ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
อนุกรม
ผลบวกของพจน์ทุกพจน์ของลำึϸบ เรียกว่ำ อนุกรม (series) และผลบวกของพจน์ทุกพจน์ของลำึϸบ
จำกัด ..., na เขียนในรูปของ จะเรียกผลรวมของพจน์ทุกพจน์ของ
ลำึϸบจำกัดว่ำ อนุกรมจำกัด
ตัวอย่ำงที่ 1 จงเขียนอนุกรมจำกัดของลำึϸบจำกัดต่อไปนี้
(1)
(2)
(3)
(4)
วิธีทำ (1) เป็นอนุกรมจำกัดของลำึϸบ
(2) เป็นอนุกรมจำกัดของลำึϸบ
(3) เป็นอนุกรมจำกัดของลำึϸบ
(4) 3 3 3
1 2 3 ...   เป็นอนุกรมจำกัดของลำึϸบ ...
1a , 2a , 3a , 1 2 3 na a a ... a   
12, 9, 6, 3
1, 3, 9, 27, 81
1
,
2 2
1
,
2 3
1
,
2 4
1
,
2 5
1
,
2 6
1
,
2 7
1
2
3
1 , 3
2 , 3
3 , ..., 3
10
12 9 6 3   12, 9, 6, 3
1 3 9 27 81    12, 9, 6, 3
2 3 4 5 6 7
1 1 1 1 1 1 1
2 2 2 2 2 2 2
     
1
,
2 2
1
,
2 3
1
,
2 4
1
,
2
5
1
,
2 6
1
,
2 7
1
2
3
1 , 3
2 , 3
3 ,
nS  1 2 3 na a a ... a   
ข้อตกลง ถ้ำ 1a , 2a , 3a , ..., na เป็นลำึϸบจำกัด ผลบวก 5 พจน์แรกของอนุกรม
1 2 3 na a a ... a    เขียนด้วยด้วย 5S
นั่นคือ 5S  1 2 3 4 5a a a a a   
ในทำนองเดียวกัน ผลบวก 6 พจน์แรกของอนุกรม 1 2 3 na a a ... a    เขียนด้วยด้วย 6S
นั่นคือ 6S  1 2 3 4 5 6a a a a a a    
ในกรณีทั่วไป จะเขียนแทนผลบวกของ n พจน์แรกของอนุกรมด้วย nS
นั่นคือ nS  1 2 3 na a a ... a   
จำกข้อตกลงนี้จึงได้ว่ำ
1S  1a
2S  1 2a a
3S  1 2 3a a a 
.
.
.
ตัวอย่ำงที่ 2 กำหนดลำึϸบจำกัด
(1) จงเขียนอนุกรมของลำึϸบนี้
(2) จงหำผลบวก 5 พจน์แรกของอนุกรมในข้อ (1)
(3) จงหำผลบวกของทุกพจน์ของอนุกรมในข้อ (1)
วิธีทำ (1) เป็นอนุกรมจำกัด
(2) ผลบวก 5 พจน์แรกของอนุกรมในข้อ (1)
(3) ผลบวกของทุกพจน์ของอนุกรมในข้อ (1)
2
1 , 2
2 , 2
3 , 2
4 , 2
5 , 2
6 , 2
7 , 2
8 , 2
9 , 2
10
2 2 2 2 2 2 2 2 2 2
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10         2
1 , 2
2 , 2
3 ,
2
4 , 2
5 , 2
6 , 2
7 , 2
8 , 2
9 , 2
10
 2 2 2 2 2
1 2 3 4 5   
 1 4 9 16 25   
 55
 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10        
 1 4 9 16 25 36 49 64 81 100        
 385
ข้อตกลง
1. เพื่อควำมสะดวก ต่อไปนี้จะเขียนอนุกรมจำกัดที่มีหลำยพจน์ โดยเขียนเฉพำะ 3 พจน์แรก และ
พจน์สุดท้ำย โดยละพจน์อื่นๆ ไว้ในฐำนที่เข้ำใจ เช่น ในตัวอย่ำงที่ 2 ข้อ (1) จะเขียนอนุกรม
2 2 2 2 2 2 2 2 2 2
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10         ย่อๆ เป็น 2 2 2 2
1 2 3 ... 10   
2. อนุกรมที่เกิดจำกลำึϸบเลขคณิต เรียกว่ำ อนุกรม๶ลྺคณิต และอนุกรมที่เกิดจำกลำึϸบเรขำคณิต
เรียกว่ำ อนุกรมเรขำคณิต
กำรหำผลบวกของอนุกรมจำกัด
กำรหำผลบวกของอนุกรมจำกัด สำมำรถหำด้วยวิธีหำผลบวกตำมปกติได้ แต่กรณีที่อนุกรมจำกัดนั้นมี
หลำยๆ พจน์ กำรหำผลบวกของอนุกรมด้วยวิธีหำผลบวกตำมปกติจะไม่สะดวก
พิจำรณำผลบวกของอนุกรมต่อไปนี้
(1) 3 5 7 9 11   
(2) 1 1 1
4 2 1
2 4 8
    
(3) 1 1 1 1 1 1
4 2 1
2 4 8 16 32 64
       
จะเห็นได้ว่ำ ผลบวกของอนุกรม 3 5 7 9 11    หำด้วยวิธีหำผลบวกปกติได้เท่ำกับ 35 ซึ่งหำได้
ง่ำยๆ
ผลบวกของอนุกรม 1 1 1
4 2 1
2 4 8
     
32 16 8 4 2 1
8
    

63
8
ผลบวกของอนุกรม 1 1 1 1 1 1
4 2 1
2 4 8 16 32 64
       

256 128 64 32 16 8 4 2 1
63
       

511
63
จะเห็นว่ำ ในบำงกรณีผลบวกของอนุกรมที่มีจำนวนพจน์หลำยๆ พจน์ จะหำผลบวกตำมปกติไม่
สะดวก ต้องหำผลบวกด้วยวิธีคำนวณจำกสูตร
ในหัวข้อนี้ จะกล่ำวถึงกำรหำผลบวกด้วยวิธีคำนวณจำกสูตรเฉพำะของอนุกรม๶ลྺคณิตและอนุกรม
เรขำคณิต ดังนี้
อนุกรม๶ลྺคณิต
อนุกรมที่ได้จำกลำึϸบเลขคณิต เรียกว่ำ อนุกรม๶ลྺคณิต และเรียกผลต่ำงร่วมของลำึϸบ
เลขคณิต ว่ำเป็นผลต่ำงร่วมของอนุกรม๶ลྺคณิต เช่น
เป็นลำึϸบเลขคณิต มีค่ำ
เป็นอนุกรม๶ลྺคณิต มีค่ำ
กำรหำผลบวกของทุกพจน์ของอนุกรมนี้ (มีทั้งหมด 5 พจน์) ทำได้อีกวิธีหนึ่ง ดังนี้
เนื่องจำก
ดังนั้น
ในกรณีของกำรหำผลบวก พจน์แรกของอนุกรม๶ลྺคณิต จะหำได้ดังนี้
จำก และ
จะได้
------------ 
 d
3, 5, 7, 9, 11 d 2, 1a 3, 5a 11
3 5 7 9 11    d 2, 1a 3, 5a 11
3 5 7  9 11
11 9 7  5 3
14 14 14 14 14
14 14 14 14 14  5 14
3 5 7 9 11    
5 14
2

 35
n
nS  1 2 3 n 2 n 1 na a a ... a a a        n 1a a n 1 d  
nS         1 1 1 1 1a a d a 2d ... a n 3 d a n 2 d                
 1a n 1 d    
อนุกรมที่ได้จำกลำึϸบเลขคณิต เรียกว่ำ อนุกรม๶ลྺคณิต และเรียกผลต่ำงร่วมของลำึϸบเลขคณิต
ว่ำเป็นผลต่ำงร่วมของอนุกรม๶ลྺคณิต
สูตร อนุกรม๶ลྺคณิต
หรือ
 d
nS    1
n
2a n 1 d
2
 
nS   1 n
n
a a
2

จำก  สำมำรถเขียน ในรูปผลบวกของพจน์ที่ เรียงตำมลำึϸบไปถึงพจน์ที่
1 ได้เป็น
------------ 
นำ   จะได้
ดังนั้น ---------- (สูตรที่ 1)
เรำสำมำรถแปลงสูตรที่ 1 ให้ง่ำยยิ่งขึ้น โดยใช้สูตร แทนในสูตรที่ 1 ดังนี้
จำก
จะได้
ดังนั้น ---------- (สูตรที่ 2)
nS n
nS       1 1 1a n 1 d a n 2 d a n 3 d ...                   
   1 1 1a 2d a d a   

n nS S         1 1 1 1a a (n 1)d a d a n 2 d          
         1 1 1 1a 2d a n 3 d ... a n 3 d a 2d                
     1 1 1 1a n 2 d (a d) a n 1 d a             
n2S 
      1 1 12a n 1 d 2a d nd 2d 2a 2d nd 2d ...           
      1 1 12a nd 3d 2d 2a nd 2d d 2a n 1 d         
n2S 
        1 1 12a n 1 d 2a n 1 d 2a n 1 d ...         
        1 1 12a n 1 d 2a n 1 d 2a n 1 d       
n2S    1n 2a n 1 d 
 n 1a a n 1 d  
nS    1
n
2a n 1 d
2
 
nS    1 1
n
a a n 1 d
2
    
nS    1
n
2a n 1 d
2
 
nS   1 n
n
a a
2

ตัวอย่ำงที่ 1 จงหำผลบวกของอนุกรม๶ลྺคณิตต่อไปนี้
(1)
(2)
(3)
วิธีทำ (1) วิธีที่ 1 หำผลบวกจำกกำรหำผลบวกตำมปกติ จะได้
ผลบวก
วิธีที่ 2 หำผลบวกโดยใช้สูตร ; จะได้
ผลบวก
(2) วิธีที่ 1 หำผลบวกจำกกำรหำผลบวกตำมปกติ จะได้
ผลบวก
วิธีที่ 2 หำผลบวกโดยใช้สูตร ; 10a 47 จะได้
ผลบวก
3 5 7 9 11   
2 7 12 17 22 27 32 37 42 47        
4 5 7 8 10 11 13 14
1 2 3 4
3 3 3 3 3 3 3 3
          
 3 5 7 9 11   
 35
nS   1 n
n
a a
2
 n 5, 1a 3, 5a 11
 5S   
5
3 11
2


5
14
2

 35
 2 7 12 17 22 27 32 37 42 47        
 245
nS   1 n
n
a a
2
 n 10, 1a 2,
 10S   
10
2 47
2

 5 49
 245
(3) วิธีที่ 1 หำผลบวกจำกกำรหำผลบวกตำมปกติ จะได้
ผลบวก
วิธีที่ 2 หำผลบวกโดยใช้สูตร ; จะได้
ผลบวก
ตัวอย่ำงที่ 2 จงหำผลบวก 8 พจน์แรกของอนุกรมที่กำหนดค่ำ และ ให้ดังนี้
(1)
(2)
(3)
วิธีทำ (1) วิธีที่ 1 หำผลบวกโดยใช้สูตร จะได้
จำก
จะได้
วิธีที่ 2 หำผลบวกโดยใช้สูตร จะได้

4 5 7 8 10 11 13 14
1 2 3 4
3 3 3 3 3 3 3 3
          

3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14
3
          

102
3
 34
nS   1 n
n
a a
2
 n 12, 1a 1, 12
14
a
3

 12S 
12 14
1
2 3
 
  

17
6
3
 
 
 
 34
1a d
1a 3, d 2
1a 2, d 5
1a 8, d 2 
nS   1 n
n
a a
2

8a  1a 7d
  3 7 2
 17
8S   1 8
8
a a
2

  
8
3 17
2

 80
nS   1
n
2a n 1 d
2
   
5S     
8
2 3 8 1 2
2
   
  4 6 14 
 80
(2) วิธีที่ 1 หำผลบวกโดยใช้สูตร จะได้
จำก
จะได้
วิธีที่ 2 หำผลบวกโดยใช้สูตร จะได้
(3) วิธีที่ 1 หำผลบวกโดยใช้สูตร จะได้
จำก
จะได้
วิธีที่ 2 หำผลบวกโดยใช้สูตร จะได้
nS   1 n
n
a a
2

8a  1a 7d
  2 7 5
 37
8S   1 8
8
a a
2

  
8
2 37
2

 156
nS   1
n
2a n 1 d
2
   
5S     
8
2 2 8 1 5
2
   
  4 4 35 
 156
nS   1 n
n
a a
2

8a  1a 7d
  8 7 2 
 6
8S   1 8
8
a a
2

  
8
8 6
2
   
 8
nS   1
n
2a n 1 d
2
   
5S      
8
2 8 8 1 2
2
    
  4 16 14
 8
ตัวอย่ำงที่ 3 จงหำผลบวกของอนุกรม
วิธีทำ อนุกรมนี้มี จะต้องหำค่ำ
จำก
จะได้
จำก หำผลบวกของ หรือหำ
จำก
จะได้
ตัวอย่ำงที่ 4 กำหนดให้อนุกรม๶ลྺคณิตมีพจน์ที่ 2 เท่ำกับ 10 และมีผลต่ำงร่วมเท่ำกับ จงหำ
และ
วิธีทำ กำหนด และ
จำก
จะได้
จำก
จะได้
และ
ดังนั้น และ
5 9 13 17 ... 81    
1a 5, na 81, d 4 n
na   1a n 1 d 
81   5 n 1 4 
81  5 4n 4 
n  20
n  20 5 9 13 17 ... 81     20S
nS   1 n
n
a a
2

20S   
20
5 81
2

 860
3
15S 20S
2a 10 d 3
na   1a n 1 d 
10   1a 2 1 3 
10  1a 3
1a  7
nS   1
n
2a n 1 d
2
   
15S     
15
2 7 15 1 3
2
   
  
15
14 42
2

 420
20S     
15
2 7 20 1 3
2
   
  
15
14 57
2

 710
15S  420 20S  710
ตัวอย่ำงที่ 5 กำหนดให้อนุกรม๶ลྺคณิตมีพจน์ที่ 5 และพจน์ที่ 9 เท่ำกับ และ
ตำมลำึϸบ จงหำผลบวก 20 พจน์แรก
วิธีทำ กำหนด และ
จำก
-----------
-----------
 ;
แทนค่ำ ลงใน  จะได้
จำก
ดังนั้น ผลบวก 20 พจน์แรก คือ
ตัวอย่ำงที่ 6 จงหำผลบวกของจำนวนเต็มคี่ตั้งแต่ ถึง
วิธีทำ เนื่องจำก เป็นอนุกรม๶ลྺคณิตที่มี
จำก
จำก
จะได้
ดังนั้น ผลบวกของจำนวนเต็มคี่ตั้งแต่ ถึง เท่ำกับ
19 35
5a 19 9a 35
na   1a n 1 d 
5a   1a 5 1 d 
19  1a 4d
9a   1a 9 1 d 
35  1a 8d
 16  4d
d  4
d  4
19  1a 4(4)
1a  3
20a  1a 19d
 3 19(4)
 79
20S   1 20
20
a a
2

  10 3 79
 820
9 251
9 11 13 ... 251    1a 9, d 2
na   1a n 1 d 
251   9 n 1 2 
251  9 2n 2 
n 
244
2
 122
nS   1 n
n
a a
2

122S   
122
9 251
2

 15,860
9 251 15,860
ตัวอย่ำงที่ 7 ผู้รับเหมำก่อสร้ำงคนหนึ่งนำปูนซีเมนต์วำงซ้อนกันเป็นชั้นๆ ถ้ำเขำวำงปูนซีเมนต์ไว้ชั้นล่ำงสุด
ถุง และวำงปูนซีเมนต์ไว้ชั้นบนสุดจำนวน 24 ถุง โดยให้แต่ละชั้นที่สูงขึ้นมีปูนซีเมนต์ลดลงชั้นละ ถุง
เสมอ จงหำว่ำ
(1) ปูนซีเมนต์กองนี้มีกี่ชั้น
(2) ปูนซีเมนต์กองนี้มีทั้งหมดกี่ถุง
วิธีทำ (1) ถ้ำเรียงจำนวนถุงปูนซีเมนต์จำกบนลงล่ำงจะได้อนุกรมนี้ คือ
โดยที่
จำก
จะได้
100
ดังนั้น ปูนซีเมนต์กองนี้มี ชั้น
(2) จำนวนถุงทั้งหมดของปูนซีเมนต์กองนี้ คือ หรือ
จำก
จะได้
ดังนั้น ปูนซีเมนต์กองนี้มีทั้งหมด ถุง
100 4
24 28 32 ... 100   
1a 24, d 4
na   1a n 1 d 
100   24 n 1 4 
 24 4n 4 
4n  80
n  20
20
24 28 32 ... 100    20S
nS   1 n
n
a a
2

20S   
20
24 100
2

 1,240
1,240

More Related Content

What's hot (20)

ลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรม ลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรม
Patteera Praew
สรุปสูตร ลำึϸบและอนุกรม
สรุปสูตร ลำึϸบและอนุกรมสรุปสูตร ลำึϸบและอนุกรม
สรุปสูตร ลำึϸบและอนุกรม
Patteera Praew
7SAMAN#56
7SAMAN#567SAMAN#56
7SAMAN#56
A Seed Scool
เอกสารลำึϸบอนันต์กำหนดการเชิงเส้น57
เอกสารลำึϸบอนันต์กำหนดการเชิงเส้น57เอกสารลำึϸบอนันต์กำหนดการเชิงเส้น57
เอกสารลำึϸบอนันต์กำหนดการเชิงเส้น57
krurutsamee
ลำึϸบและอนุกรม Sequences & Series
ลำึϸบและอนุกรม Sequences & Seriesลำึϸบและอนุกรม Sequences & Series
ลำึϸบและอนุกรม Sequences & Series
ChomsurangUpathamSchool
หลักการแก้สมการเกี่ยวกับ๶ลྺยกกำลัง
หลักการแก้สมการเกี่ยวกับ๶ลྺยกกำลังหลักการแก้สมการเกี่ยวกับ๶ลྺยกกำลัง
หลักการแก้สมการเกี่ยวกับ๶ลྺยกกำลัง
kroojaja
๶ลྺยกกำลังม.4
๶ลྺยกกำลังม.4๶ลྺยกกำลังม.4
๶ลྺยกกำลังม.4
KruGift Girlz
ลำึϸบเลขคณิต 2
ลำึϸบเลขคณิต 2ลำึϸบเลขคณิต 2
ลำึϸบเลขคณิต 2
aoynattaya
สรุปความȨาจะเป็น
สรุปความȨาจะเป็นสรุปความȨาจะเป็น
สรุปความȨาจะเป็น
krulerdboon
อนุกรม๶รྺาคณิต
อนุกรม๶รྺาคณิตอนุกรม๶รྺาคณิต
อนุกรม๶รྺาคณิต
aoynattaya
Sequence and series 03
Sequence and series 03Sequence and series 03
Sequence and series 03
manrak
Pat1 expo&log
Pat1 expo&logPat1 expo&log
Pat1 expo&log
Benz Zneba
ลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรมลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรม
rdschool
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 3
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 3กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 3
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 3
Toongneung SP
แนวྺ้อสอบ
แนวྺ้อสอบแนวྺ้อสอบ
แนวྺ้อสอบ
prapasun
5.7อนุกรม๶ลྺคณิตแก้ไข
5.7อนุกรม๶ลྺคณิตแก้ไข5.7อนุกรม๶ลྺคณิตแก้ไข
5.7อนุกรม๶ลྺคณิตแก้ไข
Krudodo Banjetjet
SEQUENCE&SERIES
SEQUENCE&SERIES SEQUENCE&SERIES
SEQUENCE&SERIES
Jeengsssh_m
สรุปสูตร ม.3
สรุปสูตร ม.3สรุปสูตร ม.3
สรุปสูตร ม.3
krutew Sudarat
ลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรม ลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรม
Patteera Praew
สรุปสูตร ลำึϸบและอนุกรม
สรุปสูตร ลำึϸบและอนุกรมสรุปสูตร ลำึϸบและอนุกรม
สรุปสูตร ลำึϸบและอนุกรม
Patteera Praew
เอกสารลำึϸบอนันต์กำหนดการเชิงเส้น57
เอกสารลำึϸบอนันต์กำหนดการเชิงเส้น57เอกสารลำึϸบอนันต์กำหนดการเชิงเส้น57
เอกสารลำึϸบอนันต์กำหนดการเชิงเส้น57
krurutsamee
ลำึϸบและอนุกรม Sequences & Series
ลำึϸบและอนุกรม Sequences & Seriesลำึϸบและอนุกรม Sequences & Series
ลำึϸบและอนุกรม Sequences & Series
ChomsurangUpathamSchool
หลักการแก้สมการเกี่ยวกับ๶ลྺยกกำลัง
หลักการแก้สมการเกี่ยวกับ๶ลྺยกกำลังหลักการแก้สมการเกี่ยวกับ๶ลྺยกกำลัง
หลักการแก้สมการเกี่ยวกับ๶ลྺยกกำลัง
kroojaja
๶ลྺยกกำลังม.4
๶ลྺยกกำลังม.4๶ลྺยกกำลังม.4
๶ลྺยกกำลังม.4
KruGift Girlz
ลำึϸบเลขคณิต 2
ลำึϸบเลขคณิต 2ลำึϸบเลขคณิต 2
ลำึϸบเลขคณิต 2
aoynattaya
สรุปความȨาจะเป็น
สรุปความȨาจะเป็นสรุปความȨาจะเป็น
สรุปความȨาจะเป็น
krulerdboon
อนุกรม๶รྺาคณิต
อนุกรม๶รྺาคณิตอนุกรม๶รྺาคณิต
อนุกรม๶รྺาคณิต
aoynattaya
Sequence and series 03
Sequence and series 03Sequence and series 03
Sequence and series 03
manrak
ลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรมลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรม
rdschool
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 3
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 3กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 3
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 3
Toongneung SP
แนวྺ้อสอบ
แนวྺ้อสอบแนวྺ้อสอบ
แนวྺ้อสอบ
prapasun
5.7อนุกรม๶ลྺคณิตแก้ไข
5.7อนุกรม๶ลྺคณิตแก้ไข5.7อนุกรม๶ลྺคณิตแก้ไข
5.7อนุกรม๶ลྺคณิตแก้ไข
Krudodo Banjetjet
สรุปสูตร ม.3
สรุปสูตร ม.3สรุปสูตร ม.3
สรุปสูตร ม.3
krutew Sudarat

Viewers also liked (16)

Casia2014 case simplifier168_iimt
Casia2014 case simplifier168_iimtCasia2014 case simplifier168_iimt
Casia2014 case simplifier168_iimt
ankurjaiswal1988
Q2 Week 6 Reading Application LA.910.1.7.3
Q2 Week 6 Reading Application LA.910.1.7.3Q2 Week 6 Reading Application LA.910.1.7.3
Q2 Week 6 Reading Application LA.910.1.7.3
Miami-Dade County Public Schools
Producción de algodón, la experiencia de Helvetas en África, Asia Central y u...Producción de algodón, la experiencia de Helvetas en África, Asia Central y u...
Producción de algodón, la experiencia de Helvetas en África, Asia Central y u...
Maximiliano Valencia
L'immagine turistica del Trentino
L'immagine turistica del TrentinoL'immagine turistica del Trentino
L'immagine turistica del Trentino
Antonio N. Preiti
#VEDP lunch and learn presentation
#VEDP lunch and learn presentation #VEDP lunch and learn presentation
#VEDP lunch and learn presentation
Fredericksburg Regional Alliance | FredRegion
Social Branding - Gerd Leonhard (Media Futures Group) at #CSMMSocial Branding - Gerd Leonhard (Media Futures Group) at #CSMM
Social Branding - Gerd Leonhard (Media Futures Group) at #CSMM
Arjen Strijker
Kā rīkoties ar izdegušām spuldzēm?
Kā rīkoties ar izdegušām spuldzēm?Kā rīkoties ar izdegušām spuldzēm?
Kā rīkoties ar izdegušām spuldzēm?
Ekogaisma
Doodles on cloud, security and big data
Doodles on cloud, security and big dataDoodles on cloud, security and big data
Doodles on cloud, security and big data
itworldcanada
Coca-Cola Holiday Volunteerism
Coca-Cola Holiday VolunteerismCoca-Cola Holiday Volunteerism
Coca-Cola Holiday Volunteerism
The Wilbert Group
Judith gentry communication dilemmas
Judith gentry communication dilemmasJudith gentry communication dilemmas
Judith gentry communication dilemmas
Mieke Haveman
How To Search For Deceased Family Members In Obituaries
How To Search For Deceased Family Members In ObituariesHow To Search For Deceased Family Members In Obituaries
How To Search For Deceased Family Members In Obituaries
GenealogyBank
BAREKE BAND PROFILE1
BAREKE BAND PROFILE1BAREKE BAND PROFILE1
BAREKE BAND PROFILE1
Dolly Villanueva Bareke Band
Through the Lens (Vol-2)
Through the Lens (Vol-2)Through the Lens (Vol-2)
Through the Lens (Vol-2)
Ebenezer Annadoss
Proyecto Algodón Siempre Catuti – José TiburcioProyecto Algodón Siempre Catuti – José Tiburcio
Proyecto Algodón Siempre Catuti – José Tiburcio
Maximiliano Valencia
Near future 2015년9월호_웹보메트릭스미래전략
Near future 2015년9월호_웹보메트릭스미래전략Near future 2015년9월호_웹보메트릭스미래전략
Near future 2015년9월호_웹보메트릭스미래전략
Han Woo PARK
Vuca outsourcing-v2-050413
Vuca outsourcing-v2-050413Vuca outsourcing-v2-050413
Vuca outsourcing-v2-050413
Bryan Jacobs
Casia2014 case simplifier168_iimt
Casia2014 case simplifier168_iimtCasia2014 case simplifier168_iimt
Casia2014 case simplifier168_iimt
ankurjaiswal1988
Producción de algodón, la experiencia de Helvetas en África, Asia Central y u...Producción de algodón, la experiencia de Helvetas en África, Asia Central y u...
Producción de algodón, la experiencia de Helvetas en África, Asia Central y u...
Maximiliano Valencia
Social Branding - Gerd Leonhard (Media Futures Group) at #CSMMSocial Branding - Gerd Leonhard (Media Futures Group) at #CSMM
Social Branding - Gerd Leonhard (Media Futures Group) at #CSMM
Arjen Strijker
Kā rīkoties ar izdegušām spuldzēm?
Kā rīkoties ar izdegušām spuldzēm?Kā rīkoties ar izdegušām spuldzēm?
Kā rīkoties ar izdegušām spuldzēm?
Ekogaisma
Doodles on cloud, security and big data
Doodles on cloud, security and big dataDoodles on cloud, security and big data
Doodles on cloud, security and big data
itworldcanada
Judith gentry communication dilemmas
Judith gentry communication dilemmasJudith gentry communication dilemmas
Judith gentry communication dilemmas
Mieke Haveman
How To Search For Deceased Family Members In Obituaries
How To Search For Deceased Family Members In ObituariesHow To Search For Deceased Family Members In Obituaries
How To Search For Deceased Family Members In Obituaries
GenealogyBank
Proyecto Algodón Siempre Catuti – José TiburcioProyecto Algodón Siempre Catuti – José Tiburcio
Proyecto Algodón Siempre Catuti – José Tiburcio
Maximiliano Valencia
Near future 2015년9월호_웹보메트릭스미래전략
Near future 2015년9월호_웹보메트릭스미래전략Near future 2015년9월호_웹보메트릭스미래전략
Near future 2015년9월호_웹보메트릭스미래전략
Han Woo PARK
Vuca outsourcing-v2-050413
Vuca outsourcing-v2-050413Vuca outsourcing-v2-050413
Vuca outsourcing-v2-050413
Bryan Jacobs

Similar to 3 อนุกรม๶ลྺคณิต (20)

Chapter2 ลำึϸบ
Chapter2 ลำึϸบChapter2 ลำึϸบ
Chapter2 ลำึϸบ
PumPui Oranuch
Sequence1
Sequence1Sequence1
Sequence1
Thanuphong Ngoapm
2252670.pdf
2252670.pdf2252670.pdf
2252670.pdf
iheartboutigue
สรุปสูตรและเนื้อหาคณิตศาสตร์ ม.ปลาย
สรุปสูตรและเนื้อหาคณิตศาสตร์ ม.ปลายสรุปสูตรและเนื้อหาคณิตศาสตร์ ม.ปลาย
สรุปสูตรและเนื้อหาคณิตศาสตร์ ม.ปลาย
Coo Ca Nit Sad
จำȨȨชิงซ้อน.
จำȨȨชิงซ้อน.จำȨȨชิงซ้อน.
จำȨȨชิงซ้อน.
rattapoomKruawang2
Exponential and logarithm function
Exponential and logarithm functionExponential and logarithm function
Exponential and logarithm function
Thanuphong Ngoapm
การคูณพหุนามึϹวยพหุนาม
การคูณพหุนามึϹวยพหุนามการคูณพหุนามึϹวยพหุนาม
การคูณพหุนามึϹวยพหุนาม
kroojaja
การคูณและหารจำȨȨต็ม
การคูณและหารจำȨȨต็มการคูณและหารจำȨȨต็ม
การคูณและหารจำȨȨต็ม
Jiraprapa Suwannajak
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
PumPui Oranuch
ค่ารากที่ N ของจำนวนจริง
ค่ารากที่ N ของจำนวนจริงค่ารากที่ N ของจำนวนจริง
ค่ารากที่ N ของจำนวนจริง
kroojaja
ลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรมลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรม
rdschool
ลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรมลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรม
rdschool
5 ลำึϸบอนันต์Œ
5 ลำึϸบอนันต์Œ5 ลำึϸบอนันต์Œ
5 ลำึϸบอนันต์Œ
Toongneung SP
บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริงและจำนวนจริงในรูปกรณฑ์
บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริงและจำนวนจริงในรูปกรณฑ์บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริงและจำนวนจริงในรูปกรณฑ์
บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริงและจำนวนจริงในรูปกรณฑ์
sawed kodnara
เฉลย เลข56
เฉลย เลข56เฉลย เลข56
เฉลย เลข56
Jirarat Cherntongchai
7วิชาสามัญ คณิต เฉลยตอนที่ 1
7วิชาสามัญ คณิต เฉลยตอนที่ 17วิชาสามัญ คณิต เฉลยตอนที่ 1
7วิชาสามัญ คณิต เฉลยตอนที่ 1
AreeyaNualjon
สรุปสูตรและเนื้อหาคณิตศาสตร์ ม.ปลาย
สรุปสูตรและเนื้อหาคณิตศาสตร์ ม.ปลายสรุปสูตรและเนื้อหาคณิตศาสตร์ ม.ปลาย
สรุปสูตรและเนื้อหาคณิตศาสตร์ ม.ปลาย
Coo Ca Nit Sad
Exponential and logarithm function
Exponential and logarithm functionExponential and logarithm function
Exponential and logarithm function
Thanuphong Ngoapm
การคูณพหุนามึϹวยพหุนาม
การคูณพหุนามึϹวยพหุนามการคูณพหุนามึϹวยพหุนาม
การคูณพหุนามึϹวยพหุนาม
kroojaja
การคูณและหารจำȨȨต็ม
การคูณและหารจำȨȨต็มการคูณและหารจำȨȨต็ม
การคูณและหารจำȨȨต็ม
Jiraprapa Suwannajak
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
บทที่ 1.ทบทวนคณิตศาสตร์
PumPui Oranuch
ค่ารากที่ N ของจำนวนจริง
ค่ารากที่ N ของจำนวนจริงค่ารากที่ N ของจำนวนจริง
ค่ารากที่ N ของจำนวนจริง
kroojaja
ลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรมลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรม
rdschool
ลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรมลำึϸบและอนุกรม
ลำึϸบและอนุกรม
rdschool
5 ลำึϸบอนันต์Œ
5 ลำึϸบอนันต์Œ5 ลำึϸบอนันต์Œ
5 ลำึϸบอนันต์Œ
Toongneung SP
บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริงและจำนวนจริงในรูปกรณฑ์
บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริงและจำนวนจริงในรูปกรณฑ์บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริงและจำนวนจริงในรูปกรณฑ์
บทที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับจำนวนจริงและจำนวนจริงในรูปกรณฑ์
sawed kodnara
7วิชาสามัญ คณิต เฉลยตอนที่ 1
7วิชาสามัญ คณิต เฉลยตอนที่ 17วิชาสามัญ คณิต เฉลยตอนที่ 1
7วิชาสามัญ คณิต เฉลยตอนที่ 1
AreeyaNualjon

More from Toongneung SP (20)

กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 4 (1)
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 4 (1)กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 4 (1)
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 4 (1)
Toongneung SP
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 4
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 4กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 4
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 4
Toongneung SP
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 3
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 3กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 3
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 3
Toongneung SP
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 2
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 2กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 2
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 2
Toongneung SP
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 1
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 1กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 1
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 1
Toongneung SP
6.2แบบฝึกหัด
6.2แบบฝึกหัด6.2แบบฝึกหัด
6.2แบบฝึกหัด
Toongneung SP
6.1แบบฝึกหัด
6.1แบบฝึกหัด6.1แบบฝึกหัด
6.1แบบฝึกหัด
Toongneung SP
5แบบฝึกหัด
5แบบฝึกหัด5แบบฝึกหัด
5แบบฝึกหัด
Toongneung SP
แบบฝึกหัด 4
แบบฝึกหัด 4แบบฝึกหัด 4
แบบฝึกหัด 4
Toongneung SP
3แบบฝึกหัด
3แบบฝึกหัด3แบบฝึกหัด
3แบบฝึกหัด
Toongneung SP
2แบบฝึกหัด
2แบบฝึกหัด2แบบฝึกหัด
2แบบฝึกหัด
Toongneung SP
1แบบฝึกหัด
1แบบฝึกหัด1แบบฝึกหัด
1แบบฝึกหัด
Toongneung SP
แบบฝึกหัด 4
แบบฝึกหัด 4แบบฝึกหัด 4
แบบฝึกหัด 4
Toongneung SP
6แบบฝึกหัด6.2
6แบบฝึกหัด6.26แบบฝึกหัด6.2
6แบบฝึกหัด6.2
Toongneung SP
6แบบฝึกหัด6.1
6แบบฝึกหัด6.16แบบฝึกหัด6.1
6แบบฝึกหัด6.1
Toongneung SP
Posttest6
Posttest6Posttest6
Posttest6
Toongneung SP
Pretest6
Pretest6Pretest6
Pretest6
Toongneung SP
5แบบฝึกหัด
5แบบฝึกหัด5แบบฝึกหัด
5แบบฝึกหัด
Toongneung SP
Posttest5
Posttest5Posttest5
Posttest5
Toongneung SP
Pretest5
Pretest5Pretest5
Pretest5
Toongneung SP
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 4 (1)
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 4 (1)กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 4 (1)
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 4 (1)
Toongneung SP
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 4
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 4กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 4
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 4
Toongneung SP
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 3
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 3กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 3
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 3
Toongneung SP
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 2
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 2กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 2
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 2
Toongneung SP
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 1
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 1กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 1
กิจกรรมตรวจสอบความเข้าใจ 1
Toongneung SP
6.2แบบฝึกหัด
6.2แบบฝึกหัด6.2แบบฝึกหัด
6.2แบบฝึกหัด
Toongneung SP
6.1แบบฝึกหัด
6.1แบบฝึกหัด6.1แบบฝึกหัด
6.1แบบฝึกหัด
Toongneung SP
5แบบฝึกหัด
5แบบฝึกหัด5แบบฝึกหัด
5แบบฝึกหัด
Toongneung SP
แบบฝึกหัด 4
แบบฝึกหัด 4แบบฝึกหัด 4
แบบฝึกหัด 4
Toongneung SP
3แบบฝึกหัด
3แบบฝึกหัด3แบบฝึกหัด
3แบบฝึกหัด
Toongneung SP
2แบบฝึกหัด
2แบบฝึกหัด2แบบฝึกหัด
2แบบฝึกหัด
Toongneung SP
1แบบฝึกหัด
1แบบฝึกหัด1แบบฝึกหัด
1แบบฝึกหัด
Toongneung SP
แบบฝึกหัด 4
แบบฝึกหัด 4แบบฝึกหัด 4
แบบฝึกหัด 4
Toongneung SP
6แบบฝึกหัด6.2
6แบบฝึกหัด6.26แบบฝึกหัด6.2
6แบบฝึกหัด6.2
Toongneung SP
6แบบฝึกหัด6.1
6แบบฝึกหัด6.16แบบฝึกหัด6.1
6แบบฝึกหัด6.1
Toongneung SP
5แบบฝึกหัด
5แบบฝึกหัด5แบบฝึกหัด
5แบบฝึกหัด
Toongneung SP

3 อนุกรม๶ลྺคณิต

  • 1. อนุกรม ผลบวกของพจน์ทุกพจน์ของลำึϸบ เรียกว่ำ อนุกรม (series) และผลบวกของพจน์ทุกพจน์ของลำึϸบ จำกัด ..., na เขียนในรูปของ จะเรียกผลรวมของพจน์ทุกพจน์ของ ลำึϸบจำกัดว่ำ อนุกรมจำกัด ตัวอย่ำงที่ 1 จงเขียนอนุกรมจำกัดของลำึϸบจำกัดต่อไปนี้ (1) (2) (3) (4) วิธีทำ (1) เป็นอนุกรมจำกัดของลำึϸบ (2) เป็นอนุกรมจำกัดของลำึϸบ (3) เป็นอนุกรมจำกัดของลำึϸบ (4) 3 3 3 1 2 3 ...   เป็นอนุกรมจำกัดของลำึϸบ ... 1a , 2a , 3a , 1 2 3 na a a ... a    12, 9, 6, 3 1, 3, 9, 27, 81 1 , 2 2 1 , 2 3 1 , 2 4 1 , 2 5 1 , 2 6 1 , 2 7 1 2 3 1 , 3 2 , 3 3 , ..., 3 10 12 9 6 3   12, 9, 6, 3 1 3 9 27 81    12, 9, 6, 3 2 3 4 5 6 7 1 1 1 1 1 1 1 2 2 2 2 2 2 2       1 , 2 2 1 , 2 3 1 , 2 4 1 , 2 5 1 , 2 6 1 , 2 7 1 2 3 1 , 3 2 , 3 3 , nS  1 2 3 na a a ... a    ข้อตกลง ถ้ำ 1a , 2a , 3a , ..., na เป็นลำึϸบจำกัด ผลบวก 5 พจน์แรกของอนุกรม 1 2 3 na a a ... a    เขียนด้วยด้วย 5S นั่นคือ 5S  1 2 3 4 5a a a a a    ในทำนองเดียวกัน ผลบวก 6 พจน์แรกของอนุกรม 1 2 3 na a a ... a    เขียนด้วยด้วย 6S นั่นคือ 6S  1 2 3 4 5 6a a a a a a     ในกรณีทั่วไป จะเขียนแทนผลบวกของ n พจน์แรกของอนุกรมด้วย nS นั่นคือ nS  1 2 3 na a a ... a    จำกข้อตกลงนี้จึงได้ว่ำ 1S  1a 2S  1 2a a 3S  1 2 3a a a  . . .
  • 2. ตัวอย่ำงที่ 2 กำหนดลำึϸบจำกัด (1) จงเขียนอนุกรมของลำึϸบนี้ (2) จงหำผลบวก 5 พจน์แรกของอนุกรมในข้อ (1) (3) จงหำผลบวกของทุกพจน์ของอนุกรมในข้อ (1) วิธีทำ (1) เป็นอนุกรมจำกัด (2) ผลบวก 5 พจน์แรกของอนุกรมในข้อ (1) (3) ผลบวกของทุกพจน์ของอนุกรมในข้อ (1) 2 1 , 2 2 , 2 3 , 2 4 , 2 5 , 2 6 , 2 7 , 2 8 , 2 9 , 2 10 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10         2 1 , 2 2 , 2 3 , 2 4 , 2 5 , 2 6 , 2 7 , 2 8 , 2 9 , 2 10  2 2 2 2 2 1 2 3 4 5     1 4 9 16 25     55  2 2 2 2 2 2 2 2 2 2 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10          1 4 9 16 25 36 49 64 81 100          385 ข้อตกลง 1. เพื่อควำมสะดวก ต่อไปนี้จะเขียนอนุกรมจำกัดที่มีหลำยพจน์ โดยเขียนเฉพำะ 3 พจน์แรก และ พจน์สุดท้ำย โดยละพจน์อื่นๆ ไว้ในฐำนที่เข้ำใจ เช่น ในตัวอย่ำงที่ 2 ข้อ (1) จะเขียนอนุกรม 2 2 2 2 2 2 2 2 2 2 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10         ย่อๆ เป็น 2 2 2 2 1 2 3 ... 10    2. อนุกรมที่เกิดจำกลำึϸบเลขคณิต เรียกว่ำ อนุกรม๶ลྺคณิต และอนุกรมที่เกิดจำกลำึϸบเรขำคณิต เรียกว่ำ อนุกรมเรขำคณิต
  • 3. กำรหำผลบวกของอนุกรมจำกัด กำรหำผลบวกของอนุกรมจำกัด สำมำรถหำด้วยวิธีหำผลบวกตำมปกติได้ แต่กรณีที่อนุกรมจำกัดนั้นมี หลำยๆ พจน์ กำรหำผลบวกของอนุกรมด้วยวิธีหำผลบวกตำมปกติจะไม่สะดวก พิจำรณำผลบวกของอนุกรมต่อไปนี้ (1) 3 5 7 9 11    (2) 1 1 1 4 2 1 2 4 8      (3) 1 1 1 1 1 1 4 2 1 2 4 8 16 32 64         จะเห็นได้ว่ำ ผลบวกของอนุกรม 3 5 7 9 11    หำด้วยวิธีหำผลบวกปกติได้เท่ำกับ 35 ซึ่งหำได้ ง่ำยๆ ผลบวกของอนุกรม 1 1 1 4 2 1 2 4 8       32 16 8 4 2 1 8       63 8 ผลบวกของอนุกรม 1 1 1 1 1 1 4 2 1 2 4 8 16 32 64          256 128 64 32 16 8 4 2 1 63          511 63 จะเห็นว่ำ ในบำงกรณีผลบวกของอนุกรมที่มีจำนวนพจน์หลำยๆ พจน์ จะหำผลบวกตำมปกติไม่ สะดวก ต้องหำผลบวกด้วยวิธีคำนวณจำกสูตร ในหัวข้อนี้ จะกล่ำวถึงกำรหำผลบวกด้วยวิธีคำนวณจำกสูตรเฉพำะของอนุกรม๶ลྺคณิตและอนุกรม เรขำคณิต ดังนี้
  • 4. อนุกรม๶ลྺคณิต อนุกรมที่ได้จำกลำึϸบเลขคณิต เรียกว่ำ อนุกรม๶ลྺคณิต และเรียกผลต่ำงร่วมของลำึϸบ เลขคณิต ว่ำเป็นผลต่ำงร่วมของอนุกรม๶ลྺคณิต เช่น เป็นลำึϸบเลขคณิต มีค่ำ เป็นอนุกรม๶ลྺคณิต มีค่ำ กำรหำผลบวกของทุกพจน์ของอนุกรมนี้ (มีทั้งหมด 5 พจน์) ทำได้อีกวิธีหนึ่ง ดังนี้ เนื่องจำก ดังนั้น ในกรณีของกำรหำผลบวก พจน์แรกของอนุกรม๶ลྺคณิต จะหำได้ดังนี้ จำก และ จะได้ ------------   d 3, 5, 7, 9, 11 d 2, 1a 3, 5a 11 3 5 7 9 11    d 2, 1a 3, 5a 11 3 5 7  9 11 11 9 7  5 3 14 14 14 14 14 14 14 14 14 14  5 14 3 5 7 9 11     5 14 2   35 n nS  1 2 3 n 2 n 1 na a a ... a a a        n 1a a n 1 d   nS         1 1 1 1 1a a d a 2d ... a n 3 d a n 2 d                  1a n 1 d     อนุกรมที่ได้จำกลำึϸบเลขคณิต เรียกว่ำ อนุกรม๶ลྺคณิต และเรียกผลต่ำงร่วมของลำึϸบเลขคณิต ว่ำเป็นผลต่ำงร่วมของอนุกรม๶ลྺคณิต สูตร อนุกรม๶ลྺคณิต หรือ  d nS    1 n 2a n 1 d 2   nS   1 n n a a 2 
  • 5. จำก  สำมำรถเขียน ในรูปผลบวกของพจน์ที่ เรียงตำมลำึϸบไปถึงพจน์ที่ 1 ได้เป็น ------------  นำ   จะได้ ดังนั้น ---------- (สูตรที่ 1) เรำสำมำรถแปลงสูตรที่ 1 ให้ง่ำยยิ่งขึ้น โดยใช้สูตร แทนในสูตรที่ 1 ดังนี้ จำก จะได้ ดังนั้น ---------- (สูตรที่ 2) nS n nS       1 1 1a n 1 d a n 2 d a n 3 d ...                       1 1 1a 2d a d a     n nS S         1 1 1 1a a (n 1)d a d a n 2 d                    1 1 1 1a 2d a n 3 d ... a n 3 d a 2d                      1 1 1 1a n 2 d (a d) a n 1 d a              n2S        1 1 12a n 1 d 2a d nd 2d 2a 2d nd 2d ...                  1 1 12a nd 3d 2d 2a nd 2d d 2a n 1 d          n2S          1 1 12a n 1 d 2a n 1 d 2a n 1 d ...                  1 1 12a n 1 d 2a n 1 d 2a n 1 d        n2S    1n 2a n 1 d   n 1a a n 1 d   nS    1 n 2a n 1 d 2   nS    1 1 n a a n 1 d 2      nS    1 n 2a n 1 d 2   nS   1 n n a a 2 
  • 6. ตัวอย่ำงที่ 1 จงหำผลบวกของอนุกรม๶ลྺคณิตต่อไปนี้ (1) (2) (3) วิธีทำ (1) วิธีที่ 1 หำผลบวกจำกกำรหำผลบวกตำมปกติ จะได้ ผลบวก วิธีที่ 2 หำผลบวกโดยใช้สูตร ; จะได้ ผลบวก (2) วิธีที่ 1 หำผลบวกจำกกำรหำผลบวกตำมปกติ จะได้ ผลบวก วิธีที่ 2 หำผลบวกโดยใช้สูตร ; 10a 47 จะได้ ผลบวก 3 5 7 9 11    2 7 12 17 22 27 32 37 42 47         4 5 7 8 10 11 13 14 1 2 3 4 3 3 3 3 3 3 3 3             3 5 7 9 11     35 nS   1 n n a a 2  n 5, 1a 3, 5a 11  5S    5 3 11 2   5 14 2   35  2 7 12 17 22 27 32 37 42 47          245 nS   1 n n a a 2  n 10, 1a 2,  10S    10 2 47 2   5 49  245
  • 7. (3) วิธีที่ 1 หำผลบวกจำกกำรหำผลบวกตำมปกติ จะได้ ผลบวก วิธีที่ 2 หำผลบวกโดยใช้สูตร ; จะได้ ผลบวก ตัวอย่ำงที่ 2 จงหำผลบวก 8 พจน์แรกของอนุกรมที่กำหนดค่ำ และ ให้ดังนี้ (1) (2) (3) วิธีทำ (1) วิธีที่ 1 หำผลบวกโดยใช้สูตร จะได้ จำก จะได้ วิธีที่ 2 หำผลบวกโดยใช้สูตร จะได้  4 5 7 8 10 11 13 14 1 2 3 4 3 3 3 3 3 3 3 3             3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 3             102 3  34 nS   1 n n a a 2  n 12, 1a 1, 12 14 a 3   12S  12 14 1 2 3       17 6 3        34 1a d 1a 3, d 2 1a 2, d 5 1a 8, d 2  nS   1 n n a a 2  8a  1a 7d   3 7 2  17 8S   1 8 8 a a 2     8 3 17 2   80 nS   1 n 2a n 1 d 2     5S      8 2 3 8 1 2 2       4 6 14   80
  • 8. (2) วิธีที่ 1 หำผลบวกโดยใช้สูตร จะได้ จำก จะได้ วิธีที่ 2 หำผลบวกโดยใช้สูตร จะได้ (3) วิธีที่ 1 หำผลบวกโดยใช้สูตร จะได้ จำก จะได้ วิธีที่ 2 หำผลบวกโดยใช้สูตร จะได้ nS   1 n n a a 2  8a  1a 7d   2 7 5  37 8S   1 8 8 a a 2     8 2 37 2   156 nS   1 n 2a n 1 d 2     5S      8 2 2 8 1 5 2       4 4 35   156 nS   1 n n a a 2  8a  1a 7d   8 7 2   6 8S   1 8 8 a a 2     8 8 6 2      8 nS   1 n 2a n 1 d 2     5S       8 2 8 8 1 2 2        4 16 14  8
  • 9. ตัวอย่ำงที่ 3 จงหำผลบวกของอนุกรม วิธีทำ อนุกรมนี้มี จะต้องหำค่ำ จำก จะได้ จำก หำผลบวกของ หรือหำ จำก จะได้ ตัวอย่ำงที่ 4 กำหนดให้อนุกรม๶ลྺคณิตมีพจน์ที่ 2 เท่ำกับ 10 และมีผลต่ำงร่วมเท่ำกับ จงหำ และ วิธีทำ กำหนด และ จำก จะได้ จำก จะได้ และ ดังนั้น และ 5 9 13 17 ... 81     1a 5, na 81, d 4 n na   1a n 1 d  81   5 n 1 4  81  5 4n 4  n  20 n  20 5 9 13 17 ... 81     20S nS   1 n n a a 2  20S    20 5 81 2   860 3 15S 20S 2a 10 d 3 na   1a n 1 d  10   1a 2 1 3  10  1a 3 1a  7 nS   1 n 2a n 1 d 2     15S      15 2 7 15 1 3 2        15 14 42 2   420 20S      15 2 7 20 1 3 2        15 14 57 2   710 15S  420 20S  710
  • 10. ตัวอย่ำงที่ 5 กำหนดให้อนุกรม๶ลྺคณิตมีพจน์ที่ 5 และพจน์ที่ 9 เท่ำกับ และ ตำมลำึϸบ จงหำผลบวก 20 พจน์แรก วิธีทำ กำหนด และ จำก ----------- -----------  ; แทนค่ำ ลงใน  จะได้ จำก ดังนั้น ผลบวก 20 พจน์แรก คือ ตัวอย่ำงที่ 6 จงหำผลบวกของจำนวนเต็มคี่ตั้งแต่ ถึง วิธีทำ เนื่องจำก เป็นอนุกรม๶ลྺคณิตที่มี จำก จำก จะได้ ดังนั้น ผลบวกของจำนวนเต็มคี่ตั้งแต่ ถึง เท่ำกับ 19 35 5a 19 9a 35 na   1a n 1 d  5a   1a 5 1 d  19  1a 4d 9a   1a 9 1 d  35  1a 8d  16  4d d  4 d  4 19  1a 4(4) 1a  3 20a  1a 19d  3 19(4)  79 20S   1 20 20 a a 2    10 3 79  820 9 251 9 11 13 ... 251    1a 9, d 2 na   1a n 1 d  251   9 n 1 2  251  9 2n 2  n  244 2  122 nS   1 n n a a 2  122S    122 9 251 2   15,860 9 251 15,860
  • 11. ตัวอย่ำงที่ 7 ผู้รับเหมำก่อสร้ำงคนหนึ่งนำปูนซีเมนต์วำงซ้อนกันเป็นชั้นๆ ถ้ำเขำวำงปูนซีเมนต์ไว้ชั้นล่ำงสุด ถุง และวำงปูนซีเมนต์ไว้ชั้นบนสุดจำนวน 24 ถุง โดยให้แต่ละชั้นที่สูงขึ้นมีปูนซีเมนต์ลดลงชั้นละ ถุง เสมอ จงหำว่ำ (1) ปูนซีเมนต์กองนี้มีกี่ชั้น (2) ปูนซีเมนต์กองนี้มีทั้งหมดกี่ถุง วิธีทำ (1) ถ้ำเรียงจำนวนถุงปูนซีเมนต์จำกบนลงล่ำงจะได้อนุกรมนี้ คือ โดยที่ จำก จะได้ 100 ดังนั้น ปูนซีเมนต์กองนี้มี ชั้น (2) จำนวนถุงทั้งหมดของปูนซีเมนต์กองนี้ คือ หรือ จำก จะได้ ดังนั้น ปูนซีเมนต์กองนี้มีทั้งหมด ถุง 100 4 24 28 32 ... 100    1a 24, d 4 na   1a n 1 d  100   24 n 1 4   24 4n 4  4n  80 n  20 20 24 28 32 ... 100    20S nS   1 n n a a 2  20S    20 24 100 2   1,240 1,240