ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
ใบความรู้ วิชาภาษาไทย ท 33101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ธรรมชาติของภาษา หน้า
1
ธรรมชาติของภาษา
มนุษย์ใช้ภาษาในการติดต่อสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจ
ซึ่งกันและกัน แต่ละภาษานั้นมีลักษณะร่วมกันที่สำาคัญ 4
ประการ คือ
1. ภาษาใช้เสียงสื่อความหมาย
2. ภาษาประกอบด้วยหน่วยเล็กซึ่งประกอบกันเป็นหน่วยที่
ใหญ่ขึ้น
3. ภาษามีการเปลี่ยนแปลง
4. ภาษามีลักษณะที่เหมือนกันและต่างกัน
ภาษาใช้เสียงสื่อความหมาย
ความหมายของภาษาพิจารณาได้ 2 ลักษณะ คือ
1. ความหมายของภาษาอย่างกว้าง
ภาษา หมายถึง การแสดงออกเมื่อสื่อความหมายอย่างมี
ระบบกฎเกณฑ์ที่เข้าใจกัน ด้วยการใช้เสียง ท่าทาง หรือ
สัญลักษณ์อื่น อาจเป็นการติดต่อระหว่างมนุษย์หรือระหว่าง
สัตว์ ภาษาในความหมายนี้ เช่น ภาษามนุษย์ ภาษาท่าทาง
ภาษาใบ้
2. ความหมายของภาษาอย่างแคบ
ภาษา หมายถึง ถ้อยคำาที่มนุษย์ใช้พูดเพื่อติดต่อสื่อความ
หมายกัน แต่ละถ้อยคำาที่พูดนั้นจะมีความหมายอย่างไรขึ้นอยู่
กับการตกลงของผู้ที่ใช้เสียงนั้น โดยทั่วไปเสียงกับความหมาย
ไม่มีความสัมพันธ์กัน แต่ก็อาจมีบ้างที่เสียงของถ้อยคำาสัมพันธ์
กับความหมาย แต่ก็มีเพียงส่วนน้อย
ภาษาประกอบด้วยหน่วยเล็กซึ่งประกอบกันเป็นหน่วยที่
ใหญ่ขึ้น
คำาเกิดจากการนำา๶สียงในภาษามาประกอบกัน เรา
สามารถนำา๶สียงในภาษาซึ่งมีจำานวนจำากัดมาประกอบกันเกิด
เป็นจำานวนมาก เช่น เมื่อนำาคำามาประกอบกันก็จะเกิดเป็น
ประโยค ประโยคที่มีอยู่สามารถนำามารวมกันหรือซ้อนกัน
ทำาให้ประโยคยาวออกไปได้เรื่อย ๆ นำาประโยคมาเรียบเรียงต่อ
กันก็จะเกิดเป็นเรื่องราว ตัวอย่างการขยายประโยค เช่น
ใบความรู้ วิชาภาษาไทย ท 33101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ธรรมชาติของภาษา หน้า
2
ปู่ตีแมว
ปู่ตีแมวดำา
ปู่ตีแมวดำาที่มากินปลา
ปู่ตีแมวดำาที่มากินปลาที่ตากไว้
ภาษามีการเปลี่ยนแปลง
ภาษามีการเปลี่ยนแปลงได้ คำาบางคำาอาจเกิดขึ้นใหม่
บางคำาอาจเลิกใช้ไป และบางคำาอาจมีการเปลี่ยนแปลงเสียงไป
บ้าง หรือบางคำาอาจมีความหมายต่างไปจากเดิม ใช้ต่างไป
จากเดิม แม้รูปประโยคก็อาจเปลี่ยนแปลงไปได้ อาจมีรูป
ประโยคใหม่ ๆ เกิดขึ้น
สาเหตุที่ทำาให้ภาษามีการเปลี่ยน ได้แก่
1. การพูดจากันในชีวิตประจำาวัน
การพูดจากันทำาให้เสียงกลายไปได้ อาจสูญไป บางคำา
อาจมีความหมายต่างจากเดิม อาจทำาให้เสียงกลมกลืนกันหรือ
ทำาให้เกิดการกร่อนเสียงได้ เช่น
หมากขาม กร่อนเสียงเป็น มะขาม
ต้นขบ กร่อนเสียงเป็น ตะขบ
สายดือ กร่อนเสียงเป็น สะดือ
สาวใภ้ กร่อนเสียงเป็น สะใภ้
ฉันนี้ กร่อนเสียงเป็น ฉะนี้
2. อิทธิพลของภาษาอื่น
การติดต่อกับต่างชาติทำาให้มีการยืมภาษาอื่นมาใช้ การ
ยืมภาษาอื่นมาใช้ก็มีอิทธิพลทำาให้ภาษาเดิมเปลี่ยนแปลงได้ ที่
เห็นได้ชัดเจน ได้แก่ ไทยรับเอารูปประโยคของภาษาอังกฤษ
มาใช้ในภาษาไทย เช่น
3. ความเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม
เมื่อสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป ก็มีผลทำาให้มีสิ่งใหม่ๆ เกิด
ขึ้น และมีคำาใหม่กำาหนดเรียกใช้ส่วนศัพท์บางคำาที่ไม่ค่อยได้
ใช้ก็จะค่อยๆ สูญหายไปจากภาษาได้ด้วย
ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงของภาษา เช่น
ใบความรู้ วิชาภาษาไทย ท 33101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ธรรมชาติของภาษา หน้า
3
-“ ”กู เป็นสรรพนามบุรุษที่ 1 ในสมัยสุโขทัยใช้กันเป็นปกติ
แต่ปัจจุบันไม่นิยมกันใช้กันในสังคมเพราะถือว่าไม่สุภาพ
-“ ”เพื่อ ในศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำาแหงมหาราช มี
ความหมายทำานองเดียวกัน “ ”เพราะ ใช้เป็นคำาเชื่อมแสดง
เหตุผล แต่ในปัจจุบันใช้เป็นคำาบอกจุดมุ่งหมาย
- คำาโบราณที่ใช้ในเรื่องลิลิตตะเลงพ่าย ที่มีความหมาย
ต่างจากปัจจุบัน เช่น เต้า หมายถึง ไป ท่า หมายถึง คอย
4. การเรียนภาษาของเด็ก
ภาษามีลักษณะที่เหมือนกันและต่างกัน
1. ลักษณะที่เหมือนกันภาษา ได้แก่
1.1 ภาษาทุกภาษาใช้เสียงสื่อความหมาย ทุกภาษามี
เสียงสระเสียงพยัญชนะ
1.2 ภาษามีวิธีการสร้างศัพท์ใหม่ขึ้นใช้เช่น ภาษา
ไทยมรการสร้างศัพท์ใหม่ด้วยวิธีประสมคำาซำ้าคำา ซ้อนคำา
ภาษาบาลีสันสกฤตมีการสร้างศัพท์ใหม่ด้วยวิธีสมาส วิธีสนธิ
ตัวอย่างคำาประสม เช่น กงจักร กาฝาก กินใน กล้อง
ถ่ายรูป กล้วยแขก ขันหมาก
ขนตา ของกลาง เข้าใจ ใจดำา เจ้าพ่อ เจ้าแม่ ไฟฟ้า ตู้
เย็น ปากกา
ตัวอย่างคำาซ้อน เช่น กักขัง เกี่ยวข้อง ขัดขวาง ขบ
กัด คับแคบ คัดเลือก จิตใจ
ดูแลเจ็บไข้ถิ่นฐาน เรียกร้อง ทรัพย์สิน บ้านเรือน
ตัวอย่างคำาสมาส เช่น ราชโอรส วรรคดี
มัธยมศึกษา รัฐบาล รัฐมนตรี วัฒนธรรม ธุรกิจ ราชรถ
ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ อิสรภาพ สารคดี คุณธรรม
สุขภาพ
1.3 ภาษาแต่ละภาษามีสำานวนใช้ ได้แก่
สำานวนในภาษาไทย เช่น
กิ่งทองใบหยก กระดี่ได้นำ้า ขิงก็ราข่าก็แรง ไข่ในหิน
ปลูกเรือนคร่อมตอ พ่อพวงมาลัย สนุขจนตรอก หมูไปไก่มา
เอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง
ใบความรู้ วิชาภาษาไทย ท 33101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ธรรมชาติของภาษา หน้า
4
สำานวนในภาษาอังกฤษ เช่น To Make Both Meet
(เทียบสำานวนไทยว่า ชักหน้าไม่ถึงหลัง) Fine Feathers
Make Fine Birds (เทียบสำานวนไทยว่าไก่งามเพราะขน)
1.4 ภาษามีคำาชนิดต่าง ๆ ใช้ ได้แก่ คำานาม คำากริยา
คำาเชื่อม
คำานามในภาษาไทย เช่น บ้าน โรงเรียน ปากกา สนุข
คำากริยาในภาษาไทย เช่น กิน ไป เดิน รัก
คำาเชื่อมในภาษาไทย เช่น แต่ และ เพราะ
คำานามในภาษาอังกฤษ เช่น house school pen dog
คำากริยาในภาษาอังกฤษ เช่น eat go walk love
คำาเชื่อมในภาษาอังกฤษ เช่น but and because
1.5 ภาษามีวิธีขยายประโยคให้ยาวออกไปได้ เช่น
ฉันซื้อปากกา ฉันซื้อปากการสีดำา ฉันซื้อปากกาสีดำา
ให้น้องชาย
1.6 ภาษามีวิธีแสดงความคิดทำานองเดียวกันได้ เช่น
มีประโยคแจ้งให้ทราบ ประโยคถามให้ตอบ ประโยคบอก
ทำา
1.7 ภาษา มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เช่น มี
รูปประโยคใหม่ ๆ เกิดขึ้น มีศัพท์ใหม่ใช้มากขึ้น
2.ลักษณะที่ต่างกันของภาษา ได้แก่
2.1 ความแตกต่างกันในด้านเสียง เช่น ไทยมีเสียง
วรรณยุกต์ใช้ แต่ภาษาอังกฤษไม่มีเสียงนี้ใช้
2.2 ความแตกต่างกันในด้านไวยากรณ์ เช่น ลักษณะ
การเรียบเรียงประโยค
ตัวอย่างคำาที่มีเสียงสระเดียวกันและมีความหมาย
ใกล้เคียงกัน
1.เรื่อย – มีลักษณะอาการอันต่อเนื่องกันไปไม่ขาดระยะ
เฉื่อย – เรื่อย ๆ ช้า ๆ
2.บุก – ลุย ฝ่าเข้าไป รุก –ล่วงลำ้าเข้าไป
3.วาว - ใสสว่าง พราว – แวววาว
ใบความรู้ วิชาภาษาไทย ท 33101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ธรรมชาติของภาษา หน้า
5
4.ปอก- เอาเปลือกหรือสิ่งที่ห่อหุ้มออก ลอก- เอา
เปลือกหรือผิวออกเป็นแผ่น ๆ
5.แหก – แยกออก แตก – แยกออกจากส่วนรวม
6.โล่ง –มีลักษณะว่างหรือเปิดตลอด โปร่ง – มีลักษณะ
ว่างหรือเปิดเป็นช่อง
7.เมื่อย – อาการเพลียของกล้ามเนื้อ เหนื่อย – รู้สึก
อ่อนแรงลง
8.หน่วง - เหนี่ยวไว้ ทำาให้ช้า ถ่วง – ทำาให้ช้า
9.จ้อง - เพ่งตาดูหรือมุ่งมองดูสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะ
มอง – มุ่งดู
10 หย่อน –ไม่ตึง คลาย ผ่อน – ทำาให้หย่อนหรือคลาย
ความตึง
11.ขืน – ยั้งไว้หรือบังคับไว้ไม่ให้เป็นไปตาม ฝืน –
ขืนไว้ เหนี่ยวรั้ง
12.ไล่ - บังคับให้ไป ไส – เสือกไป ผลักไป
13.รุน – ดุนไปเรื่อย ไสไปเรื่อย ดุน – รุน ทำาให้
เคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ ด้วยแรงดัน
14.มัด- ผูกรัดให้แน่น รัด – พันให้กระชับ
15.โผน-อาการที่กระโดดเข้าไปทันที โจน - กระโดด
ไปโดยเร็ว
ใบความรู้ วิชาภาษาไทย ท 33101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ธรรมชาติของภาษา หน้า
5
4.ปอก- เอาเปลือกหรือสิ่งที่ห่อหุ้มออก ลอก- เอา
เปลือกหรือผิวออกเป็นแผ่น ๆ
5.แหก – แยกออก แตก – แยกออกจากส่วนรวม
6.โล่ง –มีลักษณะว่างหรือเปิดตลอด โปร่ง – มีลักษณะ
ว่างหรือเปิดเป็นช่อง
7.เมื่อย – อาการเพลียของกล้ามเนื้อ เหนื่อย – รู้สึก
อ่อนแรงลง
8.หน่วง - เหนี่ยวไว้ ทำาให้ช้า ถ่วง – ทำาให้ช้า
9.จ้อง - เพ่งตาดูหรือมุ่งมองดูสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะ
มอง – มุ่งดู
10 หย่อน –ไม่ตึง คลาย ผ่อน – ทำาให้หย่อนหรือคลาย
ความตึง
11.ขืน – ยั้งไว้หรือบังคับไว้ไม่ให้เป็นไปตาม ฝืน –
ขืนไว้ เหนี่ยวรั้ง
12.ไล่ - บังคับให้ไป ไส – เสือกไป ผลักไป
13.รุน – ดุนไปเรื่อย ไสไปเรื่อย ดุน – รุน ทำาให้
เคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ ด้วยแรงดัน
14.มัด- ผูกรัดให้แน่น รัด – พันให้กระชับ
15.โผน-อาการที่กระโดดเข้าไปทันที โจน - กระโดด
ไปโดยเร็ว

More Related Content

What's hot (20)

คำบุพบท
คำบุพบทคำบุพบท
คำบุพบท
Ku'kab Ratthakiat
แบบฝึก๶สริมทักษะการอ่านภาษาไทย
แบบฝึก๶สริมทักษะการอ่านภาษาไทยแบบฝึก๶สริมทักษะการอ่านภาษาไทย
แบบฝึก๶สริมทักษะการอ่านภาษาไทย
พัน พัน
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสȨิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสȨิแบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสȨิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสȨิ
Surapong Klamboot
หน่วยที่ 4 ภาษาเขมรในภาษาไทย 1
หน่วยที่ 4 ภาษาเขมรในภาษาไทย 1หน่วยที่ 4 ภาษาเขมรในภาษาไทย 1
หน่วยที่ 4 ภาษาเขมรในภาษาไทย 1
Wilawun Wisanuvekin
การออมและการลงทุน ม.2
การออมและการลงทุน ม.2การออมและการลงทุน ม.2
การออมและการลงทุน ม.2
พัน พัน
Power point การอ่านแปลความตีความขยายความ
Power point การอ่านแปลความตีความขยายความPower point การอ่านแปลความตีความขยายความ
Power point การอ่านแปลความตีความขยายความ
Thanit Lawyer
เล่มที่ 6 คำอุทาน
เล่มที่ 6 คำอุทานเล่มที่ 6 คำอุทาน
เล่มที่ 6 คำอุทาน
สุกัญญา สุวรรณรัตน์
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จวิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
Nat Ty
คำȨม
คำȨมคำȨม
คำȨม
Nanthida Chattong
ภาษาถิ่นและภาษาต่างประ๶ทศ
ภาษาถิ่นและภาษาต่างประ๶ทศภาษาถิ่นและภาษาต่างประ๶ทศ
ภาษาถิ่นและภาษาต่างประ๶ทศ
KSPNKK
คำอุทาน
คำอุทานคำอุทาน
คำอุทาน
Nanthida Chattong
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ถอดความบางบท
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ถอดความบางบทคัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ถอดความบางบท
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ถอดความบางบท
Visanu Khumoun
PPT โน้มน้าวใจ
PPT โน้มน้าวใจPPT โน้มน้าวใจ
PPT โน้มน้าวใจ
KruBowbaro
หนังสือการสอȨาษาไทยสำหรับชาวต่างชาติ
หนังสือการสอȨาษาไทยสำหรับชาวต่างชาติหนังสือการสอȨาษาไทยสำหรับชาวต่างชาติ
หนังสือการสอȨาษาไทยสำหรับชาวต่างชาติ
Sutat Inpa
แบบฝึก๶สริมทักษะการอ่านภาษาไทย
แบบฝึก๶สริมทักษะการอ่านภาษาไทยแบบฝึก๶สริมทักษะการอ่านภาษาไทย
แบบฝึก๶สริมทักษะการอ่านภาษาไทย
พัน พัน
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสȨิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสȨิแบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสȨิ
แบบฝึกทักษะเรื่องคำสมาสสȨิ
Surapong Klamboot
หน่วยที่ 4 ภาษาเขมรในภาษาไทย 1
หน่วยที่ 4 ภาษาเขมรในภาษาไทย 1หน่วยที่ 4 ภาษาเขมรในภาษาไทย 1
หน่วยที่ 4 ภาษาเขมรในภาษาไทย 1
Wilawun Wisanuvekin
การออมและการลงทุน ม.2
การออมและการลงทุน ม.2การออมและการลงทุน ม.2
การออมและการลงทุน ม.2
พัน พัน
Power point การอ่านแปลความตีความขยายความ
Power point การอ่านแปลความตีความขยายความPower point การอ่านแปลความตีความขยายความ
Power point การอ่านแปลความตีความขยายความ
Thanit Lawyer
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จวิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
วิชชุมมาลา ฉันท์ ๘ เสร็จ
Nat Ty
ภาษาถิ่นและภาษาต่างประ๶ทศ
ภาษาถิ่นและภาษาต่างประ๶ทศภาษาถิ่นและภาษาต่างประ๶ทศ
ภาษาถิ่นและภาษาต่างประ๶ทศ
KSPNKK
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ถอดความบางบท
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ถอดความบางบทคัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ถอดความบางบท
คัมภีร์ฉันทศาสตร์ แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ถอดความบางบท
Visanu Khumoun
PPT โน้มน้าวใจ
PPT โน้มน้าวใจPPT โน้มน้าวใจ
PPT โน้มน้าวใจ
KruBowbaro
หนังสือการสอȨาษาไทยสำหรับชาวต่างชาติ
หนังสือการสอȨาษาไทยสำหรับชาวต่างชาติหนังสือการสอȨาษาไทยสำหรับชาวต่างชาติ
หนังสือการสอȨาษาไทยสำหรับชาวต่างชาติ
Sutat Inpa

Similar to ธรรมชาติของภาษาออนไลȨ (20)

ธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษาธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษา
wattanaka
ธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษาธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษา
wattanaka
9789740335610
97897403356109789740335610
9789740335610
CUPress
บทความทางวิชาการ
บทความทางวิชาการบทความทางวิชาการ
บทความทางวิชาการ
nootsaree
ภาษาพูด ภาษาเขียน
ภาษาพูด ภาษาเขียนภาษาพูด ภาษาเขียน
ภาษาพูด ภาษาเขียน
monnawan
12 ระึϸบภาษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนที่1-2
12 ระึϸบภาษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนที่1-212 ระึϸบภาษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนที่1-2
12 ระึϸบภาษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนที่1-2
DisneyP
ภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร
ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร
ภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร
Aom Chadaporn
ภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร
ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร
ภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร
Aom Chadaporn
สรุปเนื้อหา ติว
สรุปเนื้อหา ติวสรุปเนื้อหา ติว
สรุปเนื้อหา ติว
Ruangrat Watthanasaowalak
แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาเขมร
แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาเขมรแผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาเขมร
แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาเขมร
itnogkamix
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
Itnog Kamix
ธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษาธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษา
พัน พัน
ธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษาธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษา
Ponpirun Homsuwan
ธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษาธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษา
kingkarn somchit
คำȨม
คำȨมคำȨม
คำȨม
Ku'kab Ratthakiat
ธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษาธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษา
wattanaka
ธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษาธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษา
wattanaka
บทความทางวิชาการ
บทความทางวิชาการบทความทางวิชาการ
บทความทางวิชาการ
nootsaree
ภาษาพูด ภาษาเขียน
ภาษาพูด ภาษาเขียนภาษาพูด ภาษาเขียน
ภาษาพูด ภาษาเขียน
monnawan
12 ระึϸบภาษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนที่1-2
12 ระึϸบภาษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนที่1-212 ระึϸบภาษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนที่1-2
12 ระึϸบภาษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนที่1-2
DisneyP
ภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร
ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร
ภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร
Aom Chadaporn
ภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร
ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร
ภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร
Aom Chadaporn
แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาเขมร
แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาเขมรแผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาเขมร
แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาเขมร
itnogkamix
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
Itnog Kamix
ธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษาธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษา
พัน พัน
ธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษาธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษา
Ponpirun Homsuwan
ธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษาธรรมชาติของภาษา
ธรรมชาติของภาษา
kingkarn somchit

More from ห้องเรียน ภาษาไทยออนไลน์ (20)

ธรรมชาติของภาษาออนไลȨ

  • 1. ใบความรู้ วิชาภาษาไทย ท 33101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ธรรมชาติของภาษา หน้า 1 ธรรมชาติของภาษา มนุษย์ใช้ภาษาในการติดต่อสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ซึ่งกันและกัน แต่ละภาษานั้นมีลักษณะร่วมกันที่สำาคัญ 4 ประการ คือ 1. ภาษาใช้เสียงสื่อความหมาย 2. ภาษาประกอบด้วยหน่วยเล็กซึ่งประกอบกันเป็นหน่วยที่ ใหญ่ขึ้น 3. ภาษามีการเปลี่ยนแปลง 4. ภาษามีลักษณะที่เหมือนกันและต่างกัน ภาษาใช้เสียงสื่อความหมาย ความหมายของภาษาพิจารณาได้ 2 ลักษณะ คือ 1. ความหมายของภาษาอย่างกว้าง ภาษา หมายถึง การแสดงออกเมื่อสื่อความหมายอย่างมี ระบบกฎเกณฑ์ที่เข้าใจกัน ด้วยการใช้เสียง ท่าทาง หรือ สัญลักษณ์อื่น อาจเป็นการติดต่อระหว่างมนุษย์หรือระหว่าง สัตว์ ภาษาในความหมายนี้ เช่น ภาษามนุษย์ ภาษาท่าทาง ภาษาใบ้ 2. ความหมายของภาษาอย่างแคบ ภาษา หมายถึง ถ้อยคำาที่มนุษย์ใช้พูดเพื่อติดต่อสื่อความ หมายกัน แต่ละถ้อยคำาที่พูดนั้นจะมีความหมายอย่างไรขึ้นอยู่ กับการตกลงของผู้ที่ใช้เสียงนั้น โดยทั่วไปเสียงกับความหมาย ไม่มีความสัมพันธ์กัน แต่ก็อาจมีบ้างที่เสียงของถ้อยคำาสัมพันธ์ กับความหมาย แต่ก็มีเพียงส่วนน้อย ภาษาประกอบด้วยหน่วยเล็กซึ่งประกอบกันเป็นหน่วยที่ ใหญ่ขึ้น คำาเกิดจากการนำา๶สียงในภาษามาประกอบกัน เรา สามารถนำา๶สียงในภาษาซึ่งมีจำานวนจำากัดมาประกอบกันเกิด เป็นจำานวนมาก เช่น เมื่อนำาคำามาประกอบกันก็จะเกิดเป็น ประโยค ประโยคที่มีอยู่สามารถนำามารวมกันหรือซ้อนกัน ทำาให้ประโยคยาวออกไปได้เรื่อย ๆ นำาประโยคมาเรียบเรียงต่อ กันก็จะเกิดเป็นเรื่องราว ตัวอย่างการขยายประโยค เช่น
  • 2. ใบความรู้ วิชาภาษาไทย ท 33101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ธรรมชาติของภาษา หน้า 2 ปู่ตีแมว ปู่ตีแมวดำา ปู่ตีแมวดำาที่มากินปลา ปู่ตีแมวดำาที่มากินปลาที่ตากไว้ ภาษามีการเปลี่ยนแปลง ภาษามีการเปลี่ยนแปลงได้ คำาบางคำาอาจเกิดขึ้นใหม่ บางคำาอาจเลิกใช้ไป และบางคำาอาจมีการเปลี่ยนแปลงเสียงไป บ้าง หรือบางคำาอาจมีความหมายต่างไปจากเดิม ใช้ต่างไป จากเดิม แม้รูปประโยคก็อาจเปลี่ยนแปลงไปได้ อาจมีรูป ประโยคใหม่ ๆ เกิดขึ้น สาเหตุที่ทำาให้ภาษามีการเปลี่ยน ได้แก่ 1. การพูดจากันในชีวิตประจำาวัน การพูดจากันทำาให้เสียงกลายไปได้ อาจสูญไป บางคำา อาจมีความหมายต่างจากเดิม อาจทำาให้เสียงกลมกลืนกันหรือ ทำาให้เกิดการกร่อนเสียงได้ เช่น หมากขาม กร่อนเสียงเป็น มะขาม ต้นขบ กร่อนเสียงเป็น ตะขบ สายดือ กร่อนเสียงเป็น สะดือ สาวใภ้ กร่อนเสียงเป็น สะใภ้ ฉันนี้ กร่อนเสียงเป็น ฉะนี้ 2. อิทธิพลของภาษาอื่น การติดต่อกับต่างชาติทำาให้มีการยืมภาษาอื่นมาใช้ การ ยืมภาษาอื่นมาใช้ก็มีอิทธิพลทำาให้ภาษาเดิมเปลี่ยนแปลงได้ ที่ เห็นได้ชัดเจน ได้แก่ ไทยรับเอารูปประโยคของภาษาอังกฤษ มาใช้ในภาษาไทย เช่น 3. ความเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม เมื่อสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป ก็มีผลทำาให้มีสิ่งใหม่ๆ เกิด ขึ้น และมีคำาใหม่กำาหนดเรียกใช้ส่วนศัพท์บางคำาที่ไม่ค่อยได้ ใช้ก็จะค่อยๆ สูญหายไปจากภาษาได้ด้วย ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงของภาษา เช่น
  • 3. ใบความรู้ วิชาภาษาไทย ท 33101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ธรรมชาติของภาษา หน้า 3 -“ ”กู เป็นสรรพนามบุรุษที่ 1 ในสมัยสุโขทัยใช้กันเป็นปกติ แต่ปัจจุบันไม่นิยมกันใช้กันในสังคมเพราะถือว่าไม่สุภาพ -“ ”เพื่อ ในศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำาแหงมหาราช มี ความหมายทำานองเดียวกัน “ ”เพราะ ใช้เป็นคำาเชื่อมแสดง เหตุผล แต่ในปัจจุบันใช้เป็นคำาบอกจุดมุ่งหมาย - คำาโบราณที่ใช้ในเรื่องลิลิตตะเลงพ่าย ที่มีความหมาย ต่างจากปัจจุบัน เช่น เต้า หมายถึง ไป ท่า หมายถึง คอย 4. การเรียนภาษาของเด็ก ภาษามีลักษณะที่เหมือนกันและต่างกัน 1. ลักษณะที่เหมือนกันภาษา ได้แก่ 1.1 ภาษาทุกภาษาใช้เสียงสื่อความหมาย ทุกภาษามี เสียงสระเสียงพยัญชนะ 1.2 ภาษามีวิธีการสร้างศัพท์ใหม่ขึ้นใช้เช่น ภาษา ไทยมรการสร้างศัพท์ใหม่ด้วยวิธีประสมคำาซำ้าคำา ซ้อนคำา ภาษาบาลีสันสกฤตมีการสร้างศัพท์ใหม่ด้วยวิธีสมาส วิธีสนธิ ตัวอย่างคำาประสม เช่น กงจักร กาฝาก กินใน กล้อง ถ่ายรูป กล้วยแขก ขันหมาก ขนตา ของกลาง เข้าใจ ใจดำา เจ้าพ่อ เจ้าแม่ ไฟฟ้า ตู้ เย็น ปากกา ตัวอย่างคำาซ้อน เช่น กักขัง เกี่ยวข้อง ขัดขวาง ขบ กัด คับแคบ คัดเลือก จิตใจ ดูแลเจ็บไข้ถิ่นฐาน เรียกร้อง ทรัพย์สิน บ้านเรือน ตัวอย่างคำาสมาส เช่น ราชโอรส วรรคดี มัธยมศึกษา รัฐบาล รัฐมนตรี วัฒนธรรม ธุรกิจ ราชรถ ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ อิสรภาพ สารคดี คุณธรรม สุขภาพ 1.3 ภาษาแต่ละภาษามีสำานวนใช้ ได้แก่ สำานวนในภาษาไทย เช่น กิ่งทองใบหยก กระดี่ได้นำ้า ขิงก็ราข่าก็แรง ไข่ในหิน ปลูกเรือนคร่อมตอ พ่อพวงมาลัย สนุขจนตรอก หมูไปไก่มา เอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง
  • 4. ใบความรู้ วิชาภาษาไทย ท 33101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ธรรมชาติของภาษา หน้า 4 สำานวนในภาษาอังกฤษ เช่น To Make Both Meet (เทียบสำานวนไทยว่า ชักหน้าไม่ถึงหลัง) Fine Feathers Make Fine Birds (เทียบสำานวนไทยว่าไก่งามเพราะขน) 1.4 ภาษามีคำาชนิดต่าง ๆ ใช้ ได้แก่ คำานาม คำากริยา คำาเชื่อม คำานามในภาษาไทย เช่น บ้าน โรงเรียน ปากกา สนุข คำากริยาในภาษาไทย เช่น กิน ไป เดิน รัก คำาเชื่อมในภาษาไทย เช่น แต่ และ เพราะ คำานามในภาษาอังกฤษ เช่น house school pen dog คำากริยาในภาษาอังกฤษ เช่น eat go walk love คำาเชื่อมในภาษาอังกฤษ เช่น but and because 1.5 ภาษามีวิธีขยายประโยคให้ยาวออกไปได้ เช่น ฉันซื้อปากกา ฉันซื้อปากการสีดำา ฉันซื้อปากกาสีดำา ให้น้องชาย 1.6 ภาษามีวิธีแสดงความคิดทำานองเดียวกันได้ เช่น มีประโยคแจ้งให้ทราบ ประโยคถามให้ตอบ ประโยคบอก ทำา 1.7 ภาษา มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เช่น มี รูปประโยคใหม่ ๆ เกิดขึ้น มีศัพท์ใหม่ใช้มากขึ้น 2.ลักษณะที่ต่างกันของภาษา ได้แก่ 2.1 ความแตกต่างกันในด้านเสียง เช่น ไทยมีเสียง วรรณยุกต์ใช้ แต่ภาษาอังกฤษไม่มีเสียงนี้ใช้ 2.2 ความแตกต่างกันในด้านไวยากรณ์ เช่น ลักษณะ การเรียบเรียงประโยค ตัวอย่างคำาที่มีเสียงสระเดียวกันและมีความหมาย ใกล้เคียงกัน 1.เรื่อย – มีลักษณะอาการอันต่อเนื่องกันไปไม่ขาดระยะ เฉื่อย – เรื่อย ๆ ช้า ๆ 2.บุก – ลุย ฝ่าเข้าไป รุก –ล่วงลำ้าเข้าไป 3.วาว - ใสสว่าง พราว – แวววาว
  • 5. ใบความรู้ วิชาภาษาไทย ท 33101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ธรรมชาติของภาษา หน้า 5 4.ปอก- เอาเปลือกหรือสิ่งที่ห่อหุ้มออก ลอก- เอา เปลือกหรือผิวออกเป็นแผ่น ๆ 5.แหก – แยกออก แตก – แยกออกจากส่วนรวม 6.โล่ง –มีลักษณะว่างหรือเปิดตลอด โปร่ง – มีลักษณะ ว่างหรือเปิดเป็นช่อง 7.เมื่อย – อาการเพลียของกล้ามเนื้อ เหนื่อย – รู้สึก อ่อนแรงลง 8.หน่วง - เหนี่ยวไว้ ทำาให้ช้า ถ่วง – ทำาให้ช้า 9.จ้อง - เพ่งตาดูหรือมุ่งมองดูสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะ มอง – มุ่งดู 10 หย่อน –ไม่ตึง คลาย ผ่อน – ทำาให้หย่อนหรือคลาย ความตึง 11.ขืน – ยั้งไว้หรือบังคับไว้ไม่ให้เป็นไปตาม ฝืน – ขืนไว้ เหนี่ยวรั้ง 12.ไล่ - บังคับให้ไป ไส – เสือกไป ผลักไป 13.รุน – ดุนไปเรื่อย ไสไปเรื่อย ดุน – รุน ทำาให้ เคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ ด้วยแรงดัน 14.มัด- ผูกรัดให้แน่น รัด – พันให้กระชับ 15.โผน-อาการที่กระโดดเข้าไปทันที โจน - กระโดด ไปโดยเร็ว
  • 6. ใบความรู้ วิชาภาษาไทย ท 33101 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เรื่อง ธรรมชาติของภาษา หน้า 5 4.ปอก- เอาเปลือกหรือสิ่งที่ห่อหุ้มออก ลอก- เอา เปลือกหรือผิวออกเป็นแผ่น ๆ 5.แหก – แยกออก แตก – แยกออกจากส่วนรวม 6.โล่ง –มีลักษณะว่างหรือเปิดตลอด โปร่ง – มีลักษณะ ว่างหรือเปิดเป็นช่อง 7.เมื่อย – อาการเพลียของกล้ามเนื้อ เหนื่อย – รู้สึก อ่อนแรงลง 8.หน่วง - เหนี่ยวไว้ ทำาให้ช้า ถ่วง – ทำาให้ช้า 9.จ้อง - เพ่งตาดูหรือมุ่งมองดูสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยเฉพาะ มอง – มุ่งดู 10 หย่อน –ไม่ตึง คลาย ผ่อน – ทำาให้หย่อนหรือคลาย ความตึง 11.ขืน – ยั้งไว้หรือบังคับไว้ไม่ให้เป็นไปตาม ฝืน – ขืนไว้ เหนี่ยวรั้ง 12.ไล่ - บังคับให้ไป ไส – เสือกไป ผลักไป 13.รุน – ดุนไปเรื่อย ไสไปเรื่อย ดุน – รุน ทำาให้ เคลื่อนที่ไปเรื่อย ๆ ด้วยแรงดัน 14.มัด- ผูกรัดให้แน่น รัด – พันให้กระชับ 15.โผน-อาการที่กระโดดเข้าไปทันที โจน - กระโดด ไปโดยเร็ว