ݺߣ

ݺߣShare a Scribd company logo
โปงลาง

โปงลาง เป็ นเครื่ องดนตรี ที่พฒนามาจาก "เกราะลอ" หรื อ ขอลอ คาว่า "โปงลาง" นี้ ใช้เรี ยกดนตรี
                                 ั
ชนิดหนึ่ง ที่มีการเล่นแพร่ หลายทางภาคอีสานตอนกลางและตอนเหนือ ความหมายของโปงลางนั้น
มาจากคา ๒ คา คือ คาว่า "โปง" และ "ลาง" โปง เป็ นสิ่ งที่ใช้ตีบอกเหตุ เช่น ตีในยามวิกาลแสดงว่า
มีเหตุร้าย ตีตอนเช้าก่อนพระบิณฑบาตให้ญาติโยมเตรี ยมตัวตักบาตร ตีเวลาเย็นเพื่อประโยชน์ให้
คนหลงป่ ากลับมาถูก เพราะเสี ยงโปงลางจะดังกังวาลไปไกล (สมัยก่อนใช้ตีในวัด) ส่ วนคาว่า ลาง
นั้น หมายถึง ลางดี ลางร้าย โปงลางนั้นก่อนที่จะเรี ยกว่า โปงลาง มีชื่อเรี ยกว่า "เกราะลอ" ซึ่ง
                                                            ่
เกราะลอ มีประวัติโดยย่อคือ ท้าวพรหมโคตร ซึ่ งเคยอยูประเทศลาวมาก่อนเป็ นผูที่คิดทาเกราะ้
ลอขึ้น โดยเลียนแบบ "เกราะ" ที่ใช้ตีตามหมู่บานในสมัยนั้น เกราะลอทาด้วยไม้หมากเลื่อม (ไม้
                                                   ้
เนื้ออ่อน สี ขาว มีเสี ยงกังวาล ) ใช้เถาวัลย์มดร้อยเรี ยงกัน ใช้ตีไล่ฝงนก กา ที่มากินข้าวในไร่ ในนา
                                              ั                       ู
                                                                                          ่
เนื่องจากเกราะลอใช้สาหรับตีไล่ ฝูงนก กา ที่มากินข้าวในไร่ นา ดังนั้น จึงมีเกราะลออยูในทุกโรง
นา (อีสานเรี ยกว่า เถียงนา) เมื่อเสร็ จจากภาระกิจในนาแล้ว ชาวนาจะพักผ่อนในโรงนาและใช้
เกราะลอเป็ นเครื่ องตี เพื่อเป็ นการพักผ่อนหย่อนใจ โดยเกราะลอนี้จะตีนอกหมู่บานเท่านั้น เพราะมี
                                                                                    ้
ความเชื่อว่า ถ้าตีในหมู่บานจะเกิดเหตุการไม่ดี เช่น ฟ้ าฝนจะไม่ตกต้องตามฤดูกาล เป็ นต้น การ
                            ้
เรี ยนการตีเกราะลอในสมัยก่อน เป็ นการเลียนแบบ คือเป็ นการเรี ยนที่ตองอาศัยการจาโดยการจา
                                                                          ้
ทานองของแต่ละลาย เกราะลอที่มี 9 ลูกนี้จะเล่นได้ 2 ลายคือ ลายอ่านหนังสื อใหญ่ และลายสุ ด
สะแนน เช่นเดียวกับลายแคนและลายพิณ ดังนั้นเมื่อนามาเล่นผสมผสานกันจึงได้อรรถรสยิงนัก            ่
โปงลาง มีลกษณะวิธีการบรรเลงคล้ายกับระนาดเอก คือนาท่อนไม้ หรื อกระบอกไม้มาร้อยติดกัน
               ั
เป็ นผืน และใช้ไม้ตีเป็ นทานองเพลง แขวนตี กับเสาบ้าง ขึงบนรางบ้าง หรื อบางทีก็ผกติดกับตัวผู ้
                                                                                        ู
บรรเลง เครื่ องดนตรี ชนิดนี้พบทัวไปในหลายประเทศ สาหรับในประเทศไทยพบในแถบภาคอีสาน
                                   ่
และเรี ยกเครื่ องดนตรี น้ ีหลายชื่อด้วยกัน เช่นเรี ยกว่า หมากกลิ้งกล่อม หมากขอลอ หรื อหมาก
โปงลาง เป็ นต้น ที่ได้ชื่อว่า หมากขอลอ เพราะเวลาเคาะแต่ละลูกมีเสี ยงดังกังวานคล้าย ขอลอ
(หมายถึง เกราะ ในภาษาอีสาน)
ในปั จจุบน โปงลางนอกจากจะใช้บรรเลงตามลาพังแล้ว ยังนิยมบรรเลงรวมวงกับเครื่ องดนตรี อื่นๆ
          ั
เช่น พิณ แคน โหวด กลอง ประกอบการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านอีสาน รวมทั้งการแสดง
ร่ วมกับเครื่ องดนตรี สากล อีกด้วย
การเทียบสี ยงโปงลาง
                     ั
เสี ยงโปงลางถ้าใช้กบวงพื้นบ้านอีสานทัวไป จะใช้ แคน เป็ นหลักในการบันทึกเสี ยง แต่ถาจะใช้
                                         ่                                            ้
บรรเลงกับวงดนตรี สากล จะต้องใช้ คียบอร์ ด, อิเล็คโทนในการเทียบเสี ยง หรื อไม่ก็ใช้เครื่ องเทียบ
                                       ์
เสี ยงสากล ในการเทียบเสี ยงลูกโปงลางในแต่ละลูก เสี ยงที่ได้มาจะเข้ากับเครื่ องดนตรี สากลได้เป็ น
อย่างดี
การปรับแต่ งเสี ยงโปงลาง
การตีโปงลางบางครั้ง ทาให้เกิดเสี ยงเพี้ยนได้ ถ้าหากนานไปเสี ยงโปงลางเพี้ยน ก็สามารถปรับให้
เป็ นเสี ยงมาตรฐานตามต้องการได้ โดยใช้วธีดงนี้
                                           ิ ั
          1. หากเสี ยงต่า ให้บากด้านหัวทั้งสองข้างทีละน้อยๆ จนได้เสี ยงตามที่ตองการ
                                                                               ้
          2. หากเสี ยงสู ง ให้บากตรงกลาง ทีละน้อยๆ จนได้เสี ยงตามที่ตองการ
                                                                       ้
่ ้
การตีโปงลางจะนังกับพื้นหรื อยืน ในท่าที่ถนัด โดยจะอยูดานซ้ายของโปงลาง ดังนี้
                    ่
   1. จับไม้ตีโปงลางให้แน่น
   2. ฝึ กไล่เสี ยงจากจากเสี ยงต่า ไปหาเสี ยงสู ง และจากเสี ยงสู งไปหาเสี ยงต่า ในลักษณะสลับมือ
ซ้าย-ขวา
   3. ฝี กตีกรอ รัว สะบัด
   4. ฝี กบรรเลงลายที่ง่ายๆ เช่น ลายโปงลาง เต้ย ลายภูไท เป็ นต้น
ลักษณะเสี ยงโปงลาง
การเคาะโปงลาง
โปงลางเป็ นเครื่ องดนตรี ที่ทามาจากไม้เนื้อแข็ง เวลาเคาะจึงมีเสี ยงแกร่ งสั้น และห้วน ถ้าเราเคาะ
                                                                  ั
โน้ต 1 หรื อ 2 จังหวะ จะได้เสี ยงไม่ไพเราะ เพราะเสี ยงนั้นไม่มีกงวาล ผูฝึกหัดจึงสมควรที่จะฝึ ก
                                                                         ้
ปฏิบติดงต่อไปนี้
     ั ั
                                                        ่
      1. ฝึ กเคาะรัวถี่แทนตัวโน้ต หรื อซอยโน้ตให้ยอยออกเป็ นตัวเขบ็จ 1 ชั้น 2 ชั้น เป็ นต้น
      2. ผูฝึกจึงจาเป็ นอย่างยิงต้องฝึ กเคาะจังหวะตามทานองหลักให้ตนเองได้ยนจนแม่นยา
               ้                 ่                                                  ิ
ก่อน แล้วจึงฝึ กซอยโน้ตทีหลัง
      3. โดยทัวไป ผูเ้ คาะโปงลางมีอยู่ 2 คน ผูที่เล่นทานองนั้นจะเรี ยกว่า “หมอเคาะ” ส่ วนอีก
                   ่                              ้
คนหนึ่งจะเล่นเสี ยงประสาน เรี ยกว่า “ หมอเสิ บ” หมอเสิ บนั้นเป็ นผูช่วยทาจังหวะและทาเสี ยงทุม
                                                                     ้                           ้
      การเคาะลูกโปงลาง อย่าเคาะตรงลงไปหนักๆตรงๆ จะทาให้เสี ยงกระด้าง ให้เคาะอย่างนิ่ม
นวล หรื อเคาะแฉลบออกอย่างสม่าเสมอ
การไล่บนไดเสี ยงโปงลาง
       ั

            มฺ


           ซฺ

            ลฺ

           *ท

            ด

            ร

            ม

            ซ

            ล

            ด

            ร

            ม

           ซ

            ล

More Related Content

What's hot (20)

ใบงาȨสียงในภาษาไทย
ใบงาȨสียงในภาษาไทยใบงาȨสียงในภาษาไทย
ใบงาȨสียงในภาษาไทย
ssuser456899
โวหารภาพพจȨ
โวหารภาพพจȨโวหารภาพพจȨ
โวหารภาพพจȨ
krubuatoom
๶กณฑ์การประ๶มิȨูบริคส์
๶กณฑ์การประ๶มิȨูบริคส์๶กณฑ์การประ๶มิȨูบริคส์
๶กณฑ์การประ๶มิȨูบริคส์
Lamai Fungcholjitt
แบบประ๶มิȨานȨ๶สนอใȨูปแบบออนไลȨ
แบบประ๶มิȨานȨ๶สนอใȨูปแบบออนไลȨแบบประ๶มิȨานȨ๶สนอใȨูปแบบออนไลȨ
แบบประ๶มิȨานȨ๶สนอใȨูปแบบออนไลȨ
kruood
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติตีโปงลาง
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติตีโปงลางบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติตีโปงลาง
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติตีโปงลาง
ฏิวัตต์ สันทาลุนัย
แบบประ๶มิȨักษะกระบวนการ
แบบประ๶มิȨักษะกระบวนการแบบประ๶มิȨักษะกระบวนการ
แบบประ๶มิȨักษะกระบวนการ
somdetpittayakom school
แบบประ๶มิȨลชิ้Ȩาน
แบบประ๶มิȨลชิ้Ȩานแบบประ๶มิȨลชิ้Ȩาน
แบบประ๶มิȨลชิ้Ȩาน
pacharawalee
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 งานบ้าน แบบทดสอบ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 งานบ้าน แบบทดสอบหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 งานบ้าน แบบทดสอบ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 งานบ้าน แบบทดสอบ
อ๋อ จ้า
โตฎก ฉันท์ 12
โตฎก ฉันท์ 12โตฎก ฉันท์ 12
โตฎก ฉันท์ 12
MilkOrapun
กาพย์ยานี
กาพย์ยานีกาพย์ยานี
กาพย์ยานี
khorntee
สารคดีท่องเที่ยว แอ่วเหนือเมื่อหน้าหนาว
สารคดีท่องเที่ยว   แอ่วเหนือเมื่อหน้าหนาวสารคดีท่องเที่ยว   แอ่วเหนือเมื่อหน้าหนาว
สารคดีท่องเที่ยว แอ่วเหนือเมื่อหน้าหนาว
waraporny
วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลาง
วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลางวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลาง
วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลาง
Nattha Namm
แบบรายงาȨารแสึϸทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงาȨารแสึϸทางวิทยาศาสตร์แบบรายงาȨารแสึϸทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงาȨารแสึϸทางวิทยาศาสตร์
สมศรี หอมเนียม
ภาษาจีน เรื่อง กิจวัตรประจำวันและเวลา#siriya khaosri 597210140226
ภาษาจีน เรื่อง กิจวัตรประจำวันและเวลา#siriya khaosri 597210140226ภาษาจีน เรื่อง กิจวัตรประจำวันและเวลา#siriya khaosri 597210140226
ภาษาจีน เรื่อง กิจวัตรประจำวันและเวลา#siriya khaosri 597210140226
Siriya Khaosri
ȨราศนริȨร์คำโคลง
ȨราศนริȨร์คำโคลงȨราศนริȨร์คำโคลง
ȨราศนริȨร์คำโคลง
Surapong Klamboot
การใช้คำลักษณนาม
การใช้คำลักษณนามการใช้คำลักษณนาม
การใช้คำลักษณนาม
Sup Mook
ใบงาȨสียงในภาษาไทย
ใบงาȨสียงในภาษาไทยใบงาȨสียงในภาษาไทย
ใบงาȨสียงในภาษาไทย
ssuser456899
โวหารภาพพจȨ
โวหารภาพพจȨโวหารภาพพจȨ
โวหารภาพพจȨ
krubuatoom
๶กณฑ์การประ๶มิȨูบริคส์
๶กณฑ์การประ๶มิȨูบริคส์๶กณฑ์การประ๶มิȨูบริคส์
๶กณฑ์การประ๶มิȨูบริคส์
Lamai Fungcholjitt
แบบประ๶มิȨานȨ๶สนอใȨูปแบบออนไลȨ
แบบประ๶มิȨานȨ๶สนอใȨูปแบบออนไลȨแบบประ๶มิȨานȨ๶สนอใȨูปแบบออนไลȨ
แบบประ๶มิȨานȨ๶สนอใȨูปแบบออนไลȨ
kruood
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติตีโปงลาง
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติตีโปงลางบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติตีโปงลาง
บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ ดนตรีพื้นบ้านปฏิบัติตีโปงลาง
ฏิวัตต์ สันทาลุนัย
แบบประ๶มิȨักษะกระบวนการ
แบบประ๶มิȨักษะกระบวนการแบบประ๶มิȨักษะกระบวนการ
แบบประ๶มิȨักษะกระบวนการ
somdetpittayakom school
แบบประ๶มิȨลชิ้Ȩาน
แบบประ๶มิȨลชิ้Ȩานแบบประ๶มิȨลชิ้Ȩาน
แบบประ๶มิȨลชิ้Ȩาน
pacharawalee
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 งานบ้าน แบบทดสอบ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 งานบ้าน แบบทดสอบหน่วยการเรียนรู้ที่ 1 งานบ้าน แบบทดสอบ
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 งานบ้าน แบบทดสอบ
อ๋อ จ้า
โตฎก ฉันท์ 12
โตฎก ฉันท์ 12โตฎก ฉันท์ 12
โตฎก ฉันท์ 12
MilkOrapun
กาพย์ยานี
กาพย์ยานีกาพย์ยานี
กาพย์ยานี
khorntee
สารคดีท่องเที่ยว แอ่วเหนือเมื่อหน้าหนาว
สารคดีท่องเที่ยว   แอ่วเหนือเมื่อหน้าหนาวสารคดีท่องเที่ยว   แอ่วเหนือเมื่อหน้าหนาว
สารคดีท่องเที่ยว แอ่วเหนือเมื่อหน้าหนาว
waraporny
วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลาง
วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลางวรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลาง
วรรณคดีสมัยอยุธยาตอนกลาง
Nattha Namm
แบบรายงาȨารแสึϸทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงาȨารแสึϸทางวิทยาศาสตร์แบบรายงาȨารแสึϸทางวิทยาศาสตร์
แบบรายงาȨารแสึϸทางวิทยาศาสตร์
สมศรี หอมเนียม
ภาษาจีน เรื่อง กิจวัตรประจำวันและเวลา#siriya khaosri 597210140226
ภาษาจีน เรื่อง กิจวัตรประจำวันและเวลา#siriya khaosri 597210140226ภาษาจีน เรื่อง กิจวัตรประจำวันและเวลา#siriya khaosri 597210140226
ภาษาจีน เรื่อง กิจวัตรประจำวันและเวลา#siriya khaosri 597210140226
Siriya Khaosri
ȨราศนริȨร์คำโคลง
ȨราศนริȨร์คำโคลงȨราศนริȨร์คำโคลง
ȨราศนริȨร์คำโคลง
Surapong Klamboot
การใช้คำลักษณนาม
การใช้คำลักษณนามการใช้คำลักษณนาม
การใช้คำลักษณนาม
Sup Mook

Viewers also liked (10)

คอม นาย
คอม นายคอม นาย
คอม นาย
View Niphattha
เนื้อหาวิชา ดนตรีพื้นเมืองอีสาน แคน โดย นายชาติชาย พลจารย์
เนื้อหาวิชา ดนตรีพื้นเมืองอีสาน แคน โดย นายชาติชาย พลจารย์เนื้อหาวิชา ดนตรีพื้นเมืองอีสาน แคน โดย นายชาติชาย พลจารย์
เนื้อหาวิชา ดนตรีพื้นเมืองอีสาน แคน โดย นายชาติชาย พลจารย์
nongklongdondaeng school khonkaen 3
แบบฝึกการเป่าโหวด
แบบฝึกการเป่าโหวดแบบฝึกการเป่าโหวด
แบบฝึกการเป่าโหวด
bawtho
โน้ตพื้นบ้าน2 แก้ไข
โน้ตพื้นบ้าน2 แก้ไขโน้ตพื้นบ้าน2 แก้ไข
โน้ตพื้นบ้าน2 แก้ไข
bawtho

Similar to แบบฝึกการตีโปงลาง (20)

อุปกรณ์การประพันธ์
อุปกรณ์การประพันธ์อุปกรณ์การประพันธ์
อุปกรณ์การประพันธ์
Kalasom Mad-adam
อุปกรณ์การประพันธ์
อุปกรณ์การประพันธ์อุปกรณ์การประพันธ์
อุปกรณ์การประพันธ์
Kalasom Mad-adam
บทที่ 2
บทที่ 2 บทที่ 2
บทที่ 2
maerimwittayakom school
งาȨำเสนอคำไวพจน์
งาȨำเสนอคำไวพจน์งาȨำเสนอคำไวพจน์
งาȨำเสนอคำไวพจน์
phornphan1111
ติวเตรียมสอบ O net
ติวเตรียมสอบ O netติวเตรียมสอบ O net
ติวเตรียมสอบ O net
vanichar
ลักษณะของคำภาษาไทย
ลักษณะของคำภาษาไทยลักษณะของคำภาษาไทย
ลักษณะของคำภาษาไทย
Siraporn Boonyarit
การเป่าเมโลเดี้ยน บทที่ 1
การเป่าเมโลเดี้ยน บทที่ 1การเป่าเมโลเดี้ยน บทที่ 1
การเป่าเมโลเดี้ยน บทที่ 1
gueste0411f21
๑. ลักษณะคำประพันธ์[1]
๑. ลักษณะคำประพันธ์[1]๑. ลักษณะคำประพันธ์[1]
๑. ลักษณะคำประพันธ์[1]
จุฑารัตน์ ใจบุญ
ป้อมแนȨี่รัก
ป้อมแนȨี่รักป้อมแนȨี่รัก
ป้อมแนȨี่รัก
nanpom1
ภาษาไทย
ภาษาไทยภาษาไทย
ภาษาไทย
vp12052499
Ȩกแต่งเพลง
Ȩกแต่งเพลงȨกแต่งเพลง
Ȩกแต่งเพลง
Ning Rommanee
แคȨีสาน
แคȨีสานแคȨีสาน
แคȨีสาน
VeenatSeemuang
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔
kalayatookta
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔
kalayatookta
อุปกรณ์การประพันธ์
อุปกรณ์การประพันธ์อุปกรณ์การประพันธ์
อุปกรณ์การประพันธ์
Kalasom Mad-adam
อุปกรณ์การประพันธ์
อุปกรณ์การประพันธ์อุปกรณ์การประพันธ์
อุปกรณ์การประพันธ์
Kalasom Mad-adam
งาȨำเสนอคำไวพจน์
งาȨำเสนอคำไวพจน์งาȨำเสนอคำไวพจน์
งาȨำเสนอคำไวพจน์
phornphan1111
ติวเตรียมสอบ O net
ติวเตรียมสอบ O netติวเตรียมสอบ O net
ติวเตรียมสอบ O net
vanichar
ลักษณะของคำภาษาไทย
ลักษณะของคำภาษาไทยลักษณะของคำภาษาไทย
ลักษณะของคำภาษาไทย
Siraporn Boonyarit
การเป่าเมโลเดี้ยน บทที่ 1
การเป่าเมโลเดี้ยน บทที่ 1การเป่าเมโลเดี้ยน บทที่ 1
การเป่าเมโลเดี้ยน บทที่ 1
gueste0411f21
ป้อมแนȨี่รัก
ป้อมแนȨี่รักป้อมแนȨี่รัก
ป้อมแนȨี่รัก
nanpom1
ภาษาไทย
ภาษาไทยภาษาไทย
ภาษาไทย
vp12052499
Ȩกแต่งเพลง
Ȩกแต่งเพลงȨกแต่งเพลง
Ȩกแต่งเพลง
Ning Rommanee
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔
kalayatookta
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๔
kalayatookta

แบบฝึกการตีโปงลาง

  • 1. โปงลาง โปงลาง เป็ นเครื่ องดนตรี ที่พฒนามาจาก "เกราะลอ" หรื อ ขอลอ คาว่า "โปงลาง" นี้ ใช้เรี ยกดนตรี ั ชนิดหนึ่ง ที่มีการเล่นแพร่ หลายทางภาคอีสานตอนกลางและตอนเหนือ ความหมายของโปงลางนั้น มาจากคา ๒ คา คือ คาว่า "โปง" และ "ลาง" โปง เป็ นสิ่ งที่ใช้ตีบอกเหตุ เช่น ตีในยามวิกาลแสดงว่า มีเหตุร้าย ตีตอนเช้าก่อนพระบิณฑบาตให้ญาติโยมเตรี ยมตัวตักบาตร ตีเวลาเย็นเพื่อประโยชน์ให้ คนหลงป่ ากลับมาถูก เพราะเสี ยงโปงลางจะดังกังวาลไปไกล (สมัยก่อนใช้ตีในวัด) ส่ วนคาว่า ลาง นั้น หมายถึง ลางดี ลางร้าย โปงลางนั้นก่อนที่จะเรี ยกว่า โปงลาง มีชื่อเรี ยกว่า "เกราะลอ" ซึ่ง ่ เกราะลอ มีประวัติโดยย่อคือ ท้าวพรหมโคตร ซึ่ งเคยอยูประเทศลาวมาก่อนเป็ นผูที่คิดทาเกราะ้ ลอขึ้น โดยเลียนแบบ "เกราะ" ที่ใช้ตีตามหมู่บานในสมัยนั้น เกราะลอทาด้วยไม้หมากเลื่อม (ไม้ ้ เนื้ออ่อน สี ขาว มีเสี ยงกังวาล ) ใช้เถาวัลย์มดร้อยเรี ยงกัน ใช้ตีไล่ฝงนก กา ที่มากินข้าวในไร่ ในนา ั ู ่ เนื่องจากเกราะลอใช้สาหรับตีไล่ ฝูงนก กา ที่มากินข้าวในไร่ นา ดังนั้น จึงมีเกราะลออยูในทุกโรง นา (อีสานเรี ยกว่า เถียงนา) เมื่อเสร็ จจากภาระกิจในนาแล้ว ชาวนาจะพักผ่อนในโรงนาและใช้ เกราะลอเป็ นเครื่ องตี เพื่อเป็ นการพักผ่อนหย่อนใจ โดยเกราะลอนี้จะตีนอกหมู่บานเท่านั้น เพราะมี ้ ความเชื่อว่า ถ้าตีในหมู่บานจะเกิดเหตุการไม่ดี เช่น ฟ้ าฝนจะไม่ตกต้องตามฤดูกาล เป็ นต้น การ ้ เรี ยนการตีเกราะลอในสมัยก่อน เป็ นการเลียนแบบ คือเป็ นการเรี ยนที่ตองอาศัยการจาโดยการจา ้ ทานองของแต่ละลาย เกราะลอที่มี 9 ลูกนี้จะเล่นได้ 2 ลายคือ ลายอ่านหนังสื อใหญ่ และลายสุ ด สะแนน เช่นเดียวกับลายแคนและลายพิณ ดังนั้นเมื่อนามาเล่นผสมผสานกันจึงได้อรรถรสยิงนัก ่ โปงลาง มีลกษณะวิธีการบรรเลงคล้ายกับระนาดเอก คือนาท่อนไม้ หรื อกระบอกไม้มาร้อยติดกัน ั เป็ นผืน และใช้ไม้ตีเป็ นทานองเพลง แขวนตี กับเสาบ้าง ขึงบนรางบ้าง หรื อบางทีก็ผกติดกับตัวผู ้ ู บรรเลง เครื่ องดนตรี ชนิดนี้พบทัวไปในหลายประเทศ สาหรับในประเทศไทยพบในแถบภาคอีสาน ่ และเรี ยกเครื่ องดนตรี น้ ีหลายชื่อด้วยกัน เช่นเรี ยกว่า หมากกลิ้งกล่อม หมากขอลอ หรื อหมาก โปงลาง เป็ นต้น ที่ได้ชื่อว่า หมากขอลอ เพราะเวลาเคาะแต่ละลูกมีเสี ยงดังกังวานคล้าย ขอลอ (หมายถึง เกราะ ในภาษาอีสาน) ในปั จจุบน โปงลางนอกจากจะใช้บรรเลงตามลาพังแล้ว ยังนิยมบรรเลงรวมวงกับเครื่ องดนตรี อื่นๆ ั เช่น พิณ แคน โหวด กลอง ประกอบการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านอีสาน รวมทั้งการแสดง ร่ วมกับเครื่ องดนตรี สากล อีกด้วย
  • 2. การเทียบสี ยงโปงลาง ั เสี ยงโปงลางถ้าใช้กบวงพื้นบ้านอีสานทัวไป จะใช้ แคน เป็ นหลักในการบันทึกเสี ยง แต่ถาจะใช้ ่ ้ บรรเลงกับวงดนตรี สากล จะต้องใช้ คียบอร์ ด, อิเล็คโทนในการเทียบเสี ยง หรื อไม่ก็ใช้เครื่ องเทียบ ์ เสี ยงสากล ในการเทียบเสี ยงลูกโปงลางในแต่ละลูก เสี ยงที่ได้มาจะเข้ากับเครื่ องดนตรี สากลได้เป็ น อย่างดี การปรับแต่ งเสี ยงโปงลาง การตีโปงลางบางครั้ง ทาให้เกิดเสี ยงเพี้ยนได้ ถ้าหากนานไปเสี ยงโปงลางเพี้ยน ก็สามารถปรับให้ เป็ นเสี ยงมาตรฐานตามต้องการได้ โดยใช้วธีดงนี้ ิ ั 1. หากเสี ยงต่า ให้บากด้านหัวทั้งสองข้างทีละน้อยๆ จนได้เสี ยงตามที่ตองการ ้ 2. หากเสี ยงสู ง ให้บากตรงกลาง ทีละน้อยๆ จนได้เสี ยงตามที่ตองการ ้
  • 3. ่ ้ การตีโปงลางจะนังกับพื้นหรื อยืน ในท่าที่ถนัด โดยจะอยูดานซ้ายของโปงลาง ดังนี้ ่ 1. จับไม้ตีโปงลางให้แน่น 2. ฝึ กไล่เสี ยงจากจากเสี ยงต่า ไปหาเสี ยงสู ง และจากเสี ยงสู งไปหาเสี ยงต่า ในลักษณะสลับมือ ซ้าย-ขวา 3. ฝี กตีกรอ รัว สะบัด 4. ฝี กบรรเลงลายที่ง่ายๆ เช่น ลายโปงลาง เต้ย ลายภูไท เป็ นต้น ลักษณะเสี ยงโปงลาง
  • 4. การเคาะโปงลาง โปงลางเป็ นเครื่ องดนตรี ที่ทามาจากไม้เนื้อแข็ง เวลาเคาะจึงมีเสี ยงแกร่ งสั้น และห้วน ถ้าเราเคาะ ั โน้ต 1 หรื อ 2 จังหวะ จะได้เสี ยงไม่ไพเราะ เพราะเสี ยงนั้นไม่มีกงวาล ผูฝึกหัดจึงสมควรที่จะฝึ ก ้ ปฏิบติดงต่อไปนี้ ั ั ่ 1. ฝึ กเคาะรัวถี่แทนตัวโน้ต หรื อซอยโน้ตให้ยอยออกเป็ นตัวเขบ็จ 1 ชั้น 2 ชั้น เป็ นต้น 2. ผูฝึกจึงจาเป็ นอย่างยิงต้องฝึ กเคาะจังหวะตามทานองหลักให้ตนเองได้ยนจนแม่นยา ้ ่ ิ ก่อน แล้วจึงฝึ กซอยโน้ตทีหลัง 3. โดยทัวไป ผูเ้ คาะโปงลางมีอยู่ 2 คน ผูที่เล่นทานองนั้นจะเรี ยกว่า “หมอเคาะ” ส่ วนอีก ่ ้ คนหนึ่งจะเล่นเสี ยงประสาน เรี ยกว่า “ หมอเสิ บ” หมอเสิ บนั้นเป็ นผูช่วยทาจังหวะและทาเสี ยงทุม ้ ้ การเคาะลูกโปงลาง อย่าเคาะตรงลงไปหนักๆตรงๆ จะทาให้เสี ยงกระด้าง ให้เคาะอย่างนิ่ม นวล หรื อเคาะแฉลบออกอย่างสม่าเสมอ
  • 5. การไล่บนไดเสี ยงโปงลาง ั มฺ ซฺ ลฺ *ท ด ร ม ซ ล ด ร ม ซ ล