ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
CHAPTER 10 
การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
สถานการณ์ปัญหา 
ท่านเป็นศึกษานิเทศก์ ซึ่งรับผิดชอบหน้าที่ในการพัฒนาครูเกี่ยวกับ การออกแบบและผลิตสื่อ วันหนึ่งมีครูสองคนมาปรึกษาว่าจะมีวิธีการที่ทำให้รู้ ว่าสื่อที่สร้างขึ้นมานั้นมีคุณภาพได้อย่างไร ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 
• 
ครูสายใจเป็นครูสังคมศึกษาได้พัฒนาชุดการสอน 
• 
ครูสมหญิงเป็นครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ 
• 
ครูมาโนชเป็นครูสอนวิชาภาษาได้พัฒนาชุดสร้างความรู้ 
• 
ครูประพาสเป็นครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์ได้พัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วย สอนเพื่อใช้ในการเรียนของตนเอง
ภารกิจ 
1. เลือกวิธีการประเมินคุณภาพสื่อให้สอดคล้องกับลักษณะของสื่อของ ครูแต่ละคนพร้อมทั้งให้เหตุผล 
2. อธิบายข้อจำกัดของการประเมินสื่อการสอน 
3. เปรียบเทียบความแตกต่างของแนวคิดการประเมินสื่อการสอน สื่อ การเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้
1. เลือกวิธีการประเมินคุณภาพสื่อให้สอดคล้องกับลักษณะของสื่อของ ครูแต่ละคนพร้อมทั้งให้เหตุผล 
ครูสายใจ วิธีการประเมินคุณภาพสื่อของครูสายใจที่สอดคล้องกับลักษณะของสื่อ (ชุดการสอน) คือการทดสอบประสิทธิภาพตามเกณฑ์ประสิทธิภาพE1/E2 เพราะการทดสอบประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพE1/E2 เป็นแนวคิดการประเมินที่เกิดขึ้นเพื่อประเมินประสิทธิภาพ ของชุดการสอนและสื่อการสอนประเภทต่างๆ ยกเว้น บทเรียนโปรแกรม ดังนั้นครูสายใจที่เป็น ครูสังคมศึกษาและได้พัฒนาชุดการสอนจึงควรใช้การการทดสอบประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ประสิทธิภาพE1/E2 ซึ่ง •E1 หมายถึง ค่าร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่เกิดจากการทำกิจกรรมระหว่างเรียนจากชุดการสอน หรือสื่ออื่นๆ ของผู้เรียน(ประสิทธิภาพของกระบวนการเรียนรู้) •E2 หมายถึง ค่าร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่เกิดจากการทำแบบทดสอบหลังการเรียนของผู้เรียน (ประสิทธิภาพของผลลัพธ์การเรียนรู้)
การคำนวณโดยใช้สูตร 
E1 หมายถึง ค่าประสิทธิภาพของกระบวนการเรียนรู้ 
ΣX หมายถึง ผลรวมของคะแนนกิจกรรมระหว่างเรียนของผู้เรียนทุกคน(N คน) 
N หมายถึง จำนวนผู้เรียนที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพสื่อการสอนครั้งนี้ 
A หมายถึง คะแนนเต็มของกิจกรรมระหว่างเรียน 
E2 หมายถึง ค่าประสิทธิภาพของผลลัพธ์การเรียนรู้ 
ΣF หมายถึง ผลรวมของคะแนนกิจกรรมระหว่างเรียนของผู้เรียนทุกคน(N คน) 
N หมายถึง จำนวนผู้เรียนที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพสื่อการสอนครั้งนี้ 
B หมายถึง คะแนนเต็มของแบบทดสอบหลังเรียน
ครูสมหญิง 
วิธีการประเมินคุณภาพสื่อของครูสมหญิงที่สอดคล้องกับลักษณะของสื่อ (สิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้) คือ การออกแบบสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ ซึ่งออกแบบตามแนว คอนสตรัคติวิสต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ จะทำการตรวจสอบการออกแบบการสอนที่ อาศัยพื้นฐานทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ซึ่งนำหลักการสำคัญของ ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์เชิง ปัญญา ของPiajetและ ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์เชิงสังคมของVygotskyมาเป็นพื้นฐานในการ ออกแบบ หรือเรียกว่า การนำทฤษฎีสู่การปฏิบัติ ที่อยู่ในลักษณะองค์ประกอบที่สำคัญ ได้แก่ สถานการณ์ปัญหา ธนาคารความรู้ ฐานการช่วยเหลือ การร่วมมือกันแก้ปัญหา ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ 
1. การเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสวงหาความรู้โดยการปฏิบัติจริง 
2. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนควบคุมการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง(Learner control) 
3. สถานการณ์ปัญหากระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจในการเสาะแสวงหาความรู้ หรือค้นหา ค้นพบคำตอบด้วยตนเอง
4. ระดับภาระกิจการเรียนรู้กระตุ้นให้ผู้เรียนได้พัฒนาความสามารถในการคิดขั้นสูง 
5. ภาระกิจการเรียนรู้กระตุ้นให้ผู้เรียนได้คิดวิเคราะห์ ไตร่ตรองประเด็นปัญหาที่ต้องการ ค้นหาคำตอบ 
6. ธนาคารความรู้(Resource) มีการออกแบบที่สนับสนุนข้อมูลให้ผู้เรียนสามารถค้นหา สารสนเทศจากแหล่งต่างๆอย่างหลากหลาย เพื่อนำมาใช้ในการแก้สถานการณ์ปัญหาที่ กำหนดให้ รวมทั้งช่วยสนับสนุนในการสร้างความรู้ของผู้เรียน 
7. เครื่องมือทางปัญญา(Cognitive tool) ในการเรียน กระตุ้นกระบวนการคิดของผู้เรียนและ เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในการเรียน 
8. ฐานการช่วยเหลือ(scaffolding) ส่งเสริมให้ผู้เรียนใช้ความพยายามในการเรียนรู้ 
9. กรณีใกล้เคียง(Related case) ส่งเสริมให้ผู้เรียนเชื่อมโยงประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องมาใช้ใน การแก้ปัญหาได้ 
10. ห้องแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มีการออกแบบที่สนับสนุนให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแก้ปัญหาร่วมกัน 
11. การโค้ช(coaching) โดยครูผู้สอนทำการวิเคราะห์ผู้เรียน สามารถสื่อสารและสะท้อนผล เกี่ยวกับผู้เรียนในกระบวนการเรียนรู้ และกระตุ้นให้ผู้เรียนกระทำภารกิจการเรียนรู้อย่าง ตื่นตัว
ครูมาโนช วิธีการประเมินคุณภาพสื่อของครูมาโนชที่สอดคล้องกับลักษณะ ของสื่อ (ชุดสร้างความรู้) คือ ชุดสร้างความรู้ มีหลักการสำคัญที่นำมาเป็น พื้นฐานในการพิจารณาคุณลักษณะของสื่อดังนี้ 1. การนำเสนอเนื้อหาที่ดึงดูดความใส่ใจของผู้เรียน ได้แก่ การใช้ตัวหนังสือที่มี การเน้นด้วยสี การนาเสนอด้วยภาพนิ่ง 2. การออกแบบองค์ประกอบทางศิลปะ มีความเหมาะสม สะดุดตา น่าสนใจ 3. ภาพประกอบมีความสอดคล้องกับเนื้อหาและส่งเสริมการเรียนรู้ขนาดของ ตัวอักษรที่ใช้มีความสอดคล้องกับเนื้อหา 4. การใช้ขนาดตัวอักษรเหมาะกับผู้เรียน มีจุดดึงดูดความสนใจและอ่านง่าย 5. ภาพกราฟิกที่ใช้ประกอบ มีความเหมาะสม สอดคล้องกับเนื้อหา และทำให้ สามารถเรียนรู้ได้ดีและง่ายมากยิ่งขึ้น 6. การใช้สีมีความเหมาะสม กลมกลืน ดึงดูดความสนใจ
ครูประพาส 
วิธีการประเมินคุณภาพสื่อของครูประพาสที่สอดคล้องกับลักษณะของสื่อ (พัฒนาบทเรียน คอมพิวเตอร์ช่วยสอน) คือ เกณฑ์มาตรฐาน90/90 เพราะ เป็นวิธีการที่ได้รับการพัฒนำมาเพื่อประเมิน ประสิทธิภาพของบทเรียนโปรแกรม ซึ่งมีพื้นฐานมาจากการเรียนรู้แบบรอบรู้(Mastery learning) โดย 
90 ตัวแรกเป็นคะแนนของทั้งกลุ่ม ซึ่งหมายถึงนักเรียนทุกคน เมื่อสอนครั้งหลังเสร็จให้คะแนนเสร็จ นำ คะแนนมาหาค่าร้อยละให้หมดทุกคะแนน แล้วหาค่าร้อยละเฉลี่ยของทั้งกลุ่ม ถ้าบทเรียนโปรแกรมถึง เกณฑ์ค่าร้อยละเฉลี่ยของกลุ่มจะต้องเป็น90 หรือสูงกว่า คำนวณได้จาก90 ตัวแรก={(ΣX /N) X 100)}/R 
โดย 90 ตัวแรก หมายถึง จำนวนร้อยละของคะแนนเฉลี่ยของการทดสอบหลังเรียน 
ΣX หมายถึง คะแนนรวมของผลการทดสอบที่ผู้เรียนแต่ละคน ทำได้ถูกต้องจากการทดสอบหลังเรียน 
N หมายถึง จำนวนผู้เรียนทั้งหมดที่ใช้เป็นกลุ่มตัวอย่างในการคำนวณประสิทธิภาพครั้งนี้ 
R หมายถึง จำนวนคะแนนเต็มของแบบทดสอบหลังเรียน 
90 ตัวที่สองแทนคุณสมบัติที่ว่า ร้อยละ90 ของนักเรียนทั้งหมด ได้รับผลสัมฤทธิ์ตามมุ่งหมายแต่ละข้อ และทุกข้อของบทเรียนโปรแกรม คำนวณได้จาก 90 ตัวหลัง= (Y x 100)/ N 
90 ตัวหลัง หมายถึง จำนวนร้อยละของผู้เรียนที่สามารถทำแบบทดสอบผ่านทุกวัตถุประสงค์ 
Y หมายถึง จำนวนผู้เรียนที่สามารถทาแบบทดสอบผ่านทุกวัตถุประสงค์ 
N หมายถึง จำนวนผู้เรียนทั้งหมดที่ใช้เป็นกลุ่มตัวอย่างในการคำนวณประสิทธิภาพครั้งนี้
2. อธิบายข้อจำกัดของการประเมินสื่อการสอน 
การประเมินโดยอาศัยเกณฑ์ 
แนวคิดการประเมินโดยอาศัยเกณฑ์จะมีการกำหนดค่าตัวเลขขึ้นมาเพื่อเป็นสิ่งที่จะระบุถึง ประสิทธิภาพของสื่อ ในปัจจุบันการกำหนดเกณฑ์นิยมปฏิบัติใน 2 แนวทาง คือ 
(1) เกณฑ์มาตรฐาน 90/90 เป็นวิธีการที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อประเมินประสิทธิภาพ 
ของบทเรียนโปรแกรม มีพื้นฐานมาจากการเรียนรู้แบบรอบรู้ (Mastery learning) นิยามของเกณฑ์มาตรฐาน 90/90 นั้นได้อธิบายไว้ว่า90 ตัวแรก เป็นคะแนนของทั้งกลุ่ม 
90 ตัวที่สอง แทนคุณสมบัติที่ว่า ร้อยละ 90 ของนักเรียนทั้งหมด ได้รับผลสัมฤทธิ์ตาม มุ่งหมายแต่ละข้อ และทุกข้อของบทเรียนโปรแกรม 
(2) การทดสอบประสิทธิภาพตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ E1/E2 
เป็นแนวคิดการประเมินที่เกิดขึ้นเพื่อประเมินประสิทธิภาพของชุดการสอนและสื่อการสอนประเภทต่างๆ มีข้อจำกัด อยู่ว่า ยกเว้น บทเรียนโปรแกรม ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของกลุ่มพฤติกรรมนิยมที่ต้องการประเมินผลพฤติกรรมของ ผู้เรียนใน 2 ประเภท คือ พฤติกรรมต่อเนื่อง (กระบวนการ) และพฤติกรรมสุดท้าย (ผลลัพธ์) โดยกำหนดค่า 
ประสิทธิภาพเป็น E1 (ประสิทธิภาพของกระบวนการ) 
E2 (ประสิทธิภาพของผลลัพธ์)
นิยามประสิทธิภาพ E1/E2 
E1 หมายถึง ค่าร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่เกิดจากการทากิจกรรมระหว่าง เรียนจากชุดการสอนหรือสื่ออื่นๆ ของผู้เรียน (ประสิทธิภาพของกระบวนการเรียนรู้) 
E2 หมายถึง ค่าร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่เกิดจากการทาแบบทดสอบหลังการ เรียนของผู้เรียน (ประสิทธิภาพของผลลัพธ์การเรียนรู้) 
การประเมินโดยค่าดัชนีประสิทธิผล 
การวิเคราะห์ค่าดัชนีประสิทธิผล (Effectiveness index: E.I.) เป็นอีกวิธีที่ใช้ในกาประเมิน ประสิทธิภาพสื่อการสอน ข้อจำกัด คือ ดัชนีประสิทธิผลที่ใช้ได้ควรมีค่า 0.50 ขึ้นไป 
เมื่อ P1% แทน ร้อยละของผลรวมของคะแนนทดสอบก่อนเรียน 
P2% แทน ร้อยละผลรวมของคะแนนทดสอบหลังเรียน
3. เปรียบเทียบความแตกต่างของแนวคิดการประเมินสื่อการสอน สื่อ การเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ 
ความแตกต่างของแนวคิดการประเมินสื่อการสอน สื่อการเรียนรู้และสิ่งแวดล้อม ทางการเรียนรู้ โดยประเมินสื่อการสอนเป็นเพียงตัวกลางที่ถ่ายทอดเนื้อหาหรือความรู้ มี อิทธิพลความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้ที่อยู่บนพื้นฐานที่ว่าความรู้เป็นสิ่งที่หยุดนิ่ง ไม่มีการ เปลี่ยนแปลงดังนั้นหากใครสามารถรับหรือจดจำความรู้ได้มากที่สุดก็ถือว่าผู้นั้นเป็นผู้ที่เรียนรู้ ได้ดีที่สุดและนั่นคือเป้าหมายของการจัดการเรียนรู้ของครู แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ดังกล่าว จะสอดคล้องกับแนวคิดกลุ่มพฤติกรรมนิยม ซึ่งเชื่อว่า การเรียนรู้คือการเปลี่ยนแปลง พฤติกรรม ซึ่งเป็นผลมาจากความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งเร้าและการตอบสนอง ซึ่งการเรียนรู้นั้นจะ คงทนหากได้รับการเสริมแรงการฝึกหัด การทำซํ้าๆ เป็นต้น บทบาทของผู้เรียนจึงเป็นผู้ที่รอรับ ความรู้ที่จะได้รับการถ่ายทอดโดยตรงจากครู แนวคิดดังกล่าวนำมาซึ่งการพัฒนาเป็นสื่อการ สอน ได้แก่ บทเรียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ชุดการสอน
ซึ่งแตกต่างจากการประเมินสื่อการเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมทางการ เรียนรู้ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมกระบวนการรู้คิดหรือกระบวนการทางพุทธิปัญญา (Cognitive process) และแนวโน้มในปัจจุบันทฤษฎีในกลุ่มพุทธิปัญญานิยม และกลุ่มคอนสตรัคติวิสต์ที่นิยามการเรียนรู้คือการสร้างความรู้ของผู้เรียนไม่ใช่ การรอรับความรู้เพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นภายในสมองของ ผู้เรียน การประเมินที่อาศัยข้อมูลเชิงปริมาณที่เป็นค่าคะแนนหรือตัวเลขอาจไม่ เพียงพอที่จะนำมาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพการเรียนรู้ที่ เกิดขึ้นในกระบวนการรู้คิดภายในสมอง ตลอดจนระบบสัญลักษณ์ของสื่อที่ พิจารณาคุณลักษณ์ของสื่อในลักษณะที่เป็นภาพ เสียง ที่ส่งผลต่อการประมวล สารสนเทศในกระบวนการรู้คิดของผู้เรียน ควรเพิ่มเติมข้อมูลเชิงคุณภาพ จะ ช่วยให้สามารถนำมาปรับปรุงสื่อȨัตกรรมการเรียนรู้หรือสิ่งแวดล้อมทางการ เรียนรู้ให้มีคุณภาพหรือประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
สมาชิก 
นางสาวพรพิมล จันทร์สว่าง 563050111-3 
นางสาวรติยากร คชา 563050126-0 
นางสาวศินารักษ์ สุขโต 563050140-6 
นางสาวนิดาวรรณ เพียสุพรรณ 563050370-9

More Related Content

What's hot (9)

เทคนิคการสร้างสื่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล (Learning Media Technique in Digita...
เทคนิคการสร้างสื่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล (Learning Media Technique in Digita...เทคนิคการสร้างสื่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล (Learning Media Technique in Digita...
เทคนิคการสร้างสื่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล (Learning Media Technique in Digita...
Dr.Kridsanapong Lertbumroongchai
การสอนแบบอิงประสบการณ์
การสอนแบบอิงประสบการณ์การสอนแบบอิงประสบการณ์
การสอนแบบอิงประสบการณ์
narongsak promwang
บทที่ 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
บทที่ 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้บทที่ 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
บทที่ 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
lalidawan
บทที่10ประเมิȨุณภาพสื่อการสอȨละสื่อการเรียนรู้
บทที่10ประเมิȨุณภาพสื่อการสอȨละสื่อการเรียนรู้บทที่10ประเมิȨุณภาพสื่อการสอȨละสื่อการเรียนรู้
บทที่10ประเมิȨุณภาพสื่อการสอȨละสื่อการเรียนรู้
Thamonwan Kottapan
ทดสอบอัพโหลดงานขึ้น slideshare
ทดสอบอัพโหลดงานขึ้น slideshareทดสอบอัพโหลดงานขึ้น slideshare
ทดสอบอัพโหลดงานขึ้น slideshare
KruManthana
ชุดเสริมทักษะกระบวนการคณิตศาสตร์ สาหรับการเรียนรู้แบบร่วมมือและเทคนิค KWDL
ชุดเสริมทักษะกระบวนการคณิตศาสตร์ สาหรับการเรียนรู้แบบร่วมมือและเทคนิค KWDLชุดเสริมทักษะกระบวนการคณิตศาสตร์ สาหรับการเรียนรู้แบบร่วมมือและเทคนิค KWDL
ชุดเสริมทักษะกระบวนการคณิตศาสตร์ สาหรับการเรียนรู้แบบร่วมมือและเทคนิค KWDL
โรงเรียนห้วยแถลงพิทยาคม
Ȩัตกรรม
ȨัตกรรมȨัตกรรม
Ȩัตกรรม
NU
Chapter 10
Chapter 10Chapter 10
Chapter 10
Ponz Tana
เทคนิคการสร้างสื่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล (Learning Media Technique in Digita...
เทคนิคการสร้างสื่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล (Learning Media Technique in Digita...เทคนิคการสร้างสื่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล (Learning Media Technique in Digita...
เทคนิคการสร้างสื่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล (Learning Media Technique in Digita...
Dr.Kridsanapong Lertbumroongchai
การสอนแบบอิงประสบการณ์
การสอนแบบอิงประสบการณ์การสอนแบบอิงประสบการณ์
การสอนแบบอิงประสบการณ์
narongsak promwang
บทที่ 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
บทที่ 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้บทที่ 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
บทที่ 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
lalidawan
บทที่10ประเมิȨุณภาพสื่อการสอȨละสื่อการเรียนรู้
บทที่10ประเมิȨุณภาพสื่อการสอȨละสื่อการเรียนรู้บทที่10ประเมิȨุณภาพสื่อการสอȨละสื่อการเรียนรู้
บทที่10ประเมิȨุณภาพสื่อการสอȨละสื่อการเรียนรู้
Thamonwan Kottapan
ทดสอบอัพโหลดงานขึ้น slideshare
ทดสอบอัพโหลดงานขึ้น slideshareทดสอบอัพโหลดงานขึ้น slideshare
ทดสอบอัพโหลดงานขึ้น slideshare
KruManthana
ชุดเสริมทักษะกระบวนการคณิตศาสตร์ สาหรับการเรียนรู้แบบร่วมมือและเทคนิค KWDL
ชุดเสริมทักษะกระบวนการคณิตศาสตร์ สาหรับการเรียนรู้แบบร่วมมือและเทคนิค KWDLชุดเสริมทักษะกระบวนการคณิตศาสตร์ สาหรับการเรียนรู้แบบร่วมมือและเทคนิค KWDL
ชุดเสริมทักษะกระบวนการคณิตศาสตร์ สาหรับการเรียนรู้แบบร่วมมือและเทคนิค KWDL
โรงเรียนห้วยแถลงพิทยาคม
Ȩัตกรรม
ȨัตกรรมȨัตกรรม
Ȩัตกรรม
NU

Viewers also liked (20)

Emerging inlearning
Emerging inlearningEmerging inlearning
Emerging inlearning
saowana
What is innovation
What is innovationWhat is innovation
What is innovation
saowana
Emerging inlearning present
Emerging inlearning presentEmerging inlearning present
Emerging inlearning present
saowana
Chapter 5 คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้
Chapter 5 คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้Chapter 5 คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้
Chapter 5 คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้
Aa-bb Sangwut
การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการศึกษา
การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการศึกษา
การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการศึกษา
pohn
Innovation design
Innovation designInnovation design
Innovation design
saowana
Spreadsheets
SpreadsheetsSpreadsheets
Spreadsheets
saowana
สรุปรูปแบบของสื่อการȨ๶สนอ
สรุปรูปแบบของสื่อการȨ๶สนอสรุปรูปแบบของสื่อการȨ๶สนอ
สรุปรูปแบบของสื่อการȨ๶สนอ
pohn
Hw2 201700
Hw2 201700Hw2 201700
Hw2 201700
saowana
Assessment v2
Assessment v2Assessment v2
Assessment v2
saowana
มุมมองทางจิตวิทยาการ๶รียนรู้กับ๶ทคโนโลยีและสื่อการศึกษา
มุมมองทางจิตวิทยาการ๶รียนรู้กับ๶ทคโนโลยีและสื่อการศึกษามุมมองทางจิตวิทยาการ๶รียนรู้กับ๶ทคโนโลยีและสื่อการศึกษา
มุมมองทางจิตวิทยาการ๶รียนรู้กับ๶ทคโนโลยีและสื่อการศึกษา
pohn
คอมพิวเตอร์เพื่อ การเรียนรู้
คอมพิวเตอร์เพื่อ การเรียนรู้คอมพิวเตอร์เพื่อ การเรียนรู้
คอมพิวเตอร์เพื่อ การเรียนรู้
TupPee Zhouyongfang
Chapter 4 1
Chapter 4 1Chapter 4 1
Chapter 4 1
pohn
Assessment v1
Assessment v1Assessment v1
Assessment v1
saowana
Chapter5 คอมพิวเตอเพื่อการเรียนรู้
Chapter5 คอมพิวเตอเพื่อการเรียนรู้Chapter5 คอมพิวเตอเพื่อการเรียนรู้
Chapter5 คอมพิวเตอเพื่อการเรียนรู้
Pan Kannapat Hengsawat
บทที่5คอมพิว๶ตอร์๶พื่อการเรียนรู้
บทที่5คอมพิว๶ตอร์๶พื่อการเรียนรู้บทที่5คอมพิว๶ตอร์๶พื่อการเรียนรู้
บทที่5คอมพิว๶ตอร์๶พื่อการเรียนรู้
กอ หญ้า
󲹱ٱ5คอมพิว๶ตอร์๶พื่อการเรียนรู้
󲹱ٱ5คอมพิว๶ตอร์๶พื่อการเรียนรู้󲹱ٱ5คอมพิว๶ตอร์๶พื่อการเรียนรู้
󲹱ٱ5คอมพิว๶ตอร์๶พื่อการเรียนรู้
Nidnoy Thanyarat
Work4 cognitive tools for open ended
Work4 cognitive tools for open endedWork4 cognitive tools for open ended
Work4 cognitive tools for open ended
saowana
Lesson 3 มุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี และสื่อการศึกษา
Lesson 3 มุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี และสื่อการศึกษาLesson 3 มุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี และสื่อการศึกษา
Lesson 3 มุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี และสื่อการศึกษา
saowana
Emerging inlearning
Emerging inlearningEmerging inlearning
Emerging inlearning
saowana
What is innovation
What is innovationWhat is innovation
What is innovation
saowana
Emerging inlearning present
Emerging inlearning presentEmerging inlearning present
Emerging inlearning present
saowana
Chapter 5 คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้
Chapter 5 คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้Chapter 5 คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้
Chapter 5 คอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนรู้
Aa-bb Sangwut
การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการศึกษา
การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการศึกษา
การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการศึกษา
pohn
Innovation design
Innovation designInnovation design
Innovation design
saowana
สรุปรูปแบบของสื่อการȨ๶สนอ
สรุปรูปแบบของสื่อการȨ๶สนอสรุปรูปแบบของสื่อการȨ๶สนอ
สรุปรูปแบบของสื่อการȨ๶สนอ
pohn
มุมมองทางจิตวิทยาการ๶รียนรู้กับ๶ทคโนโลยีและสื่อการศึกษา
มุมมองทางจิตวิทยาการ๶รียนรู้กับ๶ทคโนโลยีและสื่อการศึกษามุมมองทางจิตวิทยาการ๶รียนรู้กับ๶ทคโนโลยีและสื่อการศึกษา
มุมมองทางจิตวิทยาการ๶รียนรู้กับ๶ทคโนโลยีและสื่อการศึกษา
pohn
คอมพิวเตอร์เพื่อ การเรียนรู้
คอมพิวเตอร์เพื่อ การเรียนรู้คอมพิวเตอร์เพื่อ การเรียนรู้
คอมพิวเตอร์เพื่อ การเรียนรู้
TupPee Zhouyongfang
Chapter 4 1
Chapter 4 1Chapter 4 1
Chapter 4 1
pohn
Chapter5 คอมพิวเตอเพื่อการเรียนรู้
Chapter5 คอมพิวเตอเพื่อการเรียนรู้Chapter5 คอมพิวเตอเพื่อการเรียนรู้
Chapter5 คอมพิวเตอเพื่อการเรียนรู้
Pan Kannapat Hengsawat
บทที่5คอมพิว๶ตอร์๶พื่อการเรียนรู้
บทที่5คอมพิว๶ตอร์๶พื่อการเรียนรู้บทที่5คอมพิว๶ตอร์๶พื่อการเรียนรู้
บทที่5คอมพิว๶ตอร์๶พื่อการเรียนรู้
กอ หญ้า
󲹱ٱ5คอมพิว๶ตอร์๶พื่อการเรียนรู้
󲹱ٱ5คอมพิว๶ตอร์๶พื่อการเรียนรู้󲹱ٱ5คอมพิว๶ตอร์๶พื่อการเรียนรู้
󲹱ٱ5คอมพิว๶ตอร์๶พื่อการเรียนรู้
Nidnoy Thanyarat
Work4 cognitive tools for open ended
Work4 cognitive tools for open endedWork4 cognitive tools for open ended
Work4 cognitive tools for open ended
saowana
Lesson 3 มุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี และสื่อการศึกษา
Lesson 3 มุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี และสื่อการศึกษาLesson 3 มุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี และสื่อการศึกษา
Lesson 3 มุมมองทางจิตวิทยาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี และสื่อการศึกษา
saowana

Similar to บทที่ 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้ (20)

งานกลุ่ม Chapter 10
งานกลุ่ม Chapter 10งานกลุ่ม Chapter 10
งานกลุ่ม Chapter 10
Pronsawan Petklub
บทที่ 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
บทที่ 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้บทที่ 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
บทที่ 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
Sasitorn Seajew
Chapter10การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
Chapter10การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้Chapter10การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
Chapter10การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
Ged Gis
การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
Fern's Supakyada
Chapter 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
Chapter 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้Chapter 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
Chapter 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
Wuth Chokcharoen
1415650144 chapter10 --- (1)
1415650144 chapter10 --- (1)1415650144 chapter10 --- (1)
1415650144 chapter10 --- (1)
Siri Siripirom
Chapter10mii
Chapter10miiChapter10mii
Chapter10mii
siri123001
งานกลุ่ม Chapter 10
งานกลุ่ม Chapter 10งานกลุ่ม Chapter 10
งานกลุ่ม Chapter 10
Pronsawan Petklub
บทที่ 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
บทที่ 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้บทที่ 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
บทที่ 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
Sasitorn Seajew
Chapter10การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
Chapter10การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้Chapter10การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
Chapter10การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
Ged Gis
การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
Fern's Supakyada
Chapter 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
Chapter 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้Chapter 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
Chapter 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้
Wuth Chokcharoen
1415650144 chapter10 --- (1)
1415650144 chapter10 --- (1)1415650144 chapter10 --- (1)
1415650144 chapter10 --- (1)
Siri Siripirom

บทที่ 10 การประ๶มิȨุณภาพสื่อการ๶รียนรู้

  • 2. สถานการณ์ปัญหา ท่านเป็นศึกษานิเทศก์ ซึ่งรับผิดชอบหน้าที่ในการพัฒนาครูเกี่ยวกับ การออกแบบและผลิตสื่อ วันหนึ่งมีครูสองคนมาปรึกษาว่าจะมีวิธีการที่ทำให้รู้ ว่าสื่อที่สร้างขึ้นมานั้นมีคุณภาพได้อย่างไร ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ • ครูสายใจเป็นครูสังคมศึกษาได้พัฒนาชุดการสอน • ครูสมหญิงเป็นครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ • ครูมาโนชเป็นครูสอนวิชาภาษาได้พัฒนาชุดสร้างความรู้ • ครูประพาสเป็นครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์ได้พัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วย สอนเพื่อใช้ในการเรียนของตนเอง
  • 3. ภารกิจ 1. เลือกวิธีการประเมินคุณภาพสื่อให้สอดคล้องกับลักษณะของสื่อของ ครูแต่ละคนพร้อมทั้งให้เหตุผล 2. อธิบายข้อจำกัดของการประเมินสื่อการสอน 3. เปรียบเทียบความแตกต่างของแนวคิดการประเมินสื่อการสอน สื่อ การเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้
  • 4. 1. เลือกวิธีการประเมินคุณภาพสื่อให้สอดคล้องกับลักษณะของสื่อของ ครูแต่ละคนพร้อมทั้งให้เหตุผล ครูสายใจ วิธีการประเมินคุณภาพสื่อของครูสายใจที่สอดคล้องกับลักษณะของสื่อ (ชุดการสอน) คือการทดสอบประสิทธิภาพตามเกณฑ์ประสิทธิภาพE1/E2 เพราะการทดสอบประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ประสิทธิภาพE1/E2 เป็นแนวคิดการประเมินที่เกิดขึ้นเพื่อประเมินประสิทธิภาพ ของชุดการสอนและสื่อการสอนประเภทต่างๆ ยกเว้น บทเรียนโปรแกรม ดังนั้นครูสายใจที่เป็น ครูสังคมศึกษาและได้พัฒนาชุดการสอนจึงควรใช้การการทดสอบประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ประสิทธิภาพE1/E2 ซึ่ง •E1 หมายถึง ค่าร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่เกิดจากการทำกิจกรรมระหว่างเรียนจากชุดการสอน หรือสื่ออื่นๆ ของผู้เรียน(ประสิทธิภาพของกระบวนการเรียนรู้) •E2 หมายถึง ค่าร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่เกิดจากการทำแบบทดสอบหลังการเรียนของผู้เรียน (ประสิทธิภาพของผลลัพธ์การเรียนรู้)
  • 5. การคำนวณโดยใช้สูตร E1 หมายถึง ค่าประสิทธิภาพของกระบวนการเรียนรู้ ΣX หมายถึง ผลรวมของคะแนนกิจกรรมระหว่างเรียนของผู้เรียนทุกคน(N คน) N หมายถึง จำนวนผู้เรียนที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพสื่อการสอนครั้งนี้ A หมายถึง คะแนนเต็มของกิจกรรมระหว่างเรียน E2 หมายถึง ค่าประสิทธิภาพของผลลัพธ์การเรียนรู้ ΣF หมายถึง ผลรวมของคะแนนกิจกรรมระหว่างเรียนของผู้เรียนทุกคน(N คน) N หมายถึง จำนวนผู้เรียนที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพสื่อการสอนครั้งนี้ B หมายถึง คะแนนเต็มของแบบทดสอบหลังเรียน
  • 6. ครูสมหญิง วิธีการประเมินคุณภาพสื่อของครูสมหญิงที่สอดคล้องกับลักษณะของสื่อ (สิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้) คือ การออกแบบสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ ซึ่งออกแบบตามแนว คอนสตรัคติวิสต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ จะทำการตรวจสอบการออกแบบการสอนที่ อาศัยพื้นฐานทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ซึ่งนำหลักการสำคัญของ ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์เชิง ปัญญา ของPiajetและ ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์เชิงสังคมของVygotskyมาเป็นพื้นฐานในการ ออกแบบ หรือเรียกว่า การนำทฤษฎีสู่การปฏิบัติ ที่อยู่ในลักษณะองค์ประกอบที่สำคัญ ได้แก่ สถานการณ์ปัญหา ธนาคารความรู้ ฐานการช่วยเหลือ การร่วมมือกันแก้ปัญหา ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ 1. การเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสวงหาความรู้โดยการปฏิบัติจริง 2. เปิดโอกาสให้ผู้เรียนควบคุมการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง(Learner control) 3. สถานการณ์ปัญหากระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดแรงจูงใจในการเสาะแสวงหาความรู้ หรือค้นหา ค้นพบคำตอบด้วยตนเอง
  • 7. 4. ระดับภาระกิจการเรียนรู้กระตุ้นให้ผู้เรียนได้พัฒนาความสามารถในการคิดขั้นสูง 5. ภาระกิจการเรียนรู้กระตุ้นให้ผู้เรียนได้คิดวิเคราะห์ ไตร่ตรองประเด็นปัญหาที่ต้องการ ค้นหาคำตอบ 6. ธนาคารความรู้(Resource) มีการออกแบบที่สนับสนุนข้อมูลให้ผู้เรียนสามารถค้นหา สารสนเทศจากแหล่งต่างๆอย่างหลากหลาย เพื่อนำมาใช้ในการแก้สถานการณ์ปัญหาที่ กำหนดให้ รวมทั้งช่วยสนับสนุนในการสร้างความรู้ของผู้เรียน 7. เครื่องมือทางปัญญา(Cognitive tool) ในการเรียน กระตุ้นกระบวนการคิดของผู้เรียนและ เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในการเรียน 8. ฐานการช่วยเหลือ(scaffolding) ส่งเสริมให้ผู้เรียนใช้ความพยายามในการเรียนรู้ 9. กรณีใกล้เคียง(Related case) ส่งเสริมให้ผู้เรียนเชื่อมโยงประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องมาใช้ใน การแก้ปัญหาได้ 10. ห้องแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มีการออกแบบที่สนับสนุนให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแก้ปัญหาร่วมกัน 11. การโค้ช(coaching) โดยครูผู้สอนทำการวิเคราะห์ผู้เรียน สามารถสื่อสารและสะท้อนผล เกี่ยวกับผู้เรียนในกระบวนการเรียนรู้ และกระตุ้นให้ผู้เรียนกระทำภารกิจการเรียนรู้อย่าง ตื่นตัว
  • 8. ครูมาโนช วิธีการประเมินคุณภาพสื่อของครูมาโนชที่สอดคล้องกับลักษณะ ของสื่อ (ชุดสร้างความรู้) คือ ชุดสร้างความรู้ มีหลักการสำคัญที่นำมาเป็น พื้นฐานในการพิจารณาคุณลักษณะของสื่อดังนี้ 1. การนำเสนอเนื้อหาที่ดึงดูดความใส่ใจของผู้เรียน ได้แก่ การใช้ตัวหนังสือที่มี การเน้นด้วยสี การนาเสนอด้วยภาพนิ่ง 2. การออกแบบองค์ประกอบทางศิลปะ มีความเหมาะสม สะดุดตา น่าสนใจ 3. ภาพประกอบมีความสอดคล้องกับเนื้อหาและส่งเสริมการเรียนรู้ขนาดของ ตัวอักษรที่ใช้มีความสอดคล้องกับเนื้อหา 4. การใช้ขนาดตัวอักษรเหมาะกับผู้เรียน มีจุดดึงดูดความสนใจและอ่านง่าย 5. ภาพกราฟิกที่ใช้ประกอบ มีความเหมาะสม สอดคล้องกับเนื้อหา และทำให้ สามารถเรียนรู้ได้ดีและง่ายมากยิ่งขึ้น 6. การใช้สีมีความเหมาะสม กลมกลืน ดึงดูดความสนใจ
  • 9. ครูประพาส วิธีการประเมินคุณภาพสื่อของครูประพาสที่สอดคล้องกับลักษณะของสื่อ (พัฒนาบทเรียน คอมพิวเตอร์ช่วยสอน) คือ เกณฑ์มาตรฐาน90/90 เพราะ เป็นวิธีการที่ได้รับการพัฒนำมาเพื่อประเมิน ประสิทธิภาพของบทเรียนโปรแกรม ซึ่งมีพื้นฐานมาจากการเรียนรู้แบบรอบรู้(Mastery learning) โดย 90 ตัวแรกเป็นคะแนนของทั้งกลุ่ม ซึ่งหมายถึงนักเรียนทุกคน เมื่อสอนครั้งหลังเสร็จให้คะแนนเสร็จ นำ คะแนนมาหาค่าร้อยละให้หมดทุกคะแนน แล้วหาค่าร้อยละเฉลี่ยของทั้งกลุ่ม ถ้าบทเรียนโปรแกรมถึง เกณฑ์ค่าร้อยละเฉลี่ยของกลุ่มจะต้องเป็น90 หรือสูงกว่า คำนวณได้จาก90 ตัวแรก={(ΣX /N) X 100)}/R โดย 90 ตัวแรก หมายถึง จำนวนร้อยละของคะแนนเฉลี่ยของการทดสอบหลังเรียน ΣX หมายถึง คะแนนรวมของผลการทดสอบที่ผู้เรียนแต่ละคน ทำได้ถูกต้องจากการทดสอบหลังเรียน N หมายถึง จำนวนผู้เรียนทั้งหมดที่ใช้เป็นกลุ่มตัวอย่างในการคำนวณประสิทธิภาพครั้งนี้ R หมายถึง จำนวนคะแนนเต็มของแบบทดสอบหลังเรียน 90 ตัวที่สองแทนคุณสมบัติที่ว่า ร้อยละ90 ของนักเรียนทั้งหมด ได้รับผลสัมฤทธิ์ตามมุ่งหมายแต่ละข้อ และทุกข้อของบทเรียนโปรแกรม คำนวณได้จาก 90 ตัวหลัง= (Y x 100)/ N 90 ตัวหลัง หมายถึง จำนวนร้อยละของผู้เรียนที่สามารถทำแบบทดสอบผ่านทุกวัตถุประสงค์ Y หมายถึง จำนวนผู้เรียนที่สามารถทาแบบทดสอบผ่านทุกวัตถุประสงค์ N หมายถึง จำนวนผู้เรียนทั้งหมดที่ใช้เป็นกลุ่มตัวอย่างในการคำนวณประสิทธิภาพครั้งนี้
  • 10. 2. อธิบายข้อจำกัดของการประเมินสื่อการสอน การประเมินโดยอาศัยเกณฑ์ แนวคิดการประเมินโดยอาศัยเกณฑ์จะมีการกำหนดค่าตัวเลขขึ้นมาเพื่อเป็นสิ่งที่จะระบุถึง ประสิทธิภาพของสื่อ ในปัจจุบันการกำหนดเกณฑ์นิยมปฏิบัติใน 2 แนวทาง คือ (1) เกณฑ์มาตรฐาน 90/90 เป็นวิธีการที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อประเมินประสิทธิภาพ ของบทเรียนโปรแกรม มีพื้นฐานมาจากการเรียนรู้แบบรอบรู้ (Mastery learning) นิยามของเกณฑ์มาตรฐาน 90/90 นั้นได้อธิบายไว้ว่า90 ตัวแรก เป็นคะแนนของทั้งกลุ่ม 90 ตัวที่สอง แทนคุณสมบัติที่ว่า ร้อยละ 90 ของนักเรียนทั้งหมด ได้รับผลสัมฤทธิ์ตาม มุ่งหมายแต่ละข้อ และทุกข้อของบทเรียนโปรแกรม (2) การทดสอบประสิทธิภาพตามเกณฑ์ประสิทธิภาพ E1/E2 เป็นแนวคิดการประเมินที่เกิดขึ้นเพื่อประเมินประสิทธิภาพของชุดการสอนและสื่อการสอนประเภทต่างๆ มีข้อจำกัด อยู่ว่า ยกเว้น บทเรียนโปรแกรม ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของกลุ่มพฤติกรรมนิยมที่ต้องการประเมินผลพฤติกรรมของ ผู้เรียนใน 2 ประเภท คือ พฤติกรรมต่อเนื่อง (กระบวนการ) และพฤติกรรมสุดท้าย (ผลลัพธ์) โดยกำหนดค่า ประสิทธิภาพเป็น E1 (ประสิทธิภาพของกระบวนการ) E2 (ประสิทธิภาพของผลลัพธ์)
  • 11. นิยามประสิทธิภาพ E1/E2 E1 หมายถึง ค่าร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่เกิดจากการทากิจกรรมระหว่าง เรียนจากชุดการสอนหรือสื่ออื่นๆ ของผู้เรียน (ประสิทธิภาพของกระบวนการเรียนรู้) E2 หมายถึง ค่าร้อยละของคะแนนเฉลี่ยที่เกิดจากการทาแบบทดสอบหลังการ เรียนของผู้เรียน (ประสิทธิภาพของผลลัพธ์การเรียนรู้) การประเมินโดยค่าดัชนีประสิทธิผล การวิเคราะห์ค่าดัชนีประสิทธิผล (Effectiveness index: E.I.) เป็นอีกวิธีที่ใช้ในกาประเมิน ประสิทธิภาพสื่อการสอน ข้อจำกัด คือ ดัชนีประสิทธิผลที่ใช้ได้ควรมีค่า 0.50 ขึ้นไป เมื่อ P1% แทน ร้อยละของผลรวมของคะแนนทดสอบก่อนเรียน P2% แทน ร้อยละผลรวมของคะแนนทดสอบหลังเรียน
  • 12. 3. เปรียบเทียบความแตกต่างของแนวคิดการประเมินสื่อการสอน สื่อ การเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ ความแตกต่างของแนวคิดการประเมินสื่อการสอน สื่อการเรียนรู้และสิ่งแวดล้อม ทางการเรียนรู้ โดยประเมินสื่อการสอนเป็นเพียงตัวกลางที่ถ่ายทอดเนื้อหาหรือความรู้ มี อิทธิพลความเชื่อเกี่ยวกับการเรียนรู้ที่อยู่บนพื้นฐานที่ว่าความรู้เป็นสิ่งที่หยุดนิ่ง ไม่มีการ เปลี่ยนแปลงดังนั้นหากใครสามารถรับหรือจดจำความรู้ได้มากที่สุดก็ถือว่าผู้นั้นเป็นผู้ที่เรียนรู้ ได้ดีที่สุดและนั่นคือเป้าหมายของการจัดการเรียนรู้ของครู แนวคิดเกี่ยวกับการเรียนรู้ดังกล่าว จะสอดคล้องกับแนวคิดกลุ่มพฤติกรรมนิยม ซึ่งเชื่อว่า การเรียนรู้คือการเปลี่ยนแปลง พฤติกรรม ซึ่งเป็นผลมาจากความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งเร้าและการตอบสนอง ซึ่งการเรียนรู้นั้นจะ คงทนหากได้รับการเสริมแรงการฝึกหัด การทำซํ้าๆ เป็นต้น บทบาทของผู้เรียนจึงเป็นผู้ที่รอรับ ความรู้ที่จะได้รับการถ่ายทอดโดยตรงจากครู แนวคิดดังกล่าวนำมาซึ่งการพัฒนาเป็นสื่อการ สอน ได้แก่ บทเรียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ชุดการสอน
  • 13. ซึ่งแตกต่างจากการประเมินสื่อการเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมทางการ เรียนรู้ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมกระบวนการรู้คิดหรือกระบวนการทางพุทธิปัญญา (Cognitive process) และแนวโน้มในปัจจุบันทฤษฎีในกลุ่มพุทธิปัญญานิยม และกลุ่มคอนสตรัคติวิสต์ที่นิยามการเรียนรู้คือการสร้างความรู้ของผู้เรียนไม่ใช่ การรอรับความรู้เพียงอย่างเดียว ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นภายในสมองของ ผู้เรียน การประเมินที่อาศัยข้อมูลเชิงปริมาณที่เป็นค่าคะแนนหรือตัวเลขอาจไม่ เพียงพอที่จะนำมาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาประสิทธิภาพการเรียนรู้ที่ เกิดขึ้นในกระบวนการรู้คิดภายในสมอง ตลอดจนระบบสัญลักษณ์ของสื่อที่ พิจารณาคุณลักษณ์ของสื่อในลักษณะที่เป็นภาพ เสียง ที่ส่งผลต่อการประมวล สารสนเทศในกระบวนการรู้คิดของผู้เรียน ควรเพิ่มเติมข้อมูลเชิงคุณภาพ จะ ช่วยให้สามารถนำมาปรับปรุงสื่อȨัตกรรมการเรียนรู้หรือสิ่งแวดล้อมทางการ เรียนรู้ให้มีคุณภาพหรือประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
  • 14. สมาชิก นางสาวพรพิมล จันทร์สว่าง 563050111-3 นางสาวรติยากร คชา 563050126-0 นางสาวศินารักษ์ สุขโต 563050140-6 นางสาวนิดาวรรณ เพียสุพรรณ 563050370-9