ นประธานเอา ธูรทัว ณ ตัวเรา ่ บ มิเห็น ณ ฝ่ ายเดียว  ก็พงตั้งใจเป็ นหัวหน้ าเอาเป็ นธุระด้ วยตัวของเราเองโดยมิเห็น ึ ประโยชน์ ตนแต่ ฝ่ายเดียว
  • 7.  ควรยกประโยชน์ยน ื่ นครอื่นก็แลเหลียว ดูบางและกลมเกลียว ้ มิตรภาพประดุจครอง  ควรยกประโยชน์ ให้ บุคคลอืนบ้ าง นึกถึงผู้อนบ้ าง ต้ องกลมเกลียว ่ ื่ มีความเป็ นมิตรกันไว้  ยั้งทิฐิมานหย่อน ทมผ่อนผจงจอง อารี มิมีหมอง มนเมื่อจะทาใด  ต้ องลดทิฐิมานะ รู้ จกข่ มใจ จะทาสิ่งใดก็เอือเฟื้ อกันไม่มความ ั ้ ี บาดหมางใจ  ลาภผลสกลบรร ็ ลุกปันก็แบ่งไป ตามน้อยมากใจ สุจริ ตนิยมธรรม  ผลประโยชน์ ท้งหลายทีเ่ กิดขึนก็แบ่ งปันกันไป มากบ้ างน้ อยบ้ าง ั ้ อย่ างเป็ นธรรม
  • 8.  พึงมารยาทยึด สุประพฤติสงวนพรรค์ รื้ อริ ษยาอัน อุปเฉทไมตรี  ควรยึดมันในมารยาทและความประพฤติทดงาม รักษาหมู่ ่ ี่ ี คณะโดยไม่ มความริษยากันอันจะตัดรอนไมตรี ี  ดังนั้น ณ หมู่ใด ่ ผิ บ ไร้สมัครมี พร้อมเพรี ยงนิพทธ์นี ั รวิวาทระแวงกัน  ดังนั้นถ้ าหมู่คณะใดไม่ ขาดซึ่งความสามัคคี มีความพร้ อม เพรียงกันอยู่เสมอ ไม่มการวิวาท และระแวงกัน ี  หวังเทอญมิตองสง้ สยคงประสบพลัน ซึ่งสุขเกษมสันต์ หิ ตะกอบทวีการ  ก็หวังได้ โดยไม่ ต้องสงสัยว่ า คงจะพบซึ่งความสุ ข ความ สงบ และประกอบด้ วยประโยชน์ มากมาย
  • 9.  ใครเล่าจะสามารถ มนอาจระรานหาญ หักล้าง บ แหลกลาญ ก็เพราะพร้อมเพราะเพรี ยงกัน  ใครเล่ าจะมีใจกล้ าคิดทาสงครามด้ วย หวังจะทาลายล้ างก็ ไม่ ได้ ทั้งนีเ้ พราะความพร้ อมเพรียงกันนั่นเอง  ป่ วยกล่าวอะไรฝูง นรสูงประเสริ ฐครัน ฤาสรรพสัตวือนั เฉพาะมีชีวครอง ี  กล่ าวไปไยกับมนุษย์ ผู้ประเสริฐหรือสรรพสัตว์ ทมชีวต ี่ ี ิ  แม้มากผิกิ่งไม้ ผิวใครจะใคร่ ลอง มัดกากระนั้นปอง พลหักก็เต็มทน  แม้ แต่ กงไม้ หากใครจะใคร่ ลองเอามามัดเป็ นกา ตั้งใจใช้ กาลัง ิ่ หักก็ยากเต็มทน
  • 10.  เหล่านั้นผิไมตรี สละลี้ ณ หมู่ตน กิจใดจะขวายขวน บ มิพร้อมมิเพรี ยงกัน  หากหมู่ใดไม่มความสามัคคีในหมู่คณะของตน และกิจการอันใดที่ ี จะต้ องขวนขวายทาก็มพร้ อมเพรียงกัน ิ  อย่าปรารถนาหวัง สุขทั้งเจริ ญอัน มวลมาอุบติบรร ั ลุไฉน บ ได้มี  ก็อย่ าได้ หวังเลยความสุ ขความเจริญจะเกิดขึนได้ อย่ างไร ้  ปวงทุกข์พิบติสรร ั พภยันตรายกลี แม้ปราศนิยมปรี ติประสงค์ก็คงสม  ความทุกข์ พบัตอนตรายและความชั่วร้ ายทั้งปวง ถึงแม้ จะไม่ ต้องการก็ ิ ิั จะต้ องได้ รับเป็ นแน่ แท้
  • 11.  ควรชนประชุมเช่น คณะเป็ นสมาคม สามัคคิปรารม ภนิ พทธราพึง ั  ผู้ทอยู่รวมกันเป็ นหมู่คณะหรือสมาคม ควรคานึงถึงความสามัคคี ี่ อยู่เป็ นนิจ  ไป่ มีก็ให้มี ้ ผิวมีกคานึง เนื่องเพื่ออภิยโยจึง จะประสบสุขาลัยฯฯ  ถ้ ายังไม่ มกควรจะมีขน ถ้ ามีอยู่แล้ วก็ควรให้ เจริญรุ่งเรือง ี็ ึ้ ยิงขึนไปจึงจะถึงซึ่งความสุ ขความสบาย ่ ้
  • 12. คุณค่ าด้ านวรรณศิลป์ 1) การสรรคา เป็ นการเลือกใช้คาที่สื่อความคิดและอารมณ์ได้อย่าง ถาวร และศักดิ์สิทธิ์ ตัวอย่ าง จอมทัพมาคธราษฎร์ ธ ยาตรพยุหกรี ธาสู่ สาลี นคร  โดยทางอันพระทวารเปิ ดนรนิกร ฤารอจะต่ อรอน อะไร
  • 13. 2) การใช้ โวหาร สามัคคีเภทคาฉันท์มีความไพเราะงดงามอันเกิดจาก กวีใช้ศิลปะในการถ่ายทอดความหมายของเนื้อหาโดยการใช้ บรรยายโวหารและพรรณนาโวหารเพื่อให้ผอ่านจินตนาการเห็น ู้ ภาพ เข้าใจง่ายและเกิดอารมณ์คล้อยตามดังนี้  บรรยายโวหาร ใช้คาให้เห็นภาพชัดเจนตามลาดับเหตุการณ์ รวดเร็ วไม่เยิยเย้อ เข้าใจง่าย ่ ตัวอย่ าง  หมูใดผิสามัค ่ คยพรรคสโมสร ไปปราศนิราศรอน คุณไร้ ไฉนดล  พร้ อมเพรี ยงประเสริ ฐครัน เพราะฉะนันแหละบุคคล ้ ผู้หวังเจริ ญตน ธุระเกี่ยวกะหมูเ่ ขา
  • 14. พรรณนาโวหาร เป็ นการสร้างมโนภาพ ให้ผอ่านเกิดภาพขึ้น ู้ ในใจหรื อมองเห็นภาพ บรรยายตามที่กวีตองการที่จะสื่ อ ้ ตัวอย่ าง  ป่ วยกล่าวอะไรฝูง นรสูงประเสริ ฐครัน ฤาสรรพสัตวือนั เฉพาะมีชีวครอง ี  แม้มากผิกิ่งไม้ ผิวใครจะใคร่ ลอง มัดกากระนั้นปอง พลหักก็เต็มทน