Microsoft power point ปฏิกิริยาเคมีThanyamon Chat.1. The document describes several chemical reactions through equations. It introduces reactants and products for reactions such as HCl + NaOH yielding NaCl + H2O.
2. Tables show data for the reaction of Mg and HCl over time, indicating the reaction is exothermic as heat is produced.
3. Different types of chemical reactions are defined such as exothermic, endothermic, and catalytic reactions which speed up reaction rates.
ฺBasic vector algebra in 2 dimension and 3 dimensionTeerawutSavangboonVector algebra Algebra of vectors in a two-dimensional and three-dimensional system The most basic and basic vector algebra for Engineering Mathematics 1 พีชคณิตของวกตอร์ พีชคณิตของวกตอร์ในระบบ2มิติ และ วกตอร์3มิติขั้นพื้นฐานมากที่สุดสำหรับการเรียนวิชาคณิตศาสตร์วิศวกรรม ประกอบด้วย การบวกวเกเตอร์ การลบวกตอร์ การคูณวกตอร์เชิงสเกลาร์ การหารวกตอร์เชิงสเกลาร์ วกตอร์หนึ่งหน่วย การคูณวกตอร์แบบจุด (dot product) การคูณวกตอร์แบบคุณทะแยง (cross product) การประยุกต์ทางวิศวกรรม
14. การบวกวกตอร์
14
บทนิยาม ถ้า ത
uและ ഥ
wเป็นวกตอร์แล้ว ผลบวก ത
u+ഥ
wจะเป็น
วกตอร์ที่ก้าหนดทางเรขาคณิตได้ดังนี้ ให้ ഥ
w เป็นวกตอร์ที่มี
จุดเริ่มต้นที่จุดสิ้นสุดของ ത
u วกตอร์ ത
u+ഥ
w จะมีจุดเริ่มต้นที่จุดเริ่มต้น
ของ ത
u และมีจุดสิ้นสุดที่จุดสิ้นสุดของ ഥ
w
ดังนั้น ถ้าก้าหนดให้ ത
u = และ ഥ
w = แล้ว ത
u+ഥ
w =
AB BC AC
A
B
C
ത
u
ഥ
w
ത
u+ഥ
w
A
B
C
ത
u
ഥ
w
ത
u+ഥ
w
D
ത
u
ഥ
w
15. และถ้าสร้างสี่เหลี่ยมด้านขนาน ABCD จะได้ว่าഥ
w = =
และ ത
u = = ดังนั้น ഥ
w+ ത
u = + =
แสดงว่า ത
u+ഥ
w = ഥ
w+ ത
u
เพราะฉะนั้น การบวกของวกตอร์จึงมีสมบัติการสลับที่
BC AD
AB DC AD DC AC
A
B
C
ത
u
ഥ
w
ത
u+ഥ
w
D
ത
u
ഥ
w
16. หา ത
u+ഥ
w โดยให้จุดเริ่มต้นของഥ
w อยู่ที่จุดสิ้นสุดของ ത
u แล้ว เรายัง
สามารถหา ത
u+ഥ
w ได้อีกวิธีหนึ่ง โดยให้จุดเริ่มต้นของทั้งสองวกตอร์
อยู่ที่จุดเดียวกัน กล่าวคือ สมมติให้
ത
u = และ ഥ
w =
จะได้ว่า ത
u+ഥ
w เป็นวกตอร์ที่มีจุดเริ่มต้นที่ A และจุดสิ้นสุดที่ D เมื่อ
D เป็นจุดมุมของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน ABCD (เป็นรูปสี่เหลี่ยมด้าน
ขนานที่มี ത
u และ ഥ
w เป็นด้านประชิดมุม)
AB AC
A
B
C
ത
u
ഥ
w
ത
u+ഥ
w
D
ത
u
ഥ
w
18. การลบวกตอร์
18
บทนิยาม ถ้า ത
uและ ഥ
wเป็นวกตอร์แล้ว ผลต่าง ത
u-ഥ
wจะเป็นวกตอร์
ที่นิยาม ดังนี้
ത
u-ഥ
w = ത
u+(-ഥ
w)
หรือกล่าวได้ว่า ถ้า ത
uและ ഥ
wเป็นวกตอร์ ที่มีจุดเริ่มต้นเป็นจุดเดียวกัน
แล้ว ത
u-ഥ
w จะเป็นวกตอร์ที่มีจุดเริ่มต้นอยู่ที่จุดสิ้นสุดของ ഥ
w(ตัวลบ)
และมีจุดสิ้นสุดอยู่ที่จุดสิ้นสุดของ ത
u (ตัวตั้ง) ดังรูป
ത
u
ഥ
w
−ഥ
w
ത
u
ഥ
w
19. การคูณวกตอร์ด้วยสเกลาร์
บทนิยาม ก้าหนดให้ ത
v ไม่เป็นวกตอร์ศูนย์ และ k เป็นจ้านวนจริง ที่
ไม่เป็นศูนย์(สเกลาร์) ผลคูณ kത
v จะเป็นวกตอร์ที่มีความยาวเท่ากับ
𝑘 เท่าของความยาวของ ത
v และมีทิศทางเดียวกับ ത
v เมื่อ k > 0 และ
มีทิศทางตรงข้ามกับ ത
v เมื่อ k < 0 นอกจากนั้น จะนิยามว่า kത
v = ത
0
เมื่อ ത
v = ത
0 หรือ k = 0
ത
v 2ത
v
(−𝟏)ത
v
𝟏/𝟐ത
v (−𝟑)ത
v
20. วกตอร์ในระบบพิกัดฉาก
บทนิยาม ก้าหนดให้ ത
v เป็นวกตอร์ใดๆ ในระนาบ และสมมติให้
จุดเริ่มต้นของ ത
v อยู่ที่จุดก้าเนิด และจุดสิ้นสุดของ ത
v อยู่ที่จุด
𝑣1, 𝑣2 เราจะเขียนว่า ത
v= 𝑣1, 𝑣2
และเรียก 𝑣1, 𝑣2 ว่าส่วนประกอบของ ത
v โดยเรียก 𝑣1และ 𝑣2
ว่าส่วนประกอบตัวแรก และส่วนประกอบตัวที่สอง ตามล้าดับ
21. 21
x
y
ത
v
𝑣1, 𝑣2
- วกตอร์ ത
v = 𝑣1, 𝑣2 และ ഥ
w = 𝑤1, 𝑤2 จะเป็นเวกเตอร
ที่สมมูลกัน หรือเท่ากันก็ต่อเมื่อ 𝑣1 = 𝑤1และ 𝑣2 = 𝑤2
- วกตอร์ศูนย์ และนิเสธของวกตอร์ในระบบพิกัดฉาก 2 มิติ เป็นดังนี้
ത
0 = (0 , 0)
- ถ้า ത
v = 𝑣1, 𝑣2 แล้วนิเสธของ ത
v เป็นดังนี้
−ത
v = −𝑣1, −𝑣2
22. 22
- การบวก การลบ และการคูณวกตอร์ด้วยสเกลาร์ในระบบพิกัดฉาก 2
มิติ นิยามดังนี้
ถ้า ത
v = 𝑣1, 𝑣2 และ ഥ
w = 𝑤1, 𝑤2 และ k เป็น
จ้านวนจริง แล้ว
1) การบวกวกตอร์
ത
v + ഥ
w = 𝑣1 + 𝑤1 ,(𝑣2+ 𝑤2)
30. ตัวอย่าง ก้าหนดวกตอร์ ത
u = (1 , 2 , 1) ,ത
v = (1 , 0 , 2)
, ഥ
w = (1 , 1 , 0)และ ത
x = (2 , 1 , 5) จงหาสเกลาร์ 𝑐1,
𝑐2, 𝑐3ที่ท้าให้ 𝑐1ത
u +𝑐2ത
v +𝑐3 ഥ
w = ത
x
32. สมบัติของการด้าเนินการของวกตอร์และนอร์มของวกตอร์
ทฤษฎีบท
1. ถ้า ത
u , ത
v 𝑅𝟐
แล้ว ത
u + ത
v 𝑅𝟐
2. ถ้า ത
u , ത
v 𝑅𝟐 แล้ว ത
u + ത
v = ത
v + ത
u
3. ถ้า ത
u , ത
v , ഥ
w 𝑅𝟐 แล้ว (ത
u + ത
v) + ഥ
w = ത
v +( ത
u + ഥ
w)
4. วกตอร์ ที่ท้าให้ ส้าหรับทุก
5. ส้าหรับแต่ละ จะมี ซึ่งท้าให้
2
0 R
0 0
u u u
+ = + =
2
R
u
2
R
u 2
R
u
− ( ( 0
)
u u u u
+ − = − + =
33. สมบัติของการด้าเนินการของวกตอร์และนอร์มของวกตอร์
ทฤษฎีบท
6. ถ้า และ k เป็นสเกลาร์ แล้ว
7. ถ้า และ k เป็นสเกลาร์ แล้ว
8. ถ้า และ k , m เป็นสเกลาร์ แล้ว
9. ถ้า และ k , m เป็นสเกลาร์ แล้ว
10. ถ้า แล้ว
2
R
u 2
R
ku
2
, R
u v ( )
k u v ku kv
+ = +
2
R
u ( )
k m u ku mu
+ = +
2
R
u ( ) ( )
k mu km u
=
2
R
u 1u u
=
35. บทนิยาม ก้าหนดวกตอร์ ใน หรือใน นอร์มของ หมายถึง
ความยาวของ เขียนแทนด้วยสัญลักษณ์
u 2
R 3
R u
u u
2 2
1 2
u u
u = +
x
y
𝒖1, 𝒖2
ดังรูป
u
𝒖2
𝒖𝟏
ในกรณีที่ เป็นวกตอร์ใน โดยอาศัยทฤษฎีบท
ของพีทาโกรัส จะได้ว่า
1 2
, )
(
u u u
= 2
R
36. ในกรณีที่ เป็นวกตอร์ใน โดยอาศัย
ทฤษฎีบทของพีทาโกรัส จะได้ว่า
1 2 3
, , )
(
u u u u
= 3
R
2 2 2
2 2 2
2 2 2
2 2 2
1 2 3
( ) ( )
( ) ( ) ( )
( ) ( ) ( )
OR RP
OQ QR RP
OQ OS RP
u u u
u = +
= + +
= + +
= + +
y
z P 𝒖1, 𝒖2, 𝒖𝟑
u
x
o
R
S
Q
2 2 2
1 2 3
u u u
u = + +
38. ตัวอย่าง ก้าหนดให้
เป็นวกตอร์ใน จงหา , ,
), 2), 3 3 2 , 3)
(2, 3 , 4 (4,5,2 (5 ,
u v w
−
= = =
3
R u w
v
2 2 2
2 4 4 9 16 29
( 3)
u = + + =
= + − +
2 2 2
4 2) 16 25 8 49 7
5 (2
v = + + = =
= + +
2 2 2
(5 3) 2) 3) 75 18 3 4 6
(3 (
w = + + =
= + +
39. ถ้า เป็นวกตอร์ใน โดยที่ และ
เป็นจุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุด ตามล้าดับ แล้ว
1 1 1
, )
(
P x y
=
1 2 2 1 2 1
, )
(
PP x x y y
− −
=
1 2
PP
2
R 2 2 2
, )
(
P x y
=
ดังนั้น
1 2 2 1 2 1
2 2
) ( )
(
PP x x y y
− + −
=
1 2 1 2 1 2
2 2
) ( )
(
PP x x y y
− + −
=
40. ถ้า เป็นวกตอร์ใน โดยที่ และ
เป็นจุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุด ตามล้าดับ แล้ว
1 1 1 1
, , )
( z
P x y
=
1 2 2 1 2 1 2 1
, , )
(
PP x x y y z z
− − −
=
1 2
PP
3
R 2 2 2 2
, , )
( z
P x y
=
ดังนั้น 1 2 2 1 2 1 2 1
2 2 2
) ( ) ( )
(
PP x x y y z z
− + − + −
=
1 2 1 2 1 2 1 2
2 2 2
) ( ) ( )
(
PP x x y y z z
− + − + −
=
42. ถ้า เป็นวกตอร์ และ k เป็นสเกลาร์ แล้ว จะเป็นวกตอร์ที่มี
ขนาดเท่ากับ เท่าของขนาดของ และเนื่องจากนอร์มของวกตอร์
คือความยาวหรือขนาดของวกตอร์ ดังนั้น อาจเขียนได้ว่า
u ku
k u
k u
ku =
ให้ และ k เป็นจ้านวนจริง แล้ว
3
1 2 3
, , )
( u u R
u u
=
2 2 2
1 2 3
( ) ( ) ( )
ku ku ku
ku = +
+
2 2 2 2 3 2
1 2 3
k u k u k u
= +
+
2 2 2 2
1 2 3
( )
k u u u
= +
+
2 2 2 2
1 2 3
k u u u
= +
+
k u
ku =
k u
=
43. ก้าหนดให้ และ เป็นวกตอร์ใน จะได้ว่า
2
R
1 1)
( ,
u a b
= 2 2 )
( ,
v a b
=
1 2 1 2 )
( ,
a b
u v a b
+ + +
=
ซึ่งเป็นวกตอร์ในแนวเส้นทแยงมุมของรูปสี่เหลี่ยมด้านขนาน โดยมี
และ เป็นด้านประชิดมุม
u v
x
y
O
2 2 )
( ,
a b 1 2 1 2 )
( ,
a a b b
+ +
1 1)
( ,
a b
u
u
v v
u v
+