ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
การจัดทำ   Web Site  เพื่อเผยแพร่ข่าวสารของสถานศึกษา เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า อินเตอร์เน็ตเป็นระบบสื่อสารที่กำลังได้รับความนิยมกันทั่วโลก มีการใช้อินเตอร์เน็ตกันอย่างแพร่หลายในหน่วยงานราชการและองค์การธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะสถานศึกษาต้องพัฒนาเว็บไซต์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราจึงเห็นเว็บไซต์เกิดขึ้นมากมาย ดังนั้นการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาจึงต้องมีการกำหนดเป้าหมายที่แน่นอนและมีการพัฒนาปรับปรุงอยู่เสมอมิฉะนั้นจะไม่มีใครมาใช้บริการ
ความสำคัญของการจัดทำเว็บไซต์ ปัจจุบันสถานศึกษาใดที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ก็จะมีข้อได้เปรียบเหนือสถานศึกษาอื่น ๆ เนื่องจากจุดประสงค์ของสถานศึกษาทุกแห่งคงจะเหมือนกันคือ เป็นหน่วยงานที่เป็นแหล่งความรู้ ให้บริการความรู้ต่อสังคมและชุมชน  ดังนั้นการจัดทำเว็บไซต์ขึ้นมามิใช่จะเป็นประโยชน์และช่วยอำนวยความสะดวกเฉพาะสถานศึกษาเท่านั้นแต่จะได้ประโยชน์ต่อบุคคลภายนอกด้วย
โปรแกรมช่วยในการจัดทำเว็บไซต์ ปัจจุบัน  มีโปรแกรมการจัดทำเว็บไซต์มากมายให้เราเลือกใช้ ขึ้นอยู่กับความถนัดของผู้สร้างและความเหมาะสมของโปรแกรม  ซึ่งการสร้างเว็บเพจนั้นสามารถทำได้ด้วยกัน  2  แบบคือ 1.  สร้างเว็บเพจด้วยภาษา  HTML 2.  สร้างเว็บเพจด้วยภาษาโปรแกรมสำเร็จรูป
สร้างเว็บเพจด้วยภาษา  HTML Dream weaver   เป็นโปรแกรมช่วยสร้างเว็บที่ดีโปรแกรมหนึ่ง เนื่องจากมีประสิทธิภาพ ในการทำงานสูง จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้จัดทำเว็บไซต์ในปัจจุบัน  ผู้พัฒนาเว็บไซต์สามารถจัดการกับเว็บไซต์ได้สะดวกโดยอาศัยเครื่องมือในโปรแกรม และสามารถแก้ไขและเขียนโค้ด  HTML  ได้เองตามต้องการ นอกจากนี้ยังมีเทมเพลตที่ทำให้ผู้พัฒนาระบบใช้โครงสร้างของหน้าเว็บเป็นแบบเดียวกันในทุก ๆ หน้าเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการพัฒนาเว็บไซต์
สร้างเว็บเพจด้วยภาษา  HTML Microsoft FrontPage   เป็นโปรแกรมช่วยสร้างเว็บที่เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเป็น  Microsoft office  เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากมีลักษณะเครื่องมือและการทำงานใกล้เคียงกับโปรแกรม อื่น ๆ ในชุด  Office   โดยผู้พัฒนาระบบสามารถเปลี่ยนไฟล์ เอกสารที่เป็น  Word  Excel  Access   และ  Power point   ให้เป็น   HTML  ได้โดยง่ายโปรแกรมนี้เป็นที่นิยมสำหรับผู้เริ่มต้นพัฒนาระบบที่ไม่มีพื้นฐานเกี่ยวกับภาษา  HTML   มากนัก
  กระบวนการพัฒȨ๶ว็บไซต์ เฟสที่  1  สำรวจปัจจัยสำคัญ  (  Research  ) 1.  รู้จักตัวเอง  - กำหนดเป้าหมายและสำรวจความพร้อม 2.  เรียนรู้ผู้ใช้  -  ระบุกลุ่มผู้ใช้และศึกษาความต้องการ 3.  ศึกษาคู่แข่ง  -  สำรวจการแข่งขันและเรียนรูคู่แข่ง เฟสที่  2  พัฒนาเนื้อหา  (  SiteContent  ) 4..  สร้างกลยุทธการออกแบบ 5.  หาข้อสรุปของขอบเขตเนื้อหา เฟสที่  3  พัฒนาโครงสร้างเว็บไซต์  ( Site structure  ) 6.  จัดระบบข้อมูล  7.  จัดทำโครงสร้างข้อมูล 8.  พัฒนาระบบเนวิเกชัน เฟสที่  4  ออกแบบและ พัฒนาหน้าเว็บไซต์  ( Virtual Design  ) 9.  ออกแบบลักษณะหน้าตาเว็บเพจ  10.  พัฒนาเว็บต้นแบบและข้อกำหนดสุดท้าย เฟสที่  5  พัฒนาและดำเนินการ  ( Production and Operation  ) 11.  ลงมือพัฒนาเว็บ  12.  เปิดตัวเว็บไซต์ 13.  ดูและและพัฒนาต่อเนื่อง
เฟสที่  1   สำรวจปัจจัยสำคัญ   (  Research  )   สิ่งที่ไึϹจากྺั้ȨอนȨ้คือ เป้าหมายหลักของเว็บไซต์ ความต้องการของผู้ใช้ กลยุทธ์ในการแข่งขัน
ปัจจัยหลัก  3  ประการที่เป็นพื้นฐานในการสำรวจ ขั้นตอนที่  1   รู้จักตนเอง ขั้นตอนที่  2   เรียนรู้ผู้ใช้ ขั้นตอนที่  3   สำรวจการแข่งขันและคู่แข่ง
  สิ่งที่ไึϹจากྺั้ȨอนȨ้คือ แนวทางการออกแบบเว็บไซต์ ขอบเขตเนื้อหาการใช้งาน ข้อมูลที่ถูกจัดอย่างเป็นระบบ เฟสที่  2   พัฒนาเนื้อหา   (  Site Content  )
ปัจจัยหลัก  2  ประการในการพัฒนาเนื้อหา ขั้นตอนที่  4   สร้างกลยุทธ์การออกแบบ ขั้นตอนที่  5   หาข้อสรุปขอบเขตเนื้อหา
เฟสที่  3   พัฒนาโครงสร้างเว็บไซต์   ( Site structure  )   สิ่งที่ไึϹจากྺั้ȨอนȨ้คือ แผนผังโครงสร้างข้อมูล แนวทางการท่องเว็บ ระบบเนวิเกชัน
ปัจจัยหลัก  3  ประการในการพัฒนาโครงสร้างเว็บไซต์ ขั้นตอนที่  6   จัดระบบข้อมูล ขั้นตอนที่  7   จัดทำโครงสร้างข้อมูล ขั้นตอนที่  8   พัฒนาระบบเนวิเกชัน
เฟสที่  4   ออกแบบและ พัฒนาหน้าเว็บไซต์   (   Virtual Design   ) ลักษณะหน้าตาของเว็บไซต์ เว็บเพจต้นแบบในการพัฒนา รูปแบบโครงสร้างของเว็บไซต์   สิ่งที่ไึϹจากྺั้ȨอนȨ้คือ ข้อกำหนดในการพัฒนา
ปัจจัยหลัก  2  ประการในการพัฒนาและออกแบบหน้าเว็บ ขั้นตอนที่  9   ออกแบบลักษณะหน้าตาเว็บเพจ ขั้นตอนที่  10   พัฒนาต้นแบบและโครงสร้างขั้นสุดท้าย
  สิ่งที่ไึϹจากྺั้ȨอนȨ้คือ เว็บไซต์ที่สมบูรณ์ เปิดตัวเว็บไซต์และทำให้เป็นที่รู้จัก แนวทางการดูแลและพัฒนาต่อไป เฟสที่  5   พัฒนาและดำเนินการ   (   Production and Operation  )
ปัจจัยหลัก  3  ประการในการพัฒนาและดำเนินการ ขั้นตอนที่  11   ลงมือพัฒนาเว็บเพจ ขั้นตอนที่  12   เปิดตัวเว็บไซต์ ขั้นตอนที่  13   ดูแลและพัฒนาต่อเนื่อง
ตัวอย่างเว็บไซต์ที่น่าสนใจของสถานศึกษา Web Site  ของ  msu.ac.th
ตัวอย่างเว็บไซต์ที่น่าสนใจของสถานศึกษา Web Site  ของ  kku.ac.th
ตัวอย่างเว็บไซต์ที่น่าสนใจของสถานศึกษา Web Site  ของ  chula.ac.th

More Related Content

What's hot (16)

ภาพที่ 9-6 ตัวอย่างบทคัดย่อ (Abstract)
ภาพที่ 9-6 ตัวอย่างบทคัดย่อ (Abstract)ภาพที่ 9-6 ตัวอย่างบทคัดย่อ (Abstract)
ภาพที่ 9-6 ตัวอย่างบทคัดย่อ (Abstract)
Chamada Rinzine

Similar to หน่วยการเรียนรู้ที่ 17 (20)

ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
Mintra Pudprom
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
KaRn Tik Tok
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
Soldic Kalayanee
โครงงานใบงานที่ 7
โครงงานใบงานที่ 7โครงงานใบงานที่ 7
โครงงานใบงานที่ 7
Anny Na Sonsawan
โครงงาȨระ๶ภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงาȨระ๶ภทการประยุกต์ใช้งานโครงงาȨระ๶ภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงาȨระ๶ภทการประยุกต์ใช้งาน
Nuchy Geez
รายงานโครงงาȨอมพิวเตอร์
รายงานโครงงาȨอมพิวเตอร์รายงานโครงงาȨอมพิวเตอร์
รายงานโครงงาȨอมพิวเตอร์
Saengnapa Saejueng
Using Social Media Via Social Network
Using Social Media Via Social NetworkUsing Social Media Via Social Network
Using Social Media Via Social Network
Taradpmt
Using Social Media Via Social Network
Using Social Media Via Social NetworkUsing Social Media Via Social Network
Using Social Media Via Social Network
Taradpmt
Using Social Media Via Social Network
Using Social Media Via Social NetworkUsing Social Media Via Social Network
Using Social Media Via Social Network
Taradpmt
ตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงานตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงาน
stoptop
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
Mintra Pudprom
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
KaRn Tik Tok
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
ใบงานที่ 8 โครงงานประเภท การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์
Soldic Kalayanee
โครงงานใบงานที่ 7
โครงงานใบงานที่ 7โครงงานใบงานที่ 7
โครงงานใบงานที่ 7
Anny Na Sonsawan
โครงงาȨระ๶ภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงาȨระ๶ภทการประยุกต์ใช้งานโครงงาȨระ๶ภทการประยุกต์ใช้งาน
โครงงาȨระ๶ภทการประยุกต์ใช้งาน
Nuchy Geez
รายงานโครงงาȨอมพิวเตอร์
รายงานโครงงาȨอมพิวเตอร์รายงานโครงงาȨอมพิวเตอร์
รายงานโครงงาȨอมพิวเตอร์
Saengnapa Saejueng
Using Social Media Via Social Network
Using Social Media Via Social NetworkUsing Social Media Via Social Network
Using Social Media Via Social Network
Taradpmt
Using Social Media Via Social Network
Using Social Media Via Social NetworkUsing Social Media Via Social Network
Using Social Media Via Social Network
Taradpmt
Using Social Media Via Social Network
Using Social Media Via Social NetworkUsing Social Media Via Social Network
Using Social Media Via Social Network
Taradpmt
ตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงานตัวอย่างโครงงาน
ตัวอย่างโครงงาน
stoptop

More from sangkom (20)

Happystudy
Happystudy  Happystudy
Happystudy
sangkom
หน่วยการเรียนรู้ที่ 16
หน่วยการเรียนรู้ที่ 16หน่วยการเรียนรู้ที่ 16
หน่วยการเรียนรู้ที่ 16
sangkom
หน่วยการเรียนรู้ที่ 15
หน่วยการเรียนรู้ที่ 15หน่วยการเรียนรู้ที่ 15
หน่วยการเรียนรู้ที่ 15
sangkom
หน่วยการเรียนรู้ที่ 14
หน่วยการเรียนรู้ที่ 14หน่วยการเรียนรู้ที่ 14
หน่วยการเรียนรู้ที่ 14
sangkom
หน่วยการเรียนรู้ที่ 13
หน่วยการเรียนรู้ที่ 13หน่วยการเรียนรู้ที่ 13
หน่วยการเรียนรู้ที่ 13
sangkom
หน่วยการเรียนรู้ที่ 12
หน่วยการเรียนรู้ที่ 12หน่วยการเรียนรู้ที่ 12
หน่วยการเรียนรู้ที่ 12
sangkom
หน่วยการเรียนรู้ที่ 11
หน่วยการเรียนรู้ที่ 11หน่วยการเรียนรู้ที่ 11
หน่วยการเรียนรู้ที่ 11
sangkom
10 Years Of Technology Research Mahasarakham University Thailand B 2c05
10 Years Of Technology Research   Mahasarakham University Thailand B 2c0510 Years Of Technology Research   Mahasarakham University Thailand B 2c05
10 Years Of Technology Research Mahasarakham University Thailand B 2c05
sangkom
โลกร้อน222
โลกร้อน222โลกร้อน222
โลกร้อน222
sangkom
แผ่นึϸȨหว
แผ่นึϸȨหวแผ่นึϸȨหว
แผ่นึϸȨหว
sangkom
โลกร้อน222
โลกร้อน222โลกร้อน222
โลกร้อน222
sangkom
โลกร้อน222
โลกร้อน222โลกร้อน222
โลกร้อน222
sangkom
หน่วยการเรียนรู้ที่ 16
หน่วยการเรียนรู้ที่ 16หน่วยการเรียนรู้ที่ 16
หน่วยการเรียนรู้ที่ 16
sangkom
หน่วยการเรียนรู้ที่ 15
หน่วยการเรียนรู้ที่ 15หน่วยการเรียนรู้ที่ 15
หน่วยการเรียนรู้ที่ 15
sangkom
หน่วยการเรียนรู้ที่ 14
หน่วยการเรียนรู้ที่ 14หน่วยการเรียนรู้ที่ 14
หน่วยการเรียนรู้ที่ 14
sangkom
หน่วยการเรียนรู้ที่ 13
หน่วยการเรียนรู้ที่ 13หน่วยการเรียนรู้ที่ 13
หน่วยการเรียนรู้ที่ 13
sangkom
หน่วยการเรียนรู้ที่ 12
หน่วยการเรียนรู้ที่ 12หน่วยการเรียนรู้ที่ 12
หน่วยการเรียนรู้ที่ 12
sangkom
หน่วยการเรียนรู้ที่ 11
หน่วยการเรียนรู้ที่ 11หน่วยการเรียนรู้ที่ 11
หน่วยการเรียนรู้ที่ 11
sangkom
10 Years Of Technology Research Mahasarakham University Thailand B 2c05
10 Years Of Technology Research   Mahasarakham University Thailand B 2c0510 Years Of Technology Research   Mahasarakham University Thailand B 2c05
10 Years Of Technology Research Mahasarakham University Thailand B 2c05
sangkom
โลกร้อน222
โลกร้อน222โลกร้อน222
โลกร้อน222
sangkom
แผ่นึϸȨหว
แผ่นึϸȨหวแผ่นึϸȨหว
แผ่นึϸȨหว
sangkom
โลกร้อน222
โลกร้อน222โลกร้อน222
โลกร้อน222
sangkom
โลกร้อน222
โลกร้อน222โลกร้อน222
โลกร้อน222
sangkom

หน่วยการเรียนรู้ที่ 17

  • 1. การจัดทำ Web Site เพื่อเผยแพร่ข่าวสารของสถานศึกษา เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า อินเตอร์เน็ตเป็นระบบสื่อสารที่กำลังได้รับความนิยมกันทั่วโลก มีการใช้อินเตอร์เน็ตกันอย่างแพร่หลายในหน่วยงานราชการและองค์การธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะสถานศึกษาต้องพัฒนาเว็บไซต์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราจึงเห็นเว็บไซต์เกิดขึ้นมากมาย ดังนั้นการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาจึงต้องมีการกำหนดเป้าหมายที่แน่นอนและมีการพัฒนาปรับปรุงอยู่เสมอมิฉะนั้นจะไม่มีใครมาใช้บริการ
  • 2. ความสำคัญของการจัดทำเว็บไซต์ ปัจจุบันสถานศึกษาใดที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ก็จะมีข้อได้เปรียบเหนือสถานศึกษาอื่น ๆ เนื่องจากจุดประสงค์ของสถานศึกษาทุกแห่งคงจะเหมือนกันคือ เป็นหน่วยงานที่เป็นแหล่งความรู้ ให้บริการความรู้ต่อสังคมและชุมชน ดังนั้นการจัดทำเว็บไซต์ขึ้นมามิใช่จะเป็นประโยชน์และช่วยอำนวยความสะดวกเฉพาะสถานศึกษาเท่านั้นแต่จะได้ประโยชน์ต่อบุคคลภายนอกด้วย
  • 3. โปรแกรมช่วยในการจัดทำเว็บไซต์ ปัจจุบัน มีโปรแกรมการจัดทำเว็บไซต์มากมายให้เราเลือกใช้ ขึ้นอยู่กับความถนัดของผู้สร้างและความเหมาะสมของโปรแกรม ซึ่งการสร้างเว็บเพจนั้นสามารถทำได้ด้วยกัน 2 แบบคือ 1. สร้างเว็บเพจด้วยภาษา HTML 2. สร้างเว็บเพจด้วยภาษาโปรแกรมสำเร็จรูป
  • 4. สร้างเว็บเพจด้วยภาษา HTML Dream weaver เป็นโปรแกรมช่วยสร้างเว็บที่ดีโปรแกรมหนึ่ง เนื่องจากมีประสิทธิภาพ ในการทำงานสูง จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้จัดทำเว็บไซต์ในปัจจุบัน ผู้พัฒนาเว็บไซต์สามารถจัดการกับเว็บไซต์ได้สะดวกโดยอาศัยเครื่องมือในโปรแกรม และสามารถแก้ไขและเขียนโค้ด HTML ได้เองตามต้องการ นอกจากนี้ยังมีเทมเพลตที่ทำให้ผู้พัฒนาระบบใช้โครงสร้างของหน้าเว็บเป็นแบบเดียวกันในทุก ๆ หน้าเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการพัฒนาเว็บไซต์
  • 5. สร้างเว็บเพจด้วยภาษา HTML Microsoft FrontPage เป็นโปรแกรมช่วยสร้างเว็บที่เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเป็น Microsoft office เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากมีลักษณะเครื่องมือและการทำงานใกล้เคียงกับโปรแกรม อื่น ๆ ในชุด Office โดยผู้พัฒนาระบบสามารถเปลี่ยนไฟล์ เอกสารที่เป็น Word Excel Access และ Power point ให้เป็น HTML ได้โดยง่ายโปรแกรมนี้เป็นที่นิยมสำหรับผู้เริ่มต้นพัฒนาระบบที่ไม่มีพื้นฐานเกี่ยวกับภาษา HTML มากนัก
  • 6. กระบวนการพัฒȨ๶ว็บไซต์ เฟสที่ 1 สำรวจปัจจัยสำคัญ ( Research ) 1. รู้จักตัวเอง - กำหนดเป้าหมายและสำรวจความพร้อม 2. เรียนรู้ผู้ใช้ - ระบุกลุ่มผู้ใช้และศึกษาความต้องการ 3. ศึกษาคู่แข่ง - สำรวจการแข่งขันและเรียนรูคู่แข่ง เฟสที่ 2 พัฒนาเนื้อหา ( SiteContent ) 4.. สร้างกลยุทธการออกแบบ 5. หาข้อสรุปของขอบเขตเนื้อหา เฟสที่ 3 พัฒนาโครงสร้างเว็บไซต์ ( Site structure ) 6. จัดระบบข้อมูล 7. จัดทำโครงสร้างข้อมูล 8. พัฒนาระบบเนวิเกชัน เฟสที่ 4 ออกแบบและ พัฒนาหน้าเว็บไซต์ ( Virtual Design ) 9. ออกแบบลักษณะหน้าตาเว็บเพจ 10. พัฒนาเว็บต้นแบบและข้อกำหนดสุดท้าย เฟสที่ 5 พัฒนาและดำเนินการ ( Production and Operation ) 11. ลงมือพัฒนาเว็บ 12. เปิดตัวเว็บไซต์ 13. ดูและและพัฒนาต่อเนื่อง
  • 7. เฟสที่ 1 สำรวจปัจจัยสำคัญ ( Research ) สิ่งที่ไึϹจากྺั้ȨอนȨ้คือ เป้าหมายหลักของเว็บไซต์ ความต้องการของผู้ใช้ กลยุทธ์ในการแข่งขัน
  • 8. ปัจจัยหลัก 3 ประการที่เป็นพื้นฐานในการสำรวจ ขั้นตอนที่ 1 รู้จักตนเอง ขั้นตอนที่ 2 เรียนรู้ผู้ใช้ ขั้นตอนที่ 3 สำรวจการแข่งขันและคู่แข่ง
  • 9. สิ่งที่ไึϹจากྺั้ȨอนȨ้คือ แนวทางการออกแบบเว็บไซต์ ขอบเขตเนื้อหาการใช้งาน ข้อมูลที่ถูกจัดอย่างเป็นระบบ เฟสที่ 2 พัฒนาเนื้อหา ( Site Content )
  • 10. ปัจจัยหลัก 2 ประการในการพัฒนาเนื้อหา ขั้นตอนที่ 4 สร้างกลยุทธ์การออกแบบ ขั้นตอนที่ 5 หาข้อสรุปขอบเขตเนื้อหา
  • 11. เฟสที่ 3 พัฒนาโครงสร้างเว็บไซต์ ( Site structure ) สิ่งที่ไึϹจากྺั้ȨอนȨ้คือ แผนผังโครงสร้างข้อมูล แนวทางการท่องเว็บ ระบบเนวิเกชัน
  • 12. ปัจจัยหลัก 3 ประการในการพัฒนาโครงสร้างเว็บไซต์ ขั้นตอนที่ 6 จัดระบบข้อมูล ขั้นตอนที่ 7 จัดทำโครงสร้างข้อมูล ขั้นตอนที่ 8 พัฒนาระบบเนวิเกชัน
  • 13. เฟสที่ 4 ออกแบบและ พัฒนาหน้าเว็บไซต์ ( Virtual Design ) ลักษณะหน้าตาของเว็บไซต์ เว็บเพจต้นแบบในการพัฒนา รูปแบบโครงสร้างของเว็บไซต์ สิ่งที่ไึϹจากྺั้ȨอนȨ้คือ ข้อกำหนดในการพัฒนา
  • 14. ปัจจัยหลัก 2 ประการในการพัฒนาและออกแบบหน้าเว็บ ขั้นตอนที่ 9 ออกแบบลักษณะหน้าตาเว็บเพจ ขั้นตอนที่ 10 พัฒนาต้นแบบและโครงสร้างขั้นสุดท้าย
  • 15. สิ่งที่ไึϹจากྺั้ȨอนȨ้คือ เว็บไซต์ที่สมบูรณ์ เปิดตัวเว็บไซต์และทำให้เป็นที่รู้จัก แนวทางการดูแลและพัฒนาต่อไป เฟสที่ 5 พัฒนาและดำเนินการ ( Production and Operation )
  • 16. ปัจจัยหลัก 3 ประการในการพัฒนาและดำเนินการ ขั้นตอนที่ 11 ลงมือพัฒนาเว็บเพจ ขั้นตอนที่ 12 เปิดตัวเว็บไซต์ ขั้นตอนที่ 13 ดูแลและพัฒนาต่อเนื่อง
  • 20.